ยามเช้าของวันใหม่มาถึง แสงอาทิตย์สาดส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้องเล็ก ๆ ของขวัญอุษา ความอบอุ่นจากแสงแดดทำให้เธอตื่นขึ้นด้วยความรู้สึกสดชื่นกว่าทุกวัน วันนี้เป็นวันที่เธอรอคอยมานาน วันที่เธอจะได้ช่วยเหลือพ่อของเธออย่างแท้จริง
หลังจากจัดการกับงานประจำวันเล็กน้อย ขวัญอุษาก็รีบเก็บเงินที่ได้รับจากคุณหญิงธัญญาใส่ซองอย่างระมัดระวัง เธอรู้ว่านี่คือโอกาสที่สำคัญสำหรับพ่อของเธอ และเป็นการเริ่มต้นใหม่ของชีวิตที่ดีขึ้น
เด็กสาวเดินออกจากบ้านใหญ่ ตรงไปยังธนาคารในละแวกใกล้เคียง เพื่อส่งเงินจำนวนนี้กลับไปให้พ่อที่ต่างจังหวัด ระหว่างทางหัวใจของขวัญอุษาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความโล่งใจ ที่ในที่สุดเธอก็สามารถทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับพ่อได้ เธอรู้ดีว่าการช่วยพ่อปลดหนี้คือสิ่งที่เธอใฝ่ฝันมาตลอด
เมื่อเด็กสาวเดินมาถึงธนาคารที่เธอถามมาจากพี่สายใจ เธอเดินเข้าไปด้วยท่าทางมั่นใจ แม้ว่าจะมีความกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับการทำธุรกรรม แต่ขวัญอุษาก็ก้าวไปข้างหน้าด้วยหัวใจที่แน่วแน่
“สวัสดีค่ะ หนูต้องการส่งเงินกลับไปต่างจังหวัด หนูต้องทำยังไงบ้างคะ” เด็กสาวบอกกับพนักงานด้วยน้ำเสียงที่สุภาพ และยื่นซองเงินพร้อมข้อมูลการส่งให้พนักงาน
พนักงานตรวจสอบข้อมูลอย่างรวดเร็ว ก่อนจะยิ้มและกล่าวกับขวัญอุษา “เรียบร้อยแล้วค่ะ หนูสนใจเปิดบัญชีกับทางธนาคารไหมคะ จะได้ไม่ต้องเดินทางมาเองทำธุรกรรมผ่านออนไลน์ได้เลย” พนักงานธนาคารแนะนำขวัญอุษาทำให้เด็กสาวเปิดบัญชีธนาคารและผูกกับโทรศัพท์เอาไว้เพื่อความสะดวกเพราะจะขอออกมาบ่อยๆ ก็เกรงใจคุณหญิงธัญญา เมื่อจัดการธุรกรรมต่างเสร็จขวัญอุษาก็รับใบเสร็จมาและยิ้มอย่างโล่งใจ
“ขอบคุณมากค่ะ” เธอกล่าวด้วยความสุภาพ ก่อนจะเดินออกจากธนาคารไปด้วยความรู้สึกเบาใจ
ขณะเดินกลับบ้านใหญ่ เด็กสามรู้สึกถึงความตื้นตันที่ได้ช่วยเหลือผู้เป็นพ่อ เธอรู้ว่าพ่อจะได้รับเงินนี้และสามารถปลดหนี้ได้ในเร็ววัน ความภาคภูมิใจและความตื้นตันในใจของเธอเอ่อล้น ทำให้เธอยิ้มไปตลอดทาง
เมื่อเธอกลับมาถึงบ้านใหญ่ คุณหญิงธัญญาที่นั่งอยู่ในห้องรับแขกก็เห็นเด็กสาวที่เธอเอ็นดูเดินเข้ามาพอดี คุณหญิงยิ้มให้เธออย่างอบอุ่น
“ไปส่งเงินให้พ่อเรียบร้อยแล้วใช่ไหมจ๊ะขวัญ”
