LOGINสวัสดีค่ะ สาวก 25+ แนะนำตัวละครกันก่อนเลยจร้า.... นครินทร์ กัมปนาทไพศาล หรือ นัฐ หนุ่มนักธุรกิจไฟแรง ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ดีกรีนักเรียนนอก พอจบมาสืบสานกิจการของบิดาที่เสียไปเมื่อสามปีที่แล้ว เขาได้ทำบริษัทขึ้นเป็นรายใหญ่ของโลก กิจการมากมายที่เขาทำ ทำให้เขาเป็นบุคคลเนื้อหอมที่มีหญิงสาวเข้ามาตอมดม...แต่เขาเลือกที่ไม่สร้างพันธะกับใคร ผู้หญิงที่เขาหาเขาหวังเพียงเงินและความสุขทางกายจากเขา...เขาก็เช่นกัน ที่ไม่เคยเห็นพวกนั้นเป็นผู้หญิงที่เขาเขี่ยทิ้งเมื่อไหร่...ตอนไหนก็ได้ รัมภา แบร์นาร์ด หรือ วีนัส เธอคือหญิงสาวผู้ร่าเริง...สดใส...อ่อนหวาน...ไร้เดียงสา...จบจากมหาวิทยาลัยชื่อดังของฝรั่งเศสในด้านแฟชั่นดีไซน์เนอร์ ขณะที่เธออายุเพียง 20 ปีเท่านั้น เธอได้เกียรตินิยมอันดับ 1 แต่ชีวิตผลิกผันถึงจุดต่ำสุดของชีวิตของหญิงสาวที่เผชิญโลกกว้างตามลำพัง ขณะที่พ่อของเธอเองได้เสียชีวิตไป...เพราะหนีหนี้มหาศาลที่ตัวเองสร้างไว้ให้เธอต้องชดใช้ด้วยชีวิต เรื่องราวจะเป็นอย่างไง...โปรดติดตามตอนต่อไปด้วยนะจ๊ะ
View Moreหญิงสาวในชุดเจ้าสาวสีขาวสะอาดตา เธอนั่งลงบนเก้าอี้หน้ากระจก มองใบหน้าของตนเองที่มีคราบหยดน้ำตาที่เลือนหายไปตั้งแต่เมื่อครู่
เธอต้องมาแต่งงานกับผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่า 'เจ้าหนี้' หรือ 'เจ้าชีวิต' เมื่อย้อนไปเมื่อหนึ่งอาทิตย์ที่แล้วก่อนวันแต่งงาน เธอลงจากเครื่องบิน ก้าวเดินไปยังอาคารผู้โดยสารเพื่อจะออกจากอาคารกลับไปยังบ้าน แต่แล้วต้องเจอกับผู้ชายหนุ่มใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำ และกางเกงสแล็คสีดำ ใบหน้าหล่อเหลา ทั้งรูปร่างและหน้าตา เดินเข้ามาหาเธอ พร้อมกับวัยชายกลางคนที่ใส่เสื้อสูทสีดำเหมือนเป็นบอดี้การ์ด ... 'คุณคือรัมภา แบร์นาร์ดใช่หรือไม่’ ชายหนุ่มที่ใส่เสื้อเชิ้ต ชายหนุ่มถามเธอ ทำให้เธองงกับเขาว่า รู้จักชื่อของเธอได้อย่างไง ‘ใช่ค่ะ ฉันรัมภา แบร์นาร์ด มีอะไรหรือเปล่าคะ’ เธอตอบไปช้าๆ ‘ไปกับผม...ผมจะพาคุณไปยังที่หนึ่ง’ ‘ทำไมฉันต้องไปกับคุณด้วย...