กู้หว่านเยว่พยักหน้า พอจะจำได้รางๆ“จ้านจ้านโตแล้ว ถึงเวลาที่ควรจะได้รับในสิ่งที่เป็นของเขารอเขาตื่นแล้ว ก็มอบป้ายคำสั่งให้เขา”ตอนนี้จ้านจ้านยังเด็ก ต่อให้สอนวรยุทธ์ให้เขา เขาก็ไม่สามารถเรียนรู้ได้เร็วเช่นนี้เขาคือว่าที่กษัตริย์ มีคนคิดร้ายต่อเขาเยอะมาก และมีโอกาสลงมือถมเถไปต้องหาคนเก่งๆ ค่อยอยู่ข้างกายเขา เช่นนี้จึงจะปกป้องเขาได้ดียิ่งขึ้นกู้หว่านเยว่พยักหน้า เริ่มอดประจบสอพลอไม่ได้ “ท่านพี่ ท่านคิดได้รอบคอบจริงๆ”อย่าเห็นว่าปกติซูจิ่งสิงไม่พูดไม่จา ที่จริงความคิดเขาละเอียดรอบคอบยิ่งกว่านางเสียอีกกู้หว่านเยว่โยนจดหมายเข้าไปในเตาไฟ“คนขับรถม้าผู้นี้ถึงกับกล้าวางยาเพียงเพราะผลประโยชน์ส่วนตัว คนเช่นนี้ไม่จำเป็นต้องให้โอกาสกลับใจข้าจะเขียนจดหมายหาพี่ใหญ่ ให้เขาไปสืบให้แน่ชัด หากไม่มีคนบงการอยู่เบื้องหลังจริงๆ ก็ฆ่าคนขับรถม้านี่เสีย” มีเจตนาฆ่าแลบผ่านแววตานางนางไม่ใช่คนใจอ่อนอะไร โดยเฉพาะครั้งนี้ คนที่ถูกทำร้ายยังเป็นจ้านจ้านไม่นานกู้หว่านเยว่ก็เขียนจดหมายเสร็จ แล้วใช้นกพิราบสื่อสารส่งออกไปจากนั้นนางบอกซูจิ่งสิงคำหนึ่ง ก็เข้าไปปรุงยาถอนพิษในมิติแล้วยิ่งคิดค้นยาถ
“ในที่สุดพวกท่านก็กลับมาเสียที ข้านึกว่าพวกท่านเจออันตรายแล้ว!”หลังจากพระอาทิตย์ตกดิน ลั่วซิงและกลุ่มคนส่วนใหญ่ก็ได้กลับขึ้นมาพักผ่อนบนขอบหุบเขาตามลำดับแต่สองสามีภรรยากลับยังไม่กลับมาเสียทีพอไปดึงเชือกดูก็พบว่ามีบางอย่างผิดปกติ เชือกขาดไปนานแล้วลั่วซิงร้อนใจราวกับไฟสุมทรวง เกรงว่าทั้งสองจะประสบอันตราย เขาอยากจะลงไปตามหา แต่ก็ถูกสมาชิกคนอื่น ๆ ในกลุ่มทหารรับจ้างห้ามไว้ทุกคนเสนอให้รอไปก่อนครึ่งชั่วยาม หลังจากครึ่งชั่วยามผ่านไปแล้ว หากสองสามีภรรยายังไม่กลับมา ค่อยทยอยส่งคนลงไปตามหาก็ยังไม่สาย“ขอบคุณสวรรค์ โชคดีที่พวกท่านทั้งสองกลับมาได้”กู้หว่านเยว่ยกมือลูบจมูก เรื่องที่เกิดขึ้นที่ก้นหุบเขานั้น นางไม่กล้าพูดออกมาจริง ๆ “เจอเรื่องยุ่งยากนิดหน่อย ตอนนี้ไม่เป็นอะไรแล้ว”ลั่วซิงก็ไม่ได้ซักไซ้ต่อ การเจอเรื่องไม่คาดฝันในป่าเขารกร้างเช่นนี้เป็นเรื่องปกติอย่างยิ่ง แค่คนกลับมาอย่างปลอดภัยก็ดีแล้ว“จริงสิ นี่ใช่สมุนไพรที่ท่านตามหาหรือไม่?”ลั่วซิงหยิบถุงเล็ก ๆ ออกมาจากเอว หลังจากแกะปากถุงแล้ว เขาก็หยิบสมุนไพรต้นหนึ่งออกมาส่งให้กู้หว่านเยว่กู้หว่านเยว่เข้าไปดูใกล้ ๆ คบเพลิงอย่าง
เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ร่างกายเริ่มร้อนรุ่มขึ้นมาแล้วกู้หว่านเยว่รับคำอย่างคลุมเครือต้องโทษนางเองที่เมื่อครู่ใจร้อนจนเกินไป มัวแต่คิดจะหาสมุนไพรให้เจอ จนมองข้ามไปว่าในพงหญ้ายังมีดอกไม้เครื่องหอมยาเสน่ห์ซ่อนอยู่ซูจิ่งสิงถาม “มียาถอนพิษหรือไม่?”กู้หว่านเยว่ส่ายหน้าอย่างอับอาย “กลิ่นหอมนี้รุนแรงมาก ไม่มียาถอนพิษ หากจะรอให้ฤทธิ์ยาจางลง อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาหนึ่งถึงสองวัน”นางพูดพลางส่ายศีรษะไปมา สติเริ่มเลื่อนลอยแล้วซูจิ่งสิงกำหมัดแน่นอย่างอดกลั้น แล้วเอ่ยขึ้นมาทันที “ไปที่มิติ”“หืม?” สมองของกู้หว่านเยว่เหมือนจะหยุดทำงานไปชั่วขณะ ร่างกายของนางมันคันยุบยิบไปหมดน้ำเสียงของซูจิ่งสิงแหบพร่า “พาข้าเข้าไปในมิติของเจ้าด้วย”กู้หว่านเยว่โบกมือเพียงครั้งเดียว ทั้งสองคนก็ปรากฏตัวขึ้นบนพื้นหญ้าในมิติ ร่างกายของนางร้อนผ่าวไปหมด บีบปลายนิ้วของตนเองอย่างไม่รู้ตัว ซูจิ่งสิงก้มหน้าลง ใช้มือสอดประสานกับนิ้วมือทั้งห้าของนาง“ท่านพี่ พวกเรา......” หางเสียงของกู้หว่านเยว่สั่นเครือ นางเงยหน้าขึ้นสบกับดวงตาที่แดงก่ำของซูจิ่งสิง คำว่า “ยังต้องหาสมุนไพร” ยังไม่ทันได้พูดออกมา เอวของนางก็ถูกรวบเข้าไป
หลังจากหารือกันเสร็จ ลั่วซิงก็ให้กลุ่มทหารรับจ้างทั้งกลุ่มยืนเรียงเป็นหน้ากระดานแล้วแบ่งออกเป็นสองทีมทีมหนึ่งรอรับคำสั่งอยู่ด้านบน อีกทีมหนึ่งนำเชือกมาผูกติดกับตัว แล้วลงไปตามหาสมุนไพรพร้อมกับเขาพี่น้องทหารรับจ้างที่รออยู่ด้านบนก็มีความสำคัญอย่างยิ่ง พวกเขาต้องคอยเฝ้าดูเชือกไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าในบริเวณใกล้เคียงเข้ามาทำให้เชือกขาด“เรียบร้อยแล้ว พวกเราลงไปหากันตอนนี้เลย ไม่ว่าจะหาสมุนไพรเจอหรือไม่ ก่อนฟ้ามืดทุกคนต้องกลับขึ้นมารวมตัวกัน”ลั่วซิงสั่งการพลางมองไปที่กู้หว่านเยว่ ซึ่งนางก็พยักหน้าตอบ“ทำตามที่เจ้าพูดนั่นแหละ”นอกจากพี่น้องในกลุ่มทหารรับจ้างที่ลงไปช่วยหาแล้ว กู้หว่านเยว่ยังให้ระบบช่วยจับตาดูด้วย เผื่อว่าจะพบร่องรอยของหญ้าอินหนิง“นายหญิงวางใจได้เลย ข้าจะคอยจับตาดูอย่างดีแน่นอน” ระบบรับประกันอย่างหนักแน่นกู้หว่านเยว่พยักหน้า นำเชือกมาผูกไว้ที่เอว แล้วลงไปในหุบเขาพร้อมกับซูจิ่งสิง“พวกเราต้องจำไว้ว่าให้หาที่ด้านล่างสุด ด้านล่างจะค่อนข้างร่มและเย็น”การจะตามหาสมุนไพร จะหาไปทั่วอย่างสะเปะสะปะเหมือนแมลงวันหัวขาดไม่ได้ต้องอาศัยลักษณะนิสัยการเจริญเติบโตของสม
