หลังจากหนีออกมาจากเพิงพักในป่าได้ มีนก็ได้ตรงกลับบ้านของหญิงเจ้าของร่างทันที ยังดีที่ไป๋เหลียนผู้นี้พอมีสมบัติติดตัวอยู่บ้าง แม้ไร้ญาติขาดมิตรใช้ชีวิตตัวคนเดียวมานาน แต่นางก็ยังมีบ้านหลังน้อยและที่ดินอีกนิดหน่อยที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้ก่อนตาย ถือว่าไป๋เหลียนมีชีวิตที่ดีกว่าตนในโลกเดิมเป็นไหน ๆ
หญิงสาวฝืนร่างกายเดินมาจนถึงเตียงนอน ก่อนจะล้มตัวลงแล้วหลับไปทั้งอย่างนั้น ตอนนี้นอนพักเอาแรงก่อนไว้ตื่นเช้ามาค่อยคิดว่าจะทำอะไรต่อไป แต่อย่างไรก็คงต้องทำใจยอมรับให้ได้ว่าตอนนี้ตนคือไป๋เหลียนไปแล้ว คนต้นเรื่องจากไปแล้วแต่คนที่ต้องแบกรับผลทั้งหมดคือเธอมิใช่ไป๋เหลียนตัวจริงนี่สิ จะทำอย่างไรดี
หลังจากนี้จะกล้ามองหน้าหลี่มู่กวาได้อย่างไร ขออย่าให้เขาจำนางได้เลย
หญิงสาวหลับไปจนกระทั่งถึงยามสาย นางต้องนอนซมเพราะพิษไข้ทั้งคืน อาศัยกินกล้วยที่เหลือหนึ่งหวีประทังความหิวไปก่อน ในบ้านพอมีขิงแห้งจึงต้มน้ำขิงร้อน ๆ ดื่มลดไข้ให้ร่างกายสดชื่น กว่าจะฟื้นตัวได้ก็ต้องทนกินแต่หัวเผือกหัวมันตลอดสี่วันที่ไม่สามารถออกไปข้างนอกได้
หลังจากร่างกายฟื้นนางจึงออกเดินสำรวจรอบบ้านหลังน้อย ในพื้นที่ขนาดไม่ใหญ่มากแต่ยังดีที่มีรั้วรอบขอบชิด ปัญหาที่ต้องเผชิญอยู่ในตอนนี้คือเงินไม่พอใช้ อาหารก็กำลังจะหมด แม้มีข้าวสารเหลืออยู่เต็มถังแต่สักวันมันก็ต้องหมดไปอยู่ดี
“ไหนดูซิ ไป๋เหลียนเจ้ามีเงินติดตัวอยู่เท่าไร”
ร่างบางหันหลังกลับเข้าบ้านอีกครั้ง นางรื้อค้นข้าวของส่วนตัวของเจ้าของร่าง ทว่าเงินที่รวบรวมมาได้ตามความทรงจำที่มีอยู่ เหลือเงินเพียงแค่สองร้อยอีแปะ ซึ่งมันไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตเลยสักนิด หากไม่หาเพิ่มก็มีแต่จะไม่มีกิน ไม่ตายเพราะโดนพระรองฆ่าก็ต้องตายเพราะอดข้าวอยู่ดี
ไป๋เหลียนเท้าสะเอวเหม่อมองฟ้าผ่านทางหน้าต่างห้องนอน พร้อมกับเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน อดต่อว่าคนที่ส่งตนมาไม่ได้
“ท่านจะตอบแทนข้าก็ควรจะเลือกที่เกิดสักหน่อยไม่ได้หรือเจ้าคะ เหตุไฉนให้ข้ามาเกิดเป็นตัวละครคนนี้เล่า และยัง... ยังทำเรื่องน่าอายกับชายในดวงใจของข้าอีก” พูดไปแล้วก็ช่างน่าอายนัก ความรู้สึกในคืนนั้นยังคงหลอกหลอนนางอยู่ทุกวัน
