Share

บทที่ 8

Author: อวินจงมี่
คนที่อยู่ข้างเขาถามว่า “เกิดอะไรขึ้นเหรอ”

“เหมือนเห็นคนรู้จักคนหนึ่งน่ะ”

พวกเขากับเฟิงถิงเซินเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก และก็รู้ว่าหรงฉือชอบเฟิงถิงเซิน

พูดตามตรง หรงฉือสวยมาก แต่ดูเงียบๆ สวยก็จริง แต่ไม่มีอะไรโดดเด่น ไม่ใช่สไตล์ที่เฟิงถิงเซินชอบ

เฟิงถิงเซินจึงรักษาระยะห่างจากอีกฝ่าย และพวกเขาก็ดูจะไม่ค่อยชอบหรงฉือ

พวกเขาไม่ค่อยได้เจอเธอบ่อยนัก แต่พอเจอกันก็ไม่อยากทักทายเธอ

พูดตามตรง ภาพของหรงฉือในความทรงจำของเขาเริ่มเลือนรางแล้ว เขาก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองมองผิดหรือเปล่า

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะเป็นหรงฉือจริงๆ เขาก็ไม่ได้ใส่ใจ

เขาไม่ได้พูดอะไรอีก หันหลังแล้วกลับเข้าห้องส่วนตัว

.......

หรงฉือไม่ได้สังเกตเห็นฉีอวี้หมิง

หลังจากออกจากโรงแรมเธอก็พาฉู่จื่อหลานกลับที่พัก และคืนนั้นก็ค้างคืนที่นั่นเพื่อดูแลฉู่จื่อหลาน

เมื่อฉู่จื่อหลานตื่นมาเห็นหรงฉือจึงสวมกอดเธอด้วยความซาบซึ้งใจ “เมื่อคืนลำบากเธอแล้ว วันหลังฉันจะเลี้ยงข้าวนะ!”

หรงฉือได้ทำอาหารเช้าเสร็จแล้ว เธอตบหัวฉู่จื่อหลานเบาๆ พร้อมพูดว่า “ลุกขึ้นมาอาบน้ำล้างหน้าล้างตา อาหารเช้าใกล้จะเย็นหมดแล้ว”

ฉู่จื่อหลานกอดเธอไว้ ซบหน้าที่เอวของเธอไม่ยอมปล่อย “เสี่ยวฉือ เธอทั้งนุ่มทั้งหอมมาก กอดแล้วรู้สึกสบายดีจัง~”

หรงฉือ “...”

หลังจากฉู่จื่อหลานอาบน้ำล้างหน้าเสร็จ เมื่อเห็นอาหารเช้าหอมกรุ่นบนโต๊ะที่หรงฉือเตรียมไว้ก็รู้สึกมีความสุขอย่างมาก และรู้สึกจากใจจริงว่าใครได้แต่งงานกับหรงฉือ ถือว่าคนนั้นโชคดีราวกับเก็บของล้ำค่าได้

แต่เมื่อนึกถึงการแต่งงานของหรงฉือและเฟิงถิงเซิน เธอจึงไม่พูดมันออกมาเพราะกลัวว่าหรงฉือจะเสียใจ

เธอนั่งลงแล้วกินไปพลางเล่นโทรศัพท์

แต่หลังจากนั้นไม่นานสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป และอดไม่ได้ที่จะถามหรงฉือว่า “เฟิงถิงเซินกลับประเทศแล้วเหรอ”

หรงฉือ “อืม”

ฉู่จื่อหลานยื่นโทรศัพท์ให้หรงฉือ

หรงฉือเหลือบมองแวบหนึ่งแล้วก็พบว่าเป็นไทม์ไลน์ของฉีอวี้หมิง ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเฟิงถิงเซิน

อีกฝ่ายโพสต์รูปถ่ายที่พวกเขาปาร์ตี้ด้วยกันเมื่อคืนหลายรูป

คําบรรยายภาพเขียนว่า : สุขสันต์วันเกิดสาวสวยเจ้าของวันเกิด~

แม้ว่าจะเป็นการอวยพรวันเกิดให้กับหลินอู๋ แต่ในภาพตารางเก้าช่องเป็นภาพคู่ของเฟิงถิงเซินและหลินอู๋ไปแล้วสี่ภาพ

