ณ ผับ RVZ
หญิงสาวนั่งแท็กซี่มาถึงก่อนเวลานัดหมายเพียงไม่กี่นาที และเดินเข้าไปในผับอย่างสง่าผ่าเผยจนคนที่กำลังดื่มและเต้นโยกไปตามจังหวะในผับก็หันมามองเป็นตาเดียวกัน เพราะตะลึงในความสวยและเซ็กซี่ของเธอ แต่เธอก็ไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างใดๆ เลยแม้แต่น้อยและเดินตรงไปยังหน้าบาร์ทันที และหลังจากนั้นก็สั่งเครื่องดื่มและกดส่งข้อความหาเกรซที่กำลังเดินทางมาพบเธอในคืนนี้นั่นเอง
“คุณผู้หญิงครับ ลองไอซ์แลนด์หนึ่งที่ ได้แล้วครับ” บาร์เทนเดอร์หนุ่มที่รับคำออเดอร์จากหญิงสาวก็จัดการผสมเครื่องดื่มส่งให้เธอทันที
หญิงสาวยกมาดื่มและมองไปรอบๆ และสายตาของเธอก็สะดุดกับดวงตาคู่หนึ่งที่คุ้นเคยและเธอนั้นก็จำเขาได้ทันที และเหมือนว่าสายตาคู่นั้นก็กำลังจ้องมองมาที่เธอด้วยเหมือนกัน หลังจากนั้นสายตาที่จ้องมองมาอยู่นั้นก็เดินตรงเข้ามาหาเธอ
“ว่าไง น้องพลอย เจอกันอีกแล้วนะครับ”
“ค่ะ พี่ไรอัน มาดื่มเหมือนกันเหรอคะ??”
“ครับ พี่รู้สึกเบื่อเลยออกมาดื่มน่ะ แล้วเราล่ะมาคนเดียวเหรอครับ??”
“ตอนนี้มาคนเดียวค่ะ แต่อีกสักพักยัยเกรซก็ตามมาแล้วค่ะ”
“อ๋อ ครับ ถ้ารู้ว่าน้องพลอยจะมาที่นี่ พี่จะได้ไปรอรับมาพร้อมกันเลย”
“ไม่เป็นไรเลยค่ะ จริงๆ แล้ว พลอยก็แอบเกรงใจพี่เลยไม่กล้าชวน”
“หึหึ ครั้งหน้าไม่ต้องเกรงใจนะครับ เพราะพี่เต็มใจที่จะบริการน้องพลอยคนสวยมากๆ” ไรอันพูดพร้อมขยิบตาให้หนึ่งที
“ขอบคุณนะคะ งั้นครั้งหน้าพลอยจะไม่เกรงใจพี่ไรอันแล้วนะ” หญิงสาวยิ้มอวดฟันเรียงสีขาวชิดกันออกไป ทำให้ไรอันที่เห็นรอยยิ้มของเธอก็ตกตะลึงในความสวยของเธอไปอีก
“อย่ายิ้มแบบนั้นสิครับ รู้ไหมยิ้มแบบนี้ พลอยสวยมากๆ เลยครับ จนพี่อยากจะทำความรู้จักมากกว่านี้แล้วนะ”
“ฮ่าๆ ขอโทษค่ะ พี่ไรอัน เราเป็นพี่น้องกันดีกว่านะคะ พี่ไรอันหล่อเกินไป พลอยไม่กล้าทำความรู้จักมากกว่านี้เลยค่ะ กลัวว่าสาวๆ ในสต๊อกของพี่จะทำร้ายเอา” เธอพูดไปหัวเราะไป ทำให้ไรอันนั้นเอ็นดูในตัวเธอ จึงใช้มือยีผมสลวยของเธอเบาๆ
“ร้ายนักนะ ฮ่าๆ”
“พี่ไรอัน อย่าจับผมพลอยสิคะ เดี๋ยวคืนนี้พลอยไม่สวยเท่ายัยเกรซนะ ฮ่าๆ”
“ต่อให้ผมฟูพลอยก็สวยที่สุดในนี้แล้วล่ะ ฮ่าๆ แล้วน้องเกรซมาตอนไหน ให้พี่นั่งคอยเป็นเพื่อนไหมครับ??”
