Share

2.โอ้บ้านแพน

last update Dernière mise à jour: 2025-06-14 00:09:08

จืดชะโงกหน้าเข้าไปใกล้หูมารศรีพลางจีบปากจีบคอเอ่ยด้วยน้ำเสียงกระฟัดกระเฟียด “อีนังดอกเอื้องต้องเป็นตัวการแน่เชียวน้องศรี มันคงเป็นคนห้ามไม่ให้นังชมมาบอกเราแน่ ๆ”

            “หึ...อีนังนี่มันร้ายนัก มันคิดจะกันท่าไม่ให้ฉันตามไปดูพี่วิชาญละสิ” มารศรีเอ่ยเสียงสะบัดอย่างเกรี้ยวกราดแล้วเม้มปากเป็นเส้นด้วยความขัดใจ

            “แต่เขาไปแสดงไกลถึงบางกอกนู่น พ่อเอ็งจะให้ไปหรือวะ” สาวใหญ่เอื้อนเอ่ยอย่างคนที่รู้จักนิสัยของผู้ใหญ่กุศลเป็นอย่างดี

            “ก็จริงจ้ะ...พ่อคงไม่ให้ฉันไปหรอก” มารศรีเอ่ยกระฟัดกระเฟียด

            “ก็นั่นนะสิ อย่างนั้นเอ็งก็อย่าไปโกรธนังชมกับเพื่อนของมันเลยวะยังไงเอ็งก็ไปไม่ได้อยู่แล้ว เอาไว้รอดูที่บ้านเราก็ได้ ปิดวิกที่บางกอกเสร็จ เขาก็มาเล่นที่บ้านเราอยู่แล้ว” สาวใหญ่เอ่ยปลอบ

            “ป้าไม่ต้องห่วง ฉันไม่โกรธนังชมมันหรอกจ้ะ” มารศรีตอบอย่างใจคิดเพราะคนที่หล่อนโกรธไม่ใช่ชวนชมแต่เป็นนางเอกลิเกนามว่าดอกเอื้องต่างหาก

           

            ไอร้อนจากแสงอาทิตย์สาดส่องไปทั่วคุ้งน้ำซึ่งเนืองแน่นไปด้วยลำเรือของเหล่าพ่อค้าแม่ขายลอยเรียงบนผิวน้ำใกล้ท่าเรือเพื่อค้าขายกับผู้โดยสารจำนวนมากที่กำลังเดินทางมากับเรือเมล์ขนาดใหญ่ซึ่งแล่นรับส่งผู้โดยสารจากต่างสารทิศและเรือทุกลำจะต้องเข้าจอดเทียบท่ารับส่งผู้โดยสารที่ท่าเรือใหญ่แห่งนี้

            หญิงสาวรูปร่างสะโอดสะองยืนชะเง้อคอคอยอยู่บนท่าเรือ เสื้อผ้าสีสดของหล่อนโดดเด่นกว่าผู้คนที่ยืนห้อมล้อมอยู่โดยรอบหล่อนเปิดยิ้มเมื่อได้ยินเสียงเครื่องยนต์และกระดิ่งหัวเรือของเรือรุ่งเรืองรัศมีเรือเมล์สีแดงขนาดใหญ่ที่แล่นจากป่าโมกและกำลังลอยลำใกล้เข้ามาเพื่อจอดเทียบท่ารับส่งผู้โดยสารในอีกไม่กี่อึดใจข้างหน้า

            “เรือมาแล้วพี่จืด ไม่กี่อึดใจเราก็จะหนีพ้นสายตาของพ่อกับไอ้พี่แอ๊ะซะที กว่าทุกคนจะรู้ตัวพวกเราก็คงไปถึงบ้านแพนกันแล้วถึงเวลานั้นพ่อกับแม่ก็ตามเราไม่ทันแล้วละ” ลูกสาวอดีตผู้ใหญ่บ้านฉีกยิ้มกว้างเมื่อหันไปเอ่ยกับคนสนิทของตนอย่างยินดี

            “โอ๊ย...พี่ละตื่นเต้นจริง ๆ เชียวน้องศรี ไม่คิดไม่ฝันว่าครั้งนี้จะได้ไปดูลิเกถึงบางกอกเป็นครั้งแรก”

มารศรีนึกขันสีหน้าท่าทางตื่นเต้นไม่เก็บอาการของจืดเมื่อนึกถึง “บางกอก” เมืองที่ใคร ๆ ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสวยราวสรวงสวรรค์

