Beranda / รักโบราณ / บุปผาสีชาด / ตอนที่5คุณหนูใหญ่อวี้เหมย

Share

ตอนที่5คุณหนูใหญ่อวี้เหมย

last update Terakhir Diperbarui: 2025-07-11 16:18:49

หลังจากส่งบิดาของเจ้าของร่างกลับไปแล้ว ท่าทางอ่อนแรงที่แสดงออกก่อนหน้านี้ก็จางหายไป ราวกับไม่เคยมีอยู่จริง แม้ร่างกายนี้จะยังอ่อนแอจากการต้องพิษ แต่จิตใจของอวี้หลันใช่จะอ่อนแอตาม

นางพาตัวเองมานั่งเงียบอยู่ตรงโต๊ะชาข้างหน้าต่าง แผ่นหลังตั้งตรง แววตานิ่งลึก ใบหน้าไม่แสดงอารมณ์ใดๆ มือเรียวกุมถ้วยชาไว้แน่น น้ำชาในถ้วยเย็นชืดไปนานแล้ว แต่เรื่องราวที่ได้รับรู้ก่อนหน้านี้ยังคงวนเวียนในความคิด 

อวี้หลันเจ้าของร่างเดิมเป็นหญิงสาวผู้แบกรับความโดดเดี่ยวมาตลอดชีวิต ช่างคล้ายคลึงกับตนเองอยู่ไม่น้อย

แม้อีกฝ่ายจะมีชาติกำเนิดสูงส่ง แต่นับตั้งแต่มารดาจากไป อำนาจในจวนก็ตกอยู่ในมือของเซิ่งซื่อ ฮูหยินรองผู้ฉลาดเป็นกรด

ไม่แน่ว่าผู้ที่วางยานางก็เป็นฝีมือของเซิ่งซื่อผู้นี้

ในจวนแห่งนี้ แม้รองเสนาบดีอวี้จะยืนอยู่ตรงศูนย์กลางของตระกูล แต่เงาที่ทอดยาวใต้เสาเรือนนั้น เป็นของเซิ่งซื่อผู้นั้นต่างหาก 

ชายผู้ทะนงตนว่าฉลาดหลักแหลม คิดแต่จะแสวงหาอำนาจ หลงคิดว่าตัวเองคือผู้วางหมากในกระดาน

แต่หารู้ไม่ ว่าเขาเองก็เป็นเพียงหมากตัวหนึ่งในเกมของคนอื่นไม่ต่างกัน

การใช้ชีวิตในยุคที่เต็มไปด้วยเล่ห์เพทุบาย ผู้หญิงคือเครื่องมือทางการเมือง บุตรีขุนนางคือหมากตัวหนึ่งในกระดานอำนาจ และตอนนี้ อวี้หลัน อดีตหญิงสาวยุคใหม่ที่เคยใช้ชีวิตอย่างมีเหตุผลและวิทยาศาสตร์ ต้องเผชิญกับโลกที่คำว่า "อำนาจ" สำคัญยิ่งกว่าความถูกต้อง

หญิงสาวเอนกายพิงหมอนอิงพลางมองท้องฟ้ายามค่ำคืนผ่านม่านโปร่งบาง สายลมอ่อนๆ ไล้ผ่านปลายผมของนาง ทว่าในแววตานั้นเปี่ยมไปด้วยความสงบนิ่งที่ไม่อาจเห็นได้จากหญิงสาววัยสิบห้าทั่วไป

โลกนี้ไม่ได้มีเพียงชนชั้นที่แบ่งแค่ คนรวย กับ คนจน อย่างในยุคที่นางจากมา แต่แบ่งแยกด้วยศักดินา ยิ่งสูง ยิ่งห่างไกลชีวิตธรรมดา

แม้เจ้าของร่างเดิมจะอ่อนแอ หัวอ่อน และไม่เคยมีความทะเยอทะยาน แต่ความจำในหัวกลับละเอียดลึกซึ้งพอจะบอกนางได้ว่า ที่นี่คือโลกที่กฎเกณฑ์สังคมคือทุกสิ่ง โลกที่ผู้คนไม่เท่ากันตั้งแต่เกิด

