เข้าสู่ระบบ“ชิงบ้าชิงบออะไรล่ะเจ้...” ซินหยานเอ่ยอย่างอดโมโหไม่ได้ ว่าจะเก็บซิงไว้ใช้กับคนที่เป็นคู่หมั้นในคืนแรกของการแต่งงาน แต่นี่อะไร... เขาดันไปเปิดซิงคนอื่นเสียแล้ว และยายนั่นก็ไม่ใช่ใครที่ไหนไกล กลับเป็น... เฮ้อ! ไม่อยากนึกถึง!
“ไม่เก็บมันแล้วซิง” วันนี้แหละเธอต้องได้ใช้น้องสาวที่เฝ้าทะนุถนอมมาเป็นอย่างดี ต้องคืนนี้เท่านั้น ไม่รอมันแล้ววันแต่งงาน รักษาซิงอะไรเธอไม่สนใจทั้งนั้น!
“ครั้งแรกมันเจ็บไหม” เธอถามดารินที่มีประสบการณ์มาก่อนอย่างอยากรู้ ที่คนเขาว่าเจ็บ ที่เขาว่ารู้สึกเหมือนเนื้อฉีกขาดมันจริงไหม มันเจ็บขนาดนั้นเลยหรือ ถ้าเจ็บแล้วจะทำไปทำไม แล้วครั้งต่อไปที่ว่าเสียวเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ล่ะมันจะรู้สึกแบบไหน เธอไม่เคยลองเลยสักครั้งจนอายุย่างยี่สิบสองปีแล้ว อยากลองบ้างจัง แต่ไม่รู้จะลองกับใคร
ดวงตาคู่หวานขี้เล่นสดใสราวกับตากวางจดจ้องมองมายังดาริน เล่นเอาคนเคยมีประสบการณ์อย่างเธอยังอดกระดากอายไม่ได้ ไอ้เด็กคนนี้ยิ่งโตก็ยิ่งทะลึ่ง ของแบบนี้ใครเขาเอามาบอกกันล่ะ
“อยากรู้เหรอ...” ดารินถาม ซินหยานรีบพยักหน้า
ครั้งแรกของแต่ละคนเจอมาไม่เหมือนกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ เรี่ยวแรง ลีลา ท่ายาก และขนาดของอีกฝ่ายด้วยว่าเล็กใหญ่แค่ไหน จุกไม่จุก เจ็บไม่เจ็บ มันต้องลุ้นเอง บอกกันไม่ได้
“ก็ลองเองสิ”
“ซินลองได้เหรอ!” ซินหยานถามอย่างตื่นเต้นกว่าเก่า “เจ้จะไม่บอกป๊าใช่ไหม”
“หอยแก จะลองไม่ลองก็แล้วแต่แกเถอะ โตแล้ว ส่วนเรื่องบอกป๊าแกไม่ต้องห่วง พี่ไม่บอกหรอก บอกให้ตัวเองโดนตีด้วยอีกคนรึไง” ดารินว่า
ซินหยานเป็นลูกสาวคนเดียวของตระกูลมหาเศรษฐีที่พ่อหวงยิ่งกว่าไข่ในหิน หากให้รู้ว่าพาลูกสาวเขามาเสียตัว เธอเองก็ไม่น่ารอดเช่นกัน เพราะฉะนั้นความลับนี้ไม่มีทางแพร่งพราย
“งั้น... ซินลองนะ” เสียงหวานเอ่ยกับญาติสาว ทว่าสายตาเธอกลับมองเลยไปอีกโต๊ะ สบสายตากับผู้ชายหน้าหล่อที่กำลังมองสบตาเธออยู่เช่นเดียวกัน สายตาคู่นั้นช่างลึกล้ำน่าค้นหาจนคนเมาแทบอดใจไม่ไหว
ดารินมองตามสายตาหวานหยดของญาติผู้น้องไปแล้วรีบห้าม “ใจเย็นซิน จะเสียตัวไม่ว่าแต่ก็เลือกด้วย ไม่ใช่ว่าแกจะเอาใครก็ได้”
“ก็นี่ไง เลือกอยู่...” และหนูก็ถูกใจคนนี้! ซินหยานพูดต่อในใจ ดารินมองสองหนุ่มที่กำลังมองซินหยานสลับกัน
“นั่นมัน...”
