Share

บทที่ 8

last update Last Updated: 2025-05-07 15:28:11

“ถ้าเช่นนั้น ก็เชิญองค์ชายไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้เพื่อทูลฝ่าบาทเพื่อขอเปลี่ยนตัวคู่หมั้นให้เป็นตามที่ท่านต้องการเถิด”เหวิ่นจือหยูเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แต่แววตากลับเต็มไปด้วยความเย็นชา

“ขะ ข้าต้องการใครเจ้าหมายความว่าเยี่ยงไร”องค์ชายหลี่หยวนเจ๋อขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัยทันที

วาดรวีลอบถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะพูดต่อ “อ้าว ทำไมองค์ชายถึงต้องแสร้งทำเป็นไม่รู้ แบบนี้น้องลี่หยาของหม่อมฉันก็จะเสียใจแย่เลยนะเพคะ อุตส่าห์วาดหวังไว้ อีกอย่างก็เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าสตรีที่พระองค์ต้องการเป็นคู่หมั้นคงไม่ใช่หม่อมฉัน แต่เป็นน้องลี่หยาของหม่อมฉันไม่ใช่หรือ”

“พี่จือหยู ทำไมท่านพูดเช่นนี้ น้องไม่ได้จะแย่งองค์ชายจากพี่ น้องเสียใจ” เหวิ่นลี่หยาซึ่งยืนอยู่ข้างๆ ทำเสียงสั่นเครือ เหมือนจะร้องไห้ แต่ทว่าดวงตาของนางกลับฉายแววพึงพอใจลึกๆ ในใจนั้นแอบดีใจที่เหวิ่นจือหยูผู้หญิงที่เก็บอารมณ์ไม่ได้ ประกาศออกมาชัดเจนต่อหน้าองค์ชายว่าไม่อยากหมั้นหมาย

คำพูดนั้นทำให้องค์ชายหลี่หยวนเจ๋อถึงกับนิ่งงัน ก่อนที่เหวิ่นจือหยูจะกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงประชดประชัน “เชิญองค์ชายกับน้องลี่หยาของข้าไปครองคู่กันเถิด”

“เหวิ่นจือหยู เจ้า ผู้หญิงร้ายกาจ” องค์ชายหลี่หยวนเจ๋อทนดูไม่ได้ แค่นเสียงออกมาพร้อมสีหน้าไม่พอใจ ที่เหวิ่นจือหยูพูดทำร้ายจิตใจของคนอื่นแม้กระทั่งน้องสาวว่าเป็นลูกของอนุภรรยาจนอีกคนร้องไห้

“อ่อ และอีกอย่างท่านมาหาหม่อมฉันถึงที่นี่ทำไมมีธุระอันใดไม่รู้ แต่ถ้าไม่มีธุระอะไรสำคัญ ขอเชิญท่านกับคู่รักของท่านออกไปจากห้องของหม่อมฉันด้วยเพคะ มันรบกวนเวลาพักผ่อนของหม่อมฉัน ชิงชิง ช่วยส่งแขกที” จบคำ วาดรวีก็หมุนตัวกลับไป ก่อนที่จะนั่งลงเก้าอี้อย่างสบายใจ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่แม้แต่จะหันไปมองแขกสองคนที่ทำที่ทีไม่พอใจ

องค์ชายหลี่หยวนเจ๋อกลับไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เขาเดินเข้าไปใกล้ก่อนจะพูดบอกกับร่างบางที่นั่งจิบน้ำชาและอ่านหนังสือโดยไม่สนใจใครด้วยน้ำเสียงกดต่ำ

“จำไว้นะ เหวิ่นจือหยู เจ้าคิดหรือว่าจะปฏิเสธข้าได้ง่ายๆ ถ้าตอนนี้สิ่งที่เจ้าต้องการคือการหลุดพ้นจากการหมั้นหมายครั้งนี้ ข้าก็จะทำในสิ่งที่เจ้าคาดไม่ถึง ทรมานเจ้าด้วยการเร่งวันหมั้นและแต่งงานกับข้าให้เร็วขึ้นกว่าเดิม เตรียมตัวเตรียมใจของเจ้าไว้ให้ดี” พูดจบ เขาก็เดินจากไปทันที โดยไม่สนใจสีหน้าของใครทั้งสิ้น

ส่วนคนก่อเหตุอย่างเหวิ่นลี่หยาได้แต่เคียดแค้นในใจ ทั้งๆที่กำลังจะดีอยู่แล้วเชียว ทำเรื่องมันกับตาลปัตรกลับเป็นฝ่ายองค์ชายที่ไม่ยอมถอนหมั้นเสียเอง

วาดรวีได้แต่มองตามทุกคนที่เดินออกไป ทำไมนางจะไม่รู้ว่าทุกอย่างนี่เป็นแผนของลี่หยาน้องสาวที่แสนดีของนางวางไว้เพื่อที่จะให้องค์ชายมาเห็นฉากสำคัญนี้

