แชร์

บทที่ 577

ผู้เขียน: โม่เสียวชี่
ครานี้ ฉู่จืออี้เร่งความเร็วขึ้นอีก

ตรอกซิ่งโหยวก็คือที่ที่เนี่ยนเนี่ยนพักอยู่เมื่อคืน หากเซียวเหิงตามไปที่นั่น ก็ต้องพบว่าเฉียวเนี่ยนนางไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว

ต่อให้เมื่อครู่เขาไม่เอะใจอะไร แต่ย่อมต้องสั่งให้ค้นหาทั้งเมืองอย่างแน่นอน

เพราะฉะนั้นต้องรีบออกไปให้เร็วที่สุด!

ไม่นาน พวกเขาก็ออกนอกเมืองได้สำเร็จ

แต่แม้จะพ้นเขตเมืองแล้ว รถม้าก็ยังไม่ชะลอความเร็วลงแม้แต่น้อย

ขอเพียงได้พบเจ้าสาม เปลี่ยนเสื้อผ้าที่ใช้ปลอมตัวอีกครั้ง ก็จะสามารถหลอกเซียวเหิงได้!

แต่แล้วไม่ทันไร ก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นจากด้านหลัง “หยุดนะ!”

คิ้วของฉู่จืออี้ขมวดเป็นปม ทว่าเขาไม่ได้หยุด

ในจังหวะนั้นเอง เสียงลมฉีกฟ้าดังขึ้นจากด้านหลัง

พุ่งมาทางเขา!

ฉู่จืออี้ไม่แม้แต่จะหันกลับไปมอง เขาเอียงศีรษะหลบด้วยสัญชาตญาณ

ลูกธนูพุ่งเฉียดใบหูของเขาไปอย่างหวุดหวิด!

เฉียวเนี่ยนเบิกตากว้าง มองไปข้างหลังด้วยความตกใจ

ก็เห็นเซียวเหิงควบม้าไล่ตามมาอย่างรวดเร็ว ในมือยังจับคันธนู พร้อมปล่อยลูกธนูดอกต่อไป เป้าหมายยังคงเป็นฉู่จืออี้!

นางตกใจสุดขีด ไม่สนใจสิ่งใดอีก รีบลุกขึ้นกางแขนออก ตั้งใจจะใช้ร่างกายของตนเองขวางลูกธนูนั้นไว้!

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 592

    เห็นท่านโหวหลินประคองฮูหยินหลินจากไป เฉียวเนี่ยนจึงค่อยถอนหายใจออกมายาวหนึ่งเฮือกแต่แล้วก็ได้ยินเสียงเซียวเหิงเอ่ยขึ้นอย่างกะทันหัน “หลินเย่ว์ เจ้ายังยืนเหม่ออยู่ทำไม?”เฉียวเนี่ยนจึงสังเกตเห็นว่า หลินเย่ว์ยังคงยืนอยู่ที่เดิม ไม่มีท่าทีว่าจะจากไปนางมองเขาอย่างไม่เข้าใจนัก แล้วก็เห็นว่าหลินเย่ว์เองก็มองมาทางนาง ก่อนจะค่อย ๆ คุกเข่าลงกับพื้นคิ้วของเฉียวเนี่ยนขมวดเล็กน้อย มือทั้งสองกำแน่น แต่กลับไม่ถอยแม้แต่ก้าวเดียวเซียวเหอเองก็กังวลจนต้องขมวดคิ้ว มองเฉียวเนี่ยนด้วยความเป็นห่วง เห็นว่าสีหน้าของเฉียวเนี่ยนไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก จึงค่อยโล่งใจลงบ้างในหัวกลับคิดถึงคำพูดของนางที่เคยกล่าวไว้เมื่อตอนอยู่ที่หมู่บ้านเหอวาน ก็อดรู้สึกเศร้าลึก ๆ ในใจไม่ได้นางไม่ควรกลับมาเลยจริง ๆแต่เซียวเหิงกลับเดินขึ้นไปคว้าคอเสื้อหลินเย่ว์ไว้ “เจ้าจะก่อเรื่องอะไรอีก? ไม่อายผู้คนบ้างหรือ? รีบไสหัวไปซะ!”แต่หลินเย่ว์กลับผลักเซียวเหิงออก “ไม่ต้องเจ้ามายุ่ง!”เขาจะต้องคุกเข่า!เมื่อครู่แม้ท่านแม่จะความจำเสื่อม แต่เนี่ยนเนี่ยนก็ยังไม่มีท่าทีอ่อนใจแม้แต่น้อยเขาไม่รู้จริง ๆ ว่าตนควรจะทำเช่นไรอีก

