“โอ๊ย โอ๊ย! ป๊าเจ็บจริงนะเนี่ย”พอเขาพาเธอเข้ามาในรถเรียบร้อย ใช่ว่าจะง่ายอย่างที่คิด คะนิ้งแผลงฤทธิ์ขั้นสุดเช่นเดียวกัน เธอทั้งทุบทั้งตีเขาจนเริ่มเจ็บเข้าแล้วจริง ๆ“ก็ปล่อยหนูไปสักทีสิ!” คะนิ้งยังกัดฟันทุบอีกฝ่ายเป็นเบาะรองมือ จนอีกฝ่ายทนไม่ไหวต้องโทรเรียกใครบางคนทันที“มาขับรถให้เฮียที เร็ว ๆ ”ขืนเป็นแบบนี้เขาคงขับรถไม่ได้จริง ๆ นั่นแหละ หากไม่จับตัวเธอไว้มีหวังขับรถไปแหกโค้งกันพอดี คนที่เขาโทรหาเมื่อกี้คือเลขาเขาเอง ก่อนหน้านี้ไม่เคยโผล่มาหรอก เพราะหากมาที่นี่เขาจะให้หาโรงแรมพัก เพราะเขานั้นต้องอยู่กับคะนิ้ง ไม่อยากให้หมอนั่นมาเห็นเข้า“นิ้ง นิ้ง หนูใจเย็น ๆ มีอะไรค่อยพูดค่อยจากันก็ได้นี่ครับ ตีป๊าแบบนี้บาปนะ”เขาถึงขั้นต้องเอาเรื่องบาปบุญมาอ้าง เพราะคะนิ้งยังทุบตีเขาไม่ยั้งมือ เธอเก็บกดอะไรขนาดนั้นกัน เธอไม่เคยทำตัวก้าวร้าวแบบนี้มาก่อนนี่?“เหอะ! บาปงั้นเหรอ?”“แล้วคนที่มันนอกใจเมียตัวเองมามีคนอื่นล่ะ? แล้วลากคนที่มันไม่รู้เรื่องอะไรให้เป็นคนเลวไปด้วย แบบนี
“เด็กดี”“!!!”เสียงหลอนหูดังขึ้นหน้าประตูห้องนอน คะนิ้งที่กำลังง่วนอยู่กับการเก็บของสำคัญก็ตกใจขีดสุด ดวงตากลมเบิกกว้าง ภายในตาเกิดเส้นสีเเดงฉาน นั่นเพราะความโกรธและเจ็บปวดเเล่นพล่านในใจ บวกกับที่เธอร้องไห้อยู่นานดวงตาจึงยิ่งน่ากลัว“หนูเปิดประตูให้ป๊าหน่อยได้ไหมคะ ป๊าอยากเข้าไปหา” คนด้านนอกเอ่ยด้วยโทนเสียงอบอุ่นและอ่อนโยนช่างน่าสะอิดสะเอียนสิ้นดี …เธอกำหมัดกัดฟันเเน่น คิดหาทางว่าจะหนีไปจากผู้ชายใจร้ายคนนี้อย่างไรดี!“......”“ป๊าขอโทษนะ” น้ำเสียงเขาฟังดูเศร้าสร้อย หากเป็นเมื่อก่อนคะนิ้งคงเชื่อสนิทใจไปแล้ว แต่ตอนนี้กลับตรงกันข้ามรักมากก็ยิ่งเจ็บมาก รักได้ก็เกลียดได้เช่นเดียวกัน!“ป๊ายอมรับผิดทุกอย่างเเล้วครับ เปิดประตูให้ป๊าหน่อยนะคนดี”ภูผาที่ยืนอยู่หน้าประตู มือถือดอกไม้ช่อใหญ่ แม้ใบหน้าและแววตาจะฉายชัดถึงอาการเหนื่อยล้า แต่ทว่าเขากลับปรับน้ำเสียงให้ฟังดูปกติที่สุด เขายอมรับผิดทุกอย่าง เขากระทำสิ่งที่ไม่ควรกระทำลงไปจริง ๆ เพราะขาด
