เมื่อเพื่อนสนิทกับแฟนคนแรกมีอะไรกัน ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนของยีนส์และเพื่อนคนนั้นต้องจบลงไป อยู่ ๆ วันหนึ่งมีผู้หญิงคนหนึ่งโผล่เข้ามาในชีวิตเขา ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจเธอ เพราะเข็ดหลาบกับความรักในอดีต จนกระทั่งเห็นผู้หญิงคนนั้นรู้จักกับอดีตเพื่อนสนิท แต่ใครจะคิดว่าผู้หญิงคนนั้นคือน้องสาวของเพื่อนที่เคยทำร้ายเขา แผนการร้ายเพื่อต้องการให้มันเจ็บปวดเหมือนที่เขาเคยเจอจึงเริ่มขึ้น “มึงบอกกูที ว่ามึงรักมึงชอบน้องกูบ้างไหม หรือมึงแค่ต้องการแก้แค้นกูอย่างเดียว” “กูจะรักน้องสาวของคนที่หักหลังกูได้ยังไง” *เรื่องนี้เป็นรุ่นลูกเซตวิศวะร้ายนะคะ เป็นลูกสาวของเพลิง&ปิ่นมุก จากเรื่องวิศวะร้อนรัก
ดูเพิ่มเติมรถหรูคันสีดำเลี้ยวเข้าจอดที่จอดรถประจำ ลานจอดรถคณะวิศวะ เจ้าของความสูง 187 ใบหน้าหล่อเหลา แต่ทว่าเย็นชา เปิดประตูลงจากรถ ทำเอาสาว ๆ ทั้งในคณะและต่างคณะมองเป็นตาเดียวกัน พร้อมทั้งเสียงซุบซิบต่าง ๆ
"กรี๊ด...หล่อมากเลยแก" "อยากได้เป็นพ่อของลูกอ่ะ" "เบ้าหน้าฟัาประทานมาก นี่ขนาดไม่ค่อยยิ้มนะ ฉันยังเก็บไปฝันอ่ะ" "จริง อยากรู้จังใครจะทำให้พี่เขายิ้มได้ว่ะ" ยีนส์เจ้าของหัวข้อสนทนา ไม่ได้สนใจเสียงซุบซิบเหล่านั้น ยังคงเย็นชาใบหน้าไร้ความรู้สึก เดินเร็ว ๆ ไปหากลุ่มเพื่อนสนิท ที่นั่งแซวสาว ๆ อยู่ที่ม้าหินอ่อน หน้าลานเกียร์ "ช้าจังว่ะ"คีรินเพื่อนสนิท ที่ถือกีตาร์ดีดเพลงแซวสาว เป็นงานถนัดที่เพื่อนคนนี้ทำประจำ "มึงมาไม่ทันเมื่อกี้..." "กูบอกว่าอย่าพูดไอ้ตะวัน ปากมากอีกแล้วมึง" ตะวันที่กำลังจะอ้าปากบอกอะไรบางอย่างกับยีนส์ ต้องหันมองคีรินที่เอามือมาตบหัวเขา "ถ้าจะพูดก็พูด" ถึงจะไม่ได้อยากรู้ แต่ดูเหมือนเพื่อนจะอยากบอกมากกว่า ยีนส์เลยไม่อยากขัดศรัทธาเพื่อน "กูเจอเพื่อนรักมึงว่ะ แม่ง!!! ควงเด็กอักษรฯ อีกแล้ว ใจคอมันจะเก็บทุกคณะเลยหรือไงว่ะ ก่อนหน้าก็เด็กบัญชี" แววตาคมของยีนส์เปลี่ยนไปเล็กน้อย ก่อนจะกลับมาเป็นปกติ เมื่อเจ้าตัวจัดการกับความรู้สึกบางอย่างออกไปจากความคิดได้อย่างรวดเร็ว เพื่อนรักที่เพื่อนสนิทสองคนหมายถึง คืออดีตเพื่อนรักของเขาเอง ชื่อโซล คบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมอต้น เมื่อก่อนก็คือเพื่อนกลุ่มเดียวกับเขาตอนนี้ แต่เป็นเพราะเขาแยกตัวออกมา พูดง่าย ๆ ก็คือเลิกคบกัน แต่ทว่าคีรินกับตะวัน