1 ปีต่อมา
“แก ฉันว่าชุดนี้ไม่เหมาะกับฉันเลยว่ะ” นารินบ่นกับนริยาหลังจากที่เธอเอาชุดเดรสที่ต้องใส่คืนนี้มาให้นริยาดู
“แลกกับฉันไหมล่ะ”
“หึ ไม่เอาอะ”
วันนี้ทั้งสองสาวจะต้องไปออกงานพร้อมกับชวัลญา ที่ได้รับบัตรเชิญไปร่วมงานวันเกิดของเจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวซึ่งเป็นเพื่อนกับเธอ เธอจึงจัดเตรียมเสื้อผ้าให้ทั้งสองสาวเพื่อไปด้วยกันในฐานะบุตรสาวและสะใภ้คนโต
นริยากับนารินถูกช่างแต่งหน้าทำผมจับแยกกันเพื่อเตรียมตัวกันตั้งแต่บ่าย เพราะทั้งสองสาวผมยาวถึงบั้นเอวทั้งคู่ เลยต้องใช้เวลาในการทำผมนาน อีกทั้งชุดยังมีลูกเล่นที่ต้องระวัง เลยต้องใช้เวลานานเป็นพิเศษ
จนกระทั่งใกล้เวลาออกจากบ้าน ชวัลญาก็มาตามสองสาวที่ห้องของนาริน เธอแอบสะดุดไปเล็กน้อยเมื่อเห็นนริยา ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมภาคินถึงยอมหยุดที่เด็กสาวคนนี้
“เป็นยังไงบ้างคะ” นริยาเอ่ยออกมาอย่างไม่มั่นใจนัก
ร่างบอบบางอยู่ในชุดเดรสเกาะอกสีขาวงาช้าง กระโปรงยาวผ่าข้างสูงถึงโคนขา เผยให้เห็นรูปร่างผอมบาง แต่มีทรวดทรงที่พอเหมาะ ผมยาวตรงถูกถักเปียแล้วยกขึ้นเป็นมวยผม เปิดเปลือยต้นคอระหงสวยงาม
“สวย ไม่แปลกใจเลย ว่าทำไมถึงปราบพ่อคินอยู่”
“อ้าว แล้วรินล่ะ ไม่สวยเหรอ” นารินถามมารดาบ้าง หลังจากที่เธอเดินออกมาจากห้องแต่งตัว
หญิงสาวอยู่ในชุดเดรสสายเดี่ยวสีขาวผ้าชีฟองยาวกรอมเท้า เผยให้เห็นช่วงไหล่ที่ตั้งฉากสวยงาม โดยที่ทั้งสองสาวใส่เครื่องเพชรที่ชวัลญาเตรียมเอาไว้ให้เข้ากับชุดที่ใส่
“สวย แต่ไม่เหมือนกัน รินสวยแบบดูสวย แต่น้ำสวยแบบสะดุด”
“งอน แม่หลงลูกสะใภ้มากกว่าลูกตัวเอง”
“บ่นมาก ไปได้แล้ว”
ชวัลญาเดินนำทั้งสองสาวออกจากห้องนอนไป โดยมีนริยากับนารินเดินตามหลัง จนเมื่อมาถึงหน้าประตูบ้าน ก็มีรถมาจอดรออยู่แล้ว
เมื่อมาถึงที่งาน ทั้งสองสาวก็เดินตามหลังชวัลญาเข้าไป หล่อนแนะนำนริยากับผู้คนในงานว่าเป็นลูกสะใภ้ใหญ่ เรียกเสียงฮือฮาจากผู้คนภายในงานไม่น้อย
“ขอโทษที่มาช้าครับ” เสียงทุ้มที่คุ้นเคยดังขึ้นข้างใบหูเล็ก พร้อมกับมีมือของใครบางคนโอบเอวบางอย่างถือวิสาสะ
“มาแล้วเหรอ” ชวัลญาเอ่ยทักผู้มาใหม่ด้วยรอยยิ้ม
“…..” นริยากับนารินมองผู้มาใหม่ด้วยอาการตกใจ
“มาได้ยังไงคะ” หญิงสาวถามร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างๆ ด้วยสีหน้าที่บ่งบอกว่าค่อนข้างตกใจ
“วันหยุดเทศกาลของที่นู่น เลยบินกลับมาหาเมีย” ภาคินตอบหญิงสาวด้วยรอยยิ้มจางๆ ที่ยังพอมองออกว่ามีอาการเหนื่อยอ่อน
