แชร์

บทที่ 42 สัมผัสจากปลายนิ้ว

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-23 18:40:22

“ข้า ข้า..” หลี่เฟิ่งเซียนไม่รู้จะพูดอะไร 

แต่ลู่มู่เฉินไม่คิดจะฟัง เขาเป็นห่วงนางมากจนรีบเดินเข้าไปรั้งนางมากอดเอาไว้ 

“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรแล้ว” เขาพูดเช่นนั้นและใช้มือลูบหัวของนางอย่างรักใคร่

“เจ็บตรงไหนหรือไม่” เขายังคงถามแต่เรื่องของนาง

หลี่เฟิ่งเซียนส่ายหัว

“ไม่เจ็บก็ดี ข้าจะพาเจ้าไปล้างมือ” เขาจูงมือนางเดินไปทางปีกเรือนพักที่เป็นห้องนอนของเขา ไม่สนใจสายตาของพวกคนใช้ กระทั่งท่านย่าเขาก็ไม่มอง จ้าวเหลียงที่ชีวิตรวยริน เขาผู้เป็นหมอก็ไม่สนใจ

เขาพานางไปนั่งในห้องของเขา ยังไม่ทันทำอะไรอาหงก็วิ่งมาถึง นางใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว 

“ไปตักน้ำมาที” ลู่มู่เฉินสั่งอาหง 

นางรีบไปตักน้ำใส่ถังเล็กมา

“เจ้าไปต้มน้ำให้ข้าที ด้านหลังมีถังอาบน้ำ อีกครู่เจ้าช่วยนางล้างเนื้อล้างตัวสักหน่อย” อาหงพยักหน้าและรีบไปในครัวต้มน้ำตามที่เขาสั่ง ส่วนตัวเขา หาเศษผ้ามาจุ่มน้ำและเริ่มเช็ดคราบเลือดบนตัวหลี่เฟิ่งเซียนด้วยความเบามือ นางก็นั่งนิ่งให้เขาเช็ดให้

                หลังจากเช็ดคราบเลือดให้หมดแล้ว เขาพานางมานั่งที่เตียง หลี่เฟิ่งเซียนอารมณ์เย็นขึ้นแล้ว แต่ความขุ่นเคืองยังจางหายไปไม่หมด นางจึงนั่งหน้างอ ปล่อยให้ลู่มู่เฉินเก็บผ้าเปียกและถังน้ำที่เต็มไปด้วยเลือด

“อีกเดี๋ยวอาหงจะพาเจ้าไปอาบน้ำ รอตรงนี้ก่อน” เขาบอก หลี่เฟิ่งเซียนทำเพียงพยักหน้า เขาเตรียมเสื้อของเขาเองไว้ให้นางเปลี่ยนและเขาก็เริ่มทำความสะอาดในห้อง ผ่านไปยังไม่ถึงเค่อ อาหงจึงมาพานางไปอาบน้ำด้านหลังห้อง มีถังอาบน้ำขนาดใหญ่และน้ำอุ่นเตรียมไว้แล้ว

หลี่เฟิ่งเซียนล้างเนื้อตัวโดยมีอาหงช่วย จนกลิ่นคาวเลือดจางไปจึงออกมาเปลี่ยนเสื้อ เพราะเป็นช่วงเย็นแล้วจึงไม่ได้สระผม อาหงกลัวว่านางจะไม่สบายได้ เปลี่ยนเสื้อแล้วอาหงก็พานางมานั่งที่เตียง ตัวอาหงขอกลับไปอาบน้ำที่ห้องบ้าง หลี่เฟิ่งเซียนได้แต่พยักหน้า

                ลู่มู่เฉินเก็บทุกอย่างเสร็จ ตรวจสอบจนแน่ใจว่าไม่มีคราบเลือดที่ใดแล้ว ใช้ยาสมุนไพรบางอย่างวางไว้ในจุดต่างๆเพื่อดับกลิ่นคาวเลือด จากนั้นจึงเดินมานั่งข้างๆเตียง  มองสำรวจตามตัวหลี่เฟิ่งเซียนว่ายังมีรอยเลือดที่ใดอีกหรือไม่ เพียงแต่นางที่กำลังสวมเสื้อของเขาอยู่ ช่างน่ามองอย่างประหลาด เขาจึงไม่กล้ามองตามเนื้อตัวของนางมาก

