แชร์

บทที่ 786

ผู้เขียน: โม่เสียวชี่
เซียวเหิงจากไปพร้อมกับทหารองครักษ์ในเวลาไม่นานนัก เมื่อตอนกลับเข้ามาในห้องทรงอักษรอีกครั้งก็ผ่านไปเป็นเวลาเกือบหนึ่งก้านธูปแล้ว

ฮ่องเต้กำลังพิจารณาฎีกาอยู่ เงยหน้าขึ้นมองเซียวเหิงแวบหนึ่งก็เอ่ยเสียงเย็น “อัครมหาเสนาบดีไม่สั่งให้เจ้าถูกโบยเพิ่มอีกสักสองสามทีหรือ?”

เซียวเหิงก้าวเข้ามาคุกเข่า แล้วจึงกล่าวว่า “เขาทราบว่าฮ่องเต้มีพระประสงค์อย่างไร ย่อมไม่กล้าเรียกร้องอะไรพ่ะย่ะค่ะ”

ได้ยินเช่นนี้ ฮ่องเต้ก็แค่นเสียงเย็น “ถ้าเช่นนั้นเจ้าลองว่ามา ว่าข้ามีประสงค์อันใด?”

เซียวเหิงคุกเข่าหลังตรงเป๊ะ “ฮ่องเต้ทรงตั้งใจให้เหล่าขุนนางและอัครมหาเสนาบดีมาเป็นประจักษ์พยานในการลงโทษ เพื่อให้เขารู้ว่าฮ่องเต้มิได้ลำเอียงเข้าข้างผู้ใด แต่กระหม่อมเป็นคนของฮ่องเต้ เขาก็ต้องมีตาดูออกบ้าง”

“เจ้ามันบังอาจนัก!”

ฮ่องเต้ขว้างพู่กันในมือกระแทกโต๊ะดังปัง “เพราะเจ้าคิดว่าข้าชื่นชอบเจ้า เจ้าถึงได้กล้าทำอะไรตามใจเช่นนี้หรือ?! ข้าถามเจ้าหน่อย นอกจากจวนอัครมหาเสนาบดีแล้ว เจ้ายังให้คนแฝงตัวไว้ในจวนของใครบ้าง?”

ได้ยินเช่นนั้น คิ้วของเซียวเหิงก็ขมวดเล็กน้อย แต่ก็ยังตอบอย่างตรงไปตรงมา “จวนขุนนางตั้งแต่ระดับสามขึ้นไป มีเ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 824

    เฉียวเนี่ยนเข้าใจสิ่งที่เมิ่งอิ้งจือต้องการจะสื่อในเมื่อทุกอย่างล้วนเป็นการวางแผนอย่างรอบคอบของเมิ่งซ่างซู เช่นนั้นเขาย่อมไม่เชื่อง่ายๆ ว่าเมิ่งอิ้งจือความจำเสื่อมจริงๆแต่หากเมิ่งอิ้งจือกลับไปแบบเลอะเลือน แล้วค่อยๆ ฟื้นตัว จากคนสติไม่ดีกลายเป็นเพียงคนความจำเสื่อมต่อหน้าต่อตาพวกเขา บางที พวกเขาอาจจะไม่สงสัยอะไรมากเพียงแต่เฉียวเนี่ยนยังคงมีความกังวลของตนเองอยู่ “แต่ถ้าหาก... ข้าหมายถึง แค่ถ้าหากว่า”เฉียวเนี่ยนเน้นคำนี้โดยเฉพาะ แล้วจึงพูดต่อ “ถ้าหากตระกูลเมิ่งคิดจะทำร้ายท่านขึ้นมา จะทำอย่างไร?”นางบอกว่านางสามารถควบคุมตัวเองได้แล้ว แต่ถึงแม้จะฟื้นคืนสติจริงๆ การกลับไปตระกูลเมิ่งเพียงลำพัง ก็ยังเป็นเรื่องอันตรายอยู่ดีเมิ่งอิ้งจือขมวดคิ้วเล็กน้อย “คงไม่หรอกกระมัง? พวกเขาเป็นพ่อแม่ของข้า ต่อให้คิดวางแผนหลอกใช้ข้า แต่ก็คงไม่ถึงขั้นคิดจะทำร้ายข้าหรอก...”เฉียวเนี่ยนไม่รู้จะพูดยังไงกับเมิ่งอิ้งจือดี คิดอยู่พักหนึ่งจึงเอ่ยว่า “คุณหนูเมิ่งต้องเข้าใจว่า ในโลกนี้มีพ่อแม่ที่ไม่รักลูกของตัวเองอยู่จริงๆ ข้าเองก็เคยถูกแม่แท้ๆ ของตัวเองใช้ประโยชน์ จนเกือบตายด้วยน้ำมือหมิงอ๋อง... เรื่องที่ท่า

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 823

    ในที่สุดนางก็รวบรวมความกล้าหันไปมองเขา แววตาฉายความประหลาดใจเล็กน้อย นางไม่คิดว่าเซียวเหอจะพูดออกมาเช่นนี้บางที อาจเป็นเพราะเห็นว่านางป่วยหนักกระมัง?หรืออาจเป็นเพราะเห็นแก่คุณหนูเฉียว?เมิ่งอิ้งจือมองเซียวเหอ เห็นรอยยิ้มของเขาฝืดฝืนอยู่บ้าง นางจึงค่อยๆ ก้มหน้าลง สูดลมหายใจเบาๆ หนึ่งครั้ง ก่อนจะเอ่ยว่า “ข้า... รบกวนเรื่องที่พวกท่านกำลังคุยกันอยู่หรือเปล่า?”นางไม่รู้มาก่อนว่าเซียวเหอจะอยู่ในห้องของเฉียวเนี่ยนตอนดึกดื่นเช่นนี้ หากรู้อยู่ก่อน นางคงไม่กล้าเข้ามาแน่เซียวเหอจึงกระแอมเบาๆ หนึ่งครั้งแล้วเอ่ยว่า “ไม่หรอก คุยกันเสร็จแล้ว”พูดจบ เขาก็หันไปมองเฉียวเนี่ยน น้ำเสียงพลันอ่อนโยนขึ้นอย่างไม่รู้ตัว “เจ้าระวังตัวด้วย ข้าขอตัวก่อน”เมิ่งอิ้งจือรู้สึกถึงความผิดแปลกในทันทีน้ำเสียงอ่อนโยนเช่นนี้ แต่ก่อนเคยเป็นของนางเพียงผู้เดียวแต่ตอนนี้...นางอดไม่ได้ที่จะแอบมองเฉียวเนี่ยนอย่างเงียบๆก่อนหน้านี้เฉียวเนี่ยนเคยพูดว่า การแต่งงานกับเซียวเหอนั้นก็เพื่อหลีกเลี่ยงการสมรสที่ฮ่องเต้ทรงประทานเท่านั้นทว่าตอนนี้ เซียวเหอกลับดูเหมือนจะรู้สึกกับเฉียวเนี่ยนแบบไม่ธรรมดาในใจนางพลันเกิดควา

