LOGIN@บ้านตระกูลเฉิน
แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านม่านหน้าต่างสีขาวละมุนเข้ามากระทบเปลือกตาของร่างบางที่นอนหลับไหลอยู่บนเตียงให้รู้สึกตัวตื่น "อื้ออ.." เสียงครวญครางเปล่งออกจากริมฝีปากสีชมพู ก่อนเปลือกตาบางจะค่อย ๆ ปรือขึ้นมาช้า ๆ มือเล็กเอื้อมไปหยิบนาฬิกาบนหัวเตียงมาดูเวลาเมื่อเห็นว่ายังไม่สายเธอจึงวางนาฬิกาไว้ที่เดิมแล้วหลับตาลงอีกครั้งด้วยความง่วงเพราะเมื่อคืนกว่าเธอจะข่มตาให้หลับลงได้ก็เกือบเช้า ผ่านไปสามชั่วโมงหญิงสาวก็รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกครั้งเธอลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวอย่างเร่งรีบเพื่อเข้าไปดูงานที่คลินิกเสริมความงามที่เธอกับอิงฮวาร่วมกันลงทุน "จะไปไหนลูกมานี่ก่อนป๊ามีเรื่องจะคุยด้วย" ร่างบางที่กำลังเดินผ่านห้องโถงเพื่อไปขึ้นรถหยุดชะงักเมื่อเสียงของผู้เป็นพ่อที่นั่งก้มหน้าอ่านหนังสือในห้องโถงดังขึ้น "ว่าจะเข้าไปดูงานที่คลินิกหน่อยค่ะไม่ได้เข้ามา 2-3 วันแล้ว ป๊ามีอะไรจะคุยกับหนูคะ" "ลูกคิดว่าไงเรื่องการมะ..." เฉินกงมองหน้าบุตรสาวด้วยความหนักใจก่อนจะถามไถ่ความคิดเห็นของบุตรสาวเรื่องที่เขาจะให้เธอหมั้นกับบุตรชายของเจ้านาย ทว่าไม่ทันจะได้พูดจบเสียงของบุตรสาวก็ดังแทรกขึ้นอย่างรู้ทัน "หนูยังยืนยันคำเดิมค่ะว่าไม่หมั้น" "วันนี้กลับบ้านเร็วหน่อยนะ" เฉินกงเลือกที่จะไม่สนใจคำพูดของบุตรสาวกลับบอกจุดประสงค์ของตัวเองให้บุตรสาวได้รับรู้แทน คิ้วสวยขมวดชนกันเป็นปมเมื่อผู้เป็นพ่อพูดจบปกติผู้เป็นพ่อไม่เคยจะสั่งเธอแบบนี้แทบไม่สนใจด้วยซ้ำว่าเธอจะกลับหรือไม่กลับ เสียงหวานเปล่งออกจากริมฝีปากบางด้วยความสงสัย "มีอะไรคะทำไมถึงต้องกลับเร็ว" "คุณหวงเฟยหงกับครอบครัวจะมาดูตัวลูกแล้วคุยเรื่องงานหมั้นที่บ้านเย็นนี้" "หนูบอกไปแล้วไงคะป๊าว่าหนูไม่อยากแต่งกับคนที่หนูไม่ได้รัก" "ได้ดองกับตระกูลหวงเฟยหงถือเป็นโชคดีของครอบครัวเรานะลูก" "หึ" คนได้ฟังคำตอบเค้นหัวเราะอย่างเย้ยหยันไม่ว่ายังไงผู้เป็นพ่อคงจะให้เธอหมั้นกับผู้ชายคนนั้นให้ได้สินะยิ่งได้ฟังเหตุผลเธอก็ยิ่งรู้สึกหดหู่ใจการถูกบังคับเรียกว่าโชคดีงั้นเหรอ "หน้าเขาหนูก็ไม่เคยเห็นรู้จักก็ไม่รู้จักถ้าเขาเป็นคนไม่ดีละคะป๊า" "ป๊ามั่นใจว่าคุณหวงเฟยหงต้องเลี้ยงดูอบรมลูกของเขามาเป็นอย่างดี" "ไม่ว่ายังไงป๊าจะให้หนูแต่งงานกับเขาให้ได้เลยใช่ไหมคะ" "ตั้งแต่เล็กจนโตป๊าตามใจหนูมาตลอดแต่เรื่องนี้ป๊าขอนะทำเพื่อป๊าสักครั้งได้ไหม" เหมยเมยได้แต่นิ่งเงียบเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าหมองและน้ำเสียงที่อ่อนลงของผู้เป็นพ่อ เธอถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ระคนหนักอกก่อนตอบผู้เป็นพ่อไปตามความรู้สึก "หนูขอเวลาหน่อยนะคะป๊ามันกระทันหันจนหนูตั้งตัวไม่ทัน" "เย็นนี้ลูกต้องกลับมานะอย่าทำให้ป๊าขายหน้า" "...." ไร้เสียงตอบรับจากริมฝีปากบางหญิงสาวมองหน้าผู้เป็นพ่อด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความผิดหวังก่อนจะเดินออกไปขึ้นรถเงียบ ๆ@คลินิกเสริมความงามไอยู เหมยเมยขับรถตรงไปยังคลินิกเสริมความงามด้วยอารมณ์ขุ่นมัวตลอดทางที่ขับรถมาเธอเอาแต่คิดหาคำตอบว่าทำไมผู้เป็นพ่อถึงอยากให้เธอหมั้นกับตระกูลหวงเฟยหงนักแต่ไม่ว่าพยายามคิดหาเหตุผลเท่าไรก็คิดไม่ออกสักที "เฮ้อ.." เธอถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะสลัดความคิดรบกวนใจออกแล้วเปิดประตูก้าวลงจากรถเดินเข้าคลินิกไป ทันทีที่เปิดประตูเข้ามาเสียงเจื้อแจ๋วของหงส์ฟ้าลูกค้าประจำของคลินิกก็ดังขึ้น "สวัสดีค่ะพี่เหมย" "อ้าว..น้องหงส์วันนี้มาทำอะไรคะ" หญิงสาวคลี่ยิ้มบาง ๆ ให้หงส์ฟ้าก่อนจะเดินไปหย่อนสะโพกนั่งบนโซฟาฝั่งตรงข้ามเธอ "มาเติมความสวยหน่อยค่ะวันนี้จะไปดูตัวว่าที่พี่สะไภ้" "จ้ายินดีด้วยนะน้องหงส์" "แต่ถ้าพี่สะไภ้ของหงส์เป็นพี่เหมยคงจะดีไม่ใช่น้อย" "พูดแบบนี้พี่ก็เขินแย่สิ" "หงส์พูดจริง ๆ นะคะ" แกร๊ก! ระหว่างที่ทั้งสองกำลังคุยกันอย่างออกรสออกชาติเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นทำให้ทั้งสองปิดปากลงแล้วหันไปมองทางประตูอย่างพร้อมเพียงกัน ใบหน้าสวยถึงกับซีดเผือดใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นส่ำ ๆ เมื่อได้เห็นหน้าของคนที่เปิดประตูเข้ามาเพราะเขาคือผู้ชายใจร้ายคนนั้นแค่เพียงเห็นหน้าของเขาเหตุการณ์ในคืนนั้นก็ย้อนกลับเข้ามาในโสตประสาทของเธอ "เสร็จรึยังยัยหงส์" ขณะที่เธอกำลังเหม่อลอยคิดถึงเรื่องคืนนั้นเสียงทุ้มจากคนที่เพิ่งเดินเข้ามาก็ดังขึ้นดึงให้เธอหลุดออกจากภวังค์ ดวงตากลมโตมองหน้าหงส์ฟ้าสลับกับมาเฟียหนุ่มที่คุยกันอย่างสนิทสนมด้วยความสงสัย เธอคิดไม่ออกเลยว่าหญิงสาวน่าตาน่ารักนิสัยดีอย่างหงส์ฟ้าจะเป็นอะไรกับคนใจทรามแบบเขาได้ ทว่าความสงสัยของเธอก็กระจ่างในเวลาต่อมาเมื่อหงส์ฟ้าแนะนำ "พี่เหมยนี่พี่ชายหงส์ค่ะ เฮียนี่พี่เหมยเจ้าของคลินิกแล้วก็เป็นรุ่นพี่ที่มหาลัยด้วย" ประโยคแรกหงส์ฟ้าหันไปพูดกับเหมยเมยก่อนจะหันไปพูดกับพี่ชายต่อในประโยคถัดมา "สวัสดีค่ะ" หญิงสาวพยักหน้ารับเพียงนิดก่อนจะยกมือไห้วมาเฟียหนุ่มตามมารยาท "..." ไร้ปฏิกิริยาตอบกลับจากมาเฟียหนุ่ม ดวงตาคมกริบตวัดมองร่างบางตรงหน้านิ่ง ๆ คิ้วเข้มขมวดเป็นปมเมื่อได้เห็นใบหน้าของเธอเขารู้สึกคุ้น ๆ คล้ายกับเคยเห็นเธอมาก่อน "เฮียมีอะไรรึเปล่าคะ" หงส์ฟ้าเอ่ยถามด้วยความสงสัยเมื่อเห็นพี่ชายเอาแต่จ้องหน้าสาวรุ่นพี่แต่เธอก็ได้รับเพียงความเงียบตอบกลับมา "...." มาเฟียหนุ่มละสายตาออกจากใบหน้าสวยก่อนจะเดินไปหย่อนสะโพกนั่งลงบนโซฟาเงียบ ๆ มือหนาล้วงไปหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูในกระเป๋ากางเกงออกมาเล่นฆ่าเวลาระหว่างรอน้องสาว "งั้นน้องหงส์เชิญตามสบายนะคะพี่ขอตัวไปดูงานก่อน" หญิงสาวรีบขอแยกตัวทันทีเมื่อสบโอกาสเพราะเธอรู้สึกอึดอัดมากเมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตเช่นเขาเหมยเมยมองสบดวงตาของร่างสูงด้วยแววตาอ่อนโยนก่อนระบายยิ้มออกมา อุ้งมือนุ่มยกขึ้นประคองใบหน้าหล่อเหลาไว้ เมื่อก่อนเธอคิดว่าตัวเองคงไม่สามารถรักและเริ่มต้นใหม่กับคนที่เคยทำร้ายตัวเองได้แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่คิดความดี ความรัก และความเอาใจใส่ของมาเฟียค่อย ๆ สมานรอยร้าวในใจของเธอให้ดีขึ้น หลอมละลายความโกรธแค้นเกลียดชังให้หายไปกลายเป็นความรู้สึกดี ๆ เข้ามาแทนก็ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไรที่เธอเริ่มตกหลุมรักคนตรงหน้ารู้ตัวอีกทีก็รักเขาเข้าแล้วจากวันนี้ไปเธอจะไม่ฝืนความรู้สึกตัวเองอีกแล้วปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปตามเสียงเรียกร้องของหัวใจ..."คุณสัญญาแล้วนะ...