แชร์

บทที่ 4

ผู้เขียน: ปลาทองหางเดียว
โจวเฉาหลี่ได้ฟัง ก็ไม่ได้ขมวดคิ้วแม้แต่น้อย “รู้แล้ว”

ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้ใส่ใจอารมณ์และความโกรธของชิงอี้เลย

ป้าจางก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เมื่อก่อนก็เคยมีเรื่องอาละวาดแบบนี้ แต่สุดท้ายคุณนายก็เป็นฝ่ายกลับมาเอาใจคุณผู้ชายเสมอ

ส่วนหนานหนานที่ไม่ได้แช่น้ำนมอุ่นที่พอใจ ในที่สุดก็เป็นเพราะหร่วนหนิงถังมาคอยปลอบ บอกว่าวันมะรืนซึ่งเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์จะพาเขาไปดูงานนิทรรศการวิทยาการป้องกันประเทศด้านการบินและอวกาศ เขาถึงได้สงบลง

เมื่อก่อนคุณแม่ไม่เคยอนุญาตให้เขาไปในที่สูง ๆ เลย แม้แต่สวนสนุกก็ไม่เคยพาไป

เขารู้สึกว่าคุณแม่ก็แค่คนจน ไม่มีเงินเท่าน้าหนิงถัง

ไม่อย่างนั้นคงไม่ให้ปากการาคาถูกเป็นของขวัญวันเกิด เค้กก็เป็นเค้กหน้าตาขี้เหร่ที่ทำเอง

แต่พอน้าหนิงถังลงมือ ก็พาเขาไปดูเครื่องบินและเครื่องบินรบของจริงเลย!

เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น

หนานหนานตื่นนอนแล้วกระโดดโลดเต้นไปกินอาหารเช้า

อาหารเช้าวันนี้คือโจ๊กทะเล เมื่อคืนเขาตั้งใจบอกให้ป้าจางทำให้เป็นพิเศษ ตอนที่คุณแม่อยู่ ไม่เคยให้เขากินอาหารทะเลเลย มีแต่จะคอยควบคุมเขา

ตอนนี้เขาอยากกินอะไรก็ได้กิน!

ชิงอี้ตื่นแต่เช้า เตรียมอาหารที่มีประโยชน์ให้จือจือ แล้วส่งเธอไปโรงเรียน

ทันทีที่เธอก้าวเท้าจากไป หนานหนานก็กระโดดลงมาจากรถมายบัค

“สุดสัปดาห์นี้น้าหนิงถังจะพาฉันไปดูเครื่องบินรบของจริง! แล้วยังซื้อดินน้ำมันของเล่นให้ฉันเยอะแยะเลย เอาไปแบ่งให้เพื่อน ๆ ทุกคนเล่นด้วย”

หนานหนานอวดอย่างภาคภูมิใจ “นี่มันดีกว่าตัวต่อห่วย ๆ ที่เธอให้ฉันตั้งเยอะ! ถ้าเธออยากเล่นด้วย ก็มาอ้อนวอนฉันสิ อ้อนวอนให้น้าหนิงถังพาเธอไปด้วย”

“เป็นไงล่ะ? ไม่มีน้าหนิงถังกับพ่อ แม่ของเธอทั้งชาติก็ไม่มีทางพาเธอไปเห็นเครื่องบินรบของจริงได้หรอก!”

ดวงตาทั้งสองข้างของจือจือแดงก่ำ ปลายจมูกแสบขึ้นมา ของเล่นเหล่านั้นเธอทำเองกับมือทั้งหมด คุณอาชอบพี่ชาย ขอแค่เธอทำให้พี่ชายชอบได้ บางทีคุณอาอาจจะยอมให้เธอเรียกว่าพ่อสักครั้งก็ได้

จือจือจ้องมองเขา “พี่ พี่ไม่ชอบของเล่นที่ฉันให้ก็ช่างเถอะ แต่พี่จะพูดถึงแม่แบบนั้นได้ยังไง?”

