เจี้ยนไห่ตื่นขึ้นมาตอนเช้า เขาขยับตัวลงไปนั่งบนรถเข็น รอจั่วหมิงอยู่นานก็ไม่เห็นมาสักที จึงเข็นรถออกไปดูข้างนอก ระหว่างที่เข็นรถอยู่ ล้อรถข้างนึงเหยียบหินก้อนใหญ่จนรถพลิกคว่ำ เขาตกลงมาจากรถเข็น เจี้ยนไห่พยายามจะปีนกลับไปนั่งรถเข็นใหม่เขายืนขึ้นโดยไม่รู้ตัว จั่วหมิงที่ตื่นสายเร่งรีบถืออ่างล้างหน้ามา สายตามองเห็นเจี้ยนไห่ยืนอยู่ อ่างล้างหน้าหลุดมือ โครม
" ท่าน ท่านอ๋อง"
เขารีบวิ่งเข้าไปหาเจี้ยนไห่
" ท่านอ๋องนี่ท่าน นี่ นี่ท่านยืนได้แล้ว"
เจี้ยนไห่ที่กำลังจับรถเข็นพลิกขึ้นก็หยุดชะงัก ก้มมองดูตัวเอง เห็นขาสองข้างยืนเหยียบพื้นดิน เขาตกใจแทบไม่อยากเชื่อ
" ข้า ข้ายืนได้แล้ว"
จั่วหมิงพยักหน้ายิ้มทั้งน้ำตา เจี้ยนไห่ค่อยๆก้าวขาเดินทีละก้าว ทีละก้าว เขาหัวเราะทั้งน้ำตา
" ข้าเดินได้ ในที่สุดข้าก็เดินได้แล้ว จั่วหมิงข้าไม่ใช่คนพิการอีกต่อไปแล้วข้าเดินได้"
" พะยะค่ะข้าเห็นแล้ว ท่านอ๋องเดินได้จริงๆข้าจะรีบไปบอกพระชายา"
จั่วหมิงรีบวิ่งไปที่ห้องของซ่งเนี่ยน ตั้งแต่ซ่งเนี่ยนแต่งงานกับเจี้ยนไห่ก็มีแต่เรื่องดีๆเกิดขึ้น ฮ่องเต้ให้คนสร้างตำหนักใหม่ขึ้นมากว้างขวางใหญ่โต ยังให้นางกำนัลและขันทีรับใช้เพิ่มมาอีกหลายสิบคน อาหารการกินก็เลิศรสอุดมสมบูรณ์ทุกมื้อ ผ้าแพรพรรณของใช้ต่างๆก็ส่งมาให้ไม่ขาด ลู่กุ้ยเหรินที่ไม่มีใครคบค้าสมาคมด้วย แต่ละวันตำหนักไม่เคยว่าง เดี๋ยวคนนั้นไปคนนี้มา หลังๆก็ถูกเชิญไปดื่มน้ำชาตำหนักนั้นตำหนักนี้ ตอนนี้ยังมีเรื่องมหัศจรรย์เกิดขึ้นอีก นั่นคือเจี้ยนอ๋องของเขาเดินได้แล้ว จั่วหมิงไม่เคยดีใจขนาดนี้มาก่อนเลย ดีใจจนน้ำหูน้ำตาไหล แต่พอมาถึงห้องของซ่งเนี่ยนนางกำนัลกลับขวางเขาไว้
" ข้ามีเรื่องน่ายินดีจะบอกพระชายา"
" พระชายาบรรทมอยู่ห้ามใครรบกวน ท่านกลับไปก่อนเถอะ"
" พระชายายังไม่ตื่นรึ แต่นี่สายมากแล้วนะ เอ่อ ข้าแค่อยากมาบอกเรื่องน่ายินดีกับพระชายา พวกเจ้าช่วยไปปลุกนางหน่อยสิ"
" ไม่ได้"
เจียวจูเดินออกมาจากข้างใน
"เจียวจูท่านอ๋อง ท่านอ๋องของข้า"
" ท่านอ๋องของเจ้าเป็นอะไรหรือว่าเกิดเรื่องร้ายอะไรขึ้น"
