“ถ้าเช่นนั้น ก็เชิญองค์ชายไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้เพื่อทูลฝ่าบาทเพื่อขอเปลี่ยนตัวคู่หมั้นให้เป็นตามที่ท่านต้องการเถิด”เหวิ่นจือหยูเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แต่แววตากลับเต็มไปด้วยความเย็นชา
“ขะ ข้าต้องการใครเจ้าหมายความว่าเยี่ยงไร”องค์ชายหลี่หยวนเจ๋อขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัยทันที
วาดรวีลอบถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะพูดต่อ “อ้าว ทำไมองค์ชายถึงต้องแสร้งทำเป็นไม่รู้ แบบนี้น้องลี่หยาของหม่อมฉันก็จะเสียใจแย่เลยนะเพคะ อุตส่าห์วาดหวังไว้ อีกอย่างก็เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าสตรีที่พระองค์ต้องการเป็นคู่หมั้นคงไม่ใช่หม่อมฉัน แต่เป็นน้องลี่หยาของหม่อมฉันไม่ใช่หรือ”
“พี่จือหยู ทำไมท่านพูดเช่นนี้ น้องไม่ได้จะแย่งองค์ชายจากพี่ น้องเสียใจ” เหวิ่นลี่หยาซึ่งยืนอยู่ข้างๆ ทำเสียงสั่นเครือ เหมือนจะร้องไห้ แต่ทว่าดวงตาของนางกลับฉายแววพึงพอใจลึกๆ ในใจนั้นแอบดีใจที่เหวิ่นจือหยูผู้หญิงที่เก็บอารมณ์ไม่ได้ ประกาศออกมาชัดเจนต่อหน้าองค์ชายว่าไม่อยากหมั้นหมาย
คำพูดนั้นทำให้องค์ชายหลี่หยวนเจ๋อถึงกับนิ่งงัน ก่อนที่เหวิ่นจือหยูจะกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงประชดประชัน “เชิญองค์ชายกับน้องลี่หยาของข้าไปครองคู่กันเถิด”
“เหวิ่นจือหยู เจ้า ผู้หญิงร้ายกาจ” องค์ชายหลี่หยวนเจ๋อทนดูไม่ได้ แค่นเสียงออกมาพร้อมสีหน้าไม่พอใจ ที่เหวิ่นจือหยูพูดทำร้ายจิตใจของคนอื่นแม้กระทั่งน้องสาวว่าเป็นลูกของอนุภรรยาจนอีกคนร้องไห้
“อ่อ และอีกอย่างท่านมาหาหม่อมฉันถึงที่นี่ทำไมมีธุระอันใดไม่รู้ แต่ถ้าไม่มีธุระอะไรสำคัญ ขอเชิญท่านกับคู่รักของท่านออกไปจากห้องของหม่อมฉันด้วยเพคะ มันรบกวนเวลาพักผ่อนของหม่อมฉัน ชิงชิง ช่วยส่งแขกที” จบคำ วาดรวีก็หมุนตัวกลับไป ก่อนที่จะนั่งลงเก้าอี้อย่างสบายใจ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่แม้แต่จะหันไปมองแขกสองคนที่ทำที่ทีไม่พอใจ
องค์ชายหลี่หยวนเจ๋อกลับไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เขาเดินเข้าไปใกล้ก่อนจะพูดบอกกับร่างบางที่นั่งจิบน้ำชาและอ่านหนังสือโดยไม่สนใจใครด้วยน้ำเสียงกดต่ำ
“จำไว้นะ เหวิ่นจือหยู เจ้าคิดหรือว่าจะปฏิเสธข้าได้ง่ายๆ ถ้าตอนนี้สิ่งที่เจ้าต้องการคือการหลุดพ้นจากการหมั้นหมายครั้งนี้ ข้าก็จะทำในสิ่งที่เจ้าคาดไม่ถึง ทรมานเจ้าด้วยการเร่งวันหมั้นและแต่งงานกับข้าให้เร็วขึ้นกว่าเดิม เตรียมตัวเตรียมใจของเจ้าไว้ให้ดี” พูดจบ เขาก็เดินจากไปทันที โดยไม่สนใจสีหน้าของใครทั้งสิ้น
ส่วนคนก่อเหตุอย่างเหวิ่นลี่หยาได้แต่เคียดแค้นในใจ ทั้งๆที่กำลังจะดีอยู่แล้วเชียว ทำเรื่องมันกับตาลปัตรกลับเป็นฝ่ายองค์ชายที่ไม่ยอมถอนหมั้นเสียเอง
วาดรวีได้แต่มองตามทุกคนที่เดินออกไป ทำไมนางจะไม่รู้ว่าทุกอย่างนี่เป็นแผนของลี่หยาน้องสาวที่แสนดีของนางวางไว้เพื่อที่จะให้องค์ชายมาเห็นฉากสำคัญนี้
คนเย็นชา เย่อหยิ่งอย่างองค์ชายหลี่หยวนเจ๋อพอโดนบอกเลิกไม่สนใจเท่านั้นแหละ มีหรือคนอย่างเขาจะยอม โดยเฉพาะคนที่บอกเลิกเขานั้นเป็นเหวิ่นจือหยูคนร้ายกาจที่องค์ชายไม่เคยชอบเลย