ขุนพล นายกอง มีอยู่ใกล้ชิดพระรองตั้งมากมาย แต่ดันให้มาอยู่ในร่างไป๋เหลียนไม่ใช่ว่านางไม่ดี ออกจะน่าสงสารเสียด้วยซ้ำ ทว่าความตั้งใจเดิมคือได้ชื่นชมความเก่งของพระรองอย่างมีความสุข มิใช่อยู่ได้ไม่กี่บทก็ต้องมาตาย
ทว่าในตอนที่หญิงสาวกำลังหัวเสียกับการกระทำของเจ้าแห่งปรโลกที่ส่งนางมาผิดเวลา ก็ได้มีแสงหนึ่งสว่างวาบลงมาบนตัวนาง พานทำให้รู้สึกแปลกใจไม่น้อย เหตุการณ์เช่นนี้เหมือนนางเคยเจอมันมาก่อน มันช่างคุ้นเคยนัก
“นางหนู”
นั่นเสียงนี้ ชัดเลย ไม่ต้องคิดให้ปวดหัว
“ข้าเองเจ้าแห่งปรโลก”
“ท่านติดต่อข้ามาก็ดีแล้วเจ้าค่ะ เหตุใดถึงส่งข้ามาในร่างสตรีผู้นี่เล่า ไม่มีที่ดีกว่านี้แล้วหรือเจ้าคะ” ไป๋เหลียนถึงกับเท้าสะเอวพูดอย่างเหลืออด พลางค้อนลมค้อนแล้งไปทั่ว แต่น่าเสียดายที่อีกฝ่ายมาแต่เสียงไม่มีตัวตน
“ก็นี่อย่างไรเล่า ข้าถึงได้ติดต่อหาเจ้า เดิมทีข้าจะให้เจ้าไปอยู่ในร่างขุนศึกคนใกล้ชิดหลี่มู่กวาอย่างที่เจ้าต้องการ แต่ว่ากลไกที่ส่งไปเกิดข้อผิดพลาดขึ้นอีกน่ะสิ แต่ครั้งนี้เรียกเจ้าคืนกลับมาไม่ได้แล้ว ข้าจึงมาไถ่โทษอยู่นี่อย่างไรเล่า”
“ไถ่โทษอย่างไรเจ้าคะ” แล้วกลไกเฮงซวยนั่นก็ดันเกิดพังได้ถูกเวลาสินะ ส่วนคนที่ต้องรับเคราะห์ก็คือนางทุกที
“ข้าจะให้ความสามารถพิเศษกับมิติวิเศษแก่เจ้า”
“โอ้ดีเลยเจ้าค่ะ ความสามารถพิเศษอะไรหรือเจ้าคะ แล้วมิติวิเศษที่ท่านว่าใช่ที่สามารถเสกของอะไรก็ได้ใช่หรือไม่” ทว่าความดีใจของนางกลับลดเหลือเพียงครึ่ง เมื่อคำตอบของเจ้าแห่งปรโลกผิดจากที่คิดไปมากโข
“ความสามารถพิเศษข้าจะให้เจ้าสามารถแยกแยะของกินได้ด้วยตาเปล่า ไม่ว่าจะกินได้หรือไม่ได้ มีพิษหรือไม่มีพิษ เพียงแค่เจ้าเห็นก็จะรู้ได้เองในทันที ส่วนมิติวิเศษนั้นทำได้เพียงใช้เก็บของและเอาของจากโลกเดิมของเจ้ามาได้เท่านั้น ได้เฉพาะของที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตของเจ้า ส่วนเงินกับของมีค่าที่เจ้าว่าน่ะ เสกให้ไม่ได้หรอก ถึงข้าจะเป็นเจ้าแห่งปรโลกมีอำนาจไม่แพ้ผู้ใด แต่พลังของข้าก็มีข้อจำกัดเหมือนกัน นี่ก็กระทำขัดต่อชะตามามากแล้ว ให้เจ้ามากกว่านี้ไม่ได้หรอก”
เมื่อตกลงกันได้คนทั้งสี่ได้เริ่มพูดคุยในเรื่องอนาคต โดยเฉพาะที่อยู่อาศัย พวกนางยังคงต้องรับหน้าที่สำคัญในหอฮวาเหมย ทั้งกิจการส่วนตัวก็อยู่ที่นี่ ไม่สามารถติดตามจิ้งกังไปอยู่เมืองหลวงด้วยกันได้ จึงตกลงกันว่าจะหาจวนขนาดกลางไว้สักหลัง แล้วย้ายไปอยู่ด้วยกัน เมื่อใดจิ้งกังว่างเว้นจากการทำงานค่อยกลับมาเป็นครั้งคราวอีกทั้งอดีตคณิกาทั้งสามมิได้ห้ามให้เขามีภรรยาเพิ่ม