“แม่ก็เป็นแค่ยัยบ้านนอก มีแต่เธอเท่านั้นแหละที่ชอบ! ต่อไปนี้เธอกับแม่ไม่ต้องกลับบ้านแล้วนะ บ้านตระกูลโจวไม่ต้อนรับพวกเธอ! แล้วฉันก็กำลังจะมีแม่ใหม่แล้วด้วย! เมื่อวานน้าหนิงถังเป็นคนกล่อมฉันนอน!”

หลังจากที่ชิงอี้ส่งจือจือเสร็จแล้ว ท้องฟ้าก็มืดครึ้ม ดูท่าว่าฝนกำลังจะตก

เธอเงยหน้าขึ้นเห็นตัวอักษรขนาดใหญ่ที่โดดเด่นบนป้ายโฆษณาที่ป้ายรถเมล์ฝั่งตรงข้าม [งานนิทรรศการบินแห่งประเทศหวา ยินดีต้อนรับ…]

ชิงอี้ชะงักไปครู่หนึ่ง นึกขึ้นได้ว่าในชาติที่แล้วช่วงเวลานี้ งานนิทรรศการวิทยาการป้องกันประเทศด้านการบินและอวกาศของเมืองเป่ยกำลังจะเริ่มขึ้น

งานนิทรรศการบินเมืองเป่ยเป็นหนึ่งในห้างานนิทรรศการบินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก จัดขึ้นทุก ๆ สองปี และในสุดสัปดาห์นี้เป็นครั้งที่สิบห้าพอดี เนื้อหาการจัดแสดงมีความหลากหลายครอบคลุมทุกมิติทั้งทางบก ทะเล อากาศ อวกาศ ไฟฟ้า และเครือข่าย รวมถึงผลิตภัณฑ์ด้านการบินและอวกาศต่าง ๆ เช่น เครื่องบิน ขีปนาวุธ โดรน และดาวเทียม

ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการแสดงขนาดใหญ่ของเครื่องบินรบขนาดใหญ่หลากหลายประเภทอีกด้วย

ชิงอี้จ้องมองโปสเตอร์นั้นอย่างเหม่อลอย...

ถ้าหากตอนนั้นเธอไม่ยอมแพ้ ไม่เลือกที่จะกลับบ้านไปเป็นแม่บ้าน ในงานนิทรรศการครั้งนี้ ก็อาจจะมีเครื่องบินที่เธอออกแบบอยู่ด้วยก็ได้

บางทีเธออาจจะได้เป็นเจ้าหน้าที่ทางการคอยบรรยายเกี่ยวกับขั้นตอนการออกแบบและเรื่องราวเบื้องหลังก็เป็นได้

วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสร้างชาติ นี่คือเกียรติยศอันสูงสุด

ชิงอี้ละสายตาออกมา แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาตรวจสอบข้อมูลการจองตั๋วงานนิทรรศการบินบนเว็บไซต์ทางการ ตั๋วทั้งหมดขายหมดเกลี้ยงแล้ว

ทันทีที่เธอเก็บโทรศัพท์มือถือ พายุฝนก็โหมกระหน่ำลงมาอย่างรุนแรง

ตอนเช้าเป็นช่วงเวลาเร่งด่วนที่ผู้คนส่งลูกไปโรงเรียนและไปทำงาน หน้าโรงเรียนยิ่งรถติดจนขยับไปไหนไม่ได้ จะเรียกแท็กซี่ก็เรียกไม่ได้เลย

ชิงอี้ฝ่าสายฝนที่ตกหนักเข้าไปในร้านกาแฟที่ไม่ไกลนัก

ในจังหวะที่ผลักประตูกระจกเข้าไป ก็ชนเข้ากับชายคนหนึ่งที่กำลังจะออกมาพอดี กาแฟร้อน ๆ หกราดตัวเขาเต็ม ๆ เสื้อเชิ้ตสีขาวเปรอะเปื้อนคราบอย่างเห็นได้ชัด

“ขอโทษค่ะ ฉันจะชดใช้ให้คุณนะคะ” ชิงอี้รีบเงยหน้าขึ้นขอโทษ

ลู่จินอันเห็นว่าเป็นชิงอี้ ก็ชะงักไปเล็กน้อย วินาทีต่อมา บนใบหน้าของเขาก็ปรากฏรอยยิ้ม “รุ่นน้องชิง ตอนทดสอบห้องจำลองการบินที่สำนักงานการบินและอวกาศ เธอก็สาดสารเคมีใส่ฉันเต็มตัว ตอนนี้มาสาดกาแฟ ไม่เปลี่ยนไปเลยนะ”

