แชร์

บทที่ 6

ผู้เขียน: กานเฟย
“ข้าไม่เชื่อว่าโลกกว้างใหญ่ถึงเพียงนี้ จะไม่มีสักคนที่จะสามารถช่วยเหลือเฮยจื่อได้!”

“ออกไปตามหามาให้ข้า! ของเพียงแค่ช่วยชีวิตเฮยจื่อเอาไว้ได้ ข้าจะให้รางวัลอย่างงาม!”

เมื่อเวลาผ่านไปหนึ่งชั่วยาม เมื่อมองเห็นลมหายใจของเฮยจื่อขาดช่วง ใบหน้าซีดขาวราวกับกระดาษ

มีท่านหมอหลายคนที่พากันถอดใจไปแล้ว ต่างก็หาคำอ้างเพื่อทูลลา

เมื่อเห็นว่าท่านหมอพากันจากไป เซียวหลินเทียนเองก็ไม่อาจควบคุมอารมณ์เอาไว้ได้อีก ตบลงบนที่พักแขนของรถเข็นคำรามด้วยความกรุ่นโกรธขึ้นมา

“กลุ่มคนเศษสวะ!”

ลู่หนาน ทหารองค์รักษ์ที่มีใบหน้าเหลี่ยมคิ้วหนาดวงตาโตที่ยืนอยู่ด้านข้างนั้น

เขาติดตามเซียวหลินเทียนมาหลายปี ลักษณะนิสัยดูสงบนิ่ง จงรักภักดีต่อเซียวหลินเทียนอย่างมาก และได้รับความไว้วางใจจากเซียวหลินเทียนเป็นที่สุด

เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนไม่กล้าที่จะเอ่ยอะไรออกมา จึงทำได้เพียงฝืนตนกล้าเดินก้าวออกมา เอ่ยอย่างลำบากใจ

“ท่านอ๋อง หมอที่มีชื่อในเมืองหลวงพวกเราต่างก็หากันมาแล้ว เฮยจื่อคราวนี้ เกรงว่าคงไม่อาจจะมีชีวิตอยู่ต่อได้แล้ว...”

“ท่านอ๋อง...ข้าจะไปจับตัวหญิงสาวคนนั้นมา ให้นางได้ชดใช้ชีวิตให้กับเฮยจื่อ!”

ชิวเฮ่าทหารองค์รักษ์ที่เตะเสี่ยวเมาจนได้รับบาดเจ็บ ใบหน้าอวบอ้วน ท่าทีบ้าบิ่น

เขาขัดคำของลู่หนาน ดึงดาบออกมาอย่างต้องการจะพุ่งออกไป

ในเวลานี้ จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงจากด้านนอกเรือนลอยดังเข้ามา

“เซียวหลินเทียน ให้ข้าเข้าไป หากว่าบนโลกนี้จะยังมีคนที่สามารถช่วยชีวิตเฮยจื่อเอาไว้ได้ เช่นนั้นก็คือข้าแล้ว!”

น้ำเสียงแหบแห้งที่ไม่น่าฟังเพียงแค่ได้ยินก็รู้ว่าจะต้องเป็นหลิงอวี๋ เซียวหลินเทียนได้ยินคำของนาง ใบหน้าหล่อเหลาก็ดูมืดมนลงในทันที

“ผู้หญิงคนนั้นยังไม่ตาย? นางยังกล้ามารบกวนเฮยจื่ออีก?”

“ก็ดี ให้นางเข้ามา รอเมื่อเฮยจื่อขาดลมหายใจไปแล้ว ก็จะเป็นเวลาที่ชีวิตของนางจะต้องกลับปรโลกไป!”

เซียวหลินเทียนเอ่ยอกมาอย่างเคร่งขรึม ชิวเฮ่าแทบทนรอไม่ได้ที่จะพุ่งออกไป

“อย่าแตะต้องข้า! หากว่าเจ้ายังต้องการให้เฮยจื่อมีชีวิตอยู่อีก!”

หลิงอวี๋มองเห็นทหารองค์รักษ์ที่เตะจนหัวแครอทได้รับบาดเจ็บ หยิบดาบพุ่งตรงมายังตนเอง ก็ร้องตะโกนออกมาก่อน

“ข้าสามารถช่วยเฮยจื่อได้ ข้ามียาลับเฉพาะ หากว่าเจ้ากล้าทำร้ายข้า เช่นนั้นก็รอเฮยจื่อตายไปเสียเถิด!”