ทรงโปรด หุ้นส่วนใหญ่ของร้านนี้ และข้าง ๆ นั่นก็.. ไอ้เตชิน! คนที่เธอรู้จักดีว่านิสัยไม่ค่อยดีเหมือนหน้าตาเบ้าหน้าฟ้าประทานสักเท่าไร
ผู้ชายอะไร สันดานกับเบ้าหน้าต่างกันราวฟ้ากับเหว! กิตติศัพท์เรื่องผู้หญิงของแก๊งนี้เลื่องลือจนเข้าหูเธอบ่อยครั้ง ถึงจะไม่ได้รู้จักทรงโปรดเป็นการส่วนตัว ทว่าเป็นเพื่อนกับไอ้เตชินได้สันดานคงไม่ต่างกันมากนัก เพื่อนกันคงศีลเสมอกันด้วยกระมัง ไม่เช่นนั้นจะคบกันได้อย่างไร คิดได้เช่นนั้นดารินจึงรีบปรามซินหยาน
“ยายซิน นั่นน่ะมันตัวอันตรายเลยนะ”
“อะไร เมื่อกี้เจ้ยังบอกให้หนูลองเองอยู่เลยนะ”
“ก็ใช่ แต่พวกนั้นมันหล่ออันตราย ถ้าแกเกิดเอาใจลงไปเล่นด้วยละแย่เลยนะ”
“ซินแค่อยากลอง... One-night ไม่ได้จะสานต่อสักหน่อย” จะต่อได้ยังไงในเมื่อเธอไม่ได้ปักหลักอยู่ไทย
“ก็แค่กลัวไง เป็นไปได้ก็อยากให้แกเลือกพวกที่คุมได้หน่อย แบบไม่ร้ายเท่าไร หรือตั้งใจ One-nightเหมือนกันไรงี้” ดารินอธิบายเพราะเธอเองเป็นห่วงซินหยาน พวกผู้ชายแก๊งนั้นมันหล่อร้าย ขึ้นชื่อว่าตัวอันตรายเสียอย่างก็ไม่อยากให้น้องสาวเข้าไปยุ่ง ผู้ชายมีให้เลือกอีกเพียบ ทว่าอีกคนยอมฟังเสียที่ไหน
“เจ้ว่าคนนี้แซ่บไหม” ดวงตาหวานหยาดเยิ้มละสายตาจากใบหน้าหล่อเลื่อนผ่านลำคอ หน้าอกกว้างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามผ่านเนื้อผ้าเสื้อเชิ้ต ลงไปหยุดที่กลางเป้าอันเป็นจุดศูนย์รวมความเป็นชาย คนที่กำลังห้ามน้องอยู่เมื่อครู่ก็ดันเผลอมองตามคำชักจูง แล้วตอบตามใจคิดอย่างเผลอไผล
“อืม... ใหญ่”
“ใช่มะ... ซินก็ว่างั้น” สองสาวพยักหน้าหงึก ๆ อย่างเห็นพ้องต้องกัน รูปร่างสูงโปร่งกำยำ เต็มไปด้วยมัดกล้ามขนาดนั้น มันจะไปเล็กได้ยังไง มันต้องสมตัวอยู่แล้ว
“จุกแน่ ๆ ยายหมวยเอ๊ย..” ดารินสูดปากซี้ดซ้าด
“ไม่เป็นไร”
“คิดดี ๆ เชื่อพี่... ลองคิดดูอีกที” นี่คือคำเตือน
“คิดดีแล้วเจ้...” มันจะจุกสักแค่ไหนกันเชียว คนที่เคยลองเห็นมีแต่คนติดใจ ถ้ามันไม่ดีคนส่วนใหญ่จะชอบการมีเซ็กซ์ได้ยังไงล่ะจริงไหม
“นะเจ้นะ... ซินอยากลองคนนี้ ได้ไหม” เธอถามญาติผู้พี่อีกครั้ง ทั้งหล่อ ทั้งแซ่บ และดารินออกความเห็นแล้วว่า น่าจะใหญ่ อยากลองทั้งทีจะไปหวังของเล็กทำไม เธอคิดว่ารับไหว หล่องานดีแบบนี้เธอรับได้!
“เออ ตามใจ แต่อย่ามาร้องไห้ตอนเดินขาถ่างก็แล้วกัน”
เตือนแล้วนะ!