คนเย็นชา เย่อหยิ่งอย่างองค์ชายหลี่หยวนเจ๋อพอโดนบอกเลิกไม่สนใจเท่านั้นแหละ มีหรือคนอย่างเขาจะยอม โดยเฉพาะคนที่บอกเลิกเขานั้นเป็นเหวิ่นจือหยูคนร้ายกาจที่องค์ชายไม่เคยชอบเลย

วันหมั้นหมายถูกกำหนดให้มาถึงเร็วกว่าที่วาดรวีคาดไว้ นางรู้สึกทั้งกังวลและสับสน ไม่ใช่แค่เพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับองค์ชายหลี่หยวนเจ๋อในวันก่อน แต่เพราะวาดรวีที่อยู่ในร่างนี้รู้สึกไม่มั่นใจว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร

“หากข้าไม่สามารถเปลี่ยนใจองค์ชายได้ ข้าจะทำอย่างไร” นางคิดเงียบๆ ระหว่างที่บ่าวไพร่ช่วยกันแต่งตัว เหวิ่นจือถูกจัดเตรียมด้วยชุดหมั้นสุดวิจิตรงดงาม ผ้าปักลายมังกรและหงส์คู่ในสีแดงสดเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นสิริมงคลที่แฝงไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์ตามธรรมเนียม แต่ใจของเหวิ่นจือหยูกลับเต้นระรัวอย่างไม่เคยเป็น

ขณะที่เหวิ่นจือหยูนั่งเงียบๆ ท่ามกลางการจัดเตรียมการแต่งตัว ไม่นาน เหวิ่นลี่หยาก็ปรากฏตัวในชุดสวยงามของแขกในพิธี แต่งดงามจัดจ้านจนเกินงามเหมือนเป็นคนหมั้นเสียเอง นางเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มอ่อนหวานที่ซ่อนความนัย และดูเหมือนจะมีความสุขมากกว่าผู้เป็นพี่สาวที่ควรจะเป็นศูนย์กลางของงานเสียอีก ถ้าเป็นไปได้นางคงอยากจะใส่ชุดที่เหวิ่นจือหยูใส่นี่เสียเอง

“พี่จือหยู ท่านดูสวยมากในวันนี้” เหวิ่นลี่หยาเอ่ยชมด้วยน้ำเสียงที่ดูบริสุทธิ์ไร้เดียงสาเหมือนน้องสาวที่แสนดีชื่นชมพี่สาวอย่างแท้จริง แต่สายตาของนางกลับเต็มไปด้วยความอิจฉา เพราะใบหน้าของเหวิ่นจือหยูสวยกว่านางมาแต่ไหนแต่ไร

“ขอบใจเจ้ามาก ลี่หยา เจ้าเองก็แต่งตัวสวยไม่น้อยไปกว่าข้า จนข้าเกรงว่าระวังแขกจะเข้าใจผิดว่าใครเป็นเจ้าสาวกันแน่ ระวังหน่อยนะลี่หยาเดี๋ยวเฉียนอี้หรงแม่เจ้าจะตอบคำถามลำบากเอา”วาดรวียิ้มเพียงบางเบา ก่อนตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ ถึงกาลเทศะการแต่งตัวของเหวิ่นลี่หยาที่แต่งตัวและใส่เครื่องประดับจนเกินงาม

คำพูดนั้นทำให้เหวิ่นลี่หยาชะงักไปชั่วครู่ นางได้แต่เคียดแค้นในใจ แต่ไม่นานก็ยื่นมือมาจับแขนพี่สาวเบาๆ ก่อนตอบกลับด้วยวาจายั่วยุทางอารมณ์

“พี่จือหยู ข้าหวังว่าท่านจะสามารถทำให้วันนี้เป็นวันที่ดีของพี่ตามที่พี่หวังไว้ แต่ข้าคิดว่าท่านคงจะลำบากในการทำให้องค์ชายหลี่หยวนเจ๋อยอมรับท่าน”

เหวิ่นจือหยูรู้สึกถึงหน่วงใจจากคำพูดนั้น นางพยายามสงบใจและยิ้มตอบกลับด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแต่ถ้อยคำเชือดเฉือน

“เจ้าไม่ต้องห่วงข้าหรอก ข้าจะทำให้ดีที่สุด อย่างน้อยตอนนี้คนที่เขายอมรับให้เป็นคู่หมั้นอย่างเป็นทางการก็คือข้า ถึงกับเร่งวันหมั้นให้เร็วขึ้นมา แทนที่จะเปลี่ยนตัวคู่หมั้นอย่างที่เจ้าหวัง ข้าเสียใจแทนเจ้าด้วยนะน้องรักที่เป็นได้แค่แอบรักและหวังลมๆ แล้งๆ” เหวิ่นจือหยูหัวเราะเบาๆอย่างมีความสุขหลังพูดจบ

สีหน้าของลี่หยาแปรเปลี่ยนเป็นความไม่พอใจทันที แต่เพียงพริบตาเดียว นางก็ปรับสีหน้าให้เรียบเฉย

“ถ้าเช่นนั้นข้าขอออกไปเตรียมตัวเข้างานข้างนอกก่อน เชิญพี่ตามสบาย” นางว่าแล้วก็เดินจากไป

