แชร์

บทที่8

ผู้เขียน: ชุนกวงห่าว
ตอนนี้พอภาพเขากับเสิ่นหลีปรากฏออกมา เสิ่นหลีจึงชิงตำแหน่งแฟนตัวจริงของสืออวี๋ไปโดยปริยาย

ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ เธอคงโทรไปซักถามเหลียงหยวนโจว ให้เขารีบชี้แจงให้ชัดเจนทันที

แต่ตอนนี้ เธออยาดูว่า ถ้าเธอไม่ร้องไห้ไม่โวยวายอะไรเลย เหลียงหยวนโจวจะทำอย่างไร

จะปล่อยให้เรื่องดำเนินไปตามนั้น หรือออกมาชี้แจงเอง

วางมือถือลงอย่างไม่แยแส สืออวี๋ก็ทำงานต่อ

ตอนแรกคิดว่าวันนี้คงใจไม่อยู่กับงาน แต่กลับไม่เพียงแค่ไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ แถมยังทำงานเกินเป้าหมายอีกด้วย

ตอนใกล้เลิกงาน สืออวี๋เปิดทวิตเตอร์ขึ้นมา

หัวข้อร้อนแรงเช้าวันนี้หายไปหมดแล้ว และไม่ว่าจะเป็นทวิตเตอร์ของเหลียงหยวนโจวหรือจะเป็นทวิตเตอร์ทางการของเทคโนโลยีเหยวฮ่างเอง ก็ไม่มีคำชี้แจงที่เกี่ยวข้องใดๆเลย

เขาคงรู้ดีว่า การไม่ชี้แจงหมายก็ถึงการยอมรับ

ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องที่เธอกับเหลียงหยวนโจวคบกันนั้น แม้ไม่ได้ประกาศให้โลกทราบ แต่ก็มีคนบางกลุ่มที่รู้อยู่แล้ว

ตอนนี้ไม่ชี้แจง ก็เหมือนเป็นการวางระเบิดให้กับบริษัทของเขาล่วงหน้า

พอระเบิดขึ้นมา แน่นอนว่าก็จะส่งผลต่อภาพลักษณ์ในบริษัทของเขา

แต่เพื่อเสินหลี เขาไม่แม้แต่จะสนใจถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นเลย

แต่สืออวี๋ก็ไม่ได้แปลกใจต่อผลลัพธ์นี้ แถมยังอยู่ในการคาดการณ์แล้วอีกด้วย

น่าเบื่อเหมือนเปิดหนังเรื่องหนึ่งแล้วเดาตอนจบได้เลย

และเธอก็ยอมรับได้ในที่สุด ว่าในใจของเขา เธอเป็นเพียงเรื่องเล็ก ๆ ที่ไม่สำคัญ ที่สามารถลบออกไปได้ตามใจ

แม้กระทั่งตำแหน่งแฟน ก็ไม่ได้รับการยอมรับ

เธอเก็บมือถืออย่างสงบ ปิดคอมพิวเตอร์แล้วลุกออกจากโต๊ะ

ชีวิตของทั้งคู่ก็กลับสู่สภาพเดิมเหมือนตอนที่เหลียงหยวนโจวยังไม่พาเสินหลีไปมัลดีฟส์ เพียงแต่ครั้งนี้ สืออวี๋ไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องแต่งงานต่อหน้าเขาอีกต่อไป

สืออวี๋ไม่พูด เหลียงหยวนโจวก็ยิ่งไม่อยากจะพูดถึง ถือเสมือนไม่มีเรื่องนี้

บนออนไลน์นอกจากภาพที่เหลียงหยวนโจวป้อนข้าวต้มให้เสินหลีแล้ว ก็ไม่มีเรื่องอื่นถูกเผยแพร่ออกมาอีกเลย แต่ก็มีคนอ้างว่าพนักงานที่ทำงานอยู่ในเทคโนโลยีเหยวฮ่างแอบแฉว่าเหลียงหยวนโจวคอยเอาใจเสินหลีมาก รับส่งเสินหลีไปทำงานทุกวัน และของหรูหราและกระเป๋าหรูต่างๆให้เสินหลีเป็นประจำ

