'ประทานพร' จะทำอย่างไรเมื่อ 'นภพงศ์' ชายหนุ่มที่เธอมองเขาเป็นพี่ชายมาตลอดเริ่มเข้าหาเธอมากจนเกินคำว่าพี่ หัวใจเธอกำลังสั่นไหว เธอจะเอาตัวรอดจากเสือหนุ่มตัวนี้อย่างไร ในเมื่อเขาจ้องจะจับเธอกินตลอดเวลา
Lihat lebih banyakก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ก่อนที่บานประตูจะถูกเปิดเข้ามา ทั้งที่ยังไม่ได้รับการอนุญาตจากเจ้าของห้อง ที่ยังนั่งก้มหน้าทำงานอยู่ ใบหน้าหล่อเหลาเหลือบหางตามองเพียงเล็กน้อย เมื่อเห็นร่างคนที่เปิดเข้ามา ก่อนจะสนใจเอกสารตรงหน้าต่อ
“ต้อนรับแขกแบบนี้เหรอวะ”
“กูไม่ได้เชิญ”
“ห่า” ผู้มาใหม่ทรุดตัวนั่งลงไขว่ห้างที่โซฟา สีหน้าไม่สบอารมณ์
“มาทำไม” ร่างสูงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หลังโต๊ะทำงานเอ่ยถามขึ้น มือใหญ่ตวัดปากกาเซ็นบนหน้ากระดาษในแฟ้มเอกสารเล่มสุดท้าย แล้ววางปากกาลง ปิดแฟ้มเอกสารรวบวางไว้ตรงมุมโต๊ะ ก่อนจะเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ทำงาน หลังจากนั่งเซ็นเอกสารมานานหลายชั่วโมง
“มาชวนกินเหล้า”
“วีไอพี หรือบาร์”
“บาร์ดิวะ”
ร่างสูงพยักหน้าเบาๆ ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เดินนำออกจากห้องไปเงียบๆ ทิ้งให้คนที่มาชวน มองตามหลังอย่างอ่อนใจ แล้วก้าวเท้ายาวๆตามออกไป
“ไอ้ห่าฟ้า มึงพูดบ้างก็ได้นะ ดอกพิกุลไม่ร่วงหรอก”
นภพงศ์ หรือ ฟ้าคราม ชายหนุ่มอายุ 27 ปี บุตรชายคนโตของณดลกับฟางข้าว ใบหน้าหล่อเหลาที่ถอดแบบบิดามารดาออกมา ดวงโตคมสีออกน้ำตาลอ่อนจากเชื้อสายของทวด คิ้วเข้ม ผิวขาวจัด จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางราวกับผู้หญิง ส่วนสูง 188 เซนติเมตร รูปร่างเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแบบคนออกกำลังกาย แต่ก็ไม่ได้ดูใหญ่จนน่าเกลียด มันดูลงตัวน่ามอง จนไม่ว่าใครก็ตามที่ก็ต้องเหลียวมองโดยไม่รู้ตัว
“เปลืองน้ำลาย”
“ไอเวรนี่”
กันชนก หรือ กันย์ บุตรชายคนโตของนัทธีกับลลัลนา เพื่อนรักของบิดามารดาของนภพงศ์ บ่นอย่างอ่อนใจกับเพื่อนรักของตัวเอง นภพงศ์นิสัยนิ่งเงียบตั้งแต่จำความได้ จะว่าอย่างนั้นก็ไม่ผิดนัก ทั้งคู่เป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เริ่มหัดคลานเสียด้วยซ้ำ ด้วยเกิดห่างกันเพียงเดือนกว่า และบิดามารดาเป็นเพื่อนรักกัน ทำให้สนิทกันไปโดยปริยาย
แต่นิสัยที่ต่างกันสุดขั้ว กลับทำให้ทั้งคู่รู้ใจกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ นภพงศ์นิสัยนิ่งเงียบ แต่เวลาโมโห ใครก็ขวางไม่ได้ แม้แต่บิดามารดาของเขาเองก็ตาม ต่างกับกันชนก ที่ค่อนข้างจะขี้เล่น เข้ากับคนง่าย แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกับนภพงศ์คือความโมโหร้ายของคนทั้งคู่ ตั้งแต่สมัยยังวัยรุ่น ยามที่มีเรื่องชกต่อย กันชนกจะเป็นคนออกหน้าก่อนเสมอ เพราะถ้านภพงศ์เป็นคนออกหน้าเมื่อไหร่ นั่นหมายความว่าทุกอย่างจะพังราบเป็นหน้ากลอง
“มีอะไร” นภพงศ์ถามเพื่อนรัก มือใหญ่ยกเครื่องดื่มขึ้นจิบเบาๆ
“รู้ดีจริงนะมึง”
“รู้จักกันเท่าอายุ”
“เออ กูกลุ้มใจเรื่องยัยเพลง” ชื่อที่ออกมาจากปากกันชนก ทำให้ร่างสูงชะงักไป ก่อนจะกลบเกลื่อนด้วยการกระดกเครื่องดื่ม กันชนกไม่ทันได้สังเกตเพื่อนรัก ยังคงบ่นต่อไป ปล่อยให้คนข้างๆได้เก็บข้อมูล
“…..”