เสียงหัวเราะเบาๆของวาดรวีมันเป็นเพียงการแสดง อย่างน้อยถ้านางตอบโต้หรือทำอะไรบางอย่างที่แรงกว่านี้ มันจะเข้าทางเหวิ่นลี่หยาทันที มันจะทำให้เรื่องแย่ลงไปอีก โดยที่คนที่จะถูกมองว่าผิด คือเหวิ่นจือหยูนั่นเอง นางรู้ดีว่าความผิดพลาดครั้งก่อนยังอยู่ในสายตาขององค์ชาย และนางต้องใช้ความอดทนอย่างมากในการจัดการกับความร้ายกาจของน้องสาวให้ได้

ต่อไปนี้วาดรวีจะเป็นเหวิ่นจือหยูคนใหม่ให้ได้
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   บทที่ 150

    หลังจากที่องค์รัชทายาทหลี่หยวนเจ๋อนำทัพหลวงออกพ้นวังหลวงเพื่อไปออกศึกที่ชายแดน ภายในจวนตระกูลจ้าวเป็นจุดนัดหมายประชุมลับของผู้ร่วมขบวนการ เสียงปรึกษาแผนการดังไปทั่วห้อง แสงเทียนริบหรี่ส่องกระทบใบหน้าอันสวยงามของพระชายาเหวิ่นลี่หยา ขณะที่นางนั่งอยู่หัวโต๊ะด้วยท่าทีทรงอำนาจ รอบตัวของนางรายล้อมด้วยจ้

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   บทที่ 149

    ภายในห้องลับหรูหราของจวนขุนนางตระกูลจ้าว เสียงหัวเราะแผ่วเบาดังขึ้นขุนนางกลุ่มหนึ่งกำลังลอบประชุมกันโดยมีพระชายาเหวิ่นลี่หยา เป็นผู้นำ“เป็นไปตามที่เราคาดการณ์ไว้ องค์รัชทายาทตัดสินใจออกไปนำทัพแล้ว”ขุนนางเฉาเซี่ยวหุนกระซิบเสียงตื่นเต้นเหวิ่นลี่หยาหัวเราะเบา ๆ นางยกจอกสุราขึ้นจิบ สายตาเย็นชาเปี่ยมด

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   บทที่ 148

    บรรยากาศในท้องพระโรงเช้านี้เต็มไปด้วยกดดัน เหล่าขุนนางทุกคนต่างพากันคุกเข่าลงเบื้องหน้าฮ่องเต้ถวายความเคารพ ก่อนจะแยกย้ายกันไปนั่งประจำตำแหน่ง สีหน้าของแต่ละคนเต็มไปด้วยความวิตกกังวล ทุกคนเงียบกริบแม้แต่เสียงหายใจยังเเผ่วเบา ฮ่องเต้ประทับบนบัลลังก์สูง พระพักตร์ขรึมและดุดัน ขณะที่เหล่าขุนนางต่างจับจ้

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   บทที่ 147

    สองวันต่อมาภายในท้องพระโรงแห่งวังหลวงแคว้นหลี่ บรรยากาศเต็มไปด้วยแรงกดดัน เหล่าขุนนางต่างคุกเข่านิ่งเงียบจนแทบไม่มีใครกล้าหายใจแรง เบื้องหน้าฮ่องเต้คือราชทูตจากแคว้นไป๋ ชายผู้เป็นราชทูตก้าวมาข้างหน้า สายตาของเขาเย็นชาใบหน้าถมึงทึงและเต็มไปด้วยโทสะ ก่อนราชทูตจะค้อมตัวประสานมือคารวะฮ่องเต้พอเป็นพิธีต

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   บทที่ 146

    ค่ำคืนอันมืดมิดปกคลุมพรมแดนระหว่างแคว้นหลี่และแคว้นไป๋ ลมพัดกรรโชกแรงจนต้นไม้ไหวเอน เสียงใบไม้เสียดสีกันดั่งเสียงกระซิบของอสุรกายในความมืด ท่ามกลางเงาของป่าทึบ กลุ่มชายชุดดำหลายสิบคนกำลังซุ่มรอภายใต้เกราะเหล็กของทหารแคว้นหลี่ ใบหน้าของพวกเขาถูกปกปิดด้วยผ้าคลุมสีดำ มีเพียงดวงตาที่ทอประกายเยียบเย็นไร

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   บทที่ 145

    ยามค่ำคืนเงียบสงัด ลมอ่อนๆพัดผ่านม่านบางของตำหนักวังตะวันตก ภายในห้องบรรทม เหวิ่นลี่หยาในอาภรณ์เนื้อดีสีแดงเข้มนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง มือเรียวลูบไล้เส้นผมดำขลับของตนเองเบาๆ ขณะที่ดวงตาจับจ้องเงาสะท้อนในกระจกทองเหลือง รอยยิ้มเล็กๆ ผุดขึ้นที่มุมปาก นางยังคงคิดถึงคำพูดของพระสวามีที่เตือนให้ระวังตั

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status