หน้าหลัก / รักโบราณ / คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์ / บทที่ 40 นอนไม่หลับและเด็กสาวในชุดขาว

แชร์

บทที่ 40 นอนไม่หลับและเด็กสาวในชุดขาว

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-23 18:04:05

ลู่มู่เฉินพยายามดึงมือกลับ แต่นางคว้าไว้มั่น อีกทั้งมือข้างนั้นยังเจ็บจนเขาต้องกัดฟันทนไว้ หลี่เฟิ่งเซียนดึงแขนเสื้อเขาขึ้น เห็นว่าตามผิวหนัง ตุ่มน้ำใสไม่มีแล้ว แต่เต็มไปด้วยแผลถลอก คล้ายว่าจะมากกว่าปกติที่เขาเคยเป็น ยิ่งมองในจุดที่แสงน้อยยิ่งน่ากลัว มันยังมีเลือดซึมออกมาประปราย

ลู่มู่เฉินรีบดึงแขนเสื้อลง

“ไม่มีอะไรต้องห่วง เป็นเพียงขั้นตอนในการรักษาเท่านั้น หากจะรักษาให้หายขาด จำเป็นต้องเจาะตุ่มใสให้แตก เพื่อตัวยาจะได้เข้าไปรักษาที่ต้นเหตุ” เขาแก้ตัว

“เจ็บมากใช่หรือไม่” หลี่เฟิ่งเซียนรู้สึกปวดใจ แม้เข้าใจว่าการจะรักษาต้องทำเช่นไร แต่อย่างไรก็ยังอดห่วงไม่ได้ 

นางก้มหน้าเป่าลงไปเบาๆ เหมือนการปลอบประโลมเด็กน้อย ลู่มู่เฉินเห็นแล้วรู้สึกอบอุ่น แม้การเป่าเช่นนั้นจะยิ่งทำให้แผลถลอกถูกลมจนปวดแสบมากก็ตาม เขาปล่อยให้นางทำตามใจ แล้วค่อยๆยกมือขวาขึ้นมาลูบหัวของนางอย่างเอ็นดูหลงใหล หลี่เฟิ่งเซียนจึงกอดเขาอีกครั้ง ซุกหน้าไปที่กระดูกไหปลาร้าของเขา สูดดมกลิ่นเปลือกไม้จางๆจากตัวเขา 

หลี่เฟิ่งเซียนรู้สึกมึนเมาเพราะกลิ่นเปลือกไม้นั่น แต่ก็คล้ายอยากได้กลิ่นมากขึ้น นางจึงเงยหน้าเล็กน้อย สองมือจับเสื้อด้านหลังเขาไว้แน่น เขย่งเท้าซุกหน้าไปที่คอของเขา จมูกของนางแตะถูกช่วงคอที่ไม่มีเสื้อผ้าปกปิด หลี่เฟิ่งเซียนรู้สึกว่าหอมจนทนไม่ได้ ยื่นริมฝีปากไปสัมผัสอย่างหลงใหล

“หยุด!” เขารีบผลักนางอีกครั้ง ปากสั่นระริก

“เจ้า.. อย่าเหลวไหล ข้างนอกเช่นนี้..” เสียงของเขาแหบจนฟังไม่คล้ายเป็นเขาพูด

“เช่นนั้นไปห้องของเจ้า” นางพูด ปล่อยเขาจากอ้อมกอด รีบจูงมือเขา อยากพาเขาไปที่ห้องให้เร็วที่สุด

“ไม่ได้!” เขาตกใจ

“เช่นนั้นไปห้องของข้า!” นางเริ่มหงุดหงิด อยากกินเต้าหู้เขาจะแย่แล้ว แต่ดึงมือเขาแล้วเขาก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิม

“นั่นยิ่งไม่ควร” เสียงเขาดูใจเย็นขึ้น

“อันนี้ก็ไม่ได้ อันนี้ก็ไม่ควร ข้าคิดถึงเจ้าจะแย่อยู่แล้ว เราแต่งงานกันแล้วนะ เหตุใดข้าไปห้องเจ้าไม่ได้” 

“เพราะข้าป่วยอยู่” เขาพูด

“แต่เจ้าบอกว่าไม่ติดต่อ ข้าเพียงอยากหอมแก้มเจ้าให้หายคิดถึง เจ้าป่วยอยู่กระทั่งแก้มก็หอมไม่ได้แล้วหรือ” หลี่เฟิ่งเซียนเริ่มเสียงดัง

“คุณหนูใหญ่ เจ้า..”