เพียงเท่านี้ก็มากพอที่จะให้ชาวเน็ตจินตนาการไปได้ไกล

สืออวี๋รับคดีสองคดี ทำงานจนถึงมืดค่ำ ไม่ทันสังเกตว่าภาพนั้นยังคงถูกพูดถึงในโลกออนไลน์

เพื่อนร่วมงานเห็น แต่ไม่กล้าพูดต่อหน้าเธอ

วันศุกร์ตอนเย็น สืออวี๋ทำงานจนถึงหกโมงเย็นกว่า จัดเตรียมเอกสารสำหรับการขึ้นศาลเสร็จเรียบร้อย

เธอยืดตัว เตรียมกลับบ้าน มือถือก็ดังขึ้นทันที

เห็นว่าเป็นเหลียงหยวนโจว ดวงตาเธอสั่นไหวเล็กน้อย แล้วถึงจะรับสาย “มีอะไรหรือ?”

เหลียงหยวนโจวเริ่มหงุดหงิด พูด้วยเสียงที่ต่ำพร้อมความหงุดหงิดแฝงอยู่ “แม่ผมเรียกเราไปทานข้าวเย็น ตอนนี้ผมอยู่ใต้ตึกบริษัทคุณแล้ว

สืออวี๋กำมือถือแน่นโดยไม่รู้ตัว สักพักจึงตอบว่า “รู้แล้ว”

สิบนาทีต่อมา สืออวี๋ขึ้นรถของเหลียงหยวนโจว

สีหน้าเขาเย็นชา เห็นได้ชัดว่าตอนนี้อารมณ์ไม่ค่อยดี

ยุ่งมาทั้งวัน สืออวี๋ก็เหนื่อยมาก ก็ไม่มีอารมณ์ไปถามเขาว่าทำไมถึงอารมณ์ไม่ดี พิงบนเบาะรถแล้วหลับไปทันที

เธอนอนหลับตื้น พอเหลียงหยวนโจวขับรถมาถึงหน้าบ้านแม่เหลียง เธอก็ตื่นขึ้นทันที

“ฉันไปซื้อผลไม้ก่อน คุณขึ้นไปก่อนเลย”

เหลียงหยวนโจวไม่พูดอะไร สืออวี๋ก็ไม่คาดหวังว่าเขาจะตอบ เปิดประตูรถแล้วเดินจากไป

หน้าประตูชุมชนที่แม่เหลียงพักอยู่ มีร้านผลไม้อยู่ร้านหนึ่ง เลือกซื้อผลไม้ที่แม่เหลียงชอบกิน สืออวี๋จ่ายเงินแล้วถือไว้แล้วเดินกลับไป

เหลียงหยวนโจวไม่ได้ขึ้นไป ยืนสูบบุหรี่อยู่ข้างประตูรถคนขับ ไฟกะพริบวูบวาบ ทำให้เห็นโครงหน้าไม่ชัดเจน

สืออวี๋หยุดก้าว ละสายตาออกอย่างสงบ

พอได้ยินเสียงฝีเท้า เหลียงหยวนโจวก็ดับบุหรี่ เงยหน้ามองสืออวี๋แล้วเดินเข้าไปในตึก

ทั้งสองเงียบกันมาตลอดทางจนถึงหน้าประตูบ้านของแม่เหลียง ก่อนเคาะประตู เหลียงหยวนโจวหันมามองเธอเอ่ยขึ้นอย่างไร้อารมณ์ ‘แม่ผมเห็นรูปผมกับสืออวี๋บนเน็ต ถ้าแม่ถามขึ้นมา คุณก็บอกว่าเป็นของปลอม"

“ดังนั้นที่คุณเรียกฉันมาในวันนี้ ก็เพื่ออยากให้ฉันช่วยโกหกคุณป้างั้นเหรอ?”

