แชร์

บทที่ 187

ผู้เขียน: สั่งไม่หยุด
เฉินเยี่ยนซู “เช่นนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ? ตำราประวัติศาสตร์เล่มไหน ที่สอนฝ่าบาทว่าต้องตามจีบสตรีอย่างไรหรือพ่ะย่ะค่ะ?”

ฮ่องเต้น้อยนั่งไม่ติดแล้ว

เขาทำคอตก ก่อนจะลุกขึ้นยืนพลางก้มหน้าราวกับทำเรื่องผิดก็มิปาน

จากนั้นก็กล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “ขอโทษนะ ท่านอัครมหาเสนาบดี! วันก่อนข้าเห็นนางกำนัลผู้หนึ่งแอบอ่านนิยาย อ่านไปใบหน้าก็เปี่ยมไปด้วยความสุข เอาแต่แอบยิ้ม ข้าสงสัยนิดหน่อย ก็เลยเอามาอ่าน”

“ข้าไม่กล้าอ่านตำราเบ็ดเตล็ดเหล่านั้นอีกแล้ว ข้าจะตั้งใจอ่านฎีกา อ่านม้วนเสนอนโยบายการปกครอง ไม่ทำให้ท่านอัครมหาเสนาบดีผิดหวังในตัวข้าอีก”

หากรู้เช่นนี้คงไม่มาอวดเก่งต่อหน้าท่านอัครมหาเสนาบดีแล้ว

ไม่คิดเลยว่าแค่ไม่กี่ประโยคก็ถูกท่านอัครมหาเสนาบดีมองออกแล้วว่า ตนอ่านอะไรที่ไม่ควรอ่าน

ในตอนนี้ขันทีอาวุโสหยางเองก็ปาดเหงื่อตรงหน้าผากเช่นกัน ก่อนจะกล่าวขึ้นอย่างอิหลักอิเหลื่อว่า “ท่านเสนาบดี ฝ่าบาทเองก็ไม่ได้อ่านนานมาก อ่านเพียงครึ่งชั่วยามก็อ่านจบแล้ว หลังจากนั้นก็ไม่ได้ใช้ให้ข้าน้อยไปหานิยายเล่มอื่นกลับมาอีก...”

เขาเองก็เป็นกังวลเช่นกัน ในฐานะบ่าวรับใช้ข้างกายของฝ่าบาท หากไม่ดูแลฝ่าบาทให้ดี ทำให้
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 470

    เหอะๆ หากหรงจือจือกลายเป็นหญิงปากร้ายจริงๆ เขาจะคอยดูว่าท่านราชเลขาธิการยังจะได้อยู่อย่างสงบสุขอีกหรือไม่! ท่านราชเลขาธิการเลอะเลือนไปแล้ว แม้แต่เรื่องแบบนี้ก็จะสนับสนุนหรือ?……หรงจือจือตามเฉินเยี่ยนซูออกจากวังนึกไม่ถึงว่านางเซี่ยจะยังไม่จากไป กำลังรอพวกนางอยู่นอกวังนางเซี่ยมีสีหน้ากระอักกระอ่วน เอ่ยถามว่า “จือจือ ข้าขอคุยกับเจ้าได้หรือไม่?”หรงจือจือลังเลเล็กน้อย นึกถึงการดูแลที่พระชายาอ๋องเฉียนมีต่อตัวเองตลอดหลายปีมานี้ ก่อนหน้านี้นางหลงผิด พูดแนะนำให้ฉีอวี่เยียนแต่งไปอยู่บ้านพวกเขา พวกเขาก็ไม่เคยถือโทษเรื่องนี้แต่อย่างไร มิหนำซ้ำ วันนี้นางเซี่ยก็ช่วยขอความเมตตาให้กับนางด้วยเหตุนี้จึงตอบตกลงนางเห็นไปมองเฉินเยี่ยนซูที่เม้มปากเหมือนไม่สบอารมณ์ “ผมของท่านราชเลขาธิการยังแห้งไม่สนิท ด้านนอกอากาศหนาว ท่านไปรอข้าบนรถม้าก่อนเถิด”เฉินเยี่ยนซู “ได้”เขาเหมือนจะเชื่อฟังดีมาก มีเพียงเซิ่งเฟิงที่มองออกว่าเขากำลังอดทนที่จะไม่โยนนางเซี่ยออกจากแคว้นต้าฉีผู้ใดจะมองไม่ออกกันว่านางเซี่ยยังคิดที่จะโน้มน้าวอยู่?น่าเสียดาย เวลาอยู่ต่อหน้าภรรยา เขาจำเป็นต้องแสร้งทำเป็นสุภาพอ่อนโยนเข้าไว้