เราไม่ได้รู้จักกันสักหน่อย’ เธอเดินหนี แต่ชายเสื้อเชิ้ตคว้าแขนเธอไว้ ‘ปล่อยฉันนะ’ หญิงสาวสะบัดแขนหนี แต่เขากระชากเข้ามาในอ้อมกอด ทำให้เธอดิ้นรนออกจากอ้อมกอดเขา เมื่อไม่มีทางรอด เธอจึงตะโกนเสียงดัง ‘ช่วยด้วยค่ะ...มีคนจะฉุดฉัน...!!!’ มีคนจะเข้ามาช่วย...แต่ต้องหลบไปเพราะเห็นหน้าเขาก็รู้ทันทีว่าคนที่ฉุดเธออยู่เป็นใคร จึงมีคนแอบถ่ายรูปเขาและเธอ “จัดการด้วย...สิงห์” เขาหันไปบอกชายที่ใส่สูทสีดำสนิท “ครับท่าน” “ส่วนคุณมากับผม” เขาจับขอมือเธอแน่นเหมือนคีมหนีบเหล็ก จนเจ็บข้อมือไปหมด “ปล่อยฉันนะ...ปล่อย...” ... “คิดอะไรอยู่...” เสียงที่เธอไม่อยากได้ยินดังขึ้นจากด้านหลังของเธอ อีกทั้งเธอยังได้กลิ่นแอลกอฮอล์จากไวน์ราคาแพงที่เขาดื่มกิน เขาเริ่มถอดสูท แล้วพาดกับเก้าอี้หน้าเตียง ก้าวเดินมาหาเธอที่นั่งอยู่หน้ากระจก เขาจับไหล่ของเธอ แต่เธอลุกขึ้นสะบัดหนี เขาจึงจับแขนเธอไว้ทั้งสองข้าง ดันเธอชิดกับฝาผนัง “ปล่อยฉันนะ...” หญิงสาวดิ้นรน ใช้เข่ากระทุ้งดุ้นที่อยู่ร่มผ้า ทำให้เขาหน้านิ่วด้วยความเจ็บปวด แต่เขาไม่ปล่อยมือออกจากแขนเธอ “คิดว่าแรงแค่นี้จะทำอะไรผมได้เหรอ...รู้ไหม...” ชายหนุ่มโน้มใบหน้าเข้าใกล้หญิงสาว “รู้ไหมว่า...ยิ่งทำแบบนี้...คิดเหรอ...จะทำให้ผมเปลี่ยนใจที่จะไม่มีเซ็กส์กับคุณได้” น้ำเสียงทรงอำนาจแฝงด้วยอารมณ์โกรธเล็กน้อย...ตั้งแต่เกิดมา...ยังไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนต่อต้านเขาที่จะร่วมเซ็กส์กับเขา...เธอคือคนแรกที่ทำร้ายเขาและท้าทายเขาอยู่ตอนนี้ ...ได้สนุกแน่แม่สาวน้อย... “ปล่อยฉันนะ...” หญิงสาวดันใบหน้าเขาให้ออกห่างจากต้นคอของเธอ “คิดว่าแรงแค่นี้ จะสู้ได้เหรอ” “ว้าย....” เขาแบกเธอขึ้นหลังไม่ทันตั้งตัว แล้วโยนเธอลงไปในกลีบดอกไม้ที่จัดเป็นรูปหัวใจ ทำให้ดอกไม้กระจายออกไป “อย่าทำอะไรฉันเลยนะ...ฉันขอร้อง” หญิงสาวยกมือไหว้เขา เพราะจนปัญญาจะสู้แรงของเขาที่ตัวใหญ่กว่า “ไม่มีประโยชน์ที่จะมายกมือไหว้...การที่ทำให้ผมเจ็บ...