ขวัญอุษาพยักหน้าและยิ้มอย่างสดใสไปให้คุณหญิงธัญญา “ค่ะคุณหญิงป้า หนูส่งเรียบร้อยแล้ว พ่อคงจะดีใจมาก ๆ เลยค่ะ ตอนนี้หนูรู้สึกภูมิใจที่ได้ช่วยพ่อ”
คุณหญิงธัญญาพยักหน้าอย่างพอใจ “ดีแล้วจ้ะ หนูทำสิ่งที่ถูกต้องแล้วนะขวัญ พ่อหนูต้องภูมิใจในตัวหนูมากแน่ ๆ”
เด็กสาวก้มหน้าลงเล็กน้อย ยิ้มอาย ๆ ก่อนจะพูดขึ้น “หนูต้องขอบพระคุณคุณหญิงป้ามากนะคะ ที่ช่วยเหลือหนู หนูจะทำงานให้ดีที่สุด เพื่อไม่ให้คุณหญิงป้าผิดหวังค่ะ”
คุณหญิงธัญญายิ้มและเดินเข้ามาแตะไหล่ขวัญอุษาเบา ๆ “ไม่ต้องขอบคุณฉันหรอกจ้ะ ขวัญเป็นเด็กที่ดีและกตัญญู ฉันก็แค่ทำสิ่งที่ถูกต้องไปเท่านั้น ขอให้หนูใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและอย่ากังวลอะไรอีกนะ”
ขวัญอุษาพยักหน้า น้ำตาเริ่มคลอที่ขอบตาด้วยความซาบซึ้งใจ ขวัญอุษารู้สึกว่าชีวิตของเธอเริ่มต้นใหม่อย่างแท้จริง แม้ว่าเส้นทางข้างหน้าจะยังยากลำบาก แต่เธอรู้ว่าเธอไม่ได้อยู่คนเดียว คุณหญิงธัญญาคือผู้ที่มอบโอกาสสำคัญให้เธอ และตอนนี้เธอก็พร้อมที่จะทำงานและใช้ชีวิตด้วยความมุ่งมั่นและความหวัง
หลังจากที่ขวัญอุษาได้ส่งเงินไปช่วยพ่อจนหนี้สินได้รับการจัดการแล้ว ความกังวลในใจของเธอเริ่มลดน้อยลง แต่แทนที่จะผ่อนคลายและดูแลตัวเอง เด็กสาวกลับมีความตั้งใจมากยิ่งขึ้นในการทำงาน เธอรู้สึกถึงความรับผิดชอบที่มากขึ้นจากการที่คุณหญิงธัญญาให้ความช่วยเหลืออย่างมากมาย ขวัญอุษาจึงตั้งใจทำงานทุกอย่างในบ้านอย่างสุดความสามารถและพยายามช่วยเหลือคนอื่นทุกครั้งที่มีโอกาส
ขวัญอุษาเริ่มต้นทุกเช้าด้วยการตื่นก่อนทุกคนในบ้านใหญ่เสมอ เธอจัดดอกไม้ ดูแลสวน และตรวจสอบความเรียบร้อยในห้องรับแขกก่อนที่คุณหญิงจะตื่น เพื่อให้ทุกอย่างพร้อมสำหรับวันใหม่
เช้าวันนี้ หลังจากที่ขวัญทำงานในสวนดอกไม้เสร็จเรียบร้อย เธอเห็นแป้ง สาวใช้คนสนิทในบ้านใหญ่ กำลังพยายามยกกล่องของหนักออกจากห้องเก็บของ ร่างผอมบางรีบเดินเข้าไปช่วยทันที
“แป้ง หนูต้องการให้พี่ช่วยไหม” ขวัญอุษาถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ ขณะที่เธอรีบยื่นมือไปจับกล่องด้วยท่าทางคล่องแคล่ว
แป้งมองขวัญด้วยความประหลาดใจและยิ้มอย่างดีใจ “ขอบคุณมากค่ะพี่ขวัญ หนูยกไม่ไหวเลยค่ะ ของหนักมาก”
เด็กสาวอย่างขวัญอุษาไม่รอช้า เธอช่วยแป้งยกกล่องและนำไปเก็บในที่ที่เหมาะสม ทั้งสองทำงานร่วมกันด้วยความรู้สึกเป็นกันเองและช่วยเหลือกันเหมือนพี่น้อง แป้งมองขวัญอุษาด้วยความชื่นชมในความขยันและจิตใจที่ดี