ชิงอี้งงไปครู่หนึ่ง ไม่คิดว่าจะมาเจอลู่จินอันที่นี่

ลู่จินอันเป็นรุ่นพี่ของเธอ และยังเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์ที่ปรึกษาระดับปริญญาเอกคนเดียวกัน

ตอนนี้อาจารย์เฮ่อเป็นผู้อำนวยการของสถาบันห้าหนึ่งหนึ่ง เป็นขาใหญ่ในวงการการบินและอวกาศของประเทศหวา มีคนมากมายที่อยากจะให้ท่านเป็นอาจารย์ที่ปรึกษา

ชิงอี้มองดูเสื้อผ้าของเขา “รุ่นพี่ก็ไม่เปลี่ยนไปเลย ยังปากหวานเหมือนเดิม”

“เสื้อของรุ่นพี่ คงจะซักไม่ออกแล้วล่ะ ฉันชดใช้ให้แล้วกัน”

เขายิ้ม “ไม่เป็นไรหรอก หลังจากเธอแต่งงานไป เราก็ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ อุตส่าห์ได้เจอกันโดยบังเอิญ คุยกันหน่อยไหม?”

“เดิมทีฉันก็ตั้งใจจะโทรหารุ่นพี่อยู่แล้ว”

ลู่จินอันเลิกคิ้ว “งั้นไปคุยกันที่สถาบันแล้วกัน ฉันจะได้เปลี่ยนเสื้อผ้าด้วย”

ชิงอี้นั่งอยู่ในห้องรับรองสำหรับแขกภายนอกของสถาบันวิจัย

เธอไม่ได้มาที่นี่นานมากแล้ว

มองดูทิวทัศน์ที่คุ้นเคยในทุกหนทุกแห่ง ในหัวก็เต็มไปด้วยความทรงจำในตอนนั้น ทุกฉากทุกตอนยังคงแจ่มชัดอยู่ในความทรงจำ

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอมานั่งในห้องรับรองนี้ในฐานะแขก ในใจรู้สึกสับสนปนเปไปหมด

ลู่จินอันเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วกลับมา นั่งลงตรงข้ามกับเธอโดยตรง มองเธอแล้วยิ้ม “เป็นไงบ้าง? รู้สึกว่าที่นี่เปลี่ยนไปเยอะไหม?”

“วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว สถาบันวิจัยก็เปลี่ยนไปเยอะจริง ๆ”

“อยากจะคุยอะไรกับฉันเหรอ? คนที่เคยบอกว่าจะขอเป็นวีรสตรีแห่งวงการอวกาศ อยู่ ๆ ก็ทิ้งการเรียนกับการวิจัยกลับไปแต่งงานเลี้ยงลูก แล้วก็ไม่ติดต่อพวกเราอีกเลย...”

ชิงอี้ก้มหน้าลง ในใจรู้สึกผิด ไม่กล้าสู้หน้าพวกเขา และติดค้างคำขอโทษพวกเขามาโดยตลอด

“ฉันได้ยินมาว่าเครื่องฟื้นฟูระบบนิเวศชิงหลวนเอกซ์เซเว่นประสบความสำเร็จแล้ว และจะปรากฏในงานนิทรรศการบินสุดสัปดาห์นี้” ชิงอี้เม้มริมฝีปากเบา ๆ “ฉันควรจะขอโทษพวกพี่ ตอนนั้นฉันจากไปอย่างกะทันหัน”

“ข่าวของเธอก็ไวดีเหมือนกันนะ” ลู่จินอันมองเธอแล้วยิ้ม “ตอนนั้นที่เธอถอนตัวออกไป โครงการของพวกเราทุกคนก็หยุดชะงักไปพักใหญ่เลย ไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้”

“ฉัน...” ในใจของชิงอี้รู้สึกผิดอย่างบอกไม่ถูก “ขอโทษค่ะ”

นอกจากการขอโทษแล้ว เธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรอีก

เพราะความเอาแต่ใจและการถอนตัวของเธอ ทำให้ทุกคนต้องเสียเวลาไปนานขนาดนั้นเลยเหรอ...