“ช่วงนี้คนมาจีบยัยเพลงเยอะ กูกลัวน้องไปเจอพวกมาหลอก”
“น้องมึงใช่เล่นเสียเมื่อไหร่”
“แต่กูก็ยังห่วงอยู่ดี ยิ่งช่วงนี้ขอแม่ไปอยู่ที่คอนโด กูโคตรกลัวยัยเพลงพาใครมาคอนโดเลย”
คอนโดที่กันชนกพูดถึง คือคอนโดที่นัทธีกับลลัลนาเคยอยู่ ซึ่งอีกห้องที่เป็นของนัทธี ณดลขอซื้อต่อ และตอนนี้ก็ยกให้กับบุตรสาวคนเล็กเรียบร้อยแล้ว
“มึงจะกลัวทำไม ในเมื่ออีกห้องยัยพลอยก็เป็นคนอยู่ ทั้งชั้น…มีแค่น้องมึงกับน้องกู”
“ช่วงนี้คนมาจีบเยอะโว้ย กูกลัวยัยเพลงใจอ่อน”
ไร้คำพูดจากนภพงศ์ เขานั่งกระดกเครื่องดื่มฟังกันชนกบ่นให้ฟังเงียบๆ ความคิดไม่ได้อยู่กับสิ่งตรงหน้า แต่ลอยไปหาใครบางคน คนที่เป็นหัวข้อพูดถึงอยู่ในตอนนี้
ชั้นบนสุดของคอนโด
ประทานพร หรือ เพลง หญิงสาวร่างบาง อายุ 21 ปี ที่สัดส่วนเต็มตึง ในหน้าหวาน ดวงตากลมโต ผมตรงยาวถึงบั้นเอว ผิวขาวเนียน สูง 170 เซนติเมตร กำลังแต่งตัวเตรียมจะออกไปเที่ยว หลังจากที่ได้นัดกับดาราภัสเพื่อนรักของเธอเอาไว้
ระหว่างที่กำลังนั่งคุยเล่นกันอยู่ คนอื่นๆ ก็กลับเข้ามาที่บ้านพัก แต่เมื่อมองไม่เห็นรถของกันชนก ก็มีสีหน้าแปลกใจ“ฟ้า เจ้ากันย์ไปไหน” ณดลถามบุตรชายตัวเอง ระหว่างถือของเดินมาวางที่โต๊ะ“ลากยัยพลอยออกไปแล้วครับ”“ห๊ะ…..” คนอื่นๆ ที่กำลังทยอยขนของที่ซื้อมาวางที่โต๊ะ หันมามองทั้งสองคนด้วยความพร้อมเพรียง“…..” นภพงศ์กับดาราภัสทำเพียงยิ้มๆ ให้กับผู้ใหญ่“สงสัยจะได้เตรียมสินสอดแล้วมั้ง” นัทธีหันมาบอกลลัลนาที่ยืนอึ้งอยู่“เห็นจะต้องเป็นแบบนั้นล่ะค่ะ”“เดี๋ยวข้าวไปดูที่ห้องยัยพลอยหน่อยดีกว่า”ฟางข้าวพูดจบก็เดินขึ้นบ้านไปสำรวจห้องของบุตรสาว เมื่อเปิดดูตู้เสื้อผ้าก็ปิดประตูห้องไว้ตามเดิม แล้วกลับลงมา“เรียบร้อยค่ะทุกคน กวาดเสื้อผ้าไปเรียบ” ฟางข้าวบอกทุกคนพร้อมกับนั่งลงกับทุกคน“คงจะกลับไปที่คอนโดนั่นแหละ ปล่อยไปเถอะ” นัทธีพอจะเดานิสัยบุตรชายตัวเองออกบอกทุกคนนภพงศ์มองสถานการณ์ตรงหน้าพร้อมกับลอบถอนหายใจ ไม่มีใครคิดจะตามกันชนกกับดาราภัสไป อย่างน้อยทั้งสองคนนั้นก็มีเวลาได้เคลียร์กันประทานพรหัวเราะออกมาเบาๆ กับสิ่งที่เห็น ทั้งอาการของสามี และอาการของบิดามารดา สองหนุ่มสาวมองหน้ากันเล็กน้อย ก่อนจะจับจ