ฮ่องเต้ คือจุดสูงสุดของพีระมิด ไม่มีผู้ใดตั้งคำถาม

ถัดลงมา คือเชื้อพระวงศ์ ที่ถือสายเลือดสูงศักดิ์ องค์ชายทุกพระองค์แม้ไม่ได้เป็นรัชทายาท ก็ถือสิทธิ์สูงกว่าขุนนางทั้งหลาย

ขุนนางฝ่ายบุ๋น เช่น อัครเสนาบดี เจ้าเมือง และตำแหน่งในหกกรม ล้วนมีอำนาจในทางบริหารบ้านเมือง

ขุนนางฝ่ายบู๊ เช่น แม่ทัพใหญ่ หัวหน้ากองกำลัง รักษาพรมแดน หรือควบคุมราชองครักษ์

ต่ำลงมา คือ พ่อค้า นักวิชาการ ช่างฝีมือ และสามัญชน ซึ่งนับว่ามีค่าแค่เพียง จำนวน ไม่ใช่ สิทธิ

แม้นางจะเป็นธิดาของรองเสนาบดี แต่หากไร้การหนุนหลัง ไร้อำนาจต่อรอง สตรีเช่นนางก็ไม่ต่างอะไรกับหมากตัวหนึ่ง

อวี้หลันย้อนนึกถึงตนเองในอดีตที่เกิดในโลกซึ่งสิทธิ ความสามารถ และเหตุผล เป็นตัวกำหนดคุณค่าของชีวิต แต่ในโลกนี้ ชาติกำเนิดเพียงอย่างเดียว กลับมีอำนาจยิ่งกว่าสิ่งใด

จากความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม อวี้หลันได้เรียนรู้ว่า

ผู้หญิงไม่ได้มีสิทธิ์ครองทรัพย์สินของตนเอง ทั้งหมดตกอยู่ในมือสามี หรือผู้เป็นหัวหน้าตระกูล

การแต่งงานคือเครื่องมือทางการเมือง ตำแหน่งชายา พระสนม หรือแม้แต่ภรรยารองล้วนขึ้นอยู่กับสถานะและจุดยืนทางการเมืองของแต่ละฝ่าย

คำว่า คุณหนู หรือ ฮูหยิน แม้จะฟังดูสูงศักดิ์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีสิทธิเหนือชีวิตตนเอง

เพียงเพราะนางเกิดในตระกูลขุนนาง ใช่ว่าชีวิตจะปลอดภัยจากเงื้อมมือของเกมการเมือง

อวี้หลันรู้ดีว่าหากยังยอมผู้อื่นเหมือนเช่นเจ้าของร่างเดิม ก็คงไม่ต่างอะไรจากการเดินเข้าสู่สุสาน

ในเมื่อฟ้าส่งนางมายังยุคนี้ นางก็จะไม่ยอมถูกบีบให้เดินตามเส้นทางที่ใครวางไว้

บางทีการที่สวรรค์ส่งนางมาอยู่ที่นี่ ก็อาจจะให้นางทำความดีชดใช้บาปก็ได้

อวี้หลันเหลือบสายตาขึ้นมองเงาในกระจก แววตาของเจ้าของร่างเดิมที่เคยมีแต่ความหวาดกลัว บัดนี้กลับแน่วแน่ดั่งหินผา

นางไม่ใช่อวี้หลันที่แสนอ่อนแอผู้นั้นอีกต่อไป และในเมื่อฟ้าประทานโอกาสที่สองให้มาอยู่ในร่างนี้ นางก็จะใช้มันให้คุ้มค่า

