ถึงตอนที่ซ่งรั่วเจินกลับมาถึงจวนอ๋อง ทราบว่าฉู่จวินถิงยังคงทำงานอยู่ในห้องหนังสือก็กลับเข้าห้องไปก่อนหลังจากอาบน้ำผลัดอาภรณ์เสร็จ นางก็หยิบตำราแพทย์เล่มหนึ่งขึ้นมาอ่าน ราตรีมืดมิดขึ้นทุกทีก็ยังไม่เห็นฉู่จวินถิงกลับมา นางจึงไปที่ห้องหนังสือหยุดยืนอยู่นอกห้องหนังสือ มองดูร่างสูงโปร่งของเขาทอดเงาอยู่ท่ามกลางแสงเทียนสาดส่องนางผลักประตูห้องเปิดออกเบาๆ ก็เห็นว่าฉู่จวินถิงที่กำลังเขียนอะไรอยู่หยุดชะงักแล้วเงยหน้าขึ้นมองมาทางนางดวงหน้าหล่อเหลาที่แฝงความเด็ดขาดอยู่หลายส่วนดวงนั้นแลดูอบอุ่นอ่อนโยนท่ามกลางแสงสะท้อนของเปลวเทียน“ทำไมถึงยังไม่นอนอีก?”ฉู่จวินถิงวางพู่กันลง มุมปากยกขึ้นน้อยๆ น้ำเสียงทุ้มต่ำทั้งยังอ่อนโยนซ่งรั่วเจินยิ้มบางพลางเดินไปถึงตรงหน้าเขา “ดึกขนาดนี้แล้ว หม่อมฉันคิดว่าท่านเองก็ควรพักผ่อนเหมือนกัน ยุ่งอยู่กับงานในราชสำนักมาทั้งวันแล้ว ท่านต้องคำนึงถึงสุขภาพของท่านด้วยเหมือนกันนะ”เมื่อก่อนคนทั้งสองไม่ได้อยู่ด้วยกัน นางทราบว่าฉู่จวินถิงมีงานรัดตัว แต่ไม่รู้ชัดว่ายุ่งมากขนาดไหนจนกระทั่งหลังแต่งงาน นางได้เห็นเขาจัดการงานราชการกองพะเนินกับตาตัวเองแล้วจึงรู้ว่าก่อนหน้
หลังจากที่ซ่งรั่วเจินกับซ่งอี้อันรับทราบการตัดสินใจของหวงเชียนเชียนแล้วก็หาได้ประหลาดใจไม่ถึงตอนแรกจะชอบหร่วนหลิงเฟิงจริงๆ แต่ยามนี้ผ่านมานานปานนี้ นอกจากนี้ ผู้ที่คนในดวงแต่งงานด้วยยังเป็นพี่สาวแท้ๆการเข้าใจว่าเขาถูกหลอกย่อมทำได้ แต่ถ้าจะบอกว่าในใจไม่รู้สึกอะไรเลย นั่นย่อมเป็นไปไม่ได้อย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าเป็นใครก็คงไม่สามารถทำได้ถึงขั้นไม่เก็บมาถือสาเลยจริงๆ“ถ้าอย่างนั้นสภาพจิตใจในยามนี้ของพี่รองเจ้า...”ซ่งรั่วเจินลดเสียงลง ความจริงนางรู้สึกว่าหร่วนหลิงเฟิงโง่มาก นานปานนั้นยังไม่พบพิรุธ ทั้งยังเกือบจะต้องเสียชีวิตไปเพราะเรื่องนี้ยามนี้ได้ทราบว่าแม่นางที่ชอบตัวจริงคือคนอื่น แต่คนเขารอมานานจนหมดใจไปนานแล้ว ไม่รู้ว่าคนช่างยึดติดอย่างเขาจะคิดตกได้หรือไม่?หร่วนหลิงเฟิงคาดเดาความคิดของซ่งรั่วเจินได้จึงยิ้มเอ่ยว่า “ตอนนี้ข้าไม่เป็นไรแล้ว เรื่องนี้เดิมทีก็เป็นความผิดของข้า”“เดิมนั้นข้าอยากตอบแทนบุญคุณช่วยชีวิต คิดว่าหลังแต่งงานแล้วจะดีต่อนาง แต่ไม่คิดเลยว่าข้าจะโง่ขนาดนี้ ถึงขนาดดูไม่ออกว่าเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตไว้หรือไม่”“นางไม่พอใจก็เป็นเรื่องสมควรแล้ว ไม่ยินดียอมรับข้