โดยเฉพาะช่วงที่ตัดเค้ก เฟิงถิงเซินและหลินอู๋ ทั้งสองคนช่วยกันตัดเค้กด้วยมีดคริสตัลเล่มเดียวกัน

ส่วนเฟิงจิ่งซิน ลูกสาวของเธอกลับไม่ปรากฏในเฟรมตั้งแต่ต้นจนจบ คงเป็นเพราะกลัวว่าคนที่บ้านเก่าของตระกูลเฟิงจะรู้เรื่องนี้เข้า อย่างไรเสีย คุณหญิงย่าเฟิงก็เพื่อนสนิทกับคุณยายของเธอ เพราะเรื่องระหว่างแม่ของเธอกับแม่ของหลินอู๋ คุณหญิงย่าจึงไม่ชอบหลินอู๋มาโดยตลอด

ถ้าคุณหญิงย่ารู้ว่าเฟิงถิงเซินปล่อยให้เฟิงจิ่งซินสนิทกับหลินอู๋ คุณหญิงย่าคงจะโกรธมากแน่ๆ

แค่ดูรูปถ่าย คนที่ไม่รู้คงจะคิดว่าเฟิงถิงเซินและหลินอู๋เป็นคู่รักกันจริงๆ ดังคำเล่าลือ

แต่ก็สามารถมองออกว่าเฟิงถิงเซินเป็นคนจัดงานเลี้ยงวันเกิดนี้ให้หลินอู๋โดยเฉพาะ

เมื่อนึกถึงตอนที่เธอโดนเมินใส่ในวันเกิดเมื่อครึ่งเดือนก่อน หรงฉือจึงเบือนสายตาหนี

ฉู่จื่อหลานมองเธอด้วยความเป็นห่วง “เสี่ยวฉือ——”

“ไม่เป็นไร พวกเขาจะเป็นยังไงก็ไม่มีความสำคัญกับฉันแล้ว” หรงฉือคืนโทรศัพท์ให้เธอ “ฉันขอหย่ากับเฟิงถิงเซินแล้ว”

“อะไรนะ!”

ฉู่จื่อหลานค่อนข้างตกใจมาก “เธอ เธอเป็นคนขอหย่าเหรอ?!”

“อืม”

ความจริงแล้วก่อนหน้านี้ฉู่จื่อหลานไม่ได้เกลียดเฟิงถิงเซิน

ตรงกันข้าม เมื่อก่อนเธอยังเคยชื่นชอบเขามาก ถึงขั้นเคยรู้สึกหวั่นไหวกับเขาด้วยซ้ำ

แต่ไม่มีอะไรอื่น สาเหตุหลักเป็นเพราะเฟิงถิงเซินโดดเด่นเกินไปจริงๆ

หรงฉือเรียนข้ามชั้นถึงสามชั้น สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของประเทศตั้งแต่อายุไม่ถึงสิบแปดปี หลังจากนั้นไม่นานก็ก่อตั้งบริษัทเทคโนโลยีของตัวเอง และได้รับสิทธิบัตรหลายรายการ สำหรับเธอก็ถือว่าสุดยอดมากแล้ว

แต่ได้ยินมาว่าเฟิงถิงเซินสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยตั้งแต่อายุสิบสามปี

หลังจากเฟิงถิงเซินสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยไม่นานก็ไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ

ว่ากันว่าตอนเขากลับมาจากต่างประเทศก็ได้ก่อตั้งบริษัทของตัวเองหลายแห่ง ซึ่งทั้งหมดได้รับการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

แต่ตอนนั้นเฟิงถิงเซินยังอายุไม่ถึงยี่สิบปี

บริษัทของเฟิงถิงเซินครอบคลุมทั้งด้านเทคโนโลยี การแพทย์ บันเทิง และการท่องเที่ยว

ภายหลังหลายปีต่อมา เขาก็ได้สืบทอดเฟิงซื่อกรุ๊ปในขณะที่ก่อตั้งบริษัทของตัวเอง

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาได้ทำให้เฟิงซื่อกรุ๊ปยกระดับไปอีกขั้นอย่างง่ายดาย

