หน้าหลัก / โรแมนติก / แฟนเพื่อน / บทที่ 6 [ ความใจง่ายของพรีม ]

แชร์

บทที่ 6 [ ความใจง่ายของพรีม ]

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-03 02:43:41

...หอพัก...

ประตูถูกเปิด

" คืนนี้เลยรึคะ ได้เลยค่ะพี่ ไม่มีปัญหา.."

ในขณะเสียงหวานของพรีมบ่นใส่โทรศัพท์ ก่อนจะชำเลืองมองขิมที่เดินเข้ามา ทว่ายังคงพูดต่อ ถึงขิมจะเริ่มขมวดคิ้วแล้วก็ตาม " อาทิตย์หน้า มหาลัยถึงเปิด ใช่ค่ะยังมีเวลาอีกเยอะ "

"...."

" หืม..ตรีมสีแดงรึคะ จัดไปค่ะ "

"..."

" ค่ะพี่ แล้วเจอกัน "

**ติ้ด.**

ก่อนจะกดวางหลังจากคุยเสร็จ เลิกคิ้วเชิงถามขิมประมาณว่าไปไหนมา

" แผลหายเจ็บแล้วเหรอ "

พลิกตัวจากทางนั่งมานอนคว่ำ ขิมส่ายหน้า พลางปลดเป้ออกจากหัวไหล่

" ยังเจ็บนิดๆ ว่าแต่..แกคุยกับใครน่ะ "

" กับพี่กระเทยคนนั้นน่ะ ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะไปทำงานกับพี่เขา "

" ว่าไงนะ!"

ขิมถึงกับบึ้งตึงหลังพรีมเอ่ยจบทันที

" งานนั้นมัน.."

" อย่าห้ามฉันเลยขิม ฉันต้องการเงิน "

ในขณะที่พรีมแทรก ไม่เปิดโอกาสให้ขิมได้ขัดขวางเลย

" แต่ที่บ้านแกเขาก็.."

" ฉันอยากได้เงินมาซื้อของใช้ส่วนตัว รึของที่ฉันอยากจัได้น่ะ เงินที่พ่อให้ ..มันไม่พอ "

ตอบหน้าตาเฉย ทำท่าทางเหมือนคนมีอีโก้ ไม่ใส่ใจอะไร ทั้งๆที่ขิมตอนนี้รู้สึกวิตกกังวลมาก ห่วงเพื่อนว่าอนาคตจะแย่ ถ้ายังไม่รู้จักแยกแยะแบบนี้

" พรีม.. "

" ไม่เอาน่าขิม "

เจ้าของชื่อยันตัวขึ้นมานั่งยิ้ม พลางเดินมาจับมือเพื่อน

" อย่าห่วงเลย ฉันจะหาเงินมาช่วยค่าใช้จ่ายแกไง แม่แกจะได้หมดห่วง แกก็จะได้ไม่เครียดยามที่ไม่มีเงิน คิดเหรอว่าเงินที่มีแค่นี้จะพอกิน มันจำกัดเฉพาะค่าเล่าเรียนไม่ใช่เหรอ.."

" ...."

นั่นถึงกับทำขิมก้มหน้านิ่ง พูดไม่ออก เพราะมันทั้งน่าสมเพช ทั้งน่าขายหน้าสุดๆ

" ขิม..ฉันไปทำงานอย่างที่แกทำไม่ได้หรอก แกก็รู้ ฉันไม่ชอบให้ใครมาสั่งฉัน "

" แล้วงานที่จะทำนี้มันอิสระตรงไหน"

" ต่างกันลิบ "

พรีมบอก ก่อนขิมจะเงียบตรงคำถามสุดท้ายนี้

" แล้วเริ่มงาน.."

" คืนนี้จ้ะ ^^"

...20.00 น...

เวลาทำงานของสาวกลางคืน วันนี้พรีมจะเริ่มงานเป็นวันแรก เธอมารออีเจ๊เพศที่สามนั่นตั้งแต่สองชั่วโมงก่อน ในชุดเดรสรัดรูปสีแดงสด บู๊ทดำเกือบหัวเข่า ตามตรีมที่บอกไว้ กลิ่นน้ำหอมแบรนด์ดังหอมฟุ้งทวีคูณความเซ็กซี่ของพรีมให้เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว

... วันนี้เธอสวยมาก...