“คุณหนูใหญ่อะไรกัน เจ้าต้องเรียกข้าว่า เฟิ่งเอ๋อร์ ได้แล้วไม่ใช่หรือ จนป่านนี้ข้ายังไม่เคยได้ยินเจ้าเรียกข้าเช่นภรรยาสักครั้ง” 

“ไม่ใช่เช่นนั้น..”

“ไม่ใช่อะไรกัน ที่จริงแล้วเจ้ารังเกียจที่ข้าหอมแก้มสินะ เจ้าคงคิดว่าข้าดูถูกเจ้าถึงได้ทำเรื่องชั่วเช่นนี้ แต่อันที่จริงข้าเพียงอยากสูดกลิ่นหอมของเจ้าเท่านั้น หากรังเกียจก็บอกตรงๆ ข้าจะได้ไม่ตามตอแยเจ้า” 

หลี่เฟิ่งเซียนรู้สึกน้อยใจยิ่ง หากเขาชอบนางสักนิด นางจำเป็นจะต้องอ้อนวอนขอมากมายเพียงนี้เชียวหรือ หากเขาชอบนาง เขาต้องอยากหอมนางดังเช่นที่นางอยากหอมเขาแน่อยู่แล้ว แต่ที่เขาไม่ชอบให้นางแตะตัวเขาเพราะเขารู้สึกเช่นเดียวกับที่อาหงรู้สึกยามที่ถูกจ้าวเหลียงแตะต้องใช่หรือไม่ ในใจนางไม่ได้เห็นเขาเป็นหมูตัวเมียเสียหน่อย

“ข้าจะกลับห้องแล้ว” นางปล่อยมือเขา รีบวิ่งกลับห้องของนาง

ลู่มู่เฉินยืนอยู่ตรงนั้นนานสักครู่ก็เดินไปทิศตรงกันข้ามกับที่นางเดิน เขากลับห้องโดยมีความรู้สึกมากมายที่ไม่อาจอธิบายได้ในใจ 

คืนนั้นหลี่เฟิ่งเซียนคิดมากจนนอนไม่ได้ หากเขารังเกียจนางจริงๆนางควรทำเช่นไร รวบหัวรวบหางเลยดีหรือไม่ แต่นางก็ไม่เคยรวบหัวรวบหางชายใดมาก่อน หากจะทำต้องทำอย่างถึงจะทำให้เขารู้สึกดี

นางนอนคิดทั้งคืนก็ยังไม่ได้คำตอบ ทุกครั้งที่คิดถึงกลิ่นเปลือกไม้หอมๆจากตัวเขา ท้องน้อยของนางก็ปั่นป่วนแปลกๆ ครั้งคิดว่าเขายังรักษาตัวไม่หาย ตามตัวยังมีแผลถลอกน่ากลัวพวกนั้น นางกลับสารเลวคิดถึงแต่ความต้องการของตัวเอง รู้สึกทั้งรังเกียจตัวเอง ทั้งสงสารเขาจับใจ หากเปลี่ยนตัวกันได้ นางยินดีจะรับแผลพวกนั้นมาไว้ที่ตัวนาง เขาจะได้ไม่เจ็บมาก

คิดไปคิดมา มองไปที่หน้าต่างท้องฟ้าก็เริ่มเป็นสีเทาแล้ว หลี่เฟิ่งเซียนจึงลุกขึ้นมาแต่งตัวมัดผม ตั้งใจว่าวันนี้จะไปพายู่ยี่มาอยู่ในจวน ป่านนี้นางคงด่าคุณหนูใหญ่คนนี้จนไม่เหลือชิ้นดีแล้ว

แต่พอออกมานอกห้อง ระหว่างกำลังเดินในสวนหลังบ้าน นางเห็นลู่มู่เฉินกำลังเดินออกมาจากที่พักแล้ว หลี่เฟิ่งเซียนยังคิดไม่ตกว่าจะทำอย่างไรกับเขา จึงแอบที่ข้างก้อนหินในสวน รอจนเขาเดินออกประตูหลังจวน นางก็ตามเขาไป

