Share

ท่านตาผู้ร่ำรวย 1/1

last update Huling Na-update: 2025-04-28 11:05:06

หลังจากนั้นทั้งสามคนต่างก็พูดคุยกันถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจนมาถึงเรื่องที่อวี้หลันได้ออกจากตระกูลไป๋แล้วพร้อมทั้งยังตัดขาดจากทางนั้นจนถึงขนาดออกหนังสือตัดขาดกัน

ทำให้ผู้สูงวัยทั้งสองนั้นมีสีหน้ามืดครึ้มเป็นอย่างมากที่บุรุษสารเลวผู้นั้นกระทำการเช่นนี้กับบุตรสาวและหลานสาวของตนจนซ่งเฉิงป๋อนั้นอยากจะไปทำลายจวนแห่งนั้นให้ย่อยยับให้สาสมกับสิ่งที่บุรุษสารเลวนั้นได้ทำให้ไว้

“ฮึ! ไอ้คนสารเลวนั้นมันสมควรที่จะโดนข้าจับถลกหนังเลาะกระดูกออกเป็นชิ้น ๆ ยิ่งนัก”

ชายชราเอ่ยด้วยโทสะที่อัดแน่นอยู่ภายในอกของเขาจนมันแทบจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว

“นั่นสิเจ้าคะท่านพี่ น้องเองก็คิดว่าเราคงจะใจดีกับคนสารเลวเช่นนั้นเกินไปจนทำให้มันหลงลืมไปแล้วว่าเหมยเอ๋อร์นั้นคือดวงใจของพวกเราหาใช่สตรีชาวบ้านสามัญไม่!”

ซ่งฮูหยินเองก็เอ่ยสำทับกับความคิดของสามีตนเองและยังรู้สึกโกรธแค้นที่อีกฝ่ายทำกับบุตรสาวอันเป็นที่รักของตนถึงเพียงนี้

“ท่านตาท่านยายอย่าได้โกรธไปเลยนะเจ้าคะเดี๋ยวจะทำให้ความดันขึ้นเสียเปล่า ๆ อีกอย่างตอนนี้หลานก็ได้หลุดพ้นจากคนผู้นั้นมาอย่างปลอดภัยดีก็ถือว่าเพียงพอสำหรับการตอบแทนคุณในฐานะบุตรสาวแล้วเจ้าค่ะ”

อวี้หลันที่เห็นว่าผู้ใหญ่ทั้งสองโมโหจนหน้าดำหน้าแดงก็เป็นห่วงสุขภาพของทั้งสองจึงได้รีบเอ่ยปลอบให้อีกฝ่ายใจเย็นลง

“ฮึ! ถือว่าครั้งนี้ตาเห็นแก่เจ้านะตาจะยอมปล่อยผ่านเรื่องนี้ไป”

นายท่านซ่งเอ่ยบอกหลานสาวด้วยท่าทางไม่ค่อยจะยินยอมเสียเท่าไหร่

“เจ้าค่ะท่านตา หลานขอบคุณท่านตากับท่านยายมากเลยเจ้าค่ะ” อวี้หลันเอ่ยพร้อมรอยยิ้มบางเบา

“เช่นนั้นตอนนี้หลานพักอยู่ที่ใดกัน มาอยู่กับตายายที่จวนแห่งนี้ดีหรือไม่?”

ซ่งฮูหยินเอ่ยถามหลานสาวหลังจากที่ได้รับฟังความจริงทั้งหมดจากปากของหลานสาวตนเอง

“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะท่านยาย ตอนนี้หลานได้ไปอาศัยอยู่ที่จวนที่ท่านแม่เคยซื้อเก็บเอาไว้ เพียงแต่จวนหลังนั้นมันค่อนข้างที่จะเก่ามาก”

“ดังนั้นวันนี้ที่หลานมาหาพวกท่านทั้งสองส่วนหนึ่งก็เพื่อมาเยี่ยมและอีกส่วนก็คือหลานอยากจะมาขอหยิบยืมเงินจากท่านตาเพื่อไปสร้างจวนใหม่พร้อมกับหลานอยากจะทำกิจการบางอย่างด้วยเจ้าค่ะ”

อวี้หลันเห็นถึงความห่วงใยจากทั้งสองท่านก็รู้สึกอุ่นวาบขึ้นภายในใจที่ด้านชาของตน แต่นางก็ยังคงมีความคิดเป็นชองตัวเองจึงได้เอ่ยปฏิเสธอย่างนุ่มนวลพร้อมทั้งบอกกล่าวถึงแผนการที่จำทำในอนาคตข้างหน้าให้กับพวกท่านทั้งสองรับรู้เพื่อคลายความกังวลในใจของพวกท่านลง

“เพ้ย!! เจ้าเป็นถึงหลานสาวเพียงคนเดียวของตาผู้นี้เหตุใดยังต้องเกรงใจเป็นคนอื่นไปได้ เพียงแค่ตำลึงเงินไหนเลยจะมอบให้หลานสาวไม่ได้ หลันเอ๋อร์เจ้าไม่ต้องขอยืมตาหรอกเดี๋ยวตามอบให้เจ้าเองถือเป็นของขวัญพบหน้าจากตาผู้นี้เข้าใจหรือไม่”

ซ่งเฉิงป๋อเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงดังเมื่อหลานสาวทำเหมือนว่าเขานั้นเป็นคนอื่นคนไกลเสียอย่างนั้น

“แต่ว่า....”

“ไม่มีแต่แล้วหลันเอ๋อร์หรือว่าเจ้าคิดว่าพวกเราทั้งสองนั้นเป็นคนอื่นอย่างนั้นรึ?”