แน่นอนหนุ่มๆ พากันเหลียวหลัง พรีมนั่งรออยู่ตรงโต๊ะ จนกระทั่งเจ้าของงานมาถึง

" ไงคุณน้อง "

" สวัสดีค่ะพี่นิกกี้ "

เสียงทักทายกันระหว่างสองสาวปลอมจริงดังขึ้น ก่อนที่พรีมจะยืนขึ้นอย่างที่อีเจ้มันสั่ง

" เป๊ะมากค่า .."

ทำพรีมยิ้มกว้าง ก็ตอนที่เธอได้รับคำชม

" ขอบคุณมากค่ะ "

" ว่าแต่มาคนเดียวเหรอ "

อีเจ้นิกกี้หันซ้ายหันขวาเหมือนมองหาใครบางคนขณะถาม

" ถ้าเจ้หมายถึงเพื่อนพรีมล่ะก็..เสียใจด้วยค่ะ นางไม่ชอบงานประเภทนี้ "

" จิ๊!"

ทำเอาคนฟังที่หวังผลประโยชน์อย่างคนข้างๆ จิ๊ปากขัดใจทันที เพราะแท้จริงแล้ว คนที่หล่อนต้องการจะปั้นมากที่สุดก็คือขิมไม่ใช่พรีม  เสน่ห์ที่ไม่มีใครเหมือน มองยังไงก็ไม่เบื่อ คงจะทำให้อีนกต่อคนนี้รวยก็ได้

แต่ทว่า..น่าเสียดาย สาวห้าวเจ้าของเสน่ห์นั้นกลับไม่ผันแล แต่ก็ไม่เป็นไร ได้เพื่อนเธอมาก็ยังดี ถึงจะเป็นท็อปวันไม่ได้ในตอนนี้ก็เถอะ แต่ความสดใสของพรีมที่ดูท่าน่าจะซิง

..ยังไงก็คงยังคุ้ม ยื่นตังค์แบงค์ละพันจำนวนสามใบไปให้ ก่อนจะถาม

" อะๆ ช่างนางเถอะ ว่าแต่น้องน่ะพร้อมรึยังกับงานแรก "

ก่อนท่าทางกระดี๊กระด๊าของพรีมจะทำอีเจ้ยิ้มมันกว้าง

" ว้าว~ จะให้พรีมทำอะไรรึคะ ว่ามาเลยค่ะพี่"

" ก็..."

ยื่นจอโทรศัพท์ไปให้พรีมดูสมทบ

" แค่ไปทานข้าวกับคนนี้ ตามสถานที่ที่พี่ให้ "

" เอ๋..."

ในขณะที่พรีมกำลังยิ้มกว้างดีใจ ทว่าต้องมาหุบปากลง เพราะรูปภาพนี้ .... ที่มี ผู้ชายในชุดนักศึกษายืนหันข้าง เห็นหน้าไม่ชัดเจนอยู่...

" ใครเหรอคะ "

ก่อนเงยหน้าถามด้วยความสงสัย

" อย่าไปรู้จักเลย แค่ทำหน้าที่ที่พี่มอบหมายให้ก็พอ"

" อ่าว..."

ถึงกับงงตาแตก กับน้ำเสียงนี้ที่อยู่ดีๆ อีเจ้มันบอกเสียงห้วน

" เราจะไม่มีสิทธิ์รู้ประวัติลูกค้า"

" ทำไมละคะ "

" นี่หล่อน จะทำไหมงานน่ะ ถามมากจริง ไม่ทำก็เอาเงินกลับมา นั่นแค่มัดจำเท่านั้นนะ ไม่รวมที่เหลือกับทริป "

" เอ่อ.."  และประโยคยาวเหยียดนี้ ที่ทำพรีมเผลอเงียบกริบ อ้าปากค้างเพราะความตกใจ ก่อนจะมาเปลี่ยนสีหน้าใหม่อีกครั้ง หลังจากนึกถึงจำนวนเงิน " ทำค่ะทำ ทำสิคะ "

เพราะนั่นหมายถึง เม็ดเงินมหาศาลที่เธอจะต้องได้ในคืนนี้ หากทำมันสำเร็จ

" รู้แค่ว่าลูกค้าคนนี้เขารวยมากก็พอ ตามมาสิ "

" คะ แค่ทานข้าวอย่างเดียวใช่ไหมคะ "

ก่อนพรีมจะถามเพื่อความแน่ใจ หลังจากเธอทำท่าจะเดินตาม ในขณะที่อีเจ้..เมื่อได้ยินคำนั้น แล้วยิ้มยันมีเลศนัยทันที ทว่า..พอหันกลับมาบอกพรีม.