“น่าจะไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็ใกล้จะถึงแล้วค่ะ ถ้าพี่ไรอันใจดีก็นั่งเป็นเพื่อนพลอยสักแปปนึงก็ได้นะคะ หรือนั่งไปตลอดเลยก็ได้ เดี๋ยววันนี้พลอยเลี้ยงเอง”
“เดี๋ยวพี่นั่งเป็นเพื่อนกับน้องพลอยจนกว่าน้องเกรซจะมาก็แล้วนะครับ ถ้าเพื่อนของน้องพลอยไม่ว่าอะไรพี่ก็ขออนุญาตนั่งด้วยทั้งคืนเลย ส่วนเรื่องเครื่องดื่ม วันนี้พี่ขอเลี้ยงเอง”
“หู้ยยย พี่ไรอัน ป๊าเว่อร์ อยากเป็นเด็กของเฮียไรอันแล้วล่ะ”
“อย่ามาล้อเล่นกับพี่นะครับ ถ้าพูดขึ้นมาอีก พี่จะถือว่าน้องพลอยตกลง แล้วพี่จะรับเลี้ยงดูเราไปตลอดชีวิตเลยนะครับ ฮ่าๆ”
ทั้งสองคุยกันอย่างสนุกสนานและพากันดื่มคุยกันอย่างถูกคอ โดยหารู้ไม่ว่ากำลังมีสายแข็งกร้าวอีกหนึ่งคู่มองลงมาจากโซนวีไอพีชั้นสองจ้องมองดูการกระทำของทั้งสองคนอย่างไม่พอใจ
“มึงเป็นเหี้ยอะไรอีกเนี้ยะ ไอ้เรียวตะ” ออสตินถามออกมาอย่างหงุดหงิด เพราะเพื่อนของเขามีพฤติกรรมแปลกๆ ตั้งแต่ตอนเล่นบาสเกตบอลตอนอยู่ในสนามแล้ว และจู่ๆ ก็เดินออกมาจากสนามอย่างดื้อๆ โดยไม่สนใจอะไรเลย และไม่นานมันก็ชวนเขาและเอเดน เพื่อนในกลุ่มอีกคนมานั่งดื่มที่ชั้นสองของผับ แต่พอมาถึงก็เอาแต่กระดกเหล้าในแก้ว และยืนจ้องลงไปยังข้างล่าง ไม่ยอมพูดจา
“เอ่อ มึงเป็นเหี้ยอะไรนักหนา ชวนพวกกูมาดื่ม แล้วยังมาทำเย็นชาใส่พวกกูอีก มันน่ามานั่งดื่มเป็นเพื่อนไหมครับ คุณเรียวตะ” เอเดนพูดสมทบออกมาอีกครั้ง
และไม่นานทั้งเอเดนและออสติน ก็ลุกขึ้นจากโซฟา พร้อมทอดสายตามองไปตามที่เรียวตะยืนมอง ก็ไปสะดุดกับร่างบางที่คุ้นเคย นั่นก็คือพลอยใส รูมเมทของเรียวตะนั่นเอง ทั้งสองจึงหันมามองหน้าและยิ้มให้กันอย่างมีเลศนัย
“กูพอจะรู้ล่ะ ว่าไอ้เรียวตะ เป็นเหี้ยอะไร??” เอเดนพูดออกมา
“อืม กูก็เข้าใจล่ะ ที่ชวนพวกกูมาดื่มที่นี่ก็เพราะว่าตามรูมเมทที่รักมานี่เอง หึหึ” ออสตินพูดออกมา และทั้งสองก็เดินไปนั่งโซฟาและยกแก้วเหล้าราคาแพงขึ้นมาชวนและดื่มอย่างอารมณ์ดี
‘เขาล่ะเบื่อจริงๆ กับคนที่ปากไม่ตรงกับใจ ปากเอาแต่บอกว่าไม่ชอบรูมแมท ไม่หึง ไม่หวง แต่การกระทำของเรียวตะ นั่นมันตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง วันนี้คงจะทะเลาะกันมาสินะ ถึงได้ตามแอบตามเขามาถึงที่นี่ ทั้งที่ผับของตัวเองก็มีไม่ยอมไปนั่งดื่ม’ ออสตินคิดอยู่ภายในใจ
“โถ่ๆ รักเขาก็ไม่ยอมบอก ทำเป็นปากแข็ง” จู่ๆ เอเดนก็พูดลอยๆ ขึ้น เพื่อให้เรียวตะได้ยิน
“เออ ชักช้าระวังหมาคาบไปแดกนะโว้ย ยิ่งสวย หมวย เอ็กซ์อยู่ ฮ่าๆ” ออสตินสมทบอีกครั้ง
เพล้ง!!!