ซ่งฮูหยินเอ่ยขัดหลานสาวขึ้นอีกคนเมื่ออีกฝ่ายตั้งท่าเตรียมจะเอ่ยปฏิเสธผู้เป็นสามี

“มะ...ไม่ใช่แบบนั้นนะเจ้าคะ หลานเพียงแค่เกรงใจที่มารบกวนท่านตากับท่านยายเพียงเท่านั้น”

“แต่หลานไม่เคยคิดว่าพวกท่านเป็นคนอื่นเลยนะเจ้าคะ หลานนั้นรักและเคารพท่านตาท่านยายอยู่เสมอ ถ้าเช่นนั้นหลานก็ขอรับของขวัญของท่านตาอย่างไม่เกรงใจแล้วกันนะเจ้าคะ”

อวี้หลันที่รู้สึกตัวว่าทำให้ผู้เฒ่าทั้งสองรู้สึกไม่สบายใจมามากพอแล้วจึงได้ยอมรับน้ำใจจากทั้งสองท่านเพื่อเอาใจคนแก่

หลังจากจบคำตอบของหญิงสาวแล้วนั้นใบหน้าของสองสามีภรรยาก็ประดับด้วยรอยยิ้มดีใจขึ้น จนอวี้หลันอดที่จะยิ้มตามอย่างไม่อาจห้ามได้เช่นกัน

เพราะว่านางสัมผัสได้ถึงความรัก ความห่วงใย และความเมตตาจากทั้งสองที่มีให้กับนางโดยที่นางไม่ต้องดิ้นรนหรือพยายามอย่างหนักเพื่อจะได้รับรอยยิ้มนั้น

ต่างจากชีวิตก่อนที่นางต้องพยายาม ดิ้นรน ต่อสู้อย่างหนักเพื่อที่จะได้รับความรักความเอ็นดูจากผู้เป็นตาและบิดาของตน ในชีวิตก่อนนั้นตระกูลของหญิงสาวเป็นตระกูลทหารที่มีอำนาจมากพอมาย

ส่วนมากคนในตระกูลนั้นจะให้ความสำคัญกับหลานชายมากกว่าหลานสาวอย่างนาง จึงทำให้นางได้รับการปฏิบัติที่ไม่ค่อยจะดีนัก

ผิดกับพี่ชายอีกสองคนของนางที่ทั้งได้รับการเลี้ยงดู เอาใจใส่ ตามใจและได้รับความสนใจจากบิดาและท่านตาเป็นอย่างมาก แถมพี่ชายทั้งสองของนางยังมองนางราวกับคนรับใช้ในบ้าน

ที่มีความสำคัญเพียงแค่ตอนที่ต้องการให้ทำสิ่งต่าง ๆ ให้ ดังนั้นนางจึงต้องดิ้นรนจนสามารถคว้าอันดับหนึ่งของชั้นปีและได้เลื่อนขั้นไวกว่าเพื่อที่อายุรุ่นเดียวกัน

จึงพอทำให้ความสำคัญในบ้านของนางนั้นดีขึ้นจากแต่ก่อนเพียงแต่นางยังคงไม่ได้รับความรักจากบุรุษทั้งสี่ของบ้านอยู่เช่นเดิม ดังนั้นในตอนที่รู้ว่าตนเองจะต้องตายอวี้หลันก็ไม่ได้รู้สึกอาลัยในชีวิตของตนเองสักเท่าไหร่

เพราะถึงอย่างไรพวกเขาก็คงไม่ได้รู้สึกเสียใจมากมายถึงเพียงนั้นเมื่อรับรู้ว่าหลานสาวและลูกสาวของตนได้ตายจากไปแล้ว

แต่มันไม่ใช่สำหรับในชีวิตชาตินี้ที่นางกลับได้รับสิ่งที่โหยหามาตลอดทั้งชีวิตโดยไม่ต้องดิ้นรนไล่ตามจนเหนื่อย ซึ่งนางบอกได้เลยว่าไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรนางก็จะต้องปกป้องพวกท่านทั้งสองให้ปลอดภัยจากสิ่งเลวร้ายต่าง ๆ ในภายภาคหน้าให้จงได้ ต่อให้นางต้องเป็นศัตรูกับคนทั้งโลกก็ตาม

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Kaugnay na kabanata

  • ซ่งอวี้หลันนางร้ายเปลี่ยนบท   ท่านตาผู้ร่ำรวย 1/2

    กลับมาที่ปัจจุบันหลังจากที่ผู้เป็นใหญ่ของจวนทั้งสองเห็นว่าหลานสาวของตนนั้นเงียบลงไปจึงได้เอ่ยถามด้วยความห่วงใยเพราะถึงอย่างไรหญิงสาวก็ยังคงเป็นเพียงสตรีที่เพิ่งจะพ้นวัยปักปิ่นมาได้ไม่นานแต่กับต้องมาเจอเรื่องราวมากมายถึงเพียงนี้ภายในใจก็คงจะรู้สึกเคว้งคว้างอยู่มาก เพียงแค่อีกฝ่ายนั้นเป็นคนที่เก็บซ่อนสีหน้าเก่งจนหน้าตกใจ“หลันเอ๋อร์…เจ้าเป็นอะไรหรือไม่?”น้ำเสียงอันอบอุ่นและอ่อนโยนจากผู้เป็นยายสามารถเรียกสติที่หลุดลอยไปของหญิงสาวได้ในทันทีก่อนที่หญิงสาวจะเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้มบางเบา“หลานไม่เป็นอะไรเจ้าคะท่านยาย ท่านยายอย่าได้เป็นกังวลเลย สำหรับเรื่องราวทุกอย่างที่หลานพบเจอมานั้นหลานไม่ได้สนใจนำมาทำให้ตนเองต้องทุกข์ใจหรอกเจ้าค่ะ”“ชีวิตคนเรามีแต่เวลาที่เดินหน้าเท่านั้น เราไม่มีทางย้อนเวลากลับไปได้ดั่งใจปรารถนาหรอกเจ้าค่ะ ดังนั้นเราควรจะสนใจในปัจจุบันมากกว่าจมอยู่กับอดีตที่ผ่านมาแล้ว ท่านยายเห็นด้วยกับหลานหรือไม่เจ้าคะ?”อวี้หลันเพียงมองดูสีหน้าเป็นกังวลของผู้เฒ่าทั้งสองก็รู้ถึงความกังวลในใจของพวกท่านจึงได้เอ่ยบอกถึงความคิดที่ตนเองคิดอยู่ในตอนนี้เพื่อให้ท่านทั้งสองรับรู้ว่านางนั้นไม่เป็นอะไ