ตอนนี้ความเร็วในการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนั้นเร็วเกินไป ถึงแม้ว่าเธอจะอยู่บ้านเป็นแม่บ้าน แต่เรื่องที่เกี่ยวกับวิชาชีพ เธอก็ยังคงศึกษาอย่างลึกซึ้งมาโดยตลอด เธอเชื่อมั่นว่าหากได้กลับเข้ามาในวงการอีกครั้ง เธอจะไม่ล้าหลังอย่างแน่นอน

“จริง ๆ แล้วทุกคนไม่ได้อยากได้ยินคำขอโทษของเธอหรอก เธอควรจะแสดงออกด้วยการกระทำมากกว่า”

ลู่จินอันคาดหวังว่าชิงอี้จะสามารถกลับมาได้ ที่นี่ต่างหากคือที่ที่เธอจะเฉิดฉายได้อย่างเต็มที่

“ฉันขอดูที่งานนิทรรศการบินด้วยตาตัวเองได้ไหมคะ?”

“จริง ๆ แล้วการออกแบบชิงหลวนเธอก็ทำเสร็จไปกว่าครึ่งแล้ว พวกเราหลายคนใช้เวลาหลายปี ถึงจะเก็บงานที่เหลือจนเสร็จสมบูรณ์ได้จริง ๆ เธอเป็นส่วนหนึ่งของกิจการการบินและอวกาศของประเทศเรา ไม่ใช่ของครอบครัว”

“ทำไมถึงอยากดูล่ะ? ตัดสินใจจะกลับมาแล้วเหรอ?” ลู่จินอันมองชิงอี้ รอคอยคำตอบ

เขาวางแก้วในมือลง “ตั๋วงานนิทรรศการบินหาซื้อยากนะ ถ้าเธออยากดูจริง ๆ ก็โทรหาฉัน เดี๋ยวฉันพาเข้าไปเอง”

ชิงอี้เม้มปาก พยักหน้า “อืม ฉันก็คิดว่าฉันเป็นส่วนหนึ่งของกิจการการบินและอวกาศเหมือนกันค่ะ”

เธอสนใจท้องฟ้าและจักรวาลมาตั้งแต่เด็ก

ความปรารถนาของเธอไม่ใช่แค่การออกแบบเครื่องบิน แต่ความปรารถนาของเธอคือดวงดาวและท้องทะเลอันกว้างใหญ่

ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่เธอได้สูญเสียความเป็นตัวเองไป

ตอนงานนิทรรศการบินในชาติที่แล้ว เธอพาจือจืออยู่ที่บ้านช่วยหนานหนานทำการบ้านที่ยังทำไม่เสร็จ ตอนแรกคิดว่าโจวเฉาหลี่พาหนานหนานไปโรงพยาบาล แต่ต่อมาเธอก็เห็นพวกเขาอยู่กับหร่วนหนิงถังที่งานนิทรรศการบิน

จนถึงทุกวันนี้ เธอยังจำได้อย่างชัดเจนถึงแววตาอิจฉาของจือจือที่มองดูหนานหนานและคนอื่น ๆ ได้ดูการแสดงของเครื่องบินรบด้วยตาตัวเอง แต่เธอก็อดกลั้นเอาไว้ ไม่ได้พูดออกมา และไม่ได้โวยวาย

ในฐานะแม่คนหนึ่ง เธอก็ล้มเหลว

ตอนนี้ เธอจะไม่ยอมให้จือจือต้องอิจฉาหนานหนานอีกต่อไป

กลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง เธอจะต้องค้นพบตัวเองให้เจอ และยิ่งต้องเป็นที่พึ่งและความภาคภูมิใจของจือจือให้ได้

ถึงแม้ว่าตอนไปเจออาจารย์แล้วอาจารย์จะไม่รับเธอ เธอก็สามารถไปดูงานแสดงได้ ไปพบปะกับเพื่อนร่วมชั้นเรียนเก่า ๆ หรือขาใหญ่ในวงการก็ยังดี

อย่างน้อยก็ให้คนในวงการรู้ว่า ยังมีคนอย่างเธออยู่คนหนึ่ง...