สองคนนี้ก็ตามเขามาด้วย โดยให้เหตุผลว่าเลือกเขามากกว่าโซล "กูบอกมึงแล้วว่าอย่าไปสนใจมัน จะทำอะไรก็ช่างแม่ง!! จบกันไปแล้ว ก็อย่าไปสนใจเลยว่ะ" คีรินพูดโดยมองหน้ายีนส์ เรื่องของสองคนนี้ ตอนนั้นเป็นเรื่องใหญ่มาก เรียกได้ว่ายีนส์แค้นหนักมาก ถึงขึ้นลงไม้ลงมือกัน แต่เป็นเขาสองคนที่ขอร้องให้เรื่องมันจบแค่นั้น แต่เขารู้ดีว่าเพื่อนรักอย่างยีนส์ ยังแค้นอยู่จนถึงทุกวันนี้ "กูรักเพื่อนไง หรือมึงเข้าข้างมันห๊า!!! ไอ้คีริน มันแย่งแฟนเพื่อนมึงนะโว้ย!!" "สัด!! กูบอกให้มึงหยุด" คราวนี้ไม่ใช่แค่ตบหัว แต่คีรินยังถีบเข้าที่ขาของตะวันอย่างแรง ตอนนี้ยีนส์นั่งเงียบ เขาเองก็เดาไม่ถูกว่าเพื่อนคิดอะไร ปกติหน้าก็นิ่งมากอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งนิ่งมากกว่าเดิม จนเขาเริ่มคิดหนัก "อย่าไปฟังมันเลยนะไอ้ยีนส์ ที่จริงจูเน่ก็ไม่ได้ดีอะไร ไม่ได้มีค่าพอให้มึงต้องเสียดายขนาดนั้น กูขอเหอะ เลิกแล้วต่อกันดีกว่า" "มึงรู้เหรอกูคิดอะไร"ยีนส์ถามเสียงเรียบ "ไม่รู้ว่ะ แต่ที่กูรู้คือมึงแค้นมันมาก แต่ก็ผ่านมาเป็นปีแล้วนะ อีกอย่างมันเองก็ถูกจูเน่นอกใจนี่หว่า นั่นก็กรรมมันแล้วนะ" "หึ...กรรม กูว่าไม่ใช่" "มึงหมายความว่าไง?" "มันไม่ได้สนใจจูเน่ตั้งแต่แรกแล้ว แต่ที่มันทำเหมือนชอบ เพราะอยากหลอกแดกเขามากกว่า" "มันจะอยากแดกต่อจากมึงไปทำไมว่ะ ผู้หญิงมีเป็นร้อยนะโว้ย!!! คนชอบมันเยอะแยะมึงก็เห็น มึงไม่คิดว่าเพราะจูเน่เองก็อยากให้มันแดกเหรอว่ะ" บอกตรง ๆ เมื่อก่อนตอนปีหนึ่ง ยีนส์คบกับจูเน่ ตอนนั้นคีรินรู้สึกไม่ถูกชะตาผู้หญิงคนนั้นเลย เคยอยากจะเตือนเพื่อนหลายครั้ง แต่ที่ปล่อยไปเพราะคิดว่าเพื่อนไม่ได้จริงจังอะไร แต่ใครจะคิดว่ายีนส์หลงจูเน่เข้าขั้นหนักมาก ตามใจฝ่ายหญิงไม่ว่าต้องการอะไร เพื่อนเขาจะเสกมาให้ทุกอย่าง แล้วใครจะคิดว่าวันหนึ่ง ก็เกิดเรื่องขึ้น เมื่อยีนส์จับได้ว่าจูเน่เองแอบเอากับโซลเพื่อนในกลุ่มเดียวกัน ทำให้เพื่อนรักสองคนแตกคอกัน ถึงขั้นตัดขาดความเป็นเพื่อน ทะเลาะกันอย่างรุนแรง เพราะจูเน่บอกว่าชอบโซลมากกว่า ที่ทนคบกับยีนส์เพราะยีนส์ใจถึง เปย์ไม่อั้น ตามใจ เลยคิดจะหลอกคบไปเรื่อย ๆ หากว่าไม่ถูกจับได้ ป่านนี้คงปอกลอกเพื่อนเขาหมดตัว ถึงเขาจะเป็นเพื่อนของทั้งยีนส์และโซล แต่เขาเลือกข้างยีนส์มากกว่าเพราะมองว่าโซลเองก็ผิดเรื่องนี้ ที่มาแอบกินกับผู้หญิงที่เป็นแฟนเพื่อน "เห้ย!!! ไอ้คีริน