แชร์

5 พี่สาว

ผู้เขียน: รอรีวัน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-13 21:34:41

 

นอกจากสตรีที่บุตรชายเอ่ยถึงแล้ว เขายังพบว่าร้านอาหารแห่งนี้กักขังสตรีเอาไว้หลายนาง สอบสวนคร่าว ๆ ล้วนแต่เป็นผู้ที่ถูกหลอกมาไม่ก็ถูกลักพาตัวมาจากครอบครัว เพื่อเตรียมตัวส่งขายให้กับนายหน้าค้าประเวณี งดงามมากหน่อยก็ส่งไปเป็นอนุภรรยาของขุนนางกังฉิน

แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่พบสตรีที่เว่ยเจี้ยนไคเอ่ยถึง

“ลูกไค เจ้าจำหน้านางได้จริง ๆ ใช่ไหม” ผู้เป็นบิดาถามบุตรชายอีกครั้ง

“จำได้ขอรับ นางเป็นสตรีที่งดงามมาก ๆ ข้าไม่เคยเห็นสตรีที่ไหนงดงามเท่านาง แม้กระทั่งพระสนมในวังของเสด็จปู่ก็ยังไม่งดงามเท่ากับนาง” เด็กชายพูดความจริง สนมเอกของเสด็จปู่ที่ว่างดงามยังไม่สามารถเทียบเท่ากับพี่สาวคนสวยที่ช่วยเหลือเขาในวันนี้

จะงดงามสักแค่ไหนกัน สตรีในวังล้วนแต่งดงาม ดูท่าเจ้าลูกคนนี้ออกจะพูดเกินจริงไปเสียหน่อยกระมัง คงเห็นว่านางเลี้ยงข้าวเลี้ยงน้ำก็คิดทึกทักเอาเองว่านางงดงาม ผู้เป็นบิดาคิดในใจ

“ก็ได้ ๆ” เขาหมุนตัวกลับไปออกคำสั่งกับคนของตนให้รีบเร่งตามหาสตรีที่บุตรชายเอ่ยถึง

ตอนแรกก็ว่าจะนั่งจิบชาเฝ้ารอให้ลู่เจียงและคนของตนออกไปตามหา แต่เพราะถูกบุตรชายบังคับให้เขาเป็นผู้ร่วมตามหาด้วย คนตัวสูงจึงจำใจต้องหอบหิ้วบุตรชายออกตามหาพี่สาวที่เขาเอ่ยถึงอย่างทุลักทุเล กระทั่งไปถึงห้องสุดท้ายที่อยู่ท้ายร้านอาหาร เป็นห้องที่ดูร้างผู้คน เว่ยเจิ้งหยางจึงตัดใจว่าจะไม่เข้าไปหา

“ท่านพ่อ จะไปไหนขอรับ ห้องนั้นท่านยังไม่ได้เข้าไปเลยนะขอรับ” เด็กชายทัดทาน

“เจ้าดูสิ ที่พื้นฝุ่นหนาขนาดนี้ แต่ไม่มีรอยเท้าของใครสักคน แสดงว่าพวกนั้นคงไม่ได้เอานางมาเก็บไว้ที่นี่หรอก” เพราะไม่คิดว่าจะมีใครอยู่ภายในห้อง เขาจึงไม่ได้อยากเข้าไปดู แถมยิ่งเข้าใกล้ก็ยิ่งได้กลิ่นไม่พึงประสงค์

“ไม่ได้ขอรับ ยังไงท่านก็ต้องเข้าไปดู” เจ้าตัวน้อยงอแง “ท่านเป็นถึงเว่ยอ๋อง ทำไมถึงกลายเป็นคนไม่ละเอียดรอบคอบเช่นนี้” เขาบ่น

ผู้เป็นบิดาถอนหายใจแบบปลง ๆ

“งั้นเจ้ารออยู่ที่นี่เผื่อด้านในมีกับดัก” เขาวางเด็กชายเอาไว้ข้างนอกก่อนจะส่งสัญญาณเรียกลู่เจียงให้มาเฝ้าเอาไว้