" ถูกต้องค่ะ "

สีหน้ากลับตรงกันข้าม

' จำไว้นะ ห้ามคุยกับลูกค้าเกี่ยวกับประวัติของเขา '

นั่นคือประโยคคำสั่งบทแรกที่พรีมจำขึ้นใจ ก่อนจะก้าวขาเข้าไปในห้องโถง

" รอนานไหมคะ "

เสียงใสดังขึ้น ทำเจ้าของร่างสูงโด่ดเด่นที่นั่งอยู่หันมามองพลางเลิกคิ้ว

" พรีมเหรอ.."

" ค่ะ ^^ "

" ไม่นานค่ะ ไปกันได้รึยัง พี่หิวแล้ว "

ไม่พูดพร่ำทำเพลง เขาก็ลุกขึ้นมาโอบไหล่พรีมทันที

" อ๊ะ! "

นั่นทำเอาพรีมตกใจหนัก เผลอถอยหลังหนี เลยทำให้หนุ่มไฮโซคนนั้น ขมวดคิ้ว

" อะไร.." งงกับสิ่งที่พรีมเป็นไปอึดใจนึง ก่อนจะยิ้มกว้าง

...อีกระเทยคนนั้น แม่งเสี้ยมเด็กเก่งจริงๆ...

คิดว่ามันคงจะเป็นละครฉากหนึ่งที่ทำให้แขกเห็นว่าเธอนั้นไม่เคย

" โทษที พรีมคงไม่ชอบให้พี่โดนตัว งั้นเดินตามมาล่ะกัน "

หลังจากที่ร่างสูง ในชุดกางเกงยีนต์ยี่ห้อแพง กับเสื้อโปโลสีขาวสะอาดหรู เดินออกไปแล้ว พรีมก็ได้โอกาสถอนหายใจเฮือกใหญ่

" จะทำได้ไหมเนี่ย ดูท่าทางหมอนี่น่าจะเอาใจยาก "

...แถมปากว่ามือถึงอีกต่างหาก....

...ร้านอาหารหรู.

ในขณะนั่งกินข้าว พรีมก็เหมือนถูกใบ้กิน เธอไม่คุยอะไรสักอย่าง เอาแต่ช้อนข้าวเข้าปาก ความร่าเริงหายไป เพราะทำอะไรไม่ถูกนับตั้งแต่มีประโยคคำสั่งนั้นเข้ามา ได้แต่คิดในใจแค่ว่า

...เดี๋ยวมันก็ผ่านไป แค่มาทานข้าวด้วยกันเท่านั้น....

ทว่า พรีมคิดผิด เธอคิดง่ายไป...คงไม่มีใครกล้าเอาเงินหลักแสนมาให้กันฟรีๆหรอก นอกจากผลประโยชน์ที่ได้รับมันคุ้มมหาศาล

..ซึ่งตอนนี้อีเจ้คนนั้นคงจะนอนยิ้มสบายไปแล้ว..

เพราะให้พรีมกลับมาแค่สามพัน และ..ปิดระบบการติดต่อหนีไปเลยทันที

" ใจคอน้องพรีม..จะไม่คุยกับพี่หน่อยเหรอคะ.."

" เอ่อ.. หนู.."

" เอางี้ งั้นพี่บอกชื่อพี่ให้ฟังก็ได้ค่ะ เราจะได้สนิทกันระดับนึง "

" ได้ด้วยเหรอคะ "

" ทำไมจะไม่ได้ล่ะ .. พี่ชื่อ รัลโด้ "

" รัลโด้ ชื่อเก๋จังเลย^^"

พรีมยิ้มขึ้นมาทันที นั่นเลยทำให้เจ้าของชื่อใจเต้นมากกว่าเก่า

...เด็กคนนี้น่าเร่งเครื่องใส่ชะมัด.... เขาหื่นในใจ

" ทีนี้..น้องพรีมรู้สึกสนิทกับพี่ขึ้นมาบ้างรึยังคะ "

" อะ..เอ่อ.."