" ไม่ ไม่ใช่เรื่องร้าย แต่เป็นเรื่องดี"
" เรื่องดีแล้วเจ้าร้องไห้ทำไม ร้องอย่างกับใครตาย"
จั่วหมิงรีบเช็ดน้ำตา
" ท่านอ๋องเดินได้แล้ว"
" งั้นรึ อืม ข้าจะบอกพระชายาให้ เจ้ากลับไปได้แล้ว"
" ดะเดี๋ยวก่อน นี่เจ้าไม่ตื่นเต้นรึ"
" จะตื่นเต้นทำไม"
" ก็ ก็ท่านอ๋องเดินได้"
" ข้ารู้อยู่แล้วว่าท่านอ๋องจะเดินได้ หากพระชายาลงมือรักษาใครแล้ว คนผู้นั้นไม่ว่าจะมีสภาพเป็นอย่างไรแม้จะใกล้ตายก็หายดี"
จั่วหมิงมองดูเจียวจูที่เดินเข้าไปข้างใน เขาทำได้แค่รีบกลับไปหาเจี้ยนไห่ เจี้ยนไห่ดีใจที่ตัวเองเดินได้แล้ว ก็เดินกลับไปกลับมาไม่หยุด จากที่เดินก็เปลี่ยนมาเป็นวิ่ง ลู่หนิงกลับจวนมาขันทีรีบรายงาน
" ลู่กุ้ยเหรินท่านกลับมาแล้ว มีเรื่องน่ายินดีพะยะค่ะ ท่านอ๋องทรงเดินได้แล้ว"
" เจ้าว่าอะไรนะ"
" ท่านอ๋องทรงเดินได้แล้ว ไม่ใช่แค่เดินนะพะยะค่ะยังวิ่งได้อีกด้วย"
" ตอนนี้ลูกข้าอยู่ที่ใด"
" ในสวนพะยะค่ะ"
ลู่หนิงรีบเดินไปที่สวน ภาพตรงหน้าทำนางไม่อยากเชื่อสายตา บุตรชายของนางที่พิการเดินไม่ได้ตั้งแต่เด็ก บัดนี้กำลังวิ่งกลับไปกลับมา
" เจี้ยนไห่"
เจี้ยนไห่เห็นมารดาก็วิ่งเข้าไปสวมกอด
" เสด็จแม่ข้าเดินได้แล้ว ขาสองข้างของข้าใช้งานได้แล้วท่านเห็นหรือไม่ ข้ายังวิ่งได้อีกด้วย"
" เห็นแล้วแม่เห็นแล้ว ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะเกิดเรื่องอัศจรรย์ขึ้น เนี่ยนเนี่ยนนางเก่งจริงๆที่ช่วยรักษาเจ้าได้ นางเป็นดาวนำโชคของเรา เจ้าต้องทำดีกับนางให้มากๆนะรู้ไหม อย่าให้เหมือนกับแม่ทัพฉี ที่พอนางช่วยรักษาตาให้เขาหายดีแล้ว กลับทรยศต่อความรักที่นางมีไปเลือกหญิงอื่นมาแทนที่นาง"
" ข้ารู้แล้ว"
"ว่าแต่นางอยู่ไหน แล้วนางรู้เรื่องนี้หรือยัง"
" ข้าไปบอกนางแล้วแต่นางกำนัลของนางบอกว่านางยังไม่ตื่น ข้าก็เลยไม่อยากรบกวนแต่ได้บอกกับเจียวจูไว้แล้ว"
" อืมถ้าอย่างงั้นอย่าไปรบกวนนางเลย ให้นางพักผ่อนเถอะ"