คุณต้องรับมันคืนไปทั้งหมด” เขาไม่พูดเปล่า เขาลงไปข้างเตียง เธอได้จังหวะ จึงรีบคลานหนี แต่มือของเขาไวกว่า จับเรียวขาใต้กระโปรงบานของชุดแต่งงานของเธอแล้วลากมายังปลายเตียง “ปล่อยฉันนะ...” เขาไม่พูดอะไร แต่ยิ้มที่มุมปากทำให้เธอขนลุกได้เช่นกัน แล้วขึ้นที่เตียงนอน “คว่ำหน้า” “ไม่” เขาจับเธอคว่ำหน้าลง แล้วรูดซิปลงไปถึงบั้นท้าย ดึงชุดแต่งงานออกจากตัวเธอ ดึงตะขอบาร์ไร้สาย แล้วจับเธอหันหน้ามา “หยุดร้อง...แล้วรับชะตากรรมชะ...” ชายหนุ่มมองใบหน้าเธอที่หลั่งน้ำตาไม่ขาดสาย “อย่าทำกับฉันแบบนี้เลยนะ” หญิงสาวพูดเบาๆ “เงียบชะ...เธอคือผู้หญิงขัดดอก...อย่าคิดจะเรียกร้องอะไร” เขาพูดเสียงดังใส่เธอ...ทำให้เธอตกใจจึงเงียบลง ‘ผู้หญิงขัดดอกอย่างนั้นเหรอ...ใช่มันควรเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว’ เขาดึงจีสตริงเธอลงมาเช่นกัน แล้วมองเรือนร่างเธอเห็นได้ชัด เรือนร่างของเธอขาวอมชมพู เป็นสาวอวบไม่ผอมและไม่อ้วนเกินไป อกเต่งตึงใหญ่เกินตัว เขายิ้มเธอด้วยความพึงใจ เธอจะขยับหนี แต่ใบหน้าเขาซุกลงบนอกอวบอิ่ม มือเขาก็ลูบไล้ด้วยความชำนาญ ทำให้หญิงสาวครางเบาๆ เขาใช้มือลูบไล้บนความเป็นหญิง น้ำในตัวเธอไหลทะลักให้เขารับรู้ว่าพร้อมจะมีเซ็กส์แล้ว เขาจึงสอดนิ้วกลางเข้าไป มืออีกข้างที่ว่าปลดกระดุมอย่างชำนาญ จนหมดทุกเม็ด แล้วดึงออก ทำให้เห็นซิกแพกลอนสวย แต่เธอก็ไม่ได้สนใจเขาเลย “อย่า...เอาออกไปนะ...” หญิงสาวร้องเบาๆ เหมือนกลับเสียงครางมากกว่า เขาจึงสอดนิ้วนางเขาไปเพิ่ม ทำให้เสียงครางเธอดังขึ้น จนเธอใกล้เสร็จ เขาจึงใช้มือข้างที่ว่างดึงเข็มขัดและกางเกงออก ความเป็นชายของเขาเด้งออกมา ทำให้เธอเบิกตามองด้วยความตกใจกับความยาวและใหญ่โตของเขา แล้วเมินหน้าหนี ...ยังไงชะก็ไม่รอดอยู่แล้ว...ก็รับชะตากรรมไปแล้วละกัน....ชายตรงหน้าก็คือสามีที่ถูกต้องตามกฎหมาย “กริ๊ดดดดดดดด....” หญิงสาวร้องด้วยความเจ็บปวดกับความใหญ่ของเขา เธอบีบรัดเขาแน่นขาเกร็ง จนเขาจับแขนเธอทั้งสองข้างบีบไว้ “อยากทำเองเหรอ” เขายิ้มยียวนให้เธอดู แต่เธอกลับไม่ได้สนใจใบหน้าของเขา เธอส่ายหัวไล่ความเจ็บปวด เขาจึงใช้มือขยำอกอวบอิ่มเธอเบาๆ และโน้มตัวกัดดึงยอดอกที่เป็นสีชมพู เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเธอทั้งหมด เธอจึงคลายออก เขาจึงขยับเข้าไปใหม่ เธอหลับตาลงด้วยความเจ็บ “ลืมตามองผม” เขาพูดเบาๆ เธอจึงลืมตา มีหยาดน้ำตาไหลออกมา เขาจึงคลายมือเธอออก เขาก็ขยับเขาให้แรงขึ้น มือเธอกอดเขาจิกลงบนแผ่นหลังกว้าง จากความเจ็บมันกลายเป็นความเสียวกระสันเข้ามาแทนที่ “อร๊ายยยยยย....