เหลียงหยวนโจวเลิกคิ้ว ทำหน้าไม่แยแส “ไม่งั้นล่ะ?”

แล้วเขาก็โน้มตัวเข้ามาใกล้สืออวี๋ สายตาเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน “สืออวี๋ หรือว่าจนถึงตอนนี้ คุณยังมีความคาดหวังที่ไม่ควรมีอะไรกับผมอีกเหรอ?”

สืออวี๋กำมือทั้งสองแน่น พหูหิ้วถุงพลาสติกรัดจนมือเจ็บ ความเจ็บนั้นเหมือนลามจากปลายนิ้วไปถึงหัวใจ ทำให้หัวใจก็รู้สึกปวดจี้ดตามไปด้วย

ทั้งสองจมอยู่ในความเงียบ ประตูหลังของเหลียงหยวนโจวเปิดออก เสียงของเซี่ยงชินเฟินดังมา

“มาถึงแล้วทำไมไม่เคาะประตู รีบเข้ามาเร็ว ทำกับข้าวเสร็จหมดแล้ว”

เหลียงหยวนโจวเดินเข้าไปก่อน สืออวี๋ก็เม้มปากแล้วเดินตามหลังเขาไป

เซี่ยงชินเฟินรับผลไม้จากมือสืออวี๋ ยิ้มแล้วพูดว่า “ใกล้จะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว กินข้าวยังจะเอาของอะไรเยอะแยะมาอีก”

สืออวี๋ที่กำลังเปลี่ยนรองเท้าชะงัน ดูท่าแล้วเรื่องที่งานแต่งของพวกเขาเลื่อนออกไปนั้น เหลียงหยวนโจวยังไม่ได้บอกให้กับเซี่ยงชินเฟิน

เธอเงยหน้าขึ้นมองเซี่ยงชินเฟิน ยิ้มแล้วเอ่ยขึ้นว่า “ก็แค่ผลไม้เล็กๆน้อยๆเองค่ะ คุณป้า”

“โอเค งั้นคราวหน้ามาไม่ต้องซื้อของอีกแล้วนะ ไปล้างมือกินข้าวเถอะ”

สืออวี๋พยักหน้า แต่ในใจกลับคิดว่า คราวหน้าไม่รู้ว่ายังจะมีโอกาสมาอีกไหม

ระหว่างทานข้าว เซี่ยงชินเฟินถามเรื่องงานแต่งของสืออวี๋กับเหลียงหยวนโจวจัดเตรียมได้ยังไงบ้างแล้ว ต้องการให้เธอช่วยไหม

เหลียงหยวนโจวถูกถามจนหงุดหงิด ตอบด้วยสีหน้าที่เย็นชาว่า “แม่ นี่เป็นเรื่องระหว่างผมกับสืออวี๋ แม่ไม่ต้องมายุ่ง”

ตั้งแต่วันนี้ที่เห็นภาพที่เขากับเลขาสาวแล้ว แม่เหลียงก็กดอารมณ์โกรธไว้มาตลอด ตอนเห็นเขาท่าทางที่ทนไม่ไหวนี้ของเขา ก็ไม่คิดจะกดอารมร์ไว้อีกต่อไป

เธอโยนตะเกียบลงบนโต๊ะ และพูดอย่างโกรธจัด “ได้ เรื่องแต่งงานไม่ให้แม่ยุ่ง งั้นแกบอกกับแม่หน่อยสิ แกกับเลขาสาวคนนั้นมันเป็นยังไงกันแน่?”

“คนที่ใกล้แต่งงานแล้ว ยังมามีข่าวฉาวกับเลขาสาวจนวุ่นวายไปหมด แกบอกกับแม่สิ แกอยากทำอะไรกันแน่?!”