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 822

    “ไม่ได้พบกันเสียนาน”เสียงเย็นขรึม แฝงความอบอุ่นอย่างฝืนๆเซียวเหอพยายามอย่างเต็มที่ที่จะทำให้ตนสงบนิ่ง แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนที่เคยรักสุดหัวใจ ทว่ายังทำให้ตนเจ็บปวดที่สุด เขาก็ไม่อาจสงบใจได้จริงๆเรื่องราวในอดีต เมื่อรู้ว่านางคือคนที่วางยาจนทำให้ตนเป็นอัมพาตถึงห้าปี ก็พลันกลายเป็นเรื่องน่าขันไปหมดเกลียดหรือไม่?ก็ไม่ถึงขั้นนั้นความรักได้มลายหายไปนานแล้ว จะพูดว่าเกลียดก็เหมือนเสแสร้งเพียงแต่ความเจ็บลึกๆ ในใจ กลับทำให้เขาปล่อยวางไม่ได้เลยหากในตอนนี้ เมิ่งอิ้งจือมีชีวิตที่ดีมากจริงๆ เขาคิดว่าแม้จะเจอกัน เขาก็คงทำเป็นมองไม่เห็นทว่านางกลับไม่ได้อยู่ดีมีสุข ในห้าปีที่เขาทรมาน นางเองก็ทุกข์ระทมไม่ต่างกันกระทั่งความสงสารเล็กๆ ในใจก็ทำให้เขาไม่อาจเมินเฉยต่อนางได้คำว่า ‘ไม่ได้พบกันเสียนาน’ ที่ฝืนเอ่ยออกไปนั้น เขาใช้แรงใจไปจนหมดเมิ่งอิ้งจือก็ได้สติในที่สุด ไม่ดิ้นรนจะหนีออกไปอีกเพียงแต่นางยังหันหลังให้เซียวเหอ ไม่กล้าหันไปเผชิญหน้าจะเอาหน้าไปสู้หน้าเขาได้อย่างไรเล่า!หากไม่ใช่เพราะความโง่เขลาของตนในวันนั้น ตอนนี้เซียวเหอคงเป็นแม่ทัพใหญ่ที่อายุน้อยที่สุดแห่งต้าจิ้ง ด้

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 821

    พวกนางมีชีวิตชีวากันขนาดนั้นแท้ๆ นางไม่อาจยอมรับจุดจบที่พวกนางต้องตายอย่างแน่นอนได้เลยคิดถึงตรงนี้ เฉียวเนี่ยนก็เอ่ยขึ้นอีก “จะว่าไป ข้ายังมีเรื่องหนึ่งอยากขอร้องท่านพี่เซียว หากถึงตอนนั้นสวีเหม่ยเหรินคลอดก่อนกำหนดจริง แต่ไม่ได้ตายทั้งกลม ท่านพี่เซียวจะพอมีวิธีช่วยข้าส่งสวีเหม่ยเหรินออกจากวังได้หรือไม่?”ได้ยินดังนั้น สีหน้าเซียวเหอก็อดเคร่งเครียดขึ้นมาไม่ได้ “นี่มันถึงขั้นต้องถูกตัดหัวเลยนะ”ลักลอบพานางสนมออกนอกวัง หากถูกจับได้ก็ไม่รู้ว่าจะพาคนบริสุทธิ์เดือดร้อนอีกเท่าไรแน่นอนว่าเฉียวเนี่ยนรู้ดี ทว่าสวีเหม่ยเหรินตั้งครรภ์เด็กคนนี้โดยไม่เต็มใจ อีกทั้งนิสัยของนางก็ไม่เหมาะจะอยู่ในวังหลวงที่โหดร้ายเช่นนี้มีแต่ต้องออกจากวังเท่านั้น ถึงจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเฉียวเนี่ยนจึงเอ่ยขึ้น “เพราะอย่างนั้น ข้าถึงต้องขอร้องท่านพี่เซียว”เรื่องนี้ หากให้คนอื่นทำ เกรงว่าจะหลุดพิรุธไม่มากก็น้อยมีเพียงเซียวเหอเท่านั้นที่ทำได้โดยไม่พลาดแม้แต่นิดเดียวเห็นเฉียวเนี่ยนเชื่อใจตนถึงเพียงนี้ แม้เซียวเหอจะยังขมวดคิ้วอยู่ แต่สุดท้ายก็พยักหน้า “ได้ ข้าสัญญา หากถึงตอนนั้นสวีเหม่ยเหรินยังไม่ตาย ข้าจะ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 820