อ่าส์....” เธอร้องครางเสียงดังอย่างไม่อายใคร ยกสะโพกรับความเป็นชายของเขา เล็บของเธอจิกลง และกรีดไปตามแรงที่ส่งมา จนในที่สุดเธอก็ปลดปล่อยออกมา หลับตาลงด้วยความเหนื่อยล้าจึงเผลอหลับไป “โอ้ว....” เขาดันปล่อยเข้าไปในตัวเธอจนหมด เขามองหญิงสาวที่หลับไป เขาจึงดันตัวเองออกมาเห็นเลือดจางๆ ไหลออกมากับความเป็นชายของเขา แล้วเอาหมอนหนุนหัวและดึงผ้าห่มให้กับเธอ เขาเดินไปยังผ้าม่านเปิดออก มองเห็นในสวนหน้าบ้านปิดไฟหมดแล้ว แต่ก็เหลือไว้ไม่กี่ดวงให้เห็นภายในบ้านได้ เขาไม่คิดเลยว่าผู้หญิงที่เขาได้มีเซ็กส์ไปนั้น เธอยังบริสุทธิ์อยู่ส่วนมากผู้หญิงที่เขาเคยได้มาเป็นคู่ขา คู่นอนก็ไม่บริสุทธิ์ แต่กับเธอกลับบริสุทธิ์จนถึงวันแต่งงาน เขาเทบรั่นดีในขวดโหลแก้วราคาแพงลงแก้วแล้วยกดื่ม มองใบหน้าหวานที่หลับใหลไปแล้ว เป็นครั้งแรกที่ไม่ใส่ถุงยาง ไม่รู้ว่าตัวเองลืมหรือจงใจกันแน่ ใครใจดีติดหัวใจ และคอมเม้นท์ให้ไรท์ด้วยนะจ๊ะ จะเป็นการสร้างกำลังใจให้ไรท์มากไรท์ กราบขอบพระคุณคนที่มาคอมเม้นท์ และกดหัวใจให้ไรท์ล่วงหน้าในงานเลี้ยงรัมภาเดินเข้ามาในงาน คุณหญิงคุณนายต่างเดินมาทักทายเธอ ทำเอาเธอเวียนหัวไม่น้อย ส่วนนครินทร์ก็อยู่ไม่ไกลจากเธอ เขาคุยกับเพื่อนและนักธุรกิจที่เป็นคู่ค้า จนเขาไม่อาจออกมาจากตรงนั้นได้ รัมภาจึงเดินไปเข้าห้องน้ำยังมีบอดี้การ์ดเดินตามมาถึงห้องน้ำ จนเธอเข้าห้องน้ำเขาจึงยืนรอข้างนอก เธอเข้าไปในส่วนของห้องชำระ เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจจึงเดินออกมา ทันใดนั้น เธอได้ยินเสียงหนึ่งที่พูดขึ้นว่า“หวัดดี” เสียงที่เธอคุ้นเคยอย่างยิ่งจึงหันไปดูแต่ก่อนที่เธอจะหันไป มีปีนลูกโม่มาจ่อที่หัวของเธอ โดยการมองผ่านกระจกเธอจึงถามขึ้นช้าๆ“ตีช่า คุณทำแบบนี้ทำไม”“ชู่ววววว์…ไม่ต้องถามเดี๋ยวเธอก็ต้องตาย”รัมภาจึงเหยียบเท้าเธออย่างจัง จนตีช่าทำปีนหลุดมือ รัมภาจึงวิ่งไปทางประตู ตีช่าได้สติจึงสบถทันที“หน่อย!!!” ตีช่าเร่งปีนใส่เธอแบบไร้ทิศ ดังสนั่นนครินทร์และบอดี้การ์ดวิ่งเข้ามาดูทันที ก่อนที่รัมภาจะล้มลง นครินทร์ประคองเธอไว้ ก่อนที่ดวงตาจะปิดลง รัมภาเอ่ยเบาๆ"...