หลี่เฟิ่งเซียนหันไปสบตาเขา แม้ในห้องนอนของเขาจะมีแสงไม่มาก แต่นัยน์ตาของเขายังคงงดงามมากจริงๆ 

                “ตาของเจ้างดงามมาก” นางพูดออกมาหลังจากนั่งนิ่งมานาน คำพูดนั้นกลับเป็นคำชมเขาเสียนี่ เขาอุตส่าห์เป็นห่วงความรู้สึกของนางแทบแย่

                “เวลาเช่นนี้ เจ้ายังพูดคำพูดพวกนั้นออกมาได้ เจ้าควรเก็บเอาไว้เกี้ยวชายงามที่เจ้าทะนุถนอมไม่ดีกว่าหรือ” เขาพูด ถอนหายใจออกมาคล้ายไม่ใส่ใจ มือขวาหยิบฟ้าผืนเล็กจากอกเสื้อ นำออกมาเช็ดคราบเลือดเล็กน้อยที่ยังติดบนเส้นผมของนาง

                “ดูสิ เส้นผมเปื้อนคราบเลือดเช่นนี้ ต่อให้ไม่ถูกตัด วาสนารักที่เจ้าเฝ้าฝันก็อาจหายไปได้นะ แทนที่จะได้พบกับชายรูปงาม อาจกลายเป็นคนอัปลักษณ์ได้ เรื่องนี้เจ้าไม่รู้หรือ” ลู่มู่เฉินพูดยิ้มๆ พยายามพูดล้อเล่นเพื่อคลายความตึงเครียดของนาง

                “ข้าแต่งงานแล้ว วาสนารักใดข้าก็ไม่ต้องการอีก ข้าจะตัดผมเดี๋ยวนี้เลยยังได้” หลี่เฟิ่งเซียนพูดอย่างจริงจัง นางไม่คิดว่าตัวเองกำลังเกี้ยวผู้ใด นางเพียงพูดความรู้สึกของนาง

                “ได้ๆ แต่ตอนนี้อยู่นิ่งๆก่อน ให้ข้าเช็ดคราบเลือดก่อน” เขาไม่ใส่ใจ ยังคงตั้งหน้าตั้งตาเช็ดคราบเลือดเล็กๆพวกนั้น สนใจราวกับคราบเลือดนั้นจะทำให้นางเจ็บได้

หลี่เฟิ่งเซียนนั่งมองเขาอย่างใจลอย

“เสร็จแล้ว” เขายิ้มน้อยๆบอกนาง ตรงข้างแก้มปรากฏรอยบุ๋มน่าหลงใหลอีกครั้ง ภาพที่เขายิ้มให้เด็กสาวในชุดขาวก็กลับมากวนใจนางอีกครั้ง

“เมื่อครู่ข้าพูดเรื่องจริง” หลี่เฟิ่งเซียนยื่นมือไปจับมือเขามากุมไว้ ลู่มู่เฉินรู้สึกว่ากองไฟในอกกำลังค่อยๆเผาไหม้อีกแล้ว เขาจึงทำเป็นเฉไฉ

“ข้ารู้แล้ว เจ้าพูดเรื่องจริง” เขาดึงมือกลับและแสร้งทำเป็นเช็ดคราบที่ไม่มีอยู่จริงตรงหางคิ้วของนาง รู้สึกหวาดหวั่นว่าตัวเองจะนั่งอยู่ข้างนางได้อีกไม่นาน หลี่เฟิ่งเซียนขมวดคิ้ว คิดว่าเขาหลีกเลี่ยงนางเพราะเขาอาจชอบสาวน้อยตากลมโตในชุดขาวผู้นั้นแล้ว 

เขาช่วยเก็บผมที่ลุ่ยอยู่ข้างแก้มทัดใส่ใบหู ลู่มู่เฉินจึงเห็นว่าตรงแถวติ่งหูของนางยังมีคราบดำๆเปื้อนอยู่ เพราะแสงไฟในห้องมีน้อย เขาจึงขยับเข้ามาใกล้เพื่อมองให้ชัด 

“ตรงนี้ยังมีคราบอยู่ เจ้าอาบน้ำอย่างไรกัน” เขาบ่น

เขาใช้ผ้าในมือลองเช็ดดู แต่เช็ดคราบนั้นไม่ออก เขาจึงใช้นิ้วมือจับติ่งหูของนางและถูไปมา ความรู้สึกบางอย่างต่างวิ่งเข้าสู่หัวใจของทั้งสองคน!