และหากโลกนี้จะเล่นหมาก นางก็จักเป็นผู้วางหมากเอง

นับจากนี้ไป ตัวตนใหม่ของนางในโลกนี้คือ "อวี้หลัน" บุตรีของรองเสนาบดีกรมพิธีการ

มือเรียวที่กำถ้วยชาไว้แน่นค่อยๆ คลายออก อวี้หลันมองขวดกระเบื้องเคลือบใบเล็กที่วางอยู่ข้างมือ ภายในบรรจุยาถอนพิษเม็ดกลมสีดำที่ท่านหมอตู้มอบไว้ให้ ก่อนจะหยิบมันขึ้นมาเปิดฝา เทยาเข้าปากโดยไม่ลังเล รสขมฝาดแตะปลายลิ้น แต่ดวงตากลับนิ่งสงบ

ก่อนที่นางจะลงมือทำสิ่งใด สิ่งแรกที่ควรทำคือรักษาและฟื้นฟูร่างกายนี้ให้แข็งแรงเสียก่อน และนับว่านางยังพอมีโชคอยู่บ้าง ที่ได้พบกับหมอเทวดาผู้นี้เข้า ฝีมือการรักษาเช่นเขา หากไม่เรียกว่าเป็นหมอเทวดา ก็คงไม่มีคำใดเหมาะสมไปกว่านี้แล้ว

เรือนฮวาหงยามนี้เงียบสงบ เสียงลมยามค่ำคืนพัดผ่านแผ่วเบา อวี้หลันเหลือบสายตาไปยังเงาร่างที่เคลื่อนไหวอยู่หลังช่องหน้าต่าง แม้จะเพียงพริบตาเดียว แต่ก็ไม่พ้นสายตาของนาง

นิ้วเรียวยาวค่อยๆ ลูบวนบนขอบถ้วยชาในมือแผ่วเบา ก่อนจะยกยิ้มบางอย่างเยือกเย็น แววตาปรากฏร่องรอยคล้ายเย้ยหยัน

"หนูสกปรกในเรือนนี้ดูท่าจะมากเกินไป"

อวี้หลันพึมพำออกมาเสียงเบา ก่อนที่นางจะวางถ้วยชาลง ลุกขึ้นเดินไปยังเตียงอย่างเงียบงัน ท่วงท่าของนางดูเหนื่อยอ่อนราวไร้เรี่ยวแรง ร่างบางทรุดตัวลงนอนอย่างสงบ หลับตาลงช้าๆ ราวกับไม่สนใจอีกแล้วว่าเงานั้นจะยังอยู่หรือไม่

ปล่อยมันให้วิ่งเล่นไปก่อนก็แล้วกัน

รอให้นางฟื้นตัวเมื่อใด...

คงถึงเวลารื้อเรือนนี้ครั้งใหญ่

ในเวลาเดียวกันนั้นขณะที่อวี้หลันกำลังหลับใหลอย่างสงบ

ภายในเรือนเหมยเยี่ย เรือนของคุณหนูใหญ่อวี้เหมย กลับปั่นป่วนราวกับพายุพัดผ่าน เสียงข้าวของแตกกระจายดังลั่นเรือน ก่อนจะตามมาด้วยเสียงร่ำไห้สะอึกสะอื้นของเจ้าของเรือน

อวี้เหมย คุณหนูใหญ่ผู้มีรูปร่างหน้าตางดงาม แต่เบื้องหลังความงามนั้นกลับแฝงไว้ด้วยนิสัยริษยาและจิตใจคับแคบ นางนั้นนิสัยต่างกันกับมารดาโดยสิ้นเชิง หากจะบอกว่าอวี้เหมยโง่งมก็ไม่ผิดนัก เพราะนางมักจะเก็บอาการไม่ค่อยอยู่เพียงแค่ถูกยั่วยุเล็กน้อย ในขณะที่มารดาเป็นสตรีร้ายลึก แต่บุตรสาวคิดสิ่งใดก็มักจะพูดออกมาแบบนั้น อารมณ์ร้อนและปากคอร้ายกาจ 

