อลิซาเบธถอดหมวกกันน็อก ก่อนจะมองจ้องทะลุกระจกรถด้านหน้าผ่านคนขับไปถึงคนข้างหลัง สองสายตาประสานกันนิ่งๆสายตาของอลิซาเบธมองชายอันเป็นที่รักอย่างตัดพ้อ อยากจะเข้าไปถามเหลือเกินว่าสองปีที่ผ่านมา ทำไมไม่ติดต่อกันบ้างเลย แต่พอเห็นสายตาเย็นชาของอีกคน เธอเปลี่ยนใจ สวมใส่หมวกกันน็อก และขับรถเข้าคฤหาสน์อย่างรวดเร็ว
อลิซาเบธนำรถบิ๊กไบค์คันใหญ่มาจอดที่หน้าตึกทรงยุโรปอย่างคุ้นเคย เธอมาที่นี่บ่อย เพราะสนิทกันกับพลอยใส และคุณแม่ของเพชรกล้าก็เรียกหาเป็นประจำ พลอยใสเอ็นดูอลิซาเบธมาก ไม่ใช่แค่พลอยใสสิที่เอ็นดูอลิซาเบธ จรรยาคุณย่าของเพชรกล้าก็เอ็นดูเธอเหมือนกัน เอ็นดูถึงขนาดสั่งเสียตอนป่วยหนัก ว่าอยากเห็นเด็กทั้งสองคนแต่งงานกัน ทั้งสองครอบครัวจึงจัดงานหมั้นแบบเรียบง่าย เพื่อให้ท่านสบายใจก่อนที่จะเสียชีวิต และก่อนที่เพชรกล้าจะไปเรียนต่อที่อเมริกา "อ้าว หนูอลิซ หนูอลิซมาแล้วเหรอลูก มาโนชกำลังไปรับพี่เพชรที่สนามบิน เดี๋ยวก็ได้เจอกันแล้วนะจ้ะ" พลอยใสรีบรายงานว่าที่ลูกสะใภ้ อยากจะเห็นรีแอ็คติ้งแบบดีใจ จนกระโดดโลดเต้น แต่ทำไมอลิซาเบธกลับทำหน้าเฉยๆเสียอย่างนั้น อลิซาเบธได้แต่ส่งยิ้มแห้งกลับไปเท่านั้น หญิงสาวกำลังน้อยใจ นอกจากเพชรกล้าจะไม่ติดต่อมาหาเธอแล้ว มาอยู่ตรงหน้ากันขนาดนี้ เขายังไม่สนใจเธอเลย สายตาของเพชรกล้ามันเฉยชา ทำเหมือนกับว่าไม่รู้จักกัน ทำไมเขาถึงใจร้ายกับเธอขนาดนี้นะ หญิงสาวถามตัวเองในใจ "ทำไมเงียบล่ะหนูอลิซ ไม่ดีใจเหรอ หนูจะได้เจอพี่เพชรแล้วนะ นี่ป้ากะทำเซอร์ไพรส์หนูเลยนะนี่" อลิซาเบธพึ่งเข้าใจว่า ป้าพลอยใส เรียกเธอมาหาแต่เช้าเพราะเหตุนี้นี่เอง แต่มันคงจะดีไม่น้อย ถ้าหากคนที่อยากจะทำเซอร์ไพรส์เธอ คือคุณชายหน้านิ่งที่นั่งอยู่ในรถคันนั้น และในขณะนั้นเอง รถตู้คันหรูก็ขับพาเพชรกล้า เข้ามาจอดเทียบที่หน้าตึกพอดี พลอยใสรีบคว้าแขนว่าที่ลูกสะใภ้ เพื่อไปรอรับลูกชายของตัวเอง "มาแล้วเหรอเพชร คิดถึงจังเลย" หญิงวัยกลางคนเข้าไปโอบกอดลูกชายตัวสูง ที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ๊ตสีดำถึงพับถึงข้อศอก และเขาก็โอบกอดคุณแม่กลับเหมือนกัน แต่สายตาคมดุของเพชรกล้า ไม่ได้หันไปมองสาวน้อยข้างๆเลยสักนิด ทำให้คนที่กำลังรอการทักทายอยู่ตรงนั้น ถึงกับใบหน้าถอดสีไปทันที ' ใจร้าย พี่เพชรกล้าใจร้ายที่สุด หญิงสาวพร่ำบ่นกับตัวเองในใจ ' "แม่ลืมไป แม่ชวนหนูอลิซมาต้อนรับเพชรด้วยนะ" พลอยใสนึกขึ้นได้ จึงจูงว่าที่ลูกสะใภ้เข้ามาหาลูกชาย อลิซาเบธเผลอมองใบหน้าหล่อเหลาและสายตาดุๆของอีกฝ่ายอย่างแสนคิดถึง นานแล้วที่ไม่ได้เจอกัน พี่เพชรโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก หุ่นสูงสมาร์ทแถมยังมีใบหน้าหล่อกระชากใจ แต่พอคิดถึงความใจร้ายของเขาแล้ว เด็กสาวก็ทำเป็นเมินใส่เขาเหมือนกัน "ทำไมยืนนิ่งกันทั้งคู่อย่างนี้ล่ะลูก" คนกลางอย่างคุณแม่เริ่มทำตัวไม่ถูก มองหน้าลูกชายที มองหน้าว่าที่ลูกสะใภ้ทีสลับกัน ทำไมทั้งคู่ดูเหมือนเป็นศัตรูมากกว่า มากกว่าที่จะเป็นคู่หมั้น เราทำผิดพลาดประการใด พลอยใสเริ่มคิดหาเหตุผล แต่ไม่ทันที่จะเอ่ยอะไรออกไป ขายาวๆของลูกชายตัวสูง ก็เดินผ่านคุณแม่ เข้าไปในห้องโถงของคฤหาสน์ทันที "เดี๋ยวก่อนสิตาเพชร ทำตัวเสียมารยาท กับน้องอย่างนี้ได้ยังไง" พลอยใสรีบตามลูกชายไปถึงห้องโถง "ผมง่วงมากครับคุณแม่ ผมไม่พร้อมที่จะรับแขก" เขาบอกกับคุณแม่โดยไม่หันมามอง ขายาวๆของเพชรกล้า ก้าวขึ้นบันไดไปที่ชั้นสองที่เป็นห้องนอนของตัวเอง พลอยใสละล้าละลัง ก่อนจะเดินออกมาหาอลิซาเบธที่หน้าตึก และเห็นหญิงสาวกำลังสวมหมวกกันน็อกพอดี " จะไปไหนหนูอลิซ อยู่คุยกับป้าก่อน พี่เพชรเขาแค่เหนื่อยน่ะลูก เดี๋ยวหายเหนื่อยพี่เขาก็ลงมาคุย" เธอพยายามแก้ตัวแทนลูกชาย แต่อลิซาเบธไม่คิดอย่างนั้น หญิงสาวได้คำตอบแล้วว่า ทำไมเขาถึงหายไป ที่แท้มันเป็นเพราะว่า... 'เขาไม่ได้รักเธอนี่เอง' "อลิซขอตัวก่อนนะคะคุณป้า พอดีนึกขึ้นได้ว่ามีธุระต้องทำ" เธอพยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่น พยายามเข้มแข็ง ก่อนจะบิดมอเตอร์ไซส์คันใหญ่ ออกจากบ้านเขาไปทันที ในเมื่อเขาไม่ต้อนรับเธอจะอยู่ตรงนั้นไปทำไม หลังจากอลิซาเบธขับรถออกไปแล้ว พลอยใสจึงขึ้นไปหาลูกชายที่ชั้นสอง และบอกกับเขาว่า "เพชรกล้า ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลย ทำไมทำตัวเสียมารยาทขนาดนี้นะลูก น้องเสียใจมากรู้ไหม" พลอยใสเข้าไปดึงตัวลูกชาย ให้ลุกขึ้นมาจากที่นอน "เดี๋ยวค่อยคุยได้ไหมครับคุณแม่ คุณแม่ก็รู้ว่าผมบินมาทั้งวันทั้งคืน ผมทั้งเหนื่อยทั้งง่วงจะตายอยู่แล้ว" ชายหนุ่มพลิกตัวหันหลังให้มารดาทันที เขาไม่อยากจะรับฟังอะไรในตอนนี้ และยังไม่อยากจะเจออลิซาเบธ ผู้หญิงที่คอยหนีหน้ามาตลอดสองปี "แต่ลูกต้องคุย ลูกต้องคุยกับแม่ให้รู้เรื่อง อลิซาเบธเป็นคู่หมั้นของลูกนะ ลูกทำเสียมารยาทอย่างนี้ได้ยังไง" พลอยใสยังไม่ยอมแพ้ จ้องมองลูกชายคนโปรดอย่างเอาเรื่อง เพชรกล้าทบทวนคำพูดของคุณแม่ คู่หมั้นอย่างนั้นหรือ มันก็แค่เป็นการหมั้นหมายอย่างไม่เป็นทางการ หมั้นเพื่อเอาใจคุณย่าของเขาเท่านั้น ไม่เห็นจะต้องจริงจังขนาดนั้นเลย อลิซาเบธหนีไปก็ดีแล้ว เธอจะได้รู้ตัวเสียที ว่าเขาไม่ได้รัก ไม่ได้สนใจ "คุณแม่ก็รู้นี่ครับว่าผมไม่เต็มใจ ยังจะพูดถึงเรื่องคลุมถุงชนกันอีกเหรอ นี่มันสมัยไหนกันแล้วครับคุณแม่ ทุกคนควรมีอิสระที่จะเลือกชีวิตคู่ของตัวเอง " เขาพูดออกไปตามสิ่งที่คิด สองปีที่ผ่านมา เพชรกล้าพยายามแสดงออกให้อลิซาเบธรู้ตัว พยายามหนีหน้า แต่เธอยังมาตามตื้อเขาอยู่อีก ชายหนุ่มไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเดินทางมาถึงวันแรก เธอก็มาตามตื้อเขาเสียแล้ว นิสัยเหมือนเดิมตั้งแต่เด็กจนโตไม่มีผิด ชายหนุ่มคิดอย่างหงุดหงิดในหัวใจ เพราะว่าเขาไม่ชอบการถูกบังคับ โดยเฉพาะเรื่องของผู้หญิง เขาควรมีสิทธิ์เลือกคู่ชีวิตด้วยตัวเอง "แต่น้องอลิซก็ไม่ได้เสียหายอะไรเลยนะลูก ตอนเด็กๆเราสองคนก็สนิทกันดีออก แล้วตอนนี้น้องก็เรียนจบแล้วนะ ได้เกียรตินิยมอีกต่างหาก ทั้งน่ารักทั้งเก่งอย่างนี้ หาไม่ได้อีกแล้วนะ" พลอยใสพยายามเกลี้ยกล่อมลูกชาย ที่ทำท่าเหมือนคนหลับลึก ปล่อยให้คุณแม่พร่ำบ่นอยู่คนเดียว พอหันไปดูเขาอีกที ก็เห็นเพชรกล้า นอนหลับสลบไสลไม่ไหวติง แถมยังมีเสียงกรนออกมาอีกต่างหาก "อ้าว หลับซะแล้วลูกคนนี้นี่" เธอห่มผ้าให้เขาเหมือนตอนเด็กๆก่อนจะเดินลงไปข้างล่าง ส่วนคนที่แกล้งหลับอยู่ตอนนี้ พอเห็นว่าคุณแม่เดินออกไปแล้ว ' เขารีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เพื่อโทรหาผู้หญิงอีกคน ที่เดินทางมาจากต่างประเทศด้วยกัน "เพชรถึงบ้านแล้วเหรอ" เสียงปลายสายถามเขาอย่างเป็นห่วง "ถึงแล้ว เธอล่ะ ถึงหรือยัง" "เราก็พึ่งถึงคอนโด" "อืม ถ้าอย่างนั้น ก็พักผ่อนเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เจอกัน" เขาวางสาย ก่อนที่นะคิดว่าจะเอายังไง กับเรื่องคู่หมั้นที่ไม่ได้ต้องการ... : : : : : พี่เพชรมีผู้หญิงคนอื่นหรือเปล่าคะ ทำไมลืมน้องอลิซไปเลย ส่วนนางเอกเราก็รักเขาข้างเดียวเมธินีถือแก้วแชมเปญในมือหนึ่ง ก่อนจะคว้าแขนของเพชรกล้าอย่างถือวิสาสะ แล้วลากเขาไปยังมุมหนึ่งของห้อง ซึ่งเต็มไปด้วยกลุ่มเพื่อนเก่าสมัยเรียนมหาวิทยาลัย โดยมีอลิซาเบธที่มองตามไปจนสุดสายตา“เพชร! นายหายเงียบไปเลยนะ” หนึ่งในเพื่อนชายยิ้มแซว ก่อนจะพูดขึ้นเสียงดังโดยไม่ทันสังเกตว่าเสียงของตนดังเกินความจำเป็น “นี่มันแต่งงานสายฟ้าแลบเลยนะโว้ย!”