“ผู้หญิงชั้นต่ำ! เจ้าไม่มีทักษะการแพทย์อยู่เลย ยังกล้าวิ่งมาหลอกลวงคนอยู่ที่นี่อีก มาลองโดนดาบของข้าเสียก่อนแล้วค่อยว่ากันเถิด...”

ชิวเฮ่าไม่ฟังคำของนางแม้แต่น้อย เหวี่ยงดาบฟันลงไปทางหลิงอวี๋

ทั่วทั้งร่างกายของหลิงอวี๋เต็มไปด้วยรอยบาดเจ็บจากแส้ ทำให้การตอบสนองกลับของนางดูช้าลง และถึงแม้ว่านางจะหลบไปได้ทันท่วงที แต่แขนก็ยังถูกปลายดาบของชิวเฮ่าแทงเข้า

เลือดไหลพุ่งออกมา เปียกชื้นไปทั่วทั้งแขนเสื้อ ค่อย ๆ หยดลงบนพื้น!

ชิวเฮ่าเตะเข้ามาอย่างรุนแรงอีกครั้ง คราวนี้หลิงอวี๋ไม่อาจหลบเลี่ยงได้ทัน ถูกเตะจนกระเด็นลอยออกไป

หลิงอวี๋ตกลงบนพื้นดินอย่างแรง ครั้งนี้หลิงอวี๋หลบไปไม่ทัน ทรวงอกของนางเจ็บปวดขึ้นก่อนที่จะกระอักเลือดออกมา

เมื่อเห็นว่าชิวเฮ่าเดินเข้ามาอย่างดุร้าย นางจึงได้ร้องตะโกนออกมาดวงตาแดงก่ำ

“มา มา เตะข้าให้ตายไป......เฮยจื่อก็อย่าคิดที่จะช่วยเหลืออีกต่อไปแล้ว ต่อให้ข้าจะตายไปยาลับก็ไม่มีทางที่จะมอบให้กับพวกเจ้า!”

“คนชั้นต่ำ เจ้ากล้าข่มขู่ท่านอ๋อง!”

ชิวเฮ่าเหยียบลงบนใบหน้าของหลิงอวี๋อย่างแรง

หลิงอวี๋จ้องมองเขาด้วยความโกรธ คลานอยู่บนพื้น จ้องมองไปยังชิวเฮ่าราวกับหมาป่าร้าย เกลียดเสียจนอยากจะใช้สายตาฆ่าเขา...

นางรีบร้องตะโกนออกมาอย่างเร่งรีบ “เซียวหลินเทียน จวนของท่านมีบ่าวชั่วแบบนี้เป็นเจ้านายอย่างนั้นหรือ?”

“สองขาของท่านพิการแล้ว สมองก็ยังพิการไปด้วยหรือ?”

“หรือว่าจริง ๆ แล้วท่านไม่คิดที่จะช่วยเฮยจื่อ ถึงได้แม้แต่ความหวังสุดท้ายก็ไม่ต้องการแล้ว?”

ชิวเฮ่าเมื่อได้ยินประโยคนี้เข้า ก็ไม่กล้าที่จะเตะลงไปอีก

หากว่าเตะจนหญิงสาวคนนี้ตายไป ชื่อของบ่าวชั่วก็อยู่กับเขาไปตลอดชีวิต

เขาหันกลับไปมองโดยที่ไม่รู้ตัว ก็พบกับเซียวหลินเทียนที่ถูกลู่หนานเข็นออกมา

สีหน้าของเซียวหลินเทียนดูมืดมนและลึกล้ำ มองไม่เห็นร่องรอยของอารมณ์ใด

เขาจ้องมองหลิงอวี๋ที่คลานอยู่บนพื้นอย่างเย็นชา เหมือนราวกับมองคนตายไปแล้ว...

“เซียวหลินเทียน ดูที่บาดแผลของข้า...”