กลุ่มคนสวยกำลังเดินผ่านมาทางนี้ว่ะ" กลุ่มคนสวยที่ตะวันว่า คือรุ่นน้องปีสอง คณะบริหารธุรกิจ ที่เดินผ่านทางนี้ทุกวัน ที่เขาสองคนมานั่งม้าหินตัวนี้ประจำ ก็เพราะต้องการมารอสามสาวนี่แหละ "วันนี้ทาลิปสีสวยจังนะครับ" มิลลิหันมองกลุ่มรุ่นพี่วิศวะสามคน ที่มักจะพูดแซวพวกเธอสามคนทุกวัน แต่เธอวางสายตาไว้ที่ใครคนหนึ่งในสามคนนี้ "อย่าหยิ่งสิครับ ยิ้มให้พี่มีกำลังใจเรียนหน่อยได้ไหมครับ"ตะวันหยอดคำหวานไม่พัก แต่สามสาวก็ไม่ได้สนใจ เดินผ่านตรงนี้ไปเฉย ๆ ทำให้สองหนุ่มได้แต่มองตาม "แม่ง!!! หยิ่งชิบหาย กูหยอดอยู่เป็นเดือนแล้ว ไม่สนใจเลยว่ะ" "ดูท่าจะเป็นลูกคุณหนูจ๋า ทั้งสามคน คงไม่ชอบเด็กวิศวะเถื่อน ๆ แบบเราหรอก"คีรินพูดอย่างเข้าใจ รุ่นน้องสามคนนั้นนอกจากไม่เคยยิ้มให้เขาแล้ว ยังไม่แม้แต่มองพวกเขาเลยด้วยซ้ำ นอกจากน้องคนหนึ่งที่ชอบหันมามองยีนส์ แต่เจ้าตัวกลับไม่รู้ "กูอยากรู้ชื่อชิบหาย!!!" "รู้ไม่อยากหรอก แต่จะรู้ไปทำไมว่ะ ในเมื่อเขาไม่ได้มีทีท่าว่าจะชอบมึง ฮ่า! ฮ่า!" "สัด!!! มึงสนใจสามคนนั้นไหมไอ้ยีนส์ กูว่าน้องคนหนึ่งในนั้น ชอบมองมึงนะ คนที่ผมลอนอ่ะ น่ารักชิบหาย หุ่นโคตรดี แต่จะว่าไปก็สวยสัด ๆ ทั้งสามคนนั้นแหละ ได้คนไหนสักที กูจะไม่ลืมพระคุณ" ตะวันที่ขึ้นชื่อเรื่องเสือผู้หญิงมากที่สุดในกลุ่มพูดขึ้น พร้อมทำหน้าตาชวนฝัน "แต่กูก็เห็นเหมือนไอ้ตะวันนะ คนผมลอนสีดำอ่ะ กูเห็นหันมามองมึงทุกที" คนที่ถูกพูดถึงแบบยีนส์ ในหัวยังคงวนเวียนอยู่แต่เรื่องก่อนหน้า เขาไม่ได้สนใจมองผู้หญิงคนไหนมานานมากแล้ว บางความรู้สึกยังมองว่าผู้หญิงก็น่ารังเกียจเหมือนกันหมด ยิ่งเกลียดผู้หญิงที่เข้าหาเขาก่อน ผู้หญิงแบบนั้นหมดราคา หมดค่าให้เขาสนใจ ยิ่งทำให้เขาคิดถึงเรื่องราวในอดีต "มึงก็รู้ว่ากูไม่สนใจ" "บางทีผู้หญิงก็ไม่ได้เหมือนกันทุกคนนะโว้ย!! กูอยากให้มึงลองเปิดใจให้คนอื่นบ้าง" "เรื่องนี้กูเห็นด้วยกับไอ้คีริน" "ผู้หญิงก็เหมือนกันหมด" ยีนส์พูดก่อนจะเดินเข้าตึกคณะไปทันที ทิ้งให้เพื่อนสองคนนั้งมองหน้ากัน "สัด!! กูบอกมึงแล้วใช่ไหมว่าอย่าเอ่ยชื่อไอ้โซลให้มันได้ยิน ปากมึงนี่นะ" ตะวันยกมือเกาหัวแกรก ๆ เมื่อคีรินลุกขึ้นเดินหนีเขาไปอีกคน "กลายเป็นกูผิดได้ไงว่ะ รอกูด้วย"หลังจากบทรักตอนเที่ยงจบลง ท้องของมิลลิก็ส่งเสียงประท้วงเสียงดัง ตอนแรกคนตัวสูงอยากจะต่อรอบกับเธอด้วยซ้ำ เพราะบรรยากาศที่เป็นใจ ถึงจะร้อนไปหน่อย