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 591

    “ฮูหยินหลิน”นางเอ่ยเสียงแผ่วเบาเพียงคำเดียว ก็ทำให้ฮูหยินหลินชะงักนิ่งอยู่กับที่ฮูหยินหลินหันกลับมามองเฉียวเนี่ยนด้วยความประหลาดใจ ในนัยน์ตาเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัวนางเสียงสั่นถามออกมาโดยไม่ทันยั้งใจ “เจ้า เจ้ากล่าวเรียกข้าว่าอะไรนะ?”“เนี่ยนเนี่ยน!” ท่านโหวหลินเอ่ยปรามเสียงต่ำ เป็นการเตือนเฉียวเนี่ยนว่าอย่าพูดจาทำร้ายจิตใจฮูหยินหลินแต่เฉียวเนี่ยนก้มมองมือตนนั้นที่ถูกจับไว้แน่น คิ้วของนางขมวดเข้าหากันเป็นปมจะไม่พูดออกไปหรือ?จะยอมให้ฮูหยินหลินพานางไปหรือ?บาดแผลทั้งหมดที่พวกเขาก่อไว้ ทั้งร่างกายและจิตใจ บัดนี้แค่ข้ออ้างว่า ‘ความจำเสื่อม’ ก็ลบล้างได้แล้วหรือ?นางจึงแค่นเสียงหัวเราะเย็นชาเฉียวเนี่ยนค่อย ๆ แกะมือนั้นออกจากตัวเอง “ข้าตัดขาดจากจวนโหวมานานแล้ว ฮูหยินหลิน บัดนี้ท่านมีเพียงลูกสาวคนเดียว นามว่าหลินยวน ส่วนข้าไม่ใช่หลินเนี่ยน ข้าแซ่เฉียว”บางเรื่อง ต่อให้ความจำเสื่อม ฮูหยินหลินก็น่าจะจำได้เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฮูหยินหลินถอยหลังไปสามก้าวในทันทีท่านโหวหลินรีบเข้าไปพยุงด้วยความร้อนรน กลัวว่านางจะล้มลงอีกน้ำตาชายชราไหลริน“เจ้าจะหล

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 590

    "ฮูหยิน!" ท่านโหวหลินอุทานเสียงดัง รีบพุ่งตัวเข้าไปหาฮูหยินหลินทันทีหลินเย่ว์เองก็ตกใจ รีบวิ่งเข้ามาประคองฮูหยินหลินไว้ "ท่านแม่! เป็นอย่างไรบ้าง?"ฮูหยินหลินไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อเห็นเลือดสด ๆ บนแขนของตนเอง กลับทรุดตัวลงนั่งกับพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรงท่านโหวหลินตกใจอย่างหนัก น้ำตาร่วงพรู "ฮูหยิน! อย่าทำให้ข้าตกใจนะ!"เฉียวเนี่ยนเองก็ตกตะลึงแม้ในใจจะเกลียดชังคนตระกูลหลินเพียงใดแต่หากต้องเห็นฮูหยินหลินตายลงต่อหน้าต่อตา นางก็รู้ดีว่าตนเองไม่มีทางนิ่งเฉยได้สิบห้าปีที่ผ่านมา ทิ้งร่องรอยไว้ในใจนางเกินกว่าจะลบเลือนได้...ในตอนนั้นเอง เซียวเหอกับเซียวเหิงก็บุกเข้ามาจากด้านนอกพร้อมกันทั้งสองได้ข่าวว่าท่านโหวหลินพาคนมาลักพาตัวถึงเรือนเล็ก จึงไม่ทันแม้แต่จะได้กินข้าว รีบพุ่งมาที่นี่ทันทีไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นภาพเช่นนี้ทั้งคู่คิดว่าฮูหยินหลินได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่ไม่นานนัก ฮูหยินหลินก็ลืมตาขึ้น ดวงตาทั้งคู่หันมามองหน้าท่านโหวหลิน แล้วค่อย ๆ เลื่อนสายตาไปยังหลินเย่ว์ คล้ายกับลืมทุกสิ่งทุกอย่างไปหมดแล้ว ถามขึ้นด้วยความงุนงง "พวกเจ้าร้องไห้กันทำไม?"หลินเย่ว์ยังจับต้นชนป

