หมอพุฒตาล ศัลยแพทย์ทั่วไป เรียนจบด้วยเกรดนิยมอันดับหนึ่ง เธอกลายเป็นหมอผ่าตัดมือหนึ่งของโรงพยาบาล ด้วยชีวิตที่คิดอุทิศให้กับวงการแพทย์ ทำให้หมอพุฒตาลไม่เคยข้องแวะกับชายใด แม้จะมีหนุ่มเข้ามาจีบไม่เว้นวัน เมื่อบิดาของเธอเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ เพราะการผ่าตัดที่ล่าช้า เนื่องมาจากช่วงเวลานั้น ขาดหมอเฉพาะทาง เหตุผลนี้จึงเป็นแรงผลักดัน ทำให้เธอตั้งใจเรียนศัลยแพทย์ จนฝีมือด้านการผ่าตัดการวินิจฉัยโรคของหมอพุฒตาล เป็นที่ยอมรับของเพื่อนหมอ และคนไข้ที่มารับการรักษา เมื่อเธอทำงานได้สองปีสิ่งที่ไม่คาดฝันกับชีวิตก็เกิดขึ้น เมื่อมารดาเข้ามาหาเธอถึงห้องพักแพทย์ในโรงพยาบาล สิ่งที่มารดาต้องการคือการให้เธอแต่งงานกับลูกชายของเพื่อน เมื่อนางกู้ยืมเงินเขามาส่งเสียให้เธอเรียน ใครเล่าจะรู้ว่าหมอมือหนึ่งอย่างเธอ จะต้องมาแต่งงานใช้หนี้ผู้ชายที่ไม่เคยพบหน้ากันมาก่อน เงินสิบล้านกับดอกเบี้ยอีกเท่าตัวทางเลือกของหมอพุฒตาล คือการแต่งงานกับชายแปลกหน้าเพียงเท่านั้น เตชิน หนุ่มไฮโซรูปหล่อ เห็นผู้หญิงเป็นแค่เครื่องบำเรอ เขามองความรักเป็นแค่เรื่องล้อเล่น เที่ยวเตร่ไปวันๆ ส่วนธุรกิจของครอบครัวเขาทิ้งให้เตชิต พี่ชายเพียงคนเดียวรับผิดชอบ ความอดทนของผู้เป็นมารดาได้สิ้นสุดลง
View Moreแพทย์หญิงพุฒตาลกำลังนั่งเอนหลัง พร้อมทั้งพักสายตาที่อ่อนล้า อยู่ในห้องพักแพทย์ หลังจากที่เพิ่งออกมาจากห้องผ่าตัด ความมุ่งมั่นที่จะแสวงหาความรู้ของเธอไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อหมอพุฒตาลตั้งใจที่จะสละเวลาที่มีทั้งหมดอุทิศตนเพื่อส่วนรวม เมื่อเธอเคยสูญเสียบิดาไป หมอสาวจึงเข้าใจหัวอกของคนไข้ ซึ่งฝากความหวังไว้ทั้งหมดกับหมอ
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! แกร๊ก! เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมกับเสียงเปิดประตูดังตามมาติดๆก่อนที่ร่างของหญิงวัยกลางคนจะโผล่เข้ามาแล้วนั่งลงข้างๆหมอสาว
“เหนื่อยไหมลูก” คำถามของมารดาดังขึ้น เมื่อเห็นลูกสาวเพียงคนเดียวนั่งหลับตาเหมือนกับอดหลับอดนอนมาทั้งคืน
“นิดหน่อยค่ะแม่” หมอสาวตอบออกไปพร้อมกับรอยยิ้มบาง ๆ
"แม่มีธุระสำคัญจะคุยกับหมอสะดวกไหม”
"ตาลพอมีเวลาอีกประมาณสามสิบนาทีค่ะ แม่มีอะไรก็ว่ามาได้เลยค่ะ" หมอสาวพูดพร้อมกับหยิบผลไม้ที่แม่เตรียมมาให้เข้าปาก
“ถ้าแม่จะขออะไรจากหมอเรื่องหนึ่งจะได้ไหม” ผู้เป็นแม่พูดอย่างหยั่งเชิงลูกสาวเพราะสิ่งที่จะให้หมอพุฒตาลทำนั้นสำหรับแม่แล้วก็ลำบากใจอยู่เหมือนกันแต่ก็ไม่มีทางอื่นให้เลือก
“อะไรหรอคะแม่ว่ามาเลยค่ะ” หมอสาวพูดทั้งที่ปากก็ยังเคี้ยวผลไม้ตุ้ย ๆ อยู่เต็มปาก
