แชร์

งั้นก็ลบซะ จะได้ไม่มีปัญหา

ผู้เขียน: มิลเลียนาห์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-23 21:16:33

ธีร์รูดซิปกระเป๋าเป้ขึ้นก่อนจะสะพายมันพาดไหล่ ก้าวยาวๆออกจากห้องประชุมของคณะด้วยท่าทีที่ดูปกติ แต่ก็ปกติแค่ภายนอกเท่านั้น

พอมาถึงลานจอดรถ ธีร์หยุดยืนพิงรถตัวเอง มือควักกุญแจออกมาหมุนเล่นระหว่างรอ ไม่ถึงห้านาทีหลังจากนั้น เสียงฝีเท้ากึ่งเดินกึ่งวิ่งก็ดังขึ้นจากอีกฝั่งของลาน

“หูย พี่ธีร์มาก่อนจริงๆด้วย” ข้าวหอมยิ้มแป้นเข้ามาหาเขา พลางปัดปอยผมที่ร่วงลงมาปิดแก้มออกลวกๆ “รอนานยังอ่ะพี่ธีร์ ดีที่ข้าวไม่ช้า”

ธีร์เลิกคิ้วมองเธออย่างขำๆ “หือ? ตอนแรกคิดจะให้พี่รอนานเหรอ?”

“ไม่ใช่สักหน่อย” เธอแลบลิ้นใส่ “แค่คิดว่าเผื่อพี่ธีร์จะยังไม่ออกจากคณะ จะได้เดินช้ากว่านี้อีกหน่อย”

ธีร์แสร้งถอนลมหายใจอย่างเอือมๆ แต่ในใจกลับลอบยิ้ม หมั่นไส้ความเจ้าเล่ห์ของเธอชะมัด

“ยังจะมายิ้มหน้าระรื่นอีก” เขาใช้กุญแจรถในมือตวัดจิ้มหน้าผากของเธอเบาๆ “ถ้าช้าเกินกว่านี้อีกนิด พี่อาจจะขับหนีกลับจริงๆก็ได้นะ”

“โอ๊ย เจ็บนะ!” ข้าวหอมยู่หน้า ถูหน้าผากตัวเองป้อยๆ ก่อนจะทำหน้ามุ่ยใส่เขา “ข้าวหอมว่าแล้วเชียว นี่พี่ธีร์แอบซ้อมบท ‘ขับรถกลับบ้านคนเดียว’ ไว้ตั้งแต่เมื่อกี้ใช่ไหม”

ธีร์หัวเราะเบาๆ “ไม่ซ้อมหรอก พี่เล่นสดได้”

“ใจร้าย! ถ้าข้าวหอมโดนทิ้งไว้ที่มหาลัยคนเดียวจะทำยังไง”

“ก็เดินกลับเองไง เมื่อเช้ายังมั่นใจอยู่เลยนี่ว่าไม่หลง”

ข้าวหอมอ้าปากพะงาบๆ อยากจะเถียง แต่ก็เหมือนเถียงไม่ออก

“...พี่ธีร์เนี่ยนะ”

“ว่าไง?”

“ปากเสีย”

ธีร์ยักไหล่แบบไม่รู้สึกรู้สา “ปากเสียแต่ก็รอนะ”

ข้าวหอมชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะเงยหน้ามองเขา เหมือนนึกอะไรขึ้นได้แล้วก็ยิ้มออกมาแทน “ก็ดีค่ะ เดี๋ยวเลี้ยงน้ำชดเชยให้ โอเคไหม?”

ธีร์แกล้งถอนหายใจ ทำท่าครุ่นคิดเหมือนคนที่มีตัวเลือกเยอะ “ก็ต้องดูว่าอะไร ถึงจะคุ้มกับที่ต้องรอ”

“โอ๊ย นี่แค่รอไม่กี่นาทีนะ ทำไมเรื่องมากจัง”

“เรื่องมากกับเราคนเดียว” ธีร์ตอบเรียบๆก่อนจะเปิดประตูรถ “ขึ้นไปสิ เดี๋ยวแวะห้างให้”

ข้าวหอมชะงักไปนิดหน่อยกับคำพูดของเขา แต่สุดท้ายก็พยักหน้าหงึกๆ แล้วเปิดประตูรถฝั่งตัวเองขึ้นไปนั่ง ทั้งที่ปากยังบ่นพึมพำ แต่หน้าตาก็ดูจะพอใจอยู่ไม่น้อย