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 589

    เขารู้ดีว่าเซียวเหิงไปแล้ว แต่ทิ้งคนไว้เฝ้าเรือนเล็กนี้หลายคน พอรู้ข่าว เขาก็รีบรวบรวมคนของตนเองแล้วบุกมาทันทีเมื่อครั้งก่อน ก็เพราะเนี่ยนเนี่ยนถูกเซียวเหิงกักขังไว้จนตกแม่น้ำฉางหยาง เกือบตายไปแล้วรอบหนึ่งครั้งนี้ เขาจะไม่มีวันปล่อยให้เรื่องเดิมเกิดขึ้นซ้ำอีก!ขณะพูด ท่านโหวหลินก็เอื้อมมือจะคว้าเฉียวเนี่ยนอีกครั้ง แต่คราวนี้เฉียวเนี่ยนถอยหลังไปสองก้าวอย่างรวดเร็ว หลบพ้นการคว้าของเขามือที่คว้าไม่โดนใครทำเอาท่านโหวหลินชะงักไปนิดหนึ่ง แต่ยังคงพุ่งเข้าหานางอีก "รีบหน่อย! เดี๋ยวเซียวเหิงก็มาถึงแล้ว!"ไม่ใช่เพราะเขากลัวเซียวเหิง แต่หากเจ้าหมอนั่นมาถึง เขาจะพาเนี่ยนเนี่ยนออกไปได้ยากขึ้นมากเฉียวเนี่ยนยังคงถอยห่างออกไปอีกก้าวในตอนนั้นเอง ทหารองครักษ์ที่เฝ้าอยู่ก็พากันกรูเข้ามา ล้อมท่านโหวหลินไว้แน่นหนาท่านโหวหลินเห็นเฉียวเนี่ยนที่ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยใบหน้าเย็นชา จึงตะลึงไป ริมตาแดงก่ำ "เนี่ยนเนี่ยน นี่พ่อเองนะ! เจ้า... เจ้าไม่นับข้าเป็นพ่อแล้วหรือ? ข้าคือพ่อแท้ ๆ ของเจ้านะ!"เสียงอันสั่นเครือของคนชราทำให้เฉียวเนี่ยนกำหมัดแน่น แต่สีหน้ายังคงเฉยชา "ท่านโหวหลินคงลืมไปแล้วกระมัง ว่าพวก

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 588

    คงเพราะรู้ว่าในวันนี้เฉียวเนี่ยนถูกหลินเย่ว์ทำให้โมโห เซียวเหิงจึงไม่ได้อยู่ที่เรือนเล็กนี้ต่อให้นางรำคาญใจแต่เขาก็ทิ้งคนไว้หลายคน อ้างว่าเพื่อปกป้องความปลอดภัยของนาง ทว่าในสายตาของเฉียวเนี่ยน นั่นก็ไม่ต่างอะไรกับการกักขังยามค่ำค่อย ๆ แผ่ปกคลุม หนิงซวงจัดเตรียมอาหารมากมายให้เฉียวเนี่ยน เต็มโต๊ะจนดูน่ากินเป็นพิเศษเฉียวเนี่ยนมองหนิงซวงแล้วยิ้ม "ห่างกันแค่เดือนกว่า ๆ ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะเก่งจนเหมือนเทพแห่งครัวแล้ว!"หนิงซวงก็ยิ้มตาม พลางคีบไส้ใหญ่หมูใส่ในถ้วยของเฉียวเนี่ยน "คุณหนูลองชิมดูสิเจ้าคะ รสชาติพัฒนาไหม คล้ายกับที่รองแม่ทัพจิ่งทำไหม?"เฉียวเนี่ยนคีบขึ้นมาลองชิม รสชาติคุ้นเคยทำให้นางนึกถึงเรื่องราวเก่า ๆ มากมายรอยยิ้มของนางแข็งค้างไปครู่หนึ่ง แต่ก็รวบรวมกำลังใจยิ้มให้หนิงซวง "ศิษย์ล้ำหน้าอาจารย์แล้ว"หนิงซวงยิ่งยิ้มกว้างไม่หยุด คีบกับข้าวอื่น ๆ ใส่ถ้วยเฉียวเนี่ยนอีก "คุณหนูลองอันนี้ดูเจ้าค่ะ อร่อยมาก แล้วก็อันนี้ ของถนัดข้าเลย!"ไม่นาน ถ้วยข้าวตรงหน้าเฉียวเนี่ยนก็สูงราวภูเขาลูกน้อย ๆเฉียวเนี่ยนมองหนิงซวงอย่างจนใจ "คุณหนูของเจ้ามีแค่ปากเดียว จะกินหมดได้อย่างไร ไปตามหวังเ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 587