            “คิดแล้วก็เสียดายไม่หาย หากเรารู้ข่าวเร็วกว่านี้ คงได้ไปเรือลำเดียวกับพี่วิชาญแล้วเนอะพี่จืด เป็นเพราะอีนังดอก...เอื้องแท้ ๆ” มารศรีบ่นพึมพำพลางเอ่ยจิกเรียกชื่อคู่อริด้วยความขัดเคืองใจ

จืดเห็นด้วย หากหล่อนรู้ข่าวล่วงหน้าเร็วกว่านี้สักหนึ่งวันป่านนี้หล่อนกับมารศรีคงเดินทางถึงบางกอกพร้อมกับชาวคณะลิเก ยิ่งนึกก็ยิ่งโมโหจึงบ่นขึ้นอย่างเสียดาย

            “นั่นสิ...เพราะนังดอกเอื้องคนเดียวจริง ๆ ไม่อย่างนั้นป่านนี้เราคงถึงบางกอกพร้อมพวกนั้นแล้ว”

            “ถ้าอีนังนั่นมันไม่กีดกันฉันคืนนี้เราคงได้นั่งดูพี่วิชาญแสดงกันจนหนำใจแล้ว” มารศรีถอนหายใจยาวระบายความหงุดหงิด

            “แต่ก็ชั่งมันเถอะน้องศรี ช้าไปวันก็ยังดีกว่าไม่ได้ไปเลยนะ” จืดเอ่ยพลางยกมือพนมท่วมหัวบนบานศาลพ่อใหญ่ที่เป็นที่นับถือของคนลาดชะโดด้วยน้ำเสียงแหลมเล็ก

“เจ้าพระคุณ...ขออย่าให้ลุงศลกับไอ้พี่แอ๊ะตามลูกกับน้องศรีทันเลยนะเจ้าคะ แล้วลูกกลับจากบางกอก ลูกจะต้มไข่ไปถวายพ่อใหญ่ที่ศาลเลยเจ้าค่ะ”

            เสียงกระดิ่งจากหัวเรือเมล์ส่งสัญญาณเตือนการเข้าเทียบท่าใกล้เข้ามาทำให้สองสาวหยุดสนทนาและกระวีกระวาดคว้ากระเป๋าสานบรรจุสัมภาระส่วนตัวน้อยชิ้นที่วางอยู่ข้างกายขึ้นมาถือเตรียมขึ้นเรือแล้วเดินไปต่อแถวรวมกับชาวบ้านจำนวนหนึ่งที่ยืนรอขึ้นเรือ หลังผู้โดยสารจากป่าโมก วิเศษชัยชาญลงจากเรือเรียบร้อยทุกคนจึงค่อย ๆ ทยอยกันเดินเรียงแถวขึ้นไป

สองสาวเดินไปที่บันไดชั้นสอง ปีนขึ้นไปด้านบนกวาดสายตามองหาที่นั่ง ด้านท้ายเรือบนชั้นนี้แยกที่นั่งสำหรับพระภิกษุสงฆ์ยกระดับไว้สูงกว่าพื้นปกติ ทั้งคู่เลือกที่ว่างบริเวรข้างบันไดใต้ที่นั่งสำหรับภิกษุสงฆ์ เพื่อความสะดวกในการขึ้นลงทำธุระส่วนตัว โชคดีที่วันนี้มีผู้โดยสารไม่มากนักจึงมีที่ว่างให้พวกหล่อนนั่งได้อย่างสบาย ๆ

กว่าเรือเมล์จะแล่นออกพ้นท่าเรือผักไห่ สองสาวต่างลุ้นกันอย่างกระวนกระวายว่าจะเห็นเรือบื๋อของผู้ใหญ่กุศลไล่ตามมาทัน กระทั่งเรือเมล์แล่นไกลจากฝั่งท่าเรือผักไห่ ทั้งสองจึงถอนหายใจระบายความกังวลได้อย่างโล่งอก มารศรีหยิบหนังสือนิยายที่เตรียมไว้อ่านฆ่าเวลาขึ้นมาส่วนจืดหยิบไหมพรหมที่ถักค้างไว้มานั่งทำต่อท่ามกลางเสียงพูดคุยกันเซ็งแซ่ของผู้โดยสารอื่นๆกระทั่งเวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง ระฆังหัวเรือถูกเขย่าอีกครั้งเป็นสัญญาณเตือนว่าเรือกำลังจะเทียบท่าที่บ้านแพน สองสาวจึงละมือละสายตาจากสิ่งที่สนใจขึ้นมองทิวทัศน์โดยรอบอีกหน

