Share

บทที่ 6 บ้าไปแล้ว

last update Dernière mise à jour: 2025-09-12 20:52:28

            รอยยิ้มของหนิงอวี่แข็งทื่อในทันที นางรู้สึกว่ามีไอเย็นลอยล้อมรอบนางอยู่ ต่างจากลู่เสียนที่เพิ่งได้รู้ว่าคุณชายไป๋ทำเพื่อนางถึงเพียงนี้ เงินหนึ่งร้อยตำลึงในทุกเดือนนี้อาจจะเป็นสาเหตุที่นายหญิงหอบุปผายินยอมให้นางไม่ต้องรับแขก ในใจของนางก็พลันอบอุ่นขึ้นมา

            หลี่หยางที่ได้รู้ว่าหนิงอวี่ขูดรีดเงินจากไป๋มู่เฉินถึงหนึ่งร้อยตำลึง ก็แค้นใจไม่น้อย

                “คุณหนูเว่ยช่างฉลาดหลักแหลม ที่หาวิธีทำเงินจากคุณชายไป๋และข้าได้พร้อมกัน”

            หลี่หยางที่แม้จะกล่าวชมนาง แต่น้ำเสียงกลับเหมือนจะฆ่านางเสียตรงนี้

            ไป๋มู่เฉินนิ่งอึ้งเมื่อรู้ว่าบุรุษตรงหน้าก็ยอมจ่ายเงินเพื่อปกป้องลู่เสียน ‘ชายผู้นี้น่าจะมีใจให้ลู่เสียนเช่นกัน’

                “นี่ไง คือเรื่องที่ข้าอยากคุยกับคุณชายไป๋ ข้าอยากจะบอกท่านว่าไม่ต้องจ่ายค่าตัวแม่นางป้ายแล้ว ข้าจะไม่บังคับนางรับแขกอีก แบบนี้ดีหรือไม่” นางกล่าวกับมู่เฉิน แต่สายตาอ้อนวอนขอชีวิตกลับส่งไปให้หลี่หยาง

            ยังไม่ทันที่บุรุษทั้งสองจะได้กล่าวสิ่งใด ด้านล่างก็มีเสียงโวยวายของแขกดังขึ้นมา ทุกคนละสายตาจากหนิงอวี่ไปที่ต้นตอของเสียงในทันที

            หนิงอวี่รีบลงจากหอเพื่อไปจัดการกับปัญหาอย่างเร่งรีบ นี่ถือเป็นโอกาสดีที่จะออกจากสถานการณ์น่าอึดอัดนี้ไม่ใช่หรือ

            เมื่อนางลงไปถึงด้านล่างก็เห็นบุรุษร่างกายอ้วนฉุที่มองจากการแต่งกายแล้ว น่าจะเป็นคุณชายบ้านรวยกำลังเตะหญิงคณิกาที่บัดนี้อาภรณ์ฉีกขาดหลุดลุ่ยไม่เป็นชิ้นดี จนแทบปิดส่วนสงวนไม่มิด ใบหน้ามีแต่รอยช้ำจากฝ่ามือและน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม แต่ไม่ยอมร้องไห้ออกมา โดยไม่มีผู้ใดคิดจะเข้าไปช่วยแม้แต่น้อย หนิงอวี่ไม่สบอารมณ์กับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าอย่างมาก

            เหล่าหญิงคณิกา เมื่อเห็นหน้านายหญิงหอบุปผาต่างพากันตื่นกลัว คิดว่าสตรีที่ทำให้แขกไม่พอใจเช่นนี้ต้องถูกนายหญิงลงโทษแน่

                “ข้าสั่งให้เจ้าเปลื้องผ้าร่ายรำ ทำไมเจ้าไม่ทำตาม”

              “เป็นเพียงนางโลมชั้นต่ำ คิดขัดคำสั่งข้าหรือ” ชายอ้วนผู้นั้นยังด่าทอและทำร้ายสตรีไม่หยุด

                “ใครให้เจ้ามาสร้างความเดือดร้อนที่หอบุปผาของข้า!” เสียงหนิงอวี่ดังขึ้น หยุดมืออ้วนที่กำลังจะตบหญิงคณิกาอีกครั้งได้ทัน