สำหรับหลี่เฟิ่งเซียน นางรู้สึกไม่คุ้นชิน สัมผัสจากปลายนิ้วของเขาทำให้นางขนลุกไปทั้งแขน เสียวแปลบปลาบไปที่สันหลัง นางต้องหลับตาลงกัดฟันแน่น มันทั้งจั๊กจี้และรู้สึกดีแปลกๆ ยิ่งเขาโน้มตัวมาใกล้ กลิ่นหอมเปลือกไม้จากตัวเขายิ่งชัดเจน ทั้งกลิ่นทั้งสัมผัสทำให้หลี่เฟิ่งเซียนตัวสั่นเบาๆ หายใจไม่สะดวก

แต่สำหรับลู่มู่เฉิน ความรู้สึกที่ปลายนิ้วนั้น นุ่มนิ่มน่าหลงใหลจนเขาหักห้ามใจไม่ได้ เขาเช็ดจนคราบหายไปนานแล้วแต่ก็ยังไม่อาจปล่อยมือ คล้ายทุกอย่างหยุดนิ่งลง เขาขยับเข้าไปใกล้อีกนิดเพื่อดูให้แน่ใจว่ามีสิ่งใดตรงติ่งหูของนางกันแน่ เหตุใดถึงได้นุ่มชวนหลงใหลมากมายเช่นนี้

หลี่เฟิ่งเซียนเองก็ขยับไปใกล้เขามากขึ้นทีละเล็กทีละน้อยโดยไม่รู้ตัว ยิ่งใกล้ก็ยิ่งรู้สึกเมากลิ่นเปลือกไม้ของเขา ในหัวเริ่มคิดสิ่งใดไม่ออก นางอ้าปากเพื่อหายใจ ณ ตอนนั้นนางถึงได้รู้สึกตัวว่าตัวเองตัวสั่นไปหมด 

ลู่มู่เฉินได้ยินนางหายใจสั่นๆ จึงละสายตาจากติ่งหูมามองหน้านาง เขาเห็นว่านางคล้ายคนเมาสุรา ปรือตาอ้าปากเล็กน้อย หายใจสั่นหอบอย่างน่าเวทนา 

 

โหย่วหยวนเชียนหลี่

มู่เฉินมีแผลและตุ่มใส การรักษาคือต้องแช่น้ำยาสมุนไพร หลังห้องเขาจึงมีอ่างอาบน้ำส่วนตัว และเพื่อดับกลิ่นน้ำยาสมุนไพร เขาจึงใช้กลิ่นไม้กฤษณาเพื่อกลบกลิ่น และเมื่อกลิ่นหอมหลายอย่างรวมกัน ก็จะกลายเป็นกลิ่นหอมเฉพาะตัวคล้ายเปลือกไม้ เหมือนเป็นน้ำหอมเท่ๆประจำตัวเขาที่คุณหนูใหญ่คลั่งมาก

| ชอบ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 55 เข้าหอครั้งละสามสี่คน