คนในวงการนี้ต่างต้องยกนิ้วโป้งทุกครั้งที่พูดถึงเฟิงถิงเซิน

ยิ่งไปกว่านั้น รูปลักษณ์หน้าตาของเฟิงถิงเซินก็โดดเด่นมากเช่นกัน

ดังนั้นฉู่จื่อหลานจึงไม่แปลกใจเลยที่อัจฉริยะอย่างหรงฉือจะตกเป็นของอัจฉริยะอย่างเฟิงถิงเซิน

แต่ว่าเฟิงถิงเซินก็ไร้ความปราณีกับคนที่เขาไม่ชอบจริงๆ

เมื่อนึกถึงว่าเฟิงถิงเซินเข้าใจหรงฉือผิดตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทำลายหัวใจที่จริงใจของหรงฉืออย่างไม่เห็นคุณค่า เธอก็หมดศรัทธาในตัวเฟิงถิงเซินอย่างสิ้นเชิง

หรงฉือรักเฟิงถิงเซินมากแค่ไหน ฉู่จื่อหลานเห็นมันในสายตาตลอด

หลายปีที่ผ่านมา ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยกล่อมให้หรงฉือหย่า

แต่หรงฉือเอาแต่ส่ายหน้าและเงียบตลอด

ดังนั้นเธอจึงไม่เคยคิดว่าหรงฉือจะเป็นคนขอหย่าจริงๆ

เธอกินอาหารเช้าไม่ลงแล้ว มองหรงฉืออย่างเห็นใจ “เกิดอะไรขึ้น”

อะไรที่ทำให้หรงฉือผู้มั่นคงในความรักที่มีต่อเฟิงถิงเซินเสมอมาขอหย่าก่อน เธอรู้สึกว่าต้องมีเรื่องอะไรบางอย่างที่เธอไม่รู้เกิดขึ้นแน่นอน

หรงฉือครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนพูดว่า “จริงๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร คงเป็นเพราะผิดหวังมาเยอะ จู่ๆ ก็รู้สึกเหนื่อยขึ้นมา ก็เลยอยากหย่าก็ได้”

ฉู่จื่อหลานรู้นิสัยของหรงฉือดี เธอรู้ว่าถ้าหรงฉือตัดสินใจอะไรไปแล้ว ต่อให้ตอนนี้จะยังตัดใจจากเฟิงถิงเซินไม่ได้ เธอก็จะไม่เปลี่ยนใจง่ายๆ

เธอจริงจัง

ฉู่จื่อหลานเข้าไปกอดหรงฉือ “ไม่เป็นไรนะ การหย่าก็เป็นเรื่องดี”

หรงฉือ “อืม”

หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ หรงฉือก็ออกจากที่พักของฉู่จื่อหลานเพื่อไปทำงาน

ก่อนที่เธอจะย้ายออกมา แม้ว่าเธอและเฟิงถิงเซินจะทำงานที่เดียวกัน แต่ก็ออกบ้านคนละเวลา ไม่เคยไปทำงานพร้อมกันเลย

อีกทั้งเขายังระแวงเธออย่างมาก ปกติที่บริษัท มีบางครั้งพวกเขาก็ไม่เจอกันเลยตลอดหนึ่งเดือน

ตอนนี้เธอย้ายออกมาแล้ว แต่กลับบังเอิญเจอกันติดต่อกันสองวันเลย

วันนี้เฟิงถิงเซินยังคงหล่อเหลามากเหมือนเช่นเคย และสุขุมมากเหมือนแต่ก่อน ความเย็นชาบนใบหน้าของเขาจะชัดเจนขึ้นทุกครั้งที่เห็นเธอ

เฟิงถิงเซินแค่เหลือบมองเธอแวบหนึ่งก่อนจะเบือนสายตาหนีเช่นเดียวกับเมื่อวาน

หรงฉือก็ก้มหน้า และเรียกเบาๆ ว่า "ประธานเฟิง" เช่นเดียวกับเมื่อวาน หลังจากเฟิงถิงเซินเดินจากไป เธอถึงก้าวเข้าบริษัท

