Home / รักโบราณ / คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์ / บทที่ 41 จ้าวเหลียงคนสารเลว

Share

บทที่ 41 จ้าวเหลียงคนสารเลว

last update Huling Na-update: 2025-06-23 18:31:37

คืนนั้น หลี่เฟิ่งเซียนไม่กล้าไปรับลู่มู่เฉินเช่นเดิม แต่ไปแอบรอเขาข้างเรือนที่ถูกจัดเป็นห้องนอนของลู่มู่เฉิน แม้นางจะรู้สึกว่าไม่ควรทำเช่นนี้ แต่นางอดใจไม่ไหว นางรอจนเลยยามซวีล่วงเข้าสู่ยามห้ายเขาก็ยังไม่ปรากฏตัว

คนที่ปรากฏตัวกลับเป็นจ้าวเหลียงที่กำลังลากอาหงเดินมาใกล้แถวนี้

“ปล่อย เจ้าปล่อยข้านะ” อาหงพยายามพูดเสียงเบา หันไปมองซ้ายขวา ดูให้แน่ใจว่าไม่มีผู้ใดเห็น

“เจ้า จะเป็นสนมแล้ว จึงวางมาดเช่นนั้นกับข้าหรือ?” จ้าวเหลียงปล่อยมือ ดันอาหงติดเสาต้นหนึ่ง

“สารเลว เจ้ากล้าแตะต้องตัวข้า ข้าจะฟ้องคุณหนูใหญ่” อาหงขู่

“เหอะ หญิงขายตัวสกปรกเช่นเจ้า กล้าขู่ข้าหรือ ข้าอยากรู้ว่า หากฮ่องเต้รู้ว่าเจ้าเคยกระทั่งรับผู้ชายทีเดียว 3 คน เขาจะยังเข้าหอกับเจ้าอยู่อีกหรือไม่ ในตรอกคืนนั้น อย่าบอกว่าเจ้าลืมแล้ว” จ้าวเหลียงยิ้มเยาะ

“..สารเลว!” อาหงยกมือดึงผมของจ้าวเหลียงจนหัวเงยไปด้านหลัง ก่อนนางจะถีบเขาไปอีกทีหนึ่ง เสียดายที่จ้าวเหลียงอย่างไรก็เป็นทหารฝีมือดีที่แม่ทัพหลี่ไว้วางใจ เท้าของสตรีนางหนึ่งไม่อาจทำอะไรเขาได้

“เจ้านั่นแหละสารเลว คืนนั้นเจ้ายั่วยวนข้า จนข้าห้ามใจไม่ไหว ข้าไม่ได้ทำอะไรผิด” จ้าวเหลียงจับคางของอาหงบีบและดันนางติดเสาอีกครั้ง

“ปล่อยข้านะ ข้าเจ็บ” อาหงกัดฟังพูด

“ปล่อยหรือ ข้าอยากรู้ว่าหากคืนนี้ข้าบอกว่าเจ้ายั่วยวนข้า ใครในจวนนี้ยังจะเชื่อเจ้าเหมือนวันนั้นอีกหรือไม่” 

จ้าวเหลียงซุกหน้าเข้าไปเลียคอของอาหงทั้งที่มือยังบีบคางนางอยู่ อีกมือก็กระชากเสื้อของอาหงจนขาด และเขาก็ใช้สองมือบีบเต้าของอาหงอย่างแรง

“โอ๊ย!! สารเลว!!” อาหงเจ็บจนน้ำตาร่วง แต่จ้าวเหลียงไม่สนใจยังคงก้มลงไปดูดยอดถันนั้นแรงๆ ใช้ปากดึงจนหน้าอกข้างนั้นยืด เขาตั้งใจเพื่อจะมองเห็นหน้าอาหง 

คนเคยเป็นคณิกาเช่นอาหงจะไม่เคยพบเจอคนหยาบคายได้หรือ นางย่อมเคยพบเจอมามากต่อมาก รู้ดีว่าต้องรับมือกับสารเลวพวกนี้อย่างไร อาหงยกหัวเข่าขึ้นมาอย่างแรง ตั้งใจให้โดนหัวระหว่างขา แต่โชคร้าย จ้าวเหลียงเป็นทหารที่ใส่ชุดสำหรับปกป้องความอ่อนแอตรงนั้นไว้

จ้าวเหลียงเห็นนางทำผิดพลาดครั้งที่สอง ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่า จึงจับมือของนางทั้งสองมือพันธนาการไว้ อ้าปากกัดลงไปบนยอดอกของอาหง!

