ถังเหยาบอกกับกู้จื่ออวี่ว่าจะปิดร้านชั่วคราว เพื่อไปถ่ายรายการกับเผิงเหนียน พอกู้จื่ออวี่ได้ยินแบบนั้นก็ถามชื่อรายการ ก่อนตอบตกลงเข้าร่วมรายการนี้ด้วย
หยางอิงกลายเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของเผิงเหนียน เพื่อกันไม่ให้ตงเจียวเข้ามากดดัน เผิงเหนียนเข้าร่วมรายการครั้งนี้ก็เพราะอยาก “กลับเข้าสู่วงการแบบค่อยเป็นค่อยไป” ใช้วิธีปล่อยใจไปกับธรรมชาติ รักษาชื่อเสียงโดยไม่รีบร้อน
ตอนที่รายการยังอยู่ระดับ A เธอเป็นฝ่ายติดต่อไปหาทีมงานเอง แล้วก็เสนอให้พาเด็กใหม่อย่างถังเหยามาเป็น “ผู้นำทาง” ด้วย ตอนนั้นทีมโปรดักชันกำลังปวดหัวกับการหาดาราดังมาดันเรตติ้ง เผิงเหนียนดันมาพร้อมกระแสพอดี แถม ถังเหยายังเป็นเจ้าของร้านตระกูลถังที่โด่งดังอยู่ช่วงนั้น มีความน่าสนใจ และดูน่าจะสร้างความอยากรู้อยากเห็นให้ผู้ชมได้
พอได้สองคนนี้เข้ารายการ ฝั่งของกู้จื่ออวี่ก็เป็นฝ่ายติดต่อมาขอเข้าร่วมด้วยตัวเอง แล้วหลังจากนั้นไม่นาน เหล่านักลงทุนทั้งหลายก็แห่กันเข้ามา จากรายการเกรด A ก็ไ
ถังเหยากวาดตามองระยะห่างระหว่างจุดที่ยามยืนอยู่กับเต็นท์ ก่อนจะพูดขึ้นเรียบๆ“ภายในสามสิบวินาที...พวกคุณจัดการได้กี่คนคะ?”กู้จื่ออวี่ที่ได้ยินคำถามนั้นก็เข้าใจทันที ว่าเธอกำลังวางแผนอะไร ถังเหยาต้องการจะยิงจากระยะไกลเพื่อเก็บศัตรูให้หมดในคราวเดียว แต่การจะทำแบบนั้นได้ มือไม่ใช่แค่ต้องเร็ว...แต่ต้องแม่นยำอย่างถึงที่สุด เพราะถ้าเกิดพลาด หรือปล่อยให้พวกนั้นมีโอกาสโต้กลับ ทุกอย่างจะกลายเป็นหายนะทันที“ผมคาดว่าประมาณ 4 คน”“ผมน่าจะ 3 คน”“อืม ถ้างั้นเรามาพยายามฆ่าทั้งหมดในครั้งเดียวเลยนะคะ”ถังเหยาทิ้งตัวลงกับพื้นอย่างมั่นคง พานท้ายปืนพาดแนบกับไหล่ เธอก้มหน้าเล็กน้อยแล้วแนบตาเข้ากับกล้องเล็ง ปลายนิ้วแตะไกปืนอย่างนิ่งสงบ ลมหายใจเธอชะงักอยู่ชั่วขณะ รอจังหวะเหมาะสมแล้วยิงกระสุนนัดแรก ทั้งสามคนต่างก็กำจัดศัตรูได้สำเร็จ ต้าอว
สถานการณ์ในสนามรบเริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ผู้ชมก็พลอยรู้สึกตึงเครียดไ ปตามทุกย่างก้าวของผู้เข้าแข่งขัน ทันใดนั้น เสียงประกาศจากลำโพงก็ดังขึ้น:“เซี่ยอวิ๋นซูตายแล้ว”ภาพจากกล้องฝั่งเธอฉายชัดทุกจังหวะกู้จื่ออวี่กำลังติดต่อกับถังเหยาทางวิทยุสื่อสาร นัดให้รวมกลุ่มกันที่จุดนัดพบ การกระจายตัวแบบนี้มันอันตรายเกินไป ทั้งสองคนเลยเร่งฝีเท้ามุ่งหน้าไปยังตำแหน่งเป้าหมาย ทันใดนั้นเขาได้ยินเสียงฝีเท้าพร้อมกับเสียงปืนดังขึ้น จึงรีบส่งสัญญาณให้เซี่ยอวิ๋นซูหาที่หลบซ่อน แต่เธอกลับไม่ทำตามคำสั่ง กลับกันเธอก้าวออกมาบังทิศทางกระสุนที่พุ่งตรงมาหาเขาและในวินาทีนั้นกู้จื่ออวี่เบี่ยงตัวหลบได้พอดีเรื่องมันควรจะจบลงแค่นั้น ถ้าเธอฟังคำสั่งเงียบๆ ก็จะไม่มีใครเป็นอะไร แต่สุดท้าย เธอกลับเลือกกระโดดออกมาช่วย แล้วต้องแลกด้วย “ชีวิต” ของตัวเองเซี่ยอวิ๋นซูถอดหมวกออ
ลูกปืนของตงเจียวถึงแม้จะเบี่ยงเป้าหมายไป แต่กลับมีคนถูกยิงจริงๆ แถมไม่ใช่คนที่เธอเล็งไว้ด้วยซ้ำ!จังหวะที่บีบไกปืน ถังเหยากลับตอบสนองเร็วเหลือเชื่อ! กระสุนเพิ่งตกลงพื้นข้างตัว เธอก็พลิกตัวหลบไปทางขวาอย่างช่ำชอง พร้อมยกปืนยิงสวนกลับไปทันทีโดยไม่ลังเลแม้แต่นิดเดียว"ปัง!"การตอบโต้ของถังเหยารวดเร็วและเฉียบขาดมาก จนแม้แต่กลุ่มของห่าวอี้ยังตั้งตัวไม่ทัน ยืนเหวอกันไปเป็นแถวตงเจียวก็ไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าอีกฝ่ายไม่มีทักษะอะไร จนกระทั่งเสียงเตือนในหูฟังบอกว่า “คุณตายแล้ว” พร้อมกับคราบแดงบนหน้าอกซ้ายเครื่องหมายโดนยิงเข้าจังๆเธอจึงจำใจ “นั่งลง” ยอมรับชะตา...เล่นบทศพต่อไป“ผู้เล่น ตงเจียว ตกรอบ!”เสียงจากลำโพงสนามดังลั่น ทำให้ทุกคนตื่นจากภวังค์ เหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นในเวลาแค่ไม่ถึงหนึ่งนาที กลับเปลี่ยนเกมทั้งตาไปหมด ห่าวอี้ได้สติรีบลากเ
แม้ว่าเผิงเหนียนจะเคยอยู่บ้านเดียวกับกู้จื่ออวี่มาก่อน แต่ตอนนั้นทั้งคู่ไม่ได้พูดคุยอะไรกันมาก อีกทั้งนิสัยของเธอก็ค่อนข้างขี้อาย จึงไม่จำเป็นต้องแกล้งแสดงอาการเขินเมื่อเจอกันครั้งแรก เพราะมันเผยออกมาโดยธรรมชาติอยู่แล้ว แถมเธอยังกลัวแฟนคลับของกู้จื่ออวี่กับห่าวอี้อยู่ไม่น้อย จึงพยายามยืนห่างจากทั้งสองคนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ สองคู่ถูกจับมารวมเป็นกลุ่มเดียวกัน ส่วนกลุ่มที่มีสามคนก็ยังคงเดิมภารกิจแรกของวันคือให้เตรียมมื้อกลางวันกันเอง เมื่อแขกรับเชิญได้ยินแบบนั้น สีหน้าทุกคนก็เหมือนจะหมดคำพูด ในป่าจะหาอะไรกินได้ล่ะ? จะให้หาของกินจากใบไม้หรือไง? โชคยังดีที่แต่ละคนแอบพกขนมเล็กๆ น้อยๆ มาด้วย จึงไม่ถึงกับต้องทนหิวในมื้อกลางวันทว่าหลังมื้อนั้นเสบียงทั้งหมดก็เกือบหมดเกลี้ยง เหมือนรายการจงใจวางกับดัก ทำทีให้เตรียมเองแต่สุดท้ายกลายเป็นถูก "ปล้น" ไปซะหมดแล้วมื้อเย็นล่ะ? จะเอาอะไรกิน?หลังจากกินข้าวเสร็จ ทุกคนได้พักช่วงสั้นๆ ตอนกลางวั