            “แป๊บเดียวถึงบ้านแพนละ ป่านนี้ไอ้พี่แอ๊ะคงกำลังวิ่งหน้าตาตื่นไปรายงานพ่อว่าตามหาพวกเราไม่เจอแหง ๆ เนอะพี่จืด” หล่อนนึกถึงหนุ่มวัยกลางคนรูปร่างเตี้ยป้อมเป็นกระปุกตังฉ่ายอย่างขบขัน ป่านนี้คนที่หล่อนนึกถึงคงกำลังวิ่งหน้าตั้งไปรายงานบิดาของหล่อนหลังจากตามหาไปทั่วคุ้งทั่วท่าแต่ไม่พบ

            “หรือไม่ก็อาจจะกำลังเอาเรือแล่นตามเรามาที่บ้านแพนอยู่ก็ได้นะ” จืดเอ่ยอย่างวิตกพลางชะเง้อคอมองรอบ ๆ ด้วยความไม่สบายใจ นึกภาวนาให้เรือรีบแล่นออกจากท่าบ้านแพนเร็ว ๆ

            “กลัวไปได้น่าพี่จืด ถึงจะกำลังไล่ตามมาก็ตามไม่ทันหรอก ป่านนี้อย่างเก่งก็ยังอยู่ที่ผักไห่นั่นแหละ” มารศรีเอ่ยและวางหนังสือในมือลงบนกระเป๋าสานข้างกายก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นยืน

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • คุ้งเสน่หา   5.กำนันกับผู้ใหญ่

    กำนันเปลวระบายลมหายใจแรงเมื่อนึกถึงบุตรชายคนโตที่เพิ่งเดินทางกลับเข้าบางกอกเช่นเดียวกัน“นี่ข้าไม่ได้เจอลูกชายเอ็งมากี่สิบปีแล้ววะไอ้เปลว ไปเรียนในบางกอกเสียงนานนมจนข้าแทบจะจำหน้าหลานชายไม่ได้อยู่แล้ว”“เกือบยี่สิบปีละมัง ตั้งแต่เจ้าอุ่นมันจบป.๔ แล้วไปเรียนต่อกระทั่งจบมาเป็นตำรวจก็ไม่ยอมกลับบ้าน รับใช้ทางการอยู่ที่บางกอกนั่นแหละ” กำนันเปลวเอ่ย“จริงสิ เจ้าอุ่นมันเรียนจบตำรวจนี่นะ” กุศลเอ่ยถึงหลานชายด้วยความเอ็นดู“เออ...เป็นตำรวจ ไม่ค่อยอยู่บ้านอยู่ช่องหรอก บางทีหายไปเป็นเดือน ๆ ไม่ติดต่อกลับบ้าน เพราะมัวแต่ไปสืบความลับให้ทางการเขา ทำเอาแม่เย็นจิตแม่เขากลุ้มใจ เป็นห่วงลูกแทบไม่ได้กินไม่ได้นอนนอนเลยทีเดียว” พ่อกำนันเอ่ยระบายความหนักใจให้เพื่อนฟัง“มีเมียหรือยังละลูกชายเอ็งนะ” กุศลซักด้วยความสนใจ“ยังนะสิ แม่เย็นจิตก็พยายามมองหาสาว ๆ ให้ลูกอยู่เหมือนกันแต่ไอ้คนของเรามันไม่เล่นด้วย ชอบทำหน้าตาขึงขังข่มขู่เขาร่ำไปเลยยังไม่มีเมียเสียที ไม่ได้เลือดพ่อมันเอาเสียเลย” กำนันเปลวส่ายหน้าเบา ๆ เมื่อเอ่ยถึงลูกชายเสียงเอือม“เจ้าอุ่นมันคงเบื่อผู้หญิงละมั้ง”กุศลเอ่ยยิ้ม ๆ นึกถึงหลานชายที่โตมากับครอ

