หลังจากนั้น ทั้งจวนก็ไม่เห็นทั้งคู่อีกเลยจนข้ามมาวันใหม่ ท่านอ๋องสั่งให้คนเตรียมอาหารไปให้ที่ห้องบรรทมชั้นนอก และมิให้ผู้ใดรบกวนทั้งสองพระองค์“ข้าป้อนเจ้าดีกว่า”“คนใจร้าย”“ไม่เอาน่า ข้าก็บอกเจ้าแล้วมิใช่หรือว่า คำบอกรักของข้ามีมากมาย สามวันสามคืนก็พูดไม่หมด”“แต่ท่านไม่ได้พูด ท่าน…”ปิงเยว่หน้าแดงจัด ไม่รู้เพราะโกรธหรือว่าอายกันแน่ เมื่อท่านอ๋องที่อัดอั้นในการร่วมเตียงกับนางมาเกือบสองเดือน พอมีโอกาสก็แทบจะไม่ให้นางได้พัก ทั้งวันทั้งคืนเขาบอกรักนางไม่หยุดก็จริง แต่ก็ไม่หยุดที่จะรังแกนางด้วยเช่นกัน จนถึงตอนนี้ร่างของนางก็ระบมจนหมดแรง แม้แต่จะกินข้าวเอง ก็แทบจะถือตะเกียบไม่ไหว“อีกสองวัน เจ้าต้องเข้าวังกับข้านะ”“เข้าวังหรือเพคะ นี่คงจะไม่…”“แน่นอนว่าเจ้าจะต้องไปเข้าเฝ้าเสด็จพ่อกับข้า เพื่อรับราชโองการสมรสพระราชทาน และดูฤกษ์งานอภิเษก เจ้าอย่าลืมสิ ถึงแม้ว่าข้าจะพาเจ้ามาแล้ว แต่กว่าจะทูลขอราชโองการนี้ได้ ไม่ง่ายเลยนะ”“ทำไมหรือเพคะ”ย้อนกลับไปสามเดือนก่อน“เหอะ! กว่าจะโผล่หน้ามาหาข้าได้ ก็ผ่านไปกี่วันแล้วเจ้าตัวดี! เจ้านะเจ้า ยกทัพออกไปทำศึกโดยพลการ ข้ากับพี่ชายเจ้า หาเหตุผลสารพัดที่
“ท่านว่าอย่างไรนะ เหตุใดจึงมีสาน์สลับนี้ด้วย มิได้มีเพียงสัญญาสงบศึกหรอกหรือ จริงสิเมื่อคืนนี้ท่านให้อู๋ซ่างหลี่อ่านจดหมาย...”“ที่จริงแล้วการที่ข้าไปหาเจ้าที่อารามนั่น มิใช่เรื่องบังเอิญ”“ท่านหมายความว่าอย่างไร”“เรื่องนี้เกิดขึ้น หลังจากที่ข้าสังหารพี่ชายต่างมารดาของเจ้ากลางสมรภูมิรบ กลางดึกคืนนั้น ฝ่าบาทแคว้นต้านชิงส่งจดหมายลับมากับแม่ทัพใหญ่ของต้าชิง”“ท่านลุงซังลี่เหมิน”"ใช่ แม่ทัพซังลี่นำสาน์สลับนี้มา มอบให้ข้าที่กองทัพด้วยตัวเอง เขาเจรจากับข้าอยู่เกือบหนึ่งชั่วยามเต็ม ๆสามเดือนก่อน / ค่ายทหารฉินโจว เมืองหลานเจียง“กระหม่อมซังลี่เหมิน แม่ทัพใหญ่กองทัพหลวงแห่งต้านชิง ถวายบังคมชินอ๋อง”“ท่านมาที่นี่ด้วยเหตุใด มายับยั้งมิให้ข้าโจมตีเมืองหลานเจียงของท่านงั้นหรือ”“มิได้พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทส่งกระหม่อมมา เพราะมีเจตนาอยากจะขอยอมแพ้และสงบศึก เพื่อคืนความสงบสุขให้เมืองหลานเจียง ฝ่าบาทยินยอมรับเงื่อนไขที่ฉินโจวต้องการ ขอเพียงราษฎรของทั้งสองฝ่ายที่ชายแดนปลอดภัย นี่เป็นสาน์สลับ ที่ฝ่าบาทเตรียมมาส่งมอบให้กับพระองค์พ่ะย่ะค่ะ”เมื่อท่านอ๋องเปิดอ่านดู ก็ทราบถึงเจตนารมณ์ของฝ่าบาทดี ที่เขาเปิดศึกค