ยามโหย่ว เจี้ยนไห่มายืนอยู่หน้าตำหนักของซ่งเนี่ยน ตั้งแต่เช้าจนพลบค่ำเขายังไม่เห็นหน้าของนางเลย เรื่องที่เขาเดินได้ล่วงรู้ไปทั่วทั้งตำหนัก แม้แต่คนอื่นในวังหลวงต่างก็รู้กันหมด ยังมาแสดงความยินดีกันไม่ขาดสายแล้ว เหตุใดนางถึงไม่มายินดีกับเขา
" คาระวะท่านอ๋อง"
" เนี่ยนเนี่ยนหล่ะ"
" พระชายาทรงพักผ่อนอยู่รับสั่งไม่ให้รบกวน"
เจียวจูเดินเข้ามาบอก เจี้ยนไห่ขมวดคิ้วมองเข้าไปด้านใน รู้สึกว่าผิดปกติแต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา ยอมหันหลังกลับไป ผ่านไปสามวันเขาก็ยังไม่เห็นแม้เงาของนาง จึงมาอีก คราวนี้เขาไม่สนคำทัดทานของนางกำนัลที่ไม่ให้เขาเข้าไปข้างใน เมื่อไปถึงก็เห็นเจียวจูกำลังหวีผมแต่งตัวให้นางอยู่
" ท่านอ๋องคิดถึงข้าถึงกับทนไม่ไหวเลยรึ ถึงได้มาข้าถึงที่นี่"
เจี้ยนไห่จ้องมองหน้าของซ่งเนี่ยน แม้แต่งแต้มเครื่องสำอางค์แต่เขาก็ยังมองเห็นความเหนื่อยล้าอยู่ใบหน้าแสนหวานของนาง
" เจ้าไม่สบายรึ ข้าไม่เห็นเจ้าออกไปข้างนอกเอาแต่เก็บตัวอยู่แต่ในตำหนัก"
นางส่ายหน้าส่งยิ้มบางๆให้
" ข้าสบายดี"
หลังจากทำพิธีดึงหางตัวเองมาปรุงยาวิเศษให้เขา นางต้องใช้พลังมาก หลังทำพิธีเสร็จก็หมดแรงต้องนอนหลับพักผ่อนเพื่อฟื้นฟูพลัง 3วันถึงจะกลับมาเหมือนเดิม เรียกวิธีนี้ว่าจำศีล นางจึงสั่งไม่ให้ใครมารบกวน
" ข้า ข้าขอบคุณเจ้ามากที่ทำให้ข้าเดินได้"
" อืม"
เห็นนางไม่พูดต่อ ไม่สนใจเขาแต่สนใจเลือกเครื่องประดับ เขาจึงเดินไปหยิบปิ่นสีฟ้าอันหนึ่งขึ้นมา
" ข้าว่าปิ่นอันนี้เหมาะกับเจ้า ข้าจะปักให้เจ้านะ"
เจียวจูถอยออกมาปล่อยให้ทั้งสองได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง เจี้ยนไห่ค่อยๆปักปิ่นลงไปบนผมของนาง
" คืนนี้มีงานเทศกาลเจ้าอยากไปเดินเล่นหรือไม่"
" อืม"
" งั้น งั้นไปกันเลยไหม"
นางพยักหน้าส่งยิ้มให้ เจี้ยนไห่ยื่นมืออกมานางวางมือลงบนมือหนาใหญ่ให้เขาจับจูงเดินออกไป
งานเทศกาลมีผู้คนมาร่วมงานกันครึกครื้นหนุ่มสาวต่างเดินจูงมือกันเดินเล่น เจี้ยนไห่มองดูรอบตัว บรรยากาศอบอวนไปด้วยความสุข นี่เป็นครั้งแรกของเขาที่ได้มาเที่ยวงานเทศกาล เมื่อต้องอยู่ท่ามกลางผู้คนเยอะๆแบบนี้เขาก็อดประหม่าไม่ได้ แต่มือเล็กๆนุ่มนิ่มในอุ้งมือของเขา กระชับสอดนิ้วประสานกับนิ้วของเขาแน่น จูงเขาก้าวไปข้างหน้า พาเขาแวะร้านนั้นร้านนี้ แป๊บเดียวก็ได้ของกินมาเพียบ จั่วหมิงกับเจียวจูเดินตามหลังช่วยถือของให้