แต่ทันใดนั้นก็มีมือจากความมืดจิกไปบนหัวของจ้าวเหลียง ยังมีแรงลากเขาให้หงายหลังล้มลงบนพื้นอย่างแรง เขารู้สึกเจ็บไปทั้งหนังหัว

“ใครมันกละ..!! คุณหนูใหญ่!!” จ้าวเหลียงตกใจ

“ข้าเคยพูดแล้วใช่หรือไม่ เรื่องที่ห้ามทำเช่นนี้กับอาหงอีก” หลี่เฟิ่งเซียนกัดฟันพูด 

“คุณหนูใหญ่ ไม่ใช่เช่นนั้น ท่านเข้าใจผิด” จ้าวเหลียงพยายามแก้ตัว

“เข้าใจผิดหรือ นางเป็นผู้ยั่วยวนเจ้าก่อนสินะ อืม ข้าเข้าใจแล้ว” หลี่เฟิ่งเซียนพยักหน้าเล็กน้อยเหมือนเข้าใจเขา แต่แววตาและหมัดของนางไม่ใช่เช่นนั้นเลย

หลี่เฟิ่งเซียนชกลงไปที่หน้าของจ้าวเหลียง จมูกเขาหักทันที!!

แน่นอนว่าเขาสามารถหลบได้ หากเขาลงมือ หลี่เฟิ่งเซียนไม่มีทางชนะเขาได้ แต่ใครจะกล้าหลบการลงโทษของคุณหนูใหญ่กัน!!!

หลี่เฟิ่งเซียนที่ไม่ยอมให้ทหารในค่ายตัดผมแม้สักเส้น ยามนี้กลับจิกผมของจ้าวเหลียงลากเขาไปตามทางเดินและโยนไปทางสนามหญ้า ก่อนจะตามลงไปต่อยเขาไม่ยั้งอีกหลายครั้ง 

“แย่แล้วเจ้าค่ะ แย่แล้ว!!” เสียงสาวใช้ตะโกนมาแต่ไกล ฮูหยินรองที่ยามนี้กำลังนั่งมองเปลวเทียนอย่างเหม่อลอยต้องหันไปดู

“ใจเย็นๆ มีอะไรค่อยๆพูด” ฮูหยินรองปลอบใจสาวใช้ นางอยากจะเทชาให้สาวใช้ดื่มดับกระหาย แต่กลัวว่าท่านย่าของคุณหนูใหญ่จะโมโหใส่นาง เพราะปกติท่านย่าจะไม่ชอบให้ทำตัวสนิทกับบ่าวไพร่ 

“แย่แล้วเจ้าค่ะ คุณหนูใหญ่กำลังจะฆ่าคนเจ้าค่ะ ฮูหยินรองรีบไปห้ามเร็วๆเจ้าค่ะ ไม่เช่นนั้นอาจมีคนตายในจวนได้” สาวใช้พูดรัวเร็ว

“แย่แล้ว ข้า ข้าควรทำอย่างไรดี” ฮูหยินรองลุกขึ้นหันซ้ายหันขวาแต่ไม่รู้จะทำเช่นไร

“ข้าต้องไปเรียกท่านแม่ ให้ท่านแม่ไปห้ามคุณหนูใหญ่” 

ว่าแล้วฮูหยินรองก็วิ่งไปทางเรือนของท่านย่า เพื่อไปเรียกท่านย่าให้ไปช่วยห้ามหลี่เฟิ่งเซียน ใครบ้างไม่รู้ว่าคุณหนูใหญ่จวนแม่ทัพหลี่เอาแต่ใจ แต่ก่อนนางไม่เคยฆ่าคนแต่ก็ไม่ได้เป็นคนดีอะไร

