แชร์

บทที่ 438

ผู้เขียน: สั่งไม่หยุด
หรงจือจือชะงักฝีเท้า หันไปมองเขาด้วยความดูแคลน “ขอโทษ? กระไร? เจ้าได้ยินแค่ข้าเย้ยหยันนาง ไม่ได้ยินที่นางเย้ยหยันข้ารึ?”

‘’เจ้าหูหนวกชั่วขณะ หรือว่าสมองช้ามาโดยตลอดอยู่แล้ว?”

หรงซื่อเจ๋อสะอึก ครั้นนึกย้อนกลับไปก็นึกได้ว่าเหมือนจะเป็นแบบนั้นจริงๆ “ข้า ข้า…”

เขาไม่กล้าบอกว่าเป็นเพราะความเคยชิน เขาเคยชินกับการปกป้องเจียวเจียวเวลาที่พวกนางสองคนทะเลาะกัน เมื่อเกิดความเคยชินเช่นนี้ บางครั้งจึงแสดงออกมาโดยไม่ทันได้ตรึกตรองผ่านสมอง

หรงเจียวเจียวกัดริมฝีปากพูดว่า “พี่หญิง เหตุใดท่านจึงว่าพี่ชายเช่นนี้? พี่ชายเพียงแต่ออกหน้าช่วยข้าก็เท่านั้น เขาไม่ได้มีเจตนาไม่ดีสักหน่อย!”

ความจริงหรงซื่อเจ๋ออยากพูดว่าเขาไม่ได้ทำเพื่อออกหน้าช่วยนาง แต่เพียงหวังว่าหรงจือจือจะปรับปรุงตัว อย่าได้เอาแต่ทำให้คนในครอบครัวลำบากใจ

แต่ตอนนี้…

ไม่ว่าจะพูดอะไรออกไปก็ดูเหมือนเขาเข้าข้างหรงเจียวเจียว

หรงจือจือ “ใช่ๆๆ! พวกเจ้าเป็นพี่น้องที่รักใคร่กลมเกลียวกันที่สุดแล้ว แต่วันหลังช่วยไสหัวไปไกลๆ ได้หรือไม่? ข้าไม่มีเวลาว่างมาดูพวกเจ้าแสดงความรักต่อกันทุกวันหรอกนะ”

หรงซื่อเจ๋อพูดด้วยความเดือดดาล “หรงจือจือ ท่านพูดเช่น
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 466

    ฮ่องเต้หย่งอันเข้าใจแล้วว่า เหตุใดท่านราชเลขาธิการได้ยินว่าเสด็จแม่เรียกตัวหรงจือจือมาพบแล้วจึง…เขามองไทเฮาพร้อมกับตรัสด้วยความเสียใจ “โอ้? มันสายไปแล้ว! ลูกพระราชทานสมรสไปแล้ว ราชโองการก็เขียนเสร็จแล้ว ประทับตราพระราชลัญจกรแล้วเช่นกัน!”“เหตุใดเสด็จแม่จึงไม่หารือกับลูกตั้งแต่เมื่อวาน หากเป็นเมื่อวาน เรื่องนี้คงพอมีหนทางให้ตกลงกันได้”ไทเฮาตรัสอย่างไม่เชื่อ “เป็นความจริงหรือ?”ฮ่องเต้หย่งอัน “ย่อมเป็นความจริง ราชโองการยังอยู่ในมือเซิ่งเฟิงอยู่เลย!”ตอนแรกเขาจะให้ขันทีอาวุโสหยางเป็นคนถือ ประเดี๋ยวหรงจือจือกลับสกุลหรงไปแล้วค่อยประกาศราชโองการ แต่ท่านราชเลขาธิการไม่วางใจยืนกรานที่จะขอรับไป ให้เซิ่งเฟิงเป็นคนเก็บรักษาไทเฮาพิโรธมากนางเซี่ยร้อนใจเช่นกัน รีบคุกเข่าว่า “ฝ่าบาท ได้โปรดถอนราชโองการด้วยเถิด อู๋เหิงต้องการแต่งงานกับท่านหญิงเช่นกัน!”ฮ่องเต้หย่งอันยิ้มเยาะ “พระชายาซื่อจื่อกล่าวเช่นนี้ ฟังดูเหมือนท่านราชเลขาธิการไม่ได้ตั้งใจจะแต่งงานกับหรงจือจืออย่างไรอย่างนั้น สินสอดแปดร้อยหาบ เกรงว่านี่คงเป็นครั้งแรกตั้งแต่ก่อตั้งแคว้นต้าฉีมา!”นางเซี่ยรีบพูด “ฝ่าบาท จวนอ๋องเฉียนของพ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 465