ห้องอาหารเงียบลง สืออวี๋วางตะเกียบอย่างเงียบๆ ไม่คิดจะอธิบายแทนเหลียงหยวนโจว

เขานอกใจอยู่แล้ว เธอเองก็ไม่มีหน้าที่ช่วยเขาปิดบัง

เหลียงหยวนโจวเหลือบมองสืออวี๋ เห็นเธอทำท่าทางเหมือนไม่เกี่ยวกับเธอ จึงหัวเราะเยาะ

“ก็เหมือนที่แม่เห็นนั่นแหละ ถ้าแม่คิดว่าโอเค งั้นคราวหน้าผมจะพามาให้แม่ดู”

แม่เหลียงโกรธจนหน้าแดง เงยหน้าขึ้นตบเขาโดยตรง

“เหลียงหยวนโจว นี่แกยังเป็นลูกผู้ชายคนหนึ่งอยู่ไหม?ตอนที่แกเริ่มทำธุรกิจ แทบไม่มีอะไรเลย สืออวี๋ก็ไม่ได้รังเกียจแก ยอมอยู่ชั้นใต้ดินกับแก และช่วยแกสร้างธุรกิจ ตอนนี้แกมีเงินแล้ว ก็คิดว่าตัวเองเก่งมากแล้วใช่ไหม?”

“ตอนนี้เลขาสาวคนนั้นทำไมยอมอยู่กับแก ก็เพราะตอนนี้แกมีเงินไม่ใช่เหรอ? ถ้าแกยังเป็นเด็กจนในวันนั้น แกดูสิว่าเธอจะยอมเหลียวแลมองแกแม้แต่นิดไหม?!”
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 135

    ซือเยี่ยนเลิกคิ้ว “มีคนบอกประจำ”สืออวี๋: “...”น้ำเสียงนี้ฟังดูเหมือนแอบภูมิใจนิด ๆ ยังไงชอบกลแฮะ?เมื่อเห็นสืออวี๋พูดอะไรไม่ออก ดวงตาของซือเยี่ยนก็ฉายแววขบขันวูบหนึ่ง แต่เพียงพริบตาเดียวก็หายไป สืออวี๋จึงไม่ทันสังเกต“หมอซือคะ เมื่อกี้ตอนฉันคุยกับครอบครัวนั้น ฉันถึงได้รู้ว่าเพื่อให้ได้ลงทะเบียนนัดกับคุณ พวกเขาถึงขั้นต้องเดินทางมาจากต่างอำเภอ ตอนนี้ไม่มีเงินเหลือพอสำหรับย้ายโรงพยาบาลแล้ว ส่วนจะให้เปลี่ยนเป็นหมอคนอื่นพวกเขาก็ไม่ไว้ใจ ด้วยเหตุนี้ พวกเขาถึงได้ทำอะไรไม่ยั้งคิด ชักมีดขู่ให้คุณผ่าตัดแบบนั้นแหละค่ะ”“ในสายตาฉัน พวกเขาไม่ใช่คนเลว เพียงแต่ไม่เข้าใจผลลกระทบร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการกินอาหารก่อนผ่าตัดแบบดมยาสลบเท่านั้น ถ้าพวกเขาเข้าใจ ก็คงไม่ทำแบบนี้แน่นอน”“ถ้าพวกเขามาขอโทษคุณอย่างจริงใจ คุณจะยอมให้โอกาสคนไข้คนนั้นอีกสักครั้งได้ไหมคะ?”สิ้นเสียงของเธอ ซือเยี่ยนก็ตอบทันที “ไม่ได้ครับ”สืออวี๋ขมวดคิ้ว “หลักการของคุณมันสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ? สำคัญถึงขั้นที่ต่อให้ถูกคุกคามถึงชีวิตก็ยังไม่ยอมประนีประนอมเนี่ยนะ?”แค่นึกถึงภาพที่เขาอยู่ร่วมห้องกับชายผู้ถือมีดเมื่อครู่ สืออ

