Home / รักโบราณ / ข้านี่แหละสตรีในคำนาย / มาเพื่อเหตุผลบางอย่าง

Share

มาเพื่อเหตุผลบางอย่าง

last update Last Updated: 2025-05-11 08:56:18

ในห้องอันกว้างใหญ่ที่ฝ่าบาทนั้นมักจะประทับอยู่เป็นประจำ ข้าง ๆ ล้อมรอบด้วยการแกะสลักที่ปราณีตของสมัยจีนโบราณช่างฝีมืออันดับ 1 ราชวงศ์ซาง ที่เป็นคนคิดออกแบบ และสร้างกลไกอาวุธที่ซับซ้อนไว้ในที่นี้หลายจุดหากไม่สังเกตหรือผู้ที่มีความรู้จริงๆก็อาจจะมองไม่ออก

มู่เฉิน " คำนับฝ่าบาท " ลำตัวโค้งลงพร้อมกับก้มคำนับอย่างจริงใจต่อหน้าพระพักตร์

ชุ่ยเหริน " ลุกขึ้นเถิด "

หนิงหลง " คำนับท่านพ่อ " หนิงหลงค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา จนพ่อของตนนั้นได้เห็นในการแต่งหน้าที่น่าขำ และน่าเกลียดไปพร้อม ๆ กัน

ชุ่ยเหริน " ลูก...ผู้ใดแต่งหน้าให้เจ้ารึ " คำพูดที่ติดอ่างกำลังสงสัยพร้อมความในใจที่อยากจะหัวเราะมันออกมา

หนิงหลง " หม่อมฉันแต่งเองเพคะ ท่านพ่อว่าสวยหรือไม่ "

ชุ่ยเหริน " ฮ่าๆๆๆเจ้าช่างทำให้ข้าอารมณ์ดีแต่เจ้าโตเป็นสาวเต็มวัยแล้วจะมาเล่นซนแบบนี้ไม่ได้ คราวหน้าอย่าแต่งเช่นนี้อีกหากนางกำนัลขี้ตกใจมาเจอเข้าอาจจะช็อคตายได้ "

หนิงหลง " เพคะ ลูกเห็นว่าในวังมันเงียบเกินไปเลยอยากหาอะไรสนุกๆทำ ... องค์ชายมู่เฉินเห็นด้วยกับข้าใช่หรือไม่"

ใบหน้าหลากหลายสีสันกำลังหันมาหามู่เฉินพร้อมยื่นหน้าเขย่งเท้ายังตั้งใจถามค
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • ข้านี่แหละสตรีในคำนาย   สตรี99

    เรื่องนักโทษเพิ่งตายไปเมื่อครู่ก็มีเรื่อที่ใหญ่กว่าให้น่าตื่นเต้น โกรธจนเลือดขึ้นหน้าเลยทีเดียว ขันที " องค์ชาย เกิดเรื่องใหญ่แล้ว " ขันทีได้เข้ามาในตำหนักกะทันหันในขณะที่องค์ชายกำลังดื่มชาอย่างสบายใจ มู่เฉิน " มีอะไร " มู่เฉินสำลักน้ำชาใส่หน้าขันทีเมื่อได้ยินว่า เกิดเรื่องขึ้นอีกแล้ว ขันที " สตรีที่ทางราชวงศ์ซางส่งตัวมานั้น ในระหว่างทางได้เกิดการดักปล้นกลางทางขอรับ " แก้วชาที่ถืออยู่ในมือ โดนกระแทกโต๊ะที่นั่งอย่างรุนแรงเมื่อมีข่าวว่าสตรีถูกปล้น ตนจึงจะออกไปดูให้เห็นกับตาตัวเองเพื่อจะได้เบาะแสบางอย่างมู่เฉิน " ใครมันกล้าบังอาจขวางทางข้า " ในนันต์ตาโกรธจนแดงก่ำ ในใจเหมือนโดนทุบที่หน้าอกอย่างรุนแรงผู้ใดกันหนาที่กล้าต่อกลอนกับมู่เฉิน ร่างกำยำกำลังโมโหโดยไม่สนใจผู้ใด มีแต่ขันทีที่คอยเป็นหมารับใช้คอยสั่งการทหารให้คุ้มครององค์ชายมู่เฉิน เมื่อหมู่เฉินนั้นเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุบริเวณกลางแม่น้ำตนยิ่งมองดูผลงานที่น่าอนาถใจ เรือทั้งลำจมลงไปกับน้ำแต่คนนี่สิหายไปที่ใด มู่เฉินเลยเดินรอบๆเพื่อสำรวจ ยิ่งสำรวจเท่าไหร่ยิ่งไม่เจอเบาะแสทำให้ยิ่งโกรธแค้นในใจยิ่งหนักมู่เฉิน " มันเป็นผู