อีกคนหัวเราะเสริม “ตอนแรกก็นึกว่าแต่งกับคู่จิ้นสมัยเรียนที่พวกเราเชียร์กันสุดใจ ที่แท้เป็นคนนี้เหรอ… ไม่อยากจะเชื่อเลย!” พูดพลางหันไปทางเมธินี เพื่อนๆในกลุ่มต่างรู้กันว่า สองคนนี้เป็นคู่จิ้นกัน ถึงขนาดไปเรียนที่อเมริกา เขายังหอบหิ้วเธอไปด้วยสว่นเพชรกล้าเขาแค่ยิ้มบาง ๆ รับคำแซว แต่ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ในตอนนี้ชายหนุ่มไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เขาสนแค่แผนการเอาคืนทุกอย่าง ที่จะเริ่มต้นในเร็ววันไม่ไกลจากตรงนั้น อลิซาเบธยืนอยู่หลังเสาใกล้ ๆ เธอไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟัง... แต่ทุกคำพูดที่ลอดออกมา มันกรีดหัวใจของหญิงสาวจนเจ็บชา“ที่แท้… เขาเคยมีใครในใจอยู่แล้ว…” เธอยิ้มเจื่อน พยายามไม่ให้น้ำตารื้นขึ้นมาในงานแต่งของตัวเอง มือเล็กกำชายกระโปรงเอาไว้แน่น แต่ก็ไม่กล้า
เสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังขึ้น ก่อนที่บานประตูจะเปิดออก อลิซาเบธเดินออกมาพอดี ใบหน้าหน้าสวยเปล่งประกายอย่างเจ้าสาวผู้กำลังมีความสุข วันนี้เป็นวันที่อลิซาเบธมีความสุขมากที่สุด ได้เข้าพิธิแต่งงานกับชายอันเป็นที่รัก เหมือนดั่งในฝันของเธอ ส่วนอีกคนที่เฝ้าดูอยู่นั้น ดวงตาจับจ้องร่างงามด้วยความอิจฉา ก่อนจะรวบรวมอารมณ์ร้ายทั้งหมด ใส่รอยยิ้มที่ดูเหมือนจริงใจเข้าไปบนใบหน้า และเดินเข้าไปหาเธอ"คุณอลิซคะ" เสียงเธอหวาน ราวกับว่าไม่ได้มีอะไรในใจแม้แต่น้อย ทำให้อลิซหยุดมองผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้า ก่อนจะยิ้มกว้างออกมา มันเป็นรอยยิ้มที่สดใสจริงใจ อย่างที่ไม่ได้คิดร้ายกับคนตรงหน้า และถามเธอว่า“มีอะไรหรือเปล่าคะคุณเมนี่” อลิซาเบธรอฟังว่าเมธินีอยากอะไรจะคุยกับเธอ "ฉันขอคุยอะไรกับเธอหน่อยได้ไหม? เรื่องสำคัญมาก... ก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายเกินไป" เมธินีตอบด้วยท่าทางที่จริงจังเป็นอย่างมาก ทำเอาอลิซาเบธถึงกับหุบยิ้มลงทันที ผู้หญิงคนนี้อยากจะพูดอะไรกับเธอ? หญิงสาวคิดอย่างสงสัย แต่ก็พยักหน้ากลับไปก่อนจะถามอีกครั้งว่า "มีอะไรเหรอคะ?" “คุณอลิซคงรักเพชรมากสินะคะ แต่คุณรู้อะไรไหมคะว่าในความรักของคุณนั้น....”