วันนั้นได้เห็นท่าทางของนายท่านใหญ่สกุลหร่วนก็ทราบว่าไม่ใช่คนทำอะไรชักช้ายืดยาด นอกจากนี้นางยังได้ยินว่าหร่วนไท่ซือยังเป็นคนรวบรัดฉับไว จัดการเรื่องราวอย่างเด็ดขาดคิดว่าคงไม่เก็บตัวปัญหาอย่างหร่วนหยวนอู่เอาไว้ในบ้านเพียงเพราะเห็นแก่ความเป็นญาติขณะกำลังคุยกันอยู่ หร่วนเนี่ยนถังก็เดินเข้ามา ผู้ที่มาด้วยกันยังมีหร่วนหลิงเฟิง“รั่วเจิน วันนี้พี่รองของข้าอยากมาขอบคุณเจ้า”เมื่อซ่งรั่วเจินเห็นหร่วนหลิงเฟิงก็ทราบว่ามาหาตนเองจึงลุกขึ้นเดินเข้าไปหา“พระชายาฉู่อ๋อง เรื่องคราวก่อนต้องขอบคุณท่านมากจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะท่าน เกรงว่าตอนนี้ข้าคงตายไปแล้ว”หร่วนหลิงเฟิงโค้งคำนับอย่างจริงใจ ในแววตาเต็มไปด้วยความรู้สึกขอบคุณ แล้วส่งของขวัญขอบคุณที่เตรียมไว้แต่แรกแล้วมาให้“นี่คือความจริงใจของข้า ขอบคุณพระชายาที่ช่วยชีวิตข้าเอาไว้!”“คุณชายหร่วนไม่จำเป็นต้องเกรงใจเช่นนี้ ช่วยชีวิตคนหนึ่งคนประเสริฐกว่าสร้างเจดีย์เจ็ดชั้น นอกจากนี้ ด้วยความสัมพันธ์ระหว่างพวกเราสองครอบครัวไม่จำเป็นต้องคิดมากเลย เป็นเรื่องที่ควรทำแล้ว”ซ่งรั่วเจินคลี่ยิ้มบาง สายตากวาดผ่านร่างหร่วนเนี่ยนถังและพี่รองของตนเอง เจตนาชัดเจ
วันนี้ฉู่อี้ชวนถูกเสด็จพ่อตำหนิจากในวังมา ต่อมายังถูกเสด็จแม่ตำหนิอีกรอบ บอกว่าเขาทำผิดใหญ่หลวง โง่เขลาอย่างถึงที่สุดที่มีจุดอ่อนเช่นนี้เพียงเพราะชายารองคนเดียวสาเหตุที่เขาปล่อยให้เจียงฉิงหลานทำตามใจเมื่อวานนี้ก็เพราะแค่มาร่วมงานเลี้ยงงานหนึ่งเท่านั้น หาใช่เรื่องใหญ่อันใดเขาแค่คิดไม่ถึงเลยว่าจะเกิดปัญหาใหญ่โตขนาดนี้บัดนี้หลังจากถูกเสด็จแม่ตำหนิอย่างรุนแรง กลับมาแล้วยังได้รู้ว่าเจียงฉิงหลานไม่เคยจริงใจต่อเขาเลยตั้งแต่ต้นจนจบ ต้องการแต่งงานกับน้องสามแต่ไม่สำเร็จถึงได้หันมาหาเขาแต่เขากลับโปรดปรานนางปานนี้ ช่างน่าขันยิ่งนัก!“เช่นนั้นเจ้าก็บอกมาว่าเป็นเรื่องอันใดกันแน่?”แววตาฉู่อี้ชวนมืดมิดดุจราตรี วันนี้เขาจะอดทนฟังว่าเจียงฉิงหลานจะพูดอะไรออกมากันแน่!“ท่านอ๋อง พี่หญิงอิจฉาที่ท่านโปรดปรานหม่อมฉันถึงได้พูดออกมาเช่นนี้ หม่อมฉันชอบท่านอ๋องอย่างจริงใจนะเพคะ!”เจียงฉิงหลานโยนความผิดทั้งหมดให้เจียงหลูเสวี่ยด้วยความร้อนใจ “ท่านอ๋อง ท่านต้องเชื่อหม่อมฉันนะ!”เจียงหลูเสวี่ยเห็นว่าถึงเวลาแบบนี้ เจียงฉิงหลานยังคิดจะให้ตนเองรับผิดแทนอีกก็รู้สึกว่าน่าขันนักแต่ไม่รอให้นางพูดจบ ฉู่อี้ชวน