  • ข้านี่แหละสตรีในคำนาย   ณ. ราชวงศ์เจ้า

    ขันที " ฝ่าบาทวันนี้ทางราชวงศ์ซางได้ส่งตัวสตรีทั้ง100 คนออกจากวังหลวงแล้ว"ขันทีเข้ามาทูลองค์ชายให้ทราบข่าวในขณะที่องค์ชายนั้นกำลังยืนอยู่บนหอคอยและจ้องมองทุกคนที่ต่ำต้อย ที่อยู่ในเนื้อของตน เป็นผู้มีอำนาจจะทำอะไรก็ได้ความรู้สึกมันเป็นเช่นนี้นี่เอง มู่เฉิน " ดีมาก " ในมือถือสุราดื่มด่ำอยู่คนเดียวแต่สายตานั้นเหลียวมองทุกอย่างที่อยู่ข้างล่างเหมือนมดที่กำลังทำงานอย่างหนัก ภายใต้คำสั่งของมู่เฉิน มู่เฉิน จู่ๆก็หัวเราะขึ้นมาพร้อมใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขสมหวังมู่เฉิน " ต้องขอบใจน้องชายข้าที่ทำให้ข้ามีวันนี้ ฮ่า ๆ " ขันที " องค์ชายมีขุนนางบางคนไม่ยอมทำตามคำสั่งท่าน ท่านจะลงไปจัดการเองหรือไม่ " มู่เฉิน " ขุนนางผู้นั้นอยู่ขั้นไหนหรือ" ขันที " ขั้นสูงสุดตำแหน่งของกรมตุลาการขอรับ " มู่เฉิน " รนหาที่ตาย " สำนักกรมตุลาการ มู่เฉิน " หมิงเจ๋อ อยู่หรือไม่ " กรามคางขบกันจนได้ยินเสียง อยากจะจัดการขุนนางผู้นี่ให้พ้นทางเสีย ทันใดนั้นหมิงเจ๋อขุนนางขั้นสูงสุดของกรมตุลาการได้เดินออกมาจากสำนักโดยที่ไม่ต้องให้คนไปตาม หมิงเจ๋อ " คำนับฝ่าบาท " สีหน้าของหมิงเจ๋อเริ่มเป็นกังวลในท่าทีของมู่เฉิน