“!!!”คะนิ้งยืนตะลึงค้าง จู่ ๆ เธอก็โดนชี้หน้าพร้อมกับถูกพ่นคำด่าจนหน้าชา!“หน้าตาก็ดีแต่ไม่มีสมอง!”“นี่คุณ! มันจะมากเกินไปแล้วนะ!” หญิงสาวกำหมัดแน่น พยายามข่มกลั้นอารมณ์สุดชีวิต แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่สนเลยสักนิด ยังคงพูดต่อไม่ยอมหยุด“มันไม่มากเกินไปสำหรับยัยเด็กใจแตกชอบแย่งผัวชาวบ้านแบบเธอหรอกนะ”เธอคนนั้นยังคงยืนด่าเธอฉอด ๆ ต่อหน้าผู้คนมากมายที่มาเดินตลาด คะนิ้งถึงกับยืนนิ่งหน้าชา เมื่อจู่ ๆ ก็โดนตราหน้าว่าไปแย่งผัวชาวบ้าน ทั้ง ๆ ที่เธอมีแฟนแล้ว เขาเป็นผู้ชายที่ดูแลเธออยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น เขาไม่เคยบอกเธอเลยว่ามีภรรยาอยู่แล้ว เธอเองก็ไม่เคยสงสัยมาก่อน จนกระทั่งวันนี้“นะ หนูเปล่านะ หนูไม่เคยแย่งผัวใคร”หญิงสาวที่ใจเต้นแรงจนแทบหลุดออกมา เธอยืนกำหมัดไม่คลาย สายตาก็มองรอบตัว ที่เวลานี้มีคนมามุงดูอย่างคนอยากรู้อยากเห็นเรื่องชาวบ้าน ตอนนี้เธอทั้งอายทั้งเสียใจ เธอก็อยู่ของเธอดี ๆ แต่กลับต้องมาโดนด่าเช่นนี้“เหอะ ตอแหล ถ้าแกไม่แย่งมาพี่ภูผาเขาไม่มีทางเลิกกับฉันมาเ
“อื้อ~~”เสียงดังอู้อี้ในลำคอเมื่อรู้สึกตัวตื่นขึ้น แม้ร่างกายจะระบมซ้ำยังเหนื่อยล้าจนแทบไม่อยากตื่น แต่ก็ต้องฝืนร่างกายตนเองลุกให้ไหว สาเหตุล้วนมาจากเมื่อคืนทั้งนั้น เพราะการกระทำรุนแรงป่าเถื่อนของคนที่เธอรัก ซึ่งบัดนี้ข้างกายไร้วี่แวว เขาหายไปแล้ว…“ฮึก~”เสียงสะอื้นถูกกลืนลงอก ยิ่งพอเธอนึกถึงเรื่องเมื่อคืนก็ยิ่งปวดหนึบในใจ น้ำตาพลันไหลอยู่รอมร่อ เธอที่เคยถูกรักถูกทะนุถนอมมาดุจเจ้าหญิง แต่ทว่าเพียงชั่วข้ามวันข้ามคืนเขากลับปฏิบัติกับเธอเหมือนวัตถุระบายอารมณ์วัตถุทางเพศ?ยิ่งคิดยิ่งเจ็บใจ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ เธอไม่สมควรถูกกระทำแบบนี้ด้วยซ้ำหายไปอีกแล้ว...คะนิ้งพาร่างเปลือยเปล่าเข้าห้องน้ำ มองหาเขาคนนั้นก็หาไม่เจออีก เธอได้แต่ถอนหายใจพร้อมกับยกมือเรียวขึ้นปาดน้ำตาที่ห้ามไม่อยู่ ยิ่งพอในกระจกปรากฏร่างขาวเนียนที่มีทั้งรอยเเดงรอยช้ำเด่นชัด ยิ่งเธอผิวขาวยิ่งทำให้รอยนั่นชัดเจนและตอกย้ำว่าเธอโดนกระทำอย่างไรแถมครั้งนี้ยังไร้ซึ่งคำขอโทษ ไร้ทั้งเงาคน......&ldqu