นัฐ…”ผ่านมาห้าปีให้เธอให้กำเนิดลูกชายสองคนที่มีชื่อว่า นิโรจน์กับวิรุฬ เขาสองคนกำลังน่ารักและนครินทร์พ่อของพวกเขา ก็รักพวกเขามาก รัมภาค่อยดูแลพวกเขาเป็
หญิงสาวเรือนร่างกายเปลือยเปล่าที่เก้าอี้ยาวหลังจากรักมาราธอนสี่วันเต็มที่อยู่กับเขาจนเธอเมื่อยล้าไปทั้งตัว ตอนนี้สามีของเธอหายไปคุยโทรศัพท์ได้สักพักหนึ่งแล้ว เธอจึงมีเวลาว่างมานอนอาบแดดดื่มน้ำส้มที่บนหัวเรือ ให้แสงแดดสาดลงมาบนตัว ชายหนุ่มใส่ผ้าขนหนูสีขาวเพียงผืนเดียวเดินมาข้างๆ เธอ รัมภาจึงลืมตาขึ้นช้าๆ มองสามีสุดที่รัก เธอยิ้มให้เขา นครินทร์ยิ้มให้เธอแล้วจึงบอกเธอ“วันนี้เราต้องเข้าฝังแล้ว” นครินทร์กล่าวด้วยเสียงเสียดาย รัมภาก็รู้สึกเสียดายไม่แพ้กัน เธอจึงเอ่ยเบาๆ“หมดเวลาสนุกแล้วสิ"“เหลือเวลาอีกแปดชั่วโมงต้องไปถึงงานบอลลูน”“ไม่ไปได้มั้ย ฉันอยากอยู่กับคุณ” รัมภากระตุกผ้าเขาลงมา ความเป็นชายที่หลับใหลออกมาเผชิญตรงหน้าของเธอ เธอจับความเป็นชายเบาๆ เขาที่เรียวปากสวยได้รูป เธอเข้าออกเป็นจังหวะเร็วขึ้นเรื่อยๆ ตามแรงกดของเขา เขาปลดปล่อยออกหมดแม็กซ์ น้ำนมไหลให้เธอกินไม่หมดสิ้น รัมภาจึงเลียที่ริมฝีปากเขาจึงนั่งลงข้างเธอประกอบริมฝีปากเนิ่นนานและเองตัวเธอลงบนเบาะ และสอดใส่เข้าไปในตัวเธอทันที แล้วตั้งตัวตรงสอดเข้าเธอไม่ยังแรง รัมภากรีดร้องด้วยความเจ็บปวดเธอไม่เคยรู้สึกชินกับความเจ็บนี้ เขาเข้าอ
รัมภาตื่นขึ้นมายามเช้ามองข้างตน ไม่เห็นนครินทร์ มองมาทางหน้าต่างน้ำสีเขียวมรกตกับท้องฟ้าที่สว่างสดใส เธอเอาเสื้อคลุมสีเทาเดินออกจากเตียงเดินไปเปิดประตูเดินออกจากห้อง เห็นสิงห์เดินมาก้มโค้งให้เธอผู้เป็นนายหญิง รัมภาจึงเอ่ยถาม“นัทไปไหน”“ท่านลงไปว่ายน้ำได้สักพักแล้วครับ”“เขาคงไม่โดนฉลามตอดไปแล้วหรอกนะ” รัมภาเอ่ยด้วยรอยยิ้ม“คุณนาย ผมอยู่ด้านล่างของเรือมีอะไรเรียกใช้ก็โทรบอกผมกับนาส ส่วนอาหารเช้าท่านให้คุณนายไปกินที่หัวเรือครับ”“ได้ ขอบคุณ” รัมภาเอ่ยบอก สิงห์เดินลงบันได เธอจึงเดินไปที่หัวเรือ มองเห็นอาหารบนโต๊ะมากมายนัก จนเธอลายตา ไม่ช้าเขาก็ขึ้นมาจากน้ำทะเลด้วยร่างกายเปลือยเปล่า ทำให้เธอมองไม่วางตาจากตรงนั้นเขาเอ่ยขึ้น“ผมกับอาหารใครน่ากินกว่ากัน”“ต้องเป็นคุณอยู่แล้ว” รัมภากัดริมฝีปาก“สักรอบดีมั้ย”“ไม่เอาฉันต้องกินก่อน” รัมภาจะจับช้อน แต่เขาดึงจากมือเธอ“จำที่ผมพูดไม่ได้ห้ามจับอะไรนอกจากตัวผม” น้ำเสียงของเขาเย้ายวนนัก แต่หญิงสาวจึงเผลอยิ้ม“คุณจะไม่ให้ฉันกินฉันดื่มเลยหรือ” รัมภาเอ่ยถาม แล้วใช้ส้อมจิ้มไส้กรอก จิ้มลงไข่แดงที่ยังไม่แตก จิ้มให้แตกแล้ววนในไข่แดง แล้วเอามาใส่ปากเรียวสวย
เมื่อรัมภาได้ยินเช่นนั้นเธอไม่รอช้าจับความเป็นชายเข้าไปในตัวเธอช้าๆ ริมฝีปากสวยเม้มด้วยความสะท้านไปทั่วทั้งกาย โน้มตัวเข้าหาเขา มีมือของเขาคอยประคองเธอให้เข้าออกช้าไป ไม่นานนักเขาเป็นคนขยับเสียเอง เธอจูบลงบนริมฝีปากของเขา เธอก็ขยับเองเช่นกันด้วยสัญชาตญาณล้วนๆ เขาจับเธอเปลี่ยนมานอนใต้ร่างของเขา และขยับความเป็นชายสอดใส่ช้าๆ ต่อจากนั้นสอดใส่แรงขึ้นตามอารมณ์ดิบ มือของเธอจิกลงบนผ้าปู เขาจึงโน้มตัวจับมือเรียวของเธอ สอดผสานกันจนเธอกรีดร้องด้วยความสุขหฤหรรษ์ปลดปล่อยออกมาหมดตอนนี้เป็นตาเขาบ้างที่จะปลดปล่อยให้เธอบ้าง เขาเข้าออกสองครั้งเห็นจะได้เขาจึงข้าไว้ในตัวเธอ ริมฝีปากของเขาจูบลงบนริมฝีปากเธอเนิ่นนาน แล้วถอนออก นครินทร์ลงมานอนข้างเธอ รัมภาเข้าสวมกอดเขา มือของเขาลูบลงบนหลังเธอเบาๆ“วีนัสพรุ่งนี้ผมบินไปเชียงใหม่ ผมไม่อยากจากคุณเลย ไปกับผมนะ”“พรุ่งนี้วันเกิดคุณจำได้มั้ย” รัมภามองหน้าเขา“จำได้” เขาเอ่ยสั้น“พรุ่งนี้ฉันอยากทำอาหารอะไรอร่อยๆ ให้คุณทานไม่อยากกินนอกบ้านเหมือนทุกครั้ง กลับมากินข้าวด้วยกันนะ” รัมภายิ้มเล็กน้อย“ได้ ผมเสร็จงานจะรีบบินกลับทันที”“ตามนี้” รัมภาเอ่ยแผ่วเบา แล้วหลับตาลง
