คำว่ารัก...ไม่ควรจำกัดไว้แค่คำว่าเพศ เพราะโลกใบนี้ไม่มีใครเลือกเกิดได้ แต่ทุกคนเลือกที่จะเป็นได้ เหมือนกับเขาสองคน ที่คิดว่า ความรักคือสิ่งที่สวยงามยิ่งกว่าสิ่งใด
view more"กรี๊ด..... พี่แบมสู้ๆ พี่แบมสู้ๆ"
เสียงเชียร์ดังขึ้นมาไม่ขาดสายจากรอบๆสนามบาสเกตบอลของโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง วันนี้มีการแข่งขันกีฬาบาสเกตบอลระดับเขต แน่นอนว่าทีมของโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ต้องเจอกับคู่แข่งจากต่างโรงเรียน
เสียงกรีดร้องที่ดังขึ้นมาไม่ใช่เพราะว่ากีฬามันน่าสนุก หรือน่าสนใจ แต่เป็นตัวนักกีฬาต่างหากที่น่าสนใจ ร่างสูงโปร่งที่มีผิวขาวราวกับน้ำนมกำลังวิ่งเลี้ยงลูกไปใกล้ห่วง
จากนั้นเขาก็กระโดดสูงชู๊ตลูกบาสเข้าไปในห่วงได้อย่างแม่นยำ เสียงกรี๊ดพร้อมกับเสียงปรบมือดังขึ้นเพราะลูกนี้คือลูกตัดสินของการแข่งขันในวันนี้แล้ว
"แบม มึงนี่เก่งว่ะ"
เพื่อนในทีมเดินมาจะตบบ่าหนา แต่ทว่าชายหนุ่มหน้าหล่อกลับเบี่ยงกายหนี ใครๆก็รู้ว่านักบาสหน้าหล่อแถมฝีมือดีคนนี้ไม่ชอบให้ใครมาสัมผัสร่างกาย โดยเฉพาะพวกผู้ชายด้วยกัน
แบม ภูวดลเป็นนักกีฬาและนักเรียนดีเด่นของโรงเรียน สาวๆต่างชื่นชอบและชื่นชม หรือแม้แต่พวกผู้ชายเหมือนกันแบม หรือภูวดล ปรีชารักษ์ก็สามารถทำให้หวั่นไหวไปกับเขาได้
"อืม...มึงก็เก่ง"
ชายหนุ่มเอ่ยออกมาก่อนที่จะเดินไปที่ข้างสนามที่มีเพื่อนสนิทคนสวยรออยู่ ใครๆก็บอกว่าเขาและเธอเป็นแฟนกันแต่ความจริงมันไม่ใช่แบบนั้นเลย
"เหนื่อยไหม"
มือบางยื่นผ้ามาเช็ดหน้าให้เพื่อนสนิท แบม ภูวดลไม่หลบเหมือนกับตอนที่เพื่อนนักบาสในทีมมาตบบ่า เธอเป็นคนเดียวที่สามารถสัมผัสร่างกายเขาได้
เสียงกรี๊ดดังขึ้นเมื่อจีน่า เจนจิราใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดเหงื่อที่บนใบหน้าหล่อเหลาของนักบาสหนุ่มที่สาวๆยกให้เป็นหนุ่มฮอตของรุ่นมัธยมศึกษาปีที่หก
"ฮอตตลอด"
ตั้ม อนุพงษ์ เพื่อนที่สนิทกับแบมอีกคนเอ่ยแซวขึ้น
"ฮอตขนาดนี้อย่าแย่งจีน่าของกูไปจริงๆก็พอ กูแค่ให้ยืมควง"
"อยากโดนตบให้ปากฉีกหรือไง ใครเป็นของนาย ฉันมีแบมคนเดียวก็พอแล้วย่ะ"