“ป๊า !!”คะนิ้งร้องตะโกนเสียงดังลั่น เมื่อร่างของอีกฝ่ายจู่โจมเข้ามากอดจูบเธออย่างคนคลั่ง เธอไม่ได้รังเกียจเขา แต่ทว่าเธอกลับกำลังเกิดกลัวขึ้นมา! มือเรียวสองข้างดันเขาออกห่างแต่ไม่เป็นผล คนตัวโตกว่ายังใช้กำลังเข้ารั้งตัวเธอไว้ พร้อมกับเอาแต่ใจตัวเองขั้นสุด!“ป๊าปล่อยหนูนะ!”“นิ้ง อย่ามาสั่งป๊า”“อื้อ!”สิ้นเสียงตะคอกจากคนที่ปากเคยพร่ำบอกแค่คำว่ารัก และมักจะพูดจาอ่อนหวานอ่อนโยนกับเธอเสมอ มาบัดนี้ราวกับเป็นคนละคน ทั้งดุร้ายและรุนแรงอย่างไร้เหตุผล ไม่สิ! เหตุผลของเขาก็คือเขานั้นเครียดแต่เครียดขนาดไหนก็ไม่ควรมาลงกับเธอไม่ใช่หรือไง!“อื้อ อ่อย~~”เสียงที่เปล่งออกมาอู้อี้จนแทบฟังไม่ออก แต่ความหมายล้วนบอกให้เขานั้นปล่อยเธอ ตอนนี้ภูผาเมาหนักจนถึงขั้นขาดสติ เขาใช้แรงมากกว่าทุกครั้ง ทั้งบีบเคล้นนวดคลึงจนเธอปวดระบมไปหมด หน้าอกก็โดนเขาบีบแรงมาก เจ็บจนน้ำตาเล็ด แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่ยอมผ่อนแรงลงเลยสักนิด“อื้ม~”ริมฝีปากหนายังคงสอดแทรกสำรวจโพลงปากนุ่มพร้อม
“หนูไปเรียนแล้วนะคะ”“…”“ป๊าคะ”“ครับ ครับ”เพราะเขานั้นง่วนอยู่แต่กับหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ตั้งแต่ตื่นมาก็เอาแต่คุยโทรศัพท์บ้างพิมพ์แชท เธออาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยจนกระทั่งจะออกไปเรียน อีกฝ่ายก็ยังวุ่นอยู่แต่กับโทรศัพท์เช่นเดิมเขาเงยหน้ามายิ้มให้เธอทีหนึ่ง ก่อนที่จะก้มหน้าสนใจอย่างอื่นต่อ วันนี้เธอคงต้องขับรถไปเรียนเองสินะ“เอ๊ะ”คะนิ้งรู้สึกเอะใจเล็กน้อย เธอเดินลงมายังหน้าบ้านเตรียมเปิดประตูรถเก๋งคันมินิคู่ใจ แต่ทว่ากลับรู้สึกเหมือนมีสายตาคู่หนึ่งจดจ้องมาที่เธอ เธอรับรู้ได้แบบนั้นจริง ๆพอหันไปยังหน้าบ้านก็มองเห็นเพียงแค่อะไรแว่บ ๆ ผ่านถนนหน้าบ้านไปเท่านั้น หรืออาจจะคิดมากไป ช่วงนี้มีเรื่องให้คิดเยอะจนอ๋องไปหมดแล้ว คงแค่คนเดินผ่านหน้าบ้านหรือไม่ก็เพื่อนบ้านปั่นจักรยานไปซื้อของเท่านั้นล่ะมั้ง“หลอนไปหมดแล้ว”คะนิ้งเปิดประตูเข้าไปในรถ เธอมองเข้าไปในตัวบ้านอยู่สักพักหนึ่ง ก่อนที่จะตัดใจขับรถออกไปเรียนด้วยตัวเอง ในระหว่างทางก็คิดอะไรไ