หญิงสาวตื่นมายามเช้าของวันเสาร์ ลุกขึ้นนั่งบิดขี้เกียจเล็กน้อย ได้ยินเสียงน้ำในห้องน้ำคิดว่าเขาคงอยู่ในห้องน้ำแน่ๆ เธอจึงเดินไปยังห้องน้ำ เป็นจริงดังขาด เขาอยู่ในห้องน้ำจริง เขาอยู่ในอ่างจากุชชี่ เห็นขวดไวน์แดงราคาแพงวางเหลือเพียงครึ่งขวด เขาไม่เคยกินมากมายขนาดนี้ต้องมีเรื่องอะไรที่เขาไม่สบายใจแน่ เรื่องงานหรือเปล่านะ เธอก็ไม่ได้เขาบริษัทแรมเดือนแล้วตั้งแต่เขามีเลขาใหม่เป็นงานแล้ว นครินทร์นั่งในอ่างจากุชชี่นึกอะไรเพลินๆ เขารู้สึกตกใจเล็กน้อยเมื่อมีริมฝีปากอุ่นๆ จูบลงบนแก้มเบาๆ เขาจึงเหลือบมองนั้นคือภรรยาของเขาเอง เธอนั่งหันหลังเปลือยเปล่าบนขอบอ่าง มือเรียวลูบใบหน้าเขาเบาๆ เผยยิ้มพิมพ์ใจเล็กน้อยแล้วพูดว่า “คุณคิดอะไรอยู่คะ...ฉันเห็นคุณนั่งคิ้วผูกโบว์” น้ำเสียอ่อนหวานเอ่ยถามเบาๆ “ไม่มีอะไรหรอกที่รัก...ทำไมถึงตื่นเช้าจัง” เขาเอ่ยถาม “นี่จะแปดโมงเช้าแล้ว...วันนี้สายสุดแล้วละ” เธอเอ่ยบอก “ลงมานั่งด้วยกันสิ” เขายิ้มให้เธอ หญิงสาวก้าวลงในอ่างอย่างว่าง่ายไม่ทันที่เธอได้ตั้งตัว ตัวของเธอชิดผนังไปเสียแล้ว ขณะที่เขาจูบลงบนไหลเธอหนักๆ “เดี๋ยวก่อน...” ไม่ทันที่รัมภากล่าวจบ นครินทร์รีบร้อนดั
“ท่านประธานมาถึงแล้ว” พนักงานหน้าประตูพูดขึ้น นครินทร์ลงจากลัมโบกินี่ ซูเปอร์เอสยูวี โดยมีสิงห์เป็นคนขับ รัมภาเองก้าวลงจากรถมีบอดี้การ์ดเปิดประตูให้เธอ แสงแฟลชสาดส่งเขาและเธอ รัมภาเองก้าวเดินไปหาเขาที่ยืนอยู่ เขายืนรอเธอยกแขนข้างขวาให้เธอประคอง หญิงสาวมองเขาเผยรอยยิ้มแล้วประคองแขนเดินเข้าไปในงานพร้อมกัน“คุณมางานครั้งแรกรู้สึกเป็นอย่างไงบ้าง” นครินทร์ถามเธอ ขณะที่เดินไปพนักงานยกมือไว้เขาและเธอ“ตื่นเต้นนิดหน่อยค่ะ...คนตั้งเกือบพัน...” หญิงสาวยิ้มเล็กน้อย“เก้าร้อยแปดสิบสามคนเอง” เขายิ้มเล็กน้อย“นั้นละ...เกือบพัน” “สวัสดีครับ...คุณนครินทร์...คุณรัมภา...ผมจักรพรรณ...” ชายวัยกลางคนเอ่ยทักนครินทร์“สวัสดีครับ...คุณจักรพรรณ...ประธานบริษัทสิริทรัพย์ยานยนต์” “ผมเอาของขวัญมามอบให้ครับ...เป็นรถรุ่นใหม่ล่าสุดของบริษัทมามอบให้” จักรพรรณส่งกุญแจรถใหญ่นครินทร์“ขอบคุณอย่างยิ่งครับ” นครินทร์ยิ้มเล็กน้อยแล้วล่งกุญแจรถให้กับหมีบอดีการ์ดของเขาที่เดินตามอยู่ด้านหลัง“ตอนนี้บริษัทเราจดสิทธิบัตร...” (ภาษาฝรั่งเศส)“บริษัท เอ็น.จี.พี กรุ๊ป เป็นบริษัทลูกกัมปนาทไพศาลกรุ๊ป...ได้เข้าตลาดหลักเมื่อเดือนที่แล






Comments