"อลิซเสียใจไหม ที่ตกเป็นของพี่" เขาแกล้งถามหญิงสาว มือเรียวกำลังเกลี่ยผมที่ปรกผ้าผากของเธออย่างอ่อนโยน เขาทำเหมือนกับว่าเธอคือคนสำคัญที่สุดในชีวิต แล้วอย่างนี้ จะไม่ให้ใจอ่อนได้ยังไง คนตัวเล็กซุกหน้ากับแผงอกที่มีซิกแพคแน่นๆของเขาอย่างเขินอาย จะพูดยังไงดีล่ะ อันที่จริงก็ไม่คิดว่ามันจะรวดเร็วขนาดนั้นหรอก แต่เป็นเพราะบรรยากาศมันเป็นใจ และฤทธิ์ไวน์ที่ดื่มเข้าไปนั้น มันทำให้หญิงสาวไม่ลังเลที่จะตามเขามาที่บ้านพักหลังนี้ และทุกอย่างมันก็เลยตามเลย" ไม่ค่ะ อลิซรักพี่เพชร " เธอแหงนหงายใบหน้างามขึ้นไปบอกกับเขา"แต่พี่ก็รู้สึกผิดนะ ที่ทำกับน้องอลิซอย่างนี้ ทั้งๆที่เรายังไม่ได้แต่งงานกัน พี่ว่ากลับไปกรุงเทพคราวนี้ เราจัดงานแต่งกันเลยดีไหม" เขาส่งสายตาแสดงความรู้สึกผิดต่อหญิงสาว ทั้งๆที่จริงแล้ว ทุกอย่างมันเป็นแค่แผนการ แผนการที่เขาจะได้ทรัพย์สมบัติของคุณย่าคืนมาหลังจากนั้น เขาก็จะหย่ากับเธอส่วนคนที่อยู่ในอ้อมกอดของเขานั้นกำลังพยักหน้ากับแผงอกกว้าง เธอใสซื่อเกินกว่าจะทันเล่ห์เหลี่ยมคนอย่างเขานัก แต่เพราะรักด้วยแหละหล่อนจึงยอมทุกอย่างไม่มีการลังเลหลายอาทิตย์ต่อมา @ กรุงเทพมหานครสองหนุ่มสาว
"อือ" เสียงหวานครางกระเส่า เมื่อโดนฝีปากร้อน ทาบทับไปทุกสัดส่วน เพชรกล้าตั้งใจปลุกเร้าหญิงสาวให้เคลิบเคลิ้มไปกับการล่อลวงของเขา หลังจากพรุ่งนี้ทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนการ อ้ะ! ร่างน้อยสะดุ้งตกใจ เมื่อกลางกายสาวถูกล่วงล้ำเป็นครั้งแรก นิ้วเรียวแทรกอยู่ตรงกลางรอยแยกตรงกลีบสวย แต่แล้วชายหนุ่มก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อรู้สึกถึงความคับแน่นข้างใน มันปิดสนิทเหมือนไม่เคยผ่านมือใครมาก่อนเลย หรือเขาจะเปลี่ยนใจตอนนี้ดี ชายหนุ่มเริ่มลังเล ไม่อยากจะทำร้ายเธอมากไปกว่านี้ ไม่อยากจะล่อลวงหากว่าอีกฝ่ายยังไม่เคย ชายหนุ่มกำลังจะลุกออกจากร่างน้อยที่เขาเล้าโลมมากว่าครึ่งชั่วโมงแต่ทว่า..หมับ! มือเรียวจับคว้าต้นแขนเขาเอาไว้ พร้อมส่งสายตาเว้าวอน เธอกำลังเคลิบเคลิ้ม กำลังลุ่มหลงในไฟพิสวาสที่กำลังลุกโชนอยู่ตอนนี้ และเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่มันอยู่ในร่างกาย ทำให้สาวน้อยใจกล้า ทำอะไรอย่างที่ไม่เคยทำ เมื่ออลิซาเบธพยุงตัวขึ้นเพื่อแลกจูบกับชายหนุ่มเสียเอง"อืมมม" เสียงครางดังออกมาจากลำคอแกร่ง เมื่อนักเรียนที่เขาพึ่งสอนมาหมาดๆส่งลิ้นเล็กกวาดต้อนลิ้นใหญ่ของเขาอย่างน่ารัก พร้อมกับเบียดตัวเข้าหาร่างใหญ่อย่างไม่เกรงกลัว 'ถ