เธอไม่รู้ว่าวันนี้หลินอู๋มาที่บริษัทหรือไม่ และเธอก็ไม่สนใจ เธอจดจ่ออยู่กับการทำงานของตัวเองอย่างเงียบๆ

กระทั่งตอนเที่ยง คุณยายโทรหาเธอ

“เสี่ยวฉือ ทางเมืองชีหงส่งแพะตัวหนึ่งมาให้ ตอนนี้อากาศเริ่มเย็นแล้ว ตอนเย็นกลับมากินข้าวกันเถอะ ยายให้คนทำเมนูจากแพะทั้งตัวไว้ให้เธอทาน”

พอได้ยินเสียงที่อ่อนโยนของคุณยาย หรงฉือก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจ “ค่ะ เลิกงานแล้วหนูจะกลับไปทันที”

วันนั้นหรงฉือไม่ได้เจอกับเฟิงถิงเซินอีกเลย ยกเว้นตอนเช้า

วันนั้น ขณะที่เธอเก็บของเสร็จและกำลังเตรียมตัวเลิกงานตรงเวลา เฉิงหยวนก็เอาเอกสารชุดหนึ่งมาให้เธอ และบอกให้เธอจัดการโดยด่วน

หรงฉืออึ้งไปชั่วขณะ

แม้จะบอกให้เธอจัดการโดยด่วน แต่พอหรงฉือดูเนื้อหาแล้วก็รู้ว่าจริงๆ แล้วเอกสารนี้ไม่ได้ต้องใช้เร่งด่วนขนาดนั้น

ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอจะรับมันด้วยรอยยิ้ม และสัญญาว่าจะทําให้เสร็จโดยเร็วที่สุด

เพราะไม่อยากมีอภิสิทธิ์เหนือใคร

แต่วันนี้เธอไม่อยากพยายามทำให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว——โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเฟิงถิงเซิน

และเธอก็เหนื่อยแล้วด้วย

ตอนนี้เธอแค่ต้องการกลับบ้านเร็วๆ เพื่อไปอยู่กับคุณยาย ไม่อยากทำงานล่วงเวลา

ก่อนหน้านี้เธอมักอยากจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเลขาส่วนตัวหลายคนที่อยู่ข้างๆ เฟิงถิงเซินมาโดยตลอด

แต่ตอนนี้ไม่มีความจําเป็นนั้นแล้ว

อีกอย่าง เมื่อวานเฉิงหยวนกล่าวหาเธอโดยไม่สนถูกผิด เธอไม่ได้ใจกว้างพอที่จะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เธอมองเฉิงหยวนแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า "ฉันจะไม่ทำงานนี้ตอนนี้ ฉันจะเลิกงานแล้ว”
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Mga Comments (23)
goodnovel comment avatar
Toy Parichat
ทำอย่างไรจะได้อ่านต่อ
goodnovel comment avatar
Thaweewattana
วิธีการซื้อเหรียญอ่านต่อต้องทำอย่างไรคะ
goodnovel comment avatar
Thaweewattana
หาอ่านได้ที่ไหนคะ
Tignan lahat ng Komento