    “ข้าเป็นผู้ชายเหตุใดจะมองไม่ออกว่าเขาหวั่นไหวกับท่านแทบแย่ แต่พยายามเก็บอาการ ข้าไม่รู้ว่าท่านกับเขาผิดใจอันใดกัน แต่ลองพูดคุยกับเขาตรงๆ เขาย่อมต้องเข้าใจท่านอยู่แล้ว” จ้าวเหลียงให้คำแนะนำหลี่เฟิ่งเซียนหัวใจระส่ำไม่เป็นจังหวะ นางทำเรื่องเลวร้ายไปมากมายเช่นนั้น ยังจะมีเรื่องเข้าใจผิดอันใดอีก แต่หากเป็นดั่งที่จ้าวเหลียงพูดจริง นางควรทำเช่นไรดี อยากลองพูดคุยจริงจังกับเขาสักครั้ง แต่ก็กลัวว่าหากเขาตอบว่าชื่นชอบหญิงในชุดขาวผู้นั้น นางควรทำอย่างไร แต่หากเขาชอบนางอย่างที่จ้าวเหลียงพูดจริงๆ และนางปล่อยไปเช่นนี้ ดีแล้วแน่หรือ“ข้าต้องไปก่อนนะ” พูดแล้วหลี่เฟิ่งเซียนก็เดินออกจากห้องพักของจ้าวเหลียงทันที อยากรีบไปหาสามีของตัวเองเพื่อพูดคุยให้รู้เรื่องนางไปรอเขาที่หน้าประตูจวน เพียงไม่นานก็เห็นรถม้ากำลังใกล้เข้ามา นางรอจนกระทั่งรถม้าจอด เขาเปิดประตูออกมา นางคล้ายว่าไม่ได้เห็นเขามาหลายวันมาก คิดถึงเขาจนอยากวิ่งเข้าไปกอด แต่นางไม่กล้าหลี่เฟิ่งเซียนพบว่าเขากำลังมองมาที่นางเช่นกัน คล้ายว่าเขาจะขมวดคิ้วและทำหน้าโกรธ จู่ๆ นางก็กลัวที่จะเข้าไปหาเขา จึงเลือกที่จะหนีออกมาอย่างรวดเร็วลู่มู่เฉินรู้สึกเจ็

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 54 เมา

    หลี่เฟิ่งเซียนเดินออกไปจากห้องนานแล้ว แต่เขายังคงนั่งมองมือซ้ายของเขา เขาเริ่มรู้สึกเสียใจที่วันนั้นตัดสินใจหักมือข้างนั้น คิดอีกที หากเขาไม่ทำเช่นนั้นคงไม่สามารถรอดมามีความสุขเช่นนี้ได้ แต่ความสุขเช่นนี้ดีแน่แล้วหรือ เขาคิดกลับไปกลับมาอยู่เช่นนั้นทั้งคืน บ่าวชายที่มาช่วยเขาเช็ดตัว เขาก็จำหน้าไม่ได้หลังจากเรื่องวันนั้น หลี่เฟิ่งเซียนก็หลบหน้าเขา แต่มีหยวนหยวนส่งน้ำแกงปลาและน้ำแกงไก่มาให้เขาทุกเช้า เขาเองแม้จะเริ่มคิดถึงนางมากแต่ไม่กล้าไปหานางที่ห้อง เพราะความอับอายที่ลูกผู้ชายคนหนึ่งต้องถูกจู่โจมอย่างสิ้นท่า ไร้การต่อต้านแม้นางจะพูดว่านางเป็นคนผิด แต่เขารู้ดีว่าไม่ใช่ หากวันนั้นเขาไม่ยินยอมจริงๆ นางตัวเล็กเพียงนั้นจะถึงขั้นขืนใจเขาได้หรือ เขาประเมินความต้องการของเขาผิดไป ไม่นึกว่าจะต้องการนางมากถึงขั้นขาดสติ ปล่อยให้เรื่องราวเช่นนั้นเกิดขึ้นต่อมาลู่มู่เฉินยังได้ยินพ่อบ้านพูดว่านายหญิงผู้เฒ่าร้อนใจจนทำอะไรไม่ถูก เพราะจู่ๆ หลี่เฟิ่งเซียนก็กลับไปเที่ยวหอเข่อซินอีกแล้ว ท่านพ่อบ้านขอให้เขาช่วยพูดกับคุณหนูใหญ่ว่าไม่ควรไปเที่ยวสถานที่เช่นนั้นอีกเพราะนางแต่งงานแล้วแต่เมื่อเขาเดินไปถึงหน้า

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 53 ตื่นตะลึง (NC)