                “คุณหนูเว่ยมาก็ดี เจ้าต้องจัดการนางให้ข้า กล้าดีอย่างไรข้าจ่ายเงินไปแล้วกลับไม่ทำตามที่ข้าสั่ง” ชายอ้วนฟ้องเรื่องที่เกิดขึ้น

                “ข้าหมายถึงเจ้า กล้าดียังไงมาสร้างเรื่องเลวร้ายเช่นนี้ที่หอของข้า” นางกล่าวด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยว ก่อนจะถอดเสื้อตัวนอกของตนคลุมให้กับหญิงคณิกาผู้นั้น

            เหตุการณ์ตรงหน้าทำให้ผู้คนตกตะลึง ที่นายหญิงเข้าข้างหญิงคณิกาเป็นครั้งแรก  ไม่ต่างจากหลี่หยางและมู่เฉินที่ตามมาทีหลังได้ยินประโยคนี้เข้า ต่างก็งุนงงกับการกระทำของนางด้วย แต่ก่อนนางเห็นแขกเป็นดั่งของมีค่า เพื่อเงินแล้วถึงแม้แขกจะทำเช่นไรก็ถูกเสมอ

                “นี่คุณหนูเว่ย เจ้าบ้าไปแล้วหรือที่เข้าข้างนางแทนที่จะเป็นข้า” ชายอ้วนเริ่มไม่พอใจเอามือเท้าสะเอว มืออีกข้างชี้หน้าด่าหนิงอวี่

                “เจ้าสิบ้า! เป็นบุรุษเสียเปล่า แต่ทำร้ายสตรีเช่นนี้ได้อย่างไร ไม่มีศักดิ์ศรีบ้างหรือ?” หนิงอวี่ด่ากลับในทันที

                 “หากเจ้ายังก่อเรื่องไม่เลิก ข้าจะป่าวประกาศไปทั่วเมืองหลวงว่าเจ้ารังแกแม้แต่สตรี ดูซิจะมีหญิงที่ไหนกล้าแต่งงานกับเจ้าหรือไม่” นางสั่งสอนต่อโดยไม่รอให้ชายคนนั้นโต้แย้ง

                “นี่เจ้า!” ชายอ้วนพูดสิ่งใดไม่ออก ทั้งโมโหและอับอาย ได้แต่รีบเดินหนีออกไป

                “เดี๋ยว! คิดจะทำร้ายคนแล้วไม่จ่ายค่าชดใช้หรือ?” 

หนิงอวี่ทวงค่าทำขวัญในทันที  ทำให้ชายผู้นั้นจำต้องโยนถุงเงินมาให้นาง เมื่อเปิดดูก็เป็นเงินจำนวนไม่น้อย

                    “ขอบคุณนายหญิงที่ช่วยข้า” เสียงหญิงคณิกาที่บาดเจ็บกล่าวขอบคุณนาง

                “เจ้าไม่ต้องขอบคุณ ข้าเป็นเจ้าของที่นี่ก็ต้องย่อมดูแลพวกเจ้าถึงจะถูก” หนิงอวี่กล่าวพลางพยุงสตรีผู้นั้นขึ้น

                “นี่เงินของแขกผู้นั้นเจ้าเอาไปรักษาตัว” หนิงอวี่ยื่นถุงเงินเมื่อครู่ให้กับหญิงคณิกา

            การกระทำของนางทำให้คนอื่น ๆ งุนงง ปกติเงินที่นางโลมหามาได้หนิงอวี่จะยึดไว้ทั้งหมด อ้างว่าเป็นค่าดูแล ทำให้พวกนางไม่มีเงินไถ่ตัวเองออกไป

                “ข้าเว่ยหนิงอวี่ ขอประกาศว่า นับจากนี้หอบุปผาหญิงคณิกาทุกคนมีสิทธิ์เลือกว่าจะหลับนอนกับแขก หรือจะเป็นแค่เพื่อนดื่มกินเท่านั้น” หนิงอวี่กล่าวเสียงดังให้ทั้งแขกและหญิงคณิกาได้รับรู้