“แล้วทำไมไม่กลับไปพักที่บ้านล่ะคะ”
“อยากเห็นเมียสวยไง”
“…..” นริยาถอนหายใจ เธอมองออกว่าเขาเหนื่อย แต่ก็รู้ว่าเขามาที่นี่เพราะต้องการมาเฝ้าเธอ
“เอาล่ะๆ ไปให้เจ้าภาพเห็นหน้าก่อน แล้วค่อยกลับ” ชวัลญาบอกอย่างเข้าใจ ก่อนจะควงภาคินเดินไปหาเพื่อนด้วยสีหน้าภูมิใจ
นริยากับนารินยืนคุยกันอยู่เบาๆสองคนจนกระทั่งชวัลญากับภาคินกลับมา เขาจึงขอตัวกลับบ้านก่อนเพราะเริ่มไม่ไหว
“น้ำจะอยู่ก่อนไหม หรือจะกลับพร้อมเจ้าคินเลย” หญิงวัยกลางคนถามลูกสะใภ้เพื่อให้เธอเป็นฝ่ายเลือกเอง
“กลับเลยค่ะ”
“โอเค ขับรถดีๆล่ะ”
“ค่ะ”
หลังจากบอกลากันสั้นๆ นริยาก็ควงแขนภาคินกลับออกมาที่รถ เธอมองเขาอย่างแปลกใจเมื่อรู้ว่าเขาขับรถมาเอง
“กลับมาถึงก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็ออกมาเลย” ชายหนุ่มอธิบายราวกับรู้ว่าเธอต้องการพูดอะไร
“ค่ะ น้ำขับเองนะคะ”
“ตามใจเลย”
ภาคินส่งกุญแจรถให้นริยา ก่อนที่ตัวเขาจะขึ้นนั่งที่นั่งข้างคนขับ หญิงสาวมองจนเขาปิดประตูเรียบร้อยแล้ว เธอถึงเดินมาฝั่งคนขับ ยกชายกระโปรงขึ้นแล้วก้าวขึ้นรถ
“ใครเลือกชุดให้”
“คุณแม่ค่ะ”
“สวยดี แต่ถ้าไม่ผ่า ไม่เห็นเนินจะดีกว่านี้”
“งั้นก็ควรใส่ชุดแขนยาวขายาวนะคะ”
“ก็ดีนะ”
“พอเลยค่ะ นอนไปก่อนก็ได้ค่ะ เดี๋ยวน้ำขับไปเรื่อยๆ”
“จ้ะ”
มือหนาปรับเอนเบาะให้พอดีกับสรีระของเขา ก่อนที่จะหลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า ปล่อยให้นริยาทำหน้าที่สารถีได้อย่างไว้วางใจ
“พี่คิน ถึงบ้านแล้วค่ะ”
“เร็วจัง”
“สองชั่วโมงแล้วค่ะ ปกติน้ำขับแค่ชั่วโมงกว่า”
“…..ขับเร็วเกินไปนะ”
“จะพยายามช้าลงค่ะ”
“ขอบคุณครับ”
ภาคินลงจากรถโดยมีนริยาคอยช่วย ก่อนที่หญิงสาวจะเอารถไปเก็บที่โรงรถแล้วเดินเข้าบ้านไป
เมื่อเข้ามาในบ้านหญิงสาวก็ต้องสะดุ้ง เพราะเธอลืมคิดอะไรบางอย่างไป ตอนที่ภาคินไม่อยู่ เธอนอนที่ห้องของเขาแต่ตอนนี้เขาอยู่ แล้วเธอล่ะ…..เท้าเล็กก้าวขึ้นบันไดจนมาหยุดหน้าห้องนอนช้าๆ เธอเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าเธอควรจะทำยังไงกับสถานการณ์นี้ มือเรียวบางยกขึ้นจับลูกบิดประตูแล้วเปิดเข้าไปหลังจากยืนลังเลอยู่สักพักใหญ่
“ไปอาบน้ำเถอะ จะได้มาพัก ใส่ส้นสูงยืนนานๆ มันเมื่อยนะ” ภาคินบอกหญิงสาวด้วยความห่วงใย
“…..ค่ะ”
นริยาเดินไปหยิบเสื้อผ้ากับผ้าเช็ดตัวเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนจะกลับออกมาหลังจากที่เป่าผมจนแห้งเรียบร้อยแล้ว เธอเดินไปหย่อนตัวนั่งลงบนเตียงคนละฝั่งกับภาคิน