อวี้เหมยเติบโตมาพร้อมกับอวี้หลัน ทว่าหาได้รักใคร่กลมเกลียวกันไม่ นางมักหาทางกลั่นแกล้งน้องสาวร่วมบิดามาตลอด ในทางตรงกันข้าม อวี้เหมยมองอวี้หลันเป็นดั่งหนามตำใจอยู่เสมอ นางไม่เคยยินดีแม้แต่น้อยที่ต้องเห็นอวี้หลันได้รับความรักและการยอมรับในฐานะบุตรีของฮูหยินเอก ไม่ยินดีที่อีกฝ่ายเหนือกว่าตน น้องสาวผู้นี้จึงเป็นดั่งศัตรูที่นางต้องกำจัด

"เหตุใดนางถึงยังไม่ตาย" 

อวี้เหมยกรีดเสียงอย่างเดือดดาล แววตาเต็มไปด้วยโทสะและความหวาดหวั่น น้ำตาไหลอาบสองแก้ม

"เจ้าใจเย็นลงก่อนเถิด เหมยเอ๋อร์"

เซิ่งซื่อที่ยืนอยู่ใกล้ๆ รีบเข้ามาประคองบุตรสาว 

"เจ้าลืมไปแล้วหรือ ว่าตอนนี้เจ้าก็ได้ชื่อว่าเป็นบุตรสาวของฮูหยินเอกเช่นกัน"

นางเอ่ยอย่างใจเย็น พลางลูบหลังอวี้เหมยเบาๆ อย่างปลอบโยน แต่แววตาแฝงไว้ด้วยความเคร่งเครียด นางรู้สึกได้ว่าเด็กคนนั้นไม่เหมือนเดิม แต่ไม่รู้ว่ามันแปลกไปตรงไหน

"ระหว่างบุตรสาวของฮูหยินที่ตายไปแล้ว ทั้งบ้านเดิมของมารดายังล่มสลาย กับเจ้า ผู้ที่เป็นบุตรสาวคนโตของฮูหยินเอกคนปัจจุบัน อีกทั้งเจ้าก็มีท่านตาที่ตอนนี้ดำรงตำแหน่งแม่ทัพ เปี่ยมด้วยบารมี องค์ชายห้ายังจะเลือกใครได้อีกเล่า"

เสียงของเซิ่งซื่อฟังดูอ่อนโยน ทว่าเต็มไปด้วยความมั่นใจ บ่งบอกชัดว่าทุกอย่างยังอยู่ในการควบคุมของนาง

ถ้อยคำนั้นเปรียบเสมือนหยาดน้ำค้างยามเช้าที่หล่นลงบนเปลวเพลิงในอกของอวี้เหมย แม้ไม่อาจดับไฟได้ทั้งหมด แต่ก็ช่วยให้นางพอสงบใจลงได้บ้าง แววตาที่เคยวาวโรจน์ด้วยโทสะเริ่มอ่อนลงเล็กน้อย

และคำพูดเหล่านั้น แท้จริงแล้วก็เป็นเสมือนถ้อยคำปลอบใจตัวเองของเซิ่งซื่อเช่นกัน

ไม่ว่าอวี้หลันจะฟื้นขึ้นมาด้วยปาฏิหาริย์ใด หรือจะมีเจตนาใดซ่อนอยู่ในใจ ตอนนี้อีกฝ่ายยังจะทำอะไรได้อีก ฐานะของนางแม้จะเป็นบุตรสาวของฮูหยินเอกผู้ล่วงลับ แต่ก็เป็นเพียงแค่ชื่อเสียงที่ถูกลืมเลือน ไม่มีบ้านเดิมของมารดาคอยหนุน ไม่มีผู้ใดยืนหยัดอยู่ข้างกาย

ต่างจากนาง นางคือฮูหยินเอกคนปัจจุบันของรองเสนาบดีอวี้จิ้ง เป็นนายหญิงโดยสมบูรณ์ของจวนรองเสนาบดี

ซ้ำยังมีตระกูลเซิ่ง บ้านเดิมที่ยิ่งใหญ่เป็นที่พึ่งพิง ท่านพ่อของนางคือแม่ทัพแห่งแผ่นดิน มีทหารใต้บัญชาหลายหมื่นนาย