  • คุ้งเสน่หา   4.สาวปากไว

    “ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้ซุ่มซ่าม มาทำให้ฉันต้องอายและเจ็บตัวทำไมล่ะ”มารศรีไหวไหล่เอ่ยตอบอย่างไม่สนใจแววตาแสดงอารมณ์ของคู่กรณี หล่อนเก็บธนบัตรในมือยัดใส่กระเป๋าก่อนจะหยิบเหรียญบาทออกมาแทนแล้วยื่นส่งให้กับแม่ค้าขนม“ผู้หญิงอะไร...หน้าเลือดชะมัด” เขาบ่นอุบแต่ไม่คิดเรียกร้องเอาเงินทอนคืนได้แต่ส่ายหน้าเบา ๆ แล้วเดินตรงไปที่ท่าเรือ เลิกใส่ใจคู่กรณีซึ่งเดินตามหลังเขามาห่าง ๆมารศรีแบะริมฝีปากใส่แผ่นหลังของชายตัวโตที่ก้าวนำหน้า หล่อนเดินตามไปห่าง ๆ เห็นอีกฝ่ายลงไปในเรือและเดินลึกเข้าไปมองหาที่นั่งชั้นล่างตรงบริเวณหัวเรือ“ดีนะที่นั่งคนละชั้น...จะได้ไม่ต้องเห็นหน้าให้เสียอารมณ์ไปตลอดทาง” หล่อนบ่นพึมพำขณะก้าวลงเรือและปีนขึ้นไปยังชั้นสองสลัดภาพใบหน้าชายหนวดครึ้มคนนั้นออกจากหัวพื้นที่บนเรือที่ค่อนข้างว่างเมื่อตอนออกจากท่าเรือผักไห่หลังสิ้นเสียงระฆังที่แขวนอยู่ตรงหัวเรือเป็นสัญญาณเตือนว่าเรือกำลังจะแล่นออกจากท่า ทุกพื้นที่เคยว่างกลับเต็มไปด้วยผู้โดยสารที่ขึ้นมาจากท่าเรือบ้านแพนและเรือค่อย ๆ แล่นฝ่ากระแสน้ำออกจากท่า มุ่งหน้าสู่บางกอกอย่างเชื่องช้า เสียงเครื่องยนต์ดังแข่งกับเสียงพูดคุยในหมู่คนโดยสารท

  • คุ้งเสน่หา   3.สะดุดรัก

    “น้องศรีจะไปไหน” จืดเงยหน้าขึ้นมองสาวรุ่นน้อง เอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัย “ฉันจะลงไปซื้อขนมมาตุนไว้กินเสียหน่อย เมื่อตะกี้ตอนอยู่ผักไห่มัวแต่กังวลเรื่องไอ้พี่แอ๊ะจนลืมซื้อเลย” มารศรีเอี้ยวหน้าหันไปตอบ “เดี๋ยวพี่ไปซื้อให้เองก็ได้ น้องศรีอยากกินอะไรล่ะ” จืดกุลีกุจอจะลุกขึ้นหวังจะบริการลูกสาวนายจ้าง “ไม่ต้อง พี่นั่งรอตรงนี้แหละ เดี๋ยวฉันลงไปเลือกซื้อเอง”มารศรีปฏิเสธแล้วเดินลงบันไดไปยังชั้นล่างช้า ๆ กวาดตามองบนท่าน้ำซึ่งเป็นที่ตั้งของตลาดบ้านแพนผู้คนจำนวนมากกำลังซื้อหาจับจ่ายสินค้ากันอย่างคึกคักสมกับเป็นท่าเรือใหญ่ เรือแจวพายเอื่อยผ่านหางตาหล่อนแล่นเข้าไปตามตรอกซอกซอยในขณะที่เรือหางติดเครื่องแล่นปรู๊ดปร๊าดรับส่งผู้โดยสารกันขวักไขว่ ลูกสาวอดีตผู้ใหญ่บ้านก้าวขึ้นไปบนท่าและเดินตรงดิ่งเข้าหาขนมแผ่นบางบนเตาที่แม่ค้าสาวกำลังละเลงแป้งเป็นวงดูน่ากิน“พี่สาวจ๊ะ เอาขนมเบื้องให้ฉันสามแผ่นสิจ๊ะ”มารศรีสั่งพลางล้วงเหรียญบาทออกจากกระเป๋ากางเกงยืนรอแม่ค้าใส่เครื่องและน้ำตาลลงในแป้งที่ละเลงอยู่บนกระทะ เมื่อขนมสุกแม่ค้าพับแผ่นแป้งทบเป็นครึ่งวงกลมหยิบขึ้นจากกระทะว