  • ข้านี่แหละสตรีในคำนาย   สำเร็จไปอีกขั้น

    และแล้วแผนก็สำเร็จไปอีกขั้นส่วนขั้นต่อไปหนิงหลงจะใช้พลังบดบังตาเหล่าทหารและชาวบ้านที่มากับตนเพราะไม่อยากให้รู้ทางเข้าทางออกหลังตำหนัก เมื่อนางพาชาวบ้านมาถึงยังเมืองหลวงแล้ว ตนจึงพาชาวบ้านไปยังตำหนักเก่าที่ไม่มีผู้ใดอยู่อาศัย แต่สภาพยังคงดีและสวยงามดังเดิม ชาวบ้าน " นี่ตำหนักเก่าหรือ " ชาวบ้าน " สวยเกินไปแล้ว"ชาวบ้าน" ข้ารู้สึกโล่งใจมากที่ออกจากที่นั่นได้ " หนิงหลง " ในระหว่างนี้ทุกท่านก็อาศัยอยู่ที่ตำหนักเก่าไปชั่วคราวก่อนรอให้เรื่องราวได้จบสิ้นลง ข้าจะพาพวกท่านกลับไปยังหมู่บ้านแห่งความสุขอีกครั้ง " ชาวบ้าน " ขอบใจนะแม่หนู เจ้าช่างเป็นคนจิตใจดี รูปร่างหน้าตาไม่เป็นรองใครในใต้หล้า "หนิงหลง " ท่านชมข้าเกินไปแล้ว " หนิงหลงถ่อมตัวไม่โอ้อวดตัวเองจนเกินไปยายชรา " ชะตาของเจ้าถูกกำหนดไว้แล้ว " ยายชราผู้ชี้นำในเบื้องหลังของความสำเร็จ จากต้นจนจบยายชราไม่ขอได้หน้าขออยู่เงียบๆเหมือนคนปกติเลยไม่พูดอะไร ในระหว่างทางจนมาถึงวังหลวงหนิงหลง " หากไม่มีท่านข้าจะเป็นเช่นไรก็ยังไม่รู้เลย " เสียงอ่อนหวานกำลังเอ่ยขอบคุณยายชราด้วยความอ่อนน้อม ยายชรา " ดูซิสามีเจ้ายืนดูเจ้าจนตัวไม่ขยับ" ภรรยาร

  • ข้านี่แหละสตรีในคำนาย   ระบายความในใจ

    ชาวบ้าน " อาเก้าจริง ๆ ด้วยนั่นก็คือเด็กสาระเลว 2 คนนั้น " ชาวบ้านทุกคนต่างตื่นตระหนกนี้คนหรือผีกันแน่ชาวบ้าน " ยังกล้ามาให้พวกเราเห็นหน้าอีก หึ หน้าด้านซะจริง " ชาวบ้าน " อาเก้ายังไม่ตายหรือ" อาเก้า " ถ้ายังไม่ตายสิ่งที่ข้าจะพูดต่อไปนี้ขอให้ทุกคนนั้นฟังอย่างเงียบ ๆ หากมีคำถามที่คาใจค่อยถามข้าคราวหลัง หรือว่าตอนนี้ทุกคนอยากออกจากที่นี่หรือไม่ " ชาวบ้านมองหน้ากันต่างคนต่างคิดว่าจะออกไปได้อย่างไรล่ะในเมื่อมีพลังชั่วร้ายกันชาวบ้านไว้ล้อมรอบ ชาวบ้าน " เจ้าสัวพูดเรื่องนี้ด้วยเหตุใดมันเป็นไปไม่ได้ "อาเก้า " แต่ข้าไม่ได้ล้อเล่น " หนิงหลง " ใช่ ! ข้าจะพาพวกท่านออกไปเองข้าพอรู้ทางออกไม่อย่างนั้นข้าเข้ามาไม่ได้ " หนิงหลงให้คำมั่นสัญญากับชาวบ้านด้วยคำพูดที่หนักแน่นและมั่นใจตนจึงขอให้ชาวบ้านนั้นเชื่อตนอีกสักครั้ง หากครั้งนี้ออกไปไม่ได้จริง ๆ ต้องยอมโดนรุมประนามสาปแช่งไปชั่วอายุคน หนิงหลง " ว่าอย่างไรเล่าข้าให้คำมั่นแก่ทุกท่าน ทุกท่านจะเชื่อใจข้าหรือไม่ " ชาวบ้าน " ได้ " หลังจากนั้นชาวบ้านก็รีบไปเก็บข้าวของที่สำคัญและกลับมารวมตัวกันจุดนัดหมาย ส่วนพ่อของสองพี่น้องก็กลับไปยังเรื