ลู่จินอันยิ้มอย่างอ่อนโยน รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง “สถาบันวิจัยมีแผนการวิจัยใหม่ ต้องการหัวหน้าวิศวกร และต้องการกำลังคน แต่ก็ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้เลย”

ชิงอี้รู้ว่า นี่คือการชักชวนของเขา

ตำแหน่งหัวหน้าวิศวกรนั้นไม่กล้ารับ แต่ถ้าเริ่มจากพื้นฐานที่สุด เธอทำได้

“ฉันจะส่งเรซูเม่ไปค่ะ”

ลู่จินอันจ้องมองชิงอี้ แล้วพูดต่อ “แต่เรามีข้อกำหนดว่า ผู้สมัครจะต้องมีสถานะการสมรสที่มั่นคง”

ชิงอี้ชะงักไปครู่หนึ่ง เมื่อก่อนไม่มีกฎข้อนี้ ตอนนี้กลับมีขึ้นมา เป็นเพราะมีเธอเป็นบทเรียนมาก่อนหรือเปล่า?

“ฉันกำลังจะหย่าค่ะ”

ลู่จินอันตะลึงไปชั่วขณะ ตอนนั้นที่เธอทุ่มเทไล่ตามความสุขอย่างไม่ลังเล ยอมทิ้งอาชีพการงานทุกอย่าง ไม่คิดเลยว่าตอนนี้เธอจะตัดสินใจแบบนี้...

ในตอนนั้นเอง โทรศัพท์ของชิงอี้ก็ดังขึ้นอย่างไม่ถูกที่ถูกเวลา

“คุณแม่ของโจวอวิ๋นเหย่คะ จู่ ๆ โจวอวิ๋นเหย่ก็มีผื่นแดงขึ้นเต็มตัว แล้วยังปวดท้องด้วย ตอนนี้ต้องส่งโรงพยาบาลแล้วค่ะ คุณมาที่นี่หน่อยนะคะ”
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • วันแห่ศพคุณไม่ว่าง พอฉันเกิดใหม่แล้วได้ดีคุณกลับคลั่ง   บทที่ 100

    หร่วนหนิงถังโทรหาโจวเฉาหลี่ เล่าความลำบากที่ตนเจออยู่ในตอนนี้“ฉันแค่อยากเข้าไปแลกเปลี่ยนความรู้ ครั้งแรกที่ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าทำงานในจิ่วคงเพราะพี่สะใภ้ก็ช่างเถอะค่ะ แต่ตอนนี้...พี่สะใภ้ทำแบบนี้ จะไม่ยุติธรรมเกินไปแล้ว”ผู้ชายที่ปลายสายเงียบไปไม่กี่วินาที ดูเหมือนกำลังยุ่งอยู่ ผ่านไปสักพัก เขาจึงตอบอย่างเรียบเฉย “ไม่ต้องกังวล เดี๋ยวฉันจัดการเอง”......วันนี้ชิงอี้ทำงานล่วงเวลา จิ่วคงเทคโนโลยีเปิดตัวทดสอบระบบใหม่ ซึ่งประมวลผลข้อมูลอยู่ตลอด จนดึกมากแล้วเธอก็ยังไม่กลับบ้านในห้องเช่าจือจืออยู่บ้านคนเดียวอย่างว่าง่ายและกำลังทำการบ้านอยู่ เพียงแต่ล้วนเป็นโจทย์คณิตศาสตร์โอลิมปิกทั้งหมดการบ้านพวกนั้นของโรงเรียนอนุบาล สำหรับเธอในตอนนี้ ง่ายเกินไปจริง ๆเมื่อเสียงกริ่งประตูดังขึ้น จือจือก็ชะงักไปเธอวางปากกาในมือลง เดินไปที่ประตูโดยไม่ได้เปิดทันที แต่ดูที่กล้องวงจรปิดหน้าประตูเมื่อเห็นผู้ชายที่หน้าประตู มือของจือจือก็กำแน่น หัวใจเต้นรัวโจวเฉาหลี่สวมชุดสีดำยืนอยู่หน้าประตู สีหน้าเย็นชาเฉยเมยเมื่อเห็นพ่อ จือจือก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นในใจคุณพ่อมาตามคุณแม่กลับบ้านแล้วเหรอ