หลังหายไปจากพัทยาหลายวัน ไผ่หลิวกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับแปลนออกแบบทั้งหมด เพื่อนำมาเสนอเจ้าของโครงการอย่างอลิซาเบธและเพชรกล้า และตอนนี้หญิงสาวนักออกแบบร่างเล็กแต่ท่าทางคล่องแคล่วพูดจาฉะฉาน กำลังเปิดภาพจากวีดีโอ แสดงถึงการออกแบบจัดวางเฟอร์นิเจอร์ในจุดต่างๆของโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ในห้องนอน ห้องอาหาร รวมทั้งในส่วนของเค้าท์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ทางโครงการก็ให้ความไว้วางใจ บริษัทของนพคุณเป็นผู้ออกแบบและติดตั้งให้ทั้งนั้น เรียกได้ว่ากินรวบตั้งแต่ก่อสร้างยันออกแบบภายในสายตาคมกริบของเพชรกล้า กำลังไล่ดูการออกแบบอย่างสนใจ ถึงแม้ในใจของเขาจะมีอคติและคิดหมั่นไส้ลูกชายเจ้าของบริษัทอย่างนพคุณ แต่ก็ต้องยอมรับว่า การออกแบบเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งภายในของไผ่หลิวนั้นมันดูเรียบหรูทันสมัย และเหมาะแก่การใช้งานในทุกฟังก์ชั่น อย่างปฏิเสธไม่ได้เลย"ออกแบบดีมากครับ มันดูทันสมัยเหมาะกับการใช้งานทุกอย่าง ทั้งโทนสีและรูปแบบ ผมเอาตามนี้ก็แล้วกัน" เขาหันไปบอกสาวร่างเล็กที่กำลังยิ้มแป้นจนตาหยี ในที่สุดงานแรกของเธอก็ผ่านเสียที แถมได้ทำโครงการใหญ่หลายพันล้านทั้งๆที่พึ่งจะเรียนจบมา"จริงหรือคะคุณเพชร งานของหลิวผ่
หลายอาทิตย์ต่อมาหลังจากตรวจสอบโครงสร้างตึกเรียบร้อยแล้ว ก็เป็นขั้นตอนตกแต่งภายใน และบริษัทของนพคุณมีบริการครบวงจรตั้งแต่ก่อสร้างตึก จนถึงตกแต่งภายใน แต่ทว่างานตกแต่งภายในนี้ เขาไม่ได้มาดูแลด้วยตัวเอง แต่ส่งมัณฑนากรหรือว่านักออกแบบมาแทน และมัณฑนากรที่มารับงานนี้ก็คือไผ่หลิว เพื่อนสาวของอลิซาเบธนั่นเอง ทำให้หลายวันที่ผ่านมานี้เพชรกล้าหายใจคล่องคอขึ้นมาก เพราะไม่มีก้างมาขวางคอ แต่ถึงแม้ว่า ไม่มีนพคุณอยู่ตรงนี้ อลิซาเบธก็ยังไม่เปิดโอกาสให้เขาอยู่ดี เธอจะคุยกับเขาเฉพาะเรื่องงานเท่านั้น นอกนั้นก็จะถามคำตอบคำ ชวนไปเที่ยวข้างนอกก็ไม่เคยไป แม้กระทั่งชวนไปทานอาหารข้างๆโรงแรม เธอยังไม่เคยไปกับเขาเลย แต่เพชรกล้าไม่รู้หรอกว่า จริงๆอลิซาเบธใจอ่อนมานานแล้ว แต่ที่ทำอยู่ทุกวันนี้ เธอก็แค่เก็บทรงและกำลังลองใจเขาอยู่แค่นั้นเอง เหมือนอย่างตอนนี้ที่เลือกสีผ้าม่านกับไผ่หลิว เธอก็ลอบมองคนตัวโตตลอดเวลา" ฮันแน่ แอบมองอีกแล้วนะ แต่ก็อย่างว่าแหละ พี่เพชรหล่อขนาดนั้น ฉันอิจฉาแกจริงๆ " ไผ่หลิวแอบกระซิบกระซาบเพื่อนรัก พลางชะเง้อคอมองชายหนุ่มร่างสูง ที่กำลังเทียบสีของผ้าม่านอยู่อีกมุมอลิซาเบธหันไปดูคนตัวโ