บรรดานักเรียนกรูกันเข้ามาเพื่อจับไป่เจินเจิน แต่กลับถูกเหวี่ยงไปคนละทิศละทาง ตอนนี้ไป๋เจินเจินกำลังกระทืบนักเรียนชายสามคน และเตะพวกเขาลงน้ำไปแล้ว อาจารย์พากันเข้ามาห้ามและเข้าข้างเว่ยซูถิง ชี้หน้าต่อว่าไป๋เจินเจินรุนแรง
“ไป๋เจินเจิน หยุดเดี๋ยวนี้นะ!! เจ้าช่างก่อเรื่องไม่จบไม่สิ้นการเรียนก็ไม่เคยพัฒนา ข้าจะไล่เจ้าออกเจ้าไม่คู่ควรกับสำนักศึกษานี้จริงๆ”
“แปะๆๆ ..อาจารย์ฉู่ ท่านเอ่ยวาจาได้ดีนักข้าปรบมือให้เลย ข้าก่อเรื่องเช่นนั้นหรือ มิใช่พวกนางที่หาเรื่องข้าก่อนหรอกหรือ อ้ออีกอย่างที่เรียนไม่ได้มิใช่เพราะข้าโง่ แต่ตั้งแต่เข้ามาที่นี่พวกเจ้ารังเกียจไม่ยอมสอนข้า ล่วงเลยมาเกือบปีพวกเจ้าก็ไม่เคยเห็นข้าเป็นลูกศิษย์ มิใช่ข้าไม่คู่ควรกับสำนักศึกษาพวกเจ้า หากแต่เป็นสำนักศึกษาของเจ้าต่างหากที่ไม่คู่ควรกับข้า กลับล่ะเห็นหน้าพวกเจ้าแล้วคลื่นไส้ น่าขยะแขยง”
ไป๋เจินเจินเดินออกไปเกือบถึงประตูรั้วก่อนจะนึกบางอย่างได้ นางเดินกลับมาพร้อมกับหิ้วคอเสื้อของเว่ยซูถิงกับซูซินเอ๋อร์โยนลงกลางสระน้ำ ก่อนจะหาไม้ยาวๆมาเขี่ยให้พวกนางลอยออกไปกลางสระ ใครที่จะเข้าไปช่วยถูกไป๋เจินเจินเตะลงสระทุกคนและห้ามขึ้นฝั่ง ไม่นานมือปราบก็มาถึงหลังจากสอบถามเรื่องราว เถียนหลงหัวหน้ามือปราบเอ่ยถามเด็กสาวตรงหน้า ปกตินางเรียบร้อยยิ่งนัก เขาเป็นคนหาทางให้นางได้เข้าเรียนที่นี่ตามที่สหายของเขาบิดาของนางขอร้อง
“อาเจินเจ้าทำเรื่องนี้จริงหรือ”
“อืม”
“รู้ไหมว่าพ่อเจ้าจะเดือดร้อนนะ”
“ท่านอา บิดาข้าเดือดร้อนไปตั้งแต่มีคนแอบอ้างความดีความชอบของเขาแล้ว”
เถียนหลง ถอนหายใจไป๋จิ้งเล่าให้บุตรสาวฟังด้วยหรือ เรื่องนี้มัน
“เป็นพวกนางที่เริ่มก่อน เมื่อวานผลักข้าลงน้ำ ข้าป่วยไข้ขึ้นทั้งคืนมาวันนี้ก็ยังไม่หยุดหาเรื่อง กระต่ายจนตรอกยังรู้จักกัดคน ข้ามีบิดาต้องดูแลหากไม่สู้เสียเลยไม่รู้ว่าวันไหนจะถูกคนแกล้งจนตาย ว่าไงจะจับก็จับไม่จับข้าจะกลับบ้าน ข้ามานานแล้วท่านพ่อจะกินมื้อเที่ยง"
"ใครจะมาเอาชีวิตเจ้า พูดจาให้ร้ายคนอื่น"