ตำแหน่งพระชายาขององค์ชายห้า เหตุใดนางจะไม่สามารถหยิบยื่นมันวางแทบเท้าบุตรสาวของตนได้

เป็นอย่างที่อวี้หลันคิด ผู้ที่ลงมือวางยานางไม่ใช่ใครอื่น หากแต่เป็นเซิ่งซื่อและอวี้เหมย พวกนางวางแผนทุกอย่างมานานแล้ว หวังกำจัดอวี้หลันให้พ้นทาง แล้วผลักดันอวี้เหมยขึ้นแทนตำแหน่งคู่หมั้นขององค์ชายห้า บุรุษผู้ที่เป็นหนึ่งในชายหนุ่มที่มีอำนาจและเป็นที่หมายปองที่สุดในเมืองหลวง

ตามแผนเดิมแล้ว ทุกอย่างควรจะดำเนินไปตามแผนการ อวี้หลันควรจะสิ้นใจลงเงียบๆ ภายในเรือน

ไร้เสียงร้อง

ไร้คำถาม

ไร้ผู้สืบสาวราวเรื่อง สืบหาความจริง

ไร้ผู้แยแสสนใจ

เมื่อถึงเวลานั้นตำแหน่ง ธิดาผู้เกิดจากฮูหยินเอกผู้ล่วงลับ ก็จะถูกลบเลือนจากความทรงจำของทุกผู้คน ถูกแทนที่ด้วยนามของอวี้เหมย คุณหนูใหญ่ผู้เพียบพร้อมเพียงคนเดียวของตระกูลอวี้

หากแต่พวกนางไม่คาดคิดว่า อวี้หลันจะยังมีลมหายใจ

แต่ยังนับว่าสวรรค์มีเมตตาต่อพวกนาง ถึงแม้ว่าจะไม่อาจพรากลมหายใจของอวี้หลันได้ แต่ตระกูลเซิ่งกลับผงาดขึ้นอย่างไม่คาดคิด นั่นมิเท่ากับมอบแต้มต่อให้พวกนางหรอกหรือ

 

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่51คลื่นใต้น้ำ

    ภายในห้องคุมขังอับชื้น กลิ่นสนิมของโซ่เหล็กและคราบเลือดคละคลุ้งอยู่โดยรอบ ร่างของเซิ่งซื่อซูบเซียวลงจนแทบไม่เหลือเค้าโครงเดิม ใบหน้าซีดขาวเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น ซ่อนความเจ็บปวดจากบาดแผลที่ไม่เคยสมาน แผลที่แผ่นหลังของนางเริ่มเน่าเปื่อย แม้จะมีการทำแผลอย่างลวกๆ แต่พิษไข้ก็แผ่ซ่านไปทั่วร่าง นางนอนซูบซีดบนฟางเก่า เสียงหายใจขาดห้วงราวเปลวเทียนใกล้ดับดวงตาของนางพร่ามัว น้ำตาเอ่อรื้น เมื่อนึกถึงบุตรชายบุตรสาวที่ไม่อาจกอดเป็นครั้งสุดท้าย ความเจ็บปวดในกายคล้ายถูกกลืนหายไป เหลือเพียงความขมขื่นที่ตรึงอยู่กลางใจในห้วงสุดท้าย คล้ายถูกดึงวิญญาณไปทีละน้อย สายตาพร่ามัวค่อยๆ จับภาพตรงหน้า แล้วร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นราวกับฝันไป๋ซูเหยา ฮูหยินเอกผู้ล่วงลับ ภรรยาคนแรกของอวี้จิ้ง ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยชุดผ้าแพรสีอ่อนงดงาม ดวงหน้าสงบหากแต่แววตากลับเต็มไปด้วยความโกรธแค้นเซิ่งซื่อสะดุ้งเฮือก หัวใจสั่นสะท้าน นางพึมพำเสียงแผ่วเหมือนเพ้อ"ไป๋ซูเหยา เจ้า…เจ้าใช่หรือไม่"ภาพตรงหน้านั้นเหมือนจริงเหลือเกิน ริมฝีปากของไป๋ซูเหยาขยับเอื้อนเอ่ย แต่เสียงที่ได้ยินกลับเป็นเสียงกรีดร้องของหญิงผู้สิ้นใจด้วยพิษที่นางเป็นคนมอบให้ ค

