ตอนที่19
อาการแย่ลง
“โถ่ ยายวุ้น ฮือ..” โสภาร้องไห้โฮออกมา รู้สึกว่าสองขาไร้เรี่ยวแรงจนต้องเซไปข้างหลัง วิชัยรีบเข้าไปประคองทันที
“ทำใจดี ๆ ก่อนคุณ มันอาจจะไม่ร้ายแรงขนาดนั้นก็ได้ ใช่ไหมครับคุณหมอ” วิชัยปลอบพร้อมกับหันไปขอคำยืนยันจากหมอ แต่ครั้งนี้หมอกลับส่ายหน้าเบา ๆ
“ตอนนี้หมอได้เพิ่มยาเข้าไปอีก เพื่อแค่ประคับประคอง รอการปลูกถ่ายถ่ายหัวใจไปก่อน แต่ถ้าหากว่าคนไข้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อีกละก็หัวใจจะล้มเหลวเฉียบพลัน แล้วถ้าถึงตอนนั้นยังไม่มีผู้ที่บริจาคหัวใจ คนไข้ก็คง...” หมอทิ้งช่วงนิดหนึ่งก่อนจะหันไปพูดกับเจ้าหน้าที่พยาบาล แล้วเดินจากไป
ไม่นานร่างของวุ้นเย็นก็ถูกเข็นออกมาจากห้องฉุกเฉิน ใบหน้าเล็กขาวซีด จมูกปากมีออกซิเจนครอบไว้ เปลือกตาบางปิดสนิท จนขนตางอนหนาหนาทาบแก้ม
โสภาร้องไห้โฮออกมาอีกครั้ง วิชัยต้องคอยประคองไว้ จนมาถึงห้องพักฟื้น ซึ่งเป็นห้องปลอดเชื้อ
เจ้าหน้าที่เข็นวุ้นเย็นเข้าไปแล้วแล้วปิดประตูลง เจ้าหน้าที่พยาบาลจึงหันมาพูดกับโสภา
“เนื่องจากอาการของคนไข้ยังน่าเป็นห่วง จึงต้องดูแลอาการอย่างใกล้ชิด และตอนนี้ก็หมดเวลาเยี่ยมแล้ว พรุ่งนี้ญาติค่อยมาเยี่ยมคนไข้ใหม่นะคะ”
พูดจบก็เดินกลับเข้าไปในห้อง วิชัยบีบไหล่ของโสภาเบา ๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
“กลับกันก่อนเถอะคุณ พรุ่งนี้ค่อยมาเยี่ยมลูกกันใหม่ ถึงมือหมอแล้วหนูวุ้นจะต้องปลอดภัยนะ”
โสภาพยักหน้าน้ำตายังคงรินไหลไม่ขาดสาย ก่อนจะหันไปหาร่างสูงที่ยืนมองเข้าไปในห้องคนป่วยเงียบ ๆ
“คุณธัช น้าต้องขอบคุณมากนะคะ ที่พา ยายวุ้นมาหาหมอได้ทันเวลา ไม่อย่างนั้นคง..”