  • วันแห่ศพคุณไม่ว่าง พอฉันเกิดใหม่แล้วได้ดีคุณกลับคลั่ง   บทที่ 99

    ชิงอี้เล่าเรื่องโปรเจกต์ให้ลู่จินอันฟังคร่าว ๆลู่จินอันฟังแล้ว วางตะเกียบในมือลง และพูดด้วยรอยยิ้ม “งมเข็มในมหาสมุทร แบบนี้เธอติดต่อนักลงทุนไม่ได้หรอก”แน่นอนว่าชิงอี้รู้ว่าติดต่อไม่ได้ ถ้าอยากติดต่อ ก็ต้องไปนัดที่บริษัท แต่ตอนนี้เธอก็ไม่อยากอยู่ว่าง ๆ ตอนที่ว่างจากงาน การหาข้อมูลเพิ่มเติมย่อมไม่ผิดแน่นอน“ฉันเห็นข่าวว่า เดือนหน้าทางมณฑลจะจัดประชุมผู้ประกอบการ โดยส่วนใหญ่จะพูดคุยถึงการวางแผนและนวัตกรรมสำหรับอุตสาหกรรมเก่าและใหม่ ถ้าแผนงานเป็นไปได้ ก็จะได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากภาครัฐ”“ฉันอยากไปดู แต่คงไม่ได้โควตานั้นมาแน่ ๆ”โควตานี้ได้มายากมาก แม้ว่าคุณจะเป็นผู้ประกอบการที่ยอดเยี่ยม ก็ไม่แน่ว่าจะได้โควตาเข้าร่วมลู่จินอันยกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้มจาง ๆ “แน่นอน หนทางนี้เธอเลิกคิดไปได้เลย”ตอนนี้พวกเขายังไม่มีคุณสมบัติ“การประชุมของมณฑลครั้งนี้ ฉันช่วยเธอไม่ได้ แต่มะรืนนี้เธอสามารถเข้าร่วมงานประชุมสุดยอดอุตสาหกรรมของลู่กรุ๊ปได้”ชิงอี้ชะงักไปลู่กรุ๊ปเป็นเจ้าใหญ่ในวงการการบินและอวกาศ มีอิทธิพลอย่างมากในอุตสาหกรรมพวกเขาจะเชิญผู้ประกอบการมืออาชีพ ผู้เชี่ยวชาญรวมถึงนักวิชา

  • วันแห่ศพคุณไม่ว่าง พอฉันเกิดใหม่แล้วได้ดีคุณกลับคลั่ง   บทที่ 98

    “ไปส่งพวกเขาลงเขาก่อนเถอะ” โจวเฉาหลี่พูดอย่างเรียบเฉยชิงอี้ย่อมรู้ดีว่าโจวเฉาหลี่จะไม่ทำให้หร่วนหนิงถังเสียหน้า เมื่อเธอพูดแล้ว ส่วนใหญ่เขาก็จะพยักหน้าเห็นด้วยหลีหนานพยักหน้าหลังจากเขาขึ้นรถ ก็เอ่ยถาม “คุณนาย จะไปที่ไหนครับ?”ชิงอี้พิงพนักเก้าอี้ “โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด”หลีหนานชะงักไปก่อน แต่ก็ไม่สะดวกจะซักถามเรื่องส่วนตัวต่อ จึงได้แต่ขับรถไปโรงพยาบาลส่วนรถที่เสีย ถึงเวลาก็ให้คนฝ่ายซ่อมบำรุงมาลากไปก็พอแล้วชิงอี้ไม่ทำให้ตัวเองลำบากอยู่แล้ว แน่นอนว่ามีรถก็ต้องนั่งสิหลี่หว่านฮุ่ยคิดไม่ถึงว่าชิงอี้จะขึ้นรถไปอย่างไม่ลังเลขนาดนั้นหลังจากถึงโรงพยาบาล หลีหนานก็โทรหาโจวเฉาหลี่เพื่อรายงานว่าพาพวกเธอไปส่งที่โรงพยาบาลแล้วผู้ชายปลายสายไม่ได้มีท่าทีตอบสนองอะไรมากนัก แค่พูดอย่างนิ่งเฉยมาก “รู้แล้ว”หลังจากหมอจัดยาแก้ลมแดดส่วนหนึ่งให้ชิงอี้ ก็บอกให้เธอกลับไปพักผ่อนให้เพียงพอหลี่หว่านฮุ่ยมองเธอ “ช่วงนี้ลูกผอมลงเรื่อย ๆ ร่างกายก็อ่อนแอ ลูกต้องดูแลตัวเองให้ดี ๆ นะ เป็นเพราะโจวเฉาหลี่...”“ไม่ใช่ค่ะ” ชิงอี้พูด “แค่ช่วงนี้หนูยุ่งเกินไป เลยไม่ได้ดูแลร่างกาย”เป็นเพราะเธอยุ่งเกินไปจริ