เมื่อประทานพรลงมาข้างล่าง ก็เห็นว่าทุกคนกำลังสนุกสนานกันกับการเตรียมปาร์ตี้มื้อเย็น หญิงสาวเดินไปนั่งลงข้างๆ สามี ก่อนจะลงมือช่วยอีกแรง“อ้าว ไม่พักผ่อนก่อนล่ะลูก”“ไม่ล่ะค่ะแม่ เดี๋ยวกลางคืนนอนไม่หลับ อีกอย่างเพลงเริ่มหิวแล้วค่ะ”“ไปทานผลไม้รองท้องก่อนสิลูก อยู่โต๊ะนู้นน่ะ”เมื่อฟังมารดาพูดจบ ประทานพรก็ลุกขึ้นเดินไปอีกโต๊ะ ที่ดาราภัสนั่งปอกผลไม้อยู่ เธอนั่งลงตรงข้ามเพื่อนรัก ก่อนจะหยิบผลไม้ชิ้นหนึ่งส่งเข้าปากตัวเองพลางเคี้ยวแก้มตุ่ย“ไงคุณแม่ ตื่นมาก็หิวเลย”“ก็ช่วยไม่ได้ ไม่ได้กินคนเดียวนี่นา”สองสาวเพื่อนรักนั่งคุยเล่นกันไปเรื่อยๆ จนกระทั่งการเตรียมมื้อเย็นเสร็จเรียบร้อย หนุ่มๆ จัดการจุดเตาเพื่อย่างอาหารทะเล ส่วนสาวๆ นั่งรอกินพลางพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน อังเดรช่วยบรรดาพี่น้องหยิบจับทำนั่นทำนี่ได้เพียงนิดหน่อย เพราะเขาเองก็ไม่ค่อยได้มาเที่ยวทะเลบ่อยนักเมื่ออาหารทะเลที่นภพงศ์กับกันชนกย่างสุก พวกเขาก็ทยอยตักใส่จานใบใหญ่ ก่อนจะยกไปวางที่โต๊ะริมทะเล ที่ประทานพรกับดาราภัสนั่งอยู่“มาแล้วจ้ะสาวๆ”“หืม วันนี้พี่กันย์พูดเพราะ แปลก” ประทานพรแซวพี่ชายพลางทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ กันชนกได้แต่มองหน้า
เวลาล่วงผ่านไปจนกระทั่งเย็น ทั้งนภพงศ์และประทานพรพากันกลับบ้านพักผ่อน โดยที่ข้าวของที่จะนำไปเที่ยว ได้ถูกจัดเก็บใส่กระเป๋าเรียบร้อยแล้วเช้าวันต่อมา ทั้งสองบ้านต่างมารวมตัวกันที่บ้านของประทานพรตั้งแต่เช้า กระเป๋าทุกใบ รวมทั้งข้าวของที่เตรียมจะนำไปถูกขนขึ้นรถจนหมด ก่อนจะแยกย้ายกันขึ้นรถ แล้วขับตามกันออกไปเมื่อเดินทางมาถึงที่บ้านพัก ทั้ง 2 ครอบครัวช่วยกันขนข้าวของลงจากรถเอาไปวางไว้ที่โต๊ะกลางบ้าน ก่อนจะแยกกันขนกระเป๋าขึ้นไปเก็บบนบ้าน โดยที่ประทานพรและดาราภัสนั่งทานขนมอยู่ที่โต๊ะริมทะเล“แกว่าการมาที่นี่ของเราครั้งก่อน กับการมาครั้งนี้ มีอะไรเปลี่ยนไปบ้างวะ” ดาราภัสทอดสายตามองไปยังผืนน้ำกว้าง