ท่านย่าและฮูหยินรองไปถึง ภาพที่เห็นคือ หลี่เฟิ่งเซียนที่กำลังคร่อมอยู่บนตัวของจ้าวเหลียง มือหนึ่งจับคอเสื้อเขาไว้ อีกมือชกลงไปบนหน้าของเขาครั้งแล้วครั้งเล่า มีเลือดกระเซ็นออกมามากมาย หมัดเล็กของหลี่เฟิ่งเซียนเต็มไปด้วยคราบเลือด ไม่ต่างจากเสื้อผ้าของนางและของเขา 

จมูกของจ้าวเหลียงหักจนบิดเบี้ยว แต่คุณหนูใหญ่ก็ยังไม่คิดหยุดมือ ดูแล้วเขายังคงมีสติ แม้นางจะชกที่หน้าของเขาเรื่อยๆแต่จ้าวเหลียงกลับนอนนิ่งๆให้นางชก ไม่คิดต่อสู้ทั้งไม่คิดจะปกป้องตัวเอง

“หยุดนะ หลี่เฟิ่งเซียน” ท่านย่าตกใจก็ตกใจ มือไม้สั่นแต่ก็ยังมีสติตะโกนเรียกหลานสาวให้หยุด

“เจ้าต้องหยุดเดี๋ยวนี้นะ!!” นางยังคงต่อโกนต่อไป แต่คุณหนูใหญ่คล้ายไม่ได้ยิน

“พวกเจ้าโง่ไปแล้วหรือ รีบเข้าไปเอาตัวนางออกมา” ท่านย่าสั่งบ่าวชายหลายคนที่ยืนมองดูบริเวณนั้น

บ่าวพวกนั้นต่างข้ามองเจ้า เจ้ามองข้า ไม่มีใครกล้าเข้าไป 

“ยังไม่รีบเข้าไปอีก” ท่านย่าสั่งอีกครั้ง

พวกบ่าวกำลังจะเข้าไป แต่เพียงคุณหนูหันมามองด้วยสายตาที่บ่งบอกว่า ‘ใครเข้ามา ตาย!!’ ทุกคนต่างก็หยุดชะงัก

หลี่เฟิ่งเซียนชกจนเหนื่อยก่อนจะลุกขึ้นยืน และเริ่มเตะจ้าวเหลียงต่อไป ไม่ฟังท่านย่าที่ร้องไห้ตะโกนอย่างเอาเป็นเอาตายให้นางหยุด

ระหว่างนั้น ลู่มู่เฉินกลับมาพอดี ทันทีที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขารีบไปที่เกิดเหตุ ยามนี้จ้าวเหลียงแทบไม่ขยับตัวแล้ว บนหน้าของเขาเละไม่มีชิ้นดี หลี่เฟิ่งเซียนจึงนั่งคุกเข่าข้างหนึ่ง เปลี่ยนเป้าชกเป็นแถวลำตัวแทน

“หลี่เฟิ่งเซียน” ลู่มู่เฉินเพียงเรียกคำเดียว นางก็หยุด ก่อนจะค่อยๆหันหน้ามามองเขา ในแววตาว่างเปล่า

“เฟิ่งเอ๋อร์ เจ้าต้องหยุด” เขาเรียกนางเช่นนั้นเป็นครั้งแรก

 