นางเห็นเขาเดินตามเส้นทางหลังจวน ผ่านร้านขายซาลาเปาตอนเช้า เขายืนดูครู่หนึ่งแต่ไม่ได้ซื้อ จากนั้นก็เลี้ยวตรงมุมถนน มีรถม้าเก่าๆคันหนึ่งวิ่งมาจอด มีหญิงสาวผู้หนึ่งยื่นหน้าออกมาทางหน้าต่างเรียกเขา เป็นหญิงสาวที่หน้าตาน่ารัก ดูนุ่มนิ่ม ตากลมโต ใส่ชุดขาวงดงาม ดูแล้วยังอายุน้อย ที่สำคัญมู่เฉินของนางยิ้มจนเห็นแก้มบุ๋มให้หญิงสาวคนนั้นด้วย!!!!

หลี่เฟิ่งเซียนชะงักค้างอยู่นาน ในหัวขาวโพลนนึกสิ่งใดไม่ออก เหตุใดเขาถึงออกหลังจวน ทั้งยังขึ้นรถม้าไปกับหญิงสาวน่ารักอายุน้อยผู้หนึ่ง พ่อบ้านรู้เรื่องนี้หรือไม่ นางเด็กนั่นเป็นใครถึงมายิ้มให้สามีของนาง!!!!

หลี่เฟิ่งเซียนกลับเข้าจวนอย่างไรนางจำไม่ได้ รู้แต่นางโมโหจนตัวสั่น วันนั้นทั้งวันไม่มีใครกล้าเข้าใกล้คุณหนูใหญ่ 

ตกเย็น พ่อบ้านก็ไปรับมาส่งลู่มู่เฉินที่จวนตามปกติ แต่วันนี้ไม่มีหลี่เฟิ่งเซียนมารอรับ เขาก็ทำเพียงเดินเข้าห้องของเขาและปิดประตูเข้านอนตามปกติ

“ให้ข้าแนะนำท่านดีหรือไม่” อาหงพูดขึ้น ระหว่างที่นางมีเวลาพักจากการฝึกมารยาทในวัง

“อืม” หลี่เฟิ่งเซียนเหม่อลอยจนไม่ได้ยินว่าอีกฝ่ายพูดอะไร

“ข้าเป็นผู้เชี่ยวชาญ ท่านจำได้หรือไม่” 

“ท่านหรือ??” หลี่เฟิ่งเซียนประหลาดใจ

อาหงรู้สึกขอบคุณสิ่งที่หลี่เฟิ่งเซียนทำให้ กระทั่งยอมเปลี่ยนมาเรียกนางว่า ท่าน แล้ว แต่นางไม่คุ้นชินเสียเลย

“เรียกข้าเช่นเดิมเถิด” นางตอบและหันไปนั่งเหม่อเช่นเดิม

 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 55 เข้าหอครั้งละสามสี่คน

    “ข้าเป็นผู้ชายเหตุใดจะมองไม่ออกว่าเขาหวั่นไหวกับท่านแทบแย่ แต่พยายามเก็บอาการ ข้าไม่รู้ว่าท่านกับเขาผิดใจอันใดกัน แต่ลองพูดคุยกับเขาตรงๆ เขาย่อมต้องเข้าใจท่านอยู่แล้ว” จ้าวเหลียงให้คำแนะนำหลี่เฟิ่งเซียนหัวใจระส่ำไม่เป็นจังหวะ นางทำเรื่องเลวร้ายไปมากมายเช่นนั้น ยังจะมีเรื่องเข้าใจผิดอันใดอีก แต่หากเป็นดั่งที่จ้าวเหลียงพูดจริง นางควรทำเช่นไรดี อยากลองพูดคุยจริงจังกับเขาสักครั้ง แต่ก็กลัวว่าหากเขาตอบว่าชื่นชอบหญิงในชุดขาวผู้นั้น นางควรทำอย่างไร แต่หากเขาชอบนางอย่างที่จ้าวเหลียงพูดจริงๆ และนางปล่อยไปเช่นนี้ ดีแล้วแน่หรือ“ข้าต้องไปก่อนนะ” พูดแล้วหลี่เฟิ่งเซียนก็เดินออกจากห้องพักของจ้าวเหลียงทันที อยากรีบไปหาสามีของตัวเองเพื่อพูดคุยให้รู้เรื่องนางไปรอเขาที่หน้าประตูจวน เพียงไม่นานก็เห็นรถม้ากำลังใกล้เข้ามา นางรอจนกระทั่งรถม้าจอด เขาเปิดประตูออกมา นางคล้ายว่าไม่ได้เห็นเขามาหลายวันมาก คิดถึงเขาจนอยากวิ่งเข้าไปกอด แต่นางไม่กล้าหลี่เฟิ่งเซียนพบว่าเขากำลังมองมาที่นางเช่นกัน คล้ายว่าเขาจะขมวดคิ้วและทำหน้าโกรธ จู่ๆ นางก็กลัวที่จะเข้าไปหาเขา จึงเลือกที่จะหนีออกมาอย่างรวดเร็วลู่มู่เฉินรู้สึกเจ็