            คำพูดของนางที่ประกาศออกไปทำให้แขกตกตะลึง มีหอนางโลมไหนกันที่เหล่านางโลมจะสามารถเลือกได้ ไม่ต่างจาก

หลี่หยางที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดก็ขมวดคิ้วแน่น เขาสงสัยว่านางจะเปลี่ยนไปได้จริงหรือ ต่างจากหญิงคณิกาที่ดีใจด้วยที่พวกนางจะได้มีสิทธิ์เลือกแขกเองบ้าง

            เจียลี่ที่ตามมาจากเรือนเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นางตกใจอย่างมาก รีบวิ่งไปหาคุณหนูของตน

                “คุณหนู หากไม่ให้พวกนางร่วมหลับนอนกับแขก แล้วจะเอาเงินที่ไหนใช้หนี้เจ้าคะ” เจียลี่กระซิบนาง

                “ข้ามีหนี้ด้วยหรือ” หนิงอวี่ที่ตอนแรกยิ้มอย่างภูมิใจในตัวเอง บัดนี้กลับตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน

                “มีสิเจ้าคะ คุณหนูไปกู้ยืมมาจากร้านปล่อยเงินกู้เถาอี้ เพื่อมาซื้อตัวพวกนาง และตกแต่งร้าน หนึ่งหมื่นตำลึงเลยนะเจ้าคะ” เจียลี่เตือนสตินาง ใบหน้าสาวใช้เต็มไปด้วยความร้อนใจ

                “หนึ่งหมื่นตำลึง!” หญิงสาวตกใจอุทานเสียงดัง จนผู้คนหันมามองอีกครั้ง

                หนิงอวี่แทบทรงตัวไม่อยู่ นางหน้ามืดในทันที ‘แล้วจะเอาเงินไหนใช้หนี้เขาเล่า’ นางคิดหาวิธีอย่างไวพลางเหลือบมองไปเห็นมู่เฉินที่มองนางอยู่ ‘ใช่แล้ว! หากไปขอเปลี่ยนคำพูด ด้วยการรับเงินหนึ่งร้อยตำลึงกับเขาเช่นเดิม คงไม่ทำให้เขามองนางแย่กว่าเดิมได้หรอก เพราะตอนนี้เขาก็ไม่ได้มองนางในทางที่ดีอยู่แล้ว’

                “คุณชายไป๋ เรื่องเงินหนึ่งร้อยตำลึง............”

                “ขอบคุณคุณหนูเว่ย ที่จากนี้จะไม่รับเงินหนึ่งร้อยตำลึงจากข้า เช่นนั้นเงินในหีบที่นำมาวันนี้ข้าจะให้คนไปยกกลับคืนมาแล้วกัน” มู่เฉินไม่เปิดโอกาสให้นางได้เจรจา เมื่อพูดจบเขาก็เดินจากไป ไม่ต่างจากหลี่หยางที่หัวเราะนางเสร็จก็หันหลังจากไปทันที ทิ้งให้หนิงอวี่ยิ้มแห้งอยู่อย่างนั้น

                ในเมื่อนางสูญเสียเงินที่จะได้หนึ่งร้อยตำลึงจากมู่เฉิน และเงินที่จะได้จากการร่วมหลับนอนกับแขกของหญิงนางโลม เช่นนั้นจะต้องคิดหาวิธีทำให้หอบุปผามีความแปลกใหม่ ไม่เหมือนหอนางโลมใด ๆ ในเมืองหลวง เช่นนี้นางจึงจะสามารถหาเงินมาใช้หนี้ได้

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • รักนี้ ที่มอดไหม้   ตอนที่ 29 บุปผาสวรรค์