“ไม่เป็นไรครับ คุณน้าอย่าคิดมากไปเลย เดี๋ยวจะไม่สบายไปอีกคน” ชายหนุ่มบอกเสียงเรียบ สีหน้าก็ไม่แสดงความรู้สึกใด ๆ ออกมา
แต่ดุจดาวรู้ดีว่าเมธัชก็เป็นห่วงวุ้นเย็นไม่น้อย ตอนที่เห็นร่างของวุ้นเย็นกองอยู่บนพื้น เธอจำได้ว่าสีหน้าของเขาดูตกใจมากจนหน้าซีดเผือด แล้วยังเป็นคนอุ้มร่างของวุ้นเย็นขึ้นรถ เธอก้าวเข้าไปใกล้โสภา พร้อมกับบีบมือบางของอีกฝ่ายไว้แน่น ก่อนจะพูดขึ้นเบา ๆ
“ดาวเชื่อว่าน้องจะไม่เป็นอะไรค่ะ อีกไม่นานก็คงได้เปลี่ยนหัวใจ น้องจะต้องหายและใช้ชีวิตได้อย่างปกติค่ะคุณน้า”
โสภายิ้มให้ดุจดาวทั้งน้ำตา ก่อนจะกล่าวขอบคุณ พร้อมกับขอโทษ ที่ทำให้มื้อค่ำที่สำคัญต้องจบลงด้วยความตกอกตกใจ เมื่อเพื่อนของดุจดาวโทรมาบอกว่าเห็นวุ้นเย็นอยู่ในร้านเหล้า
“น้าต้องขอบคุณแล้วก็ต้องขอโทษคุณดาวด้วยนะคะ ที่ทำให้วันดี ๆ ต้องวุ่นวายกันหมด”
ดุจดาวยิ้มให้อย่างจริงใจ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
“วุ่นวายอะไรกันคะ ดาวรักน้องวุ้นเหมือนน้องสาวแท้ ๆ ของดาว อย่าคิดมากไปเลยค่ะ”
“งั้นผมไปส่งดาวนะครับ” เมธัชเอ่ยขึ้นเบา ๆ พร้อมกับคว้าข้อมือของดุจดาวมากุมไว้
“ไปเถอะลูก แล้วอย่าลืม ให้ญาดาไปดูฤกษ์ยามงานแต่งล่ะ ได้ความว่าอย่างไร ก็โทรมาบอกลุงด้วยนะ”
“ค่ะคุณลุง” ดุจดาวหน้าแดง เมื่อวิชัยพูดถึงเรื่องแต่งงาน ก่อนจะพนมมือไหว้เพื่อลากลับบ้าน
ระหว่างที่อยู่ในรถ เมธัชก็ยังคงจับมือของเธอเอาไว้ แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา ดวงตาทอดมองออกไปนอกหน้าต่าง เหมือนกำลังใช้ความคิด
“ธัชไม่รู้มาก่อนใช่ไหมคะ ว่าน้องวุ้นเป็นโรคหัวใจ”
ดุจดาวค่อย ๆ พูดถึงเรื่องของวุ้นเย็นอีกครั้ง เพราะเธออยากให้เมธัชกับวุ้นเย็นกลับมาเป็นพี่น้องที่รักกันเหมือนเดิมเสียที หากเขายังโกรธวุ้นเย็นอยู่แบบนี้ เธอเองก็ไม่สบายใจ เพราะเคยรับปากวุ้นเย็นแล้วว่าจะช่วยพูดให้เขาเข้าใจและยกโทษให้วุ้นเย็น แต่ผ่านมาแปดปีแล้วเธอก็ยังทำไม่สำเร็จ ยิ่งมารู้ว่าวุ้นเย็นเป็นโรคหัวใจที่อาการหนักขนาดนี้ เธอก็ยิ่งจะต้องให้พี่น้องจับมือกันเหมือนเดิมให้ได้
เมธัชนิ่งไปนาน ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาเบา ๆ
“ไม่รู้ หลังจากเหตุการณ์วันนั้น ผมก็ไม่รับรู้เรื่องราวของวุ้นเย็นอีกเลย แค่ได้ยินชื่อฝันร้ายที่ถูกเพื่อน ๆ ล้อเลียนก็กลับมา” น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