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 54 เมา

    หลี่เฟิ่งเซียนเดินออกไปจากห้องนานแล้ว แต่เขายังคงนั่งมองมือซ้ายของเขา เขาเริ่มรู้สึกเสียใจที่วันนั้นตัดสินใจหักมือข้างนั้น คิดอีกที หากเขาไม่ทำเช่นนั้นคงไม่สามารถรอดมามีความสุขเช่นนี้ได้ แต่ความสุขเช่นนี้ดีแน่แล้วหรือ เขาคิดกลับไปกลับมาอยู่เช่นนั้นทั้งคืน บ่าวชายที่มาช่วยเขาเช็ดตัว เขาก็จำหน้าไม่ได้หลังจากเรื่องวันนั้น หลี่เฟิ่งเซียนก็หลบหน้าเขา แต่มีหยวนหยวนส่งน้ำแกงปลาและน้ำแกงไก่มาให้เขาทุกเช้า เขาเองแม้จะเริ่มคิดถึงนางมากแต่ไม่กล้าไปหานางที่ห้อง เพราะความอับอายที่ลูกผู้ชายคนหนึ่งต้องถูกจู่โจมอย่างสิ้นท่า ไร้การต่อต้านแม้นางจะพูดว่านางเป็นคนผิด แต่เขารู้ดีว่าไม่ใช่ หากวันนั้นเขาไม่ยินยอมจริงๆ นางตัวเล็กเพียงนั้นจะถึงขั้นขืนใจเขาได้หรือ เขาประเมินความต้องการของเขาผิดไป ไม่นึกว่าจะต้องการนางมากถึงขั้นขาดสติ ปล่อยให้เรื่องราวเช่นนั้นเกิดขึ้นต่อมาลู่มู่เฉินยังได้ยินพ่อบ้านพูดว่านายหญิงผู้เฒ่าร้อนใจจนทำอะไรไม่ถูก เพราะจู่ๆ หลี่เฟิ่งเซียนก็กลับไปเที่ยวหอเข่อซินอีกแล้ว ท่านพ่อบ้านขอให้เขาช่วยพูดกับคุณหนูใหญ่ว่าไม่ควรไปเที่ยวสถานที่เช่นนั้นอีกเพราะนางแต่งงานแล้วแต่เมื่อเขาเดินไปถึงหน้า

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 53 ตื่นตะลึง (NC)