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 134

    “ค่ะ...”ผู้หญิงคนนั้นรีบรุดไปที่ห้องทำงานของซือเยี่ยนทันที สืออวี๋ก้าวเท้าตามไปติด ๆเมื่อไปถึงหน้าห้องทำงานของซือเยี่ยน และเห็นสามีตัวเองกำลังเงื้อมีดใส่ซือเยี่ยนด้วยสีหน้าเกรี้ยวกราด เธอก็ถึงกับขวัญหนีดีฝ่อใบหน้าซีดเผือด“คุณคะ! วางมีดลงเดี๋ยวนี้เลยนะ!”หลังได้ยินเสียงหญิงสาว ชายคนนั้นก็หันขวับกลับมา และเมื่อเห็นชัดถนัดตาว่าเป็นเธอจริง ๆ ใบหน้าก็พลันบึ้งตึง ตวาดลั่นว่า “ใครใช้ให้ออกมา รีบกลับไปเดี๋ยวนี้!”ผู้หญิงคนนั้นส่ายหน้า “คุณคะ วางมีดลงเถอะ พ่อเป็นคนให้ฉันมาเอง คุณเอามีดมาขู่หมอแบบนี้มันผิดกฎหมายนะคะ...”ตอนนี้ ใบหน้าของชายคนนั้นเต็มไปด้วยไฟโทสะ “ผมไม่สนว่าจะผิดกฎหมายหรือเปล่า รู้แค่ว่าไอ้หมอนี่ต้องรับปากผ่าตัดให้พ่อเท่านั้น!”“คุณอยากให้พ่อเห็นคุณติดคุกหรือไง เรื่องนี้แต่เดิมก็เป็นฝ่ายเราที่ผิดเอง จริงสิ คุณผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ ฉันคนนี้เธอเป็นทนาย เธอรับปากแล้วว่าจะช่วยพูดกับหมอซือให้พวกเรา คุณเอาแต่ขู่หมอซือแบบนี้ มันไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมาหรอกนะ”ชายคนนั้นตวัดสายตามองสืออวี๋ที่อยู่ข้างภรรยา แววตาพลันเย็นเยียบ “ทนายบ้าบออะไร! แม่นั่นกับหมอคนนี้มันก็พวกเดียวกันนั่นแห

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 133

    เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเริ่มมีปฏิกิริยาตอบรับ สืออวี๋จึงถามด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “แค่เขาถือมีด ก็ถือว่าทำผิดกฎหมายว่าด้วยการบริหารจัดการความสงบเรียบร้อยแล้วค่ะ ถ้าพฤติการณ์ร้ายแรง ก็อาจเข้าข่ายทำผิดกฎหมายอาญาด้วยซ้ำ เรื่องนี้มีวิธีแก้ปัญหามากมาย ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีสุดโต่งแบบนี้เลยค่ะ”เมื่อสืออวี๋พูดคำสุดท้ายจบลง ภายในห้องพักผู้ป่วยก็กลับเข้าสู่ความเงียบงันอีกครั้งรออยู่ครู่หนึ่ง เสียงของคนที่พูดเมื่อครู่ก็ดังออกมาอีกครั้ง “คุณจะพิสูจน์ได้ยังไงว่าเป็นทนายความตัวจริง? แล้วคุณจะพิสูจน์ได้ยังไงว่ามาช่วยพวกเราจริง ๆ ไม่ได้เป็นพวกเดียวกับหมอคนนั้น?!”สืออวี๋นิ่งเงียบไปเล็กน้อย ก่อนกล่าวอย่างเชื่องช้าว่า “เมื่อกี้ตอนที่เขาถือมีดบุกเข้าไปในห้องทำงานแพทย์ มีคนเห็นไม่น้อย ตอนนี้มีคนแจ้งตำรวจแล้ว ถ้าพวกคุณยังไม่ไปเกลี้ยกล่อมเขาตอนนี้ รอให้ตำรวจมาถึงก็สายเกินไป เขาเป็นคนในครอบครัวของพวกคุณ พวกคุณพิจารณาดูเองเถอะ”พูดจบประโยคนี้ สืออวี๋ก็ไม่กล่าวอะไรต่อ ถ้าอีกฝ่ายตั้งใจจะดึงดันไปจนถึงที่สุด เธอก็ไม่มีปัญญาช่วยอะไรแล้วแต่ในใจของสืออวี๋ กลับยังคงไม่อาจสงบลงตอนนี้ ซือเยี่ยนกำลังเผชิญหน้ากับผ