แต่มีข้อแม้ภรรยาใหม่ของเขาจะไม่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สมบัติของพวกนาง ต่างคนต่างอยู่ ทว่าจิ้งกังนั้นคิดว่าเขาคงไม่แต่งภรรยาเพิ่มอีกแล้ว เหตุผลมีเพียงข้อเดียวคือเขาไม่ต้องการมีภาระเพิ่ม แค่นี้ก็พอแล้วสำหรับครอบครัวใหญ่ที่แสนจะวุ่นวายทว่าในตอนที่คนทั้งสี่กำลังหยอกล้อต่อกระซิกในห้องส่วนตัว ประตูห้องก็ได้เปิดออกพร้อมกับมีสาวใช้นางหนึ่งถือถาดของว่างเข้ามา ทันทีที่สตรีนางนั้นเห็นจิ้งกัง นางก็ได้รีบวางของแล้วคุกเข่าขอร้องให้เขาช่วยเหลืออย่างน่าสงสาร“ท่านองครักษ์ ท่านจำข้าได้หรือไม่ ข้าหลิวซือซือคนที่เดินทางไปเมืองหน้าด่านไปพร้อมกันอย่างไรเล่า”“อ๋อ จำได้แล้ว เจ้าคือหลิวซือซือที่ตามไปด้วยเมื่อคราวนั้นเอง”ชายหนุ่มวางท่าเมินเฉย เบื้องบนมีลู่
ในยามนี้เมื่อนายเหนือหัวไม่ยอมออกจากตำหนัก จิ้งกังองครักษ์คนสนิทจึงกลายเป็นผู้ดำเนินการต่าง ๆ แทนอ๋องซิงเยี่ยนไปโดยปริยาย งานเล็กน้อยมักจะเป็นเขาที่ต้องออกไปทำแทนอยู่เสมอถึงแม้จะเป็นงานจุกจิกไปสักหน่อย ทว่าเจ้าตัวกลับเต็มใจและภูมิใจที่ท่านอ๋องมิได้ลืมตน ด้วยวันทั้งวันเอาแต่ขลุกอยู่กับพระชายา อย่างน้อยก็ได้มอบภารกิจให้ตนไปทำแก้เบื่อบ้างแต่ใครเลยจะรู้ว่าการที่เขาถูกสั่งให้ไปทำภารกิจเมืองเห่อเป่ย ด้วยหอฮวาเหมยคือหนึ่งในกิจการอย่างลับ ๆ ของท่านอ๋อง เบื้องหน้าคือหอนางโลมทว่าเบื้องหลังคือหน่วยข่าวกรอง เมื่อท่านอ๋องไม่เสด็จไปตรวจงานด้วยตนเอง ผู้ที่ต้องเข้าไปตรวจความเรียบร้อยจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากคนสนิทของพระองค์ทว่าตอนนี้จิ้งกังกำลังประสบปัญหา ตัวเขานั้นเกิดพลาดพลั้ง ทำอดีตดาวเด่นนางคณิกาที่ตอนนี้ผันตัวเป็นผู้ดูแลนางคณิกาท้องอย่างไม่ตั้งใจ คนเดียวก็ช่างเถิด แต่นี่ดันท้องพร้อมกันหมดสามคน ทำเอาเขาต้องปวดหัวหาทางออกที่ดีไม่ได้ตัวเขานั้นมิได้รังเกียจที่ได้อดีตคณิกามาเป็นภรรยา ด้วยอยู่ตัวคนเดียวไม่มีครอบครัวให้ต้องกังวลถึงหน้าตาวงศ์ตระกูล ก็เพราะเป็นเช่นนี้อย่างไรเล่า ที่ผ่านมาถึงได้ใช้ชีวิ