“พี่ขวัญนี่เก่งจริง ๆ นะคะ ไม่ว่าทำงานอะไร หนูก็เห็นพี่ตั้งใจและขยันตลอดเลย” แป้งพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงชื่นชม
คนเป็นพี่ยิ้มอย่างสุภาพและตอบเบา ๆ “พี่แค่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดน่ะจ้ะ และถ้าเราช่วยกัน ทุกอย่างก็จะดีขึ้น”
หลังจากนั้นไม่นาน ขวัญอุษาก็ช่วยพี่สายใจทำความสะอาดครัว และยังช่วยลุงคำ คนสวนสูงวัย ดูแลต้นไม้ในสวน ทุกคนในบ้านใหญ่รู้สึกอบอุ่นใจและขอบคุณในความช่วยเหลือที่ขวัญมอบให้ แม้ว่าขวัญจะมีงานของตัวเอง แต่เธอก็ไม่เคยลังเลที่จะช่วยเหลือผู้อื่น ทุกคนในบ้านเริ่มเห็นว่าขวัญไม่เพียงแค่ขยัน แต่เธอยังมีน้ำใจและมองเห็นความสำคัญของคนรอบข้างเสมอ
คุณหญิงธัญญาสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงในบ้าน ทุกอย่างดูเป็นระเบียบเรียบร้อย และทุกคนในบ้านก็ดูเหมือนจะมีความสุขมากขึ้น คุณหญิงรู้สึกประทับใจในความทุ่มเทของขวัญ และอดไม่ได้ที่จะกล่าวชม
“ขวัญ หนูเป็นเด็กที่มีน้ำใจมากนะ ฉันเห็นหนูคอยช่วยเหลือทุกคนในบ้าน ไม่ใช่แค่ทำงานของตัวเองอย่างขยันขันแข็ง แต่ยังช่วยเหลือคนอื่นอย่างไม่เคยเกี่ยงงอน ไม่เหนื่อยหรือยังไงฮะ” คุณหญิงกล่าวขึ้นขณะนั่งมองขวัญอุษาจัดดอกไม้ที่เธอซื้อมา
เด็กสาวยิ้มเล็กน้อยและตอบด้วยความนอบน้อม “ขอบคุณค่ะคุณหญิงป้า หนูแค่คิดว่าถ้าเราช่วยเหลือกัน งานทุกอย่างก็จะเบาลง แล้วเราก็จะมีความสุขมากขึ้นค่ะ”
คุณหญิงธัญญาพยักหน้าด้วยความพอใจ "หนูคิดถูกแล้วจ้ะ ความสามัคคีและการช่วยเหลือกันเป็นสิ่งที่ทำให้บ้านหลังนี้อบอุ่น ฉันดีใจที่มีหนูเป็นส่วนหนึ่งของบ้านนี้"
ขวัญอุษารู้สึกภาคภูมิใจในตัวเองที่สามารถเป็นประโยชน์ต่อคนรอบข้างได้ เธอรู้ว่าการทำงานและการช่วยเหลือผู้อื่นไม่เพียงแค่สร้างความพึงพอใจให้กับคนอื่น ๆ แต่ยังทำให้ตัวเธอเองรู้สึกถึงคุณค่าของชีวิต
เธอเรียนรู้ว่านอกจากความพยายามและความขยัน ความเมตตาและการช่วยเหลือกันคือสิ่งที่ทำให้ชีวิตมีความหมายและทำให้เธอก้าวผ่านทุกอุปสรรคไปได้
หลังจากที่ขวัญอุษาตัดสินใจให้อภัยปกรณ์ และเริ่มเปิดใจให้เขาอีกครั้ง ชีวิตของทั้งสองก็ค่อย ๆ กลับมาเป็นปกติ ปกรณ์ดูแลขวัญอุษาอย่างใกล้ชิดทุกวัน ทั้งช่วยงานในสวนและเตรียมตัวสำหรับการเป็นพ่อที่ดี แม้จะมีอุปสรรคจากอดีต แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ที่จะสร้างอนาคตใหม่ให้กับขวัญอุษาและลูก ช่วงเย็นขณะที่ขวัญกำลังนั่งเล่นอยู่ในสวนที่เธอโปรดปราน