    หลินเย่ว์ไม่สามารถดึงห่อผ้าเล็กๆออกมาได้ในทันที มือที่ยื่นเข้าไปก็ชักกลับพร้อมกับร้องออกมาเบา ๆ แล้วก็รีบยื่นมือกลับเข้าไปในกระถางไฟอีกครั้งในที่สุดครั้งนี้หลินเย่ว์ก็หยิบผ้าขี้ริ้วผืนหนึ่งออกมาจากกระถางไฟได้แต่ผ้าขี้ริ้วยังมีไฟลุกไหม้อยู่เขาจึงโยนผ้าขี้ริ้วลงกับพื้นเหยียบย่ำซ้ำ ๆ จนเปลวไฟดับลงในที่สุดทว่าผ้าขี้ริ้วที่ไม่ใหญ่อยู่แล้วกลับถูกไฟเผาไหม้ไปครึ่งหนึ่งเหลือเพียงคำสองพยางค์ว่า ช่วยข้าหลินเย่ว์ยื่นมือสั่นระริกออกไปมือข้างนั้นที่ถูกไฟลวกถึงสองครั้งแดงก่ำ ปลายนิ้วยังดูเหมือนถูกไฟไหม้อย่างหนักจนกลายเป็นสีขาวแต่เขากลับทำเหมือนไม่รู้สึกอะไร เพียงยื่นมืออันสั่นเทาไปเก็บผ้าขี้ริ้วผืนนั้นขึ้นมา น้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ก็หลั่งไหลออกมาในที่สุดเฉียวเนี่ยนขมวดคิ้ว และก็อดไม่ได้ที่จะระเบิดอารมณ์ออกมา "คุณชายหลินจะมาเล่นละครอะไรหน้าจวนข้ากันแน่ แค่ผ้าขี้ริ้วไม่กี่ชิ้นถึงกับต้องเอามือล้วงเข้าไปในกระถางไฟเลยหรือเจ้าคะ? ผ้าขี้ริ้วพวกนี้มันมีความหมายอะไร? ตอนข้าต้องการท่าน ท่านหายหัวไปอยู่ไหน? ตอนนี้มาแสดงบทเศร้าให้ใครดูคิดว่าข้าจะสงสารหรือเจ้าคะ? ข้าบอกไว้เลยนะ อย่าว่าแต่ท่านถูกไ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 586

    หลินเย่ว์ไม่เคยคิดเลยว่าเฉียวเนี่ยนจะยอมออกมาเจอเขาเร็วขนาดนี้ในเสี้ยววินาทีที่ประตูเปิดออก เขาก็ลุกขึ้นยืนจากข้างประตู เมื่อเห็นเฉียวเนี่ยนเขาก็ตกใจในตอนแรก จากนั้นดวงตาก็แดงก่ำริมฝีปากยกยิ้มที่ทั้งแข็งกระด้างและเศร้าโศกอย่างที่สุดยิ้มอย่างกระอักกระอ่วนและประหม่าเขาค่อยๆเดินตรงไปหาเฉียวเนี่ยน "ข้า... ข้านึกว่าเจ้าจะไม่ออกมาเร็วขนาดนี้...""ใครให้เจ้ามา" เฉียวเนี่ยนถามเรียบ ๆ น้ำเสียงไม่เจืออารมณ์แม้แต่น้อยหลินเย่ว์รีบพูด หลิ่วเหนียงให้ข้ามา นางบอกว่านางช่วยเจ้าหอบห่อนี้ออกมาจากกรมซักล้าง แต่ดันลืมส่งให้ นางเจอข้านอกจวน บอกว่าเต๋อกุ้ยเฟยเมตตาอนุญาตให้นางออกจากวังเพื่อกลับบ้านเกิด ตอนเก็บข้าวของนางพบห่อนี้จึง...""เข้าใจแล้ว"เฉียวเนี่ยนขัดหลินเย่ว์ที่กำลังพร่ำพูดริมฝีปากหลินเย่ว์อ้าออกเพื่อพูดยังค้างอยู่ ไม่ได้หุบลงทันทีเขาเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองก็แค่คำถามง่าย ๆ แต่ทำไมถึงต้องพูดเสียยืดยาวขนาดนี้แต่ไม่ต้องคิดให้มากเขาก็รู้เหตุผลเพราะมันนานเหลือเกิน ที่ไม่ได้พูดคุยกับนางดี ๆนานเหลือเกินที่ไม่ได้เจอนางนานมาก... นานเหลือเกิน...เฉียวเนี่ยนพูดขึ้นมาว่า"เ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 585