ตื่นมาเธอก็ไม่เห็นคนเอาแต่ใจนอนข้างกาย ร่างบอบบางพยายามลากสังขารของตัวเองเข้าห้องน้ำในช่วงสายของอีกวันอย่างยากลำบาก เมื่อคืนโดนสามีเอาแต่ใจคาชุดเจ้าสาว กว่าเขาจะยอมหยุดก็ตอนที่เธอรน้องบอกว่าไม่ไหวแล้ว แทบจะต้องยกมือไหววิงวอนไม่ให้เขาทำต่อเธอพาตัวเองลงไปแช่ในอ่างที่มีน้ำอุ่นพร้อมไว้ คงจะเป็นสามีที่เตรียมให้ ส่วนเขาคงตื่นก่อนแล้วออกไปหาลูกชายทั้งสองหญิงสาวถอนหายในโล่งเมื่อได้นอนแช่น้ำอุ่น ๆ กลิ่นหอมของสบู่ทำให้เธอผ่อนคลายขึ้นมาก หลับตาซึมซับกับความสบายได้ไม่นานก็รู้สึกถึงแรงกระเพิ่มของน้ำ ร่างบอบบางโดนเบียดเสียดด้วยร่างหนาหนั่นแน่นที่มานั่งซ้อนหลัง“หิวรึยังครับ เมื่อกี้เฮียลงไปยกอาหารเช้ามาให้” เสียงทุ้มกระวิบแผ่วข้างหูขาว มือข้างหนึ่งกดนวดที่ไหล่สวยอีกข้างเค้นคลึงก้อนนุ่มหยุ่นเต็มไม้เต็มมือสลับกับบดบี้ยอดถันสีหวานที่เริ่มแข็งชันสู้นิ้ว จนคนที่ยังหลังตาพริ้มอดขนลุกเกรียวด้วยความเสียวซ่านไม่ได้ ซินหยานยกยิ้ม ชอบจังเวลาเขาทำอะไรแบบนี้ให้“เฮียไม่เหนื่อยเหรอคะ” เธอถามบ้าง เพราะเขาดูแลทั้งเธอและลูกอย่างนี้ทุกวัน ยิ่งตอนที่ได้ย้ายกลับไปอยู่ไทยด้วยกันที่บ้านหลังเล็ก ๆ แสนอบอุ่นของเขา ทรงโป
ลำพังแค่อาชีพหมอและกิจการที่เจ้าลูกเขยหมอนี่ไปลงทุนไว้และกำลังริเริ่มทำก็มากเกินจนล้น จนไม่มีเวลาได้หายใจอยู่แล้ว ไม่รู้มันจะร้อนเงินอะไรกันนักหนา จะขยันไปไหนเขาแค่อยากให้มีคนที่ดีอยู่เคียงข้างซินหยานในวันสุดท้ายที่ตาแก่อย่างเขาหมดลมหายใจ หวังแค่ให้ทรงโปรดเป็นทั้งสามีและพ่อที่ดี เป็นเสาหลักให้แก่ลูกและหลานของเขาได้และไม่รู้อะไรมันดลจิตดลใจถึงทำให้เขาเชื่อว่าทรงโปรดจะเป็นทั้งหลักยึด ทั้งครอบครัว และที่พักพิงทางใจให้ซินหยานและหลานๆของเขาได้อย่างแน่นอนซินหยานและทรงโปรดได้ฤกษ์เข้าพิธีแต่งงานกันในตอนที่ลูกชายคนแรกอายุได้สี่ขวบ ลูกชายคนที่สองอายุได้สองขวบกว่า ฤกษ์ที่ว่าคือฤกษ์สะดวกของตัวเจ้าสาวเองด้วย เพราะกว่ารูปร่างจะเข้าที่เข้าทางสวยเช้งแบบนี้ในวัยที่ลูกสองแล้วไม่ใช่เรื่องง่าย เล่นเอาคนเป็นสามีบ่นจนท้อ“เฮ้อ.. กว่าจะได้แต่ง” ชายหนุ่มบ่นเสียงอ่อนแล้วทิ้งร่างลงนอนบนเตียงใหญ่ที่ถูกจัดอย่างสวยงาม โรยด้วยกลีบกุหลาบสีขาวอย่างที่เจ้าสาวชอบ จนกลีบดอกกระดอนขึ้นตามแรงยวบจนมันฟุ้งกระจายไม่เหลือเค้ารูปหัวใจ“ก็ได้แต่งแล้วนี่ไงคะ ยังจะบ่นไม่หยุดอีก” ซินหยานบ่นกลับบ้าง พลางยืนถอดเครื่องประดับที่เป็