ฉู่หวายรังเกียจนังเด็กบ้านจนคนนี้มานานแล้ววันนี้ถือโอกาสไล่ออกเสียเลย
"เหอะๆๆ ...อาจารย์ฉู่ ข้าเรียนไม่ได้เรื่องเพราะพวกท่านไม่ยอมสอนข้าต่างหาก แต่คุณชายจินท่านนั้นเล่าเห็นตั๋วเงินตำลึงคำนวณจากสายตาน่าจะเกือบห้าพันตำลึง แค่เพียงพูดจาสามสี่ประโยคมิต้องทำการสอบอันใดเลยก็ได้เข้าเรียนแล้ว เขาฉลาดกว่าข้าหรือว่าเงินตำลึงมันทำให้เขาอยู่ๆ ก็ฉลาดขึ้นมา"
ฉู่หวายปาดเหงื่อ ตรงนี้มีทั้งอาจารย์ใหญ่ มีทั้งราชครูจ้าว นังเด็กนี่ไปเห็นอะไรมากันเขากำลังจะเอ่ยปากแต่นางกลับเอ่ยต่อ
"วางใจเถอะ คุณชายจิน คุณชายฝาง คุณชายสวี ข้าเห็นเท่านี้แหละ เป็นข้าได้เงินมาเกือบสามหมื่นตำลึงไม่มาสอนแล้ว ไปเปิดร้านน้ำชาดีกว่า ข้ากลับล่ะใครอยากจะเรียนที่นี่กัน ขนาดอาจารย์ยังไร้คุณธรรมเสียเวลาชีวิตข้าหมด ไปและนะ บ๊าย"
นางกำลังสาวเท้าออกจากตรงนั้นแต่ทว่าไป๋เจินเจินรับรู้ถึงกระแสอันตรายที่เย็นยะเยือกแผ่มาถึงนาง เมื่อหันกลับไปก็เจอกับบุรุษร่างสูง ใบหน้าฟ้าประทานมาก เขากับอาจารย์ในสำนักกำลังเดินมาหาพวกนางที่ก่อเรื่อง มีคนลงไปช่วยเว่ยซูถิงกับสหายขึ้นมาแล้ว นางร้องไห้จะเป็นจะตาย ก่อนจะปรี่มาหาไป่เจินเจินเพื่อตบตี
แต่นางหมุนเท้าหลบได้ก่อนจะแสร้งขัดขามิให้คนเห็น เว่ยซูถิงหน้าคะมำปากแตกกินขี้ดินริมสระน้ำเข้าไปเต็มปากเต็มคำ จ้าวหย่งเฉิงสูดลมหายใจยาวๆ เหล่าอาจารย์ปาดเหงื่อทันที อาจารย์ใหญ่ที่เพิ่งกลับมามิได้อยู่เมืองหลวงมานานเมื่อได้ยินคำว่าสำนักศึกษาของเขาไร้คุณธรรมก็ให้โมโหเด็กสาวยิ่งนัก
จ้าวหย่งเฉิงมองเด็กสาวคนเมื่อวานที่เขาส่งเสื้อคลุมให้ นางดูแปลกไปจากเมื่อวานที่เจอก่อนจะเอ่ยกับเถียนหลง
"เรื่องของสำนักศึกษาข้าจัดการเองได้ เสียเวลาทำงานของท่านมือปราบแล้ว เชิญกลับเถอะ"
“เฮ้อ..สำนักศึกษาที่นี่วุ่นวายทุกวัน ท่านราชครูท่านคงปวดหัวไม่น้อย ข้าน้อยขอตัวขอรับ อาเจินมีเวลาอาจะไปเยี่ยมพี่ไป๋จิ้งนะ”