ปกรณ์ก็เดินเข้ามาหาพร้อมกับรอยยิ้มอบอุ่น หญิงสาวเงยหน้ามองเขายิ้มตอบอย่างอ่อนโยน “ขวัญ พี่มีเรื่องสำคัญอยากจะถามหนู” ปกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ตาคมยังมองจ้องใบหน้าสวยอย่างรักใคร่ ขวัญอุษามองใบหน้าคมของปกรณ์ด้วยความสงสัย “เรื่องอะไรเหรอคะ” ปกรณ์สูดลมหายใจลึก ก่อนจะย่อตัวลงนั่งข้าง ๆ ร่างอวบ และหยิบกล่องเล็ก ๆ ออกมาจากกระเป๋าของเขา เปิดให้เห็นแหวนแต่งงานที่ซ่อนอยู่ภายใน ขวัญอุษาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ น้ำเสียงของเธอสั่นเล็กน้อย “พี่กรณ์ นี่พี่” “ขวัญ พี่รู้ว่าพี่ทำผิดพลาดมามากมายในอดีต และทำให้ขวัญเจ็บปวด แต่ตอนนี้ พี่อยากขอโอกาสที่จะสร้างอนาคตใหม่กับขวัญ” ปกรณ์พูดอย่างช้าๆแสดงความจริงใจ
หลังจากที่ปกรณ์ยังคงพยายามพิสูจน์ตัวเองโดยช่วยงานในสวนผลไม้ทุกวันร่วมกับคุณสาธิต แม้ว่าเขาจะมีอาการแพ้ท้องแทนขวัญอุษาจนทานอาหารได้เพียงน้อยนิด เขาก็ไม่เคยหยุดหรือแสดงความอ่อนแอ เพราะเขาอยากแสดงให้ทุกคนเห็นว่าเขาพร้อมจะเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวและพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อขวัญอุษาและลูกแต่ในที่สุด การทานได้น้อยและอ่อนแรงจากอาการแพ้ท้องก็เริ่มส่งผลต่อร่างกายของปกรณ์อย่างรุนแรง จนทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นเมื่อปกรณ์กำลังช่วยพ่อตาตัดแต่งกิ่งไม้บนต้นผลไม้สูง ซึ่งเป็นงานที่เขาทำเป็นประจำแม้จะเริ่มรู้สึกอ่อนล้า แต่ในวันนี้อาการแพ้ท้องที่เขาเผชิญมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์เริ่มสะสม ร่างกายของเขาเริ่มอ่อนแอเพราะทานอาหารได้น้อยขณะที่ปกรณ์อยู่บนต้นไม้และกำลังใช้มีดตัดกิ่งไม้ เขารู้สึกเวียนหัวและตาพร่ามัว เขาพยายามกะพริบตาหลายครั้งเพื่อให้การมองเห็นกลับมาเป็นปกติ แต่ความเหนื่อยล้าจากการทานได้น้อยทำให้เขารู้สึกเหมือนร่างกายจะไม่ตอบสนองทันใดนั้นอาการเวียนหัวก็ถาโถมเข้ามาอย่างรวดเร็ว ร่างกายของปกรณ์ไม่สามารถทรงตัวอยู่บนกิ่งไม้ได้อีกต่อไป เขารู้สึกเหมือนร่างกายจะล้มลงก่อนที่เขาจะคว้ากิ่งไม้ไว้ได้“โ