ธีร์เหลือบมองคนตัวเล็กข้างๆผ่านหางตา เห็นเธอกอดกระเป๋าไว้แนบอก ขยับตัวเล็กน้อยเพื่อจัดท่านั่งให้สบายกว่าเดิมโดยไม่รู้ตัว ดวงตากลมโตจ้องมองออกไปนอกหน้าต่าง คล้ายกำลังใช้ความคิดอะไรบางอย่าง สีหน้าไร้การเสแสร้ง ดูเป็นธรรมชาติจนเขาเผลอจ้องนานกว่าที่ควร

เขาส่ายหน้าให้ตัวเองนิดๆแล้วแอบยิ้มมุมปาก

ให้ตายสิ... ยัยตัวเล็กของเขา ทำไมถึงน่ารักได้ขนาดนี้นะ

ทุกการกระทำของเธอมันดึงดูดสายตาเขาเสมอ แม้กระทั่งท่านั่ง หรือสีหน้าตอนเหม่อคิดอะไรเพลินๆ ไม่ต้องพยายาม ไม่ต้องเสริมเติมแต่ง เธอก็ยังน่ารักจนเขาอยากเอื้อมมือไปขยี้ผมนุ่มๆนั่นอีกหลายที แต่ทำได้แค่กำพวงมาลัยแน่นขึ้น ปล่อยให้ความคิดฟุ้งซ่านอยู่เงียบๆคนเดียว

เขาไม่ได้พูดอะไรต่อ แค่ขับรถไปเรื่อยๆพร้อมกับความคิดในหัวที่มีแต่เธอ

เมื่อออกรถมาได้สักพัก ธีร์เหลือบมองข้าวหอมที่นั่งเอนพิงเบาะอยู่ในรถ พลางถามเสียงเรียบ แต่แฝงด้วยความสนใจจริงจัง

“แล้วไง ยัยตัวเล็ก วันแรกของมหา'ลัยเป็นยังไงบ้าง?”

ข้าวหอมที่กำลังนั่งมองวิวข้างทางหันมาหาเขา ใบหน้าสดใสขึ้นทันที “ก็ดีมากเลยพี่ธีร์! ได้เพื่อนเยอะแยะเลย! เพราะข้าวหอมเป็นคนเฟรนด์ลี่ไงล่ะ” เธอยิ้มภูมิใจ ดวงตากลมโตเป็นประกาย

“อ้อ เหรอ” ธีร์ตอบรับเบาๆพร้อมรอยยิ้มมุมปาก ขับรถต่อไปเรื่อยๆ ก่อนถามเพิ่ม “แล้วนอกจากเพื่อนล่ะ มีใครมาวุ่นวายหรือเปล่า?”

ข้าวหอมทำท่าคิดนิดหนึ่ง ก่อนจะยิ้มกว้างกว่าเดิม ราวกับเตรียมคำตอบนี้ไว้แล้ว “ก็มีสิ! มีทั้งผู้ชาย แล้วก็รุ่นพี่ด้วยนะที่เข้ามาขอเบอร์ข้าวหอม!”

เสียงเธอที่พูดด้วยความภูมิใจเหมือนเด็กที่ได้รางวัลทำเอาใจธีร์กระตุก สีหน้าเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อยจากรอยยิ้มขบขันกลายเป็นเคร่งขรึมโดยไม่รู้ตัว มือที่จับพวงมาลัยกำแน่นขึ้นเล็กน้อยจนข้อนิ้วขึ้นสีขาว

“เหรอ...” เสียงตอบสั้นๆของเขาฟังดูเย็นลงจนข้าวหอมหรี่ตามองอย่างสงสัย

“ทำไมพี่ธีร์เสียงแปลกๆแบบนั้น?” เธอถาม พร้อมจ้องหน้าเขาเหมือนจะจับพิรุธ

ธีร์พยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเอง เขายิ้มมุมปากกลับมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนพูดเสียงเรียบแต่หนักแน่น

“แล้วลบเบอร์พวกนั้นรึยัง?”

“หา?” ข้าวหอมขมวดคิ้ว มองเขาด้วยความไม่เข้าใจ “ทำไมต้องลบด้วยล่ะ?”