จีน่า สาวสวยลูกครึ่งเยอรมันเอ่ยขึ้นก่อนที่จะจูงมือแบม ภูวดลเดินออกจากสนามไปท่ามกลางสายตาอิจฉาจากสาวๆ หนุ่มๆเองก็อิจฉาหนุ่มฮอตของโรงเรียนไม่น้อย
ถ้าแบม ภูวดลเป็นหนุ่มฮอตของโรงเรียน เช่นนั้นฝ่ายหญิงก็คงไม่พ้นจีน่า เจนจิรา ริกเตอร์คนนี้ ตั้ม อนุพงษ์หัวเราะออกมาก่อนที่จะวิ่งตามเพื่อนทั้งสองไป
หนุ่มหล่อต่างโรงเรียนที่มาดูการแข่งขันในวันนี้ด้วยมองตามนักกีฬาที่ทำผลงานได้โดดเด่นในเกมวันนี้ไปอย่างสนใจ ดูๆแล้วเขากับนายหน้าหล่อคนนั้นคงจะได้พบกันในไม่ช้า
สายตาคมมองตามสองหนุ่มกับหนึ่งสาวไปอย่างสนใจ แต่ทว่าคนที่เขาให้ความสนใจและรู้สึกสนใจจริงๆคือไอ้หนุ่มนักกีฬาหน้าหล่อนั่นต่างหากหาใช่สาวสวยที่ดูเหมือนจะเป็นแฟนของนายคนนั้นเหมือนที่เพื่อนเขาเข้าใจ
"ชอบคนนั้นหรอวะ ไม่ต้องหวังหรอก เพราะคนที่เธอเช็ดหน้าให้น่ะ เป็นแฟนของเธอ โรงเรียนนี้ดีว่ะ มีเทวดากับนางฟ้าบนดินเรียนอยู่ด้วย พอกลับไปดูโรงเรียนเรามีแต่มึงนี่แหละมั้งที่หน้าตาดีอยู่คนเดียวหึๆ"
บอส ภาณุเอ่ยออกมาทันทีที่เห็นสายตาของเพื่อนกำลังมองตามสาวสวยที่เพิ่งเดินจับมือกับนักกีฬาตัวเต็งของทีมที่เพิ่งแข่งขันจบไป
แต่บอสหารู้ไม่ว่าคนในสายตาของเพื่อนสนิทคือนักกีฬาที่ชอบทำหน้าเย็นชาคนนั้นต่างหาก เขาอยากได้คนนั้นเป็นเพื่อนและเขาจะต้องได้เป็น
สองหนุ่มสาวเดินจูงมือกันมาจนถึงรถรับส่งของที่บ้าน วันนี้ครอบครัวปรีชารักษ์ส่งคนขับรถมารอรับบุตรชายคนเล็กกลับบ้านและแน่นอนว่าครอบครัวริกเตอร์ที่เป็นทั้งเพื่อนบ้านและเพื่อนสนิทก็ให้บุตรสาวคนโตกลับไปพร้อมกัน
แบม ภูวดลทำหน้าที่เป็นสุภาพบุรุษกับเพื่อนสนิทเสมอ ทั้งสองคนรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ต่างคนต่างรู้ความชอบและตัวตนของกันและกัน
“ร้อนไหมครับคุณหนู”
คนขับรถเอ่ยถามเจ้านายน้อยของบ้าน
ครอบครัวของปรีชารักษ์มีทายาททั้งหมดสามคนคือ บอม ภูวนาถ บี๋ พิชสินีย์ และคนสุดท้ายคือ แบม ภูวดล พี่คนโตเรียนจบปริญญาโทเมื่อปีก่อนจะมีก็แต่พี่คนกลาง และน้องคนเล็กที่ยังเรียนอยู่
“เย็นแล้วครับลุงโชติ”
เด็กหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพ
ถึงลุงโชติจะเป็นเพียงคนขับรถ แบม ภูวดลหรือแม้แต่คนในบ้านก็ไม่เคยมีใครดูถูกแก ทุกอาชีพมีเกียรติและศักดิ์ศรี ตราบใดที่งานนั้นเป็นงานที่ทำอย่างสุจริต
“ลุงโชติขา.... พาจีน่าแวะร้านไอติมหน่อยได้ไหมคะ จีน่าร้อนข้างใน”
ความต้องการของคุณหนูใหญ่ของครอบครัวริกเตอร์ลุงโชติย่อมไม่ขัด ชายวัยกลางคนฉีกยิ้มออกมาเพราะรู้ว่าคุณหนูเล็กก็ไม่ขัดใจหญิงสาวข้างๆเช่นกัน
รถตู้คันหรูขับเคลื่อนมาจอดที่หน้าร้านไอศกรีมที่ตกแต่งได้อย่างน่ารัก มือบางกุมมือหนาให้ลงไปจากรถด้วยกัน แบม ภูวดลไม่อิดออด เขาตามเพื่อนสนิทไปแต่โดยดี และเขาก็รู้ดีว่าทำไมเธอถึงอยากมาร้านนี้ เพราะนอกจากไอศกรีมแล้วคงจะมีเจ้าของร้านนี่แหละที่ดึงดูดให้จีน่าติดอกติดใจ
“สวัสดีค่ะ ไอซ์สวีท ยินดีต้อนรับค่ะ”
เสียงห้าวหวานเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มที่ส่งมาให้สองหนุ่มสาวซึ่งนับได้ว่าเป็นลูกค้าประจำของร้านไอศกรีมร้านนี้เลยก็ว่าได้
“พี่ไอซ์...มีอะไรแนะนำเราสองคนไหมคะ”
เสียงหวานเอ่ยถามพร้อมส่งสายตาวิบวับไปให้รุ่นพี่สาวที่พอเรียนจบก็หันมาเปิดร้านไอศกรีมและขนมหวานตามความชอบส่วนตัว
“เปลี่ยนชุดเฉยๆ หรือว่าอาบน้ำด้วย นานจัง” กาลัญญูเอ่ยถามยิ้มๆ“อะ...ฮึ่ม ยังไม่ได้อาบน้ำ แค่เปลี่ยนชุด เจอหนังสือที่สนใจอ่านยัง” ภูวดลตอบพลางเดินไปนั่งลงข้างๆ“อือ... นี่ไง สนุกดี ที่บ้านไม่มีเล่มนี้พอดีเลย”“จะยืมไปอ่านก็ได้นะ...ไม่หวง”“จริงอะ”นัยน์ตาคมจ้องมองไปในดวงตาดำสนิทของภูวดลราวกับต้องการคำตอบ ชายหนุ่มรีบหลบตาเพื่อนทันที แววตาทะเล้นขี้เล่นของกาลัญญูทำให้เขารู้สึกไม่เป็นตัวเอง“อะ...อื้อ... จริงสิ อยากอ่านก็เอาไปก่อน แต่ต้องคืนนะ เพราะคุณแม่ให้มา”“อืม... ขอบใจนะ จะรีบอ่านแล้วจะรีบเอามาคืน”มือหนาของกาลัญญูยกขึ้นมาจับไหล่กว้างของภูวดล ร่างหนาสะดุ้งพลางหันไปมองผู้ที่ล่วงเกินตนเอง กาลัญญูมองเขาอยู่ก่อนแล้วทำให้สายตาของทั้งคู่สบกันเข้าพอดี สองหัวใจเต้นแรงราวกับกำลังพบเจอกับเรื่องที่ทำให้ตื่นเต้น“รีบทบทวนบทเรียนของวันนี้แล้วแยกย้ายเถอะ วันนี้ฉันรู้สึกเพลียๆ น่ะ”ภูวดลหลบตาพลางลุกจากเก้าอี้แล้วไปหยิบหนังสือเรียนออกมาจากกระเป๋า ก่อนที่จะเดินกลับมานั่งลงที่โซฟาตัวข้างๆ กาลัญญู ใบหน้าหล่อเหลาขาวใสไร้สิวหรือริ้วรอยบนใบหน้าสมกับวัยทำให้คนที่แอบลอบมองยิ้มน้อยๆ ออกมา ตอนที่ภูวดลกำลังใช้