    ฮ่องเต้น้อยเห็นนางเซี่ยยอมรับผิดรวดเร็วแบบนี้ก็ไม่ได้ทำให้นางลำบากใจอีก อย่างไรเมื่อครู่นี้เขาก็เห็นว่า อีกฝ่ายก็พยายามช่วยขอความเมตตาให้หรงจือจืออย่างสุดความสามารถ แต่เมื่อฮ่องเต้น้อยมองไปที่นางกำนัลนางนั้น เขายิ่งคิดก็ยิ่งโมโหเดินเข้าไปถีบอีกฝ่าย “ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง แม้แต่ท่านราชเลขาธิการก็ยังกล้าสาด! เจ้าจงสวดภาวนาให้ท่านราชเลขาธิการปลอดภัย มิเช่นนั้น ครอบครัวเจ้าทั้งเก้าชั่วโคตรก็ยังชดใช้ไม่ได้!”นางกำนัลถูกถีบกลิ้งกับพื้นรู้สึกได้รับความอยุติธรรม นางจะรู้ได้อย่างไรว่าท่านราชเลขาธิการจะมาและช่วยบังน้ำเย็นให้กับท่านหญิง หากรู้มาก่อน ต่อให้นางจะใจกล้าเพียงใดก็ไม่กล้าทำแบบนี้แต่ฮ่องเต้กำลังพิโรธ นางไม่กล้าร้องว่าอยุติธรรม กลัวว่าฮ่องเต้จะพิโรธหนักกว่าเดิมได้แต่คำนับศีรษะด้วยความเคารพ “บ่าวสมควรตาย ฝ่าบาทโปรดประทานอภัย!”เจาซีมองด้วยความสะใจ เมื่อครู่นี้นางกำนัลคนนี้ใช้อำนาจข่มขู่ บอกว่าเป็นคำสั่งของไทเฮา ห้ามขัดขืนเด็ดขาดตอนนี้ ฮ่องเต้จะทุบตีนางอย่างไร สั่งสอนนางอย่างไร นางก็ได้แต่ทนรับไว้เสียงความเคลื่อนไหวด้านนอกย่อมดังเข้าไปในตำหนักเมื่อฮ่องเต้หย่งอันเข้าไป พระ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 464