ร่างสูงก้าวขายาว ๆ เข้าไปบริเวณหน้าห้องพบว่ามีแม่กุญแจขนาดใหญ่ผูกมัดกับโซ่เส้นใหญ่เอาไว้แน่น จึงใช้กระบี่ในมือฟันเพียงหนึ่งครั้ง ทั้งกุญแจและโซ่ก็ถูกทำลายทิ้ง

ภายในห้องเต็มไปด้วยไหหมักเครื่องปรุงสำหรับร้านอาหาร กลิ่นน้ำหมักฉุนขึ้นจมูกเดินหาอยู่ครู่หนึ่งก็ไม่พบว่ามีสิ่งผิดปกติ จนจมูกพลันไปได้กลิ่นหอมอ่อนโยนโชยมาจากส่วนลึกสุดของห้อง

เมื่อเข้าไปไกลพบกว่ามีกลไกง่าย ๆ ทำเป็นประตูลับปิดขังเอาไว้ งั้นแสดงว่าด้านหลังกำแพงนี้จะต้องมีอะไรแอบซ่อนอยู่แน่ ๆ เขาจึงลองทำลายกลไกพวกนั้นทิ้ง เมื่อประตูลับถูกเปิดออก กองผ้าสีชมพูมอมแมมก็ปรากฏขึ้น ร่างสูงขมวดคิ้ว เขาดูให้แน่ใจว่าจะไม่เกิดอันตรายใดกับตน เมื่อแน่ใจแล้วจึงเดินเข้าไปสำรวจให้แน่ใจว่ากองผ้าสีชมพูนั่นคืออะไร

ร่างเล็กแบบบางของสตรีนอนหมดสติอยู่กับพื้น เนื้อตัวของนางมอมแมมจนมองไม่ออกว่าเป็นสตรีงดงาม ดูท่าบุตรชายของเขาจะเอ่ยเกินจริงไปมาก ที่เขาเห็นเวลานี้ไม่ใกล้เคียงคำว่างามล่มเมืองเลยสักนิด

“ลูกไค นางใส่ชุดสีชมพูใช่หรือไม่” เขาตะโกนออกไปถามบุตรชาย

“ขอรับ!! ใช่ขอรับนางสวมชุดผ้าไหมสีชมพู บนตัวของนางมีกลิ่นกายหอมอ่อนโยน” เด็กชายพูดสิ่งที่ตนเองจำได้ตอนได้พบกับพี่สาวให้ผู้เป็นบิดาฟังทั้งหมด พร้อมกับวิ่งหนีลู่เจียงตามเข้าไปในห้องเก็บของ

เป็นเช่นนั้นลู่เจียงจึงวิ่งตามเข้ามาด้วยเช่นกัน

“อ๋องน้อย”

“พี่สาว!!” ทันทีที่เห็นนางนอนไม่ได้สติอยู่ที่พื้น เด็กชายก็เริ่มร้องไห้อีกครั้ง “ท่านพ่อช่วยนางด้วย”

ร่างสูงหันไปหาลู่เจียงตั้งใจให้องครักษ์ของตนมาเป็นผู้พาออกไป แต่กลับถูกอ๋องน้อยเข้ามาขวางเอาไว้ก่อน

“อย่าไปขวางลู่เจียง” ผู้เป็นบิดาปราม

“ไม่ได้ขอรับจะให้ลู่เจียงมาแตะต้องนางไม่ได้ ข้าจะเป็นผู้อุ้มนางเอง” เด็กชายทำตัวใหญ่โตถลกแขนเสื้อขึ้นเล็กน้อย ทำท่าจะเข้าไปอุ้มสตรีที่นอนสลบ

“เจ้าอุ้มนางไม่ไหวหรอก ให้เป็นหน้าที่ของลู่เจียงเถิด” เว่ยเจิ้งหยางนึกเอ็นดูบุตรชาย

“ไม่ได้ ให้พี่ลู่เจียงใกล้นางไม่ได้ นางเป็นสตรีที่ยังไม่ได้ออกเรือน บุรุษอื่นจะมาแตะต้องนางได้อย่างไรกัน” เขายังคงยืนขวางและดึงดันไม่ยอมให้ลู่เจียงเข้ามาใกล้พี่สาวคนงาม