เด็กสาวพยักหน้าจากนั้นมือปราบก็พากันกลับไป มือปราบไปหมดแล้ว นักเรียนต่างมองหน้าอาจารย์และท่านราชครูหนุ่มของแคว้นก่อนจะก้มหน้าหลบสายตา จ้าวหย่งเฉิงเขาเห็นความยุ่งเหยิงจึงไม่รอสิบวันอีกแล้ว วันนี้เขาจะจัดการที่นี่ให้เรียบร้อย พรุ่งนี้เขาจะเริ่มการเรียนใหม่จัดระเบียบความยุ่งเหยิงสักที ก่อนจะลงโทษคนที่ร่วมก่อเรื่องทั้งหมด
“ทุกคนคัดกฎสำนักสามร้อยจบ สหายก่อเรื่องวิวาทพวกเจ้ากลับเห็นเป็นเรื่องสนุกไม่ห้ามปราม ส่วนคนที่มีส่วนร่วมในวันนี้คัดกฎสำนักคนละห้าร้อยจบ ส่งก่อนตะวันตกดินวันพรุ่งนี้ ส่วนเจ้าสองคนไป๋เจินเจิน เว่ยซูถิงคัดมาส่งคนละหนึ่งพันจบ”
จ้าวหย่งเฉิงเอ่ยกับไป๋เจินเจินและเว่ยซูถิง ทั้งคู่รับปากเบาๆ แต่ไป่เจินเจินคิดในใจ คัดกฎสำนักหรือ ที่นี่มีคนขี้เกียจอยู่เยอะอีกทั้งยังเงินหนาเสียด้วยข้าหาเงินได้แน่ๆ พรุ่งนี้ข้าจะลาออกทำไมต้องมาลำบากจับพู่กันแล้วไม่ได้เงิน
นางต้องหาคนที่เงินหนาให้มาจ้างนาง เรื่องคัดอักษรโบราณยากเสียที่ไหนกันเหอะๆๆ ไป๋เจินเจินยิ้มกริ่มนึกถึงเงินที่จะล้วงเอามาจากลูกคุณหนูที่มาเรียนเพราะพ่อแม่บังคับเหล่านี้อย่างอารมณ์ดี
จินเสี่ยวฟงเขินอาย ทุกคนต่างก็หัวเราะ จ้าวหย่งเฉิงลุกไปช่วยคู่หมั้นจัดการอาหารสามอย่างสุดท้าย วันนี้นางทำของโปรดของเขาแทบจะทุกอย่าง ไป๋เจินเจินคีบเนื้อปลาเปรี้ยวหวานใส่ชามบิดา จากนั้นถึงคีบให้เขา จ้าวหย่งเฉิงมองหน้านาง ไป๋เจินเจินส่งสายตาดุกลับไป คนเยอะแยะเขาช่างหน้าด้าน"ดูก้างให้อาด้วย เดี๋ยวอาติดคอนะ""ท่านอา...คนอื่นยังกินได้เลย"สวีข่ายเหยียนคีบก้างปลาออกทีละเส้นๆจากนั้นก็คีบมาใส่ในชามของเขา ยิ้มประจบประแจงแล้วเอ่ย"อาจารย์ขอรับ ศิษย์เอาก้างปลาออกหมดแล้วรับรองไม่มีก้างแน่นอน อาจารย์ทานให้สบายใจเถอะขอรับ"จ้าวหย่งเฉิงแค่นยิ้มให้ลูกศิษย์ที่หวังดีผิดที่ก่อนจะเอ่ยลอดไรฟัน"ขอบใจ ขอบใจมากแต่วันหน้าวันหลังเจ้าไม่ต้อง""อ้อ..ยินดีขอรับท่านอาจารย์ เอะ!! ห๊ะ ห๊า ศิษย์ทำอะไรผิดไปหรือขอรับ"จ้าวหย่งเฉิงหลับตาก่อนจะถอนหายใจแล้วบอกให้กินข้าน"กินข้าวของเจ้าไป สู่รู้นัก"สิ้นคำของเขาสามสหายก็เงียบทันที สวีข่ายเหยียนไม่เข้าใจแต่อีกสองคนเข้าใจจึงกระตุกชายเสื้อเขาเบาๆ ไป๋เจินเจินส่ายหน้าให้กับความงอแงก่อนจะคีบก้างปลาออกแล้วเอาเนื้อปลาที่ไร้ก้างใส่ในชามบิดาก่อน จากนั้นจึงคีบ
ร่างบางเดินกลับไปยังรถม้าซึ่งเป็นรถม้าของจวนราชครู สามจอมเสเพลรู้สึกว่าสหายตัวน้อยไม่ชอบหน้าองค์ชายห้าพวกเขาจึงตามนางไปและพาลไม่ชอบตามไปด้วย ใครที่อาเจินเกลียดพวกเขาก็เกลียดด้วยเช่นกัน องครักษ์ของจ้าวหย่งเฉิงไปรายงานที่สำนักศึกษาแล้ว เขาจึงตรงไปจวนสกุลไป่ทันที หยางตงชิงอยากยุ่งกับนางเจ้าก็ลองดูสิ เมื่อมาถึงจวนไป๋จิ้งหยวนที่กำลังนั่งเช็ดกระบี่อยู่เห็นรถม้าของจวนราชครูเข้ามาก็เก็บกระบี่เขาฝัก มีรถม้าอีกสามคันตามมาพอจอดสนิทก็เป็นจ้าวลู่ซิน องค์หญิงแปดและองค์ชายห้า เขามาได้อย่างไรกัน เห็นทีต้องเพิ่มคนอารักขาบุตรสาวเสียแล้ว นางฉลาดเฉลียวหากองค์ชายห้ารู้ว่านางมีความสามารถอาเจินอาจตกอยู่ในอันตราย ร่างอรชรเดินมาหาบิดาเอ่ยทักทาย"ท่านพ่อ..ลูกกลับมาแล้วเจ้าค่ะ""คารวะท่านอาไป๋ขอรับ"สามจอมเสเพลคำนับไป๋จิ้งหยวน จ้าวลู่ซินกับเหอฉู่หรานก็ทำความเคารพเขา ไป๋จิ้งหยวนคำนับอีกสองคนที่เดินตามมา"ถวายพระพรองค์ชายห้า ถวายพระพรองค์หญิงแปดพ่ะย่ะค่ะ""องครักษ์ไป๋ตามสบายเถอะ วันนี้เราแค่อยากมากินข้าวกับอาเจินและลู่ซินน่ะ"ไป๋จิ้งหยวนเข้าใจดี ไทเฮาคือย่าทวดของจ้าวลู่ซินและเป็นเสด็จย่
หลังจากที่ไป๋เจินเจินจัดการหนานซวงซวงและหยุนเสี่ยวหว่านเรียบร้อยแล้วก็จะกลับจวน อีกสิบวันเป็นงานแต่งงานของนางกับจ้าวหย่งเฉิง หลังจากงานแต่งสามวันนางกลับบ้านเดิมเยี่ยมบิดาเรียบร้อย ท่านพ่อจะไปต้อนรับคณะทูตที่เดินทางมาเพื่อถวายเครื่องบรรณาการ ร่างอรชรเดินซื้อข้าวของเพื่อวันนี้คู่หมั้นรูปงามของนางจะมากินมื้อค่ำที่จวน จ้าวหย่งเฉิงชอบกินอาหารฝีมือนางโดยเฉพาะปลาเปรี้ยวหวานและบะหมี่ตุ๋นสามชั้น ไป๋เจินเจินไปร้านขายยาเพื่อซื้อเครื่องเทศ เถ้าแก่ร้านออกมาต้อนรับนางด้วยตนเอง ยามนี้จากเด็กสาวมือปราบไร้ชื่อที่หนีหน้าที่ กลับกลายเป็นคุณหนูไป๋บุตรสาวหัวหน้าองครักษ์เสื้อแพร คนที่เคยเหยียดหยามต่างก้มหน้าเมื่อเจอนางองครักษ์พิทักษ์หญิงงามเดินตามหลัง ไม่มีใครกล้ามาต่อกรหรือหาเรื่อง สกุลของจอมเสเพลทั้งสามคนนั้นยิ่งใหญ่ไม่น้อย แต่ละตระกูลล้วนแต่มีคุโณปการต่อราชสำนัก สวีข่ายเหยียนเอ่ยถามเมื่อเห็นนางเดินมาหน้าร้านโอสถ"อาเจิน...