" ว่าไงคะ.."

ท่าทางแบบนี้ ดูเหมือนเธอจะไม่เคยมือชายมาก่อนแน่ ถ้าจะขอกันตรงๆ ก็คงจะแตกตื่น

แต่คงไม่ยากหรอก เพราะความฉลาดของเธอมันไม่มีซักเท่าไหร่

...นับตั้งแต่ที่เธอเชื่อใจมาทำงานกับอีกระเทยนั่นแล้ว...

" ก็..รู้ชื่อไงคะ "

" แล้ว..."

" เรียกพี่รัลโด้ได้เลยใช่ไหม.."

" ฮ่าๆๆ ได้สิ.."

ก่อนจะหลุดความคิดมาหัวเราะร่วนกับสีหน้าของเธอ ที่มันกล้าๆกลัวๆซะเต็มประดา

..นี่อีเจ้นั่นมันกล่อมอะไรน้องเขาวะเนี่ย.. ประหม่าเชียว

" ค่ะพี่รัลโด้ ^^"

" ว่าแต่กินข้าวเสร็จ น้องพรีมอยากไปไหนต่อคะ ไปดูดาวกันมั้ย พอดีพี่ซื้อกล้องมาใหม่อยากจะอวด "

เสียงถามของคนตรงข้ามทำให้พรีมชะงัก ก่อนจะเม้มปากแน่น

"..เอ่อ.."

...ระบบความเกรงใจไม่กล้าปฏิเสธกำลังจะก่อตัวขึ้นมา...

" แค่ดูดาวเองค่ะ ไม่ดึกหรอก "

" ...."

" นะ..น้องพรีม ไปกับพี่หน่อย วันนี้พี่ถูกเพื่อนพี่ทิ้งน่ะค่ะ "

" เอ๋..."

" ซื้อกล้องมาว่าจะดูดาวด้วยกัน แต่เพื่อนกลับมีแฟนกันหมด "

" พี่ไม่แฟนเหรอคะ!"

" ค่ะ.."

" ไม่น่าเชื่อแฮะ.."

" เชื่อเถอะค่ะ "

..หล่อๆอย่างพี่เนี่ยนะ ..

ประโยคนี้พรีมคิด เพียงแต่ไม่ได้พูดออกไป ก่อนจะมาตายเอาคำนี้

" นะครับที่รัก .."

" เอ่อ... "

" ...."

" ก็..ได้ค่ะ"

เพราะเชื่อใจแค่ภายนอก ว่าเขาคงไม่ได้เลวร้ายอะไร

อย่าลืมกำลังใจนะคะ ปิ้งๆ ( กระปริบตาอ้อนหน่อยๆ)

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • แฟนเพื่อน   ตอนพิเศษ

    วันแห่งความสุข เข้าสู่ประตูวิวาห์ช่วงเวลาเหมาะเจาะ ดั่งใจของคนตั้งและวางไว้ งานแต่งระหว่างคนทั้งคู่ ซึ่งอายุจะห่างกันเท่าไหร่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ถูกจัดขึ้นในโบสถ์แบบฉบับของคริสเตียน ปัทมาในชุดเจ้าสาวขาวผ่อง ชายกระโปรงผ้าแก้วแฝงกำมะหยี่แวววับเม็ดเล็กๆ ถูกปล่อยลากพื้นยาวเป็นวา และอีกผืนนึงเอามาปิดเครื่องหน้าไว้เล็กน้อย ทำเจ้าสาวรายนี้ช่างหน้าค้นหายิ่งนัก เดินอวดร่างบางมาพร้อมกับวงแขนให้ยืมควงอย่างยศกร พ่อผู้ให้กำเนิดอาสาเดินมาส่ง ท่ามกลางพรมแดง และพยานผองเพื่อนมากกว่าร้อยคน....ทุกคนยิ้ม เธอเองก็ยิ้ม..." ตื่นเต้นจังค่ะพ่อ ..."เสียงหวานใส ทว่า เบาหวิว กระซิบกระซาบ ระหว่างทางเดิน ยศกรเลิกคิ้วให้ลูกสาว พร้อมรอยยิ้มแค่มุมปาก พยายามอย่างมากที่จะไม่ให้น้ำตาหยดแห่งความรู้สึกหน่วงๆ ซึ่งไข่ในหินถูกขโมยไปหยดนี้ไหลลงมา เมื่อรู้ว่าอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า เขาจะต้องยกลูกสาวให้กับผู้ชายคนอื่นไปครอบครองแล้ว" ใจเย็นๆลูกรัก.. มันคือเรื่องธรรมชาติมากสำหรับผู้หญิง "" แต่มันตื่นเต้นจริงๆนี่คะ ฟังเสียงหัวใจหนูสิ มันแทบจะระเบิด "" อื้ม...พ่อรู้ลูกพ่อรู้ เก็บความตื่นเต้นตรงนั้น ไว้ใช้ในยามเบ่งหลานของพ่อจะ