ถึงแม้ว่าปกรณ์ยังตามง้อและช่วยพ่อสาธิตทำงานในสวน แต่ขวัญอุษายังคงใจแข็งและพยายามรักษาระยะห่างจากปกรณ์ เธอก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงเรื่องของคนรักของปกรณ์ที่เขาเคยพูดถึงก่อนหน้านี้ ในใจของขวัญอุษารู้สึกว่า ปกรณ์ทำทีมาง้อเธอที่นี่แต่อาจจะยังมีคนรักที่รออยู่ที่กรุงเทพ และสิ่งที่เขากำลังทำตอนนี้อาจเป็นเพียงแค่ความรู้สึกผิด หรือการพยายามชดใช้ความผิดพลาดของตัวเองเท่านั้นขณะที่ทั้งสองนั่งคุยกัน ขวัญอุษาตัดสินใจที่จะเผชิญหน้ากับความรู้สึกของตัวเองและบอกให้ปกรณ์กลับไปหาคนรักของเขา เธอไม่อยากให้ปกรณ์ต้องเสียสละหรือทิ้งชีวิตในกรุงเทพฯ เพื่อรับผิดชอบลูกในท้องของเธอ อีกทั้งไม่อยากให้คนรักของปกรณ์ต้องเสียใจขวัญอุษาหันมามองจ้องหน้าหล่อของปกรณ์ด้วยสายตาจริงจัง ก่อนจะพูดขึ้นกับเขา “คุณปกรณ์ คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ก็ได้นะคะ คุณมีชีวิตของคุณ มีคนรักที่คุณต้องกลับไปดูแล ขวัญว่าคุณกลับไปอยู่ที่กรุงเทพก็ได้ค่ะ วันไหนที่คุณอยากจะมาหาลูกคุณค่อยมาก็ได้”ปกรณ์ชะงักไปทันทีเมื่อได้ยินคำพูดนั้น เขามองขวัญด้วยความแปลกใจ ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ “ขวัญ คุณกำลังพูดถึงใครเหรอ ที่บอกว่าคนรักของผม”ขวัญอุษามองหน้าเขาอย่างไม่ชอบ
หลังจากที่ปกรณ์ได้ขอขมาคุณสาธิตพ่อของขวัญอุษาและได้รับโอกาสในการพิสูจน์ตัวเอง เขาตัดสินใจว่าจะไม่เพียงแค่เป็นพ่อที่ดี แต่จะทำหน้าที่ลูกเขยที่ดีช่วยพ่อตาดูแลสวนผลไม้ด้วย เพื่อแสดงความจริงใจและรับผิดชอบต่อครอบครัวของขวัญอุษาอย่างเต็มที่ปกรณ์ไม่เคยมีประสบการณ์ในการทำสวนมาก่อน ชีวิตที่เคยอยู่แต่เมืองนอกทำให้เขาคุ้นเคยกับการทำงานในออฟฟิศและธุรกิจมากกว่า แต่เขารู้ว่าการปรับตัวในครั้งนี้สำคัญแค่ไหน เขาไม่เพียงแค่ต้องพิสูจน์ตัวเองต่อพ่อของหญิงสาว แต่ยังต้องทำให้ขวัญอุษาเชื่อใจในความตั้งใจของเขาอีกครั้งเช้าวันแรกที่ปกรณ์เริ่มทำงานในสวนผลไม้ เขามีความรู้สึกตื่นเต้นผสมกับความท้าทาย เขาเดินเข้าไปหาพ่อสาธิตที่กำลังตัดแต่งกิ่งไม้และดูแลต้นผลไม้อย่างขะมักเขม้น“คุณพ่อครับ วันนี้ผมขอช่วยงานในสวนด้วยนะครับ” ปกรณ์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความตั้งใจ ขณะที่พ่อของขวัญอุษาหันมามองเขา คุณสาธิตนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย“ถ้าคุณอยากช่วย ก็มาเริ่มกันเลย แต่ต้องบอกก่อนนะว่า งานในสวนไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด”ปกรณ์ยิ้มบาง ๆ แม้จะรู้ว่ามันไม่ใช่งานง่าย แต่เขาก็พร้อมที่จะลงมือทำเต็มที่ “ผมพร้อมคร