“เพราะพี่บอกให้ลบไง” เขาเหลือบมามองเธอด้วยสายตาที่จริงจังขึ้น ก่อนจะหันกลับไปมองถนน “ไอ้พวกนั้นไม่คิดอะไรดีๆกับเธอหรอก เชื่อพี่สิ พวกมันหวังแค่ฟันแล้วก็ทิ้งทั้งนั้น”

“พี่ธีร์! พูดอะไรเนี่ย!” ข้าวหอมอุทานเสียงสูง ใบหน้าร้อนวูบขึ้นทันที

“ก็พูดความจริง” ธีร์ตอบด้วยน้ำเสียงที่ยังคงหนักแน่น “เธอน่ะซื่อเกินไป ไม่รู้ทันพวกนั้นหรอก”

“ข้าวบอกกี่ครั้งแล้วว่าข้าวไม่ใช่เด็กแล้ว!” เธอเถียงกลับทันที “รู้หรอกน่าว่าพวกนั้นหวังอะไร ข้าวหอมก็แค่ให้เบอร์ไปแบบมารยาท ไม่ได้จะคุยกับใครจริงจังสักหน่อย”

ธีร์หรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนจะพูดเสียงต่ำกว่าเดิม “งั้นก็ลบซะ จะได้ไม่มีปัญหา”

ข้าวหอมเบ้ปากอย่างขัดใจ แต่ก็ยอมล้วงกระเป๋าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทำตามคำพูดของเขา เธอบ่นงึมงำขณะกดลบเบอร์

“พี่ธีร์นี่เป็นพี่หรือพ่อกันแน่เนี่ย...”

“ก็พี่ชายที่แสนดีของตัวเล็กไง...” ธีร์พูดพลางยิ้มมุมปาก แต่ในใจกลับรู้สึกโล่งขึ้นเมื่อเห็นว่าเธอยอมทำตาม เขาเหลือบมองเธอที่นั่งขมุบขมิบปากบ่นเล็กน้อย แต่ยังคงลบเบอร์ทุกเบอร์ที่พวกนั้นขอไว้

ในสายตาธีร์ เธอยังเป็นแค่ ‘ตัวเล็ก’ ของเขา เด็กผู้หญิงที่เขาต้องคอยดูแล ปกป้อง และกันพวกผู้ชายไม่หวังดีให้ออกไปให้ไกลที่สุด

ข้าวหอมยังคงกดลบเบอร์จากโทรศัพท์ด้วยหน้าตาที่บูดบึ้ง คิ้วขมวดเป็นปมจนธีร์เหลือบมองแล้วต้องแอบยิ้มมุมปาก เขารู้ว่าเธอไม่พอใจ แต่ช่วยไม่ได้ เขาไม่อยากให้เธอโดนพวกผู้ชายหน้าหม้อหลอกเอา

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • น้องสาวข้างบ้านคนนี้ เป็นคนโปรดของพี่วิศวะขี้หวง   คาวมรู้สึกที่พรั่งหรู

    ข้าวหอมสะอึก ริมฝีปากเริ่มสั่นไหวเขารักเธอ… จริงๆหรือ?คนที่เธอเคยผลักออกไปเพราะกลัวจะเจ็บ คนที่เธอเคยพยายามลืมด้วยการทำเหมือนไม่รู้สึกอะไรแต่พอถึงเวลาที่เธอตกลงไปในหลุมลึกที่สุด…คนที่เธอคิดถึงไม่ใช่ใครอื่นเลย นอกจากเขา...พี่ธีร์“ถึงข้าวจะเกลียดพี่…” เขาพูดต่ออย่างยากลำบาก แววตาแดงจัดราวกับจะร้องไห้“ต่อให้พี่ไม่มีโอกาสได้รักอีก… พี่ก็แค่อยากให้ข้าวรู้ ว่าความรู้สึกนี้… มันไม่เคยเปลี่ยนเลยสักวัน”น้ำตาไหลออกจากดวงตาของข้าวหอมช้าๆเมื่อได้ยินคำสารภาพจากเขาชัดๆหัวใจของเธอเหมือนจะหลุดจากอกเธอรู้… ตั้งแต่ตอนที่เขาถีบประตูเข้ามาในวินาทีสุดท้ายตั้งแต่ตอนที่เธอหมดหนทาง แล้วในหัวกลับมีแค่ชื่อของเขาเธอรู้แล้ว ว่าเธอไม่เคยตัดใจจากเขาได้เลยแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียวข้าวหอมเม้มปากแน่น เสียงสะอื้นยังคงเล็ดลอดออกมาไม่ขาดน้ำตาไหลอาบแก้มนวล ใบหน้าสั่นไหวก่อนจะหันไปมองเขาทั้งที่หัวใจบีบรัดแน่นแทบขาดใจเธอส่ายหน้าเบาๆทั้งที่เสียงยังสั่น เธอก็ยังกลั้นใจถามออกไปอีกครั้งแม้จะกลัวคำตอบแค่ไหน… ก็ยังอยากรู้ความจริงให้จบเสียที“แล้วที่พี่ไปบอกพี่มีนาว่า… พี่เห็นข้าวเป็นแค่น้องสาวล่ะ…”เธอพยายามกลั้นน้

