Share

บทที่ 32

last update Last Updated: 2025-06-10 12:59:32

บทที่ 32

จันทริกาตัวแข็งทื่อ ก่อนจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นอ่อนระทวยและเผยอเปิดปากรับลิ้นสากหนาของเขา โดยที่รังสิมันต์ใช้เวลาไม่นานด้วยซ้ำ และนั่นก็เป็นสิ่งที่ตอกย้ำความคิดของจันทริกาว่า เธอไม่อาจจะต้านทานความปรารถนาใดๆ ของเขาได้เลย

                ร่างบางได้แต่นั่งนิ่งให้เขาจูบจนพอใจ จนกระทั่งรังสิมันต์เป็นฝ่ายถอนปากออกไปเอง ตาคู่สวยหลุบลงไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองคนเอาแต่ใจ ทว่ารังสิมันต์ก็ไม่ยอมเหมือนเคย เขาละมือที่ประคองศีรษะของเธอมาจับที่ปลายคางมนแล้วเชยขึ้น

                “จำไว้นะจันทริกา นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งของเธอ ไม่ว่าฉันอยากจูบหรืออยากได้ เธอก็ต้องยอมตามใจฉัน แต่ก็จำใส่หัวไว้ตลอดเหมือนกันว่าเธอไม่ใช่เมีย แต่เป็นแค่นางบำเรอเท่านั้น เพราะฉะนั้นอย่าแสดงตัวว่าเป็นอะไรกับฉัน ทั้งๆ ที่เธอไม่มีสิทธิ์”

                จันทริกาไม่ตอบ แต่เลือกที่จะเงียบ ทั้งที่หัวใจปวดหนึบไม่น้อยกับการกระทำและคำพูดของเขาซึ่งคอยแต่จะทำร้ายเธออยู่ร่ำไป

                เอกสารใบแล้วใบเล่าถูกอนุมัติจากลายเซ็นของคนที่รู้สึกว่าวันนี้ตัวเองอารมณ์ดีแปลกๆ รังสิมันต์ไม่อยากคิดว่าสาเหตุของการอารมณ์ดีของตัวเอง เกิดจากการได้ลงโทษเด็กคนนั้นทั้งเมื่อคืนและเมื่อเช้านี้ แต่...เขายอมรับก็ได้ว่าเป็นเพราะเด็กคนนั้นจริงๆ ทว่ามันไม่ใช่เพราะเขามีอารมณ์วาบหวามหรืออะไร ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะเขาได้แก้แค้นคนที่ทำให้เมียกับลูกเขาตายต่างหาก รู้สึกแค่นั้นจริงๆ ไม่มีความรู้สึกอื่นใดเข้ามาแทรก สาบานได้ให้ตายสิ!

                ความคิดที่แทรกเข้ามาทำให้อารมณ์ที่กำลังดีอยู่สะดุดลง ร่างสูงจึงเอนตัวไปด้านหลัง สะบัดศีรษะแรงๆ เพื่อสลัดความคิดที่เริ่มจะฟุ้งซ่านนั้นทิ้งไป

                ก๊อก...ก๊อก...

                ประตูห้องทำงานถูกเคาะจากด้านนอกทำให้รังสิมันต์ต้องยืดตัวขึ้นนั่งตรง แล้วเอ่ยปากอนุญาตให้คนเคาะเข้ามาได้

                “เชิญครับ”

                สิ้นเสียงอนุญาต ประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามา ซึ่งคนที่เข้ามาในห้องนั้นก็คือสาวสวยลูกสาวเจ้าของร้านเพชรที่ปรัชญ์เคยถามว่าใช่เด็กใหม่เขาหรือเปล่า

                “สวัสดีค่ะพี่ตะวัน” สะบันงาเอ่ยทักทายพร้อมกับยิ้มหวานๆ ให้

                “มาได้ไงครับ”

                “ก็มาหาพี่ตะวันนี่ละค่ะ พอดีคุณแม่เพิ่งกลับจากต่างประเทศแล้วได้ชามา สาคิดถึงพี่ตะวันก็เลยขอคุณแม่มาให้น่ะค่ะ” สะบันงาบอกพลางยื่นถุงกระดาษไปให้

                “ขอบคุณนะครับ ว่าแต่ขอมาแบบนี้คุณแม่จะไม่ว่าเอาเหรอครับ” รังสิมันต์รับมาพร้อมกับเอ่ยสัพยอกออกไป

                “คุณแม่เต็มใจมากที่สุดค่ะ พี่ตะวันไม่ต้องเกรงใจนะคะ”