  • แฟนเพื่อน   บทที่ 34 [ อวสาน ]

    ค่ำคืนที่ขิมเหนื่อยมาก แต่คงไม่เท่ากับสาวใช้ในบ้านจรัญทิพย์ หลังเก็บแก้วเปล่ากับจานชามที่เขากินกันไม่หยุดไม่หย่อนไปเก็บหลายรอบ นับตั้งแต่เช้าจวบค่ำขิมเพิ่งจะได้พัก ใช้เวลาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้านานพอสมควรจนกระทั่งดึก คืนนี้เธอคงจะค้างที่คฤหาสน์หลังใหญ่นี้ เนื่องจากว่าที่เจ้าบ่าวขอเมาไปส่งเธอไม่ได้ และจะไม่ให้ไปเองด้วย เพื่อนฝูงที่ไม่รู้มาจากทางไหนไหลกันเข้ามาจนงานไม่มีกร่อยทั้งๆที่เคลยืนยันหนักแน่นว่าไม่ได้เชิญจริงจัง เพียงแค่บอกต่อๆกันไปเท่านั้น ไม่คิดว่ามันจะเยอะขนาดนี้ ขิมเลยขอตัวตั้งแต่ตอนนั้นเพราะไม่อยากจะไปยืนเก้ๆกังๆ เป็นผู้หญิงคนเดียว“ เฮ้อ..”ก็อกๆๆ“ เข้ามาได้เลยจ๊ะ “เสียงใสตะโกนออกไปทางประตู ยืนรอคอยจนกระทั่งมันเปิด“ คุณขิมคะ การ์ดอวยพรและของขวัญจากแขก พี่เจิมเก็บมาให้หมดแล้วนะคะ วางอยู่ในห้องคุณเคลค่ะ ““ ค่ะ ขอบคุณนะคะ “เธอสาวเท้าเดินตามหลัง ไม่รอช้าด้วยความตื่นเต้น“ โห้ เยอะไปหมดเลย จากใครบ้างคะเนี่ย “ห่อปากตาเป็นประกายด้วยความตื้นตันเมื่อมาถึง พลิกไปพลิกมามองดูชื่อ เธอไม่เคยรู้สึกดีใจอะไรอย่างนี้มาก่อน“ หืม มีแต่ของพี่เคลทั้งนั้นเลยค่ะพี่เจิม “หันไปยิ้มกว้างกับสาว

  • แฟนเพื่อน   บทที่ 33 [ คำสำนึกผิดของพรีม ]