หลังจากนี้หากคุณปกปิดอะไรฉันแม้แต่เรื่องเดียว หรือทำให้ฉันเสียน้ำตาฉันจะหอบลูกหนีเหมือนที่ม๊าคุณเคยทำ" ใบหน้าสวยเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทันทีที่พูดจบ แววตาอ่อนโยนทว่าดูเด็ดเดี่ยวจับจ้องใบหน้าหล่อเหลาเชิงสื่อให้รู้ว่าเธอพูดจริงทำจริง คนฟังถึงกับลอบกลืนน้ำลายเหนี่ยว ๆ ลงลำคออึกใหญ่ เขามันคนมีคดีติดตัวเธอว่าไงเขาก็คงต้องว่าตามนั้นแต่ก็อดสงสัยไม่ได้อยู่ดีว่าเมียสาวรู้เรื่องนี้ได้ยังไงทั้งที่เขาไม่เคยเล่าให้เธอฟังเลยมิหน่ำซ้ำเจ้าหล่อนยังเอามาขู
'ครืด ครืด' "อื้อ" ร่างอวบอั๋นที่นอนหลับบนเตียงคิงไซส์รู้สึกตัวขึ้นมาในช่วงสายของวันใหม่เพราะโทรศัพท์ที่กำลังแผดเสียงดังอย่างต่อเนื่อง มือเล็กเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์บนหัวเตียงมากดรับสายทั้งที่ตายังคงปิดอยู่ ก่อนกรอกน้ำเสียงงัวเงียลงตามสาย "ค่ะป๊า" (ลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว) "นี่กี่โมงแล้วคะป๊า" (11 โมงแล้วลูก) "ค่ะงั้นเหมยวางสายละนะ" เหมยเมยค่อย ๆ ปรือตาขึ้นมาก่อนกดวางสายจากผู้เป็นพ่อแล้วรีบหยัดกายลุกลงจากเตียงเดินเข้าไปอาบน้ำแต่งตัว "ใส่ชุดไหนดีนะ" ดวงตากลมโตไล่มองชุดเดรสที่แขวนเรียงรายในตู้เสื้อผ้าอย่างชั่งใจเธอแอบมีความหวังเล็ก ๆ ว่าการกลับไปจีนในวันนี้จะได้เจอกับมาเฟียหนุ่มจึงอยากแต่งตัวให้ดูดีที่สุด รอยยิ้มบาง ๆ ผุดขึ้นประดับใบหน้าสวยที่ถูกแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางบางเบา เธออดขำกับการกระทำของตัวเองไม่น้อย ทว่ามันก็ไม่แปลกอะไรถ้าเธออยากจะดูสวยในสายตาของคนที่รู้สึกพิเศษด้วย มือเล็กเอื้อมไปหยิบชุดเดรสปาดไหล่สีฟ้าครามยาวคลุมเข่าออกมาสวมใส่ก่อนหมุนตัวไปมา 2-3 รอบหน้ากระจกบานใหญ่สำรวจความเรียบร้อยของตัวเอง เมื่อจัดการตัวเองเสร็จเรียบร้อยเธอก็เก็บของใช้จำเป็นใส่ในกระเป๋าเดิน
หลายวันต่อมา"คุณเหมยเป็นอะไรหรือเปล่าคะ" เสียงของซุนหนี่ดึงให้ร่างอวบอั๋นที่นั่งเขี่ยข้าวในจานอย่างเหม่อลอยหลุดออกจากภวังค์ เธอถอนหายใจออกมาระคนเบื่อหน่ายก่อนตอบไป "แค่รู้สึกเบื่อ ๆ ค่ะ""คิดถึงคุณมังกรเหรอคะ" ซุนหนี่อดที่จะแซวไม่ได้เพราะตั้งแต่มาเฟียหนุ่มไม่อยู่หญิงสาวก็ดูเหงาหง่อยไม่สดใสเหมือนก่อน คนโดนแซวรีบปฏิเสธทันควัน "เหมยไม่ได้คิดถึงเขาสักหน่อยพี่ซุนหนี่""รู้สึกอะไรก็แสดงออกมาเถอะค่ะคุณเหมย...