  • น้องสาวข้างบ้านคนนี้ เป็นคนโปรดของพี่วิศวะขี้หวง   สิ่งที่อยากฟังที่สุด… แต่ก็กลัวที่สุดเช่นกัน

    เมื่ออาการของข้าวหอมคงที่ แพทย์แจ้งว่าจำเป็นต้องเฝ้าดูผลข้างเคียงจากยาอีกอย่างน้อยหนึ่งคืน พ่อแม่ของเธอเตรียมจะอยู่เฝ้า แต่เสียงของธีร์ก็ดังขึ้นก่อน สีหน้าหนักแน่นแต่แฝงด้วยความอ่อนล้า“ลุงครับ ป้าครับ… ผมอยากอยู่ดูน้องข้าวหอมคืนนี้เองครับ ผมไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วง ผมจะดูแล้น้องให้ดีที่สุด ให้ผมอยู่เถอะนะครับ”พ่อของข้าวหอมหันมามองเขาอยู่นาน ก่อนจะพยักหน้าอย่างช้าๆ “งั้นลุงกับป้าจะกลับไปเอาของจำเป็น พรุ่งนี้เช้าเราจะมาเปลี่ยนเฝ้า” ว่าจบก็หันไปมองลูกสาวที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงด้วยแววตาเป็นห่วง“ดูแลข้าวให้ลุงด้วยนะธีร์”ธีร์พยักหน้ารับอย่างหนักแน่น ดวงตาทั้งคู่สื่อความหมายแทนคำสัญญา“ผมสัญญาครับ”เมื่อทุกคนกลับไป เหลือเพียงธีร์ที่นั่งอยู่ข้างเตียงเงียบๆ เขาจับมือของเธอไว้แน่นไม่ปล่อย จ้องมองใบหน้าซีดเซียวของเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก ความเจ็บปวด และคำสัญญาเงียบงันในใจว่า...จะไม่มีใครแตะต้องเธอได้อีก ไม่ว่าใครก็ตาม และไม่ว่าเขาจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม เขาจะปกป้องเธอไว้ด้วยชีวิตเมื่อพ่อแม่ของทั้งเขาและข้าวหอมกลับไปแล้ว ความเงียบก็เข้าปกคลุมห้องผู้ป่วยที่มีเพียงแสงไฟอ่อนสลัวจากหัวเตียง ธ

  • น้องสาวข้างบ้านคนนี้ เป็นคนโปรดของพี่วิศวะขี้หวง   ไม่มีวันยอมให้มันเกิดขึ้นอีก