    กิจกรรมรับน้องบรรยากาศคึกครื้นสนุกสนานถูกจัดขึ้นด้วยรุ่นพี่มากฝีมือ ให้เข้ากับน้องๆวัยใสที่เพิ่งย่างก้าวผ่านมัธยมมาไม่กี่เดือน เครื่องหน้าของแต่ละคนเต็มไปด้วยสีผสมอาหารชนิดล้างสามวันแทบจะไม่ออก หนึ่งในนั้นก็คงจะหนีไม่พ้นขิม ด้วยสภาพดูไม่จืด อาจจะเพ่งไม่ออกเลยด้วยซ้ำ หากไม่รู้จักมักจี่กันมาก่อนอย่างเช่นพรีม ที่ตอนนี้เธอยืนมองอยู่ไกลๆ รอจังหวะคนน้อยและความพร้อม คำขอโทษมันจะหลุดมาจากปากเธอตอนไหนนั้น ไม่มีใครรู้ ทว่า รับปากกับรัลโด้แล้ววันนี้เธอต้องทำ ไม่ใช่เพื่อกระเป๋าใบหรูราคาแสนแพง แต่เพื่อตัวเธอเองต่างหาก ที่แท้จริงก็ไม่อยากเป็นนักหรอกไอ้ศัตรูกับเพื่อนสมัยอนุบาล ความผูกพันธ์มันล้นเหลือมากกว่านั้นและที่สำคัญพ่อแม่ของทั้งคู่ต่างสนิทชิดเชื้อกันไม่ต่างกับญาติเพราะบ้านใกล้เรือนเคียง หนักใจแทนผู้ปกครองแน่นอน ถ้าพรีมยังคงทำตัวมีปัญหา นึกไปถึงรัลโด้ที่เคยขู่กันไว้ ตั้งแต่ต้นว่าจะทำให้เธอสิ้นอนาคตจนพ่อแม่อับอายแน่นอนถ้าหล่อนร้ายไม่เลิก ในเมื่อเลี้ยงไม่เชื่องสอนไม่จำ แถมนิสัยไม่เปลี่ยน ใครเล่าจะมายอมทน อย่างรัลโด้ยิ่งเสียเวลาเข้าไปใหญ่ การหักดิบเหล่านี้คงต้องเกิดขึ้นเข้าสักวันแน่ ขืนเธอคิดไม

  • แฟนเพื่อน   บทที่ 32 [ สเต็ก??? ทำไมต้องกินในโรงแรม ]

    ผ่านไปแล้วเรื่องดราม่า สิ่งที่ปัทมาหรือว่าขิม หญิงสาวจากชลบุรีที่บึ่งขึ้นมาเรียนกรุงเทพ เพราะเหตุผลน้ำเน่าแค่ว่า...หนีคนรัก.... วันนี้ถูกจับติด ติดกับด้วยมารดาของเธอเอง ที่มีความฉลาดไม่แพ้กัน สั่งขิมห่างกับเคลสักระยะหนึ่ง เพื่อดัดนิสัยผู้ชายใจรวนเรปากหนัก เพียงแค่สามวันเท่านั้น แต่เชื่อไหม เคลแทบจะกัดลิ้นตัวเองตาย“สามวันที่ห่างก็คือห่างจริงๆสิน่า ขิมไม่รับโทรศัพท์พี่เลย “หน้าเศร้าหงอยปนสลดเกาะกระจกรถ หลังจากเปิดประตูให้หญิงสาวขึ้นมานั่ง“ ขิมเรียนหนัก พี่เคลก็รู้นี่คะ มีกิจกรรมรับน้องด้วย ““ ห้านาทีก็ไม่มีให้กันเลยเหรอ ““ แน่ะ อย่ามางอแงนะ ก็เราตกลงกันก่อนแล้ว สามวันพี่มารับ ก็นี่ไงคะสามวันแล้ว ไปค่ะ ไปกันได้หรือยัง ขิมอยากให้ปากคำจะแย่ละ ““ ทีอย่างนี้รีบนักนะ ““ อะอ้าววว ช่วยไม่ได้ ก็เพราะแฟนเก่าพี่ไม่ใช่รึไง ที่ทำเราสองคนต้องห่างกันอย่างนี้น่ะ พี่ต้องมีความแค้นฝังลึกบ้างนะ”เหลือบตามองร่างสูง ขณะเขาจ้องลงมาขมวดคิ้ว แค่ขิมเพ่งลึกเข้าไปนัยม่านตาก็อ่านใจได้แล้วล่ะ เลยชิงพูด“ ขิมไม่ยอมโทษตัวเองหรอก ที่ขิมวิ่งออกมา เพราะพี่นั่นแหละ ทำท่าเหมือนอาลัยอาวรณ์แฟนเก่าก่อนเอง ชิ “ทำเคลหล

  • แฟนเพื่อน   บทที่ 31 [ คุณแม่ขอร้อง ]