Pinakabagong kabanata

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 471

    เฟิงถิงเซินยุ่งอยู่ตลอด จึงไม่สนใจเขา ฉีอวี้หมิงนั่งไปสักพัก ก็รู้สึกเบื่อขึ้นมา จึงพูดอย่างอดไม่ได้ว่า “ช่างเถอะ ฉันไปหาฉางปั่วดีกว่า”เฟิงถิงเซินไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้น เขากล่าวเสียงเรียบ “ฉางปั่วมีเวลาว่างมาสนใจนายงั้นสิ?”ฉีอวี้หมิง “…”เป็นดังที่เฟิงถิงเซินบอก เมื่อฉีอวี้หมิงมาถึงเฮ่อซื่อกรุ๊ป เฮ่อฉางปั่วก็กำลังยุ่งจริง ๆเห็นว่าเขาก็ไม่ว่างมาสนใจตนเหมือนกัน ฉีอวี้หมิงจึงพูดอย่างอดไม่ได้ว่า “เวลาที่จะไปกินข้าวมื้อเที่ยงด้วยกันคงพอมีนะ?”เฮ่อฉางปั่วพลิกเปิดหน้าเอกสารแล้วพูดว่า “ตอนเที่ยงต้องไปนัดบอด”ฉีอวี้หมิง “…”แต่ทว่า เขาค่อนข้างสนใจเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน จึงกล่าว “คุณป้ายังจัดการให้นายไปนัดบอดไม่หยุดอีกเหรอ? คนที่นายไปนัดบอดด้วยเมื่อหลายวันก่อน ได้ยินว่าพอเจอนายแล้วก็เริ่มตามจีบนายใหญ่เลย ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง? เลิกจีบเพราะท้อใจไปหรือยัง?”เฮ่อฉางปั่วยังไม่ทันได้พูดอะไร เลขาของเขาก็หอบช่อดอกไม้และเคาะประตูเดินเข้ามา แล้วพูดด้วยสีหน้าลังเล “ประธานเฮ่อ นี่คือดอกไม้ที่คุณหนูท่านนั้นส่งมาให้คุณ ฉันสื่อสารกับเธอไม่รู้เรื่อง และไม่อยากทำให้พนักงานส่งของต้องลำบากใจน่ะค่ะ…”เฮ่

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 470

    บ้านตระกูลหรงหรงฉือได้ปรึกษาเรื่องประมูลเพชรกับคุณยายหรงก่อนที่จะไปร่วมงานประมูลเมื่อเห็นหรงฉือใช้เงินมากมายประมูลเพชรที่เปล่งประกายวิบวับกลับมา ผ่านไปสักพักใหญ่แล้วกว่าที่คุณยายหรงจะเอ่ยปากพูดขึ้นว่า “เมื่อก่อนแม่ของหลานชอบเพชรมากจริง ๆ เพียงแต่ว่า หากเพชรได้ผลจริง งั้นเพชรก็อาจทำให้แม่ของหลานได้สติกลับคืนมา แต่กลับกันก็อาจจะทำให้เธอถลำลึกลงไปในอีกขั้นหนึ่ง…ของความบ้าคลั่งได้เหมือนกัน ดังนั้น…เพชรน่ะ เสี่ยวฉือเธอเก็บรักษาไว้ให้ดีก่อนดีกว่า ส่วนเรื่องที่จะใช้เพชรรักษาแม่ ให้ผ่านไปสักพักหนึ่งก่อน ค่อยดูสถานการณ์แล้วว่ากันอีกที”ความจริงแล้วหรงฉือก็ตระหนักถึงจุดนี้ได้แล้วเช่นกันเธอเห็นด้วยกับความคิดของคุณยายหรงเพียงแต่เพชรหายากนั้นหายากสมชื่อ หากพลาดโอกาสครั้งนี้ไป ก็ไม่รู้ว่าต้องรอไปอีกนานแค่ไหน บวกกับตอนนี้เธอไม่ขาดแคลนเงินทองจริง ๆ ดังนั้น ต่อให้ยังไม่ได้ใช้ในตอนนี้ ทว่าเธอก็ยังประมูลเพชรกลับมาอยู่ดีเมื่อได้ยินยายตัวเองพูดเช่นนี้ เธอจึงเอ่ยว่า “ได้ค่ะ”สองวันนี้เธอไม่ได้ไปเยี่ยมคุณย่าเฟิงที่โรงพยาบาลเลยเช้าวันถัดมา เธอไปที่โรงพยาบาลอีกครั้งเธอมาถึงค่อนข้างเร็ว แต่ทว่า