" เหนื่อยหรือยัง อยากนั่งพักไหม"
" ไม่ หรือว่าท่านเหนื่อยแล้ว"
" เปล่า"
" ข้าลืมไปว่าท่านพึ่งเดินได้ ยังไม่แข็งแรงดีไปนั่งจิบชากินอะไรอร่อยๆข้างบนนู้นดีกว่าจะได้ชมวิวด้วย"
นางชี้ไปที่โรงเตี๊ยมชั้นบน ก่อนจะพาเขาเดินเข้าโรงเตี๊ยม พอขึ้นไปชั้นบนก็ปรากฎว่าโต๊ะเต็มหมด
"ขออภัยขอรับ โต๊ะเต็มหมดแล้ว วันนี้เป็นงานเทศกาลลูกค้าเลยจองล่วงหน้ากันเต็มทั้งสามชั้นเลย อีกเดี๋ยวจะมีการจุดพลุดอกไม้ไฟด้วย คงจะไม่มีที่ว่างแล้วขออภัยจริงๆขอรับ"
" ในเมื่อเต็มหมดแล้วงั้นเราไปกันเถอะ"
ซ่งเนี่ยนมองดูเจี้ยนไห่ที่เดินคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้มกลับมา เขานั่งลงอยู่ตรงข้ามกับนางรินเหล้าใส่จอกยกดื่มไม่พูดไม่จา นางเพียงมองเขาเฉยๆไม่มีคำพูดคำถาม สักพักก็ลุกขึ้นเดินออกไป" ท่านอ๋องท่านหายไปไหนมา ปล่อยให้พระชายานั่งอยู่ตามลำพัง"" นางอยู่คนเดียวที่ไหน เจียวจูก็อยู่เจ้าก็อยู่คนอื่นๆก็อยู่เยอะแยะไปหมด"" โธ่ท่านอ๋องมันเหมือนกันซะที่ไหน ท่านมองดูคนอื่นสิ ใครเขาก็นั่งอยู่เคียงข้างภรรยาทั้งนั้น"เจี้ยนไห่มองดูรอบๆ เห็นจริงอย่างที่จั่วหมิงว่า เขาพูดแก้ตัว" ข้าปวดท้องเลยไปปลดทุกข์ แต่ข้าก็รีบไปรีบมาแล้วนี่ไง"สายตาของเจี้ยนไห่มองเห็นซู่อิงจื่อเดินมาพอดี นางส่งยิ้มให้ เจี้ยนไห่ถึงกับทำจอกเหล้าหลุดมือ จั่วหมิงมองตามสายตาเห็นทั้งสองส่งสายตาให้กันจึงพูดเตือนสติ" ท่านอ๋อง ท่านมีชายาแล้วนะ ท่านอย่าลืมสิว่าที่ท่านเดินได้ก็เป็นเพราะพระชายา ท่านจะทรยศนางไม่ได้นา"" ข้าก็ไม่ได้คิดจะทรยศนางนี่"" แต่เมื่อกี้ข้าเห็นท่านกับสตรีผู้นั้นส่งสายตาให้กัน"" ข้าแค่ดีใจที่ได้พบนาง"" นี่ท่าน"" เจ้าอย่าคิดไปไกล นางคือสหายในวัยเด็กคนเดียวของข้า ซู่อิงจื่อ ข้าดีใจที่ได้พบนางในตอนที่ร่างกายของข้าเป็นปกติก็เท่