ชีวิตคนเราไม่มีอะไรแน่นอนจะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้อย่าหลอก อย่าฝืนตัวเองเลยค่ะสุดท้ายก็เป็นเราเองที่ทุกข์ใจปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปตามความรู้สึกดีกว่า" ซุนหนี่พูดทิ้งท้ายให้หญิงสาวได้คิดก่อนจะเดินหายเข้าไปในครัวเหมยเมยนั่งครุ่นคิดตามคำพูดของซุนหนี่เธอพยายามตั้งคำถามกับตัวเองซ้ำ ๆ ว่าสิ่งที่กำลังเป็นอยู่ในตอนนี้มันคืออะไรเธอแค่คุ้นชินกับการมีเขาข้างกายหรือเขาได้แทรกซึมเข้ามาอยู่ภายในใจของเธอแล้วกันแน่เธอถอนหายใจออกมาครั้งแล้วครั้งเล่าก่อนจะลุกเดินขึ้นห้องไปทั้งที่ข้าวยังไม่ตกถึงท้องสักเม็ด มืือเล็กเอื้อมไแหยิบโทรศัพท์บนหัวเตียงขึ้นมาต่อสายหาผู้เป็นพ่อเพื่อถามไถ่เรื่องของมาเฟียหนุ่มเพราะ
เหมยเมยนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนห้องปล่อยให้มาเฟียหนุ่มได้ทำงานจนเวลาผ่านไปนานหลายชั่วโมงก็ไม่มีวี่แววว่ามาเฟียหนุ่มจะขึ้นมาสักทีทำให้เธออดเป็นห่วงไม่ได้จนต้องเดินลงไปดูเมื่อมาถึงห้องนั่งเล่นก็พบว่าเขานั่งหลับอยู่ทั้งที่โน็ตบุ๊คยังเปิดคาไว้ดวงตากลมโตจับจ้องใบหน้าหล่อเหลาระคนเห็นใจถึงแม้เขาจะเครียดหรืองานเยอะแค่ไหนก็ไม่เคยบกพร่องเรื่องการดูแลเธอ ไม่เคยอารมณ์เสียหงุดหงิดใส่ ไม่เคยแม้แต่ปริปากบ่นสักคำหากเขาไม่สนใจหรือไม่รับผิดชอบเธอก็ย่อมได้เพราะไม่ได้มีใครบังคับ ทว่าเขากลับยอมเสียสละความสุขและเวลาส่วนตัวมาให้เธอ"คงเหนื่อยมากสินะถึงได้หลับไม่เป็นท่าแบบนี้" เธอลอบถอนหายใจออกมาระคนหนักอกก่อนหมุนตัวเดินขึ้นไปหยิบผ้าห่มบนห้องนอนมาห่มให้เขาแล้วหย่อนสะโพกนั่งลงข้าง ๆ มือเล็กสัมผัสลงบนใบหน้าเกลี้ยงเกลาอย่างแผ่วเบา "ขอบคุณที่คอยดูแลฉันกับลูกเป็นอย่างดีนะคะ" เสียงหวานเปล่งออกมาจากริมปากบางเบา ๆ ด้วยความซาบซึ้งใจในขณะที่อุ้งมือเล็กยังคงประคองใบหน้าหล่อเหลาอยู่โดยไม่รู้เลยว่าอีกคนตื่นตั้งแต่เธอห่มผ้าให้แล้ว"ผมเต็มใจดูแลคุณกับลูกไปตลอดชีวิต" มือเล็กรีบผละออกจากใบหน้าหล่อเหลาอย่างเร็วในตอนที่เสียงทุ