หลิงอวี๋เมื่อเห็นว่าเขามองมา ก็รู้ว่านี่เป็นเพียงโอกาสเดียวที่จะได้พิสูจน์ตนเอง

หลิงอวี๋พยุงกายลุกขึ้น ดันแขนเสื้อของตนเอง รอยบาดแผลจากดาบที่ยังคงมีเลือดไหลอยู่ปรากฏออกมาต่อหน้าของทุกคน

บาดแผลเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด เลือดสดนั้นเปื้อนจนครึ่งแขนแดงฉาน...

ไม่รู้จักอับอาย!

ถึงกับกล้าที่จะเปิดแขนออกมาต่อหน้าของทุกคน!

ทหารองค์รักษ์ส่วนมากต่างก็เลือดที่จะละเลยกับรอยบาดแผลของหลิงอวี๋ เพียงแต่มองไปยังแขนขาวงามของนางอย่างดูหมิ่น ก่อนจะหันหน้าหนีไป

เซียวหลินเทียนเองก็เกิดความคิดเช่นเดียวกับทุกคน เพียงแต่ไม่อาจจะสายตาไปได้

ก่อนจะมองเห็นหลิงอวี๋หยิบขวดยาออกมาขวดหนึ่ง เทลงไปบนรอยบาดแผลนั้น

ทันใดนั้น เลือดก็หยุดไหลลง...

เซียวหลินเทียนกลั้นลมหายใจ จ้องมองขวดใสในมือของหลิงอวี๋ที่ไม่เคยพบมาก่อนด้วยความประหลาดใด ด้านในนั้นเป็นทั้งหมดเป็นผงสีขาว...

เซียวหลินเทียนอยู่ในกองทัพมานานหลายปี มองเห็นรอยบาดแผลมานับไม่ถ้วน และก็เคยมองเห็นยาที่หมอเหล่านั้นใช้ห้ามเลือด กลับไม่เคยพบว่าจะมียาที่ห้ามเลือดได้รวดเร็วเช่นนี้มาก่อน...

นี่มันยาอะไรกัน ถึงได้วิเศษขนาดนี้?

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
Jocky Tagool
โดนเหยียบหน้าตลอดเลย หวังว่าจะได้แก้แค้นกับคนที่ทำแบบนี้กับตัวเองนะ แต่ถ้าให้อภัยก็น้ำเน่าแระ มีแค้นก็ต้องแก้แค้นด้วย ทั้งสาวใช้และองครักษ์ที่ สรน. ทำเกินหน้าที่
goodnovel comment avatar
Piyapatta Samungkun
ไม่ชอบที่เขียนให้องคลักษ์ไม่มีเหตุผลพระชายาบอกจะมารักษาเฮยจื่อใชักดาบมาฟันเตะถีบอีกแถมเหยียบหน้าพระชายาไม่เคารพก็ไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ไหถึงท่านอ๋องจะเกลียดพระชายาแต่ยังไม่หย่าเหยียบหน้าพระชายาก็เหมือนเหยียบหน้าท่านอ๋องก่อนหน้านี้ก็โดนเฆี่ยน50ไม้โดนสาวใช้ตบและเหยียบหน้าแค้นแทนพระชายาเกลียดองคลักษ์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2700