                “งั้นพี่ฝากขอบคุณคุณแม่ด้วยนะครับ”

                “ได้ค่ะเดี๋ยวสาบอกให้ ว่าแต่เมื่อกี้พี่ตะวันทำไรอยู่คะ สามารบกวนหรือเปล่า”

                “ตอบตรงๆ พี่กำลังบิดขี้เกียจ พอดีนั่งนานแล้วเมื่อยน่ะครับ”

                สะบันงายิ้มกว้างกว่าเดิมเมื่อได้ยินคำตอบของรังสิมันต์ เธอเท้าสองมือกับขอบโต๊ะ โน้มตัวลงต่ำ ส่งสายตาอย่างเปิดเผย ก่อนจะเอ่ยบางอย่างออกมา

                “ให้สาช่วยนวดให้ไหมคะ เผื่อพี่ตะวันจะได้หายเมื่อย”

                ถามแต่ไม่รอคำตอบ สะบันงาเดินนวยนาดอ้อมโต๊ะไปยืนด้านหลังเก้าอี้หนังหนานุ่มที่รังสิมันต์นั่งอยู่ จากนั้นมือของเธอก็วางลงบนไหล่ของเขา แล้วเริ่มบีบนวดให้ด้วยจังหวะที่ชวนให้เกิดอารมณ์บางอย่าง

                “อืม...” รังสิมันต์ครางออกมาอย่างสบาย เขายอมรับว่าฝีมือการนวดของสะบันงาไม่ธรรมดา

                “สบายไหมคะ”

                “ครับ สบายมาก”

                “ถ้าพี่ตะวันชอบ วันหลังสามานวดให้อีกนะคะ”

                “ขอบคุณมากนะครับ น้องสานี่ใจดีจัง”

                “เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็นเลี้ยงข้าวสาสักมื้อได้ไหมคะ”

สะบันงาโน้มหน้าลงมากระซิบถาม พลางไล้มือไปมาที่หัวไหล่แกร่งเบาๆ ท่าทีเปิดเผยเช่นนั้นมีหรือที่รังสิมันต์จะไม่เข้าใจ เขานั่งนิ่งอยู่อึดใจหนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ เมื่อคิดอะไรบางอย่างออก

“ได้สิ...แต่พี่ขอเลี้ยงที่บ้านพี่นะ”

“ถ้าเป็นพี่ตะวัน ที่ไหนเมื่อไหร่สาก็ได้หมดค่ะ”

“งั้นเย็นนี้เจอกันนะครับ ไม่ต้องเอารถไป ไปรถพี่เดี๋ยวขากลับพี่จะมาส่งเอง”

“ค่ะ...เย็นนี้เจอกันนะคะพี่ตะวัน”

พูดจบสะบันงาก็โน้มหน้าลงมาแล้วยื่นปากไปหอมแก้มของรังสิมันต์เบาๆ ก่อนจะออกจากห้องทำงาน โดยมีสายตาคมกริบมองตามจนกระทั่งประตูห้องปิดลง จากนั้นเขาจึงเอื้อมมือไปหยิบเอาโทรศัพท์มือถือของตัวเองที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้น เลื่อนหาชื่อคนที่เขาต้องการจะคุยด้วยแล้วจึงกดโทร.ออก

กริ๊งงง...

เสียงโทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้นทำให้จันทริกาต้องวางไม้ถูพื้นลง เพื่อล้วงเอาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงออกมาดู ชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอคือ ‘พี่ตะวัน’ ทำให้คิ้วเรียวมุ่นเข้าหากันเล็กน้อย เพราะนานมากแล้วที่เจ้าของชื่อไม่เคยโทร.หาเธอ

“ค่ะ...คุณตะวัน” เสียงหวานเอ่ยกลับไปหลังจากกดรับสาย

“เธอทำอะไรอยู่”

“กำลังทำความสะอาดบ้านค่ะ”

“ใกล้จะเสร็จหรือยัง”

“ใกล้แล้วค่ะ”

“ที่โทร.มานี่จะบอกว่า เย็นนี้ฉันจะพาแขกไปทานข้าวที่บ้าน ให้เธอเตรียมอาหารแบบพิเศษไว้และหาซื้อดอกไม้มาจัดแจกันประดับโต๊ะให้สวยที่สุดด้วย”

“ค่ะ...มากี่คนคะ”

“คนเดียว ทุกอย่างต้องเรียบร้อยก่อนฉันกลับถึงบ้านนะ”