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 55 เข้าหอครั้งละสามสี่คน

    “ข้าเป็นผู้ชายเหตุใดจะมองไม่ออกว่าเขาหวั่นไหวกับท่านแทบแย่ แต่พยายามเก็บอาการ ข้าไม่รู้ว่าท่านกับเขาผิดใจอันใดกัน แต่ลองพูดคุยกับเขาตรงๆ เขาย่อมต้องเข้าใจท่านอยู่แล้ว” จ้าวเหลียงให้คำแนะนำหลี่เฟิ่งเซียนหัวใจระส่ำไม่เป็นจังหวะ นางทำเรื่องเลวร้ายไปมากมายเช่นนั้น ยังจะมีเรื่องเข้าใจผิดอันใดอีก แต่หากเป็นดั่งที่จ้าวเหลียงพูดจริง นางควรทำเช่นไรดี อยากลองพูดคุยจริงจังกับเขาสักครั้ง แต่ก็กลัวว่าหากเขาตอบว่าชื่นชอบหญิงในชุดขาวผู้นั้น นางควรทำอย่างไร แต่หากเขาชอบนางอย่างที่จ้าวเหลียงพูดจริงๆ และนางปล่อยไปเช่นนี้ ดีแล้วแน่หรือ“ข้าต้องไปก่อนนะ” พูดแล้วหลี่เฟิ่งเซียนก็เดินออกจากห้องพักของจ้าวเหลียงทันที อยากรีบไปหาสามีของตัวเองเพื่อพูดคุยให้รู้เรื่องนางไปรอเขาที่หน้าประตูจวน เพียงไม่นานก็เห็นรถม้ากำลังใกล้เข้ามา นางรอจนกระทั่งรถม้าจอด เขาเปิดประตูออกมา นางคล้ายว่าไม่ได้เห็นเขามาหลายวันมาก คิดถึงเขาจนอยากวิ่งเข้าไปกอด แต่นางไม่กล้าหลี่เฟิ่งเซียนพบว่าเขากำลังมองมาที่นางเช่นกัน คล้ายว่าเขาจะขมวดคิ้วและทำหน้าโกรธ จู่ๆ นางก็กลัวที่จะเข้าไปหาเขา จึงเลือกที่จะหนีออกมาอย่างรวดเร็วลู่มู่เฉินรู้สึกเจ็

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 54 เมา

    หลี่เฟิ่งเซียนเดินออกไปจากห้องนานแล้ว แต่เขายังคงนั่งมองมือซ้ายของเขา เขาเริ่มรู้สึกเสียใจที่วันนั้นตัดสินใจหักมือข้างนั้น คิดอีกที หากเขาไม่ทำเช่นนั้นคงไม่สามารถรอดมามีความสุขเช่นนี้ได้ แต่ความสุขเช่นนี้ดีแน่แล้วหรือ เขาคิดกลับไปกลับมาอยู่เช่นนั้นทั้งคืน บ่าวชายที่มาช่วยเขาเช็ดตัว เขาก็จำหน้าไม่ได้หลังจากเรื่องวันนั้น หลี่เฟิ่งเซียนก็หลบหน้าเขา แต่มีหยวนหยวนส่งน้ำแกงปลาและน้ำแกงไก่มาให้เขาทุกเช้า เขาเองแม้จะเริ่มคิดถึงนางมากแต่ไม่กล้าไปหานางที่ห้อง เพราะความอับอายที่ลูกผู้ชายคนหนึ่งต้องถูกจู่โจมอย่างสิ้นท่า ไร้การต่อต้านแม้นางจะพูดว่านางเป็นคนผิด แต่เขารู้ดีว่าไม่ใช่ หากวันนั้นเขาไม่ยินยอมจริงๆ นางตัวเล็กเพียงนั้นจะถึงขั้นขืนใจเขาได้หรือ เขาประเมินความต้องการของเขาผิดไป ไม่นึกว่าจะต้องการนางมากถึงขั้นขาดสติ ปล่อยให้เรื่องราวเช่นนั้นเกิดขึ้นต่อมาลู่มู่เฉินยังได้ยินพ่อบ้านพูดว่านายหญิงผู้เฒ่าร้อนใจจนทำอะไรไม่ถูก เพราะจู่ๆ หลี่เฟิ่งเซียนก็กลับไปเที่ยวหอเข่อซินอีกแล้ว ท่านพ่อบ้านขอให้เขาช่วยพูดกับคุณหนูใหญ่ว่าไม่ควรไปเที่ยวสถานที่เช่นนั้นอีกเพราะนางแต่งงานแล้วแต่เมื่อเขาเดินไปถึงหน้า

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 53 ตื่นตะลึง (NC)