หลายเดือนแล้วที่ซินหยานและลูกย้ายตามทรงโปรดมาอยู่ที่ไทย ตอนที่รู้ว่าบิดาเป็นคนอยากให้ย้ายมาอยู่กันเป็นครอบครัว เธอเองก็อดกังวลใจไม่ได้ที่ต้องจากบิดา ทิ้งให้ท่านต้องอยู่เหงา ๆ คนเดียวที่คฤหาสน์หลังโตนั่น และพรากหลานออกมาจากอกอากงที่รักแสนรักหลานชายแต่เพราะบิดายืนยันหนักแน่นว่าอยากให้ลูกและหลานได้อยู่เป็นครัวครัวที่อบอุ่นสมบูรณ์ ตัวท่านเองไม่เป็นไร หากเหงาก็จะมาเยี่ยมบ่อยๆ ส่วนเธอจะบินกลับบ้านเมื่อไหร่ก็ได้ แค่อยากให้ซินหยานปักหลักสร้างครอบครัวที่เมืองไทย“ป๊ายังอยากมีลูกเขยเป็นหมออยู่นะ เกิดมันบ้าลาออกแล้วตามลูกเมียมาเกาะป๊ากินขึ้นมา แย่แน่ ๆ ” ท่านพูดว่าอย่างนั้น ทั้งที่จริงแล้วท่านแค่ไม่อยากให้ลูกเขยอย่างทรงโปรดต้องลาออกจากงานที่รัก ไม่อยากสร้างความลำบากใจให้ลูก ๆและเป็นดังที่หยางหวังพูดว่าจะมาเยี่ยมบ่อย ๆ คนแก่คิดถึงหลานชายก็มาเยี่ยมบ่อยดังปากว่าจริง ๆ มาเยี่ยมทุกเดือนอย่างน้อยครั้งละเจ็ดถึงสิบวัน เดือนนี้บ่อยกว่า หยางหวังมาไทยสองครั้ง ครั้งละหนึ่งสัปดาห์จนทรงโปรดถึงขั้นออกปากพูดว่า..“ผมว่าอาป๊าย้ายมาอยู่ไทยด้วยกันเลยดีกว่าไหมครับ” เสียงชายหนุ่มพูดอย่างหน่ายใจ ไหนบอกว่าให้พวกเข
“มาถึงขั้นนี้แล้วจะหวงอะไรอีกครับป๊า น่า.. เดี๋ยวผมเสกหลานชายเพิ่มให้นะครับ” คุณหมอปากหมาก็ยังกระเซ้าเย้าแหย่พ่อตาต่อจากที่เคยโดนกระทืบปางตาย ทุกวันนี้เขาใช้ลูกตื๊อหน้าหนาหน้าทนซื้อใจพ่อตามาได้แล้ว จะตีจะเตะจะด่าหรือสารพัดก็เอาวะ ก็อยากได้ลูกเขา แล้วตอนนี้เป็นไงล่ะ หึ!“จะกลับไทยวันนี้ใช่ไหม กี่โมงล่ะ” เมื่อพ่อตาถามทรงโปรดก็ทำหน้าเป็นหมาป่วยใส่ ไม่ตอบคำถามไม่พอ แต่ดันถามพ่อตากลับด้วยนี่สิเป็นคำถามที่เขาไม่จำเป็นต้องถามความเห็นใครก็ได้นอกจากภรรยา ทว่าเมื่อเข้ามาในครอบครัวของหญิงสาวแล้วเขาก็เคารพบุพการีของเธอเสมือนบุพการีตัวเองที่ไม่เคยมีมานานแล้ว“ป๊าครับ.. ถ้าเกิดผมจะลาออกจากหมอ ป๊าจะว่าอะไรไหม” เสียงชายหนุ่มจริงจังไร้ท่าทางล้อเล่นจนผู้อาวุโสกว่าชะงักแล้วละสายตาจากใบหน้าแป้นแล้นของหลานชายมามองขี้หน้าไอ้ลูกเขยตัวดี คิ้วขมวดมุ่น“ทำไม?” หยางหวังถามเหตุผล“ผมอยากอยู่กับลูกเมียครับ“ ทรงโปรดสารภาพตามความจริง เสียงทุ้มหนักแน่น ให้เดินทางมาหาบ่อย ๆ แบบทุกวันนี้มันเหนื่อย เหนื่อยกายแค่ไหนเขาทนได้ แต่หากเป็นไปได้ก็ไม่อยากจากครอบครัวไปสักนาที คนเคยขาดอย่างเขาแค่อยากมีชีวิตครอบครัวที่ปกติ เลี้