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่50ลงดาบเซิ่งซื่อ

    "ไม่ใช่ว่าท่านมีจุดประสงค์อื่นหรอกหรือ"เสียงของอวี้หลันเอ่ยดังขึ้นชัดถ้อยชัดคำ ทุกถ้อยคำหนักแน่นดุจคมดาบ นางก้าวออกมาหนึ่งก้าว ดวงตาคมกริบฉายแววกร้าว ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยเสียงเรียบเย็น"สิ่งที่ท่านทำไปทั้งหมด ก็เพื่อเปิดทางให้หลานชายของท่านย่ำยีข้า... คงไม่ต้องให้ข้าบอกกระมังว่าเพื่อสิ่งใด"สิ้นถ้อยคำนั้น บรรยากาศพลันเงียบงัน หนักหน่วงจนผู้ใดก็ไม่กล้าเอ่ยอันใด บ่าวไพร่ที่ยืนอยู่ด้านข้างต่างหน้าถอดสี ร่างสั่นระริก บางคนถึงกับหายใจติดขัดราวอกจะระเบิดดวงตาคมกริบของอวี้หลันสบกับผู้เป็นบิดา ก่อนจะตวัดไปยังร่างไร้สติของเซิ่งกงซุนที่ถูกองครักษ์คุมตัวลากเข้ามา ร่างนั้นนอนแน่นิ่งไร้เรี่ยวแรงบนพื้น ดูน่าสังเวชยิ่งนัก"นี่... นี่มันหมายความเช่นไร"อวี้จิ้งใบหน้าดำคล้ำ ตวัดสายตามองใบหน้าซีดเผือดของเซิ่งซื่ออย่างดุดันคำพูดนั้นของบุตรสาวที่ดังก้องกังวานในห้องหนังสือ ราวกับฟ้าผ่าลงมากลางใจอวี้จิ้ง เขาคล้ายจะมองเห็นความผิดหวังวูบหนึ่งในดวงตาของนาง ใช่ เขาเกือบจะใจอ่อนเพียงคำพูดไม่กี่คำของเซิ่งซื่อดวงตาคมวาววับของอวี้จิ้งจ้องมองภรรยาที่เขาเคยไว้ใจมานาน ใบหน้าที่เคยเต็มไปด้วยความอ่อนโยนในความทรงจำ ยาม

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่49เซิ่งซื่อจนมุม

    เซิ่งซื่อก้าวออกมาส่งแขกด้วยรอยยิ้มอ่อนหวาน ยังคงรักษาท่วงท่าอันงดงามและคำพูดนอบน้อมอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง นางเอ่ยขอบคุณเสียงนุ่ม เสมือนว่าเหตุการณ์ที่เจ้าของงานและบุตรทั้งสองหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยนั้นเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยที่ไม่ควรใส่ใจ แขกหลายคนมองหน้ากันอย่างประหลาดใจที่งานเลี้ยงถูกยุติลงเร็วกว่ากำหนด ทั้งที่ยังไม่ทันได้กล่าวคำอำลาเจ้าของงานด้วยซ้ำ"วันนี้ท่านอัครเสนาบดีมีธุระด่วนกะทันหัน จึงต้องขออภัยทุกท่านด้วยเจ้าค่ะ"เซิ่งซื่อยิ้มกล่าวเสียงนุ่มนวล มือขาวเรียวผสานคำนับทุกผู้คนอย่างสง่างามแขกหลายคนแม้จะรู้สึกฉงน แต่กลับไม่มีผู้ใดกล้าตั้งคำถามให้เป็นเรื่องใหญ่ จะมีก็เพียงการลอบสบตากันและการกระซิบกระซาบเบาๆ ก่อนแยกย้ายกันกลับไป แต่ละคนเก็บความสงสัยไว้ในใจเพียงเท่านั้นเมื่อประตูใหญ่ค่อยๆ ปิดลง ความเงียบอึมครึมก็เข้าปกคลุมทั่วโถงเรือนรับรองทันที รอยยิ้มที่เคยแต้มอยู่บนใบหน้าเซิ่งซื่อพลันเลือนหาย นางยกพัดในมือขึ้นโบกเบาๆ แววตาฉายประกายเย่อหยิ่งและพึงพอใจในสายตาของนาง เหตุการณ์ในคืนนี้หาใช่ความน่าอับอายไม่ หากแต่เป็นหลักฐานว่าแผนการที่วางเอาไว้กำลังเดินหน้าไปตามครรลอง ทุกสิ่งทุกอย่า