    หลี่เฟิ่งเซียนหันไปมองแท่งหยกที่นางกำไม่มิดนั้น กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น ตัดสินใจยกก้นขึ้นและจับท่อนหยกร้อนของเขาถูไปมา ยามนี้ผลท้อของนางเต็มไปด้วยน้ำแห่งความสุขแล้ว‘เพียงลูบคลำเจ้านี่ ข้าก็สามารถหลั่งน้ำแห่งความสุขได้แล้วหรือ’ นางสงสัย จำได้อาหงบอกว่าเช่นนี้นางจะเจ็บน้อยลงลู่มู่เฉินรู้ทันทีว่านางคิดจะทำอะไร ถึงเขาจะอยากให้นางทำ และต้องการมากเพียงใด แต่มโนสำนึกของเขาและความตั้งใจของเขายังคงทำให้เขามีแรงจะดึงสติกลับมาได้“อย่า อย่าทำเช่นนี้” เขาขอร้องอย่างร้อนรน“เจ้าไม่อยากเสียใจภายหลังหรอกนะ เชื่อข้าเถิด เฟิ่งเอ๋อร์” เขาอ้อนวอนนาง แต่หลี่เฟิ่งเซียนใช้มือข้างหนึ่งยันเขาไว้ บังคับไม่ให้เขาลุกขึ้นหนีไปไหน มืออีกข้างของนางก็จับแท่งหยกร้อนนั่นถูไปมาที่ร่องกลีบดอกไม้ของนาง ก่อนที่นางจะออกแรงดันตัวเองลงไป หลี่เฟิ่งเซียนรู้สึกได้ถึงความดุดันของท่อนหยางร้อนลวกของเขาที่กำลังดุนดันเข้าไปในร่องกลีบดอกท้อ“พอแล้ว ขอร้อง อย่าทำเช่นนี้ อย่า” เสียงต่ำแหบพร่าของเขาขอร้องให้นางหยุด ในขณะที่อีกใจหนึ่งของเขากำลังรอให้นางดันตัวลงมากอดรัดเอ็นอุ่นนั้นไว้ เพียงแค่นางถูไถโลมเล้าเคล้าคลึงไปมา ความนุ่มลื่

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 52 ข้าจะเบามือ (NC)

    เขาพลิกตัวอยากจะกระโดดหนีลงไปด้านล่าง แต่เพียงแค่เขาเอียงตัวนางก็ใช้เท้าเล็กๆของนางเหยียบลงมาที่ไหล่ของเขา ดันให้เขาพลิกตัวประชันหน้ากับนางตรงๆ เขาอยากมีแรงมากกว่านี้เพื่อดันเท้านั้นให้หลุด น่าเสียดายที่วันนี้เขาอ่อนแอมากกว่าทุกที เขายังได้รับบาดเจ็บจากการทดลองยาอยู่ และภาพภรรยาตัวเปลือยเปล่า งดงามจนเขาตกตะลึง ลืมว่าต้องหนีสองมือถูกมัดไว้พ่ายหลัง ยิ่งดันให้ช่วงสะโพกแอ่นขึ้น ท่อนหยกร้อนของเขาชูชันแสดงตัวอย่างกับต้องการบอกให้นางรู้ว่าเขารู้สึกอย่างไร มันชูชันสูงใหญ่ดั่งเสาค้ำสวรรค์ก็ไม่ปาน หลี่เฟิ่งเซียนตาโต จ้องมองหัวใจสั่นไหว ลู่มู่เฉินงอขาและพยายามหนีบเจ้านั่นเอาไว้ แต่ยามนี้มันขยายใหญ่จนปิดไม่มิด ภาพที่นางอ้าขาเหยียบไหล่เขาเอาไว้ แม้งดงามจนเขาถอนสายตาไม่ได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาในฐานะบุรุษผู้หนึ่ง อย่างไรเขาก็ไม่อาจรับตัวเองได้ เขาอ้าปากเพื่อหายใจ หลับตาแน่นเพื่อลดทอนความอับอายในใจหลี่เฟิ่งเซียนมองดูเจ้าสิ่งนั้นแล้วตกใจไม่น้อย ในใจนางนึกถึงตอนเขาป่วยและนางเช็ดตัวให้เขา มันยังเล็กมากเท่านิ้วเท้าหัวแม่โป้ง แต่ยามนี้มันชูชันจนแทบจะใหญ่เท่าข้อมือของนาง! หลี่เฟิ่งเซียนเริ่มหายใจไม

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 51 จู่โจมร้อยแผน (NC)