    ภาพของเขาผุดขึ้นมาในหัวชัดเจนยิ่งกว่าภาพตรงหน้าทั้งรอยยิ้มของ เสียงดุเสียงเย้าแหย่ที่คุ้นเคย มือใหญ่ที่เคยปกป้องเธอจากทุกอย่างคนที่เธอเพิ่งผลักออกจากชีวิตคนที่เธอพยายามตัดใจ ตัดขาดแต่พอถึงนาทีที่เธอกำลังจมดิ่งอยู่ในนรกขุมนี้…เธอกลับคิดถึงเขาเพียงคนเดียวช่วยข้าวด้วยนะพี่ธีร์… ได้โปรด…หัวใจของเธอเหมือนจะขาด…และเสียงที่ไม่มีใครได้ยินนั้น กำลังส่งผ่านไปถึงเขาคนเดียวเท่านั้น ที่เธอยังกล้าเชื่อว่าพร้อมจะช่วยเธอเสมอ แม้ว่าเธอจะผลักเขาไปไกลแค่ไหนก็ตาม…แล้วในจังหวะที่ไนท์โน้มตัวเข้าไปใกล้เธอจนลมหายใจร้อนเป่ารดอยู่เหนือริมฝีปากปลายจมูกของเขากำลังจะเฉียดลงบนผิวเนื้อของเธอ…ปัง!!!!เสียงถีบประตูดังสนั่นจนผนังสะเทือน เฟอร์นิเจอร์ในห้องกระเพื่อมตามแรงกระแทก ทุกอย่างหยุดนิ่งราวกับเวลาถูกสั่งให้หยุดค้างไว้ข้าวหอมสะดุ้งสุดตัว เผลอหวีดร้องออกมาทั้งน้ำตาร่างสูงในชุดช็อปสีแดงเข้มทะลุเข้ามาจากบานประตูพังๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อ สายตาแดงกร้าว และแววตาของคนที่พร้อมจะฆ่าทุกคนในห้องถ้ามีใครเข้าใกล้เธออีกแม้แต่นิ้วเดียวธีร์มองเห็นร่างของข้าวหอม เห็นเธอนอนชิดพนักโซฟาด้วยสภาพเสื้อผ้าหลุดรุ่ย น้ำตาอ

  • น้องสาวข้างบ้านคนนี้ เป็นคนโปรดของพี่วิศวะขี้หวง   สถานการณ์ไม่สู้ดี

    ข้าวหอมขยับถอยหลังอย่างไร้จุดหมาย จนแผ่นหลังกระแทกขอบโซฟาอย่างจังเธอกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ฝืนพูดด้วยเสียงที่สั่นเทา“อย่าทำอะไรข้าวเลยค่ะ... ข้าวขอร้อง...”เธอพูดไปในขณะที่เสียงตัวเองสั่นเครือ เธอรู้ดีว่าตอนนี้ไม่มีใครช่วยเหลือเธอได้ในตอนนี้ เธอต้องยื้อให้นานที่สุดจนกว่าพี่ธีร์จะมา เธอเชื่อว่าเขาจะต้องมาแน่ๆไนท์หัวเราะในลำคออีกครั้ง หน้าของเขาขยับเข้ามาใกล้จนเธอได้กลิ่นแอลกอฮอล์ชัดเจน เสียดแทงเข้ามาในจมูกจนรู้สึกคลื่นไส้“กลัวเหรอ?” เขาย้ำคำเหมือนกำลังล้อเลียนข้าวหอมเบี่ยงหน้าหนี แต่เขายังโน้มตัวเข้ามาใกล้ขึ้นอีก ราวกับจงใจบีบให้เธอไม่มีทางหลบ“ไม่ใช่ว่าข้าวอยากได้พี่เหรอ ถึงได้ตามพี่มา หืม?”น้ำเสียงของเขามีความเย้ยหยันอย่างชัดเจนจนข้าวหอมรู้สึกสะอิดสะเอียนข้าวหอมกำมือแน่นจนเล็บจิกลงบนฝ่ามือ ความกลัวพุ่งสูงขึ้นจนแทบหายใจไม่ออก เธอไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นต่อจากนี้บรรยากาศในห้องเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เสียงเพลงหยุดลงโดยไม่มีใครสังเกต รุ่นพี่บางคนทยอยเดินออกไปเหมือนหมดหน้าที่ แต่คนที่ยังอยู่กลับยิ่งน่ากลัวกว่ากลุ่มผู้ชายห้าหกคนยืนล้อมรอบ แต่ละคนมีเบียร์ในมือ บ้างก็หัวเราะ บ้างก็ส่