“ข้าไม่ได้อยากได้ของของเจ้า ข้าแค่อยากรู้ว่าลิปสติก รองพื้น คุชชั่น หรือแม้แต่เซรั่มทาผิว เจ้าเอามาจากไหนกันแน่ เจ้าทำอย่างไรถึงได้มีของในอนาคตพวกนี้ได้” หรูเฉินเหมยยิงคำถามรัวเร็วเสียจนอีกฝ่ายฟังแทบไม่ทัน นางที่โหมทำงานหนักอดนอนมาหลายวัน ไม่คิดว่าการงีบแค่แป๊บเดียวตื่นมาก็อยู่บนรถม้าที่กำลังเดินทางมาแคว้นเป่ยเสียแล้ว“อย่าบอกนะว่าท่าน... ไม่ใช่คนของที่นี่” ไป๋เหลียนถึงกับยกมือขึ้นปิดปากด้วยความตกใจ มิใช่ว่าองค์หญิงแคว้นฉู่คือคนที่ทะลุมิติมาเหมือนกันหรอกนะ“ใช่แล้วข้าไม่ใช่คนของที่นี่ ไม่กี่วันก่อนข้าเผลอวูบหลับไปนิดเดียว อยู่ ๆ ก็มีเสียงเหมือนนาฬิกาหมุน ตื่นมาก็มาอยู่ที่นี่เสียแล้ว พอข้าได้เห็นของเหล่านี้มันก็เหมือนกับแสงสว่าง อย่างน้อยข้าก็มีเจ้าที่มาจากอนาคตเป็นเพื่อน”“เสียงนาฬิกาหมุนหรือเจ้าคะ”“ใช่แล้ว มิหนำซ้ำมันยังมีเสียงแปลก ๆ แทรกเข้ามา เหมือนจะเป็นเสียงใครบางคนพูดว่า ดึงผู้อื่นอีกแล้ว ประมาณนี้แหละ พอข้ารู้สึกตัวก็อยู่ในขบวนส่งตัวแล้ว แล้วเจ้าเล่าเจ้ามาได้อย่างไร” ถึงตอนนี้ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก แต่ที่นี่ก็ดูจะคุ้นตานัก โดยเฉพาะชื่อว่าที่สวามีขององค์หญิงที่ตนเข้ามาสวมร่าง“ข
ข้าคือสตรีผู้ทะลุมิติเข้ามาในการ์ตูนมังงะเรื่องหนึ่งที่ชื่นชอบ ก่อนจะเข้ามาในโลกแห่งการ์ตูน ชีวิตเก่าก่อนไม่ค่อยจะดีนัก เติบโตมากับการเป็นเด็กวัด ต่อสู้ดิ้นรนหาเลี้ยงตนเองอย่างแสนยากลำบาก จนวันหนึ่งเกิดเรื่องประหลาดขึ้นกับชีวิตอันน่าบัดซบ กลายเป็นจุดเปลี่ยนชะตานับตั้งแต่นั้นมาข้ากลายเป็นหลี่ไป๋เหลียนฮูหยินตราตั้งขั้นหนึ่ง เป็นแม่ค้าอันดับหนึ่งแห่งแคว้นเป่ย ไม่มีผู้ใดสามารถลอกเลียนแบบสินค้าของข้าได้ จึงกลายเป็นสินค้าที่ผูกขาดไปโดยปริยายจากเด็กวัดที่มีเงินติดกระเป๋าไม่กี่พัน บัดนี้กลายเป็นสตรีผู้ร่ำรวยที่ไม่รู้ว่าจะใช้เงินอย่างไรหมด นอกจากจะมีเงินและอำนาจพอตัวแล้ว ไป๋เหลียนก็ยังมีครอบครัวอบอุ่นที่นางใฝ่ฝันถึงมาตลอด แม่สามีที่ใจดี สามีก็ดียิ่ง และลูก ๆ ที่น่ารักทั้งสามใช่แล้วท้องอันใหญ่โตของนางเมื่อคราวนั้น ได้เบ่งคลอดบุตรชายทั้งสามออกมาได้อย่างปลอดภัย กระนั้นก็ทำเอานางเกือบตายในวันคลอดเช่นกัน ด้วยเกือบหมดแรงในตอนเบ่งเจ้าลูกคนเล็ก ดีที่รวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายขึ้นมาได้บุตรทั้งสามแสบซนเสียจนนางต้องปวดหัวทุกวัน ไม่รู้ว่าได้นิสัยผู้ใดมา ทั้งท่านย่า บิดา ก็เอาอกเอาใจกันเหลือเกิน ไม่มีผู้ใดห