    บรรยากาศชักจะทะแม่ง เมื่อทุกคนพากันมานั่งมองหน้า ไม่มีใครเริ่มเปิดประเด็น อึดอัดมายังขิมตอนนี้ที่นั่งเอามือจิกกันจนเจ็บ ก้มหน้างุนไม่กล้าเผชิญหน้ากับใคร เธอยังไม่รู้ว่าคดีเอเดลตกบันไดนั้นได้คลี่คลายไปแล้ว ทว่า ยังคิดว่าตัวเองคือคนผิด ส่วนเรื่องหล่อนขโมยเพชรเก้ๆกังๆพร่ำจะบอก แต่ดูเหมือนจังหวะตรงนั้นยังไม่มาหาเธอสักที“เอ่อ...”ลำบากมายังคุณนายนภา ผู้กล้าแสดงออก หล่อนเห็นว่าทุกอย่างเริ่มตึงเครียด ขี้คล้านจะอยู่ตรงนี้นาน อีกทั้งต้องมาสบตากับสามีเก่าอยู่บ่อยๆ เลยต้องเป็นฝ่ายจำใจพูด แต่ทว่า กลับถูกทางฝั่งฝ่ายชาย แย่งชิงซะก่อน คุณนายอารีย์ไม่อยากถูกมองว่าหล่อนนั้นหยิ่ง เป็นเจ้าบ้านแต่กลับนั่งเงียบ ทั้งๆที่หล่อนนี้ ไม่เคยเจอะเจอเรื่องแบบนี้ ที่เป็นฝ่ายผิดแล้วต้องมารับผิดชอบใคร เลยไม่ค่อยคุ้นชิน กับคำว่าขอโทษ“ ดิฉันต้องขอโทษทุกๆเรื่อง แทนลูกชายด้วยนะคะ ที่ทำไม่ดีต่อหนูขิม ทั้งเรื่องพาเข้ามาอยู่ที่นี่ ซึ่งดูเหมือนไม่ให้เกียรติ และการคบหาดูใจกัน ดิฉันเองก็เพิ่งจะมาทราบเรื่องนี้ ก็ไม่กี่วันที่ผ่านมาเองค่ะ “สบตากันระหว่างผู้เป็นแม่ ในขณะทุกคนเอาแต่นั่งเงียบ เนื่องจากมีมารยาท“ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ

  • แฟนเพื่อน   บทที่ 30 ซื่อบื้อ

    ‘ เอ่อ..พาไปไม่ได้หรอกค่ะ ตอนนี้หนูกะว่าจะเลิกกับเขา ‘‘ ห๊ะ!!’สองคนผสานเสียง หญิงสาวถึงทีสะดุ้งเฮือก ทบทวนประโยคใหม่ ตัวเองพูดอะไรผิดไป ปาดน้ำตาทิ้งยามที่สิงขรจ้องหน้า เค้นยิ้มเสมือนรู้สันดานน้องสาว“ เลิกเรอะ! โอเค งั้นกลับบ้าน แล้วไหนเสื้อผ้าล่ะ “แกล้งถาม ทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่ใช่เลย เสื้อผ้าเธอไม่มีติดตัวสักชิ้น รู้อยู่แก่ใจตั้งแต่ก้าวออกมาจากคฤหาสน์หลังนั้น คนมันคิดจะเลิก มีโอกาสขนาดนั้น ทำไมยังคงทิ้งไว้อยู่“ เอ่อ...”“ แม่ ขิมมันได้กับเขาแล้ว”เงยหน้าเบิกตาโตเท่าที่เคยทำ ครั้นได้ยินประโยคที่พูด พร้อมฝ่ามือใหญ่อีกรอบ บินว่อนแล้วลงตรงกลางหัวผั๊ว!!!“ โอ้ยแม่! ““ รู้แล้ว!! แกจะย้ำให้ฉันอกแตกตายเลยรึไง แค่นี้เป็นลมมาสิบตลบ ยังไม่สาแก่ใจอีกรึ ““ ฮ่าๆๆๆ “ขณะคนเปิดประเด็นย้ำขำลั่น ต่างจากเจ้าตัวอย่างขิม คราวนี้ก้มหน้าสลดหนักกว่าเก่า ความกดดันทำเธอผสานมือเข้าหากัน หยดน้ำตาหล่นแมะลงพื้นกระเบื้อง“ ขอโทษจ๊ะแม่ “ยกมือไหว้ รู้สึกแย่สุดๆ“ เฮ้อ...ขิมเอ๊ย มาตายน้ำตื้นๆ แกห่างบ้านมาได้กี่วันทำไมแม่จะไม่รู้เล่า คบกันไม่พ้นเดือน ได้กันก็ว่าทำใจลำบากแล้ว นี่มาบอกว่าจะเลิก คิดดีแล้วหรือ...”

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status