“กงกง คำสั่งนี้มีอะไรผิดพลาดไปหรือไม่? ข้าไม่ได้ทำอะไรผิดเสียหน่อย!” เจียงหลูเสวี่ยกล่าวด้วยความร้อนใจทว่ากงกงกลับกล่าวด้วยสีหน้าชอบด้วยเหตุผล “ชายารองเซียว ในฐานะที่ท่านเป็นนายหญิงของจวน เรื่องการจัดการเรือนหลังและแบ่งเบาภาระท่านอ๋องเดิมก็เป็นหน้าที่ของท่าน”“แต่ท่านกลับไม่เคยเตือนท่านอ๋อง ปล่อยให้อนุภรรยาข้ามหน้าข้ามตา นั่นคือการบกพร่องในหน้าที่ของท่าน”“ต่อให้เป็นตระกูลใหญ่ทั่วไป นายหญิงเช่นนี้ก็ไม่เหมาะสม ยิ่งไม่ต้องพูดถึงภายในจวนอ๋อง”เจียงหลูเสวี่ยจิตใจจมดิ่ง ช่วงที่ผ่านมานางไม่พอใจที่ท่านอ๋องปกป้องไปเสียทุกอย่างนับแต่น้องสาวเข้าจวนมาจริงๆนางรู้ว่าทันทีที่เจียงฉิงหลานไปงานอภิเษกสมรสของเช่ออ๋องจะต้องสร้างปัญหาอย่างแน่นอน แต่นางก็ไม่ห้ามปรามเพราะอยากให้เจียงฉิงหลานได้รับบทเรียนเสียบ้างไม่คิดเลยว่าเล่ห์เหลี่ยมเหล่านี้ของนางไม่อาจรอดพ้นสายตาอันปราดเปรื่องของไทเฮาไปได้เลย!ก่อนหน้านี้เจียงฉิงหลานไม่พอใจมาโดยตลอดที่เจียงหลูเสวี่ยได้เป็นพระชายา การแต่งงานดีๆ เช่นนี้ควรเป็นของนางต่างหาก!ถึงจะกลายเป็นชายารองเซียว นางก็ไม่รู้สึกว่าตำแหน่งตนเองด้อยกว่าเจียงหลูเสวี่ยเลยสักนิด รอจ
ลั่วกั๋วกงคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นภายในราชสำนักวันนี้แล้วก็รู้สึกปลอดโปร่งนัก“หลังจากที่ไทเฮาได้ยินเรื่องนี้ก็ส่งคนไปตบปากที่จวนเซียวอ๋อง ตบปากห้าสิบทีไม่ตกหล่นไปแม้แต่ครั้งเดียว”ชั่วขณะที่ทุกคนได้ยินผลลัพธ์เช่นนั้นก็รู้สึกสมใจยิ่งนัก ตบปากห้าสิบทีเป็นสิ่งที่นางสมควรได้รับจริงๆ“ตบปากห้าสิบที? ครั้งที่แล้วตบปากยี่สิบทีก็ตบจนบวมแล้ว ถ้าโดนตบห้าสิบทีจริงๆ เกรงว่าคงตบจนหน้าแตกไปเลยกระมัง?”ซ่งรั่วเจินเลิกคิ้วเรียวบาง เจียงฉิงหลานแค้นเคืองนางมาโดยตลอดเพราะการตบยี่สิบครั้งนี้ ตอนนี้โดนตบไปห้าสิบที เกรงว่าหลังจากนี้เจียงฉิงหลานคงต้องพักรักษาตัวอยู่ในจวนไปอีกพักใหญ่“สมควร!” เยี่ยนชิงอวี้กล่าวอย่างดูแคลน “ไม่รู้ว่าตระกูลเจียงเลี้ยงลูกสาวมายังไง ถึงได้เลี้ยงออกมาไร้กฎระเบียบปานนี้!”“ถ้าอย่างนั้นเซียวอ๋องจะได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้หรือไม่?” ซ่งรั่วเจินถามฉู่จวินถิงแววตาเฉยเมย “เสด็จพ่อทรงตำหนิไปแล้ว หลังเลิกประชุมยังถูกกุ้ยเฟยเรียกตัวไปอีก คิดว่าตอนนี้คงกำลังถูกตำหนิอยู่”ฉู่อี้ชวนมีศักดิ์เป็นท่านอ๋อง แม้เรื่องนี้จะทำให้ทุกคนไม่พอใจ แต่กล่าวถึงที่สุดแล้วเจียงฉิงหลานเป็นคนก่อปัญหา ฉู่