  • วันแห่ศพคุณไม่ว่าง พอฉันเกิดใหม่แล้วได้ดีคุณกลับคลั่ง   บทที่ 97

    หลังออกมาจากห้องน้ำชา หลี่หว่านฮุ่ยโมโหจนหน้าอกอัดแน่นไปด้วยความโกรธ วันนี้ถูกดูถูกอย่างโจ่งแจ้งแต่กลับพูดอะไรไม่ได้เลย“แม่ไม่คิดเลยว่าโจวเฉาหลี่จะทำกับลูกขนาดนี้ ถ้ารู้อย่างนี้ แม่จะไม่ยอมให้ลูกใช้ชีวิตที่เลวร้ายแบบนั้นแน่!”สีหน้าของชิงอี้ซีดลงเรื่อย ๆ และมีเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ผุดขึ้นบนหน้าผาก เธอส่ายหน้า น้ำเสียงอ่อนแรงอยู่หลายส่วน “ไม่เป็นไรค่ะ มันผ่านไปแล้ว”คนเราต้องมองไปข้างหน้าแดดตอนบ่ายแรงมากหลี่หว่านฮุ่ยเห็นสภาพเธอไม่ค่อยดี ก็เป็นห่วง “ลูกจะเป็นลมแดดหรือเปล่า?”เธอขมวดคิ้ว “ยืนรอแม่ตรงนี้แป๊บหนึ่งนะ แม่จะไปเอารถมาพาลูกไปโรงพยาบาล”รถจอดอยู่ในลานจอดรถไม่ไกลนัก แต่ถ้าเดินไปก็จะโดนแดดชิงอี้รู้สึกเพียงมึนหัวตาลาย พิงกรอบประตูแล้วพยักหน้าเล็กน้อยหลี่หว่านฮุ่ยแยกไปขับรถมาตอนนี้บาดแผลที่ข้อมือรู้สึกแสบเล็กน้อย เมื่อคืนเธอใช้เวลาไม่น้อยในการทำคำอธิบายแบบโมเดลสามมิติ ข้อมืออาจจะใช้งานหนักเกินไป ชิงอี้ยกมือขึ้นดูผ้าพันแผลที่ข้อมือ มีรอยเลือดซึมออกมาเล็กน้อยเธอขมวดคิ้วอย่างเงียบ ๆ คิดว่าอีกเดี๋ยวจะไปโรงพยาบาลอีกครั้งสถานการณ์เมื่อคืนทำให้เธอจำต้องฝืนร่างกายตัวเองแม้วั