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 469

    เซิ่งเฟิงผู้รักในความถูกต้องทนมองไม่ได้! แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้เปิดโปงเจ้านายตัวเองหรงจือจือมีสีหน้าเป็นกังวลหลังจากฟังเฉินเยี่ยนซู “ท่านราชเลขาธิการ เรื่องนี้จะส่งผลกระทบในทางไม่ดีต่อท่านหรือไม่?”เห็นนางเป็นห่วงตัวเองอย่างเห็นได้ชัดแบบนี้เฉินเยี่ยนซูก็มีความสุข ตอบอย่างเรียบนิ่ง “ไม่ต้องกังวล ข้ารับมือได้”ได้ยินเขาพูดแบบนี้ นางถึงค่อยเบาใจลงบ้าง รู้สึกเหมือนตัวเองกับเขาเป็นคู่รักหนีตายที่ต้องต่อสู้กับคนทั้งโลกด้วยกันขณะเดียวกันก็รู้สึกใกล้ชิดกันมากขึ้นอย่างไรตำหนักหย่งหนิงก็ไม่ใช่พื้นที่ของพวกเขา ไม่สะดวกที่จะคุยกันที่นี่มากเกินไป ทั้งสองคนเดินออกไปข้างนอก หรงจือจือเดินตามหลังครึ่งก้าวตามกฎแต่แล้วเฉินเยี่ยนซูกลับหยุดฝีเท้าและหันกลับมา “จือจือไม่ยินดีเดินเคียงข้างข้าหรือ?”หรงจือจือผงะ มองเขาอย่างประหลาดใจ “ท่านราชเลขาธิการ ตามศักดิ์แล้ว ท่านเป็นราชเลขาธิการผู้สำเร็จราชการแทน ส่วนข้าเป็นเพียงท่านหญิง ย่อมไม่อาจทำเกินสถานะ”“แม้เราจะหมั้นหมายกันแล้ว แต่ต่อให้แต่งงานกันไป ภรรยาก็ต้องตามหลังสามีครึ่งก้าว นี่เป็นกฎที่มีมาแต่โบราณ…”เฉินเยี่ยนซูพูดอย่างไม่ยี่หระ “เวลาอยู่ก