    ยังมิทันที่สือเหล่ยจะพูดอะไร หลิงเฟิงก็ไต่ลงไปตามกองหินที่พังทลายนั้นแล้วเขาคล่องแคล่วว่องไว เวลามินานก็ลงไปถึงลำธารด้านล่างแล้วเขาเดินเข้าไป แต่ยังมิทันได้เข้าไปใกล้ เขาก็เห็นว่าลิงตัวนั้นเงยหน้าขึ้นมาในทันที ดวงตาสีเขียวจ้องมองมาที่หลิงเฟิงอย่างโหดร้ายหัวใจของหลิงเฟิงหยุดเต้นไปชั่วขณะ แล้วมองลิงตัวนั้นอย่างกังวลเมื่อคืนหลิงเฟิงได้เห็นความโหดเหี้ยมในการต่อสู้กันของสัตว์ประหลาดสองตัวนี้แล้ว หากลิงตัวนี้กระโจนเข้าใส่ตน เขาก็มิรู้เช่นกันว่าตนจะเป็นคู่ต่อสู้ของมันได้หรือไม่แต่ลิงตัวนั้นมิได้เคลื่อนไหวใด ๆ แต่จ้องมองหลิงเฟิงอย่างโกรธเกรี้ยวอยู่เช่นนั้นหลิงเฟิงเห็นว่าผิวหนังบนร่างของมันเปิดออกและเลือดก็ไหลซึมออกมามิหยุดเขารู้สึกสะกิดใจขึ้นมา สัตว์ประหลาดตาเขียวตัวนี้อ่อนแรงมากแล้ว บางทีมันอาจจะไม่มีแรงโจมตีตนแล้วก็เป็นได้หลิงเฟิงจึงยกมือทั้งสองขึ้น พร้อมทั้งยิ้มแล้วเอ่ยว่า “หากเจ้าฟังข้ารู้เรื่อง ก็จะรู้ว่าข้ามิได้มีเจตนาร้ายต่อเจ้า มิฉะนั้นหากข้าคิดจะสังหารเจ้า เจ้าก็หนีไปมิพ้นหรอก!”“สัตว์ประหลาดน้อย เจ้าดูบาดแผลเต็มตัวเจ้าสิ หากข้ามิช่วยเจ้า เจ้าก็คงจะเลือดไหลออกมาจนตาย!

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2699

    ปกติแล้วภายนอกนั้นเถาจื่อจะทำตัวเหมือนมิได้คิดมากอะไร และยังคงช่วยทุกคนทำงานไปตามเดิมแต่ในบางครั้งหลิงเฟิงก็เห็นว่า เถาจื่อมักจะหลบไปตามลำพังเพื่อสวดส่งวิญญาณให้กับคนที่ตายในการสู้รบเช่นพวกจ้าวซวนอยู่บ่อย ๆครานั้นเมื่อหลิงเฟิงเห็นเข้า ในใจก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมาตอนนั้นเขาเองก็ถูกเถาจื่อทำร้ายจนเกือบตายเช่นกัน บนร่างกายเขามีบาดแผลจากมีดขนาดต่าง ๆ อยู่นับสิบแผล และเป็นหลิงอวี๋ที่ช่วยชีวิตเขาไว้ได้หลังจากที่รู้ว่าเถาจื่อคือคนที่ทรยศพวกเขา หลิงเฟิงเองก็อยากสังหารเถาจื่อเช่นกันแต่หลังจากที่ได้ฟังหลิงอวี๋บอกว่า เถาจื่อถูกชายาเจ้าแห่งทะเลควบคุม จึงสูญเสียสติของตนไปแล้วทำความผิดเหล่านั้น ความโกรธที่หลิงเฟิงมีต่อเถาจื่อก็หายไปกว่าครึ่งแล้วแต่ก็เป็นเช่นเดียวกับทุกคน ต่อให้ในแง่ของเหตุผลหลิงเฟิงจะรู้สึกว่าการที่เถาจื่อทรยศพวกเขานั้นมิใช่ความผิดของนางทั้งหมด แต่ทุกครั้งที่เห็นเถาจื่อ ในใจของหลิงเฟิงก็มักจะมีความรู้สึกที่ติดค้างอยู่เสมอวันนั้นเมื่อเห็นเถาจื่อคุกเข่าอย่างตั้งมั่น แล้วสวดบทสวดส่งวิญญาณในใจของหลิงเฟิงก็รู้สึกมิสบายใจยิ่งนักเขานึกถึงคำพูดที่หลิงอวี๋กล่าวไว้ว่า หากเปลี่ยน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2698