แต่มีความตื่นเต้นจากการทำรักเอาท์ดอร์ครั้งแรก แต่ทว่าคนตัวเล็กขอพักกินข้าวก่อน "ประจำเดือนมิลมาอยู่หรือเปล่า” ยีนส์ต้องถามภรรยาเรื่องนี้ เพราะหลังจากเธอเรียนจบก็ไม่ได้กินยาคุมอีก แต่ผ่านมาเกือบสามเดือน ทำไมเธอถึงยังไม่ท้องสักที ทั้งที่เขาขยันทำการบ้านกับเธอแทบตาย งัดกลเม็ดทุกอย่างมาใช้หมดแล้ว แต่ทว่ายังไร้วี่แวว “ที่จริงประจำเดือนมิลก็มาไม่ปกติอยู่แล้ว แต่เพื่อความสบายใจของพี่ มิลจะตรวจหลังจากเรากลับนะคะ” “เมื่อวานพ่อตาบอกว่าพี่ไม่มีน้ำยา”มิลลิหัวเราะออกมา เมื่อนึกถึงคำพูดของพ่อที่บ่นเธออยู่ทุกวันว่าเมื่อไหร่จะมีหลานให้ท่านสักที “หรือพี่จะไม่มีน้ำยาอย่างพ่อตาว่าจริง ๆ”เขายังคงคิดมากเรื่องนี้อยู่ ก็เขาอยากมีลูก พ่อกับแม่ของเขาก็อยากมีหลานหลาย ๆ คน “พี่อย่าคิดมากสิคะ มิลเพิ่งปล่อยได้แค่สองเดือนกว่า ๆ เอง ใครจะไปรู้ตอนนี้มิลอาจจะท้องแล้วก็ได้” “งั้นเราไปซื้อที่ตรวจมาตรวจเลยได้ไหม พี่อยากรู้ตอนนี้เลย มิลก็รู้ว่าพี่อยากมีลูกขนาดไหน” สุดท้าย
หลังจากงานแต่งจบลง ยีนส์และมิลลิก็รีบไปสนามบินทันที ทั้งคู่จะไปฮันนีมูนกันที่มัลดิฟส์ เป็นเจ้าสาวที่จองตั๋วเครื่องบินและที่พักเองหมดทุกอย่าง กำหนดการเที่ยวทุกอย่างใช้เวลา4วัน3คืน “มิลตื่นเต้นอยากเห็นทะเลใจจะขาดแล้วค่ะ”มิลลิเดินควงแขนสามีหนุ่มหล่อ เพื่อไปยังรถตู้ของโรงแรมที่เธอจองเอาไว้ แม้ตอนนี้จะเป็นเวลาตีสี่กว่าแล้ว อีกทั้งยังเหนื่อยกับงานแต่ง แต่เธอกลับไม่รู้สึกง่วงสักนิด เพราะทะเลที่นี่ เธอใฝ่ฝันจะมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว “พี่อยากให้มิลพักหน่อยนะ”ยีนส์พูดไปตามที่คิด เพราะตั้งแต่ขึ้นเครื่องจนถึงตอนนี้ เขายังไม่เห็นเธอหลับเลย ทั้งที่ต้องตื่นตั้งแต่ตีสามเพื่อแต่งหน้า ทำผม ไหนจะยุ่งกับงานแต่งทั้งวัน เสร็จจากงานก็เที่ยงคืน ก็รีบมาสนามบินทันที เป็นเขาเสียอีกที่รู้สึกอ่อนเพลียมาก “ถึงที่พักแล้วค่อยนอนก็ได้ค่ะ สามีของมิลเหนื่อยแล้วเหรอคะ” “พี่ยอมแพ้มิล” รถตู้ของที่พักเข้ามาจอดตรงส่วนของโรงแรม แต่มิลลิจองเป็นที่พักติดทะเลไว้ เลยต้องใช้เวลาเดินไปอีก ขนาดว่าตอนนี้ตีห้า แต่ก็ยังมองเห็นความสวยงามของทะเล พนักงานของโรงแรมพาเดินไปตามสะพานไม้ที่พาไปยังที่พักเป็นหลังที่สร้างอยู่ในทะเล ก่อนที่จะหย