หนึ่งเดือนก่อนปิดเทอมใหญ่กาลัญญูและภูวดลเริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น ทั้งสองหนุ่มได้ตัดสินใจที่จะเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน เพราะแอดมินชันผ่านด้วยกันทั้งคู่ ความสัมพันธ์ของเจนจิรากับภูวดลที่คนภายนอกเข้าใจผิดก็ยังเป็นเช่นเดิม สองหนุ่มสาวยังคงไปกลับโรงเรียนพร้อมกันและไปกินข้าวพร้อมกัน ภูวดลยังคงเอาใจใส่เพื่อนสนิทไม่เปลี่ยนแปลง ยกเว้นเพียงแค่เวลาอ่านหนังสือที่ภูวดลมักจะใช้เวลาร่วมกันกับกาลัญญูมากกว่า“กราฟ นายอ่านหนังสือถึงหน้าไหนแล้ว”“สี่สิบ นายล่ะ”นมรสสตรอเบอร์รี่ถูกวางลงตรงหน้าของภูวดล ใบหน้าหล่อเหลาแหงนขึ้นมองหน้าคนให้ก่อนที่จะเอ่ยคำขอบคุณ“ขอบใจนะ” กาลัญญูส่งยิ้มให้แล้วจึงนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม“หน้าเจ็ดสิบห้าแล้ว” ภูวดลยกนมขึ้นมาดูดพลางตอบคำถามที่เพื่อนถามออกมา“โห... อ่านเร็วเกินไปไหม” กาลัญญูแทบไม่อยากจะเชื่อ แต่เขาก็รู้ว่าภูวดลไม่ใช่คนโกหก อีกฝ่ายเป็นคนพูดจริงทำจริงตั้งแต่ที่ได้รู้จักกันมา“ใกล้สอบแล้วตั้งใจหน่อย” เสียงทุ้มบอกออกมาหลังจากดูดนมที่เพื่อนเอามาฝากจนหมด“คร๊าบ....รู้แล้วคร๊าบ...”น้ำเสียงตอบรับติดเล่นทำให้ภูวดลส่ายหน้าไปมา เขาจะลุกขึ้นเพื่อหยิบขวดนมเปล่าที่เพิ่งด
หลังจากมื้ออาหารเย็นเสร็จเรียบร้อยสามพ่อลูกก็แยกย้ายกลับไปพักผ่อนที่ห้องของแต่ละคน ภูวดลเลือกที่จะไปอาบน้ำก่อนที่จะออกมาทบทวนหนังสือ นานเกือบครึ่งชั่วโมงกว่าเขาจะออกมาจากห้องน้ำ ร่างสูงที่สวมใส่ชุดนอนเรียบร้อยแล้วเดินไปนั่งลงที่โต๊ะอ่านหนังสือของตน เสียงสัญญาณเตือนข้อความเข้าจากสมาร์ทโฟนดังขึ้นทำให้เขาเอื้อมมือไปหยิบมันขึ้นมาเปิดอ่านกราฟ ทำอะไรอยู่แบม เพิ่งอาบน้ำเสร็จ กำลังจะอ่านหนังสือกับฝึกแก้โจทย์กราฟ ขยัน... วันนี้ขอบใจมากนะแบม อืม...