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 468

    ไทเฮาทรงพิโรธ ถลึงพระเนตรใส่ฮ่องเต้น้อย “ฮ่องเต้ นี่เจ้าปฏิบัติต่อเสด็จแม่ของเจ้าแบบนี้รึ?”เฉินเยี่ยนซูพูดด้วยเสียงนุ่มนวล “หากไทเฮาทรงรู้สึกว่าฝ่าบาทปฏิบัติต่อพระองค์ไม่ดี มองว่าท่านอ๋องดูแลพระองค์ได้ดีกว่า เช่นนั้นกระหม่อมก็ยินดีช่วยส่งพระองค์ไปยังที่ดินศักดินาของท่านอ๋องใหญ่ ให้ท่านอ๋องดูพระองค์ในช่วงบั้นปลาย”พระพักตร์ของไทเฮาซีดขาว สังเกตเห็นความประชดประชันในแววตาโอรสตัวเองใช้มือข้างหนึ่งจับพนักเก้าอี้พร้อมกับตรัส “ช่างเถอะ ข้าเองก็รู้สึกคิดถึงอดีตฮ่องเต้เช่นกัน”เช่นนี้ก็หมายความว่ายอมจำนน บ่งบอกว่ายอมถูกกักบริเวณและคัดคัมภีร์นางคิดมาโดยตลอดว่าฮ่องเต้ยังชันษาน้อย คงจะจำอะไรไม่ได้มาก แต่ดูจากตอนนี้ เหมือนว่าฮ่องเต้จะยังจำได้มิน่าเล่า เขาถึงได้ไม่ยืนอยู่ฝั่งของนางกับสกุลเซี่ย เอาแต่เข้าข้างราชเลขาธิการเมื่อพูดถึงท่านอ๋องใหญ่ หรือก็คือพระเชษฐาต่างมารดาของฮ่องเต้ นางเซี่ยมีอาการตกใจเช่นกัน เกี่ยวกับเรื่องเมื่อตอนนั้น นางยอมรับว่าไทเฮาเลอะเลือนไปเล็กน้อยฮ่องเต้น้อยมีท่าทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยิ้มว่า “ในเมื่อเรื่องนี้จบลงแล้ว เช่นนั้นเราจะกลับไปจัดการราชกิจก่อน”เฉินเ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 467

    แม้แต่ฮ่องเต้น้อยก็ยังต้องยกนิ้วหัวแม่มือให้หรงจือจือในใจ ไม่แปลกเลยที่ท่านราชเลขาธิการจะชอบนาง ช่างฉลาดหลักแหลม แม้แต่วิธีแก้ปัญหาเช่นนี้ก็ยังสามารถคิดออกมาได้ นางเซี่ยรีบพูดด้วยรอยยิ้ม “ความจริงจวนอ๋องเฉียนของพวกข้าก็ไม่เลว หากมหาราชครูหรงต้องเลือกระหว่างสองสกุลก็คงตัดสินใจได้ยากเช่นกัน”“จือจือ เจ้าลองเลือกใหม่อีกครั้งดีหรือไม่ หากเจ้าเลือกอู๋เหิง บิดาของเจ้าก็ไม่น่าจะว่าอะไร”“เจ้าก็รู้ แม่สามีของข้าชอบเจ้ามากมาโดยตลอด หลายปีมานี้ก็ปกป้องและรักใคร่เจ้าไม่น้อย”หัวคิ้วของหรงจือจือกระตุก เข้าใจว่านางเซี่ยกำลังยกพระชายาอ๋องเฉียนมาเพื่อโน้มน้าว อยากให้นางเห็นแก่การดูแลที่พระชายาอ๋องเฉียนมีต่อตัวเองตลอดหลายปีมานี้และเลือกจีอู๋เหิงไทเฮาฟังถึงตรงนี้ก็ตรัสเช่นกัน “พระชายาซื่อจื่อพูดได้ถูกต้อง! หรงจือจือ ตอนนี้ข้าต้องการให้เจ้าแต่งงานกับอู๋เหิง ส่วนฮ่องเต้นั้นต้องการให้เจ้าแต่งงานกับราชเลขาธิการเฉิน”“พวกข้าสองแม่ลูกแทบจะบาดหมางกันเพราะเจ้าอยู่แล้ว เจ้าลองตรองดูให้ดีว่าจะแต่งงานกับผู้ใด!”“ในเมื่อเจ้าแต่งเพราะคำสั่งของบิดา คิดว่าหากมีข้าอยู่ด้วย ต่อให้เจ้าเลือกอู๋เหิง บิดาเจ้าก็คงไ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 466