หลายเดือนต่อมา..วันเวลาหมุนเวียนดำเนินไปเรื่อย ๆ จากวันผ่านไปเป็นเดือนมาเฟียหนุ่มยังคงปฏิบัติต่อเหมยเมยเหมือนวันแรกที่เขาได้ลั่นวาจาไว้ การกระทำของเขาเริ่มสัมฤทธิ์ผลหญิงสาวยอมเปิดใจให้เขามากขึ้นความสัมผัสของทั้งสองคนเริ่มดีขึ้นตามลำดับตอนนี้เหมยเมยอายุครรภ์ได้หกเดือนกว่า ๆ แล้วท้องของเธอเริ่มใหญ่ขึ้นทุกวันจะเดินเหินไปไหนก็ไม่ค่อยสะดวกเหมือนแต่ก่อน"มังกร" เสียงหวานเปล่งออกจากริมฝีปากบางของร่างอวบอั๋นที่ยืนแต่งตัวอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ภายในห้องนอน คนถูกเรียกละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์เงยมองหน้าเจ้าของเสียง "ว่าไงครับ" "รูดซิบชุดให้หน่อยฉันรูดไม่ถึง" สิ้นสุดคำพูดของหญิงสาวร่างสูงก็เก็บโทรศัพท์ใส่ในกระเป๋ากางเกงทันที ก่อนหยัดกายลุกขึ้นจากโซฟาเดินไปยืนซ้อนหลังร่างอวบอั๋นหน้ากระจกแล้วค่อย ๆ บรรจงรูดซิบชุดเดรสตัวโคล่งอย่างระมัดระวัง"ตื่นเต้นจังจะได้รู้แล้วว่าลูกเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย" มาเฟียหนุ่มคลี่ยิ้มอย่างมีความสุขเพียงแค่คิดว่าวันนี้จะได้รู้เพศของลูกหลังจากหญิงสาวอึกอักไม่ยอมไปอัตร้าซาวด์สักทีให้เหตุผลว่าอยากรอลุ้นตอนเกิดแต่เขาใจร้อนอยากรู้เลยอ้อนวอนทุกวันจนเธอรำคาญยอมอัตตร้าซาวด์ ใบหน้า
ภายในห้องถูกปกคลุมด้วยความเงียบไร้เสียงตอบกลับจากร่างบางมีเพียงน้ำสีใสที่ค่อย ๆ ไหลออกทางหางตาซึ่งเป็นคำตอบได้ดีว่าเธอไม่โอเค และกำลังรู้สึกกลัวกับการกระทำนี้ มาเฟียหนุ่มถึงกับใจกระตุกวูบเมื่อเห็นหยดน้ำใสไหลจากตาคู่สวยเขาไม่คิดว่าเธอจะกลัวมากขนาดนี้การกระทำของเขาคงสร้างบาดแผลฝังลึกในใจเธอมากมือหนายกขึ้นเช็ดน้ำตาที่รินไหลออกจากหางตาคู่สวยอย่างแผ่วเบาพลางพยายามข่มความต้องการหักห้ามอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ ถึงแม้จะต้องการมากแค่ไหนเขาก็ไม่มีวันกลับไปทำแบบเมื่อก่อนอีกเขาจะทำให้เธอยินยอมพร้อมใจให้ได้ในสักวัน "ไม่ต้องร้องไห้หากคุณไม่ยินยอมผมจะไม่ทำ" เสียงทุ้มทว่าฟังดูอบอุ่นเปล่งออกจากริมฝีปากหนาทำให้คนฟังเบาใจขึ้นมาบ้าง เธอลอบหายใจอย่างโล่งอกเมื่อร่างสูงผละออกจากตัวแล้วหยัดกายลุกเดินเข้าห้องน้ำไปผ่านไปกว่าสิบนาทีมาเฟียหนุ่มก็เดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากปลดปล่อยอารมณ์ค้างคาของตัวเองเสร็จแล้ว เขาเดินมาหยิบเสื้อผ้าขึ้นสวมใส่ก่อนเอ่ยเมื่อเห็นว่าร่างบางบนเตียงนั่งมองเขาด้วยแววตาสับสน "ก็บอกแล้วไงว่าผมไม่ใช่มังกรคนเดิมอีกแล้ว" "เวลาแค่เดือนกว่า ๆ ยังยืนยันไม่ได้หรอกว่าคุณจะดีจริงหรือเปล่า" เหมยเมยจ