  • วันแห่ศพคุณไม่ว่าง พอฉันเกิดใหม่แล้วได้ดีคุณกลับคลั่ง   บทที่ 96

    “จริงเหรอคะ?” หร่วนหนิงถังยิ้มขึ้นมา “ถ้างั้นครั้งหน้าจะไปอุดหนุนกิจการของประธานเหอแน่นอนค่ะ”ตอนนี้เสี่ยวเฉินรีบจัดที่นั่งให้พวกเขา หร่วนหนิงถังเข้าไปนั่งติดกับโจวเฉาหลี่ทันทีตอนนี้ประธานเหอจึงเพิ่งมองหลี่หว่านฮุ่ย “เชิญเลย ประธานหลี่เชิญนั่ง คนนี้คือ...”เขามองชิงอี้พร้อมกับถามชิงอี้ยิ้มเล็กน้อย “สวัสดีค่ะประธานเหอ ฉันเป็นเลขาของประธานหลี่ ชิงอี้ค่ะ”ประธานเหอชะงักไป และมองชิงอี้เพิ่มอีกครั้งเห็นได้ชัดว่าเมื่อครู่หลี่หว่านฮุ่ยกำลังจะแนะนำบางอย่าง แต่กลับถูกเธอขัดจังหวะทันทีประธานเหออดไม่ได้ที่จะให้ความสนใจเธอมากหน่อย การคุยเรื่องงาน ไม่เหมาะจะอ้างความเป็นญาติ อย่างน้อยไม่ว่าระดับความสามารถจะเป็นยังไง ทัศนคติในการเจรจาของคนคนนี้ก็เป็นมืออาชีพและเหมาะสมหลังจากนั้นทุกคนก็นั่งลงหร่วนหนิงถังแนะนำให้ทั้งสองบริษัทคุยเรื่องแผนงานพร้อมกันชิงอี้เห็นด้วยจ้าวเถายิ้มเยาะ คิดว่าชิงอี้กับหลี่หว่านฮุ่ยไม่เจียมตัวจริง ๆตอนนี้บริษัทของหลี่หว่านฮุ่ยก็ถือว่าเป็นบริษัทที่เหลือแต่เปลือกแห่งหนึ่ง พวกพนักงานล้วนกำลังจะหนีหายไปหมดแล้ว ส่วนฝ่ายวางแผนก็แทบจะเหลืออยู่ไม่กี่คนเธอไม่เชื่อว่

  • วันแห่ศพคุณไม่ว่าง พอฉันเกิดใหม่แล้วได้ดีคุณกลับคลั่ง   บทที่ 95

    ชิงอี้หลุบตาลงมองแขนของโจวเฉาหลี่ที่หร่วนหนิงถังควงอยู่ ท่าทางแบบนี้คือการประกาศอย่างเปิดเผยว่าเธอคือผู้หญิงที่อยู่ข้างกายโจวเฉาหลี่เธอหัวเราะเสียงเย็นชา แค่รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้น่าสนใจดี ในสถานการณ์ที่มีแค่พวกเขาสามคนก็เรียกเธอว่าพี่สะใภ้ แต่พออยู่ต่อหน้าคนมากมาย ก็เรียกเธอว่าคุณชิง เล่ห์เหลี่ยมเล็ก ๆ น้อย ๆ ของพวกขี้แอ๊บถูกเธอเข้าใจอย่างทะลุปรุโปร่งแล้วสีหน้าของโจวเฉาหลี่ยังคงสงบและเฉยเมยเหมือนเดิม แต่กับหร่วนหนิงถังกลับตามใจและเอาใจใส่หลี่หว่านฮุ่ยขมวดคิ้ว เห็นท่าทีรักกันของพวกเขา สีหน้าของเธอก็เย็นชาอย่างถึงที่สุดเธอรู้จักความรู้สึกแบบนี้ คาดไม่ถึงว่าลูกสาวของตัวเองจะต้องเผชิญเรื่องแบบนี้อีกเธอกำลังจะเดินไปข้างหน้าเพื่อพูดบางอย่าง ก็ถูกชิงอี้ดึงไว้ชิงอี้โน้มตัวไปกระซิบข้างหูแม่ ด้วยน้ำเสียงสงบ “จำเป้าหมายที่เรามาในวันนี้ไว้ค่ะ อย่าสร้างความขัดแย้งที่ไม่จำเป็น ทิ้งความประทับใจที่ดีไว้ให้นักลงทุน”หร่วนหนิงถังตั้งใจยั่วยุอย่างชัดเจน อยากให้พวกเขาแสดงท่าทีไม่เหมาะสมจนขายหน้าตอนนี้เธอไม่สนใจแล้ว ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นยังไง ก็ไม่สามารถทำให้เธอรู้สึกอะไรได้อีกแล้วชิงอี้ไม่สน

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status