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 469

    คิดไม่ถึงว่าเพชรเม็ดนี้จะถูกหรงฉือประมูลไปได้จริง ๆถึงแม้ว่าฉีอวี้หมิงจะเตรียมใจไว้แล้ว แต่พลันนั้นที่ได้ฟังผลการประมูล ฉีอวี้หมิงก็ยังไม่วายรู้สึกอึ้งอยู่บ้างจนกระทั่งงานประมูลจบลงอย่างเป็นทางการ และหรงฉือกับเหอหมิงเสวี่ยได้ไปดำเนินการด้านเอกสารแล้ว เขาถึงค่อยดึงสติกลับมาได้ จึงส่งข้อความไปบอกเฟิงถิงเซินว่า [หรงฉือจ่าย 8 พันล้านซื้อเพชรนั้นไปได้แล้ว…]เฟิงถิงเซิน [อืม]ฉีอวี้หมิง “…”เรื่องที่ทำให้คนคาดไม่ถึงขนาดนี้ เขาตอบกลับมาง่าย ๆ แค่ “อืม” คำเดียวเนี่ยนะ?แล้วก็...[เมื่อกี้นายตอบฉันมาแค่ ‘.’ มันหมายความว่ายังไง?]เฟิงถิงเซินน่าจะยุ่งอยู่ ผ่านไปสักพักใหญ่ ๆ กว่าจะตอบกลับมาว่า [หมายความว่านายสนใจเรื่องคนอื่นให้มันน้อย ๆ หน่อย]ฉีอวี้หมิง “…”เขาก็แค่อึ้งไปหน่อยไม่ใช่หรืออย่างไร?อย่างไรเสีย บางทีอาจเป็นเพราะเธออยากพิสูจน์ว่าตอนนั้นที่เธอทำทุกวิถีทางให้ได้แต่งงานกับเฟิงถิงเซินไม่ใช่เพราะเงิน หลายปีที่หรงฉือแต่งงานกับเฟิงถิงเซิน ในเวลาปกติก็ดูเหมือนว่าเธอแต่งตัวค่อนข้างธรรมดาทีเดียวซุนเยว่ชิงกับหลินลี่หลานก็ตะลึงในความมือเติบของหรงฉือเช่นกัน ผ่านไปนานสองนานก็ยังดึงสติ

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 468

    พอเสียงของหรงฉือดังขึ้น ไม่เพียงซุนเยว่ชิง หลินลี่หลานและเหรินจี่เฟิงรวมถึงฉีอวี้หมิงทั้งสามคนก็ตะลึงพรึงเพริดเช่นกันยิ่งไม่ต้องพูดถึงหลินลี่หลานเลยส่วนเหรินจี่เฟิงก่อนหน้านี้เคยทำความรู้จักกับหรงฉือมาคร่าว ๆ เท่านั้น จึงรู้ว่าครอบครัวเธอค่อนข้างธรรมดา แม้ว่าปีนี้ธุรกิจตระกูลหรงจะรุ่งขึ้นแล้ว แต่ยังไม่น่าถึงขั้นมีเงินเหลือเฟือจนสามารถเอาออกมาหลายพันล้านเพื่อซื้อเพชรเม็ดหนึ่งได้มั้ง?ฉีอวี้หมิงมั่นใจว่าตัวเองรู้สถานการณ์ของหรงฉือเป็นอย่างดีด้วยความสามารถในตอนนี้ของตระกูลหรง แม้แต่ให้เอาเงินออกมา 5 ร้อยล้านคาดว่าก็ยังไม่อาจทำได้ด้วยซ้ำ แล้วนับประสาอะไรกับ 2.5 พันล้าน?ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้เฟิงถิงเซินจะจ่ายเงิน 1 หมื่นล้านให้หรงฉือล่วงหน้าเพื่อเป็นการขอบคุณเธอ ให้เธอนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของตระกูลหรงแต่กระนั้นต่อให้ตอนนี้ธุรกิจของตระกูลหรงจะดีขึ้นแล้ว ถึงตอนนี้เงินที่เหลือจาก 1 หมื่นล้านนั่นจะยังอยู่ในมือหรงฉือไม่น้อย ทว่าหรงฉือสามารถเอาเงินมากมายขนาดนี้ออกมาซื้อเพชรเม็ดหนึ่งได้อย่างไม่คิดมากน่ะ มันดูจะเกินไปหน่อยหรือเปล่า?คิดมาถึงตรงนี้ เขาก็รีบเปิดโทรศัพท์แล้วส่งข้อความไ