หลังจากที่ปกรณ์รู้ความจริงว่า คุณหญิงธัญญาแอบไปหาขวัญที่เชียงรายและได้เจอเธอพร้อมลูกในท้อง ปกรณ์ตัดสินใจว่าจะยังไม่เผชิญหน้ากับแม่ทันที แต่เขาต้องการดูว่าคุณหญิงจะพูดอะไรกับเขาหรือไม่ เขาจึงคิดแผนการแกล้งโทรหาคุณหญิง เพื่อสังเกตปฏิกิริยาของแม่และหาทางให้คุณหญิงบอกความจริงด้วยตัวเอง ขณะที่คุณหญิงกำลังนั่งคุยกับขวัญอุษาอยู่ในสวน เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น คุณหญิงหันมองโทรศัพท์ที่สั่นอยู่บนโต๊ะ เห็นชื่อปกรณ์ปรากฏบนหน้าจอ เธอชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะรีบกดรับสายด้วยความเป็นกังวล “ตากรณ์ ลูกโทรมามีอะไรเหรอ” คุณหญิงถามด้วยน้ำเสียงที่พยายามจะฟังดูเป็นปกติ แม้ในใจจะรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย ปกรณ์ที่อยู่ปลายสายแกล้งทำเสียงร่าเริงเหมือนไม่รู้เรื่องอะไร “คุณแม่ครับ คุณแม่จะกลับบ้านวันไหนครับ” “แม่ยังไม่กลับตอนนี้ลูก มีอะไรหรือเปล่า หรือที่บริษัทมีปัญหา” “เปล่าหรอกครับทุกอย่างเรียบร้อยดี แม่ไม่ต้องเป็นห่วง ผมแค่อยากถามว่าช่วงนี้แม่หายไปไหนบ่อย ๆ เหรอ We ผมสังเกตว่าแม่ออกจากบ้านหลายวันแล้วนะ ไปทำธุระอะไรอยู่หรือครับ ไม่ส่งข่าวลูกชายบ้างเลย ผมเป็นห่วงเลยโทรมา” คุณหญิงนิ่งไปครู่หนึ่ง พยายามหาคำตอบอย่างรวด
หลังจากที่ปกรณ์ได้รู้ความจริงว่าขวัญอุษากำลังตั้งครรภ์ลูกของเขา ความรู้สึกตื่นเต้นและดีใจทำให้เขาตัดสินใจทันทีว่าจะเริ่มเตรียมตัวเป็นพ่อที่ดี เขารู้ว่าตัวเองทำผิดพลาดกับขวัญอุษาในอดีต แต่ตอนนี้เขาอยากจะเริ่มต้นใหม่ และส่วนหนึ่งของการแสดงออกถึงความรับผิดชอบนั้นคือการเตรียมห้องสำหรับลูกน้อยปกรณ์เดินไปที่ห้องว่างห้องหนึ่งในบ้าน เขาจ้องมองไปทั่วห้องที่ยังคงว่างเปล่า แต่ในจินตนาการของเขา มันเริ่มเต็มไปด้วยภาพของอนาคตที่สดใส เขาเห็นภาพของลูกชายตัวเล็ก ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น ภาพของเตียงเด็กเล็กที่วางไว้ตรงมุมห้อง ของเล่นวางเรียงราย และผนังที่ทาสีอย่างสดใส“ฉันจะเตรียมห้องนี้ไว้ให้ลูก ห้องสำหรับเด็กน้อยของฉัน” ปกรณ์พึมพำกับตัวเองด้วยความตั้งใจเขาเดินไปรอบ ๆ ห้อง วัดขนาดพื้นที่ด้วยสายตาและเริ่มคิดถึงการจัดแต่งห้อง ทุกมุม ทุกเฟอร์นิเจอร์ เขาต้องการให้ห้องนี้เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่นสำหรับลูกน้อยของเขาวันต่อมาปกรณ์เริ่มลงมือจัดการเรื่องการตกแต่งห้องสำหรับลูกน้อยอย่างจริงจัง เขาเริ่มหาซื้อเฟอร์นิเจอร์สำหรับเด็ก ทั้งเตียงนอนเด็ก ตู้เสื้อผ้าเล็ก ๆ และชั้นวางของเล่น เขาเลือกเตียง