    Huling Na-update : 2025-04-28
  • ซ่งอวี้หลันนางร้ายเปลี่ยนบท   ตัวละครที่ชอบเสนอหน้า 1/1

    หลังจากที่พวกของอวี้หลันได้ออกจากจวนตระกูลซ่งพร้อมกับตำลึงทองที่ท่านตามอบให้แล้วนั้นหญิงสาวก็บอกให้หวังอู่พาไปยังโรงรับฝากเงินทันทีเพราะเกรงว่าการที่ตนเองมีเงินอยู่มากเช่นนี้จะทำให้กลายเป็นเป้าหมายของพวกขโมยก็เป็นได้ ดังนั้นทางที่ปลอดภัยที่สุดก็คือนำเงินพวกนี้ไปฝากไว้ที่โรงรับฝากเงินคงจะเป็นการดีที่สุดซึ่งใช้เวลาเดินทางมาไม่นานพวกของอวี้หลันก็มาถึงยังตลาดกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดและเป็นแหล่งที่ผู้คนพลุกพล่านมากที่สุด พูดง่าย ๆ ก็คือเป็นที่ที่นางรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในครั้งแรกเมื่อรถม้ารับจ้างหยุดลงที่หน้าโรงรับฝากเงิน ไห่หลิง ที่ใหญ่ที่สุดของแคว้นชิงและยังเป็นกิจการของท่านลุงรองไห่หนานของนางอีกด้วยเมื่อก่อนได้ยินเพียงผ่าน ๆ แต่ไม่คิดเลยว่าที่แห่งนี้จะใหญ่โตและหรูหราถึงเพียงนี้ ท่านลุงรองของนางนี้ช่างมีความสามารถยิ่งนัก“พี่หวังอู่ที่นี่เป็นกิจการของท่านลุงรองอีกอย่างใช่หรือไม่?”เพื่อความชัดเจนหญิงสาวจึงได้หันไปเอ่ยถามกับองครักษ์ที่ยืนอยู่ด้านข้างของตนเอง“ใช่แล้วขอรับคุณหนู โรงรับจำนำไห่หลิงแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งกิจการที่สร้างรายได้มากมายให้กับตระกูลซ่งของนายท่าน แถมคุณชายรองเองก็ยังเป็น

    Huling Na-update : 2025-04-28
  • ซ่งอวี้หลันนางร้ายเปลี่ยนบท   ตัวละครที่ชอบเสนอหน้า 1/2

    “นี่คือป้ายสำหรับคนตระกูลซ่งเท่านั้นเจ้าค่ะมันคือป้ายหยกรัตติกาล นายท่านรองสั่งเอาไว้ว่าให้มอบให้กับเจ้านายตระกูลซ่งทุกคนที่มาใช้บริการ”“หากคุณหนูต้องการแลกเบิกเงิน ฝากเงินก็เพียงแค่แสดงป้ายหยกแผ่นนี้เท่านั้น พนักงานก็จะทำการตามความต้องการของคุณหนูให้โดยเร็วเจ้าค่ะ”“อ้อเช่นนั้นขอบใจพี่สาวมาก ข้าขอตัวก่อน”อวี้หลันเอ่ยบอกอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มก่อนจะหมุดตัวเดินออกจากโรงรับฝากเงินไปหวังอู่ที่ยืนรอนางอยู่ด้านหน้าอาคาร เมื่อหวังอู่เห็นว่าคุณหนูเดินออกมาแล้วจึงได้เดินเข้าไปหาพร้อมกับเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง“ทุกอย่างเรียบร้อยดีหรือไม่ขอรับคุณหนู”“อื้ม เรียบร้อยดีพวกเราไปหาทั้งสามคนกันเถิดข้าหิวมากแล้ว”อวี้หลันเอ่ยบอกด้วยสีหน้าอ่อนแรง เนื่องจากนางนั้นเริ่มรู้สึกหิวข้าวขึ้นมาจนไม่มีแรงจะเดินอยู่แล้ว“ขอรับคุณหนู”หวังอู่เอ่ยตอบรับพร้อมกับรอยยิ้มเอ็นดูท่าทางคล้ายแมวตัวเล็กกำลังหิวโหยของอีกฝ่าย ก่อนที่คนทั้งสองจะเดินมุ่งหน้าไปยัง โรงเตี๊ยมหมื่นบุปผาในทันทีโรงเตี๊ยมหมื่นบุปผาแห่งนี้เป็นโรงเตี๊ยมที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองหลวงแห่งนี้เลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นห้องพัก อาหาร หรือการบริการต่าง ๆ ของที

    Huling Na-update : 2025-04-28
  • ซ่งอวี้หลันนางร้ายเปลี่ยนบท   พบเจอเหล่าตัวเอก 1/1