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 467

    อีกด้านหนึ่งหลินอู๋ “แม่คะ นี่การ์ดเชิญที่แม่ขอค่ะ”“จ้ะ ฝากขอบคุณถิงเซินแทนแม่ด้วยนะ” ซุนเยว่ชิงว่าแล้ว ก็นำการ์ดเชิญใส่ในกระเป๋าพลางถาม “พรุ่งนี้ลูกจะไปงานประมูลพร้อมพวกเรา หรือว่าให้ถิงเซินมารับลูกไป?”หลินอู๋กล่าว “พรุ่งนี้หนูกับถิงเซินไม่ไปทั้งคู่ค่ะ”ซุนเยว่ชิงได้ฟังดังนั้น ท่าทางที่รูดปิดซิปก็ชะงักไปเล็กน้อย “โอเค”……ในคืนวันงานประมูล หรงฉือและป้าสะใภ้เหอหมิงเสวี่ยมุ่งหน้าไปยังงานประมูลด้วยกันเมื่อมาถึงจุดหมาย ระหว่างตรวจสอบการ์ดเชิญ หรงฉือเห็นซุนเยว่ชิงกับหลินลี่หลานที่เดินอยู่ข้างหน้าเธอซุนเยว่ชิงกับหลินลี่หลานก็เห็นพวกเธอแล้วเช่นกันเมื่อเห็นพวกหรงฉือ ซุนเยว่ชิงขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างไม่ทิ้งร่องรอยสินค้าประมูลครั้งนี้มีราคาเปิดประมูลที่สูงเกินไป ดังนั้น ผู้ที่ได้รับเชิญจึงมีแต่มหาเศรษฐีผู้มีชื่อเสียงระดับต้น ๆ จากทั่วทุกมุมโลกเศรษฐีทั่วไปไม่มีทางได้รับการ์ดเชิญด้วยซ้ำหากไม่ใช่เพราะเฟิงถิงเซิน เธอก็ไม่อาจได้รับการ์ดเชิญเช่นกันแต่หรงฉือ...จะว่าไปตอนนี้อวี้มั่วซวินกำลังอยู่ในช่วงรุ่งโรจน์ ด้วยความสัมพันธ์ระหว่างหรงฉือกับอวี้มั่วซวิน หากอวี้มั่วซวินช่วยขอการ์

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 466

    ซุนลี่เหยาทำปากเบ้ ก่อนจะส่งเสียงฮึดฮัดออกมาเบา ๆ แล้วพูดว่า “รับโปรเจกต์เยอะแยะแบบนี้ในคราวเดียว ระวังจะทำไม่ไหวสุดท้ายได้วายวอดแน่”ขณะที่ซุนลี่เหยากล่าวคำพูดนี้ ความจริงแล้วเธอไม่มีความมั่นใจเลยสักนิด ในทางตรงกันข้าม ฟังแล้วเหมือนว่าจะอิจฉาเสียด้วยซ้ำอย่างไรเสีย ในเมื่อฉางโม่กล้ารับโปรเจกต์มากมายเช่นนี้ โดยทั่วไปแล้วก็น่าจะจัดการได้ไหวอยู่ซุนซู่ซานผู้เป็นพ่อของซุนลี่เหยาก็อิจฉาเช่นกันนึกได้ว่าตอนนี้ทั้งบริษัทตระกูลหลินและซวิ่นตู้ล้วนไม่สามารถวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ออกมาได้ แต่ทว่าทางฉางโม่ราวกับไม่เคยเจออุปสรรคเลยอย่างไรอย่างนั้น จึงพูดอย่างอดไม่ได้ว่า “ก็ไม่รู้ว่าอวี้มั่วซวินหาคนยังไง ทำไมคนที่หามาได้ล้วนแต่เป็นอัจฉริยะที่เก่งกาจมากทั้งนั้น?”ตั้งแต่ฉางโม่ชื่อเสียงโด่งดัง ความจริงแล้วไม่ว่าซวิ่นตู้หรือบริษัทเทคโนโลยีของตระกูลหลินล้วนเคยลองไปแย่งตัวพนักงานจากฉางโม่แต่ทว่า หลังจากฉางโม่มีชื่อเสียง บริษัทยักษ์ใหญ่ที่หมายจะแย่งตัวเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคของฉางโม่ ไม่ว่าจะทั้งในและต่างประเทศก็มีเยอะเสียจนนับแทบไม่หวาดไม่ไหว บริษัทเทคโนโลยีของตระกูลหลินกับซวิ่นตู้นั้นเรียกได

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status