กราฟ พรุ่งนี้ไปไหนแบม ว่าจะอ่านหนังสือกราฟ ไม่เบื่อเหรอ... ไปเที่ยวด้วยกันไหมแบม ไม่ข้อความที่ตอบกลับมาอย่างรวดเร็วทำให้กาลัญญูฉีกยิ้มออกมา ถึงไม่ดูก็รู้ว่าอีกฝ่ายจะตอบกลับมาอย่างไรกราฟ ฮ่าๆๆๆแบม ตลกเหรอ อีกไม่ถึงสามเดือนก็จบแล้วนะกราฟ เปล่า แค่หัวเราะคำตอบที่นายให้เราน่ะ ไม่ ฮ่าๆๆแบม มีอะไรอีกไหม ถ้าไม่มีแค่นี้นะ... เสียเวลาอ่านหนังสือเมื่อเห็นว่าเพื่อนไม่เป็นอะไร ไม่ได้เศร้าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ภูวดลจึงพิมพ์ข้อความตัดบท และปิดสมาร์ทโฟนของตนทันที เพราะสำหรับเขาแล้วการเรียนย่อมมาที่หนี่งกาลัญญูที่ถูกเพื่อนเทรีบโทรกลับไป
หลังจากแยกย้ายกันกลับบ้าน ภูวดลก็เอาแต่นั่งยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดีตั้งแต่บนรถแท็กซี่จนถึงบ้านของตน ทั้ง ๆ ที่เรื่องวันนี้ไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีเลยสักนิดที่เพื่อนของเขาถูกรุ่นน้องคนนั้นหลอก แต่ก็ดีแล้วที่กาลัญญูได้รู้ความจริงเร็ว หากกาลัญญูเผลอใจรักรุ่นน้องคนนั้นไปแล้วคงจะทำใจลำบาก“ถึงแล้วครับ”เสียงคนขับแท็กซี่บอกผู้โดยสารหนุ่มที่ดูสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเมื่อมาถึงจุดหมายแต่อีกฝ่ายยังคงนั่งยิ้มอยู่ จนเขาเองก็คิดว่าเด็กหนุ่มคงจะไปออกเดตกับผู้หญิงที่ชอบมา หรือไม่ก็เพิ่งจะสารภาพรักกับคนที่ชอบมาแล้วได้ผลลัพธ์ที่ดีเลยอารมณ์ดีแบบนี้“อ่า...ครับ เท่าไหร่ครับ” สติของภูวดลกลับคืนมาเมื่อได้ยินเสียงของคนขับแท็กซี่ที่แทรกขึ้นมา“สองร้อยสามสิบบาทครับ” เด็กหนุ่มล้วงกระเป๋ากางเกงก่อนที่จะส่งธนบัตรสีแดงให้คนขับรถสามใบ“ไม่ต้องทอนครับ”พูดจบภูวดลก็เปิดประตูลงจากรถแล้วเดินเข้าไปภายในบ้านของตน เขายิ้มแย้มออกมาจนคนรับใช้รู้สึกแปลกใจ เพราะปกติแล้วคุณชายเล็กของบ้านจะเป็นคนที่ค่อนข้างเงียบขรึม ใบหน้าของเขานั้นมักจะแสดงออกมาถึงความเฉยชาตลอดเวลา แต่ทว่าในตอนนี้กลับยิ้มแย้มดูน่ามอง“คุณแบมดูอารมณ์ดีนะวันนี้”
“คบกันได้ปีกว่าแล้วครับ”หนุ่มตรงหน้าตอบออกมาตามตรง เขาไม่รู้ว่าสองหนุ่มตรงหน้านี้เป็นใคร และเป็นอะไรกับแฟนสาว แต่ในเมื่ออีกฝ่ายถามมาเขาก็ตอบไป“ฮ่าๆๆ แคท!! มีแฟนอยู่แล้วแต่มาหลอกคบพี่เนี่ยนะ เธอมันไม่หลายใจ เห็นแก่ได้ไปหน่อยเหรอ”แคทถึงกับหน้าชาที่ถูกอีกฝ่ายต่อว่า เธอบีบมือหนุ่มข้างกายแน่น พอร์ชหันไปมองหน้าแฟนสาวอย่างไม่เข้าใจแล้วตัดสินใจเอ่ยถามออกมา“ที่พี่เขาพูดมาเป็นความจริงเหรอแคท”“ระ...