  • ข้านี่แหละสตรีในคำนาย   การสาปแช่ง

    เรือนสองพี่น้อง อาหนึ่ง " เกิดอะไรขึ้นข้ายังไม่ตายหรือ" อาหนึ่งเห็นพี่ชายนอนอยู่จึงรีบเข้าไปปลุกทันที อาหนึ่ง " ท่านพี่อาสาม ตื่นเร็ว " ทันใดนั้นอาสามก็ตื่นขึ้นมาพร้อมกับความสับสนว่านี่มันเกิดอะไรขึ้นตนจำได้ว่าตนนั้นได้ฆ่าตัวตายไปแล้ว จู่ ๆในสมองก็นึกขึ้นได้ว่าก่อนจะตายนั้น อาเก้าได้ให้อภัยทั้งสองคนแล้วเมื่อสองพี่น้องนึกได้จึงมองไปรอบ ๆ ก็ได้รู้ว่าที่นี่คือเรือนของตัวเอง แล้วสองสามีภรรยาคู่นั้นไปอยู่ที่ใดเล่า อาเก้า " เจ้าฟื้นแล้ว" อาเก้าเดินเข้ามาหาทั้งสองด้วยความดีใจ ยังไม่ทันได้พูดอะไรทั้งสองก็รีบพุ่งเข้ามาหาและสวมกอดอย่างลูกผู้ชาย อาสาม " น้องชายเจ้ากลับมาแล้ว" ทั้งสามคนต่างก็ร้องไห้จนน้ำตาอาบแก้ม ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เจอกันอีกทั้ง ๆ ที่ความหวังแทบจะไม่มีเลย หนิงหลงกับสามีที่ยืนแอบดูก็รู้สึกตื้นตันใจที่ได้คลี่คลายปัญหาที่อยู่ในใจของเด็กทั้งสอง หนิงหลง " ข้าดีใจเหลือเกิน " จื่อหาน " ข้าก็เช่นกัน " สองสามีภรรยาโอบกอดกันโดยไม่รู้ตัว จนลืมเรื่องว่าอยู่หน้าทางขึ้นเขาก่อนหน้านี้ที่กำลังงอนกันอยู่แต่ตอนนี้ดูท่าต่างฝ่ายต่างลดโทสะลง อาเก้า " เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น

  • ข้านี่แหละสตรีในคำนาย   เสี่ยงก็ยอม

    อาเก้า " ก็หมายความว่า อาเก้าไม่มีทางต่อต้านพลังชั่วร้ายในตัวข้าได้ ต่อให้เจ้าขังข้าไว้เป็นร้อยปีก็ไม่มีประโยชน์ " หนิงหลง " แต่ข้าไม่คิดเช่นนั้น ฮ่า ๆ " เสียงหัวเราะที่ท้าทายของหนิงหลงทำให้เจ้าปีศาจนั้นประหลาดใจที่ข่มขวัญมนุษย์ตัวเล็กผู้นี่ไม่สำเร็จ อาเก้า " คิดจะข่มขู่ข้ารึ " หนิงหลง " เจ้าต้องคาดไม่ถึงเป็นแน่ " จากนั้นหนิงหลง จึงเรียกให้สองพี่น้องออกมาจากที่ซ่อนที่บดบังด้วยพลังวิเศษ สองพี่น้องไม่รอช้าจึงเอ่ยขอโทษคุกเข่าสำนึกผิด เพราะการทำเช่นนี้เป็นวิธีเดียวที่จะสามารถปลดปล่อยเจ้าปีศาจร้ายกระเด็นออกจากร่าง เช่นนั้นทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับทั้งสองคนแล้ว ว่าจะสำนึกมากพอหรือไม่ อาหนึ่ง " ข้าจะคุกเข่าอยู่อย่างนี้จนกว่าอาเก้าจะรับรู้ถึงความรู้สึกข้า " อาสาม " ข้าขอโทษ ข้าสำนึกผิดแล้วจริง ๆ " คำพูดที่เอ่ยออกมาจากปากรู้สึกเหมือนถูกพรากสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต ความในใจของอาสามนั้นอยากให้อาเก้ากลับมาเป็นครอบครัวกันดังเดิม อาหนึ่ง " ข้าไม่ข้อแก้ตัว แต่ให้โอกาศน้องชายชั่ว ๆ คนนี้ได้แก้ไขในความผิดพลาดด้วยเถิด " คำขอร้องที่ออกมาจากใจนึกถึงการกระทำครั้งก่อนที่กระทำลงไปเป็นเหมือนบาดแผล