  • คุ้งเสน่หา   2.โอ้บ้านแพน

    จืดชะโงกหน้าเข้าไปใกล้หูมารศรีพลางจีบปากจีบคอเอ่ยด้วยน้ำเสียงกระฟัดกระเฟียด “อีนังดอกเอื้องต้องเป็นตัวการแน่เชียวน้องศรี มันคงเป็นคนห้ามไม่ให้นังชมมาบอกเราแน่ ๆ” “หึ...อีนังนี่มันร้ายนัก มันคิดจะกันท่าไม่ให้ฉันตามไปดูพี่วิชาญละสิ” มารศรีเอ่ยเสียงสะบัดอย่างเกรี้ยวกราดแล้วเม้มปากเป็นเส้นด้วยความขัดใจ “แต่เขาไปแสดงไกลถึงบางกอกนู่น พ่อเอ็งจะให้ไปหรือวะ” สาวใหญ่เอื้อนเอ่ยอย่างคนที่รู้จักนิสัยของผู้ใหญ่กุศลเป็นอย่างดี “ก็จริงจ้ะ...พ่อคงไม่ให้ฉันไปหรอก” มารศรีเอ่ยกระฟัดกระเฟียด “ก็นั่นนะสิ อย่างนั้นเอ็งก็อย่าไปโกรธนังชมกับเพื่อนของมันเลยวะยังไงเอ็งก็ไปไม่ได้อยู่แล้ว เอาไว้รอดูที่บ้านเราก็ได้ ปิดวิกที่บางกอกเสร็จ เขาก็มาเล่นที่บ้านเราอยู่แล้ว” สาวใหญ่เอ่ยปลอบ “ป้าไม่ต้องห่วง ฉันไม่โกรธนังชมมันหรอกจ้ะ” มารศรีตอบอย่างใจคิดเพราะคนที่หล่อนโกรธไม่ใช่ชวนชมแต่เป็นนางเอกลิเกนามว่าดอกเอื้องต่างหาก ไอร้อนจากแสงอาทิตย์สาดส่องไปทั่วคุ้งน้ำซึ่งเนืองแน่นไปด้วยลำเรือของเหล่าพ่อค้าแม่ขายลอยเรียงบนผิวน้ำใกล้ท่าเรือเพื่อค้าขายกับผู้โดยสารจ

  • คุ้งเสน่หา   1แม่ค้าขนมหวาน

    หญิงสาวรูปร่างผอมแกร็นผิวกายคล้ำหยาบนั่งอยู่ท้ายเรือกำลังพายเรือหัวแหลมขนาดเล็กซึ่งชาวท้องถิ่นเรียกว่า “เรือเข็ม” ออกจากบันไดท่าน้ำหน้าตลาดลาดชะโดมีชื่อว่านังจืด หล่อนเป็นคนสนิทของมารศรีสาวสวยวัย ๒๐ ที่นั่งเสงี่ยมอยู่ตรงหัวเรือ นังจืดกำลังพายเรือล่องไปตามลำคลองขุดที่แยกมาจากแม่น้ำน้อยไหลผ่านหน้าบ้านเรือนสองฝากฝั่งเกิดเป็นชุมชนริมน้ำขนาบข้างด้วยชุมชนเรือนแพที่ปลูกลอยเหนือผิวน้ำไปตลอดแนวลาดชะโดคือชุมชนที่เงียบสงบในเขตอำเภอผักไห่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่มีพื้นราบต่ำ น้ำท่วมถึงจึงทำให้มีปลาชะโดชุกชุมไปทั้งคุ้งน้ำ คลองลาดชะโดแยกย่อยมาจากแม่น้ำเจ้าพระยาเกิดเป็นชุมชนขนาบคลองซึ่งแบ่งออกเป็น ๒ตำบล ๑๗ หมู่บ้าน ฝั่งหนึ่งเรียกบ้านหนองน้ำใหญ่ประกอบด้วย ๑๑ หมู่บ้านกับอีกฝั่งเรียกว่าบ้านจักราชแยกเป็นอีก ๖ หมู่บ้านมารศรีเป็นบุตรสาวคนเดียวของนางผ่องแผ้ว ผลบุญกับนายกุศล ผลบุญ อดีตผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งของตำบลจักราชหล่อนได้รับฉายาว่าดอกบัวแย้มกลีบแห่งคุ้งลาดชะโดด้วยวัยเพียง ๒๐ ปีทำให้หล่อนเสมือนบัวเพิ่งบานชูเกสรล้อแมลงเพศผู้อาจเพราะธรรมชาติลำเอียงจึงได้เสกสรรความงามให้กับหญิงสาวเสียจนล้นเหลือ รูปร่างระหง

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status