“แม่จะขอให้หมอแต่งงานกับลูกชายเพื่อนแม่จะได้ไหม”
“ฮ๋า! แม่ว่าอะไรนะคะ” หมอสาวตกใจจนวางผลไม้ในมือลง อยู่ ๆ แม่จะให้แต่งงานมันเป็นเรื่องที่ไม่เคยอยู่ในหัวเธอเลย
“พ่อเสียที่บ้านเราก็มีปัญหาเรื่องการเงิน แม่เลยไปหยิบยืมเขามาจ่ายค่าบ้าน แล้วก็ส่งเสียให้หมอเรียน ทั้งต้นทั้งดอกตอนนี้ก็เกือบยี่สิบล้านแล้ว”
“ฮ๋าา!... เขาคิดดอกรายวันเหรอคะแม่ ถึงได้เยอะแยะขนาดนั้น”เงินเกือบยี่สิบล้านเธอจะมีปัญญาไปหามาจากไหน งานก็เพิ่งทำได้เพียง lสองปี
“แม่กู้เขามาเกือบสิบปีแล้วนะ ถ้าเป็นคนอื่นดอกเบี้ยคงบานกว่านี้ นี่ถือว่าเป็นเพื่อนกัน” ผู้เป็นมารดาชี้แจงออกไป ให้ลูกสาวฟังถึงสาเหตุของการเป็นหนี้ก้อนโต
“แม่เป็นคนเสนอเงื่อนไขนี้ให้กับเขา หรือว่าทางโน้นเขาเสนอมาคะแม่” หมอสาวถามออกไปด้วยความสงสัย เธอจะทำยังไง หากการแต่งงานครั้งนี้ มันกระทบงานของเธอ แน่นอนหมอพุฒตาลรักอาชีพหมอมาก เธอสามารถอุทิศตนให้อาชีพนี้ได้ แล้วคนในครอบครัวของเขา ผู้ชายคนนั้น ที่ชื่อว่าสามี เขาจะเข้าใจเธอไหม หากเธอกลับบ้านไม่ตรงเวลา งานที่มีกะเช้ากะเย็นไหนจะเข้าเวรดึกๆ อีก
“เพื่อนของแม่เขาเป็นคนเสนอมา ตอนเล็ก ๆ แม่เคยเจอเตชิน เพราะแม่เขาพามาเล่นที่บ้านเราประจำ เขามีพี่ชายชื่อเตชิตตอนนั้นหนูยังไม่เกิดก็เลยไม่เจอกัน” ผู้เป็นมารดาอธิบายให้ลูกสาวฟัง เพราะเตชินน่าจะอายุห่างจากเธอประมาณปีสองปีได้
“เขามีเงื่อนไขอะไรหรือเปล่าคะแม่” ในโลกใบนี้คงจะไม่มีผู้หญิงคนไหน ใจเย็นเท่าหมอพุฒตาลอีกแล้ว นั่นคือเหตุผลที่มารดาของเตชินต้องการได้เธอไปเป็นลูกสะใภ้ เพื่อกำราบนิสัยของเตชิน ความใจเย็นของหมอพุฒตาลจะทำให้คนใจร้อนขวางโลกอย่างเตชินนั้น สงบลงได้ในความคิดของผู้เป็นมารดา
“หนี้สินทั้งหมดจะกลายเป็นศูนย์ หากลูกแต่งงานกับเตชิน”
“แล้วถ้าตาลไม่แต่งล่ะคะแม่” หมอสาวลุ้นคำตอบจากผู้เป็นมารดา ถ้าเธอไม่แต่งแล้วเขายืดระยะเวลาชำระหนี้ได้ เธอก็ยินดีจะหาเงินมาให้เขา ไม่ว่าจะต้องทำงานหนักแค่ไหนก็ตาม
“บ้านที่เราอยู่ก็จะถูกยึดไปทันที แม่ก็จะไม่มีแม้กระทั่งที่ซุกหัวนอน หนี้ทั้งหมดเขาจะฟ้องเรา และจะต้องไปขึ้นศาล เพื่อไกล่เกลี่ย ซึ่งแม่ก็ไม่รู้ว่าจะหาเงินจากที่ไหนมาสู้คดี เพราะสู้ยังไงก็แพ้เขาอยู่ดี” คำพูดของผู้เป็นมารดาชั่งเป็นทางเลือกที่ดีให้เธอเหลือเกิน เพราะนั่นหมายถึงมันมีทางเดียว คือเธอต้องแต่งงานกับเขา ไม่อย่างนั้นมารดาของเธอก็ต้องย้ายบ้าน หาที่อยู่ใหม่ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องยาก ซึ่งเธอก็อยากรักษาสมบัติชิ้นเดียว ที่บิดามีไว้ให้กับความผูกพัน ของคำว่าครอบครัว ที่อยู่ในบ้านหลังนั้นตั้งแต่เล็กจนโตเอาไว้
“ตกลงค่ะแม่ ตาลจะแต่งงานกับเขา”
“จริงหรอลูก ขอบใจมากนะ ขอบใจที่ช่วยแม่” ผู้เป็นมารดาโอบลูกเข้าไปในอ้อมกอด นางจะรู้ไหมว่าหมอพุฒตาล ต้องฝืนความรู้สึกตัวเองแค่ไหน กับการแต่งงานครั้งนี้
เมื่อผู้เป็นมารดาออกจากห้องไป หมอพุฒตาลเอนหลังลงกับโซฟาอีกครั้ง ก่อนจะหลับตาลงอย่างช้าๆ นึกถึงเหตุการณ์ในอนาคต ที่กำลังจะเกิดขึ้น กับอิสรภาพที่เคยมีกำลังจะจบสิ้นลง
ขณะที่เตชินกำลังจะออกจากบ้าน ก็เจอกับผู้เป็นมารดาที่ดักรออยู่ก่อนหน้าแล้ว วันนี้ฤกษ์ไม่ดีแน่ ถ้ามารดาดักรอแบบนี้ แต่เขาก็เดินเข้าไปหาผู้เป็นมารดาแล้วนั่งลงไปโอบกอดอย่างออดอ้อนเหมือนเด็กๆ วันนี้เตชินได้นัดกับเพื่อนๆ เอาไว้มีปาร์ตี้ที่ริมสระครบเครื่องด้วยสุราและนารี มันคือสิ่งที่เขาหลงรักเป็นชีวิตจิตใจ จนลืมไปว่าเขามีพี่ชายที่ต้องแบกรับภาระทุกอย่างเอาไว้เพียงผู้เดียว หลังจากที่พ่อเสียไป
“แกจะออกไปไหนค่ำมืดป่านนี้ อยู่ติดบ้านติดเรือนบ้างจะเป็นไร งานการก็ไม่ทำ อะไรก็ไม่สนใจ เที่ยวเตร่ไปวันๆ ฉันขอถามแกจริงๆ เถอะแกจะไม่ช่วยแบ่งเบาภาระของพี่ชายเลยใช่ไหมเตชิน” คำบ่นของผู้เป็นมารดายาวเป็นหางว่าว ถามว่าเขาสะทกสะท้านไหม ก็ขอตอบเลยว่าไม่ เตชินไม่เคยยินดียินร้ายกับคำพูดเหล่านั้นเลยสักนิดเขายังคงทำตัวเป็นหนุ่มเจ้าสำราญ ไม่สนใจการงานเหมือนดั่งเคย
“วันนี้ฉันจะขอยื่นคำขาดกับแก ถ้าแกยังเห็นฉันเป็นแม่ก็หยุดอยู่บ้านแล้วฟัง” คำพูดที่ดูจริงจังของมารดาวันนี้ ทำให้เขาถึงกับหน้าเสียไปนิดหนึ่ง
“แม่มีอะไรจะบ่นผมอีกครับว่ามาเลย ผมนัดกับเพื่อนเอาไว้วันนี้ยังไงก็ต้องออกจากบ้าน”
“ได้! แกเตรียมตัวแต่งงานได้แล้ว มันหมดเวลาที่แกจะมาเที่ยวเตร่ไปวันๆ ถึงเวลาที่แกจะสร้างครอบครัวได้แล้วเตชิน”
เขายังตลกกับคำพูดของผู้เป็นมารดาอยู่ๆ จะให้แต่งงานกับใครไม่มีทาง เขาไม่มีวันจะแต่ง เมื่อชีวิตโสดแบบนี้มันคุ้มค่ามากกว่าการมีพันธะกับใครสักคน แล้วต้องยึดติดกับคำว่าความถูกต้อง ซึ่งเขาไม่ชอบเอาเสียเลย
“คิดอะไรอยู่ค่ะคุณพ่อ” หมอสาวพูดพร้อมกับเอามือคล้องคอสามีหนุ่มจากทางด้านหลัง ขณะที่เตชินนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่สนามหน้าบ้าน เพื่อดูลูกๆ เล่นวิ่งไล่จับกัน ในวันหยุดพักผ่อนของครอบครัว อย่างสนุกสนาน..หมอพุฒตาลโน้มหน้าซบลงไปที่ไหล่กว้าง แล้วฝังจมูกเล็กลงไปที่แก้มของสามี แล้วกดริมฝีปากบางนั้นจะแนบลงไปที่แก้มเขาอีกที “จุ๊บบ!! รักนะคะ” “อ้อนจังแบบนี้จะไม่ให้ผมหลงรักได้ยังไง..