เราขอโทษนะพอร์ช ที่จริงเราไม่ได้คิดจะคบกับพี่เขาจริงๆ หรอก พอดีเราพนันกับเพื่อนเอาไว้ ว่าถ้าเราจีบพี่เขาติด พวกมันจะช่วยทำเวรที่โรงเรียนให้”หญิงสาวขอโทษแฟนหนุ่มเสียงอ่อน พลางบอกเหตุผลที่เธอคบหากับรุ่นพี่หนุ่มออกมา แต่ทว่ากลับไม่ขอโทษคนที่ถูกทำให้กลายเป็นตัวตลกในสายตาคนอื่นสักคำ กาลัญญูถึงกับหน้าชาเมื่อได้รู้ว่าเขากลายเป็นเครื่องมือของเธอ ที่ผ่านมาเขาทำดีกับเธอ ให้เกียรติเธอเพราะคบหากันอยู่ เพราะเป็นแบบนี้ไงเขาถึงไม่อยากคบหากับใคร“ขอให้มีความสุข แล้วก็อย่าไปทำให้ใครเป็นไอ้หน้าโง่อีก เพราะคนอื่นเขาอาจจะไม่ใจดีแบบพี่ก็ได้เข้าใจไว้ด้วยนะแคท ว่าที่ผ่านมาพี่ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอเหมือนกัน แบม!!!เรา
เหลือเวลาในรั้วโรงเรียนมัธยมปลายอีกไม่ถึงสามเดือนแล้ว สำหรับภูวดลและเพื่อนๆ อีกสามเดือนข้างหน้าทุกคนก็จะได้แยกย้ายกันไปทำตามความฝันของแต่ละคน แม้จะมีเรื่องราวมากมายเข้ามาในช่วงแรกๆ แต่ภูวดลก็พยายามก้าวข้ามมันไปเช่นเดียวกับที่เคยผ่านมา เพราะเป้าหมายของเขาคือการได้เป็นศัลยแพทย์ ได้รักษาผู้ป่วยโรคหัวใจตามที่ได้ตั้งใจ“สอบติดสามที่เลย แล้วแบมจะเลือกมหาวิทยาลัยไหนดีล่ะ” เจนจิราเอ่ยถามเพื่อนสนิทออกมา“เราว่าจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศน่ะ”คำตอบของภูวดลทำเอาเพื่อนๆ ในกลุ่มพากันตกใจ เพราะไม่คิดว่าเพื่อนจะแอบไปสอบขอทุนเรียนต่างประเทศเอาไว้ด้วย“อะไรนะ ทำไมต้องไปต่างประเทศด้วยล่ะ เรียนที่ไทยก็ได้ไม่ใช่เหรอ” เจนจิราโวยวายออกมาเพราะไม่เคยรู้มาก่อนว่าภูวดลตัดสินใจจะไปเรียนแพทย์ที่ต่างประเทศ“ที่บอกว่าจะนี่คือยังไม่ได้ตัดสินใจใช่ปะ” อนุพงษ์ถามเพื่อความแน่ใจส่วนกาลัญญูนั้นนั่งฟังเงียบๆ ถึงแม้ภายในใจจะคันยุบยิบและรู้สึกร้อนใจจนอยากจะถามออกมาเหมือนกัน แต่เขาก็ต้องหักห้ามใจเอาไว้ เพราะสังเกตได้ว่าภูวดลนั้นเริ่มทำตัวเย็นชากับเขาตั้งแต่ที่เขาเปิดตัวว่ามีแฟน“อือ... ความจริงอยากเข้ามหาวิทยาลัยรัฐ จบมาก็ทำง
Mga Comments