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่48กำจัดเซิ่งซื่อ

    แสงจันทร์ส่องลอดผ่านบานหน้าต่างเข้ามาในเรือนด้านทิศตะวันออกอย่างเงียบสงัด แสงเงินบางเบานั้นทอดลงบนร่างของอวี้เฉินที่นอนขดอยู่บนตั่งไม้ ร่างกายสั่นเทิ้มด้วยความเจ็บปวด ดวงหน้าซีดเผือดราวกระดาษ เหงื่อผุดพราวเต็มหน้าผากและขมับ มือหนึ่งกุมท้องแน่นจนเส้นเลือดปูดขึ้น เขาขบกรามแน่นเพื่อกลั้นเสียง แต่สุดท้ายก็ยังเล็ดลอดเสียงครางต่ำออกมาอย่างน่าเวทนาเสียงนั้นแม้จะแผ่วเบา หากแต่กลับบาดลึกเข้าไปในอกของอวี้จิ้งผู้เป็นบิดา เขายืนเฝ้าอยู่ข้างเตียงของบุตรชายไม่ห่าง สายตาเต็มไปด้วยความร้อนรุ่ม ใบหน้าที่เคยสุขุมมั่นคงในยามว่าราชการ บัดนี้กลับฉายชัดถึงความทุกข์ระทมอย่างไม่อาจปิดบัง มือใหญ่กำแน่นอยู่ข้างลำตัว ราวกับพยายามกักเก็บความรู้สึกที่ถาโถมเข้ามามิให้ปะทุออกมาหัวใจของเขาเจ็บปวดเมื่อเห็นบุตรชายนอนทุรนทุราย เหงื่อเม็ดเล็กไหลชุ่มเต็มแผ่นอกและหน้าผาก แต่ในขณะเดียวกันความคิดอีกด้านกลับพลุ่งพล่านไม่หยุด เมื่อหลักฐานทั้งหมดชี้ชัดไปยังภรรยาของตนความรู้สึกมากมายถาโถมกดทับอยู่ในอกของอวี้จิ้ง ราวกับมีหินหนักทับทวีอยู่ไม่สิ้นสุด ดวงตาที่ทอดมองบุตรชายบนเตียงเต็มไปด้วยความห่วงใย แต่ลึกลงไปในนั้นกลับแฝงด้วยคว