“เอาเถอะ ๆ ถ้าเป็นพ่อของเจ้าอุ้มนาง จะได้หรือไม่” ผู้เป็นบิดาเสนอตัว เพราะอยากออกไปจากห้องเหม็น ๆ นี่เสียที

ผู้เป็นบุตรมองหน้าบิดา สองแขนเล็ก ๆ ยกขึ้นมากอดอก พร้อมกับทำท่าทางครุ่นคิด ก่อนจะตัดสินใจ

“ก็ได้ขอรับข้าอนุญาตให้ท่านพ่ออุ้มนาง” เขาทำตัวเหมือนกับเป็นเจ้าของสตรีที่นอนหลับอยู่และยินยอมให้ผู้เป็นบิดาเข้าไปอุ้มนาง “ท่านอาจารย์ไม่ใช่ว่าข้าไม่ไว้ใจท่านหรอกนะ แต่เป็นเพราะท่านมีภรรยาแล้ว เกรงว่าถ้าภรรยาท่านเห็นท่านอุ้มสตรีอื่น ฮูหยินลู่จะเข้าใจผิดได้ แต่ท่านพ่อของข้ายังไม่มีภรรยาหรืออนุสักคน ไม่ต้องกังวลว่าใครจะกล่าวหาเขา” เด็กชายหันไปบอกกับลู่เจียง เพราะไม่อยากให้เขาเข้าใจผิด กลัวว่าท่านอาจารย์ของตนจะน้อยใจ

ลู่เจียงกลั้นขำแทบไม่อยู่กับท่าทางที่ทำตัวเป็นผู้ใหญ่เกินวัยของอ๋องน้อย

“งั้นให้ข้าอุ้มท่านได้หรือไม่”

“ได้ขอรับ” เด็กชายอ้าแขนเพื่อรอให้ลู่เจียง เขาเองก็เหนื่อยมากแล้ว

“เราออกไปกันเถอะให้เว่ยอ๋องอุ้มพี่สาวแสนสวยของท่านก็แล้วกัน”

“ท่านพ่ออุ้มนางดี ๆ นะขอรับถ้านางบาดเจ็บข้าจะโทษว่าเป็นความผิดของท่าน” ผู้เป็นบุตรชายตะโกนไล่หลังในขณะที่ถูกลู่เจียงอุ้มออกไปนอกห้องเก็บของ

ได้กลับมาอยู่กันตามลำพังอีกครั้ง เว่ยเจิ้งหยางคุกเข่าก้มตัวลงไปตรวจชีพจร พบว่าเต้นเป็นปกติ นางแค่ดูอ่อนแอแต่ก็ไม่ได้ป่วยอะไรอาจจะเพราะเหนื่อยจึงสลบไป เมื่อคิดได้เช่นนั้นเขาก็จัดแจงอุ้มนางเอาไว้แนบอก ดูแลนางอย่างทะนุถนอมตามความตั้งใจของบุตรชาย และพานางออกไปจากห้องเหม็น ๆ นี่สักที

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ตัวร้ายอย่างข้าต่อไปนี้จะเป็นคนดี   73 เรื่องราวอันเป็นมงคล