“ไป๋เหลียนเจ้า ไม่ได้เป็นอะไรหรือไม่ใช่ว่าเจ้าถูกพิษ” อารมณ์เศร้าโศกเสียใจเมื่อครู่มลายหายไปสิ้น ฮูหยินหลี่ปราดเข้าหาสะใภ้ทำหน้าราวกับคนเห็นผี พูดจาตะกุกตะกัก คิดว่านางตายไปแล้วเสียอีก“ข้าไม่ได้เป็นอะไรเจ้าค่ะ เมื่อครู่แค่แกล้งเล่นละครตบตาหว่านปิง เลือดนี้ก็เป็นแค่น้ำเปล่าผสมสีเท่านั้นอย่าได้กังวลไป ขอโทษที่ทำให้ท่านแม่ตกใจนะเจ้าคะ”“ไม่เป็นไร เจ้าไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว แม่ผิดเองที่เลี้ยงนางมาแบบตามใจ” ที่หว่านปิงนิสัยเสียและโหดเหี้ยมได้ถึงเพียงนี้ ส่วนหนึ่งก็มาจากตนเช่นกัน“มันเป็นที่ตัวนางเองต่างหาก ท่านแม่ทำดีที่สุดแล้วขอรับ”“พวกเจ้ารู้ได้อย่างไรถ้วยยานี้มีพิษ” บุตรชายและสะใภ้อยู่กับตนมาตั้งแต่แรก แล้วเอาเวลาไหนไปตรวจสอบ หรือว่าจะรู้เรื่องหว่านปิงวางยามาตั้งแต่แรก“ท่านแม่ลืมไป๋เหลียนนางมีความสามารถเรื่องทดสอบพิษขอรับ” “อ๋อ ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ แม่เหนื่อยแล้วขอนอนพักสักหน่อย พวกเจ้าไม่ต้องห่วงแม่มีอะไรก็ไปทำเถอะ” เลี้ยงมาตั้งนานนางเองก็รักอีกฝ่ายเหมือนลูก อย่างไรก็ทำใจไม่ได้ง่าย ๆ กระนั้นฮูหยินหลี่ก็ไม่อาจจะให้อภัยได้ทั้งหมด อิจฉาริษยายังพอทน แต่การที่วางแผนฆ่าทำลายผู้อื่นมันเกินจะ
ในเมื่อเหยื่อเอาตัวเข้ามาถึงที่มีหรือนางจะปล่อยไปง่าย ๆ ดี! เช่นนั้นก็ตาย ๆ ไปพร้อมกันเสีย หว่านปิงจัดการยกถ้วยยาในมือฮูหยินหลี่ให้พี่สะใภ้ทันที ทั้งยังยิ้มกว้างตั้งตารอให้อีกฝ่ายดื่มยาให้หมดไป่เหลียนรับถ้วยยานั้นไว้ ดีที่นางมีหลี่มู่กวาคอยบังสายตาทั้งยังช่วยเบนความสนใจไปอย่างอื่น นางจึงอาศัยช่วงที่แม่สามีสั่งสอนบุตรชายแอบเก็บไว้ในมิติวิเศษ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีผสมอาหารใสน้ำเปล่า รีบซดเข้าปากในตอนที่ทุกคนไม่ทันสังเกต ไม่นานนางก็พ่นน้ำที่เพิ่งดื่มเข้าไปเมื่อครู่ออกมา“แคก ๆ” ทันทีที่พ่นน้ำสีแดงออกจากปาก หญิงสาวก็ได้ซบหน้าลงบนไหล่สามี พร้อมกับแสร้งไอเป็นระลอก ถ้วยยาในมือร่วงหล่นตกพื้นแตกกระจาย สร้างความตกใจให้กับผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์“สะใภ้ข้าเป็นอะไร”“น้องหญิง”“ท่านพี่ยานั่นมีพิษเจ้าค่ะ แคก ๆ” สิ้นคำร่างบางทรุดฮวบหมดสติไปทันที ไม่อยากจะคิดเลยว่าตัวเองจะการละครได้ถึงเพียงนี้ แม้แต่แม่สามีก็ยังมองไม่ออก“ยาพิษหรือ หว่านปิงเจ้าทำเช่นนี้ได้อย่างไร เจ้ากล้าวางยาท่านแม่” ชายหนุ่มตวาดลั่นไม่สนหน้าผู้ใด อย่าว่าแต่ภรรยาที่การละคร แม้แต่ตัวเขาเองก็แสร้งเล่นละครไม่ต่างกัน กระนั้นอารมณ์ที่ส่งออกไ