    "อย่างนั้นรึ?" เสียงเย็นชาเอ่ยขึ้นหลังจากที่อวี้หลันเอ่ยจบ"!!!" สีหน้าของผู้คนโดยรอบบริเวณต่างก็ตื่นตระหนกกับการปรากฏตัวขึ้นขององค์รัชทายาทที่เดินเคียงคู่มากับหญิงในดวงใจอย่างคุณหนูหวังซูเซียวหญิงสาวผู้งดงามทั้งกริยามารยาทและรูปโฉม"คารวะองค์รัชทายาทเพคะ" อวี้หลันที่เห็นว่าคู่รักทั้งสองคนเดินตรงมายังตนเองก็ไม่ได้รู้สึกหวั่นใจกับสิ่งที่ตัวเองเพิ่งจะเอ่ยออกไปเมื่อสักครู่แม้แต่น้อยแต่หญิงสาวกลับเมินคำถามของร่างสูงแล้วย่อตัวทำความเคารพอีกฝ่ายตามมารยาทที่ควรมีเพียงเท่านั้น"หึ! ทำไม่ถึงได้เงียบไปเสียแล้วละ เมื่อครู่เจ้ายังคงเอ่ยถึงเปิ่นหวางอยู่มิใช่รึ" ไท่เฟยฉีเอ่ยถากถางอดีตคู่หมั้นของตนด้วยสีหน้าเจือโทสะเล็กน้อย"เพคะ? อ้อเรื่องที่หม่อนฉันพูดถึงเมื่อครู่มีสิ่งใดไม่ถูกต้องหรือเพคะ" ร่างบางเอ่ยถามอย่างไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่บุรุษมักมากตรงหน้าถามจริงได้เอ่ยตอบอย่างมึนงง"นี่เจ้า! อย่าลืมว่าเปิ่นหวางคือใครแล้วเจ้าคือใครจะเอ่ยวาจาอันใดก็ควรจะมีขอบเขตเสียบ้างนะคุณหนูไป๋" ไท่เฟยฉีเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเข้มพร้อมกับดวงตาคมเข้มจ้องมองไปยังใบหน้าของหญิงสาวราวกับกำลังเอ่ยเตือนอยู่"เพคะ ถ้าเช่นนั้นคราวห

    Huling Na-update : 2025-04-28
  • ซ่งอวี้หลันนางร้ายเปลี่ยนบท   พบเจอเหล่าตัวเอก 1/2

    "แก!.....นักสารเลววันนี้ถ้าข้าคนนี้ไม่ได้ตบเอาเลือดปากของแกมาล้างเท้าเพื่อขอขมาแล้วละก็อย่าหวังเลยว่าแกจะได้กลับไป!" เสียงแหลมปี๊ดของไป๋ลี่หลินแผดดังไปทั่วก่อนที่หญิงสาวจะปรี่เข้าไปหาร่างของอวี้หลันเพื่อหมายจะตบไปที่ใบหน้าของอีกฝ่ายให้สาแกใจหวือ หมับ เพี้ยะ! ตุบแต่มีหรือที่อวี้หลันจะยืนเฉย ๆ ให้ใครมาทำร้ายตนเองได้ตามใจชอบหญิงสาวเพียงแค่เอี้ยวตัวหลบฝ่ามือที่ฟาดลงมาพร้อมกับจับเข้าไปที่ข้อมือเล็กของอีกฝ่ายกันจะออกแรงบีบแล้วตวัดฝ่ามืออีกข้างฟาดลงไปบนใบหน้างามอีกอีกฝ่ายเต็มแรงจนเกิดเสียงดังไปทั่วบริเวณ ก่อนที่ทุกอย่างจะตกอยู่ในความเงียบพร้อมกับเสียงเหยียบเย็นจากร่างบางที่เอ่ยกับหญิงสาวที่ล้มลงไปนังแหมะอยู่ที่พื้น"แต่ก่อนเจ้าสู้ข้าไม่ได้ยังไงในตอนนี้ก็ยิ่งสู้ไม่ได้มากขึ้นไปอีก ข้าขอเตือนเจ้าเอาไว้สักนิดนะไป๋ลี่หลิน อย่าให้ข้าคนนี้หมดความอดทนกับเจ้ามิเช่นนั้นเจ้าอาจจะไม่มีโอกาสได้ลืมตามาดูพระอาทิตย์ในวันพรุ่งนี้ก็เป็นได้""กะ..แก..""อ้อแล้วก็อีกอย่างหนึ่งอย่าคิดว่าข้าจะกลัวท่านเสนาบดีไป๋เพราะเจ้าจงพึงระลึกเอาไว้บ้างว่านอกจากข้าจะเคยเป็นใคร แต่ข้าก็ยังเป็นหลานสาวเพียงคนเดียวของตระกูลซ่งเช

    Huling Na-update : 2025-04-28
  • ซ่งอวี้หลันนางร้ายเปลี่ยนบท   สร้างจวน 1/1

    ท่ามกลางความมืดมิดค่ำคืนที่ผู้คนต่างก็พากันนอนหลับไปแล้ว แต่กับมีเงาร่างของคนกลุ่มหนึ่งที่สวมชุดสีดำทั้งชุดปกปิดใบหน้ากำลังใช้วิชาตัวเบากระโดนผ่านหลังคาบ้านเรือนของผู้คนไปอย่างแผ่วเบาจุดหมายของคนชุดดำกลุ่มนี้ก็คือจวนขนาดใหญ่แห่งหนึ่งที่อยู่ติดกับจวนร้างคนชุดดำกลุ่มนั้นก็ยังคงเร้นกายไปในความมืดและใช้วิชาตัวเบาได้อย่างชำนาญจำคิดว่าคนธรรมดาคงไม่มีทางรู้สึกถึงพวกเขาได้ และหนึ่งในคนชุดดำเหล่านั้นก็ยังมีบุรุษที่น่าจะเป็นผู้นำของพวกเขาวิ่งนำหน้าจนมาถึงเรือนร้างที่อยู่ติดกับจวนเป้าหมายด้วยความคิดว่าที่จวนแห่งนี้เป็นเพียงจวนที่ไม่มีใครอาศัยอยู่คนชุดดำกลุ่มนั้นจึงได้วิ่งผ่านหลังคาจวนไปแต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นกับคนกลุ่มนั้นเมื่อในขณะที่พวกเขากำลังวิ่งอยู่บนหลังคาก็ถูกก้อนหินปริศนาปาเข้าใส่อย่างรวดเร็วและแม่นยำแต่ด้วยความที่พวกเขาเองก็ถูกฝึกมาอย่างหนักจึงทำให้สามารถหลบการโจมตีที่มาในความมืดได้อย่างรวดเร็วก่อนที่คนกลุ่มนั้นจะหยุดนิ่งลงเพื่อเฝ้าระวัง“ขออภัยแขกทุกท่าน ไม่ทราบว่าดึกดื่นค่อนคืนเช่นนี้พวกท่านยังมีเวลามาเดินชมนกชมไม้บนหลังคาบ้านของผู้อื่นอยู่อีกหรือ”เสียงใสกังวานดังขึ้น