    หรงจือจืออยากอธิบายว่าตัวเองไม่ได้กลัว แต่เมื่อสบเข้ากับสายตาห่วงใยของเขา จู่ๆ นางก็พบว่าตัวเองพูดอะไรไม่ออก ภายในใจอ่อนระทวยไปหมดทั้งๆ ที่เขาถูกราดน้ำเย็น ทั้งๆ ที่เขากำลังหนาวทว่าเขากลับไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย มีเพียงความรู้สึกที่เป็นห่วงนางนางรีบนำผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดน้ำเย็นบนใบหน้าเขาโดยไม่ได้มาสนใจว่าชายหญิงไม่ควรถูกเนื้อต้องตัวกัน อย่างไรก็จะแต่งงานกับเขาอยู่แล้วเฉินเยี่ยนซูผงะ ดวงตาหงส์เร่าร้อนขึ้นมาหลายส่วนฮ่องเต้น้อยตรัส “มัวทำอันใดกันอยู่? ยังไม่รีบไปเตรียมเสื้อผ้าสะอาดกับน้ำร้อนให้ท่านราชเลขาธิการอีก!”“หากท่านราชเลขาธิการป่วยไข้ขึ้นมา! เราจะตัดหัวพวกเจ้าให้หมด”“น้ำขิงด้วย! เตรียมน้ำขิงให้ท่านหญิงกับท่านราชเลขาธิการทันที!”หรงจือจือจะบอกตัวเองไม่ต้องการน้ำขิง แต่เมื่อเห็นท่าทีของฮ่องเต้หย่งอัน นางก็ไม่ได้ปฏิเสธนางกำนัลที่ราดน้ำเย็นใส่เฉินเยี่ยนซูตกใจกลัวจนน้ำตาแทบเล็ด คุกเข่าตัวสั่นเทิ้มร่วมกับนางกำนัลคนอื่นๆผู้ที่ถูกราดน้ำเย็นคือท่านราชเลขาธิการ นั่นคือท่านราชเลขาธิการของฮ่องเต้เชียวนะ ก่อนที่ฮ่องเต้จะทรงว่าราชกิจ พระองค์จะต้องถวายการคำนับแด่ท่านราชเลขาธิการตาม

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 463

    ไทเฮาโกรธจนหน้าเขียว ชี้นิ้วไปที่นาง “ดี ดี ดี เจ้าดีมาก!”แม้ภายในใจนางจะไม่พอใจถึงขีดสุด กระนั้นก็มีความนับถือบางส่วนเจืออยู่ด้วยอดนึกถึงถ้อยคำที่อดีตฮ่องเต้เคยพูดกับตัวเองไม่ได้ มหาราชครูหรงเป็นเสาหลักของบ้านเมือง อุทิศความสามารถและความทุ่มเททั้งหมดเพื่อชาติบ้านเมือง เขาถึงกล้ากราบทูลฎีกาที่ภัยถึงชีวิต เสียก็แต่เถรตรงเกินไปมองหรงจือจือตอนนี้แล้วเหมือนบิดาของนางมาก!ทว่า ความชื่นชมนี้ไม่อาจระงับเพลิงโทสะภายในใจนางแต่อย่างใด “ไปเตรียมน้ำเย็นเดี๋ยวนี้ ข้าอยากเห็นนักว่าเจ้าจะมีชีวิตรอดไปเห็นผู้บันทึกประวัติศาสตร์กล่าวโทษข้าหนือไม่!”นางเซี่ย “ไทเฮา!”ไทเฮามองนางปราดหนึ่ง พูดด้วยหน้าบึ้งตึง “พอแล้ว พี่หญิงนั่งลงเถอะ ข้าเองก็ทำเพื่อสั่งสอนลูกสะใภ้ในอนาคตให้ท่าน!”นางเซี่ยเห็นหรงจือจือเดินออกไปภายในใจปั่นป่วนว้าวุ่น จากนั้นลุกขึ้นเพื่อเข้าไปห้ามปรามด้วยตัวเองพระพักตร์ของไทเฮาย่ำแย่กว่าเดิมเมื่อเห็นพี่หญิงของตนเป็นเช่นนี้สั่งว่า “ห้ามพระชายาซื่อจื่อเอาไว้ อย่าให้นางก่อกวน!”บรรดานางกำนัล “เพคะ!”หรงจือจือคุกเข่าท่ามกลางหิมะ มองนางกำนัลยกถังน้ำเย็นเข้ามา ส่วนนางเซี่ยที่จะเข้