วันหมั้นหมายถูกกำหนดให้มาถึงเร็วกว่าที่วาดรวีคาดไว้ นางรู้สึกทั้งกังวลและสับสน ไม่ใช่แค่เพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับองค์ชายหลี่หยวนเจ๋อในวันก่อน แต่เพราะวาดรวีที่อยู่ในร่างนี้รู้สึกไม่มั่นใจว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร
“หากข้าไม่สามารถเปลี่ยนใจองค์ชายได้ ข้าจะทำอย่างไร” นางคิดเงียบๆ ระหว่างที่บ่าวไพร่ช่วยกันแต่งตัว เหวิ่นจือถูกจัดเตรียมด้วยชุดหมั้นสุดวิจิตรงดงาม ผ้าปักลายมังกรและหงส์คู่ในสีแดงสดเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นสิริมงคลที่แฝงไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์ตามธรรมเนียม แต่ใจของเหวิ่นจือหยูกลับเต้นระรัวอย่างไม่เคยเป็น
ขณะที่เหวิ่นจือหยูนั่งเงียบๆ ท่ามกลางการจัดเตรียมการแต่งตัว ไม่นาน เหวิ่นลี่หยาก็ปรากฏตัวในชุดสวยงามของแขกในพิธี แต่งดงามจัดจ้านจนเกินงามเหมือนเป็นคนหมั้นเสียเอง นางเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มอ่อนหวานที่ซ่อนความนัย และดูเหมือนจะมีความสุขมากกว่าผู้เป็นพี่สาวที่ควรจะเป็นศูนย์กลางของงานเสียอีก ถ้าเป็นไปได้นางคงอยากจะใส่ชุดที่เหวิ่นจือหยูใส่นี่เสียเอง
“พี่จือหยู ท่านดูสวยมากในวันนี้” เหวิ่นลี่หยาเอ่ยชมด้วยน้ำเสียงที่ดูบริสุทธิ์ไร้เดียงสาเหมือนน้องสาวที่แสนดีชื่นชมพี่สาวอย่างแท้จริง แต่สายตาของนางกลับเต็มไปด้วยความอิจฉา เพราะใบหน้าของเหวิ่นจือหยูสวยกว่านางมาแต่ไหนแต่ไร
“ขอบใจเจ้ามาก ลี่หยา เจ้าเองก็แต่งตัวสวยไม่น้อยไปกว่าข้า จนข้าเกรงว่าระวังแขกจะเข้าใจผิดว่าใครเป็นเจ้าสาวกันแน่ ระวังหน่อยนะลี่หยาเดี๋ยวเฉียนอี้หรงแม่เจ้าจะตอบคำถามลำบากเอา”วาดรวียิ้มเพียงบางเบา ก่อนตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ ถึงกาลเทศะการแต่งตัวของเหวิ่นลี่หยาที่แต่งตัวและใส่เครื่องประดับจนเกินงาม
คำพูดนั้นทำให้เหวิ่นลี่หยาชะงักไปชั่วครู่ นางได้แต่เคียดแค้นในใจ แต่ไม่นานก็ยื่นมือมาจับแขนพี่สาวเบาๆ ก่อนตอบกลับด้วยวาจายั่วยุทางอารมณ์
“พี่จือหยู ข้าหวังว่าท่านจะสามารถทำให้วันนี้เป็นวันที่ดีของพี่ตามที่พี่หวังไว้ แต่ข้าคิดว่าท่านคงจะลำบากในการทำให้องค์ชายหลี่หยวนเจ๋อยอมรับท่าน”
เหวิ่นจือหยูรู้สึกถึงหน่วงใจจากคำพูดนั้น นางพยายามสงบใจและยิ้มตอบกลับด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแต่ถ้อยคำเชือดเฉือน
“เจ้าไม่ต้องห่วงข้าหรอก ข้าจะทำให้ดีที่สุด อย่างน้อยตอนนี้คนที่เขายอมรับให้เป็นคู่หมั้นอย่างเป็นทางการก็คือข้า ถึงกับเร่งวันหมั้นให้เร็วขึ้นมา แทนที่จะเปลี่ยนตัวคู่หมั้นอย่างที่เจ้าหวัง ข้าเสียใจแทนเจ้าด้วยนะน้องรักที่เป็นได้แค่แอบรักและหวังลมๆ แล้งๆ” เหวิ่นจือหยูหัวเราะเบาๆอย่างมีความสุขหลังพูดจบ
สีหน้าของลี่หยาแปรเปลี่ยนเป็นความไม่พอใจทันที แต่เพียงพริบตาเดียว นางก็ปรับสีหน้าให้เรียบเฉย
“ถ้าเช่นนั้นข้าขอออกไปเตรียมตัวเข้างานข้างนอกก่อน เชิญพี่ตามสบาย” นางว่าแล้วก็เดินจากไป
เสียงหัวเราะเบาๆของวาดรวีมันเป็นเพียงการแสดง อย่างน้อยถ้านางตอบโต้หรือทำอะไรบางอย่างที่แรงกว่านี้ มันจะเข้าทางเหวิ่นลี่หยาทันที มันจะทำให้เรื่องแย่ลงไปอีก โดยที่คนที่จะถูกมองว่าผิด คือเหวิ่นจือหยูนั่นเอง นางรู้ดีว่าความผิดพลาดครั้งก่อนยังอยู่ในสายตาขององค์ชาย และนางต้องใช้ความอดทนอย่างมากในการจัดการกับความร้ายกาจของน้องสาวให้ได้
ต่อไปนี้วาดรวีจะเป็นเหวิ่นจือหยูคนใหม่ให้ได้