เพียงแค่หลังแตะเตียงอุ่น ๆ ปิงเยว่ก็รู้ทันทีว่า ค่ำคืนนี้นางคงไม่รอดพ้นจากเขา ท่านอ๋องบรรจงถอดชุดของนางออกอย่างเบามือและอ่อนโยน ซึ่งนี่ถือเป็นครั้งแรกที่เขาทำเช่นนี้“เยว่เอ๋อร์ ข้ารักเจ้า”“ข้าก็รักท่าน เฮ่อเหรินเซียว”เพียงคำนี้ของนาง ก็ทำเอาท่านอ๋องหนุ่มที่กำหนัดเต็มที่ เขาอดกลั้นมานานเพื่อรอวันนี้ วันที่นางเปิดปากพูดความในใจกับเขา ร่างกำยำคุกเข่าคร่อมตัวนางเอาไว้ และสะบัดชุดของเขาทิ้งไปในทันทีปิงเยว่เพียงแค่เห็นกล้ามท้องที่เป็นลอนงดงาม และอกกว้างตรงหน้าก็แทบจะทนไม่ไหว เมื่อเขาเลื่อนลงมา นางก็เห็นรอยเล็บของสตรีอื่น"เจ้าจะทำอะไร"“เจ็บหรือไม่เพคะ”“เจ็บสิ แต่มันไม่มากเท่ากับที่ทำให้เจ้า เข้าใจผิดข้ามาร่วมสองเดือนนี้ มันเทียบไม่ได้เลยกับน้ำตาของเจ้า”“ข้า… ไม่คิดว่าท่านจะวางแผนเอาไว้”“หากข้าบอก เจ้าจะเชื่อข้างั้นหรือ”นางยอมรับแต่โดยดี เมื่อเขาก้มลงมาและจูบนางเนิ่นนาน บทรักเริ่มขึ้นอย่างอ่อนโยน และค่อย ๆ กระโจนใส่กองไฟปรารถนา ที่ลุกโชนอย่างเร่าร้อนทุกชั่วขณะ"อ๊าาา…. เหรินเซียวท่านเบาหน่อย อื้อ…"ลิ้นหนาดูดดึงยอดอกตรงหน้า เมื่อจับนางตรึงแขนเอาไว้ทั้งสองข้าง เขากวาดปลายลิ้นสำรวจทั่
ปิงเยว่ลุกขึ้นมาจากตักของเขาทันที นางมิอาจทนฟังเรื่องของเขาและสตรีอื่นได้ ท่านอ๋องเดินมาและรีบคว้านางเอาไว้ เขากอดนางจากด้านหลังเพื่อมิให้นางหนีอีก“เจ้าช่วยฟังข้าให้จบก่อน หลังจากนั้นจะตบจะตี หรือกัดข้าอีกครั้งก็จะไม่ห้ามเจ้าเลย”“อย่าแตะต้องข้า ปล่อย!”“ไม่ปล่อย! ข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไปได้หรอก รู้หรือไม่ว่า ตอนที่ได้ข่าวจากองครักษ์ลับว่าเจ้าถูกจับตัวไป ข้าร้อนใจมากเพียงใด และยิ่งเห็นว่าชายอื่นจะแตะต้องเจ้า หัวใจข้าก็ลุกเป็นไฟ จนอยากจะฆ่ามันให้ตายเสียด้วยซ้ำ แล้วเจ้ายังจะขอชีวิตให้เขาอีก ไม่คิดถึงหัวใจข้าบ้างเลยหรือ”“ท่านก็เลยเอาคืนข้า โดยการดึงหวังอิ่นจางไปพลอดรักกันในห้องอาบน้ำ จนเสียงดังลอดออกมาทั่วจวนสินะ ปล่อยข้านะคนสกปรก!”แต่เขากลับกอดนางแน่นมากขึ้น มีหรือที่เขาจะยอมปล่อย“ที่แท้เจ้าก็โกรธข้าเรื่องนี้เองหรอกหรือ ข้าไม่ปล่อยจนกว่าเจ้าฟังให้จบก่อน”ปิงเยว่นิ่งลง เมื่อท่านอ๋องยืนยันที่จะไม่ปล่อย ใช่ว่านางจะไม่ใจอ่อนเสียหน่อย เมื่อเห็นว่าปิงเยว่นิ่งลงแล้ว เขาจึงเริ่มเล่าทันที“ข้าจะค่อย ๆ เล่าให้ฟัง เจ้าตั้งใจฟังให้ดี จะได้เข้าใจทุกอย่างเสียที ข้าเบื่อที่เจ้าทำหมางเมินเช่นนี้มานาน