    วันรุ่งขึ้น ท้องฟ้าเพิ่งจะสว่าง ทั้งสี่คนก็รีบลุกอย่างรีบร้อน และตามไปทางร่องรอยที่เกิดขึ้นจากการต่อสู้กันของสัตว์ประหลาดหลิงเฟิงมุ่งมั่นเต็มที่ แล้วชิงอยู่หน้าขบวนไปตลอดทางเพื่อตามรอยสัตว์ประหลาดสองตัวทำเอาต้นไม้หักโค่นไปจำนวนมาก และร่องรอยเหล่านี้ก็ลากยาวไปตลอดสิบกว่าลี้ทั้งสี่คนเห็นเช่นนั้นต่างก็รู้สึกหวาดกลัว แม้ว่าจะมิได้เห็นสภาพการต่อสู้ด้วยตาตนเอง แต่ดูจากเสียงเมื่อคืนกับร่องรอยเหล่านี้แล้ว การสู้รบช่างโหดร้ายนัก“หวังว่าพวกมันจะมิได้ต่อสู้กันจนตายไปด้วยกันนะ!”หลิงเฟิงยิ้มขมขื่นแล้วเอ่ยออกมาแต่อู่หรานกลับมิได้มีความทะเยอทะยานคิดจะทำให้สัตว์อสูรเชื่องเช่นเดียวกับหลิงเฟิงเนื่องจากสัตว์อสูรมิใช่ใครที่ไหนจะสามารถเลี้ยงได้ไหว มันจะต้องกินพวกโอสถเสริมพลังวิญญาณอะไรทำนองนั้น ซึ่งล้วนเป็นค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่เงินที่อู่หรานหามาได้ ยังคงต้องใช้ประโยชน์อยู่ เขาทำใจนำเงินออกมาเลี้ยงดูสัตว์อสูรมิได้หรอกสือเหล่ยกับเถาจื่อก็เช่นกันอู่หรานเดินตามหลิงเฟิง พลางสังเกตสัญลักษณ์ของซานเชวี่ยไปด้วยแต่ทางนี้ดูเหมือนจะมิใช่เส้นทางที่ซานเชวี่ยไป เดินไปได้สักพักหนึ่งก็มิพบสัญลักษณ์ของซาน

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2697

    เถาจื่อได้ฟังคำพูดของหลิงเฟิงเช่นนั้นก็รู้สึกสบายใจไปมิน้อยนางเองก็มิอยากให้เกิดเรื่องขึ้นกับซานเชวี่ยเช่นกัน ในช่วงนี้ที่ติดกันอยู่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์ เถาจื่อกับพวกซานเชวี่ยล้วนอยู่ด้วยกันราวกับพี่น้องซานเชวี่ยมีความคิดที่บริสุทธิ์ ทำให้เถาจื่อนึกถึงตนเองในอดีต ในใจก็ยิ่งสนิทกับซานเชวี่ยมากขึ้นอีกเสียงต่อสู้ผสมกับเสียงคำรามของสัตว์ยังคงดำเนินต่อไปหลิงเฟิงเห็นประกายสีเขียวกะพริบมิหยุด เขาจึงเอ่ยถาม “อู่หราน เจ้าคิดว่าสัตว์ประหลาดสองตัวนั้นเป็นตัวอะไรกัน?”อู่หรานเป็นคนแดนเทพ ทั้งยังเติบโตมาพร้อมกับเจ้าตำหนักคนเก่าอีกด้วย จึงพอจะรู้จักพวกสัตว์ประหลาดเหล่านี้อยู่บ้างเขาพิจารณาจากขนาดและเสียงคำรามของมันแล้วเอ่ยออกว่า “ข้าว่าสัตว์ประหลาดสองตัวนี้น่าจะเป็นเสือดาว ที่มีขนาดพอ ๆ กัน!”หลิงเฟิงเอ่ยอย่างมิเห็นด้วย “อีกตัวอาจจะเป็นเสือดาว แต่เจ้าเห็นหรือไม่ว่าตัวนั้นเป็นสัตว์ประหลาดตาสีเขียว รูปร่างมิคล้ายเสือดาวนะ!”“ดูเหมือนมันจะยังมิเปล่งเสียงออกมา!”สือเหล่ยจึงขยับเข้ามาแล้วเอ่ยว่า “ข้าก็คิดว่าสัตว์ประหลาดตาสีเขียวมิใช่เสือดาวเช่นกัน มันดูคล้ายลิงขนาดใหญ่มากกว่า! มันดูว่องไวกว่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2696