บนหน้าจอไลฟ์ที่แต่เดิมแบ่งเป็น 7 ช่อง ตอนนี้ถูกรวมเหลือเพียง4 ช่องเท่านั้น ใบหน้าของเหล่าแขกรับเชิญส่วนใหญ่ก็ปรากฏให้เห็นชัด ยกเว้นห้องอันดับท้ายสุดของถังเหยา ที่ยังคงเห็นได้แค่เพียงเงาหลังของเธอเท่านั้นฝ่ายแอนตี้รีบออกตัวว่าใบหน้าของถังเหยาคงจะ “ระดับทั่วไป” จนต้องหลบกล้องตลอดเวลาเพื่อเลี่ยงคำด่า ขณะที่ชาวเหิงเตี้ยนรีบออกโรงปกป้อง ว่า จ้าของร้านตระกูลถังเป็นสาวน้อยหน้าตางดงามตัวจริงระหว่างที่สองฝ่ายกำลังเปิดศึกโต้เถียงกันแบบไม่มีใครยอมใคร คนที่เดินอยู่ด้านหน้าก็จู่ๆ หยุดกะทันหัน พอมองใกล้ๆ ก็พบว่าในอ้อมแขนของเธอมี “คนเพิ่มมาอีกหนึ่ง” เหล่าผู้ชมต่างงุนงงว่าเกิดอะไรขึ้น จึงรีบย้อนกลับไปดูภาพซ้ำในคลิปถังเหยากำลังเดินอยู่ตามปกติ อยู่ๆ เธอก็เงยหน้าขึ้นมอง และในวินาทีนั้นมีคนหนึ่งร่วงลงมาจากกิ่งไม้ตรงหน้า จึงรีบวิ่งเข้าไปทันเวลาและรับตัวเขาไว้ได้พอดี เหตุการณ์ไม่คาดฝันนี้ทำเอาทั้งทีมถ่ายทำและผู้ชมถึงกับนิ่งงันไปทั้งหน้าจอ
ภายใต้บรรยากาศอันคึกคักและความคาดหวังจากผู้ชม หน้าจอไลฟ์สดปรากฏตัวเลขนับถอยหลัง1 นาที สนามรบระหว่างบ้านแฟนคลับทั้งหลายจึงยอมพับดาบเก็บกระบี่ชั่วคราว หันมาเตรียมใจพักผ่อนชั่วครู่ รอดูรายการก่อนแล้วค่อยเคลียร์กันต่อภายหลังภาพบนหน้าจอค่อยๆ เผยให้เห็นต้นไม้แน่นทึบ แสงแดดสาดผ่านพุ่มใบ เสียงนกร้องก้องไปทั่วขุนเขา ความคิดแรกของผู้ชมคือ ทีมโปรดักชันถ่ายทำในป่าจริงๆ อย่างนั้นหรือ? รายการนี้กล้าปล่อยบรรดาเซเลบดาราแถวหน้าเหล่านี้ ไปดิ้นรนเอาตัวรอดกลางป่าจริงๆ ใช่ไหม?จากนั้นหน้าจอถูกแบ่งออกเป็น 7 ช่องย่อย แสดงภาพของทั้ง7 คน ณ สถานที่ต่างกัน พร้อมคำอธิบายว่าในบรรดาทั้ง7 ใครมาถึงก่อนจะได้เข้าไปก่อน หากเจออีกคนก่อนจะได้จับกลุ่มกัน แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ3 คนและ4 คนรายการให้ผู้เข้าร่วมแต่ละคนพกเป้มาหนึ่งใบ ของข้างในแล้วแต่จะเตรียม ใครมีแรงแบกไหวแค่ไหนก็พกมาเท่านั้น แต่ทุกคนก็พอรู้ว่าต้องเดินทางเยอะจึงเตรียมมาแค่พอใช้ยอดคนดูไหลเข้าร