สั่งห้วนๆ แค่นั้นรังสิมันต์ก็วางสาย จันทริกาจัดการเปลี่ยนชื่อที่บันทึกในโทรศัพท์จาก ‘พี่ตะวัน’ เป็น ‘คุณตะวัน’ เพราะเกรงว่าหากเขามาเห็นอาจจะไม่พอใจเอาได้ เปลี่ยนเสร็จก็เร่งมือทำความสะอาดแล้วปั่นจักรยานออกไปตลาด ซื้อของตามที่รังสิมันต์สั่ง จากนั้นก็กลับมาเตรียมอาหารและจัดโต๊ะรอ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ตะวันพ่ายจันทร์   บทที่ 41

    บทที่ 41รถที่สมรรถสูงสมราคาแล่นฉิวเข้ามาในที่จอดประจำโดยใช้เวลาไม่นานนัก รังสิมันต์ก้าวลงจากรถแล้วสั่งให้จันทริกาเดินไปหาหัวหน้าแม่บ้านที่ห้องล็อกเกอร์ ส่วนตัวเองตรงขึ้นไปยังห้องทำงานเพราะเมื่อวานนี้ทราบแล้วว่าห้องล็อกเกอร์อยู่ตรงไหน จันทริกาจึงไปหาหัวหน้าแม่บ้านที่นั่นโดยไม่ต้องมีใครพาไป หลังจากเปลี่ยนชุดเสร็จเธอได้รับมอบหมายให้ทำความสะอาดห้องน้ำที่ชั้นสามและชั้นสี่เช่นเดิม หญิงสาวพยายามมองหาคนในบ้านที่รังสิมันต์ให้มาทำงานที่นี่ ทว่าก็ไม่ได้พบใคร เพราะทุกคนอยู่ในแผนกอาหารสดกันหมด เธอจึงได้แต่ทำหน้าที่ของตัวเองโดยไม่มีโอกาสได้พูดคุยทักทายกับใครเลย ร่างเล็กบางที่กำลังหิ้วถังน้ำและไม้ถูพื้นเข้าไปห้องน้ำ ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าตัวเองตกเป็นเป้าสายตาของรังสิมันต์อยู่แทบจะทุกย่างก้าว เพียงแต่วันนี้เขายืนมองอยู่ไกลๆ ไม่ได้เข้ามาคุมแจอยู่ข้างในเหมือนเมื่อวาน หลังจากที่เข้าไปทำความสะอาดห้องน้ำชั้นสามเสร็จ จันทริกาถืออุปกรณ์ทั้งหมดออกมาด้านนอก เตรียมจะไปทำความสะอาดที่ห้องน้ำชั้นสี่ต่อ แต่เธอต้องหันหลังกลับไปมอง เมื่อมีใครบางคนเรียกชื่อเธออย่างคุ้นเคย

  • ตะวันพ่ายจันทร์   บทที่ 40

    บทที่ 40เวลาเกือบสี่ทุ่ม กว่าที่รังสิมันต์กับปรัชญ์จะแยกย้ายกันกลับบ้าน แม้ปากบอกว่าจะไปดื่มเหล้าด้วยกัน แต่ต่างคนต่างก็ไม่ได้ดื่มหนักอะไร ส่วนใหญ่จะเป็นคุยกันสัพเพเหระซะมากกว่า หรือถ้าให้พูดตรงๆ เรื่องดื่มเหล้ามันก็เป็นแค่ข้ออ้างสำหรับการออกไปเที่ยวเตร่ตามประสาผู้ชายโสดเท่านั้นออดี้สีเหลืองแล่นมาจอดที่หน้าบ้านอย่างคล่องตัว คนขับจัดการดับเครื่องดึงกุญแจออกแล้วเดินตรงเข้าไปในบ้านเลย โดยไม่ได้สนใจจะขับรถราคาแรงนั้นไปจอดในโรงรถแต่อย่างใด ด้านนอกไฟยังคงสว่างไสว ทว่าภายในบ้านไฟกลับถูกปิดเกือบทุกดวง ยกเว้นตรงบริเวณทางขึ้นบันไดชั้นสองเท่านั้นที่เปิดอยู่ร่างสูงก้าวขาไปยังบันไดเพื่อขึ้นห้อง ทว่าอยู่ๆ ก็เปลี่ยนใจกะทันหัน หันหลังกลับแล้วเดินตรงไปยังห้องนอนชั้นล่างแทนเขาหยิบกุญแจสำรองที่แอบเก็บไว้ติดตัวตลอดเวลาออกมา กำลังจะไขเข้าไปอย่างถือวิสาสะ แต่ก็ชะงักมือเอาไว้เมื่อได้ยินเสียงหวานแว่วดังออกมานอกห้องเบาๆ“นอนลงๆ เป็นเด็กว่าง่าย นอนได้แล้วเมสซี่ วันนี้จันทร์ง่วงมาก แล้วก็ไม่มีอะไรจะคุยให้เมสซี่ฟังด้วย ฝันดีนะ”แม้เสียงนั้นจะเล็ดลอดออกนอกห้องมาแค่แผ่วเบา แต่ด้วยบรรยากาศที่เงียบเชียบของบ้าน ร