  • ข้านี่แหละสตรีในคำนาย   มีใครคนหนึ่งต้องตาย

    ไม้ขีดไฟที่กำลังเฉียดสีกันพร้อมกับบรรยากาศที่เป็นใจใน ณ . เวลานี่ แสงเทียนที่กำลังจุดประกายในวงกว้างเพื่อขยายส่องแสงนำทางเพื่อเรียกปีศาจขึ้นมาที่หน้าภูผา อาเก้า " มนุษย์ตนใดถึงกล้าท้าทายเรียกร้องให้ข้าขึ้นไป " เมื่อถูกเชื้อเชิญอย่างท้าทายเช่นนี้มีรึที่อาเก้าจะไม่ออกมา ดวงตาดำมืดแค่กระพริบตาครั้งเดียวก็หายตัวไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานนักอาเก้าก็มาปรากฏตัวที่หน้าภูผาทันที สองพี่สองที่กำลังแอบดูอยู่เงียบ ๆ ก็ได้แต่รู้สึกผิดซ้ำแล้วซ้าอีก หัวใจเหมือนถูกแผดเผายิ่งกว่าในนรกเสียอีก อาหนึ่ง " ท่านพี่อาสาม นั้นอาเก้าใช่หรือไม่ " อาสาม " ใช่แล้ว ข้าจำสร้อยข้อมือที่ท่านพ่อเคยให้เป็นของขวัญวันแรกที่เข้ามาอยู่ในบ้านในฐานะบุตรบุญธรรม " อาสามกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เอ่ยบอกน้องชายพร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินอยู่ตลอด ตนเห็นสภาพร่างกายที่ปกคลุมไปด้วยผ้าผื้นสีดำ ไม่เว้นแม้กระทั้งดวงตา และสีหน้าของอาเก้า จึงได้แต่โทษตัวเองอยู่อย่างนั้น อาเก้า " ไหนละ เหตุใดถึงไม่ออกมา พวกมนุษย์ขี้ขลาด " น้ำเสียงที่ข่มขู่กำลังบีบบังคับมนุษย์หน้าโง่โพล่หัวออกมา ทันใดนั้นอาเก้าก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่กำลังเหยียบใบไม้ เดินมุ่งหมายมาห