    หลี่หยางกลับตำหนักเผิงซีด้วยความขุ่นเคือง แม้หนิงอวี่บอกว่านางต้องการอยู่ที่หออาลักษณ์เพื่อใช้ความสามารถของตน แต่เขามักรู้สึกว่านางจงใจหลบเลี่ยงเขาอยู่บ่อยครั้ง นั่นทำให้เขาไม่พอใจ “ยินดีกับองค์รัชทายาทเพคะ” ลู่เสียนกล่าวยินดีกับเขาทันที เมื่อเห็นหลี่หยางก้าวเข้ามาในห้องทรงอักษร “เจ้าเข้ามาในนี้ได้อย่างไร” หลี่หยางขมวดคิ้วถามด้วยความไม่พอใจ ลู่เสียนในใจเขานับวันยิ่งแตกต่างจากสตรีที่เขาคอยปกป้องเมื่อครั้งที่อยู่ที่หอบุปผา “หม่อมฉันเห็นว่าห้องนี้ไม่ค่อยได้ทำความสะอาด จึงเข้ามาเช็ดถูให้เพคะ” รอยยิ้มบนใบหน้านางจางหายในทันที เมื่อสิ่งที่หลี่หยางตอบกลับมาไม่ใช่รอยยิ้มอย่างที่นางคิด “ช่างเถิด เจ้าไปเก็บของเถอะ รุ่งเช้า มามา จะพาเจ้าไปตำหนักของตัวเอง เจ้าจะได้มีอิสระในการทำสิ่งใดไม่ต้องคอยเกรงใจข้าอีก”ลู่เสียนหน้าชาเมื่อได้ยินคำพูดนั้น ถึงแม้คำพูดของหลี่หยางจะดูเป็นห่วงนาง แต่แท้จริงแล้วกลับต้องการไล่ให้นางออกไปเสียมากกว่า “หม่อมฉันรับบัญชาเพคะ” ลู่เสียนเดินออกจากห้องไป นางกำมือแน่นจนเล็บจิกเข

  • รักนี้ ที่มอดไหม้   บทที่ 28 ปฏิเสธ

    หนิงอวี่ยกหนังสือที่อยู่ในมือขวางการจ้องมองของหลี่หยาง นางมิอาจจะทนต่อการจ้องมองอย่างลึกซึ้งนั้นของเขาได้ “องค์ชาย นี่หออาลักษณ์โปรดสำรวมด้วย” หนิงอวี่ตำหนิหลี่หยางกลาย ๆ “เช่นนั้นกลับตำหนักเผิงซีเถอะ ข้าจะได้ไม่ต้องสำรวม”หลี่หยางกล่าวพลางดึงหนังสือให้มือของนางออก หนิงอวี่จ้องมองคนที่อยู่เบื้องหน้าด้วยใบหน้าบึ้งตึง ทำให้หลี่หยางยอมปล่อยนางอย่างว่าง่าย เกรงว่านางจะเคืองจนไม่กลับไปตำหนักกับเขาแต่โดยง่าย “องค์ชายโปรดอภัย หม่อมฉันไม่คิดจะกลับไปตำหนักเผิงซี” หนิงอวี่กล่าวในสิ่งที่เขาไม่อยากจะฟัง “เหตุใดไม่กลับไป? ตอนนี้ข้าก็สามารถปกป้องเจ้าได้แล้ว เจ้าไม่ต้องกลัวสิ่งใดอีก” แววตาของหลี่หยางเต็มไปด้วยความดื้อรั้น “เหตุใดองค์ชายต้องปกป้องหม่อมฉันด้วย?” นางอยากรู้ว่าตนเองเป็นสิ่งใดในใจเขากัน “ข้า............” หลี่หยางนิ่งไปชั่วครู่ เขาไม่รู้จะให้คำตอบอย่างไรกับนางดี นางสำคัญอย่างไรในใจเขากันแน่ “ข้าเห็นเจ้าเป็นสหายของข้า” คำตอบของหลี่