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 132

    สืออวี๋ใจหายวาบ “พวกคุณแจ้งตำรวจหรือยังคะ?!”“แจ้งแล้วค่ะ แต่ที่นี่อยู่ไกลจากสถานีตำรวจนิดหน่อย คาดว่ากว่าตำรวจจะมาถึงก็ต้องใช้เวลาอีกสิบกว่านาที”“งั้นสิบกว่านาทีนี้ เราจะปล่อยให้ซือเยี่ยนเผชิญหน้ากับผู้ชายคนนั้นตามลำพังเหรอคะ?”“คือว่า... ตอนแรกผู้ชายคนนั้นยังไม่ได้ชักมีดออกมาค่ะ แต่พอหมอซือปฏิเสธไม่ยอมผ่าตัดให้พ่อเขาอีก เขาก็ชักมีดออกมา หมอซือเห็นมีดก็เลยรีบปิดประตูล็อกทันที”สืออวี๋ได้ยินดังนั้นก็ยิ่งกังวลใจมากขึ้น เห็นได้ชัดว่าผู้ชายคนนั้นอารมณ์แปรปรวน ยิ่งซือเยี่ยนอยู่กับเขานานเท่าไหร่ก็ยิ่งอันตรายเท่านั้นแต่ตอนนี้ ซือเยี่ยนล็อกประตูห้องทำงานจากด้านใน ต่อให้เธออยากช่วยก็ช่วยไม่ได้แล้วถ้าผลีผลามบุกเข้าไป ก็อาจเป็นการกระตุ้นอารมณ์ของผู้ชายคนนั้น ทำให้สถานการณ์ยิ่งอันตรายมากขึ้นอีกสืออวี๋สูดหายใจลึก ก่อนสอบถาม “แล้วญาติคนอื่น ๆ ของผู้ป่วยล่ะคะ? ผู้ชายคนนี้มีภรรยาหรือลูกบ้างไหม?”“มีค่ะ แต่ตอนนี้พวกเขาเอาแต่ซ่อนตัวอยู่ในห้องพักผู้ป่วย ไม่ยอมออกมา ก็คงเห็นด้วยกับการกระทำของผู้ชายคนนี้นั่นแหละค่ะ เมื่อกี้พวกเราไปที่หน้าห้องพักผู้ป่วย กะว่าจะให้ออกมาเกลี้ยกล่อมเขาสักหน่อย แต่