    เซียวเหอก็สังเกตเห็นเช่นกันเขารีบเก็บห่อผ้าเล็กนั้นไปซ่อนไว้ด้านหลังโดยสัญชาตญาณ "หลินเย่ว์เป็นคนเอามา ข้าเห็นว่านี่เป็นของของเจ้า ควรจะปล่อยให้เจ้าจัดการเอง หากเจ้าไม่ต้องการ..."“ยกให้ข้าเถอะเจ้าค่ะ” เฉียวเนี่ยนพูดเสียงนุ่มนวล พร้อมรอยยิ้มบาง ๆ แล้วก็ยื่นมือไปหาเซียวเหอเซียวเหอชะงักไปเล็กน้อย แม้จะลังเล แต่สุดท้ายก็ยื่นห่อผ้าให้นางเฉียวเนี่ยนรับมันมา มองห่อผ้าในมือที่เปื้อนรอยเลือดแห้ง ๆ สีคล้ำ ใจนางเหมือนย้อนกลับไปยังกรมซักล้าง ย้อนกลับไปสู่ขุมนรกที่ผู้คนต่างเป็นศัตรูกับนาง“ข้าตั้งใจทิ้งมันไว้ที่กรมซักล้าง ไม่คิดเลยว่าสุดท้ายมันจะไปอยู่ในมือหลินเย่ว์” นางเอ่ยด้วยรอยยิ้มขื่นขม แล้วเงยหน้ามองเซียวเหอ “ท่านพี่เซียว รู้ไหมว่าข้างในนี้คืออะไร?”เซียวเหอไม่ได้ตอบ มีเพียงความรู้สึกว่ารอยยิ้มของเฉียวเนี่ยนตอนนี้เต็มไปด้วยความโศกเศร้าทำให้เขาเริ่มลังเลว่าตนควรนำสิ่งนี้มาให้นางหรือไม่เฉียวเนี่ยนไม่รอคำตอบจากเซียวเหอ นางพูดต่อด้วยตัวเอง “คือความอวดดีและความเพ้อฝันของข้าในอดีต”“ข้าเคยเขียนคำขอความช่วยเหลือนับไม่ถ้วนลงบนผืนผ้านี้ ข้าคิดว่าคนที่เคยรักข้าขนาดนั้นจะต้องมาช่วยข้าแน่น

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 584

    เมื่อได้ยินถ้อยคำเหล่านั้น เซียวเหิงก็เผยแววไม่พอใจขึ้นในใจ “เจ้าก็รู้ดีอยู่แล้ว ด้วยนิสัยของนาง แม้เจ้าจะรออยู่ตรงนี้จนตาย นางก็อาจจะไม่ยอมพบเจ้า”แต่คำพูดนี้ กลับทำให้หลินเย่ว์หัวเราะเย็นชา “ที่แท้แม่ทัพเซียวเอง ก็รู้ว่านางเป็นคนเช่นไร”ทั้งที่รู้ดีว่านางเป็นคนเช่นนั้น เหตุใดจึงยังไม่ยอมปล่อยนางไป?ใบหน้าของเซียวเหิงแข็งกร้าว มือที่ไพล่หลังแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัวแต่หลินเย่ว์กลับไม่สนใจเขาแม้แต่น้อย เพียงค้อมศีรษะให้เซียวเหอ “ขอรบกวนด้วย”จากนั้นก็หันก้าวไปยืนอีกด้านถึงจะต้องรอ แต่ก็ไม่อาจยืนขวางอยู่ตรงประตูใหญ่ให้ดูไม่งามเซียวเหอก้มมองห่อผ้าเล็ก ๆ ในมือตนอีกครั้งคราบสีน้ำตาลคล้ำที่เกาะอยู่บนผ้าดูเหมือนจะเป็นรอยเลือดแห้งเขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่เมื่อครู่ เห็นหลินเย่ว์เกือบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ คิดว่าคงเป็นสิ่งของล้ำค่ายิ่งนักคิดได้ดังนั้น เขาก็หันก้าวเข้าไปในเรือนเล็กเซียวเหิงรีบตามเข้าไปเมื่อเห็นเซียวเหอทำท่าจะนำห่อผ้านั้นไปให้เเฉียวเนี่ยนจริง ๆ เซียวเหิงก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวขึ้นมา “เนี่ยนเนี่ยนอาจไม่อยากเห็นของสิ่งนั้น”แม้เขาเองก็ไม่รู้ว่าภายในมีอะไรแต่จากท่าทีขอ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status