เพียงแค่ท่านอ๋องพยักหน้า หมัวมัวก็รับคำสั่งทันที นางก็เริ่มกรอกยาพิษถ้วยสุดท้ายนั้น ไปที่ปากของหวังอิ่นจาง เมื่อยาหมดถ้วย ร่างบางก็ทรุดลงกับพื้นทันที แต่นางยังมีแรงที่จะหันมาถามท่านอ๋องอีกครั้ง“พระองค์เริ่มสงสัยหม่อมฉัน มานานแค่ไหนแล้ว”“เจ้าคงมิได้คิดว่าหูตาของชินอ๋องอย่างข้า จะมีน้อยจนไม่รู้อะไรเลยหรอกนะ”“หมายความว่า… พระองค์ทราบมาโดยตลอด”“ตั้งแต่เรื่องที่เจ้าหลอกให้หลี่เอ้อเหนียงซื้อยาพิษ ข้าก็คอยให้คนจับตามองเจ้ามาโดยตลอด”“หึหึ ที่แท้… พระองค์ก็ไม่เคยคิดที่จะ… หวั่นไหวกับหม่อมฉันเลยแม้แต่นิดเดียว”ปิงเยว่หันมามองหน้าท่านอ๋องอีกครั้ง สายเนตรที่มองไปที่หวังอิ่นจางไม่มีแม้แต่ความสงสาร เขายังเป็นพยัคฆ์ที่ไร้หัวใจ สำหรับคนอื่นอยู่เสมอ“พระองค์สงสัยหม่อมฉัน มาตั้งแต่แรกแล้วสินะเพคะ”“ข้าไม่เคยไว้ใจใครต่างหาก”“เฮอะ! เจ้าได้ยินหรือไม่องค์หญิง ท่านอ๋องไม่เคยไว้ใจผู้ใด แม้แต่เจ้าเองก็ไม่ละเว้น"“หวังอิ่นจาง เจ้าคิดว่าเพียงคำพูดเดียวของเจ้า จะทำให้องค์หญิงแคลงใจข้างั้นหรือ อย่านอกเรื่องดีกว่า บัดนี้บิดาของเจ้าถูกจับเข้าคุกที่กรมราชทัณฑ์รอการสอบสวน”“ว่าอย่างไรนะ นี่ท่าน!”“ถูกต้องแล้ว บ
ปิงเยว่หมดแรงในทันที ไม่คิดมาก่อนเลยว่าจางซีหรูจะทำเช่นนี้ เพราะที่ผ่านมานางรู้สึกว่าจางซีหรู เป็นคนที่เป็นมิตรกับนางได้มากที่สุด“ท่านอ๋องเพคะ แต่ว่าหม่อมฉันมิได้เป็นคนวางยา”“แต่เจ้ารู้เห็นว่าพวกนางกำลังจะทำอะไร แต่กลับไม่ห้ามและยังยกยาพิษนั่นไปให้ปิงเยว่ดื่มเองต่อหน้า เจ้าก็ไม่ต่างอะไรกับหลี่เอ้อเหนียง”“ไม่นะเพคะท่านอ๋อง หม่อมฉัน!”“หมัวมัว!”“เพคะท่านอ๋อง”"มะ ไม่นะเพคะ ท่านอ๋องโปรดไว้ชีวิตหม่อมฉันด้วยเพคะ หม่อมฉันไม่กล้าอีกแล้ว องค์หญิงเพคะ!"“วันที่เจ้ายกยาพิษนั่นไปให้องค์หญิง ก็ควรรู้อยู่แล้วว่า จะต้องมีวันนี้ เจ้าเห็นเองกับตา วันที่ข้าสั่งลงโทษหลี่เอ้อเหนียงกับสาวใช้ของนาง หลังจากนั้นเจ้าก็เก็บตัวเงียบในห้องอยู่หลายวัน ความหวาดกลัวนั่นกัดกินใจเจ้าทีละนิด จนทนไม่ไหว สุดท้ายก็เริ่มเล่าเรื่องนี้ให้หวังอิ่นจางฟัง”จางซีหรูหันไปมองหวังอิ่นจางในทันทีด้วยความโกรธ นางอุตส่าห์ไว้ใจ เพราะคิดว่าหวังอิ่นจางจะไม่พูดเรื่องนี้กับใคร“เจ้า! เหตุใดจึง…”ฟ่านปิงเยว่เริ่มลำดับเหตุการณ์ต่าง ๆ หรือทั้งหมดนี้จะเป็นแผนการของท่านอ๋องตั้งแต่แรก ตอนนี้นางได้แต่นั่งอยู่เฉย ๆ เพราะมิอาจคาดเดาเหตุการณ์ที