ทรงโปรดตื่นมาในช่วงสายของอีกวันเพราะเมื่อคืนมัวแต่ถ่างขาเมีย.. เอ้ย ถ่างตาช่วยเมียเลี้ยงลูกนานไปหน่อย...หน่อยที่แปลว่ายันเช้าเขาอุ้มลูกชายมาส่งให้พี่เลี้ยงช่วยอาบน้ำแต่งตัว ปล่อยให้ซินหยานนอนหลับพักผ่อนไปยาว ๆ บ้าง ปกติเธอจะจัดการทุกเรื่องของลูกเป็นหลักเพราะไม่ค่อยไว้ใจใคร มีพี่เลี้ยงไว้เพื่อเป็นผู้ช่วย เขาอยากให้เธอพักผ่อน และเมื่อคืนก็แทบไม่ได้นอนเพราะซินหยานมัวแต่ถ่างขะ.. ตา เธอถ่างตาดูแลลูกกับเขาเมามันกันจนเผลอครางเสียงดัง จนน้ำสุดท้ายตอนใกล้สว่างน้องแซมเลยตื่นก่อนเวลามาร้องไห้งอแง เพราะตกใจเสียงครางราวกับสัตว์ป่าของพ่อกับแม่ ก็ทำไงได้คนมันเก็บกดมานานกว่าครึ่งค่อนปี "ขอโทษนะครับ ต่อไปนี้ปะป๊าจะไม่เสียงดังให้น้องแซมตื่นอีกแล้วน้า.." คนเป็นพ่อเอ่ยขอโทษลูกชายด้วยเสียงสองที่คิดว่าน่ารักที่สุดในชีวิตแล้ว ในตอนที่อุ้มเจ้าก้อนลงมาส่งให้อากงที่ห้องเลี้ยงเด็กของบ้าน หยางหวังที่ปกติก็ตื่นเช้าทุกวันเพื่อมาออกกำลังกายก่อนจะออกไปดูแลกิจการ ทุกวันนี้กลับกลายเป็นตาเฒ่าต้องตื่นเช้ามาออกกำลังกายหนักกว่าเก่าเพื่อที่จะได้มีร่างกายแข็งแรงไว้อุ้มหลาน หยางหวังออกกำลังกายเสร็จก็รีบอาบน้ำแต่งตัวหอม
เธอส่ายหน้าจนผมยาวปลิวสยาย ความเสียวซ่านพุ่งทะยานถึงขีดสุดซินหยานก็กัดริมฝีปากจนแดงก่ำ หวีดร้องในคอแล้วร่างนวลก็กระตุกเกร็งเมื่อเขาใช้ทั้งปลายนิ้วและลิ้นร้อนแสนร้ายกาจส่งเธอไปแตะขอบรุ้งอันพร่างพราย หญิงสาวทิ้งตัวอ่อนปวกเปียกนอนแน่นิ่งแล้วกอบโกยลมหายใจเข้าปอดถี่กระชั้น เพราะในตอนที่เสียวซ่านเธอเผลอกลั้นหายในเสียเนิ่นนานเขาเกือบจะทำให้เธอขาดใจไม่กี่นาทีเท่านั้นที่ทรงโปรดปล่อยให้เธอได้พักเพราะไม่นานเขาก็จับเรียวขาขาวข้างหนึ่งมาพาดไหล่กำยำไร้ปราการปกปิด รั้งขอบกางเกงนอนลงต่ำจนท่อนเอ็นดีดขึงโด่ชี้ฟ้า เขาจับแก่นกายที่พองขยายจนเต็มตึงแทบปริแตกถูไถกับน้ำหวานสีใสที่ฉ่ำเยิ้มตรงร่องสาวแล้วค่อย ๆ กดมันเข้าไปในโพรงสวาทคับแน่น“อื้อ! เฮียขา..” ซินหยานเบิกตากว้างเพราะช่องทางรักของเธอคับแน่นกว่าเก่า และท่อนลำของเขาก็ใหญ่เกินขนาดมาตรฐานไปมากโข ทรงโปรดกัดกรามแน่น เขาเองก็ปวดตึงไม่ต่างจากซินหยาน ของเธอตอดรัดเสียจนเขาแทบขยับไม่ไหว“อา... เกือบแตกแล้วซิน” ชายหนุ่มสารภาพเสียงต่ำพร่า ก่อนจะหยุดขยับแน่นิ่ง แช่ท่อนลำที่ยังค้างอยู่เพียงครึ่งไว้เท่านั้นแล้วโน้มตัวลงประกบจูบปากซินหยานที่น้ำตาไหลออกจากหางตา เขา