  • น้องสาวข้างบ้านคนนี้ เป็นคนโปรดของพี่วิศวะขี้หวง   ตกอยู่ในอันตราย

    ไม่กี่วันต่อมา… หลังหมดคาบเรียนข้าวหอมกำลังจะเก็บของกลับบ้าน แต่ก็โดนไนท์ชวนไปเธอและเพื่อนของเธออีกสองคนไปเที่ยวเล่น เขาบอกแค่ว่าเป็นแค่การนั่งร้องคาราโอเกะกันผ่อนคลายหลังสอบ ไม่ได้มีอะไรมากมาย“ช่วงนี้ข้าวดูเศร้าๆนะ ไปผ่อนคลายหน่อยเถอะ”เสียงของไนท์ยังคงนุ่มนวลเหมือนเดิม ข้าวหอมลังเลอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะหันหน้าไปมองเพื่อนอีกทั้งสองคนเชิงถาม และเพื่อนของเธอก็ยินดีที่จะไปอยู่แล้ว เพราะใครๆก็อยากสนิทกับรุ่นพี่สุดหล่อ“ไปสิๆ” เพื่อนสาวทั้งสองคนต่างตอบพร้อมกันหลังจากตกลงกันได้ ทั้งสามคนก็นั่งรถมากับไนท์ ห้องคาราโอเกะขนาดใหญ่เบื้องหน้า เต็มไปด้วยแสงไฟสีม่วงสลัวๆ ที่กระทบกับโต๊ะกระจกใสจนเกิดเงาแวววับเสียงเพลงดังอื้ออึงคล้ายกลบเสียงเต้นของหัวใจที่เริ่มแรงขึ้นของเธอทันทีที่เปิดประตูเข้าไปข้าวหอมถึงกับผงะภายในห้องไม่ใช่บรรยากาศแบบที่เธอคิดไว้รุ่นพี่ชายหญิงนับสิบคนกำลังหัวเราะเสียงดัง บางคนกอดกัน บางคนเต้นกันแบบไม่สนใจใครแอลกอฮอล์นานาชนิดวางเรียงรายอยู่เต็มโต๊ะ พร้อมแก้วที่ถูกยกขึ้นชนกันแล้วชนกันอีก“เอาไงดีวะข้าว บรรยากาศแปลกๆอ่ะ” เพื่อนคนหนึ่งกระซิบถามข้าวหอมก็พยักหน้าเห็นด้วย “เรากลับ

  • น้องสาวข้างบ้านคนนี้ เป็นคนโปรดของพี่วิศวะขี้หวง   อยากลืม แต่หัวใจมันไม่ยอมให้ลืมเลย

    คืนนั้น... ความเงียบของบ้านไม่ได้ช่วยให้หัวใจธีร์สงบลงเลยแม้แต่น้อย เขาเดินวนไปวนมาในห้องนอน โทรศัพท์ในมือแทบจะร้อนผ่าวเพราะเขากดเปิดหน้าจอดูชื่อของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ก็ไม่กล้ากดโทรออก จนกระทั่งความกังวลกัดกินเขาเกินจะทนไหว เขาตัดสินใจกดโทรหาข้าวหอมในที่สุดแต่ไม่มีเสียงตอบรับจากปลายสายเขาลองอีกครั้ง... สองครั้ง... จนเกือบสิบสายหัวใจเขาบีบรัดทุกครั้งที่เจอเพียงเสียงฝากข้อความอัตโนมัติสุดท้าย เขาได้แต่ส่งข้อความไปหาเธอข้อความที่เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความอ้อนวอน‘พี่ขอแค่ได้คุยด้วยสักหน่อยนะหอม พี่เป็นห่วงจริงๆ’เขาเฝ้ามองหน้าจอเหมือนคนใจร้อนที่รอคำพิพากษาและในที่สุด...เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นพร้อมชื่อของเธอปรากฏบนหน้าจอ ธีร์รีบกดรับแทบจะในทันที แต่สิ่งที่ได้ยินกลับไม่ใช่เสียงอ่อนโยนที่เขาคิดถึง เป็นเสียงของเธอที่เย็นชา และตัดขาดจากเขาโดยสิ้นเชิง“พี่ธีร์มีอะไรคะ ถ้าไม่มีอะไรก็ขอร้องว่าอย่าติดต่อมาแบบนี้อีก... เดี๋ยวแฟนของข้าวจะไม่พอใจ”คำนั้น...‘แฟนของข้าว’เหมือนคมมีดเย็นเฉียบแทงลึกเข้ากลางอกเข้าอย่างจังธีร์ถึงกับเงียบงัน ปลายสายกลายเป็นเสียงลมหายใจเบาๆ ของข้าวหอม ขณะที่สมองเข

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status