ในขณะที่เอเดนและออสตินพูดแซวเรียวตะอยู่ จู่ๆ แก้วที่อยู่ในมือของเรียวตะก็ถูกเขวี้ยงอย่างแรงลงบนพื้น และหลังจากนั้นเรียวตะก็เดินออกไปจากห้องทันที
จนเอเดนกับออสตินรีบตามไปดูเหตุการณ์ สายตาทั้งสองก็พบว่า
ร่างรูมเมทของเพื่อนสนิทของเขา กำลังถูกไรอัน หนุ่มหน้าตี๋คณะแพทย์ ประคองในท่ากอดกันกลมอยู่ตรงหน้าบาร์ นี่คงเป็นต้นเหตุที่ทำให้เพื่อนของเขาสติหลุดจนควบคุมอารมณ์ไม่ได้สินะ
“กูว่าคืนนี้ได้ดูอะไรสนุกๆ แล้วล่ะ หึหึ” เอเดนพูดออกมา
“กูก็คิดเหมือนมึงเลยว่ะ ไอ้เพื่อนรัก” ออสตินหัวเราะออกมาอย่างถูกใจ
3 ปีผ่านไป…หลังจากคำมั่นสัญญาที่ชายหนุ่มให้ประกาศออกมา ตั้งแต่นั้นมา เขาก็ไม่เคยทำให้เธอเสียใจอีกเลย และยังมีความสุขมากขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆ วัน ตอนนี้มาร์คอฟได้ย้ายเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์ของหญิงสาวแล้ว เหตุเพราะคุณพ่อของเธออายุค่อนข้างมาก เธอจึงอยากจะดูแลพ่อของเธอให้ดี และตอนนี้ไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็เปรียบเสมือนเจ้าหญิงภายในบ้าน ทั้งพ่อ พี่ชาย สามีของเธอ พากันประคบประหงมเธอเป็นอย่างดี และตอนนี้เจ้าลูกชายคนโปรดของเธอที่มีอายุครบสองขวบก็เป็นที่รักของทุกคนภายในบ้าน รวมถึงเหล่าบอดี้การ์ดอีกด้วย“ม่ามี๊ครับ ลูคัสหิวนม ขอหม่ำหม่ำหน่อยครับ” เด็กน้อยผู้ไร้เดียงสาลูกคนแรกของเธอ พยายามปืนป่ายขึ้นมาบนตัวเธอในขณะที่เธอกำลังนอนหลับอยู่ในตอนเช้า“อืมม แต่หนูเพิ่งกินไปเองนะครับ” “หิว หิวอีก” เด็กน้อยลูคัส ใช้มือเปิดเสื้อโชว์หน้าอกของเธอก่อนที่กำลังจะอ้าปากก้มดูดน้ำนมจากเต้าของเธอ“หยุดเลย เจ้าตัวแสบ อันนี้คือของป่าปี๊” มาร์คอฟที่กำลังนอนกอดหญิงสาวก็ลุกขึ้นมาจับเจ้าตัวเล็กออกจากภรรยาของเขาของเขาทันที“ฮืออออ โผม จะ นมม่ามี๊” “ไม่ได้ อันนี้ของป่าปี๊ ป่าปี๊หวง ของตัวเองอยู่ในตู้เย็นไปให้ลุงครามหาให้กิน”“ไม่
งานแต่งงานถูกจัดขึ้นยังโบสถ์ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาหญิงสาวสวมใส่ชุดเจ้าสาวลายลูกไม้แขนยาว กระโปรงบอลกาวน์ รวบผมประดับด้วยมงกุฏดอกไม้สีขาวอยู่บนศีรษะ ในมือถือดอกไม้สีขาวช่อพอดีมือ เดินควงแขนผู้เป็นพ่อเดินเข้าไปยังในโบสถ์ ท่ามกลางสายตาคนมาร่วมงามแสดงความยินดี เธอเดินเข้าไปอย่างช้าๆ และสง่าผ่าเผย ก็พบกับมาร์คอฟส่วมชุดทักซิโด้สีดำยืนรอเธออยู่ด้านในวันนี้ชายหนุ่มหล่อเป็นพิเศษ หลังจากวันนั้นเขาก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน เขากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง โดยได้รับความช่วยเหลือจากคุณวินัยและคราม พาเขามายืนหยัดและมีสง่าขึ้นอีกครั้งภายในเวลาอันสั้นเพียงหนึ่งเดือน ชายหนุ่มได้แต่ขอบคุณและซาบซึ้งในน้ำใจของครอบครับหญิงสาวที่มีต่อเขา และตอนนี้เขาก็มีความสุขมากๆ เขาจะไม่โดดเดี่ยวอีกแล้ว ธุรกิจต่างๆ กลับมาฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว และมีหญิงสาวที่เขารักคอยให้กำลังใจอยู่ไม่ห่างชายหนุ่มยืนมองดูหญิงสาวด้วยความหลงใหล่ วันนี้เธอสวยมากๆ จนเขาไม่อยากจะละสายตาจากเธอเลย เขาอยากจะขอบคุณพระเจ้า ในที่สุดในวันนี้เขากำลังจะมีเธอเคียงข้างกายพร้อมกับเจ้าก้อนเล็กๆ ที่อยู่ในท้องของเธอคุณวินัยพาหญิงสาวเข้ามาส่งชายหน
เมื่อหญิงสาวจากไป เขาก็นั่งอยู่ภายในห้องเงียบๆ คนเดียว เขานั่งต่อบุหรี่ในห้องมวนแล้วมวนเล่า เพื่อหวังว่าจะลดความเครียดได้ แต่ทว่ามันก็ไม่ได้ผล เขารู้สึกแย่เอามากๆ ณ ตอนนี้เขาแทบไม่เหลืออะไรเลย และยังไม่มีกำลังใจที่จะทำมันด้วย ไม่รู้จะเริ่มต้นใหม่ไปเพื่ออะไร การแต่งงานของทั้งสองตระกูลระหว่างเขากับอันนา มีการสัญญาระหว่างผู้ใหญ่ไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งเขาก็รับรู้ตั้งแต่เด็ก เขาก็เลี่ยงและปฏิเสธมาตลอด และเมื่อถึงเวลาเขาพยายามที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะไม่ต้องแต่งงานกับอันนา เพราะเขาไม่ได้รักหล่อน การที่จะต้องแต่งงานกับหล่อนเขาก็เหมือนคนไร้ชีวิตและไม่มีความสุข เขามีความสุขและรักเพียงน้ำแข็งเท่านั้น ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าหลังจากเสียทรัพย์สินต่างๆ ในการยกเลิกการแต่งงานทั้งสองตระกูลจะกลับไปเมืองไทยและทำธุรกิจเล็กๆ ดูแลน้ำแข็ง แต่ทว่าตอนนี้เธอนั้นอยู่ไกลเกินเอื้อมเสียเหลือเกิน เขาไม่เหมาะที่จะเป็นผู้ชายของเธอเลย ทรัพย์สินของเขาในตอนนี้กำลังโอนให้กับตระกูลของอันนาห้าสิบเปอร์เซ็นต์และหุ้นส่วนใหญ่ๆ ของเขาก็ต่างพากันถอนหุ้นออกจากบริษัทไปกัน เหตุผลเพราะว่าเขาไม่ยอมแต่งงานสร้างสัมพันธ์ทางธุรกิจกับตระกูลของ
แกร๊ก !!แอ๊ดดดด!!“กูบอกให้พวกมึงออกไปให้พ้นหน้ากู” หญิงสาวเปิดประตูห้องที่คุ้นเคยเข้าไป ก็ได้ยินเสียงตะโกนออกมาจากห้องน้ำ เมื่อเธอเดินเข้าไปก็ตกใจ เพราะภาพตรงหน้าคือชายหนุ่มกอดชักโครก ทรุดตัวลงอย่างหมดแรงและใบหน้าอิดโรย ร่างกายซูบผอม ใบหน้าของเขาที่ดูดีและเคยเกลี้ยงเกลา บัดนี้มีนวดเครารกรุงรัง บ่งบอกว่าเขานั้นไม่ได้ดูแลตัวเองเลยแม้แต่น้อยเธอยืนมองดูเขาอย่างเงียบๆ โดยไม่พูดอะไร เมื่อชายหนุ่มรู้สึกว่ามีคนเข้ามาในห้องก็หันหน้ากลับมาต่อว่าอีกครั้ง“กูบอกให้พวกมึงออกไป อยากตายหรือไง...น้ำแข็ง” เขาหันมาก็พบว่าหญิงสาวยืนอยู่ต่อหน้าเขา ทำให้สิ่งที่กำลังด่าลูกน้องของตัวเอง ต้องกลืนคำลงไป ก่อนจะพูดชื่อของเธอออกมาอย่างแผ่วเบา“เธอมาที่นี่ทำไม” เขาถามพร้อมกับพยุงตัวเองออกมาจากโถ้ชักโครก แต่เขาก็ล้มเซไปจนหญิงสาวรีบเขาไปประคองร่างเอาไว้“คุณมาร์คอฟ ระวังค่ะ” “ปล่อยฉัน ฉันเดินเองได้ ““อย่าดื้อสิคะ ไปนั่งพักก่อนนะคะ” เธอพูดพร้อมพยุงเข้าไปนั่งลงบนเตียงนอน ซึ่งเขาก็พยายามขัดขืน แต่เมื่อเธอมองด้วยสายตาเขม็งเขาก็ทำตามอย่างว่าง่าย“ทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะคะ ทำไมไม่ดูแลตัวเองเลย” เธอพูดออกมา“ทำไม ฉันมัน
ณ โรงพยาบาลหญิงสาวลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างช้าๆ ก็พบว่าตัวเองอยู่ภายในโรงพยาบาล มองดูรอบๆ ก็พบว่าพ่อและพี่ชายของเธอ รวมไปถึงเพื่อนสนิทของเธอนั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียง“คุณพ่อ พี่คราม พราว” “ตื่นแล้วเหรอน้ำแข็ง” พราวที่กำลังนั่งกดโทรศัพท์อยู่ก็เงยหน้าและรีบลุกขึ้นมาจากโซฟาเดินตรงเข้ามาหาเธอทันที รวมถึงพ่อและพี่ชายของเธอด้วย“แกเป็นยังไงบ้าง” “ฉันโอเคแล้ว”“แกไม่เป็นอะไรมากก็ดีแล้ว ฉันตกใจหมด” พราวยิ้มออกมาเศร้าๆ หลังจากนั้นทุกคนก็เข้าสู่ในความเงียบอีกครั้ง โดยใบหน้าของพ่อเธอและพี่ชายของเธอราวกับมีบางสิ่งที่กำลังเป็นกังวลอยู่ภายในใจ“คุณพ่อกับพี่คราม มีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าคะ” น้ำแข็งถามออกมาด้วยความสงสัย“น้ำแข็ง หนูรักเขามากไหมลูก” คุณวินัยถามเธอออกมาในขณะที่ทุกคนตกอยู่ใยความเงียบเมื่อเธอนึกถึงเรื่องราวก่อนหน้านี้ก่อนจะเป็นลมล้มลงไป ก็นึกขึ้นได้ว่ามาร์คอฟนั้นกำลังทุกข์ใจและตกอยู่ที่นั่งลำบาก เธอร้องไห้ฟูมฟายเพื่อขอให้พ่อแลละพี่ชายของเธอช่วยเหลือเขา เพราะเธอไม่อยากเห็นเขาตกอยู่ในสภาพแบบนี้“รักสิคะ หนูรักเขามากๆ เขาเป็นเหมือนแสงสว่างในความมืดมิดของหนู ในช่วงเวลาที่หนูไม่เหลือใคร เขาดู
สองเดือนผ่านไป...หลังจากเกิดเหตุการณ์ในวันนั้นมาร์คอฟก็หายไปจากชีวิตเธอเลย ไม่แม้แต่ส่งข้อความมา หรือโทรเหมือนครั้งก่อน[กลับมาเถอะน้ำแข็ง][วันนี้ฉันตกใจมากเลยรู้ไหม ที่เธอเป็นลูกสาวของคุณวินัย เธอแต่งตัวแบบนั้นทำไม ฉันบอกแล้วว่าเธอไม่ควรใส่ชุดอะไรแบบนั้น…เธอสวยเกินไป][เธอจะทิ้งฉันไปจริงๆ ใช่ไหม] [ทำไมเธอใจแข็งจัง][วันนี้ฉันนอนที่ห้องเธอด้วยล่ะ คิดถึงตัวนุ่มๆ ของเธอ][ฉันคิดถึงเธอแทบจะขาดใจแล้ว] [ได้โปรดกลัยมาอยู่กับฉันนะ พนิดา ใจฉันจะขาดแล้ว]“ฮึก” หญิงสาวนั่งมองดูข้อความในมือถือที่ชายหนุ่มส่งข้อความมาหาเธอ เธอไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่นั่งอ่านมันไปเรื่อยๆ อยู่อย่างนั้น น้ำตาของเธอก็ไหลออกมาด้วยความคิดถึงครั้งนี้เธอไม่คิดว่าเขาจะห่างหายไปจากชีวิตของเธอจริงๆ เขาเงียบหายไปเลย เธอนั่งรถผ่านคฤหาสน์ของเขาก็เงียบสงัดไม่มีคนอยู่ ‘เขาคงกลับอยู่กับภรรยาของเขาที่เมืองมอสโคแล้วสินะ’“ขอบคุณความทรงจำดีดีที่คุณเคยมีให้น้ำแข็งนะคะ ถ้าวันนั้นคุณไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยปานนี้น้ำแข็งก็ไม่รู้จะเป็นอย่างไร แต่คุณใจร้ายกับน้ำแข็งมากไปเหลือเกิน มีว่าที่ภรรยาอยู่แล้วไม่ยอมบอกเธอเลยสักคำ ให้เธอตกหลุมรักจนหัว