เจ้าป่วยเป็นอันใดหรือถึงมาซื้อยา"จินเสี่ยวฟงถอนหายใจก่อนจะเอ่ยกับสหาย"อาเจินจะมาซื้อเครื่องเทศไปทำอาหารอร่อยให้พวกเรากิน นางไม่ได้ป่วยเจ้าทึ่ม"ใบหน้าหวานยิ้มน้
หยางตงชิงที่รอรายงานก็ร้อนใจ ได้ยินว่ามีการทูลเกล้าฯถวายฎีกาเรื่องไฟไหม้ครั้งนั้นเป็นการวางเพลิง คนทำต้องการเอาชีวิตของไท่จื่อเฟยและองค์ชาย องค์ชายห้ากำมือแน่นคนสนิทหลับตาก่อนจะเอ่ยอย่างหวาดหวั่น"องค์ชายพ่ะย่ะค่ะ ได้ยินว่าคนที่รู้ว่านี่คือการวางเพลิงคือคุณหนูไป๋ นางพบหลักฐานที่เกิดเหตุอีกด้วย""นางพบอะไร ห้องนั้นไฟไหมจนไม่เหลือซาก นางก็แค่เด็กน้อยเพิ่งปักปิ่นจะมีความสามารถอะไรได้กัน"หยางตงชิงไม่เชื่อว่าเด็กสกุลไป๋คนนั้นจะมีหลักฐาน คงต้องการล่อเขาออกมามากกว่า หากเขาทำไม่รู้ไม่เห็นก็ไม่มีใครเอาผิดเขาได้ ร้านค้าที่จำหน่ายน้ำมันเตานั่นเข้าก็ให้คนของเขาไปจัดการคนที่ขายของให้คนของตนเรียบร้อยแล้ว นางเด็กนั่นฉลาดนักหรือ เจ้าเล่ห์เหมือนบิดาของนางไม่มีผิด หากมิใช่เพราะไป๋จิ้งหยวนมาขัดขวางเขาคงจัดการรัชทายาทไปนานแล้ว ยังแอบซ่อนตัวทำเป็นคนพิการขาเป๋ รัชทายาทคนที่อยู่ตำหนักบูรพาคนนั้นน่าจะตัวปลอม เขาไม่เคยรับรู้มาก่อนกระทั่งตัวจริงกลับมา หยางตงชิงสั่งให้คนของตนไปพบกับคนของโจรภูเขา กองกำลังที่เขาแอบซ่องสุมมานานไม่ช้าก็จะเข้าเมืองหลวงได้ทั้งหมด "ไปหาเฉินฮุ่ย....บอกให้เ
นี่หรือคนที่ไม่ชอบสตรี นี่คือคนที่ไม่ไยดีผู้หญิงจริงๆหรือ สามสิบเจ็ดแล้วเขายังไม่เคยหลับนอนกับสตรีคนไหน จนมีข่าวลือว่าเป็นพวกตัดแขนเสื้อ ไป๋เจินเจินขยับเอี้ยวตัวไปหาเขาก่อนจะยิ้มให้แล้วตอบตกลง"เจ้าค่ะ แต่ห้ามอาจารย์แช่น้ำนานเกินไปนะเจ้าคะ อีกอย่าพวกเรายังไม่แต่งกันสักหน่อยคำว่าผัวเมียท่านเรียกบ่อยเกินไปแล้ว"หึ หึ หึ จ้าวหย่งเฉิงหัวเราะในลำคอจากนั้นก็อุ้มนางออกทางหลังเรือน พาดีดขึ้นยอดไม้ไปยังเขตต้องห้ามสำหรับเขาเท่านั้น เมื่อมาถึงก็วางร่างบางลง ไป่เจินเจินนั่งบนโขดหินรอเขาแช่น้ำ แต่คนตัวโตกลับไม่ยอม"ลงแช่น้ำกับอาด้วยเด็กดี""ห๊ะ ห๊า ไม่ดีกระมังเจ้าคะ ข้ามิได้เอาเสื้อผ้ามา ท่านอาตามสบายเถอะเจ้าคะ""ก็ไม่ต้องใส่ถอดเถอะ ยังมีอะไรที่ไม่เคยเห็นอีก อาเจินตั้งแต่เห็นเจ้าเดินขึ้นมาจากบ่อน้ำพุคราวนั้น อาก็ลืมภาพเย้ายวนเจ้าไม่ได้สักวัน"ไป่เจินเจินมองหน้าเขาทันที หรือว่าวันนั้นเขาเห็นงั้นหรือ ใบหน้าหวานแดงซ่านก่อนจะเอ่ยโมโหกลบเกลื่อนความเขินอาย"คนบ้า ท่านเป็นถึงราชครูแห่งแคว้น เป็นอาจารย์สำนักศึกษาเหตุใดไม่สำรวม ช่างหน้าหนายิ่งนักแอบดูข้าหรือคนหน้าไม่อาย"จ้าวหย่งเ
เมืองหลวงหยางตงชิงที่ยามนี้กำลังกราดเกรี้ยวใส่คนของตน เขาต้องการสังหารพระชายาและองค์ชายน้อยเหตุใดทั้งคู่จึงไม่ตาย ดีที่เขารอบคอบตอนที่วางเพลิงไม่มีคนพบเห็นเพราะเป็นจังหวะเดียวกับที่สำนักศึกษาพาลูกศิษย์มาไหว้พระและศึกษาพระธรรมจึงทำให้คนพลุกพล่านเหมาะแก่การลงมือ"แต่ละคนไม่ได้เรื่องทั้งนั้น""องค์ชาย ตอนนั้นหากไม่ใช่เพราะลูกศิษย์สำนักศึกษาที่ชื่อไป๋เจินเจินคนนั้นเข้าไปพาทั้งสองออกมาก็คงจะสำเร็จแล้วพ่ะย่ะค่ะ""ไป๋เจินเจินงั้นหรือ""ทูลองค์ชาย ไป๋เจินเจินคือบุตรสาวหัวหน้าองครักษ์หลวงไป๋จิ้งหยวน เขาเพิ่งกลับมารับตำแหน่งเมื่อไม่นานนี้พ่ะย่ะค่ะ"หยางตงชิงปาจอกชางงพื้นจนแตกกระจาย ไป๋จิ้งหยวนเป็นเจ้าอีกแล้ว สองปีก่อนถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าข้าสังหารหยางมู่เฉินสำเร็จไปแล้ว ไอ้สารเลว"องค์ชายพ่ะย่ะค่ะ ท่านตาของพระองค์กำลังหาทางให้องค์ชายสิบสองผูกสัมพันธ์กับคณะทูตที่จะมาถึงเดือนหน้าพ่ะย่ะค่ะ""ท่านตาของข้างช่างทุ่มเทเสียจริงๆ หยางหลิงเทียนหรือจะนั่งบัลลังก์ ฝันเฟื่อง"หยางตงชิงเสแสร้งว่าตนเองไม่ฝักใฝ่ในอำนาจ ตำแหน่งรัชทายาทไม่ใชสิ่งที่เขาต้องการมาตลอด ทำตัวราวกับองค์ชายเกียจคร้านเรื่องกา