    Huling Na-update : 2025-04-28
  • ซ่งอวี้หลันนางร้ายเปลี่ยนบท   สร้างจวน 1/2

    ช่วงสายของวันอวี้หลันในวันนี้มีนัดพูดคุยรายละเอียดเกี่ยวกับการสร้างจวนกับหัวหน้าช่างที่ท่านตาเป็นผู้เลือกหามาให้ก็กำลังนั่งจิบชาอยู่ตรงข้ามกับชายวัยกลางคนอีกสามคน ชายวัยกลางคนทั้งสามนั้นคือ ห่าวอู๋ นายช่างใหญ่เจ้าของกิจการก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง อายุ 57 ปี ห่าวซวน บุตรชายคนรองของนายช่าง อายุ 39 ปี หลี่จิ้ง ผู้ช่วยคนสนิทของนายช่าง อายุ 45 ปีตอนนี้บุรุษทั้งสามกำลังก้มลงมองแบบจวนที่หญิงสาวต้องการให้พวกตนเองสร้างขึ้น แบบจวนที่อวี้หลันต้องการนั้นจะเป็นจวนที่มีบ้านทั้งหมดสามหลังซึ่งจะสร้างเอาไว้เรียงกันตรงด้านหน้า ส่วนด้านหลังนั้นนางจะสร้างเป็นบ้านสองชั้นแบบสมัยใหม่ที่ชั้นล่างจะมีห้องนอนสองห้อง ห้องนั่งเล่นหนึ่งห้องและห้องน้ำอีกหนึ่งห้อง ส่วนด้านบนนั้นนางต้องการห้องนอนหนึ่งห้องพร้อมห้องน้ำในตัว ห้องทำงานหนึ่งห้องก่อนจะเป็นห้องเก็บสมบัติอีกห้องโดยอวี้หลันต้องการสร้างจากอิฐมุงด้วยกระเบื้องทั้งหมดพร้อมกันนั้นก็ฉาบด้วยปูนสีขาวเพื่อให้ดูสบายตา ส่วนเรือนทั้งสามหลังด้านหน้าก็จะประกอบไปด้วยสองเรือนแรกจะเป็นเรือนรับรองแขกที่มีห้องนอนอยู่หลังละสามห้อง เรือนที่สามจะเป็นเรือนเอาไว้สำหรับต้

    Huling Na-update : 2025-04-28
  • ซ่งอวี้หลันนางร้ายเปลี่ยนบท   ฉากสำคัญในนิยาย 1/1

    จากความทรงจำในเนื้อเรื่องของนิยายดูเหมือนว่าในอีกสองเดือนข้างหน้าจะมีคณะทูตจากต่างแคว้นเดินทางมายังแคว้นชิงของนางเพื่อร่วมฉลองวันพระราชสมภพครบ 50 ชันษาของฮ่องเต้ ไท่เฟยฮุ่ย และครั้งนี้ผู้ที่รับหน้าที่คุ้มกันความปลอดภัยของคณะทูตก็คือแม่ทัพซ่งฉือตงกับบุตรชายหรือก็คือรองแม่ทัพซ่งฉือลู่โดยทั้งสองก็คือท่านลุงใหญ่กับพี่ชายของอวี้หลัน ท่านลุงใหญ่นั้นเป็นชายวัยกลางคนอายุ 45 ปี มีรูปร่างสูงใหญ่ดูภูมิฐานและน่าเกรงขามใบหน้ายังได้ท่านตาไปถึงแปดส่วนส่วนพี่ฉือลู่เองก็เป็นชายหนุ่มอายุ 25 ปีรูปร่างองอาจสมชายชาติทหารมีใบหน้าหล่อเหลาเป็นที่หมายปองของสตรีเกือบทั่วทั้งเมืองหลวงเพียงแต่ว่าพี่ชายของนางนั้นส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอยู่แต่ในค่ายทหารจึงไม่ได้มีเวลามองหาสะใภ้ให้กับท่านป้าใหญ่หรือก็คือ ฮูหยินเหยาอิน ปีนี้อายุ 40 ปี แต่ว่าท่านป้าใหญ่ในความทรงจำของนางนั้นคล้ายจะดูเลือนรางไปมากแต่ในวันนั้นฉากสำคัญที่จะเกิดขึ้นก็คือองค์รัชทายาทจะทูลขอสมรสพระราชทานระหว่างชายหนุ่มกับคุณหนูใหญ่ของท่านเสนาบดีฝ่ายซ้ายหวังซูเซียนแต่ถูกองค์ชายสามจากแคว้นโจวเอ่ยขอสมรสระหว่างตนเองกับคุณหนูใหญ่ซูเซียนเช่นกันจึงทำให้ยิ่งสร้างความ

    Huling Na-update : 2025-04-28

Pinakabagong kabanata

  • ซ่งอวี้หลันนางร้ายเปลี่ยนบท   จุดจบตระกูลเผิง

    ในที่สุดก็มาถึงวันนัดส่งมอบสินค้าของชาวหัวแดงกับกลุ่มของผู้ช่วยเผิงเจียง โดยพวกมันนั้นได้นัดพบกันที่แนวชายป่าใกล้ ๆ กับเมืองท่าที่พวกมันมักจะใช้เป็นจุดนัดพบส่งของกันอยู่บ่อยครั้งนั่นเองซึ่งข่าวเรื่องสถานที่ในการนัดพบของพวกมันนั้นเป็นชินอ๋องที่ส่งหน่วยองครักษ์ลับไปสืบข่าวมาจนได้รู้สถานที่ชัดเจนในครั้งนี้ ดังนั้นในวันนี้กลุ่มของนายท่านซ่งกับบุตรชายจึงได้เดินทางมายังสถานที่นัดพบกันในครั้งนี้กลุ่มของซ่งเฉิงป๋อนั้นทราบถึงกำหนดการจัดส่งสินค้าของพวกมันนั้นคือเวลายามซื่อของวันนี้และในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าก็จะถึงกำหนดเวลานัดของพวกมันแล้วเมื่อกลุ่มของซ่งเฉิงป๋อเห็นว่าใกล้จะถึงเวลาแล้วทั้งสามคนพ่อลูกรวมทั้งเหล่าองครักษ์อีกกว่ายี่สิบนายต่างก็ซุ่มอยู่ในที่กำบังอย่างเงียบเชียบไม่นานหลังจากนั้นทั้งสองกลุ่มก็ได้ยินเสียงของรถม้าหลายคันกำลังวิ่งตรงมายังทิศทางที่พวกเขารออยู่เมื่อรถม้าทั้งสามคันจอสนิทลงที่จุดนัดพบก็เป็นเวลาเดียวกันกับเกวียนวัวของพวกกลุ่มพ่อค้าชาวหัวแดงเองก็มาถึงยังสถานที่นัดหมายเช่นเดียวกันหลังจากที่รถม้าจอดสนิทดีแล้วนั้นไม่นานก็มีบ

  • ซ่งอวี้หลันนางร้ายเปลี่ยนบท   สมรสพระราชทาน

    “คุณหนูซ่งรับราชโองการ....เนื่องด้วยคุณหนูซ่งอวี้หลันนั้นเป็นสตรีที่มากความสามารถอีกทั้งยังเป็นสตรีที่เพียบพร้อมไปด้วยกิริยามารยาทอ่อนหวานเรียบร้อย จึงประทานสมรสพระราชทานให้แต่งเป็นพระชายาเอกในชินอ๋องจวินซีฮันในอีก 7 วันต่อจากนี้จบราชโองการ.....”จบราชโองการทั่วทั้งจวนต่างก็ตกอยู่ในความเงียบไม่เว้นแต่หญิงสาวเองที่ตั้งตัวไม่ทันว่าตนเองจะต้องแต่งงานให้กับชายหนุ่มในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี่เองในตอนนี้หญิงสาวจึงได้ยังคงก้มหน้าเงียบจนเสี่ยวอิงต้องสะกิดเพื่อให้คุณหนูของตนรีบตอบรับราชโองการโดยไว“หม่อมฉันขอบพระทัยฝ่าบาทขอฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปี หมื่น ๆ ปี เพคะ”จบคำของหญิงสาวกงกงคนสนิทของฮ่องเต้ก็ยื่นราชโองการสีเหลืองทองมาตรงหน้าของหญิงสาวจากนั้นมือบางจึงได้ยื่นไปรับมาถือไว้พร้อมกับเอ่ยขอบใจกงกงชราตรงหน้า“ลำบากท่านหม่ากงกงแล้วเจ้าค่ะ เสี่ยวอิงเจ้าจงตามไปส่งท่านหม่ากงกงให้ข้าด้วยนะ”ประโยคแรกนั้นหญิงสาวเอ่ยกับกงกงชราตรงหน้าด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลก่อนที่หญิงสาวจะหันไปเอ่ยกำชับกับสาวใช้คนสนิทอีกทั้งยังกำชับให้อีกฝ่ายมอ

  • ซ่งอวี้หลันนางร้ายเปลี่ยนบท   นางร้ายสำแดงฤทธิ์

    ความเงียบยังคงปกคลุมไปทั่วชายป่าที่พวกเขายืนอยู่ หลังจากเอ่ยกับผู้เป็นตาเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้นอวี้หลันจึงได้หันหน้าไปมองยังก็ผิงซานคุนก่อนที่ริมฝีปากบางของนางจะเริ่มเอ่ยวาจาออกมา“นายท่านเผิงกล่าวมาเมื่อครู่นี้ข้าเองก็เห็นด้วยกับพวกท่านนะเจ้าคะ คนทำผิดคิดชั่วย่อมสมควรได้รับโทษทัณฑ์อย่างสาสม แต่ที่ข้าไม่เห็นด้วยก็คงจะเป็นคนที่ต้องโทษคิดกบฏนั้นหาใช่ตระกูลซ่งของข้า แต่เป็นตระกูลเผิงของพวกท่านต่างหากเล่า”“ท่านอย่าได้คิดจะเอ่ยปากแก้ตัวเพราะข้ากับท่านอ๋องนั้นต่างก็เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ที่พวกท่านมาถึงจนพูดคุยตกลงเกี่ยวกับการค้าในครั้งนี้จนไปถึงการส่งมอบสิ่งของพร้อมกับเงินทองเพื่อแลกเปลี่ยนกันแล้วอย่างไรเล่า”“นี่คงจะเพียงพอที่จะเอาผิดพวกท่านได้แล้วกระมัง แล้วไหนจะยังมีหัวหน้านายกองที่รับสินบนทั้งยังทำงานให้กับท่านมิใช่ให้กับฝ่าบาทเพียงเท่านี้ข้าคิดว่าโทษของตระกูลท่านก็คงจะมีหัวไม่พอให้ประหารชดใช้ความผิดแล้วละ”คำพูดของหญิงสาวทุกคำที่เอ่ยออกมานั้นช่างราวกับคมมีดที่กรีดลึกลงไปสุดขั้วหัวใจของคนฟังยิ่งนัก ไหนจะยังสามารถแจกแจงความผ