    จนถึงตอนนี้ฟู่ลี่อิ๋งก็ยังไม่ได้ยินข่าวคราวของฟู่เหยาเหยาคล้ายกับว่านางหายไปจากโลกนี้อย่างไรอย่างนั้น อากาศในเมืองหลวงเริ่มหนาวขึ้นทุกวัน ๆ รวมไปถึงท้องของนางที่โตขึ้นเรื่อย ๆ การยืนเดินนั่งนอนของนางล้วนลำบากไปเสียหมด หลายครั้งที่ฟู่ลี่อิ๋งลุกขึ้นมานั่งร้องห่มร้องไห้กลางดึกเพียงเพราะอยากกินบะหมี่เนื้อรสเผ็ดทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านางไม่คอยชอบความเผ็ดของมัน ฟู่ลี่อิ๋งคิดถึงวันที่ที่พระสวามีเคยพาไปกิน คิดถึงเมื่อตอนที่แต่งงานกันใหม่ ๆ ส่วนเว่ยจงหมิงเองก็ตามใจและเข้าใจได้ไท่จื่อเฟยตั้งครรภ์ท้องแรกอีกทั้งยังไม่มีประสบการณ์ไม่มีผู้ใดสอนนางเกี่ยวกับเรื่องนี้ นางจะกลัว กังวลและหวั่นใจไม่ใช่เรื่องแปลก เป็นหน้าที่ของเขาที่เป็นสามีที่จะคอยให้ความอุ่นใจ อยู่เคียงข้างนางให้นางอบอุ่นใจในบางวันที่เว่ยจงหมิงต้องไปทำงานไกล ๆ ก็จะได้ไคไคน้อยมาอยู่เป็นเพื่อนคอยเล่านู่นเล่านี้ให้นางฟังไม่มีเบื่อถึงตอนนี้ฟู่ลี่อิ๋งถึงเพิ่งสังเกตว่าไคไคน้อยสูงขึ้นมาก จากที่เคยสูงกว่าเอวนางนิดหนึ่งตอนนี้หัวของเขาอยู่ในระดับไหล่นางเสี

  • ตัวร้ายอย่างข้าต่อไปนี้จะเป็นคนดี   72 อย่างไรก็เป็นน้อง

    หลังจากได้ยินเรื่องที่ฟู่เหยาเหยาหย่ากับเว่ยเจิ้งหยาง ฟู่ลี่อิ๋งก็ไม่สบายใจนัก นางไปถามกับพี่ชายว่าสาเหตุที่เขามาที่เมืองหลวง ใช่เรื่องเพราะเรื่องนี้หรือไม่ คราแรกเขาอ้ำอึ้งไม่ยอมพูดจนสุดท้ายนางก็คาดคั้นเอาคำตอบออกมาจากปากเขาได้ในที่สุดเมื่อได้ยินทุกอย่างที่นางอยากจะฟัง ฟู่ลี่อิ๋งจึงลากพี่ชายไปสืบความที่จวนเว่ยอ๋องด้วยกัน เนื่องด้วยไม่อยากไปเหยียบที่นั่นเพียงลำพังเว่ยเจิ้งหยางเมื่อได้ยินว่าไท่จื่อเฟยมาถึงที่นี่ก็ละทิ้งทุกอย่างรีบมาหานาง แต่เมื่อออกมาถึงกลับพบว่านางไม่ได้มาตามลำพัง เรื่องราวที่เคยคิดเข้าข้างตัวเองก็สลายหายไป นางมาที่นี่พร้อมกับฟู่หมิงจือ สีหน้าท่าทางของโหวน้อยดูกังวล ส่วนฟู่ลี่อิ๋งดูเย็นชาเห็นหน้าของเว่ยเจิ้งหยาง หญิงสาวก็เริ่มพูดคุยเขาเรื่องทันทีโดยไม่อ้อมค้อม“ข้าได้ยินจากไท่จื่อบอกว่าท่าหย่ากับน้องสาวของข้าแล้ว”เว่ยเจิ้งหยางเลิกคิ้วเล็กน้อย “ใช่แล้ว ข้าหย่ากับนางไปตั้งแต่วันที่กลับมาจากจวนเสนาบดีสี”“เรื่องสำคัญเช่นนี้ ไม่เห็