  • รักนี้ ที่มอดไหม้   บทที่ 27 พิธีบูชากระบี่เทพ

    หลี่หยางรู้สึกตัวขึ้นในยามเหม่า หนิงอวี่ยังคงหลับอยู่นางนั่งพิงอยู่กับเสาแท่นบรรทม โดยมีเขาหนุนตักของนางอยู่อย่างนั้น หลี่หยางจ้องมองใบหน้าขาวนวลนั้นอยู่นาน เขาอยากให้นางอยู่ข้าง ๆ เขาเช่นนี้ในทุกวันหลี่หยางช้อนร่างบางไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะวางให้นางนอนบนแท่นบรรทมอย่างสบายตัว มือของเขาลูบไล้ใบหน้านางอยู่นาน สายตาที่จดจ่ออยู่กับริมฝีปากอิ่มสีทับทิมสุกนั้น ทำให้ความกระหายในกายของเขาเริ่มพลุ่งพล่าน จนหลี่หยางต้องรีบลุกออกจากเตียงในทันที “ถงอู่ให้องครักษ์เฝ้าห้องบรรทมไว้ ห้ามผู้ใดเข้าไปหากนางตื่นแล้ว ค่อยส่งนางกลับหออาลักษณ์” หลี่หยางไม่ต้องการให้ใครรบกวนการนอนของนาง หากเพียงผ่านวันนี้ไป หากเขาไม่สามารถรับกระบี่เทพได้ ตำแหน่งรัชทายาทก็ยังคงเป็นของเจี้ยนหยาง นั่นทำให้เขาไม่ใช่คู่แข่งอีกต่อไป หนิงอวี่ก็สามารถกลับมาอยู่ข้างกายเขาได้ หรือหากวันนี้เขารับกระบี่เทพได้ ก็จะไม่มีผู้ใดกล้าทำร้ายเขาอีก นั่นก็ทำให้นางอยู่ข้างกายเขาได้เช่นกัน เช่นนั้นแล้วขอเพียงผ่านวันนี้ไป เขาจะไม่ยอมปล่อยมือนางอีก................................พิธีบูชากระบี่เทพ เริ่มขึ้นตั้งแต่ยามเหม่าเหล่าขุนนาง

  • รักนี้ ที่มอดไหม้   บทที่ 26 วางยา

    หนิงอวี่ยังคงทำหน้าที่เน่ยเหรินผู้ต่ำต้อยได้ดีเช่นทุกวัน พอนานวันเข้านางกำนัลคนอื่น ๆ ต่างเบื่อหน่ายที่จะกลั่นแกล้งนาง ด้วยนางไม่คิดตอบโต้ เป็นเหมือนแม่น้ำที่โยนสิ่งใดลงไปก็ได้แต่จมหาย การใช้ชีวิตในหอซักของหนิงอวี่จึงง่ายขึ้น “เน่ยเหรินหนิงอวี่ ฝ่าบาทเรียกพบที่ห้องทรงอักษร”ฝางกงกง ขันทีข้างกายฮ่องเต้ตามหานางด้วยท่าทีรีบร้อน หนิงอวี่ที่กำลังง่วนอยู่กับการซักอาภรณ์ของเหล่าราชวงศ์ เริ่มมีสีหน้ากังวล ‘เหตุใดจู่ ๆ ฮ่องเต้ถึงเรียกพบนางได้’ ถึงจะหวาดกลัว แต่หนิงอวี่ก็ยอมเดินตามฝางกงกงอย่างว่าง่าย “หม่อมฉันเว่ยหนิงอวี่ถวายพระพรฝ่าบาท” หนิงอวี่ ยอบกายถวายพระพรตามธรรมเนียม พลางสายตานางกลับมองเห็นองค์ชายเฟยหยางที่ยืนอยู่ข้างโต๊ะอักษร นางรู้ได้ทันทีว่าต้องเกี่ยวข้องกับบทความที่นางเขียนแน่ “เจ้าเป็นคนเขียนบทพรรณนาความงามให้องค์ชายเฟยหยางใช่หรือไม่” ฮ่องเต้ตรัสถามโดยไม่แสดงอาการใด ๆ “เพคะ” หนิงอวี่ไม่คิดปิดบัง ด้วยฮ่องเต้ต้องซักถามองค์ชายเฟยหยางอย่างแน่ชัดแล้ว “เจ้าไปเรียนรู้การกล่าวพรรณนาเ