  • ซ่งอวี้หลันนางร้ายเปลี่ยนบท   ตลบหลังคนชั่ว

    ไม่ใช่แค่อวี้หลันที่มีสีหน้าตาแตกตื่นตกใจ แม้แต่บุตรชายทั้งสองของซ่งเฉิงป๋อเองก็มีสีหน้าตกใจกับเรื่องที่บิดาของพวกเขาได้เอ่ยบอกกับผู้เป็นหลานสาวเช่นเดียวกัน“ที่ท่านตากล่าวมาเมื่อสักครู่นี้หมายความว่าอย่างไรกันหรือเจ้าคะ” อวี้หลันเอ่ยถามด้วยสีหน้างุนงงอย่างถึงที่สุด“เอาไว้ให้ท่านอ๋องเป็นคนบอกเจ้าเองจะดีกว่า ส่วนเรื่องอื่นก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของพวกตาเองก็พอเข้าใจหรือไม่หลันเอ๋อร์”ซ่งเฉิงป๋อเอ่ยบอกกับหลานสาวสุดที่รักด้วยสีหน้าเคร่งเครียดและจริงจังเป็นอย่างมาก“เจ้าค่ะท่านตาหลันเอ๋อร์ทราบแล้ว”เมื่อเห็นสีหน้าของชายสูงวัยทั้งสามที่มองมาที่นางด้วยสีหน้าเป็นกังวลหญิงสาวจึงได้เอ่ยปากรับคำอย่างเลี่ยงไม่ได้นั่นเอง“ดีแล้ว เพียงแค่เรื่องจัดการคนชั่วช้านั้นพวกลุงสามารถจัดการได้ขอเพียงหลานสาวของพวกเราอยู่อย่างปลอดภัยก็ถือว่ายอดเยี่ยมที่สุดแล้วละ”ซ่งไห่หนานเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มอบอุ่นอย่างที่ชอบทำต่อหน้าหญิงสาวมาโดยตลอด“เจ้าค่ะ ถ้าเช่นนั้นวันนี้หลานคงต้องขอตัวกลับไปจัดการธุระที่ค้างคาเอ

  • ซ่งอวี้หลันนางร้ายเปลี่ยนบท   มือสังหารบุกจวน

    ยามจื่อ เป็นเวลาที่ผู้คนต่างหลับใหลอยู่ในห้วงแห่งความฝันอยู่นั้นกลับมีเงาร่างของคนชุดดำกลุ่มหนึ่งกำลังเร้นกายหายไปกับความมืดก่อนจะใช้วิชาตัวเบาไต่ไปตามหลังคาบ้านเรือนของเหล่าผู้คนโดยจุดหมายของคนกลุ่มนี้ก็คือจวนหลังใหม่ที่เพิ่งจะสร้างเสร็จและมีรูปแบบที่แปลกตาโดยเป้าหมายของพวกมันในครั้งนี้ก็คือชีวิตของหญิงสาวผู้เป็นเจ้าของจวน เมื่อเงาร่างหลายสายมาถึงยังจุดหมายพวกมันต่างก็มุ่งตรงไปยังบ้านชั้นในที่มีอยู่สองชั้นที่พวกมันคาดเดาว่าคงจะเป็นที่พักของหญิงสาวก็ไม่รอช้าเมื่อมาถึงด้านล่างของเรือนสองชั้นเหล่าคนชุดดำที่ปกปิดใบหน้าต่างก็พากันกระโดดขึ้นไปยังระเบียงห้องของอีกฝ่ายในทันทีแต่พวกมันยังกระโดดไปไม่ถึงราวระเบียงคนของพวกสามสี่คนต่างก็ร่วงหล่นลงไปนอนหายใจรวยรินอยู่ที่พื้นด้านล่างโดยที่ยังไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะได้สู้เลยด้วยซ้ำและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูกน้องของกลุ่มมือสังหารที่ถูกว่าจ้างมาด้วยเงินจำนวนมากนั้นก็ทำให้ผู้เป็นหัวหน้าเองมีสีหน้าตื่นตระหนกด้วยไม่คาดคิดว่าที่จวนแห่งนี้จะมียอดฝีมือคอยปกป้องอยู่หลังจากที่กลุ่มมือสังหารที่เหล

  • ซ่งอวี้หลันนางร้ายเปลี่ยนบท   คนร้ายที่คาดไม่ถึง

    หลังจากที่กลุ่มของอวี้หลันนั้นพักทานอาหารที่เหลาอาหารแห่งหนึ่งในท่าเรือจนเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้นหญิงสาวเองก็ตั้งใจว่าจะพากันเดินทางกลับเมืองหลวงเลยเพราะถ้าหากว่ากลับช้ากว่านี้อาจจะถึงที่หมายมืดค่ำเสียก่อนแต่เส้นทางในการเดินกลับไปยังรถม้าของพวกนางนั้นต้องผ่านท่าเรือส่งของที่พวกชาวหัวแดงกับพ่อค้าของทางการกำลังเจรจาเรื่องการค้าขายโดยมีล่ามเป็นผู้ช่วยคนเหล่านั้นล้วนคิดว่าไม่มีใครฟังบทสนทนาของพวกตนเองออกจึงได้กำลังทำการเจรจาถึงเรื่องสำคัญโดยไม่ได้ทำการให้รอบคอบเสียก่อนพวกของอวี้หลันและชินอ๋องเองต่างก็พากันสวมหมวกปิดบังใบหน้าเอาไว้ ส่วนที่มาของหมวกก็ล้วนแล้วแต่มาจากบุรุษที่เดินเคียงข้างมากับนางอย่างไรเล่าย้อนกลับไปตอนที่พวกของหญิงสาวลงจากรถม้าเพื่อที่จะเดินเข้าไปยังตลาดท่าเรือ เหล่าบรรดาชาวบ้านหรือบุรุษชายหญิงทั้งเป็นคนในแคว้นต่างแคว้นหรือแม้แต่พวกชาวหัวแดงต่างก็จ้องมองมายังหญิงสาวอย่างไม่วางตา เมื่อชินอ๋องได้เห็นสายตาของบุรุษพวกนั้นที่จ้องมองสตรีของตนก็รู้สึกไม่พอใจจนอยากจะเข้าไปควักลูกตาของคนพวกนั้นเสียแต่เขารู้ว่าไม่อาจทำอย่างนั้นได้จึงสั่