ดุจดาวกลืนน้ำลายลงคอ เธอรู้ดีที่สุดว่ากว่าที่เขาจะเข้มแข็งจนกลับมาเรียนหนังสือและเล่นกีฬาได้เหมือนเดิมนั้น ต้องใช้เวลานแค่ไหน เธอต้องคอยปลอบและให้กำลังใจมาตลอด จนถึงวันนี้แม้เขาจะกลับมามีรอยยิ้มบ้างแล้ว แต่ก็เป็นรอยยิ้มที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะเขายิ้มแค่ปากแต่แววตาแววตากลับไม่มีชีวิตชีวาเหมือนเดิม แต่ถึงยังไงเธอก็จำเป็นที่จะต้องพูด อย่างน้อยก็เพื่อวุ้นเย็นจะได้กลับมามีกำลังใจที่จะรักษาตัวเองอีกครั้ง เธอคิดว่าที่วุ้นเย็นทำร้ายตัวเองด้วยการไปกินเหล้านั้น สาเหตุต้องมาจากที่เมธัช ไม่ยอมพบหน้า พูดคุยด้วยแน่ ๆ
“ตลอดแปดปีที่ผ่านมา ไม่มีวันไหนที่น้องจะไม่ทักมาหาดาวเพื่อถามเรื่องธัชเลย ดาวคิดว่าธัชลองเปิดใจคุยกันสักครั้งดีไหม”
ตอนที่25ความรู้สึกผิดกักขังหัวใจคนวุ้นเย็นพยักหน้าอย่างดีใจ เพราะเธอเป็นคนที่ชอบกินน้ำส้มคั้นสดมาก ๆ โสภารีบเทน้ำส้มใส่แก้ว แล้วเอาไปส่งให้ลูกสาว วุ้นเย็นรับมาก่อนจะดื่มอึก ๆ ไปครึ่งแก้ว “ค่อย ๆ ดื่มซิลูก เดี๋ยวก็สำลักเอาหรอก” โสภาพูดไม่ทันขาดคำ วุ้นเย็นก็สำลักจนน้ำตาไหล “เห็นไหม แม่บอกแล้วว่าให้ค่อย ๆ ดื่ม สำลักจนหน้าแดงแล้ว แม่ออกไปเรียกหมอดีกว่า”โสภาพูดขึ้นด้วยความกังวล พลางหมุนตัวจะออกไปเรียกหมอ แต่วุ้นเย็นคว้าข้อมือของผู้เป็นแม่ไว้เสียก่อน “แค่ก ไม่ต้อง ๆ หนูไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ” “แน่ใจนะว่าไม่เป็นไรแล้ว ถ้าเหนื่อยก็รีบบอกนะลูก” โสภายังไม่คลายกังวล “หนูหายแล้วจริง ๆ ค่ะ นี่ไงไม่สำลักแล้ว เขาว่ากันว่า เวลาที่จู่ ๆ เราจามหรือว่าสำลักแสดงว่ามีคนคิดถึง นี่ก็แสดงว่ามีคนคิดถึงหนูแน่ ๆ เลยค่ะ” วุ้นเย็นพูดติดตลกเพียงเพื่อไม่ให้แม่กังวลมากเกินไปโสภาส่ายหน้าก่อนจะบีบที่ปลายจมูกโด่งรั้นของลูกสาวเบา ๆ “คิดถึงจนทำให้ เกือบเอาชีวิตไม่รอดแบบนี้แม่ว่าอย่าคิดถึงเลยดีกว่า” โสภาพูดกลั้วหัวเราะวุ้นเย็นยิ้มบาง ๆ ตากลมหรุบมองแก้วน้ำส้มในมือ
ตอนที่24 ซ้อมตาย “ไม่เป็นไรก็ดีแล้วน่าคุณ หายตกใจได้แล้วมั้ง”ภากรปลอบภรรยา ที่ยังหน้าซีดตัวสั่นไม่หาย พร้อมทั้งส่งยาดมยาหอมให้อีกด้วย “โอ๊ย จะไม่ให้ตกใจได้ไงละคุณ นี่ถ้าหากฉันไม่ฟังลูก แล้วหลบงูตามรถคันนั้นไป จะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้ ใจคอไม่ดีเลยค่ะ แถมวันนี้หลวงพ่อก็พูดแปลก ๆ ประมาณว่าไม่ให้ยึดติด ให้ปล่อยวางอะไรแบบนั้นด้วยนะคะ ฉันว่าท่านคงรู้อะไรล่วงหน้าแน่ ๆ เลยค่ะคุณ” ญาดาพูดให้ฟังด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือดุดาวส่ายหน้าเบา ๆ พร้อมกับรอยยิ้มบาง ๆ “คุณแม่คะ สิ่งที่หลวงตาพูด นั่นเป็นเรื่องของสัจจะความจริงที่คนเราต้องพึงระลึกไว้เสมอ เพื่อที่ว่าจะได้ใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท และหากถึงวาระสุดท้าย ก็จะได้จากโลกนี้ไปอย่างสงบอย่างไรล่ะคะ หลวงตาท่านไม่ได้รู้เห็นอะไรล่วงหน้าหรอกค่ะ เป็นบุญของพวกเรามากกว่า ที่ได้ฟังธรรมจากหลวงตา”ดุจดาวพูดด้วยหัวใจที่เปี่ยมสุข ไม่ได้ตระหนกต่อสิ่งใดเพราะเชื่อว่าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ต่างกับญาดาผู้เป็นแม่ ที่รู้สึกไม่สบายใจกับคำพูดของลูกสาวเอาเสียเลย “วารงวาระสุดท้ายอะไร จะแต่งงานแล้วห้ามพูดอะไรที่ไม่เป็นมงคลนะลูก โบราณเขาถือรู้ห
ตอนที่23 ดูฤกษ์ดูยามบริเวณวัดป่ายังคงเงียบสงบ มีเพียงเสียงใบและกิ่งไม้แห้งในฤดูแล้ง ที่โดนลมพัดปลิดปลิวตกลงบนพื้นดังแกรกกราก สามเณรน้อยที่มาบวชในระหว่างปิดเทอมสององค์ กำลังช่วยกันถือบาตรจะไปล้างที่ลำธาร ด้านหลังกุฏิ แต่เสียงเจ้าอาวาสร้องห้ามด้วยน้ำเสียงดุ ๆ “ห้ามเอาบาตรไปล้างในลำธารนะ มันจะทำให้น้ำสกปรก แต่ถ้าจะเอาข้าวที่เหลือไปให้ปลากินนั้นย่อมได้” “ครับพระอาจารย์” สามเณรรับคำอย่างเคร่งครัด ก่อนจะรีบเดินไปที่โรงครัว ในตอนนั้นก็มีรถหรูที่คุ้นเคยเข้ามาจอดนิ่งอยู่หน้ากุฏินายสนคนขับรถรีบลงมาเปิดประตูให้ญาดาเละดุจดาว ก่อนจะเดินนำไปที่กุฏิ ทั้งสามกราบนมัสการเจ้าวาสเรียบร้อย แล้วญาดาก็พูดตามความประสงค์ที่มาในทันที “นมัสการเจ้าค่ะหลวงพ่อ ดิฉันมาในวันนี้ก็เพื่อที่จะให้หลวงพ่อ ดูฤกษ์งานแต่งงานให้กับลูกสาวเจ้าค่ะ”ท่านเจ้าอาวาสรู้จักกับทั้งสามคนที่มาเยือนดี ท่านเหลือบมองดุจดาวแวบหนึ่ง ก่อนจะหลับตาลงประมาณสองถึงสามนาที พอลืมตาขึ้นมาใหม่ ก็พูดเบาๆ “โยมดุจดาว จงยึดมั่นในความตั้งใจดีที่มีอยู่ และหมั่นทำบุญตักบาตร คิดและทำแต่สิ่งดี ๆ ต่อไป ให้ธรรมะอยู่ในทุกช่วงของล
ตอนที่22 ถ้าไม่ตื่นมา พี่จะไม่ให้อภัยตลอดไปญาดาพูดจบ ก็ดึงลูกสาวเข้ามากอดปลอบโยน แม้เธอเองจะเอ็นดูวุ้นเย็นไม่น้อย แต่ดุจดาวจะยึดติดจนทำให้ตัวเองไม่มีความสุขก็ไม่ได้เหมือนกัน ถึงอย่างไรความสุขของลูกก็ต้องมาก่อน และความสุขของลูกก็คือการได้แต่งงานกับเมธัช มีลูกหลานสืบไป..........................................................................ปลายนิ้วเรียว ไล้ไปที่ใบหน้าเล็ก ๆ ซีดขาวของวุ้นเย็นอย่าแผ่วเบา ไล่ไปถึงเปลือกตาบางที่ปิดสนิท ก่อนที่จะลูบขนตางอนหนา ที่เวลาที่เจ้าตัวพูด ขนตานี้ก็จะสั่นไหวราวปีกผีเสื้อดึงดูดสายตาของผู้คนได้เสมอเมธัชหดมือกลับมา ก่อนจะโน้มตัวลงไปกระซิบแผ่วเบาที่ริมใบหูบาง “ถ้าไม่ตื่นมา พี่ก็จะไม่ให้อภัยเธอตลอดไป”ในตอนนั้นหมอก็เปิดประตูเข้ามา เพื่อตรวจดูอาการของวุ้นเย็น