" พวกเจ้าไม่รู้อะไร เขาคือเจี้ยนอ๋อง ว่ากันว่าพิการตั้งแต่เกิดพึ่งจะเดินได้ นี่เป็นครั้งแรกของเขาเลยนะที่เข้าร่วมงาน"" ดูท่าทางเขาผอมบางแบบนั้น ไม่รู้จับธนูไหวรึเปล่า ข้าว่าคงยิงธนูไม่เป็นด้วยแหละถึงได้ล่าสัตว์ไม่ได้สักตัว"" ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าก็ว่าเหมือนเจ้านั่นแหละ"เสียงนินทาจากคนรอบข้างทำให้เจี้ยนไห่โกรธจนพูดเสียงดัง" ใครว่าข้าล่าสัตว์ไม่ได้สักตัว นั่นพวกเจ้าแหกตาดูซะ"เจี้ยนไห่ชี้ไปที่สัตว์ที่เขามาหาได้ ทุกคนมองตามก็มีท่าทีตกใจ เห็นสีหน้าไม่อยากเชื่อของทุกคน เขาจึงหันไปดู นอกจากเก้ง5ตัวแล้วยังมีหมูป่าโผล่มาจากไหนไม่รู้อีก3ตัวไก่ป่าตัวใหญ่อีก5ตัว เอ๊ะ เขาจำได้ว่ามีแต่เก้ง5ตัวนี่ แล้วหมูป่ากับไก่ป่าโผล่มาจากไหน เขาเดินไปกระซิบถามทหารที่ติดตาม" หมูกับไก่มาจากไหน"" ข้าเองก็ไม่ทราบ หันไปคุยกับคนอื่นแป๊บเดียวกลับมาอีกทีพวกมันก็มานอนกองรวมกันอยู่ตรงนี้แล้ว"เจี้ยนไห่เห็นหานซิ่นขมวดคิ้วทำหน้าไม่เชื่อจ้องมองดูสัตว์ที่เขาล่ามาได้ เขาจึงหยิบกระต่ายโยนคืนไปให้" เอากระต่ายของท่านคืนไป ข้าไม่อยากติดหนี้บุญคุณใคร"" ทุกคนมารวมกันทางนี้ อีกสักครู่จะมีการนับจำนวนสัตว์ที่ล่ามาได้และจะประกาศผล"หาน
" ไม่จริงข้าเห็นนางเดินออกมาจากกระโจมพร้อมสาวใช้ เลยตามนางมาแล้วนางก็"" ก็อะไรหรือขอรับ"หากเขาพูดไปว่าเห็นซ่งเนี่ยนกลายเป็นจิ้งจอก ก็คงไม่มีใครเชื่อแน่ จนกว่าจะพิสูจน์ได้" ช่างเถอะ ไม่มีอะไร"" ก่อนข้าจะมา ข้าเห็นพระชายาออกมาจากกระโจมพร้อมเจี้ยนอ๋อง ยังถามข้าอยู่เลยว่าเกิดอะไรขึ้น"" เจ้าว่าอะไรนะ"" เสียงร้องของท่านดังมาก ปลุกทุกคนให้ตื่นคนอื่นๆต่างก็ออกมานอกกระโจกันหมด"" ข้าถามว่าเจ้าเห็นนางออกมาจากกระโจมพร้อมเจี้ยนอ๋องจริงๆใช่ไหม"" ใช่ ใช่ขอรับ"ฉีเส้าเฟินส่ายหน้า เป็นไปไม่ได้ หรือว่าเขาจะตาฝาด หรือจะเกิดภาพหลอน ไม่ ไม่ใช่เขาเห็นนางกลายเป็นจิ้งจอกจริงๆ จิ้งจอกที่มีหางสีขาวปุกปุย7หาง แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งสงสัยเคยได้ยินแต่จิ้งจอกมี9หาง