“พูดถูกแล้ว ต้องขอบคุณฮูหยินซูกับพี่ซูจริง ๆ”“ต้องขอบคุณพวกท่านดี ๆ เลย”ลั่วซิงเดินมาอยู่ตรงหน้ากู้หว่านเยว่ แล้วกล่าวอย่างตื่นเต้น “พี่หญิงเยว่ ตอนนี้ข้าไม่มีเงินติดตัว รอข้าได้รับค่าตอบแทนแล้ว ข้าจะแบ่งส่วนของข้าครึ่งหนึ่งให้พวกท่าน” กู้หว่านเยว่ส่ายหน้า “ไม่ต้องหรอก เงินทองสำหรับพวกเราเป็นของนอกกาย”อีกอย่าง ลั่วซิงเป็นน้องชายแท้ ๆ ของลั่วหรง ด้วยความสัมพันธ์นี้ การที่กู้หว่านเยว่ยื่นมือเข้าช่วย ก็เป็นเพียงในฐานะเพื่อน ไม่ใช่เพื่อเงิน“แต่ว่า......”ลั่วซิงอยากจะพูดอะไรต่อ แต่เมื่อเห็นสายตาที่จริงจังของกู้หว่านเยว่ เขาก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงกล่าวว่า “พวกเราเดินเข้ามาลึกในป่าซิงโต้วแล้ว คงจะออกไปในเร็ว ๆ นี้ไม่ได้ สู้ให้พวกเราอยู่เป็นเพื่อนท่านอีกสักสองวัน เพื่อตามหาหญ้าอินหนิงก่อนดีกว่า”อามู่เอ่ยขึ้นมาทันที “สมุนไพรที่พวกท่านพูดถึง มันเติบโตอยู่ในหุบเขาใช่หรือไม่?”เขาเดินขากะเผลกเข้ามา แล้วอธิบายว่า “เมื่อครู่ตอนที่พวกเราหนีออกมาจากดงดอกไม้กินคน ข้าที่อยู่บนหลังของหัวหน้าเหลือบไปเห็นหุบเขาแห่งหนึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ไม่แน่ใจว่าข้าตาฝาดไปหรือไม่”ในตอนนั้
ลั่วซิงรีบวิ่งไปข้างหน้า พลางปลอบโยนหลู่ชู่ “เด็กดี ไม่ต้องกลัว ข้าต้องการแค่ขนของเจ้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น”ผู้ว่าจ้างของพวกเขาเป็นคนจิตใจดี ไม่สามารถทำเรื่องฆ่าสัตว์ตัดชีวิตได้มีคำกล่าวว่าหากได้คลุมขนของหลู่ชู่ก็จะสามารถมีลูกได้ ดังนั้นผู้ว่าจ้างจึงขอให้พวกเขาตามหาหลู่ชู่ และโกนขนของมันกลับไปให้“โฮก!” หลู่ชู่ดิ้นรนอย่างเกรี้ยวกราดเจ้ามนุษย์หน้าตาอัปลักษณ์นี่พูดอะไรกัน ไม่เข้าใจเลยสักนิด!ลั่วซิงถือใบมีดอยู่ในมือ แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มลงมืออย่างไรเพราะมีตาข่ายขวางอยู่ใบมีดนี้คมกริบ หากไม่ระวังก็อาจจะบาดหลู่ชู่ได้“หรือว่าเราจะตีให้มันสลบไปก่อน?”เอ้อร์เจี่ยถามขึ้นมาอย่างซื่อ ๆ ทำเอาต้าเจี่ยถึงกับกลอกตาใส่“เจ้าลงมือไม่รู้จักหนักเบา ถ้าเกิดพลาดตีมันจนตายขึ้นมาจะทำอย่างไร?”“เช่นนั้นท่านจะให้ทำอย่างไรเล่า?”“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน”“หรือว่าพวกเราจะช่วยกันจับมันไว้ คนละขาดีหรือไม่?”“อันตรายเกินไป อาจจะถูกมันกัดเอาได้......”“อย่างนั้นก็ไม่ได้ อย่างนี้ก็ไม่ได้ แล้วท่านจะให้ทำอย่างไร?”“ข้ามีวิธี” กู้หว่านเยว่ทนดูต่อไปไม่ไหว นางยกมือกุมหน้าผากแล้วเดินออกมา “พวกเจ้าเลิกเถียงกั