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 462

    นางเซี่ยได้ยินไทเฮาตรัสเช่นนี้ก็ผงะ นางหวังเพียงให้น้องหญิงช่วยให้การแต่งงานนี้ลุล่วง หวังเพียงขู่ให้หรงจือจือกลัว ไม่จำเป็นต้องถึงขั้นลงไม้ลงมือกระมัง?หากราดน้ำเย็นใส่หรงจือจือจริงๆ และถูกลูกชายรู้เข้า เกรงว่าเขาคงไม่ยกโทษให้นางนางพูดอ้อนวอนว่า “ไทเฮา ไม่ต้องถึงขั้นนั้นหรอกเพคะ จือจือเพียงแต่คิดไม่ถี่ถ้วนไปชั่วขณะ…”นึกไม่ถึงว่าไทเฮาจะตัดบทนาง “ข้าว่านางคิดถี่ถ้วนแล้วต่างหาก ทั้งยังแน่วแน่มาก! ลากตัวออกไป!”“ราดเสร็จแล้วคุกเข่ากลางหิมะสองชั่วยาม! ข้าจะสั่งสอนให้นางรู้ว่า ผู้ใดคือประมุขของวังหลวง!”นางเซี่ยบิดผ้าเช็ดหน้า สีหน้าเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงนางรู้สึกเรื่องนี้หลุดการควบคุมของนางไปแล้ว ความพิโรธของไทเฮาเหมือนจะไม่ใช่เพื่อบุตรชายนางอย่างเดียว!นางรู้จักน้องหญิงของนางดี หรงจือจือเพียงแค่ปฏิเสธเรื่องของบุตรชายนาง อีกฝ่ายไม่น่าจะถึงขั้นโมโหขนาดนี้เมื่อเห็นนางกำนัลจะเข้ามาลากตัวหรงจือจือก็เอ่ยเสียงเรียบ “หยุด ไม่ต้องให้พวกเจ้าลาก ข้าเดินออกไปเองได้”นางเซี่ยร้อนรนกระวนกระวาย สงสัยว่าหรงจือจือเคยไปก้าวล่วงไทเฮาเรื่องอื่นด้วยหรือไม่ รีบพูดว่า “จือจือ เจ้ารีบตอบตกลงไปเถอะ!”

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 461

    “ที่เรียกเจ้ามาวันนี้ ก็เพราะต้องการให้ไทเฮาทรงช่วยพูดไกล่เกลี่ยให้เรื่องมงคลระหว่างสองครอบครัวลงเอยด้วยดี”ไทเฮายิ้มเยาะ “แต่ดูจากตอนนี้ คล้ายว่าบุตรสาวสายตรงคนโตของมหาราชครูหรงนางนี้จะไม่เห็นข้าในสายตา เช่นนี้ข้าพูดไกล่เกลี่ยไปจะมีประโยชน์อันใด?”หรงจือจือ “หม่อมฉันมิกล้าเพคะ! หม่อนฉันไม่เคยขุ่นเคืองพระชายาซื่อจื่อ ย่อมไม่มีอันใดต้องไกล่เกลี่ย”“เหอะ…” ไทเฮาแค่นเสียงเย็น ยกถ้วยชาขึ้นพร้อมกับมองหรงจือจือ “ข้าไม่อยากต้องอ้อมค้อมเสแสร้งกับเจ้า พูดมา เจ้าจะแต่งงานกับหลานชายข้าหรือไม่!”หรงจือจือ “ขอไทเฮาโปรดประทานอภัย”ถ้วยชาในมือไทเฮาเกือบจะขว้างถูกหรงจือจือเมื่อฟังถึงตรงนี้ ถ้วยชาแตกกระจาย น้ำร้อนกระเซ็นซ่าน หากไม่ใช่เพราะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าหน้าชั้นสำหรับฤดูหนาว เกรงว่าหรงจือจือคงถูกลวกไปแล้ว!ไทเฮาตรัสอย่างเดือดดาลด้วยสีหน้าดำทะมึน “หรงจือจือ เจ้ามันไม่เห็นคุณค่าความหวังดี จะไม่ไว้หน้าข้าสักนิดใช่หรือไม่?”นางเซี่ยลุกไปประคองหรงจือจือขึ้นมา ปากพูดเกลี้ยกล่อมว่า “จือจือ อย่าทำให้ไทเฮาทรงกริ้ว รีบลุกขึ้นก่อน”“เจ้ากับราชเลขาธิการเพิ่งจะหมั้นหมายกันแค่หนึ่งวัน ข่าวยังไม่แพร่กระจา

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status