แล้วทำไมนางถึงมีแค่7หางนะ" ท่านแม่ทัพ ท่านแม่ทัพขอรับ"" พวกเจ้าเคยได้ยินเรื่องจิ้งจอก7หางไหม"พวกทหารพากันส่ายหน้า" พวกข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน"" ไม่ใช่จิ้งจอกมีเก้าหางหรือขอรับ"ฉีเส้าเฟินพยายาครุ่นคิด แต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกว่าที่เขาเห็นตกลงคือจิ้งจอกอะไรกันแน่ หางของมันหายไปไหนถึงไม่ครบเก้าใช้เวลาเดินทางเพียงสองวันก็เข้าเขตแคว้นเยี่ยน มีแม่ทัพนา
" พระชายาเพคะ"เจียวจูทำจมูกฟุดฟิด ซ่งเนี่ยนฟุดฟิดตามก่อนจะมองไปที่ป่าฝั่งตรงข้าม แล้วว่ายน้ำขึ้นไปบนฝั่ง จิ้งจอกนับสิบตัวพากันออกมาหานาง กลายร่างเป็นมนุษย์" นายหญิง เป็นท่านจริงๆด้วย""พวกข้าตามหาท่านมาตั้งนาน"" แต่ว่าทำไมท่านถึงได้"" เรื่องนี้หากเล่ามันยาวนัก"" ตอนนี้นายหญิงอยู่ในสถานะพระชายาของเจี้ยนอ๋อง"บริวารจิ้งจอกต่างมองหน้ากัน" เอาเป็นว่าข้าปลอดภัยดี อยู่ดีมีสุข พวกเจ้าไม่ต้องเป็นห่วง อาถูข้าแต่งตั้งให้เจ้าดูแลจิ้งจอกทุกตัวในป่าไผ่แทนข้าไปก่อน"" น้อมรับคำสั่ง นายหญิง แล้วท่านจะกลับไปเมื่อไหร่"" ข้าบอกไม่ได้ "เฉียวม่านแอบดูอยู่หลังต้นไม้ด้วยความหวาดกลัว ซ่งเนี่ยนพูดคุยกับพวกจิ้งจอกพวกนั้นอย่างสนิทสนม หรือว่านางกับจิ้งจอกพวกนั้นจะเป็นพวกเดียวกัน ใช่ ต้องใช่แน่ๆ ซ่งเนี่ยนคือปีศาจจิ้งจอก นางขยับเข้าไปใกล้พยายามเงี่ยหูฟัง ว่าพวกนั้นพูดคุยอะไรกัน แกรบ เสียงเหยียบกิ่งไม้แม้ไกลแต่หูของซ่งเนี่ยนและจิ้งจอกทุกตัวได้ยินชัดเจน เฉียวม่านรีบซ่อนตัวหลังต้นไม้ " ข้าจัดการเอง"เจียวจูพูดแล้วซัดพลังฝ่ามือสีทองใส่ต้นไม้ งูนับสิบก็ร่วงหล่นลงมา " กรี๊ดดดดด"เฉียวม่านกรีดร้องด้วยความตกใจก
ซ่งเนี่ยนจ้องมองเจี้ยนไห่ที่พยายามหลบหน้านาง เขาก้มหน้าตักข้าวใส่ปาก" ท่านอ๋องเหตุใดตาของท่านถึงได้ดำคล้ำราวอดนอนเช่นนั้นเล่า"เจี้ยนไห่หยุดชะงัก ยิ่งก้มหน้าเข้าไปอีก เขาจะบอกนางได้อย่างไรว่าเมื่อคืนเขาอ่านตำราวสันต์ทั้งคืน เจียวจูมองหน้าเจี้ยนไห่แม้ว่าเขาจะพยายามก้มหน้าหลบ แต่ยังมองเห็นใต้ตาดำคล้ำอยู่ดี" เจ้าไปทำอะไรมา"" ปะเปล่าเสด็จแม่ ข้าไม่ได้ทำอะไร แค่เมื่อคืนอากาศร้อนไปหน่อยเลยนอนไม่ค่อยหลับ"" อย่างนี้นี่เอง จริงสิเจ้ากับเนี่ยนเนี่ยนก็แต่งงานมาได้ครึ่งค่อนปีแล้ว ขาของเจ้าก็เดินได้แล้ว พวกเจ้าก็ควรรีบเข้าหอกัน จะได้มีหลานให้ข้าอุ้มเร็วๆ"เจี้ยนไห่ถึงกับมือไม้อ่อนทำตะเกียบหลุดมือ" เสด็จแม่เรื่องนี้ข้า"" เสด็จแม่ขาของเขาพึ่งจะเดินได้ไม่นาน รอให้เขาแข็งแรงดีกว่านี้ก่อน เรื่องลูกข้าไม่รีบ"ซ่งเนี่ยนเห็นท่าทีลำบากใจของเจี้ยนไห่จึงพูดแทน ลู่หนิงมองดูทั้งสองสลับไปมาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ แต่ก็ไม่ได้พูดออกมา" ถ้าอย่างงั้นพวกเจ้าก็ควรย้ายไปอยู่ห้องเดียวกัน เป็นสามีภรรยาไม่ควรแยกกันอยู่"เห็นเจี้ยนไห่ไม่พูดอะไรแต่ดูจากสีหน้าซ่งเนี่ยนก็รู้ว่าเขาไม่เต็มใจ นางจึงพูดขึ้นมา" ข้านอนค
ซ่งเนี่ยนกำลังจะเข้านอนก็ได้ยินเสียงเอะอะดังมาจากด้านนอก จึงเปิดประตูออกไปดู" มีอะไรกัน"นางกำนัลพยายามขัดขวางไม่ให้ฉีเส้าเฟินเข้ามา"พระชายาท่านแม่ทัพเขา" " เนี่ยนเนี่ยน ข้ามีเรื่องขอร้องเจ้า"" ปล่อยให้เขาเข้ามา"" เนี่ยนเนี่ยน"" เจ้าเรียกข้าว่าอะไร"" พระชายา ข้ามีเรื่องขอให้ท่านช่วย ตอนนี้ม่านม่านนางตกเลือดหมดสติ ท่านช่วยไปดูนางหน่อยได้ไหม ข้ารู้ว่าท่านช่วยนางได้ ได้โปรดเถอะ ข้าขอร้อง"" ข้าไม่ใช่หมอตำแย ไม่เคยทำคลอด ท่านควรไปหาหมอตำแยถึงจะถูกไม่ก็หมอหลวง"" ทั้งหมอตำแยหมอหลวงก็ไปหมดแล้ว แต่ก็บอกว่าหมดหนทาง ตอนนี้นางยังเลือดไหลไม่หยุด เด็กในท้องก็ไม่มีสัญญาณชีพแล้วข้าขอร้องได้โปรดช่วยนางด้วย"ฉีเส้าเฟินคุกเข่าลงตรงหน้า" ขอเพียงท่านช่วยนางกับลูกให้ปลอดภัยจะให้ข้าทำอะไรข้ายอมหมดทุกอย่าง"เห็นซ่งเนี่ยนเงียบเฉยเขาก็ร้อนใจพูดขึ้นมา"หรือจะให้ข้าลดสถานะนางเป็นรอง แล้วแต่งท่านเข้ามาเป็นฮูหยินเอกก็ย่อมได้"" เจ้าว่าอะไรนะ"ซ่งเนี่ยนไม่คิดว่าเขาจะกล้าพูดเช่นนี้ออกมา" ข้ารู้ว่าท่านยังรักข้าอยู่ ก็แหงหล่ะ ท่านกับข้ารักกันมาตั้งหลายปี อยู่ดีๆจะเลิกรักง่ายๆได้ยังไง ข้าเข้าใจที่ท่านแต่งงาน