    ฮ่องเต้หย่งอันเข้าใจแล้วว่า เหตุใดท่านราชเลขาธิการได้ยินว่าเสด็จแม่เรียกตัวหรงจือจือมาพบแล้วจึง…เขามองไทเฮาพร้อมกับตรัสด้วยความเสียใจ “โอ้? มันสายไปแล้ว! ลูกพระราชทานสมรสไปแล้ว ราชโองการก็เขียนเสร็จแล้ว ประทับตราพระราชลัญจกรแล้วเช่นกัน!”“เหตุใดเสด็จแม่จึงไม่หารือกับลูกตั้งแต่เมื่อวาน หากเป็นเมื่อวาน เรื่องนี้คงพอมีหนทางให้ตกลงกันได้”ไทเฮาตรัสอย่างไม่เชื่อ “เป็นความจริงหรือ?”ฮ่องเต้หย่งอัน “ย่อมเป็นความจริง ราชโองการยังอยู่ในมือเซิ่งเฟิงอยู่เลย!”ตอนแรกเขาจะให้ขันทีอาวุโสหยางเป็นคนถือ ประเดี๋ยวหรงจือจือกลับสกุลหรงไปแล้วค่อยประกาศราชโองการ แต่ท่านราชเลขาธิการไม่วางใจยืนกรานที่จะขอรับไป ให้เซิ่งเฟิงเป็นคนเก็บรักษาไทเฮาพิโรธมากนางเซี่ยร้อนใจเช่นกัน รีบคุกเข่าว่า “ฝ่าบาท ได้โปรดถอนราชโองการด้วยเถิด อู๋เหิงต้องการแต่งงานกับท่านหญิงเช่นกัน!”ฮ่องเต้หย่งอันยิ้มเยาะ “พระชายาซื่อจื่อกล่าวเช่นนี้ ฟังดูเหมือนท่านราชเลขาธิการไม่ได้ตั้งใจจะแต่งงานกับหรงจือจืออย่างไรอย่างนั้น สินสอดแปดร้อยหาบ เกรงว่านี่คงเป็นครั้งแรกตั้งแต่ก่อตั้งแคว้นต้าฉีมา!”นางเซี่ยรีบพูด “ฝ่าบาท จวนอ๋องเฉียนของพ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 465

    ฮ่องเต้น้อยเห็นนางเซี่ยยอมรับผิดรวดเร็วแบบนี้ก็ไม่ได้ทำให้นางลำบากใจอีก อย่างไรเมื่อครู่นี้เขาก็เห็นว่า อีกฝ่ายก็พยายามช่วยขอความเมตตาให้หรงจือจืออย่างสุดความสามารถ แต่เมื่อฮ่องเต้น้อยมองไปที่นางกำนัลนางนั้น เขายิ่งคิดก็ยิ่งโมโหเดินเข้าไปถีบอีกฝ่าย “ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง แม้แต่ท่านราชเลขาธิการก็ยังกล้าสาด! เจ้าจงสวดภาวนาให้ท่านราชเลขาธิการปลอดภัย มิเช่นนั้น ครอบครัวเจ้าทั้งเก้าชั่วโคตรก็ยังชดใช้ไม่ได้!”นางกำนัลถูกถีบกลิ้งกับพื้นรู้สึกได้รับความอยุติธรรม นางจะรู้ได้อย่างไรว่าท่านราชเลขาธิการจะมาและช่วยบังน้ำเย็นให้กับท่านหญิง หากรู้มาก่อน ต่อให้นางจะใจกล้าเพียงใดก็ไม่กล้าทำแบบนี้แต่ฮ่องเต้กำลังพิโรธ นางไม่กล้าร้องว่าอยุติธรรม กลัวว่าฮ่องเต้จะพิโรธหนักกว่าเดิมได้แต่คำนับศีรษะด้วยความเคารพ “บ่าวสมควรตาย ฝ่าบาทโปรดประทานอภัย!”เจาซีมองด้วยความสะใจ เมื่อครู่นี้นางกำนัลคนนี้ใช้อำนาจข่มขู่ บอกว่าเป็นคำสั่งของไทเฮา ห้ามขัดขืนเด็ดขาดตอนนี้ ฮ่องเต้จะทุบตีนางอย่างไร สั่งสอนนางอย่างไร นางก็ได้แต่ทนรับไว้เสียงความเคลื่อนไหวด้านนอกย่อมดังเข้าไปในตำหนักเมื่อฮ่องเต้หย่งอันเข้าไป พระ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status