ยีนส์ขับรถหรูเข้ามาจอดหน้าบ้านหลังใหญ่ เพื่อส่งมิลลิลงก่อน ส่วนเขาก็ขับไปจอดในลานจอดรถ ก่อนจะเดินลงมาหาเธอที่ยืนรออยู่ พร้อมกับว่าที่พ่อตา ว่าที่แม่ยาย และพี่ชายสองคนของเธอ คนตัวสูงยอมรับว่าประหม่ามาก แต่ก็ไม่ได้ถึงกับว่ากลัวอะไรขนาดนั้น เขาเองก็เป็นลูกผู้ชายมากพอ ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเคยทำไว้อยู่แล้ว เพราะงั้นไม่ว่าจะโดนอะไรเขาก็พร้อมจะยอมรับ ขอแค่อย่างเดียวอย่าให้เขาเลิกคบกับมิลลิ เพราะเป็นเรื่องเดียวที่เขาจะไม่ยอม “สวัสดีครับ”ยีนส์ยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสอง และพี่ชายคนโตของมิลลิด้วยท่าทางปกติ ผิดกับสายตาของว่าที่พ่อตา ที่ดูเหมือนจะไม่พอใจเขามาก ๆ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไร เพียงแต่สบัดหน้าหนีเขา ไม่รับไหว้เขาเหมือนอย่างแม่ของเธอ “เข้าบ้านกันดีกว่า มิลพาพี่เขาเข้ามาเร็วลูก” มิลลิจับมือของเขา เดินเข้ามาในบ้านพร้อมกัน ตรงที่พ่อกับแม่นั่งรออยู่คือห้องรับแขกของบ้าน ยีนส์ทิ้งตัวลงนั่งตรงข้ามกับพ่อแม่ของมิลลิทันที ทุกสายตาจับจ้องมาที่เขาเป็นตาเดียว จากตอนแรกที่ไม่รู้สึกอะไร เจอแบบนี้เขาเองก็ต้องกุมมือเข้าหากันเพื่อลดอาการประหม่าของตัวเองตอนนี้ “เรื่องที่ผ่านมา แม่จะไม่พูดถึงมันนะ แต่หลังจากนี้
“แบบวันนี้ คือแม่พี่ชอบมิลหรือเปล่าคะ”มิลลิถามขึ้นตอนที่กลับมาถึงคอนโดของยีนส์แล้ว “ใช้คำว่าถูกใจเลยดีกว่า” เขาไม่ได้อวยเธอเกินจริง แต่การที่แม่เอ่ยปากชวนเธอไปชิมขนมที่ร้าน มันเป็นสัญญาณว่าแม่เขาถูกใจเธอมาก “แต่มิลก็อยากจะตีพี่เหลือเกิน รู้ว่ามิลชอบกินขนม ยังไม่บอกมิลอีกว่าแม่พี่เปิดร้านขนม” เธอทำหน้างอนเขาและทิ้งตัวนั่งลงตรงโซฟา โดยยีนส์ก็เดินเข้ามากอดเธอ ยกตัวเธอขึ้นนั่งบนตักของเขา ก่อนที่จะกดริมฝีปากลงไปบนกลีบปากนุ่มของเธอเบา ๆ “พี่กลัวมิลจะไม่อยากเจอแม่พี่ต่างหาก อีกอย่างตอนนั้นพี่ก็ยังไม่รู้ใจตัวเองด้วย หลังจากนี้พี่จะพาไปจนมิลเบื่อเลยดีไหมครับ” “ดีค่ะ มิลอยากเปิดร้านขนมมาตั้งนานแล้ว” “เรียนบริหารแต่ไปเปิดร้านขนมเหรอ” “ความชอบกับความฝันมันต่างกันค่ะ มิลเรียนบริหารเพราะเห็นพี่ชายคนโตเรียนค่ะ อีกอย่างเรียนจบมิลก็ต้องไปทำงานกับบริษัทของพ่อ” “แล้วไอ้โซลล่ะ มันเรียนวิศวะเครื่องยนต์นะ” “พ่อมีบริษัทผลิตยานยนต์ค่ะ พี่โซลตามพ่อไปทำงานตั้งแต่เด็ก ๆ เลยอยากเป็นอย่างพ่อ” “นี่พี่ตกถังข้าวสารเหรอเนี๊ยะ ต่อไปมิลต้องเลี้ยงพี่ด้วยนะ” “พี่รวยกว่ามิลอีกนะคะ เป็นลูกคนเดียวด้วย พี่นั่น