ก่อนจะเอ่ยปากพูดขึ้นมาพร้อมกับหันมามองใบหน้าหวานของเพื่อนรักที่ควบตำแหน่งพี่สะใภ้“เปลี่ยนเยอะ ในความคิดฉันนะ ฉันรู้สึกว่าตัวเองโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเยอะ คงเพราะฉันกำลังจะเป็นแม่คนด้วยมั้ง สถานะหลายๆอย่างก็เปลี่ยนความรู้สึก ความคิดก็เปลี่ยน” ประทานพรตอบดาราภัส แต่สายตาของเธอทอดมองไปยังผืนน้ำทะเลกว้างหญิงสาวปล่อยความคิดให้ลอยไปไกล ครั้งก่อนตอนที่เธอมาที่นี่ ก็มาพร้อมกับทุกคนในครอบครัวเหมือนวันนี้ ต่างก
หลังจากที่ทุกคนตกลงกันว่าจะพากันไปเที่ยวก่อนที่อังเดรจะกลับ จึงต้องกำหนดวันว่างขึ้นมา จนสรุปได้ว่ารอให้ประทานพรและดาราภัสสอบเสร็จก่อนนภพงศ์กับกันชนกรีบเคลียร์งานให้เสร็จ จะได้ไม่มีงานค้างมากนัก หากต้องหยุดไปหลายวัน จนบ่ายวันหนึ่ง ก่อนถึงวันไปเที่ยว นภพงศ์ไปรับประทานพรที่มหาวิทยาลัยตามปกติ“พี่ฟ้า ทางนี้ค่ะ” เสียงสดใสของประทานพรดังขึ้นพร้อมกับโบกมือเรียกคนรัก เมื่อเห็นว่าเขามองหาเธอไม่เจอ“ยัยพลอยล่ะ” ชายหนุ่มถามคนรักสีหน้าแปลกใจที่ไม่เห็นน้องสาวของตัวเองอยู่ด้วย ทั้งที่ปกติทั้งคู่จะตัวติดกันตลอด“โดนพี่กันย์ลากไปแล้วค่ะ” หญิงสาวหัวเราะเบาๆ“อีกแล้วเหรอ”“ช่วงนี้มาลากไปทุกวันแหละค่ะ หวงยัยพลอยน่าดู”“แล้วมันก็ซื่อบื้อยังไม่รู้ตัวด้วยนะ ทั้งที่หวงจนแทบจะไม่ให้ยัยพลอยห่างตัวขนาดนี้”“เดี๋ยวก็คงรู้สึกตัวแหละค่ะ แต่เพลงกลัวยัยพลอยจะช้ำซะก่อน”ประทานพรพูดพลางส่งของที่วางบนโต๊ะให้กับสามี พร้อมกับขยับตัวลุกขึ้นยืน ก่อนจะพากันเดินไปที่รถที่นภพงศ์จอดเอาไว้ไม่ห่างนัก“ก็หวังว่ามันจะไม่รุนแรงมาก”“คงยากหน่อยนะคะ หึงแรงซะขนาดนี้” นภพงศ์ได้แต่กลอกตาไปมากับคำบอกเล่าของภรรยาสาว ก่อนจะพากันขึ้นรถแล้ว
“ดุเหมือนเดิมเลยแห๊ะ” “น้องมึงนั่นแหละ” “น้องกู แต่เมียมึง”“ไอ้***”ลลัลนาส่ายหน้าด้วยความอ่อนอกอ่อนใจ ปล่อยให้ทั้งคู่เถียงกันไปอยู่แบบนั้น ส่วนตนเองหันมาพูดคุยกับฟางข้าวและลูกๆอย่างสนุกสนานหลังจากรับประทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อยทุกคนพากันแยกย้ายกลับบ้าน โดยที่กันชนกพาดาราภัสไปส่งที่คอนโด