    ท้องฟ้ายามค่ำคืนค่อยๆ มืดลงสวีเหม่ยเหรินกินยาแล้ว จึงเข้านอนแต่หัวค่ำเวลาได้สติของเมิ่งอิ้งจือไม่แน่นอน บางครั้งเป็นยามจื่อ บางครั้งยามซวีก็กระจ่างขึ้นบ้างเฉียวเนี่ยนจึงนอนรอเมิ่งอิ้งจืออยู่บนเตียงไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด จู่ๆ นอกประตูก็มีเสียงดังขึ้นตึกเฉียวเนี่ยนนึกว่าเมิ่งอิ้งจือมาแล้วเพียงแต่ยังเดินไปไม่ถึงประตู นางก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกตินางหยุดฝีเท้า มองไปยังมุมมืดในห้อง แล้วเรียกอย่างระแวดระวัง “ท่านพี่เซียว?”เงาร่างสีดำก้าวออกมาจากเงามืดจริงๆไม่ใช่ใครอื่น เซียวเหอนั่นเอง!เฉียวเนี่ยนจึงค่อยโล่งใจ แล้วยิ้มให้เซียวเหอ “ข้าก็เดาไว้แล้วว่าเป็นท่าน”การรักษาการณ์ของตำหนักฝูเหอไม่เข้มงวดเท่าเรือนนอนของฮองเฮา อีกทั้งเซียวเหอเป็นถึงผู้บัญชาการกองทหารรักษาพระองค์ จึงยิ่งสะดวกยิ่งนัก หากจะมาที่นี่ก็ทำได้ง่ายดายนี่ก็เป็นอีกชั้นหนึ่งในแผนของเฉียวเนี่ยน ที่เลือกมาตำหนักฝูเหอเพียงแต่เฉียวเนี่ยนไม่ได้คิดว่าเซียวเหอจะมาในคืนนี้ทันทีได้ยินเซียวเหอพูดขึ้นว่า “จู่ๆ เจ้าก็ย้ายมาอยู่ตำหนักฝูเหอ ข้าก็เดาว่าเจ้าต้องเจอปัญหาอะไรเข้าแล้วแน่”เฉียวเนี่ยนส่ายหน้า “ครั้งนี้ไม

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 819

    ท้ายที่สุด หากเกิดเรื่องขึ้นกับสวีเหม่ยเหริน นางก็จะไม่มีข้ออ้างให้คงอยู่ที่นี่เพื่อปรุงยาให้องค์หญิงซูหยวนต่อไปได้อีกทั้งตำหนักฝูเหอ นอกจากนางกำนัลตัวน้อยที่หลอกลวงได้ง่ายแล้ว ก็ไม่มีใครอื่นให้ต้องกังวลว่าจะมีคนได้ยินสิ่งที่นางกับเมิ่งอิ้งจือสนทนากันในยามค่ำคืนเรียกได้ว่ากำไรหลายต่อสวีเหม่ยเหรินไม่รู้เรื่องของเมิ่งอิ้งจือ เพียงรู้สึกว่าเฉียวเนี่ยนวางแผนทั้งหมดก็เพื่อช่วยนางเท่านั้นจึงรู้สึกซาบซึ้งอย่างหาที่เปรียบมิได้นางจับมือเฉียวเนี่ยนไว้โดยไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังสั่น น้ำเสียงปนสะอื้น “ข้า... ข้าไม่ค่อยสบายมาหลายวันแล้ว แต่ไม่กล้าไปหาท่านเพราะกลัวจะมีคนรู้ แล้วพวกเขาจะยิ่งเห็นว่าเป็นโอกาสเหมาะจะลงมือ”ตลอดหลายวันที่ผ่านมา สวีเหม่ยเหรินทั้งระแวงและหวาดกลัว กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ร่างกายที่อุตส่าห์ฟื้นฟูขึ้นมาบ้างแล้ว ดูเหมือนจะทรุดกลับลงไปอีกเฉียวเนี่ยนฟังสวีเหม่ยเหรินพูด ใจสะท้านเล็กน้อย รีบจับชีพจรให้นาง ก่อนจะถามว่า “ไม่สบายตรงไหน?”สวีเหม่ยเหรินก้มหน้าลง ใช้นิ้วชี้ลากตรงท้องของตน “ตั้งแต่ตรงนี้ถึงตรงนี้ มันรู้สึกเหมือนมีเส้นเอ็นถูกดึงจนตึง บางทีก็ปวดตุบๆ ปวดเหมือนมีมี

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status