“พี่ไม่แปลกใจเลย ทำไมพี่ชายมิลถึงหวงมิลนัก” “ใช่ค่ะ เราห่างกันคนละปีกว่า ๆ เอง คลอดปุ๊บ แม่ก็ท้องปั๊บเลย” “อาทิตย์หน้าไปกินข้าวบ้านพี่บ้างสิ พี่อยากให้แม่กับพ่อพี่ได้รู้จักว่าที่ลูกสะใภ้” “พี่เคยพาแฟนเก่าเข้าบ้านหรือเปล่าคะ” ที่ถามไม่ใช่ว่าเพราะเธอโกรธหรอก เธอเองก็ทำใจเรื่องใจอดีตเขาได้แล้ว เพียงแต่ถามเพื่อจะได้ทำตัวถูกเวลาเจอหน้าพ่อกับแม่ของเขา “ไม่เคย ตอนนั้นพี่เพิ่งเรียนปีหนึ่งเองนะ ยังไม่คิดเรื่องนี้เลย” “….” “แต่ตอนนี้พี่คิดแล้วนะ พี่เป็นคนรักคนยากนะมิล ถ้าพี่รักแล้ว พี่ก็อยากจะคบกับเขาให้นานที่สุด” ยิ่งเขาพูด เธอก็ยิ่งเขินหน้าแดงจนควบคุมตัวเองไม่ได้ ก็ไม่อยากจะคิดหรอกว่าเธอโชคดีแค่ไหน ที่ได้เป็นคนนั้นในใจเขา เรื่องของความรัก มันไม่ใช่อีกฝ่ายต้องเป็นฝ่ายโชคดีอย่างเดียว แต่มันคือการที่คนสองคนโชคดีทั้งคู่ต่างหากที่ได้มาเจอกัน ตอนนี้อยากจะบอกแฟนเก่าของเขาเหลือเกินว่าขอบคุณนะคะ ที่ทิ้งเขามาจนเจอกับเธอ 21.30 น. บรรยากาศในผับสุดหรูของพายุ ที่มีศักดิ์เป็นลุงของมิลลิ เธอไม่ค่อยได้มาที่นี่ นอกจากว่าจะมาพี่ชายหรือคนเป็นพ่อ เวลามีงานฉลองอะไร ครอบครัวของเธอมักจะเลือกมาฉลองกันที่นี่
“กว่าครอบครัวมิลจะยอมรับพี่ กระดูกพี่ไม่หักไปก่อนเหรอ” “หักไม่ได้คะ มิลไม่ยอมหรอก ว่าแต่….” “แต่อะไร?” “ว่าแต่มีตรงไหนให้พ่อมิลทำพี่ได้อีกบ้างค่ะ หน้าโดนแล้ว ขาโดนแล้ว งั้นหลังได้ไหมคะ” “มิลลิ”เสียงทุ้มเรียกชื่อเธออย่างไม่เชื่อ ตอนแรกเขาก็คิดว่าเธอพูดเล่น แต่ทำไมท่าทางเธอตอนนี้ถึงดูจริงจังขนาดนี้ “คิก คิก มิลพูดเล่นค่ะ เหลือด่านสุดท้ายแล้วนะคะ” มิลลิเข้าไปออดอ้อนแฟนหนุ่ม ตอนนี้ที่พวกเธอนั่งอยู่ท่ามกลางสายตาของเพื่อนสนิทมิลลิสองคน ตรงใต้ตึกคณะบริหาร ทำให้เพื่อนสองคนนั่งมองเธอด้วยสายตาหมั่นไส้ “งั้นมิลก็ต้องปลอบใจพี่ด้วยนะ ดูสิ”เขาเอียงหน้าให้เธอดูรอยแผลตรงมุมปาก คนตัวเล็กหันซ้าย หันขวา ก่อนจะกดริมฝีปากลงไปเบา ๆ อย่างเอาใจ “แหวะ!!! อีมิล กูจะอ้วก” คาเทียร์มองบนทนความคลั่งรักของคู่นี้ไม่ไหว ต้องทำท่าอ้วกออกมา โดยมีปลายฝนนั่งหัวเราะอยู่ข้าง ๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ทั้งคู่สนใจพวกเธอสักนิด ยังคงนั่งออดอ้อนกันอยู่แบบนั้น ราวกับว่าโลกนี้มีเพียงสองเรา “ไม่อยากจะเชื่อว่าพี่ยีนส์จะเป็นคนคลั่งรักขนาดนี้”ปลายฝนพูดขึ้นขณะเดินไปเรียนวิชาช่วงเช้า “ไม่ใช่แค่พี่ยีนส์หรอก อีเพื่อนตัวดีของเราก็น้อยห
ความคิดเห็น