  • ซ่งอวี้หลันนางร้ายเปลี่ยนบท   ความทรงจำที่ขาดหายไป

    ท่ามกลางความมืดมิดเปลือกตาหนาของหญิงสาวก็ลืมขึ้นอย่างเชื่องช้าก่อนที่แสงสว่างจะแยงตาของหญิงสาวจนต้องหลับตาลงอีกครั้งเพื่อปรับสายตาจนในที่สุดหลังจากที่อวี้หลันปรับสายตาได้ชัดเจนแล้วนั้นนางก็พบว่าในตอนนี้ตัวของนางนั้นกำลังนอนพิงต้นไม้อยู่ที่สวนดอกไม้ของที่ไหนสักแห่งหลังจากที่ตั้งสติได้แล้วหญิงสาวจึงได้มองสำรวจไปรอบ ๆ บริเวณที่ตนเองกำนั่งอยู่ เมื่อเพ่งสายตามอบทิวทัศน์โดยรอบก็พบว่าที่นี้คือสถานที่ในความทรงจำที่สลับไปมาในตอนที่นางหมดสติไปตอนอยู่ที่อารามเหอชุนนั่นเองแต่ที่นางสงสัยคือที่นี่เป็นภาพความฝันหรือว่ามันคือเศษเสี้ยวของความทรงจำที่ขาดหายไปของไป๋อวี้หลันกันแน่ ยังไม่ทันที่นางจะได้ทำสิ่งใดต่อไปหญิงสาวก็มองเห็นเด็กผู้หญิงอายุ 5 หนาวกำลังเดินเที่ยวชมสวนดอกไม้อย่างมีความสุขท่ามกลางเหล่าบุปผาที่กำลังเบ่งบานอย่างงดงามห่างออกไปไม่ไกลจากส่วนบนต้นไม้ใหญ่เองก็กำลังมีเด็กผู้ชายที่มีใบหน้าหล่อเหล่าอายุราว ๆ 12 หนาวกำลังนอนราบไปตามกิ่งไม้บนต้นไม้ด้วยความเบื่อหน่ายก่อนที่เด็กชายคนนั้นจะได้ยินเสียงหัวเราะอันแสนสดใสของเด็กน้อยที่เดินตรงไปยังทิศทางที่เขากำลัง

  • ซ่งอวี้หลันนางร้ายเปลี่ยนบท   วางแผนจัดการผู้อยู่เบื้องหลัง

    หลังจากที่คนทั้งสองได้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องในอดีตที่ผ่านมากันจนเข้าใจแล้ว ชินอ๋องเองก็ได้เอ่ยบอกถึงข่าวที่เขาให้คนไปสืบมาพร้อมทั้งหลักฐานบางส่วนที่ได้จากการเจรจาในครั้งก่อนมาด้วยก่อนที่ชายหนุ่มจะเอ่ยเล่าถึงที่มาที่ไปของตระกูลเผิงที่คนของเขาสืบมาได้ความจริงแล้วตระกูลเผิงนั้นแต่ก่อนก็เป็นตระกูลขุนนางที่ทำหน้าที่เป็นแม่ทัพพิทักษ์เมืองหลวงมาก่อนเพียงแต่ในช่วงที่องค์ฮ่องเต้จะทรงขึ้นครองราชย์นั้นตระกูลเผิงได้สร้างความผิดขึ้นจนทำให้ถูกลดขั้นลงไปเป็นเพียงขุนนางระดับกลางเพียงเท่านั้น ก่อนที่ฮ่องเต้พระองค์ใหม่จะทรงแต่งตั้งนายท่านซ่งให้ขึ้นเป็นราชครูและบุตรชายคนโตของนายท่านซ่งก็เข้าไปรับตำแหน่งแม่ทัพพิทักษ์แทนนายท่านเผิงคนก่อนและเรื่องนี้ได้สร้างความโกรธแค้นให้กับคนตระกูลเผิงเป็นอย่างมาก ดังนั้นนายท่านเผิงคนปัจจุบันที่คิดว่าตำแหน่งที่ควรจะเป็นของตนเองนั้นถูกคนตระกูลซ่งแย่งชิงไปจึงได้วางแผนที่จะกำจัดคนตระกูลซ่งไม่ให้เหลือแม้เพียงคนเดียว ด้วยเหตุนี้เองรองเจ้ากรมยุติธรรมอย่างเผิงซานคุนจึงได้วางแผนการที่จะใส่ร้ายคนตระกูลซ่งว่าคบคิดกับคนต่างแคว้นจะก่

  • ซ่งอวี้หลันนางร้ายเปลี่ยนบท   ฉากสำคัญ

    คล้อยหลังคู่ของชินอ๋องที่เดินเข้ามาภายในงานนั้นก็ยังมีคู่ขององค์รัชทายาทกับคุณหนูหวังซูเซียนที่เดินเข้ามาในงานท่ามกลางสายตาที่ดูสนใจของแขกภายในงานเช่นเดียวกันกับคู่ของอวี้หลันไม่น้อยไปกว่ากันเพราะผู้คนต่างก็จับจ้องไปยังชายหญิงทั้งสองคู่ที่เดินเข้ามาในงานในเวลาไล่เลี่ยกันนั่นเองอีกด้านหนึ่งของสถานที่จัดงานที่มีไว้สำหรับแขกผู้สูงศักดิ์จากต่างแคว้นและเหล่าคณะทูตที่เดินทางมาร่วมงาน ร่างหนาในชุดผ้าไหมชั้นดีสีน้ำเงินเข้มที่นั่งยังตำแหน่งองค์ชายของแคว้นโจวบุรุษผู้มีใบหน้าเกลี้ยงเกลา หล่อเหลาคมเข้มอย่างบุรุษที่อาศัยอยู่ใกล้กับทะเล สีผิวเข้มเล็กน้อยนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนคู่นั่นเองก็กำลังจ้องมองไปยังบุรุษและสตรีที่เดินทางเข้ามาภายในงานเมื่อไม่นานมานี้อย่างสนใจแต่องค์ชายสาม โจวฟางเหอ นั้นกลับจดจ้องมองไปยังหญิงสาวที่เดินเคียงคู่มากับองค์รัชทายาทด้วยดวงตาเหม่อลอย อาจจะเป็นเพราะความงดงามที่ดูอ่อนหวานเขาเองยังรู้สึกว่าสตรีผู้นั้นงดงามจนหน้าอกด้านซ้ายของตนเองนั้นเกิดสั่นไหวอย่างรุนแรงคล้ายคนตกหลุมรักตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบทั้งท่วงท

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status