หญิงสาวต้องการไปเคลียงานของเธอให้เสร็จเพราะใกล้จะสอบเต็มทีทางด้านนภพงศ์และประทานพร เมื่อกลับมาถึงบ้านก็พากันกลับขึ้นห้องไปพักผ่อนเลย เพราะหญิงสาวอ่อนเพลียเต็มที“เพลงหลับแล้วเหรอฟ้า”“ครับ”เมื่อดูแลจนคนรักพักผ่อนเรียบร้อยแล้ว นภพงศ์ก็ออกจากห้องนอนไปเงียบๆ เขาตรงไปยังห้องทำงานของนัทธี ซึ่งเขามั่นใจว่าอังเดรก็กำลังอยูที่นั่นในตอนนี้“เอาล่ะ ทางคุณดำรงติดต่อมาแล้วนะ ทางนั้นไม่ได้ติดใจอะไร” นัทธีบอกกับชายหนุ่มที่เพิ่งจะหย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงาน“เป็นไปได้ยังๆไงครับ”“ลดาฆ่าตัวตายเอง ทางเราไม่ได้บีบคั้นหรือทำร้ายหล่อนใช่ไหมล่ะ มีแต่หล่อนมาทำร้ายคนของเรา คุณดำรงเลยไม่ติดใจอะไร พร้อมกับฝากขอโทษทุกคนด้วย” นัทธีอธิบายกับนภพงศ์ด้วยสีหน้าเบาใจพวกเขารู้ดีว่ามาเฟียที่อาว
“กลับมาแล้วครับ”นภพงศ์เข้ามาพร้อมกับส่งเสียง ทั้งที่ปกติเขาไม่เคยทำ นั่นหมายความว่าวันนี้ต้องมีอะไรแน่นอน ลลัลนาที่กำลังนั่งทานของว่างอยู่กับประทานพรได้ลุกขึ้นเดินมาดูด้วยความแปลกใจ“พี่เอลล์!!!” ลลัลนาสีหน้าแปลกใจ ก่อนจะรีบโถมตัวเข้ากอดญาติผู้พี่อย่างดีใจ“ว่าไงจ๊ะ คนสวยของพี่ เป็นยังไงบ้าง สบายดีไหม”“สบายดีค่ะ พี่เอลล์มาเมื่อไหร่คะ ไม่เห็นบอกลัลเลย”“ลงเครื่องเมื่อเช้า แล้วเลยไปหาฟ้าที่บริษัทเลย กะว่าเข้ามาพร้อมกันนี่แหละ ไหนตัวแสบของพี่ล่ะ”“นั่งอยู่ข้างในค่ะ เข้าบ้านเถอะค่ะ”ลลัลนาคล้องแขนอังเดร พร้อมกับที่เขายกแขนรอราวกับรู้นิสัยของเธอดี ก่อนจะพากันเดินเข้าไปในบ้าน ตามหลังนภพงศ์ที่เดินเข้ามาหาภรรยาสาวอย่างประทานพรก่อนหน้านั้นไม่ถึงนาที“ว่าไง สาวน้อยของลุง”“ลุงเอลล์!!!!”อังเดรยิ้มให้ประทานพรอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะกางแขนออก รอให้หลานสาวที่ตอนนี้กำลังจะเป็นคุณแม่ แต่ยังเป็นหลานสาวตัวน้อยสำหรับเขาเสมอโผเข้ามากอดเขา ด้วยตัวเขาเองไม่มีลูก จึงเอ็นดูเด็กๆทั้ง 4 คนเหมือนลูก เพราะทั้ง 4 คน เกิดและเติบโตในสายตาของเขามาตลอด นั่นเป็นสาเหตุที่เขาฝึกทั้งนภพงศ์และกันย์ชนกให้แข็งแกร่งและรู้ทุกอย
Komen