  • ข้านี่แหละสตรีในคำนาย   อุปสรรค

    แต่การเดินทางไปยังหน้าผานั้นไม่ได้ง่ายดายเหมือนเมื่อก่อน ทุก ๆ จุดจะมีอุปศักดิ์ให้ทั้งสี่คนต้องผ่านไปให้ได้ ทางขึ้นเขา จื่อหาน " อาหนึ่งเมื่อก่อนทางขึ้นเขาเป็นเช่นนี่หรือไม่ " จื่อหานเห็นว่าทางขึ้นเขานั้นช่างเดินทางขึ้นไปไม่ค่อยสดวกสักเท่าไร มีแต่หินขี้ไคลน้ำสะสมเต็มไปหมด อาหนึ่ง " เมื่อก่อนมิได้เป็นเช่นนี้ " หนิงหลง " แล้วเมื่อก่อนเป็นเช่นไร " อาสาม " เมื่อก่อนนั้นเป็นทางเรียบเดินขึ้นอย่างง่ายดาย " ในระหว่างที่ทั้งสี่คนนั้นกำลังเดินขึ้นไปยิ่งทำให้ตะไคลน้ำเยอะขึ้นกว่าเก่า แค่ฝีเท้าไปสัมโดนก็ลื่นล้มลงมาอย่างง่าย ๆ อาหนึ่ง " โอ๊ย " อาหนึ่งลื่นล้มกะทันหันจึงหงายหลังตกลงมาในที่ทางเดินชัน แต่ยังโชคดีที่หนิงหลงคว้ามือรองรับอาหนึ่งไว้ทันการณ์ อาสาม " น้องพี่ " น้ำเสียงที่เป็นห่วงน้องชายเพียงคนเดียว เมื่อเห็นฉากตรงหน้าถึงกับหัวใจแทบจะหลุดร่วงออกมา อาหนึ่ง " ท่านพี่ ข้าไม่เป็นอะไร " จื่อหาน " เจ้าอย่าเพิ่งเดินขึ้นไป ไม่เช่นนั้นเจ้าอาจจะร่วงลงมาเหมือนน้องชายเจ้า " อาสามพยักหน้าเชื่อฟังจื่อหาน แล้วยืนรอจนตัวแข็งทื่อ หนิงหลง " ขาเจ้าเลือดออก " สองสามีภรรยาเข้ามาดู

  • ข้านี่แหละสตรีในคำนาย   เกลี้ยกล่อม

    เกลี้ยกล่อม อาสาม " ว่ามาหากพูดไม่มีเหตุผลข้าจะบั่นคอเจ้าให้ขาดเสีย " เด็กชายทั้งสองชักดาบขึ้นมาอย่างไม่ลังเลเพื่อข่มขู่ให้สองสามีภรรยานั้นพูดให้มันกระจ่างขึ้น จื่อหาน " หากเจ้าและหมู่บ้านของเจ้าอยากให้รอดพ้นจากเหตุการณ์ครั้งนี้เจ้าทั้งสองต้องช่วยพวกข้า " อาหนึ่ง " ฮ่าๆๆข้ามันก็แค่เด็กที่ทุกคนรังเกียจจะไม่มีปัญญาที่ไหนช่วยเจ้าทั้งสองได้" น้ำเสียงที่ไม่ยอมเชื่อกำลังบั่นทอนให้สองสามีภรรยาออกไปจากเรือนตนเสียที หนิงหลง " แล้วเจ้าไม่รู้สึกผิดหรือในสิ่งที่ทำลงไป" อาสามกับอาหนึ่ง ได้ยินคำว่ารู้สึกผิดก็ค่อยๆเอาดาบลงอย่างช้าๆและขอบน้ำตาที่กำลังไหลรินอย่างจริงใจ อาหนึ่ง " ข้ารู้สึกผิดตั้งแต่อาเก้าโดดลงไปยังหน้าผาด้วยฝีมือของข้า " อาสาม " ข้ายังจำเหตุการณ์วันนั้นไม่เคยลืม หากย้อนเวลากลับไปได้ข้าอยากจะขอโทษอาเก้าแต่มันก็สายเกินไปเสียแล้ว " เสียงดาบ ที่วางลงบนพื้นทรุดตัวลงอย่างรู้สึกผิดกำลังนั่งร้องไห้คุกเข่าอยู่เงียบ ๆ ถึงแม้จะไม่ได้ยินเสียงแต่ก็รู้สึกได้ว่าเด็กทั้งสองนั้นรู้สึกเสียใจจริงๆ หนิงหลง" เช่นนั้นเจ้าต้องใช้ความกล้าหาญไปขอโทษอาเก้ากับข้า " อาหนึ่ง " อาเก้าตายไปแล้วข้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status