    หลี่เฟิ่งเซียนหันไปมองแท่งหยกที่นางกำไม่มิดนั้น กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น ตัดสินใจยกก้นขึ้นและจับท่อนหยกร้อนของเขาถูไปมา ยามนี้ผลท้อของนางเต็มไปด้วยน้ำแห่งความสุขแล้ว‘เพียงลูบคลำเจ้านี่ ข้าก็สามารถหลั่งน้ำแห่งความสุขได้แล้วหรือ’ นางสงสัย จำได้อาหงบอกว่าเช่นนี้นางจะเจ็บน้อยลงลู่มู่เฉินรู้ทันทีว่านางคิดจะทำอะไร ถึงเขาจะอยากให้นางทำ และต้องการมากเพียงใด แต่มโนสำนึกของเขาและความตั้งใจของเขายังคงทำให้เขามีแรงจะดึงสติกลับมาได้“อย่า อย่าทำเช่นนี้” เขาขอร้องอย่างร้อนรน“เจ้าไม่อยากเสียใจภายหลังหรอกนะ เชื่อข้าเถิด เฟิ่งเอ๋อร์” เขาอ้อนวอนนาง แต่หลี่เฟิ่งเซียนใช้มือข้างหนึ่งยันเขาไว้ บังคับไม่ให้เขาลุกขึ้นหนีไปไหน มืออีกข้างของนางก็จับแท่งหยกร้อนนั่นถูไปมาที่ร่องกลีบดอกไม้ของนาง ก่อนที่นางจะออกแรงดันตัวเองลงไป หลี่เฟิ่งเซียนรู้สึกได้ถึงความดุดันของท่อนหยางร้อนลวกของเขาที่กำลังดุนดันเข้าไปในร่องกลีบดอกท้อ“พอแล้ว ขอร้อง อย่าทำเช่นนี้ อย่า” เสียงต่ำแหบพร่าของเขาขอร้องให้นางหยุด ในขณะที่อีกใจหนึ่งของเขากำลังรอให้นางดันตัวลงมากอดรัดเอ็นอุ่นนั้นไว้ เพียงแค่นางถูไถโลมเล้าเคล้าคลึงไปมา ความนุ่มลื่

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 52 ข้าจะเบามือ (NC)

    เขาพลิกตัวอยากจะกระโดดหนีลงไปด้านล่าง แต่เพียงแค่เขาเอียงตัวนางก็ใช้เท้าเล็กๆของนางเหยียบลงมาที่ไหล่ของเขา ดันให้เขาพลิกตัวประชันหน้ากับนางตรงๆ เขาอยากมีแรงมากกว่านี้เพื่อดันเท้านั้นให้หลุด น่าเสียดายที่วันนี้เขาอ่อนแอมากกว่าทุกที เขายังได้รับบาดเจ็บจากการทดลองยาอยู่ และภาพภรรยาตัวเปลือยเปล่า งดงามจนเขาตกตะลึง ลืมว่าต้องหนีสองมือถูกมัดไว้พ่ายหลัง ยิ่งดันให้ช่วงสะโพกแอ่นขึ้น ท่อนหยกร้อนของเขาชูชันแสดงตัวอย่างกับต้องการบอกให้นางรู้ว่าเขารู้สึกอย่างไร มันชูชันสูงใหญ่ดั่งเสาค้ำสวรรค์ก็ไม่ปาน หลี่เฟิ่งเซียนตาโต จ้องมองหัวใจสั่นไหว ลู่มู่เฉินงอขาและพยายามหนีบเจ้านั่นเอาไว้ แต่ยามนี้มันขยายใหญ่จนปิดไม่มิด ภาพที่นางอ้าขาเหยียบไหล่เขาเอาไว้ แม้งดงามจนเขาถอนสายตาไม่ได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาในฐานะบุรุษผู้หนึ่ง อย่างไรเขาก็ไม่อาจรับตัวเองได้ เขาอ้าปากเพื่อหายใจ หลับตาแน่นเพื่อลดทอนความอับอายในใจหลี่เฟิ่งเซียนมองดูเจ้าสิ่งนั้นแล้วตกใจไม่น้อย ในใจนางนึกถึงตอนเขาป่วยและนางเช็ดตัวให้เขา มันยังเล็กมากเท่านิ้วเท้าหัวแม่โป้ง แต่ยามนี้มันชูชันจนแทบจะใหญ่เท่าข้อมือของนาง! หลี่เฟิ่งเซียนเริ่มหายใจไม

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 51 จู่โจมร้อยแผน (NC)