  • ตัวร้ายอย่างข้าต่อไปนี้จะเป็นคนดี   71 องค์หญิงเออร์น่า

    แสงอาทิตย์ลอดเข้ามาในห้องนับแล้วเท่ากับแปดครั้ง สีฮูหยินกระหยิ่มยิ้มย่องอย่างดีใจ นางหัวเราะเสียงดังลั่นอย่างสะใจ ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง จากนี้ไปจะไม่มีเว่ยจงหมิงอยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไปแล้วในขณะที่นางกำลังดีใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แสงไฟในคุกก็สว่างไสวประดุจกลางวัน สีฮูหยินที่อยู่ในความมืดมานานนับสัปดาห์ต้องหลับตาและใช้แขนเสื้อของตนเองปกป้องดวงตาของตัวเอง ก่อนที่ไม่นานหลังจากนั้นนางจึงจะสามารถลืมตาขึ้นได้สิ่งที่สตรีวัยกลางคนเห็นเมื่อลืมตาขึ้นพบกับบุรุษที่นางเกลียดที่สุดผู้หนึ่งในชีวิต เว่ยจงหมิงนั่งอยู่บนคานหาม แบบสี่คนแบก ชายหนุ่มนั่งอยู่บนนั้นเส้นผมดำขลับถูกปล่อยสยายยาวสอดรับกับใบหน้าหล่อเหลา เขาสวมเสื้อผ้าสีขาวสบาย ๆ ท่าทางไม่ทุกข์ไม่ร้อนกับสิ่งใด และดูไม่เจ็บไม่ป่วย“ทำไมเจ้ายังมีชีวิตอยู่” สีฮูหยินได้เห็นหน้าของเว่ยจงหมิงก็เริ่มมีปฏิกิริยาแห่งโทสะ“องค์หญิงเออร์น่าคงตกใจมาก ที่เห็นว่าข้ายังมีชีวิตอยู่” เว่ยจงหมิงหยิบองุ่นขึ้นมากินในขณะที่สนทนากับนาง“ไม่!!!

  • ตัวร้ายอย่างข้าต่อไปนี้จะเป็นคนดี   70 หลงใหลซึ่งกันและกัน

    อากาศยามเช้าหลังจากฝนหยุดตกสดชื่นปลอดโปร่ง เสียงวิหคบินวนขับขานดังกังวานไปทั่วทั้งพื้นที่ เช้าวันนี้นางรู้สึกว่าตัวเองสดชื่นกว่าทุกวัน อาจจะเป็นเพราะยาบำรุงของท่านซุน ที่ช่วยให้นางผ่อนคลายและหลับสบายมากยิ่งขึ้น ตั้งแต่ที่พระสวามีป่วยฟู่ลี่อิ๋งก็ย้ายออกไปนอนห้องนอนเล็กที่อยู่ในพื้นที่เดียวกันเพราะนางไม่อยากรบกวนคนป่วยเกรงว่าตนเองจะนอนดิ้นและทำให้เขาลำบาก รอให้เว่ยจงหมิงฟื้นและหายดีก่อนค่อยกลับมาร่วมห้องทีหลังก็ได้ทุก ๆ วันฟู่ลี่อิ๋งจะมานั่งเฝ้าพระสวามีในห้อง นี่ก็ผ่านมา 7 วันนับตั้งแต่เขาถูกพิษ เว่ยจงหมิงก็ไม่ฟื้นสักที วันนี้ก็เช่นกันนางมานั่งข้างเตียงพูดคุยกับเขาดังเช่นเคยมือเรียวเล็กจับมือของเขามาสัมผัสที่หน้าท้องแบนราบของตนเอง“ท่านพี่ เมื่อไหร่ท่านจะฟื้นกันนะ” ร่างเล็กพึมพำ “ท่านรู้หรือไม่ว่าไคไคน้อยกำลังจะมีน้องชายน้องสาวแล้วนะ” ฟู่ลี่อิ๋งกระซิบแผ่วเบาสีหน้าของเว่ยจงหมิงดูดีกว่าหลายวันที่ผ่านมา วิธีการของท่านซุนออกจะประหลาดไปบ้างแต่ก็ได้ผล หนำซ้ำยังได้ยาบำร