    หลี่เฟิ่งเซียนหันไปมองแท่งหยกที่นางกำไม่มิดนั้น กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น ตัดสินใจยกก้นขึ้นและจับท่อนหยกร้อนของเขาถูไปมา ยามนี้ผลท้อของนางเต็มไปด้วยน้ำแห่งความสุขแล้ว‘เพียงลูบคลำเจ้านี่ ข้าก็สามารถหลั่งน้ำแห่งความสุขได้แล้วหรือ’ นางสงสัย จำได้อาหงบอกว่าเช่นนี้นางจะเจ็บน้อยลงลู่มู่เฉินรู้ทันทีว่านางคิดจะทำอะไร ถึงเขาจะอยากให้นางทำ และต้องการมากเพียงใด แต่มโนสำนึกของเขาและความตั้งใจของเขายังคงทำให้เขามีแรงจะดึงสติกลับมาได้“อย่า อย่าทำเช่นนี้” เขาขอร้องอย่างร้อนรน“เจ้าไม่อยากเสียใจภายหลังหรอกนะ เชื่อข้าเถิด เฟิ่งเอ๋อร์” เขาอ้อนวอนนาง แต่หลี่เฟิ่งเซียนใช้มือข้างหนึ่งยันเขาไว้ บังคับไม่ให้เขาลุกขึ้นหนีไปไหน มืออีกข้างของนางก็จับแท่งหยกร้อนนั่นถูไปมาที่ร่องกลีบดอกไม้ของนาง ก่อนที่นางจะออกแรงดันตัวเองลงไป หลี่เฟิ่งเซียนรู้สึกได้ถึงความดุดันของท่อนหยางร้อนลวกของเขาที่กำลังดุนดันเข้าไปในร่องกลีบดอกท้อ“พอแล้ว ขอร้อง อย่าทำเช่นนี้ อย่า” เสียงต่ำแหบพร่าของเขาขอร้องให้นางหยุด ในขณะที่อีกใจหนึ่งของเขากำลังรอให้นางดันตัวลงมากอดรัดเอ็นอุ่นนั้นไว้ เพียงแค่นางถูไถโลมเล้าเคล้าคลึงไปมา ความนุ่มลื่

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 52 ข้าจะเบามือ (NC)

    เขาพลิกตัวอยากจะกระโดดหนีลงไปด้านล่าง แต่เพียงแค่เขาเอียงตัวนางก็ใช้เท้าเล็กๆของนางเหยียบลงมาที่ไหล่ของเขา ดันให้เขาพลิกตัวประชันหน้ากับนางตรงๆ เขาอยากมีแรงมากกว่านี้เพื่อดันเท้านั้นให้หลุด น่าเสียดายที่วันนี้เขาอ่อนแอมากกว่าทุกที เขายังได้รับบาดเจ็บจากการทดลองยาอยู่ และภาพภรรยาตัวเปลือยเปล่า งดงามจนเขาตกตะลึง ลืมว่าต้องหนีสองมือถูกมัดไว้พ่ายหลัง ยิ่งดันให้ช่วงสะโพกแอ่นขึ้น ท่อนหยกร้อนของเขาชูชันแสดงตัวอย่างกับต้องการบอกให้นางรู้ว่าเขารู้สึกอย่างไร มันชูชันสูงใหญ่ดั่งเสาค้ำสวรรค์ก็ไม่ปาน หลี่เฟิ่งเซียนตาโต จ้องมองหัวใจสั่นไหว ลู่มู่เฉินงอขาและพยายามหนีบเจ้านั่นเอาไว้ แต่ยามนี้มันขยายใหญ่จนปิดไม่มิด ภาพที่นางอ้าขาเหยียบไหล่เขาเอาไว้ แม้งดงามจนเขาถอนสายตาไม่ได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาในฐานะบุรุษผู้หนึ่ง อย่างไรเขาก็ไม่อาจรับตัวเองได้ เขาอ้าปากเพื่อหายใจ หลับตาแน่นเพื่อลดทอนความอับอายในใจหลี่เฟิ่งเซียนมองดูเจ้าสิ่งนั้นแล้วตกใจไม่น้อย ในใจนางนึกถึงตอนเขาป่วยและนางเช็ดตัวให้เขา มันยังเล็กมากเท่านิ้วเท้าหัวแม่โป้ง แต่ยามนี้มันชูชันจนแทบจะใหญ่เท่าข้อมือของนาง! หลี่เฟิ่งเซียนเริ่มหายใจไม

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 51 จู่โจมร้อยแผน (NC)