    แต่ครั้งเข้าไปในห้องของตัวเองและเห็นพวกรูปต่างๆ ที่อาหงวาดขึ้นเพื่อการเรียนรู้เหล่านั้น ในใจนางเกิดความรู้สึกหึงหวงอย่างบอกไม่ถูก ไม่ใช่ว่าเขาไม่ยอมเข้าหอกับนาง เพราะหญิงแพศยานั่น!!...พวกเขาไปถึงไหนกันแล้ว!! มิน่าเขาถึงได้เชี่ยวชาญมาก เพียงจูบก็ทำให้นางสามารถหลั่งน้ำแห่งความสุขได้ เขาอาจจะเคยทำกับผู้อื่นมาก่อน เขาถึงทำเช่นนั้นได้อย่างเชี่ยวชาญ นางยอมไม่ได้ นางต้องรีบรวบหัวรวบหางเขา!! ทนรอให้เขายินยอมด้วยตัวเองไม่ได้แล้ว!!หลี่เฟิ่งเซียนวิ่งไปถึงหน้าห้องของเขา เห็นว่าด้านในยังมีแสงไฟอยู่ นางผลักประตูเข้าไปไม่บอกกล่าวไม่เคาะประตู“เจ้า เจ้าเข้ามาได้อย่างไร” ลู่มู่เฉินเพิ่งอาบน้ำเสร็จ เขากำลังใส่เสื้อผ้า นางก็ผลีผลามเข้ามา เขาตกใจ รีบร้อนใส่เสื้อให้เรียบร้อย แต่เชือกผูกเอวอยู่บนโต๊ะ เขายืนอยู่ใกล้เตียงนอน จึงทำได้เพียงใช้มือจับสาบเสื้อคลุมตัวยาวเอาไว้หลี่เฟิ่งเซียนเห็นว่าเขายังแต่งตัวไม่เรียบร้อย แผนในใจของนางผุดขึ้นมาเป็นร้อยแผน คำพูดของอาหงดังก้องอยู่ในหู‘หากเจ้าทำให้เขาภูมิใจมากพอ เขาจะเอ็นดูเจ้ามากขึ้น’นางหันไปปิดประตูลงกลอน ยังเดินไปปิดหน้าต่างที่เขาแง้มเอาไว้รับลมด้วย“เจ้า เจ้า

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 50 ภรรยาผู้อื่นยืนอยู่ตรงนี้

    เรื่องราวในคืนนั้น ความหอมหวานที่เขากอดกกนาง รสจูบ ความนุ่มนิ่มนุ่มนวล ทุกอย่างทำให้เขาไม่กล้าเดินไปที่เตียงนั่น แม้บนเตียงนั้นจะเปลี่ยนผ้าปูผ้าห่มใหม่ทั้งหมดแล้วก็ตาม เขายังคงรู้สึกว่ากลิ่นหอมหวานจากตัวนางยังคงติดอยู่ที่จมูก'ตัวเจ้าหอมมาก' คำพูดของหลี่เฟิ่งเซียนลอยมา นางเคยพูดชมเขาเช่นนั้นหลายครั้งแล้ว เขาไม่แน่ใจว่านางได้กลิ่นอันใดทั้งที่บนตัวเขามีแต่กลิ่นยา เขาเองก็อยากจะบอกกับนางว่า 'ตัวเจ้าหอมน่ากินมาก' เพราะบนตัวของนางมีกลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายดอกไม้ผสมกลิ่นบางอย่างคล้ายหนิวหน่าย[1] ต้มผสมน้ำผึ้ง เป็นอาหารของชาวอิ่นตู้ที่เขาเคยได้ลิ้มลองเมื่อครั้งยังท่องเที่ยวไปทั่ว มันอร่อยและหอมติดจมูก ดังนั้นเมื่อเขาได้กลิ่นนี้จากตัวนาง เขาจึงรู้สึกน้ำลายสอ อยากจะกลืนกินครั้งแล้วครั้งเล่า เสียดายก็แต่เขาพูดออกไปเช่นนั้นไม่ได้ ในที่สุดลู่มู่เฉินก็ดึงผ้าห่มจากเตียงและลงไปนอนบนพื้นแทน เขาไม่รังเกียจที่จะนอนบนพื้นเพราะเขาเคยนอนในที่ที่ลำบากมากกว่านี้ พื้นแข็งๆที่ทำจากไม้ขัดมันอย่างดี ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการนอนหลับของเขาลู่มู่เฉินนอนหลับด้วยความยากเย็นเพราะมัวแต่คิดถึงนาง ในขณะที่หลี่เฟิ่งเซียนแทบ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status