  • ตัวร้ายอย่างข้าต่อไปนี้จะเป็นคนดี   69 รายล้อมไปด้วยรัก

    เสี่ยวหลงติดตามท่านเหลียงออกเดินทางไปยังเมืองต่าง ๆ เพื่อติดตามเรียนรู้วิชาการตัดเย็บเสื้อผ้าจากเหลียงเหลียนฮ่าวและฝากตัวเป็นลูกศิษย์ แต่เมื่อหลายวันก่อนตอนเดินทาง ในวันที่พายุฝนโหมกระหน่ำ คณะเดินทางของท่านเหลียงผ่านไปพบกับสตรีผู้หนึ่ง นางนอนกลายเป็นซากคล้ายกับศพอยู่ในเส้นทางที่พวกเขาผ่านสภาพของนางไม่ต่างอะไรจากซากศพบาดแผลบนใบหน้าฉกรรจ์น่ารังเกียจ สัตว์และแมลงตอมไต่จนบาดแผลเน่าเฟะเหม็นคลุ้งเหลียงเหลียนฮ่าวใช้ไม้เขี่ย ๆ เห็นว่านางยังมีชีวิตอยู่จึงพาตัวไปด้วยกันถือว่าเอาบุญ ตอนที่ช่วยเหลือเสี่ยวหลงเห็นตราหยกสีชมพูคล้าย ๆ กับชิ้นที่ไท่จื่อเฟยมี ก็เดา ๆ เอาไว้ว่าสตรีอัปลักษณ์ผู้นี้น่าจะเป็นผู้ใด แต่ก็ไม่ได้บอกเล่าเรื่องนี้ให้ผู้ใดฟังกระดูกบนร่างกายของสตรีอัปลักษณ์หักอยู่หลายส่วน ท่านหมอที่ติดตามมากับคณะของเหลียงเหลียนฮ่าวใช้วิธีการเอาไม้ไผ่มาดามนางเอาไว้ทั้งร่าง ฟู่เหยาเหยาตื่นขึ้นมาอีกทีพบว่าร่างกายของตนเองกำลังถูกวางเอาไว้บนเกวียนบรรทุกสิ่งของ แขนขาถูกมัดเอาไว้กับไม้ไผ่ขยับไปไหนไม่ได้

  • ตัวร้ายอย่างข้าต่อไปนี้จะเป็นคนดี   68 พิษล้างพิษ

    เจ้างูสีขาวตัวเล็ก ๆ ดูเหมือนจะหงุดหงิดเล็กน้อยที่มันถูกผู้เป็นนายปลุกให้ตื่น มันสะบัดหัวไปมาและค่อย ๆ ยืดตัวชูคอขึ้นทำท่าทางคล้ายกับบิดขี้เกียจ แต่เมื่อเห็นหน้าผู้เป็นนายมันก็รีบกระโดดออกจากกระปุกสีขาวขึ้นไปหยอกล้อคลอเคลียท่าทางเหมือนกับลูกสุนัขตัวเล็ก ๆฟู่ลี่อิ๋งเห็นแล้วก็พูดสิ่งใดไม่ออก สัตว์มีเกล็ดลิ้นยาวพวกนั้นสามารถมองให้น่ารักได้ด้วยหรือ นางรู้สึกขนลุก แต่ก็ไม่ได้ปริปากพูดสิ่งใดออกมา ปล่อยให้ท่านซุนรักษาไปตามวิธีการของเขา แม้จะทำให้คนที่อยู่ข้าง ๆ รู้สึกคล้ายจะเป็นลมอยู่ตลอดเวลาก็ตามงูเทพหิมะเมื่อเห็นแมงป่องสีรุ้งมันก็คล้ายกับทำตาโตด้วยความดีใจ ซุนจงปล่อยมันลงกับพื้นพร้อม ๆ กับแมงป่องสีรุ้ง ทั้งงูและแมงป่องลงต่อสู้กัน เจ้าแม่งป่องพยายามใช้หางพิษของตนเองต่อสู้กับเจ้างูเทพหิมะแต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ให้ต่อความปราดเปรียวของเจ้าตัวเล็กสีขาวทันทีที่แมงป่องสีรุ้งสิ้นท่า เจ้าตัวเล็กสีขาวก็เขมือบเจ้าแมงป่องตัวสีรุ้งที่นอนหมดแรง เข้าไปทั้งร่างอย่างเชื่องช้า เจ้าของร่างเล็กแบบบางต้องหลับตาขยับไปหลบอยู่เบื้องหลังของ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status