  • ตะวันพ่ายจันทร์   บทที่ 39

    บทที่ 39สินชัยเดินนำไปทางห้องล็อกเกอร์ของแม่บ้าน บอกหัวหน้าแม่บ้านให้หาชุดให้จันทริกาเปลี่ยน จากนั้นหญิงสาวก็ถืออุปกรณ์ทำความสะอาดเดินตามหัวหน้าแม่บ้านไปยังห้องน้ำที่อยู่ชั้นสาม “เดี๋ยวทำที่นี่เสร็จ ขึ้นไปทำที่ชั้นสี่ต่อเลยนะ” หัวหน้าแม่บ้านออกคำสั่งกับจันทริกาอีกคน “ค่ะ” “งั้นก็ลงมือได้เลย เดี๋ยวป้าจะไปตรวจความเรียบร้อยที่ชั้นอื่นก่อน เสร็จแล้วจะขึ้นมาตรวจดูที่ชั้นสามอีกรอบ” หัวหน้าแม่บ้านบอกเสร็จก็ออกไปจากห้องน้ำชั้นนั้น เพื่อไปตรวจความเรียบร้อยของชั้นอื่นๆ ตามหน้าที่ตัวเอง ประตูห้องน้ำที่ถูกแขวนป้ายด้านนอกว่ากำลังทำควาสะอาดถูกผลักเข้ามาอีกรอบ ทำให้จันทริกาซึ่งกำลังตั้งหน้าตั้งตาขัดล้างทำความสะอาดห้องน้ำอยู่หันขวับไปมอง แล้วก็เห็นว่าคนที่เข้ามานั้นก็คือรังสิมันต์นั่นเอง “คุณตะวัน…” “ฉันแค่เข้ามาดูเธอว่าทำความสะอาดได้เรียบร้อยดีหรือเปล่า” ได้ยินคำตอบแบบนั้นจันทริกาก็หันไปตั้งหน้าตั้งตาทำความสะอาดต่อ โดยไม่ได้พูดจาใดๆ กับเขาอีก เสร็จจากห้องนั้นก็ต่อห้องนี้ จนกระทั่งครบทุกห้

  • ตะวันพ่ายจันทร์   บทที่ 38

    บทที่ 38“หมดฤทธิ์แล้วเหรอ ถ้าหมดฤทธิ์แล้ว ฉันจะได้ทำต่อ” “กรุณาเถอะนะคะ จันทร์ไม่ต้องการแบบนี้” “แล้วต้องการแบบไหน หรือว่าชอบแบบซาดิสม์ ฉันก็จัดให้ได้นะ อ้อ...บางทีเด็กจิตๆ อย่างเธออาจจะชอบแบบที่ว่าก็ได้ ทำไมฉันถึงโง่นักนะ” รังสิมันต์หัวเราะเสียงหื่นในลำคอ ก่อนจะละมือข้างหนึ่งมาคลายเนกไทน์ของตัวเองออก จากนั้นก็กระชากมันมา แล้วรวบแขนทั้งสองข้างของจันทริกามามัดข้อมือด้วยเนกไทน์เส้นนั้น หญิงสาวได้แต่เบิกตากว้างไม่คิดว่ารังสิมันต์จะทำอะไรรุนแรงอย่างที่เขาว่าจริงๆ “คุณตะวันคะได้โปรด...” เธอขอร้องเขาเสียงสั่น “ได้สิ แบบนี้ฉันก็สุดโปรดเหมือนกัน” เรียวปากหยักคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ ตาสาดประกายบางอย่างที่ทำเอาร่างบางสะท้าน และหลังจากนั้นจันทริกาก็ถูกผลักให้นอนหงายหลังลงไปบนโซฟา ก่อนที่รังสิมันต์จะจับสองมือที่ถูกมัดด้วยเนกไทน์ขึ้นวางไว้เหนือศีรษะของเธอ ร่างบางนอนตัวเกร็งขณะที่เขาเริ่มลงมือถลกชายเสื้อของเธอขึ้นไปกองไว้เหนือเนินอก ตามด้วยเสื้อชั้นในลูกไม้สีหวาน เปิดเปลือยส่วนสำคัญช่วงบนให้เป