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 131

    ตกค่ำ สือหมิงฮุยกลับมาถึงบ้านเมื่อเข้าประตูมา ก็เห็นโจวฉินนั่งหน้าบึ้งอยู่บนโซฟาแล้วเขาหยุดชะงักเล็กน้อยขณะเปลี่ยนรองเท้า เดาได้ไม่ยากว่าที่ไปคุยกับสืออวี๋วันนี้คงไม่ค่อยราบรื่นเท่าไหร่ตามคาด ขณะเขานั่งลงบนโซฟา โจวฉินก็เริ่มโวยวาย “สืออวี๋ไม่ยอมถอนฟ้อง ฉันทะเลาะกับแม่นั่นไปรอบหนึ่ง เลยลืมให้บัตรธนาคารไปซะสนิท เดี๋ยวคุณเอาไปให้เองแล้วกัน!”สือหมิงฮุยเหลือบมองบัตรธนาคารบนโต๊ะแวบหนึ่ง ก่อนกล่าวเสียงเข้ม “ช่วงนี้บริษัทงานยุ่งจะตาย ผมจะเอาเวลาที่ไหนไปล่ะ? พรุ่งนี้คุณไปอีกรอบแล้วกัน ถ้าเธอยังไม่ยอมค่อยว่ากันอีกที”โจวฉินแค่นหัวเราะ “ฉันไม่ไป ทำไมฉันต้องเป็นคนไปตามง้อแม่นั่นทุกทีด้วย? คุณมันก็ดีแต่ปาก อ้างไปเรื่อยว่าบริษัทงานยุ่งทุกวัน มีวันไหนไม่ยุ่งบ้างไหม? ฉันว่าปล่อยให้มันเจ๊งไปก็ดี คุณจะได้ไม่ต้องยุ่งแล้ว!”“หุบปากนะ!”สือหมิงฮุยหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ “วัน ๆ ถ้าไม่เอาแต่เดินชอปปิง ก็ดีแต่พูดจาปากเสีย เกิดบริษัทผมเจ๊งขึ้นมาจริง คุณก็เตรียมตัวไปนั่งขอทานข้างถนนได้เลย!”“เป็นขอทานก็ยังดีกว่าต้องมานั่งขายหน้าทุกวัน! ยังไงฉันก็ไม่ไปหายัยนั่นอีก คุณอยากไปก็ไปเองเถอะ อีกเดี๋ยวม่านม่า

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 130

    ริมฝีปากของเธอคลี่ยิ้ม “ขอบคุณนะคะ หมอซือ”เมื่อกลับมาถึงห้องพักผู้ป่วย คุณย่าสือเห็นว่ามีเพียงสืออวี๋อยู่คนเดียวจึงขมวดคิ้วถาม “แม่แกลกลับไปแล้วเหรอ?”“ค่ะ”เมื่อเห็นสีหน้าของสืออวี๋เรียบเฉยจนอ่านอารมณ์ใด ๆ ไม่ออก คุณย่าสือจึงเอ่ยปากถาม “เธอมาพูดอะไรกับแก?”“ไม่ได้พูดอะไรค่ะ แค่บอกให้หนูดูแลคุณย่าดี ๆ หวังว่าคุณย่าจะได้ออกจากโรงพยาบาลโดยเร็วค่ะ”สืออวี๋เพิ่งพูดจบ คุณย่าสือก็สวนกลับมาอย่างหัวเสีย “เธอพูดอะไรกับแกกันแน่?! นิสัยอย่างโจวฉินฉันรู้ดี เธอไม่ถ่อมาถึงห้องพักผู้ป่วยเพื่อพูดเรื่องไร้สาระไม่กี่ประโยคนี้หรอก”สืออวี๋อดถอนหายใจไม่ได้ รู้สึกจนปัญญาอยู่บ้าง “คุณย่า เรื่องนี้จริง ๆ ค่ะ และบอกว่าจะจัดงานเลี้ยงให้สือม่าน สั่งไม่ให้หนูไปก่อกวน”คุณย่าสือเบนความสนใจไปได้จริง ๆ เธอพูดอย่างโมโห “ใครอยากจะไปงานเลี้ยงของเธอกัน ถึงเวลาเดี๋ยวฉันจัดงานที่ดีกว่าให้แกเอง!”“ค่ะ ๆ ๆ งั้นหนูจะรอคุณย่าจัดงานเลี้ยงให้นะคะ ท่านหันตัวหน่อยค่ะ หนูจะเริ่มนวดให้แล้ว”“ตอนนี้ไม่ต่อต้านการกลับบ้านตระกูลสือแล้วเหรอ?”สืออวี๋ส่ายหน้า “ถึงหนูจะต่อต้าน ก็เปลี่ยนความคิดของท่านไม่ได้อยู่ดี สู้ทำตามที่ท่า

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status