เมธัชจึงออกมาจากห้อง ก่อนจะเข้าไปถอดชุดปลอดเชื้อของโรงพยาบาลออก แล้วกดลิฟต์เพื่อกลับไปที่บริษัท เพราะไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าเขามาหาวุ้นเย็น ซึ่งสวนทางกับดุจดาว ที่มาพร้อมกับญาดา วิชัยและโสภาพอดิบพอดีทั้งสี่คนตรงไปยังห้องพักฟื้นที่วุ้นเย็นพักรักษาตัวอยู่ แต่เมื่อไปถึง เจ้าหน้าที่ห้องปลอดเ
ตอนที่21ความลับในกระเป๋าตุ๊กตาแมวนิ้วเรียวค่อย ๆ ดึงสมุดจิ๋วนั้นออกมา แล้วเปิดหน้าแรก เป็นรูปการ์ตูนเด็กผู้หญิงและผู้ชาย ที่วาดด้วยดินสอดูตลก และมีข้อความเขียนไว้ว่า ‘สวัสดีค่ะพี่ชาย’ พร้อมระบุวันที่ เขาจำได้ดีว่าเป็นวันแรกที่ได้เจอกับวุ้นเย็นรูปนี้ไม่ได้สวยงามหรือมีศิลปะที่โดดเด่นใด ๆ แต่กลับให้ความรู้สึกอบอุ่นในหัวใจแปลก ๆเขาเปิดผ่านไปที่กระดาษแผ่นที่สอง เป็นรูปการ์ตูนเหมือนเดิม แต่เป็นรูปที่เด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงโอบเอว จับมือกันคล้ายกำลังเต้นรำ พร้อมข้อความเศร้า ๆ ว่า ‘อยากเต้นรำกับพี่ชายแทนพี่ดาวแต่เต้นไม่เป็น’มาถึงหน้านี้หัวใจของเขาก็เริ่มเต้นแรง เขาไม่รอช้าที่จะเปิดดูหน้าต่อไป และหน้าต่อไป ส่วนใหญ่จะเป็นเหตุการณ์ที่เขากับวุ้นเย็นเคยทำด้วยกัน เช่นเล่นน้ำฝน สอนตีเทนนิส แต่รูปสุดท้ายนั้น ทำให้เขารู้สึกราวกับหัวใจกำลังบีบรัดจนรู้สึกเจ็บ เพราะเป็นภาพที่เด็กผู้หญิงนอนอยู่บนพื้นมองเด็กผู้ชายที่หันหลังให้ พร้อมกับข้อความ ‘หนูขอโทษค่ะพี่ชาย’เมธัชรู้สึกว่าข้อความ
ตอนที่20 เพราะอะไรกันแน่ดุจดาวตัดสินใจบอกเมธัช เรื่องที่วุ้นเย็นทักไอจีหาเธอตลอดมา เรื่องนี้เธอไม่เคยบอกเขามาก่อน เมธัชยังคงนิ่งเงียบ วุ้นเย็นจึงยื่นมืออีกข้าง ไปวางลงบนมือทั้งของเธอและเขาที่จับกันอยู่ พร้อมกับพูดอย่างอ่อนโยนและจริงใจ “น้องรักธัชมากนะ และดาวเชื่อว่าธัชก็รู้เรื่องนี้ดีกว่าดาวด้วยซ้ำ น้องยังเด็กและคิดไม่ถึงว่าเรื่องราวจะร้ายแรงบานปลายถึงกับทำร้ายธัชขนาดนั้น ดาวเชื่อว่าน้องรู้สึกผิด เสียใจและเครียดมากจนทำให้โรคหัวใจกำเริบ แต่น้องจะยังมีชีวิตต่อไปได้ หากได้รับกำลังใจดี ๆ จากธัชนะ ถึงธัชกับน้องจะไม่ใช่พี่น้องกันแท้ ๆ แต่ก็เคยมาเติมเต็มให้กันไม่ใช่หรือ ดาวจำได้ว่าธัชอยากมีน้องสาว แล้ววุ้นเย็นก็เข้ามา แววตาของธัชที่มองน้องเต็มไปด้วยความรักความอ่อนโยน จนบางครั้งดาวยังแอบอิจฉาเลย แล้วทำไมเราถึงไม่สร้างความอบอุ่นเหล่านั้นให้กลับมาอีกครั้งละคะ และครั้งนี้ก็สำคัญกับชีวิตของน้องมากด้วย เพราะธัชจะเป็นกำลังใจสำคัญให้น้องกลับมาเข้มแข็ง ตั้งใจรักษาตัว ธัชรู้ไหมว่า