    “แม่ทัพหลิง!”สือเหล่ยเห็นสถานการณ์เช่นนั้นก็ตะโกนออกไปอย่างตกใจ ขณะกำลังคิดจะกระโดดลงจากต้นไม้ไปตรวจดูอาการของหลิงเฟิง เขาก็เห็นว่าประกายสีเขียวนั้นพุ่งเข้ามาที่ต้นไม้ซึ่งตนอาศัยอยู่แล้ว“สื่อเหล่ย หลบเร็วเข้า!”เถาจื่อเห็นเช่นนั้นก็ตะโกนออกไปสือเหล่ยจึงรีบหลบไปจากบนต้นไม้ทันทีแทบจะในเวลาเดียวกันนั้นเอง สัตว์ประหลาดตัวนั้นก็พุ่งเข้ามาจากนั้นก็เกิดเสียงดังขึ้น แล้วต้นไม้ที่สือเหล่ยอยู่เมื่อครู่ก็ถูกพุ่งชนจนหักลงไปอีก“หนีเร็ว มีสัตว์ประหลาดมาอีกตัวแล้ว!”อู่หรานได้ยินเสียงจึงรีบเตือนว่า “ทุกคนแยกกันหนี กลับไปที่ยอดเขาเมฆนภาก่อนค่อยว่ากัน!”ขณะที่อู่หรานกำลังพูด เขาก็พุ่งไปทางหลิงเฟิงหลิงเฟิงกระเด็นออกไป แล้วก็กระแทกไปบนต้นไม้ที่อยู่ด้านหลัง ยังดีที่มีใบไม้อยู่หนาแน่น กิ่งไม้เหล่านั้นจึงลดแรงกระแทกให้หลิงเฟิงได้มิน้อยแม้ว่าหลิงเฟิงจะถูกกระแทกจนมึนหัว แต่นอกจากแผลถลอกเล็กน้อยแล้วก็มิได้รับบาดเจ็บหนักอะไรเขายันตัวลุกขึ้นแล้วเห็นว่าอู่หรานพุ่งมาทางตน จึงตะโกนไปว่า “ข้ามิเป็นไร รีบหนีไปเร็วเข้า!”ทั้งสี่คนวิ่งหนีกลับไปอย่างมิคิดชีวิต แต่สิ่งที่ทำให้ทั้งสี่คนประหลาดใจก็คือ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2695

    เมื่อเถาจื่อได้ฟังคำพูดของสือเหล่ย นางก็มองอู่หรานที่อยู่ด้านหน้าอย่างเงียบ ๆอู่หรานคือคนที่เข้าถึงได้ยากที่สุดในบรรดามือสังหารของตำหนักปีกเงินเหล่านี้เถาจื่อแทบจะมิเคยพูดคุยกับเขาสักเท่าไรแม้ว่าในบางครั้งจะช่วยเขาซักและเย็บซ่อมอาภรณ์ให้ อู่หรานก็ยังคงเฉยชา มิพูดอะไรทั้งนั้นเถาจื่อกับหานเหมยจึงแอบตั้งฉายาให้เขาว่า… ภูเขาน้ำแข็ง!พวกนางสองคนรู้สึกว่าอู่หรานผู้นี้เป็นเช่นภูเขาน้ำแข็งที่เย็นชาคนเช่นนี้ สตรีคนใดจะกล้าแต่งงานกับเขาเล่า เช่นนั้นจะมิถูกเขาเย็นชาใส่จนตายหรือ!“เหอะ ๆ… ค่อยว่ากันเถิด!”บุรุษเช่นนี้ตนยังรับมิไหว เถาจื่อมิอยากทำร้ายพี่น้องของตน“พี่เถาจื่อ เจ้าเล่าให้ข้าฟังได้หรือไม่ว่าที่ฉินตะวันตกมีอะไรสนุกหรืออร่อยบ้าง?”ยากที่สือเหล่ยจะมีโอกาสได้พูดคุยกับเถาจื่อ เขาจึงเอ่ยถามมิหยุดเถาจื่อจึงเลือกเรื่องสนุกสนานที่ฉินตะวันตกมาเล่าให้สือเหล่ยฟังหลิงเฟิงกับอู่หรานที่อยู่ข้างหน้าก็เลี่ยงมิได้ที่จะได้ยินไปด้วยแต่ทั้งสองคนก็มิได้รำคาญหลิงเฟิงฟังเถาจื่อพูดจนนึกถึงเรื่องราวเหล่านั้นที่ฉินตะวันตก แล้วก็รู้สึกคุ้นเคยขึ้นมาแม้ว่าอู่หรานจะแสดงออกเย็นชา แต่ก็ถูกเรื

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status