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่47ตลบหลัง

    หลังจากหลี่เหวินหลงก้าวออกจากงานเลี้ยงได้ไม่นาน อวี้หลันที่เพิ่งจิบชาหมดถ้วยก็รู้สึกถึงความผิดปกติ ความวิงเวียนแล่นเข้ามาอย่างฉับพลัน จนภาพตรงหน้าเริ่มพร่าเลือน ร่างกายร้อนผ่าวราวกับมีไฟซ่อนอยู่ใต้ผิว นางขมวดคิ้วเล็กน้อย พยายามฝืนเก็บสีหน้าให้ดูปกติ ก่อนจะหันไปเอ่ยกับฉิงหว่านเสียงแผ่ว"หวานหว่าน…พาข้ากลับเรือนที"ฉิงหว่านหน้าถอดสีเล็กน้อย รีบเข้ามาประคองผู้เป็นนายออกจากห้องจัดเลี้ยงอย่างระมัดระวัง เสียงเครื่องสายและเสียงพูดคุยของผู้คนในห้องโถงจัดเลี้ยงค่อยๆ เลือนหายไปตามทางเดินยาว จนถึงเรือนนอนของคุณหนูรองของจวนทันทีที่ประตูเลื่อนปิดลง อวี้หลันก็พิงกายกับเสาไม้ หอบหายใจแผ่วๆ ความร้อนผ่าวแล่นไปทั่วทั้งร่างจนแทบทนไม่ไหว เสียงของนางสั่นเล็กน้อยยามออกคำสั่ง "เตรียมน้ำให้ข้าอาบที ข้ารู้สึกร้อนไปหมดแล้ว""เจ้าค่ะคุณหนู"ฉิงหว่านรีบโค้งตัวรับคำ ก่อนจะหมุนตัวออกไปด้วยความรวดเร็ว ทิ้งให้อวี้หลันทรุดตัวลงนั่งบนขอบเตียงไม้แกะสลัก ปลายนิ้วเรียวจิกกับผ้าปูสีอ่อน ความรู้สึกแปลกประหลาดในร่างกายยิ่งชัดเจนขึ้นทุกทีอวี้หลันรอคอยด้วยใจจดจ่อ เวลาค่อยๆ ผ่านไปโดยไร้เสียงฝีเท้าของฉิงหว่านกลับมา ความเงีย

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่46อัครเสนาบดีอวี้จิ้ง

    ในที่สุดก็เป็นดังที่หลายคนคาดเดาเอาไว้ อวี้จิ้งได้รับการแต่งตั้งเป็น อัครเสนาบดีกรมพิธีการ อย่างเป็นทางการข่าวประกาศแต่งตั้งแพร่สะพัดออกไปทั่วเมืองหลวงเพียงชั่วข้ามคืน แต่ก็ไม่มีผู้ใดปฏิเสธได้ว่า อวี้จิ้งเหมาะสมกับตำแหน่งนี้ยิ่ง ทั้งด้วยคุณงามความดีและสติปัญญาที่แสดงให้เห็นมาตลอดหลายปีวันประกาศราชโองการ ท้องพระโรงคลาคล่ำด้วยขุนนางผู้ใหญ่ ขณะที่อวี้จิ้งสวมอาภรณ์เต็มยศก้าวออกมาคำนับรับพระราชโองการด้วยท่วงท่าสง่างาม สายตาหลายคู่จับจ้องด้วยความยินดีและความอิจฉาขุนนางในราชสำนักต่างก็เริ่มจับตามองบทบาทใหม่ของอวี้จิ้ง ขณะที่บรรดาขุนนางบางกลุ่มที่เคยคิดว่าตระกูลอวี้จะโรยราไปพร้อมกับการล่มสลายของตระกูลไป๋ กลับต้องเปลี่ยนท่าทีเสียใหม่จากวันนี้ไป ตระกูลอวี้ย่อมก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดในราชสำนักอย่างสมบูรณ์แบบ และชื่อของอวี้จิ้งจะถูกจารึกในประวัติศาสตร์ว่าเป็นหนึ่งในอัครเสนาบดีที่เปี่ยมด้วยบารมีที่สุดแห่งยุคราชสำนักที่เคยสงบเงียบพลันเต็มไปด้วยกระแสใต้น้ำที่กำลังปะทุเพราะอีกเรื่องหนึ่งที่ผู้คนจับตามองมากที่สุด คือคนผู้นี้เลือกที่จะยืนอยู่ฝั่งใดในศึกแย่งชิงตำแหน่งรัชทายาทหากเป็นก่อนหน้านี้ การที

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status