  • ตะวันพ่ายจันทร์   บทที่ 37

    บทที่ 37“หยุดก่อน”คำสั่งนั้นทำให้มือเล็กๆ ชะงัก และยืนตัวเกร็งรอการตำหนิหรือลงโทษจากเขา เพราะคิดว่ารังสิมันต์คงไม่พอใจกับการนวดของเธอ“มานั่งนี่”เขาออกคำสั่งพลางตบมือลงบนที่ว่างข้างตัว จันทริกาเดินไปนั่งตัวลีบลงบนโซฟาข้างๆ เขา แล้วหันไปมองเพื่อรอว่าเขาจะลงโทษยังไง ทว่ารังสิมันต์กลับทำในสิ่งที่เธอคาดไม่ถึง นั่นคือการโน้มตัวไปวางแก้ววิสกี้ที่โต๊ะหน้าโซฟา แล้วเอนตัวนอนหนุนตักเธออย่างรวดเร็ว “คุณตะวัน!” จันทริกาอุทานออกมา แก้มนวลมีจุดสีแดงซ่านแต่งแต้มทันทีกับสิ่งที่เธอไม่คิดว่ารังสิมันต์จะทำ ก็เมื่อคืนเขาเพิ่งจะมีอะไรกับผู้หญิงอีกคน พอมาวันนี้กลับมาทำกิริยาคล้ายสนิทชิดเชื้อกับเธอแบบชู้สาว ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้รู้สึกอะไรด้วย “เสียงดังทำไม หนวกหู ฉันก็แค่อยากนอนให้เธอนวดสบายๆ” “แต่แบบนี้จันทร์นวดไหล่ให้คุณไม่ได้นะคะ” “นวดไหล่ไม่ได้ ก็นวดแขนนวดมือไปสิ ตอนนี้ฉันเมื่อยไปทั้งตัวแล้ว” จันทริกาหน้าแดงก่ำกว่าเดิม ขณะก้มลงมองเขาพร้อมกับใช้มือเล็กๆ บีบนวดลงไปตามต้นแขน และสลับมานวดอีกข้างโดยไม่ยอมขยับลงไปนวดมือให้ตามที่คน

  • ตะวันพ่ายจันทร์   บทที่ 36

    บทที่ 36ร่างสูงก้าวลงจากรถ เดินเข้าบ้านแล้วกวาดสายตามองหาร่างบางที่ปกติเวลานี้จะอยู่ในห้องครัว หรือไม่ก็กำลังตั้งโต๊ะอาหารรอเขาอยู่เมื่อไม่เห็นคนที่ตัวเองมองหา รังสิมันต์ก็ตรงไปยังห้องนอนของเธอ เพราะคิดว่าจันทริกาอาจจะอยู่ที่นั่นกับเมสซี่ แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็ไม่พบทั้งคนทั้งแมวตัวโปรดของเขา ชายหนุ่มจึงบ่นพึมพำออกมาอย่างออกจะหงุดหงิด พร้อมกับที่หัวใจเริ่มร้อนรนขึ้น“ไปไหนของเขานะ...”เมื่อหาในบ้านไม่เจอ ลำขาแข็งแรงก็ก้าวยาวๆ ออกไปหารอบๆ บ้าน ก่อนจะระบายลมหายใจออกมาแรงๆ อย่างโล่งอกทันทีที่เห็นว่าคนที่ตัวเองตามหากำลังก้มขัดพื้นอย่างขะมักเขม้นอยู่ที่ศาลาสระบัว โดยมีเมสซี่นั่งเป็นกำลังใจอยู่บนม้าหินอ่อนด้านบน“ค่ำมืดป่านนี้แล้วทำไมยังไม่เข้าบ้าน”เสียงดุๆ ที่ดังขึ้นทำให้จันทริกาสะดุ้งเล็กน้อย เธอหยุดชะงักมือที่กำลังจับแปรงขัดพื้น แล้วเงยหน้าขึ้นก่อนจะตอบคำถามของเขา“จันทร์ขัดพื้นศาลายังไม่เสร็จน่ะค่ะ”“แล้วไม่เห็นหรือไงว่าฉันกลับมาแล้ว ทำไมไม่ไปตั้งโต๊ะอาหารรอ”“ขอโทษค่ะ จันทร์จะไปเดี๋ยวนี้”“ที่มาขัดเอาค่ำๆ มืดๆ แบบนี้เพราะตอนกลางวันมัวแต่อู้งานล่ะสิ ถึงได้ทำไม่เสร็จ”“เปล่านะคะ” จั

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status