    แต่ครั้งเข้าไปในห้องของตัวเองและเห็นพวกรูปต่างๆ ที่อาหงวาดขึ้นเพื่อการเรียนรู้เหล่านั้น ในใจนางเกิดความรู้สึกหึงหวงอย่างบอกไม่ถูก ไม่ใช่ว่าเขาไม่ยอมเข้าหอกับนาง เพราะหญิงแพศยานั่น!!...พวกเขาไปถึงไหนกันแล้ว!! มิน่าเขาถึงได้เชี่ยวชาญมาก เพียงจูบก็ทำให้นางสามารถหลั่งน้ำแห่งความสุขได้ เขาอาจจะเคยทำกับผู้อื่นมาก่อน เขาถึงทำเช่นนั้นได้อย่างเชี่ยวชาญ นางยอมไม่ได้ นางต้องรีบรวบหัวรวบหางเขา!! ทนรอให้เขายินยอมด้วยตัวเองไม่ได้แล้ว!!หลี่เฟิ่งเซียนวิ่งไปถึงหน้าห้องของเขา เห็นว่าด้านในยังมีแสงไฟอยู่ นางผลักประตูเข้าไปไม่บอกกล่าวไม่เคาะประตู“เจ้า เจ้าเข้ามาได้อย่างไร” ลู่มู่เฉินเพิ่งอาบน้ำเสร็จ เขากำลังใส่เสื้อผ้า นางก็ผลีผลามเข้ามา เขาตกใจ รีบร้อนใส่เสื้อให้เรียบร้อย แต่เชือกผูกเอวอยู่บนโต๊ะ เขายืนอยู่ใกล้เตียงนอน จึงทำได้เพียงใช้มือจับสาบเสื้อคลุมตัวยาวเอาไว้หลี่เฟิ่งเซียนเห็นว่าเขายังแต่งตัวไม่เรียบร้อย แผนในใจของนางผุดขึ้นมาเป็นร้อยแผน คำพูดของอาหงดังก้องอยู่ในหู‘หากเจ้าทำให้เขาภูมิใจมากพอ เขาจะเอ็นดูเจ้ามากขึ้น’นางหันไปปิดประตูลงกลอน ยังเดินไปปิดหน้าต่างที่เขาแง้มเอาไว้รับลมด้วย“เจ้า เจ้า

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 50 ภรรยาผู้อื่นยืนอยู่ตรงนี้

    เรื่องราวในคืนนั้น ความหอมหวานที่เขากอดกกนาง รสจูบ ความนุ่มนิ่มนุ่มนวล ทุกอย่างทำให้เขาไม่กล้าเดินไปที่เตียงนั่น แม้บนเตียงนั้นจะเปลี่ยนผ้าปูผ้าห่มใหม่ทั้งหมดแล้วก็ตาม เขายังคงรู้สึกว่ากลิ่นหอมหวานจากตัวนางยังคงติดอยู่ที่จมูก'ตัวเจ้าหอมมาก' คำพูดของหลี่เฟิ่งเซียนลอยมา นางเคยพูดชมเขาเช่นนั้นหลายครั้งแล้ว เขาไม่แน่ใจว่านางได้กลิ่นอันใดทั้งที่บนตัวเขามีแต่กลิ่นยา เขาเองก็อยากจะบอกกับนางว่า 'ตัวเจ้าหอมน่ากินมาก' เพราะบนตัวของนางมีกลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายดอกไม้ผสมกลิ่นบางอย่างคล้ายหนิวหน่าย[1] ต้มผสมน้ำผึ้ง เป็นอาหารของชาวอิ่นตู้ที่เขาเคยได้ลิ้มลองเมื่อครั้งยังท่องเที่ยวไปทั่ว มันอร่อยและหอมติดจมูก ดังนั้นเมื่อเขาได้กลิ่นนี้จากตัวนาง เขาจึงรู้สึกน้ำลายสอ อยากจะกลืนกินครั้งแล้วครั้งเล่า เสียดายก็แต่เขาพูดออกไปเช่นนั้นไม่ได้ ในที่สุดลู่มู่เฉินก็ดึงผ้าห่มจากเตียงและลงไปนอนบนพื้นแทน เขาไม่รังเกียจที่จะนอนบนพื้นเพราะเขาเคยนอนในที่ที่ลำบากมากกว่านี้ พื้นแข็งๆที่ทำจากไม้ขัดมันอย่างดี ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการนอนหลับของเขาลู่มู่เฉินนอนหลับด้วยความยากเย็นเพราะมัวแต่คิดถึงนาง ในขณะที่หลี่เฟิ่งเซียนแทบ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status