  • รักนี้ ที่มอดไหม้   บทที่ 25 ปกป้อง

    ถงอู่ที่มองเห็นแววตาเจ็บปวดของหลี่หยาง เขาเองไม่เข้าใจความคิดของผู้เป็นนาย “องค์ชายจะไม่บอกความจริงกับนางหรือพ่ะย่ะค่ะ” “นางอยู่ห่างจากข้า จึงจะปลอดภัย” หลี่หยางยังคงมองไปยังจุดที่นางจากไป แม้บัดนี้จะมองไม่เห็นนางแล้วก็ตาม “เหตุใดองค์ชายถึงทำเช่นนั้น” ถงอู่ยังคงไม่เข้าใจหากห่วงใยทำไมไม่เก็บไว้ข้างกาย “การชิงตำแหน่งรัชทายาท ต้องมีผู้ไม่หวังดีก่อความวุ่นวายแน่ หากนางยังอยู่ข้างข้าคนเหล่านั้นต้องใช้นางเป็นเครื่องต่อรอง เช่นนั้นนางจะตกอยู่ในอันตราย โดยข้าเองไม่รู้ว่าคนเหล่านั้นมีกำลังมากเพียงใดจึงไม่กล้าดึงนางเข้ามาเสี่ยง” หลี่หยางที่แม้ไม่พอใจที่นางอยู่ใกล้ชิดกับไป๋มู่เฉิน แต่นั่นก็ใช่ว่าเขาจะโกรธจนขาดสติไม่รับฟังเหตุผลใด ๆ “เจ้าไปสืบมา เหตุการณ์ที่อุทยานเป็นฝีมือใคร” หลี่หยางเชื่อคำพูดของหนิงอวี่ตั้งแต่แรก หากแต่นั่นคือข้ออ้างที่ดีที่จะทำให้ผู้คนคิดว่าเขาทอดทิ้งนางแล้วจริง ๆ………………….หนิงอวี่กลับมายังหอซัก ภายใต้ความประหลาดใจของเน่ยเหรินที่อยู่ตรงนั้น หากแต่นางไม่สนสายตาของผู้ใด

  • รักนี้ ที่มอดไหม้   บทที่ 24 หน้ามืดตามัว

    ราชสำนักซู่หนานบัดนี้เกิดความโกลาหลไม่น้อย ด้วยเรื่องน่าอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นในวันที่องค์ชายหลี่หยางดื่มยาถอนพิษหนิงเซี่ย ทำให้ฝนที่ไม่เคยตกลงผืนแผ่นดินแคว้นซู่หนานมานานถึงห้าปี กลับมาตกหนักอย่างไม่มีเค้าลางมาก่อน ขุนนางจึงแตกออกเป็นสองฝ่ายคือฝ่ายองค์รัชทายาท และฝ่ายที่ต้องการให้แต่งตั้งองค์ชายหลี่หยางขึ้นเป็นรัชทายาทแทน ด้วยเป็นองค์ชายองค์โตและเป็นผู้นำสายฝนคืนสู่แคว้นอีกครั้ง “เช่นนั้นในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า พิธีบูชากระบี่เทพหากองค์ชายหลี่หยางสามารถครองกระบี่เทพได้ ข้าจะยกตำแหน่งรัชทายาทให้กับเขา” ฮ่องเต้ฉินหนานประกาศกลางท้องพระโรง ทำให้เหล่าขุนนางหยุดโต้แย้งกันลงได้..........................ข่าวแต่งตั้งรัชทายาทใหม่แพร่ไปยังหมู่นางกำนัลอย่างรวดเร็ว หลายคนต่างคาดหวังว่าหลี่หยางจะสามารถครองกระบี่เทพได้ ราษฎรจะได้หลุดพ้นจากความทุกข์ยาก ด้วยบัดนี้แคว้นซู่หนานแห้งแล้ง ราษฎรอดอยาก หากไม่มีกระบี่เทพคอยปกป้องเกรงว่าแคว้นซู่หนานจะล่มสลายไปนานแล้ว ความกดดันนี้ส่งผลต่อสภาพจิตใจของหลี่หยางไม่น้อย ด้วยเขาเองไม่ได้คิดอยากจะเป็นรัชทายาท ไม่ได้อยากครองกระบี่เทพเขาเพียงอ

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status