    แต่ครั้งเข้าไปในห้องของตัวเองและเห็นพวกรูปต่างๆ ที่อาหงวาดขึ้นเพื่อการเรียนรู้เหล่านั้น ในใจนางเกิดความรู้สึกหึงหวงอย่างบอกไม่ถูก ไม่ใช่ว่าเขาไม่ยอมเข้าหอกับนาง เพราะหญิงแพศยานั่น!!...พวกเขาไปถึงไหนกันแล้ว!! มิน่าเขาถึงได้เชี่ยวชาญมาก เพียงจูบก็ทำให้นางสามารถหลั่งน้ำแห่งความสุขได้ เขาอาจจะเคยทำกับผู้อื่นมาก่อน เขาถึงทำเช่นนั้นได้อย่างเชี่ยวชาญ นางยอมไม่ได้ นางต้องรีบรวบหัวรวบหางเขา!! ทนรอให้เขายินยอมด้วยตัวเองไม่ได้แล้ว!!หลี่เฟิ่งเซียนวิ่งไปถึงหน้าห้องของเขา เห็นว่าด้านในยังมีแสงไฟอยู่ นางผลักประตูเข้าไปไม่บอกกล่าวไม่เคาะประตู“เจ้า เจ้าเข้ามาได้อย่างไร” ลู่มู่เฉินเพิ่งอาบน้ำเสร็จ เขากำลังใส่เสื้อผ้า นางก็ผลีผลามเข้ามา เขาตกใจ รีบร้อนใส่เสื้อให้เรียบร้อย แต่เชือกผูกเอวอยู่บนโต๊ะ เขายืนอยู่ใกล้เตียงนอน จึงทำได้เพียงใช้มือจับสาบเสื้อคลุมตัวยาวเอาไว้หลี่เฟิ่งเซียนเห็นว่าเขายังแต่งตัวไม่เรียบร้อย แผนในใจของนางผุดขึ้นมาเป็นร้อยแผน คำพูดของอาหงดังก้องอยู่ในหู‘หากเจ้าทำให้เขาภูมิใจมากพอ เขาจะเอ็นดูเจ้ามากขึ้น’นางหันไปปิดประตูลงกลอน ยังเดินไปปิดหน้าต่างที่เขาแง้มเอาไว้รับลมด้วย“เจ้า เจ้า

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 50 ภรรยาผู้อื่นยืนอยู่ตรงนี้

    เรื่องราวในคืนนั้น ความหอมหวานที่เขากอดกกนาง รสจูบ ความนุ่มนิ่มนุ่มนวล ทุกอย่างทำให้เขาไม่กล้าเดินไปที่เตียงนั่น แม้บนเตียงนั้นจะเปลี่ยนผ้าปูผ้าห่มใหม่ทั้งหมดแล้วก็ตาม เขายังคงรู้สึกว่ากลิ่นหอมหวานจากตัวนางยังคงติดอยู่ที่จมูก'ตัวเจ้าหอมมาก' คำพูดของหลี่เฟิ่งเซียนลอยมา นางเคยพูดชมเขาเช่นนั้นหลายครั้งแล้ว เขาไม่แน่ใจว่านางได้กลิ่นอันใดทั้งที่บนตัวเขามีแต่กลิ่นยา เขาเองก็อยากจะบอกกับนางว่า 'ตัวเจ้าหอมน่ากินมาก' เพราะบนตัวของนางมีกลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายดอกไม้ผสมกลิ่นบางอย่างคล้ายหนิวหน่าย[1] ต้มผสมน้ำผึ้ง เป็นอาหารของชาวอิ่นตู้ที่เขาเคยได้ลิ้มลองเมื่อครั้งยังท่องเที่ยวไปทั่ว มันอร่อยและหอมติดจมูก ดังนั้นเมื่อเขาได้กลิ่นนี้จากตัวนาง เขาจึงรู้สึกน้ำลายสอ อยากจะกลืนกินครั้งแล้วครั้งเล่า เสียดายก็แต่เขาพูดออกไปเช่นนั้นไม่ได้ ในที่สุดลู่มู่เฉินก็ดึงผ้าห่มจากเตียงและลงไปนอนบนพื้นแทน เขาไม่รังเกียจที่จะนอนบนพื้นเพราะเขาเคยนอนในที่ที่ลำบากมากกว่านี้ พื้นแข็งๆที่ทำจากไม้ขัดมันอย่างดี ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการนอนหลับของเขาลู่มู่เฉินนอนหลับด้วยความยากเย็นเพราะมัวแต่คิดถึงนาง ในขณะที่หลี่เฟิ่งเซียนแทบ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status