หื้ม” เตชินพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปจับแขนของหมอสาว แล้วโน้มตัวเธอมานั่งลงที่ตักเขาอย่างง่ายดาย ทว่าการกระทำนั้นกลับนุ่มนวลทะนุถนอมอ่อนโยน และเบามือ เพราะเธอคือผู้หญิงที่ควรค่ากับตำแหน่งภรรยาของเขา “ขอบคุณคุณนะครับ..ที่ให้โอกาสคนอย่างผม” “ตาลให้โอกาสหัวใจตัวเองต่างหาก” หมอสาวพูดแย้งขึ้น หากเธอไม่รักชายตรงหน้าอย่างหมดใจทั้งสี่ห้อง มีหรือที่เธอจะยอมให้โอกาสกับเขา “จุ๊บบ!! ผมรักคุณจัง” สามีหนุ่มจุ๊บเอาคืนบ้าง
“นั่งลงตรงนี้นะครับคุณหมอ โอเคอย่างนั้นแหละระวังด้วยครับ” ทุกครั้งที่เตชินที่เตชินเรียกภรรยา เขามักจะใช้คำนำหน้าว่าคุณหมอเสมอ เพื่อให้เกียรติในอาชีพของเธอ น้อยครั้งที่เขาจะเรียกชื่อโดยไม่มีคำนำหน้าว่าคุณหมอ หลังจากที่จัดให้หมอสาวนั่งลงแล้ว เตชินก็นั่งลงข้างๆ โดยมีเกี๊ยวน้ำนั่งที่ตักของเขา สามคนพ่อแม่ลูกกำลังนั่งดูพระอาทิตย์ตก อาจจะเป็นพระอาทิตย์ที่สวยที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ “ทำไมพระอาทิตย์ใหญ่จังเลยค่ะคุณพ่อ พอดูแล้วก็ไม่แสบตาเหมือนเมื่อตอนกลางวันเลย” เตชินกับหมอสาวยิ้มให้กันอีกครั้ง ก่อนจะหันไปมองใบหน้าลูกสาว พร้อมทั้งเอามือแตะลงที่ผมของเด็กน้อยเบาๆ พร้อมกันทั้งสองคนพ่อและแม่ “นั่นเป็นเพราะว่าแสงมันจะหมดยังไงล่ะครับ ตอนนี้พระอาทิตย์เหมือนกับโทรศัพท์ที่ลูกเล่น มันกำลังจะลับขอบฟ้า เพื่อไปชาร์จแบตเตอรี่ แล้วพรุ่งนี้เช้ามันก็จะโผล่ขึ้นมาส่องแสงเจิดจ้าใหม่อีกครั้ง” เตชินอธิบายให้ลูกสาวฟังอย่างละเอียด คำเปรียบเทียบของเขาทำให้หมอสาวมีรอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าอีกครั้ง “สวยจังเลยค่ะ มันเป็นพระอาทิตย์ตกครั้งแรกในชีวิต ท
“นี่ไงพ่อจะพาไป ให้รางวัลพ่อด้วยจุ๊บเลยครับ” เตชินพูดพร้อมกับชี้มือมาที่แก้มของเขาซ้ายขวา เพื่อให้เด็กหญิงเกี๊ยวน้ำที่นั่งตรงหน้าจุ๊บลงมาเติมพลังให้กับเช้าวันใหม่ ที่เป็นวันแรกในรอบห้าปี ที่เขานอนแล้วตื่นขึ้นมาฝันดี เมื่อมีภรรยา และลูกสาวอยู่ข้างๆ กายแบบนี้ “จุ๊บบ!! รักคุณพ่อนะคะ” เกี๊ยวน้ำจุ๊บลงที่แก้มของบิดาพร้อมกับบอกรัก ก่อนที่เตชินจะคว้าเด็กน้อยมานั่งที่ตักโอบกอดเอาไว้ พร้อมกับกดจมูกลงไปที่แก้มของลูกสาวซ้ายขวา เขารู้สึกรัก และหวงแหนเด็กน้อยคนนี้ที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจ ไม่ต่างจากหมอพุฒตาลมารดาของเด็กน้อย หมอสาวได้เดินออกมาจากห้องน้ำสักพักแล้ว เธอยืนมองภาพของสองพ่อลูก ที่มันอธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ วันนี้เธอทำให้เกี๊ยวน้ำมีพ่อมีครอบครัวที่สมบูรณ์ อย่างน้อยก็ต้องขอบคุณเตชินที่เขายังรัก และรอเธออยู่เช่นกัน หกเดือนผ่านไปทุกอย่างลงตัว ความรักของเตชิน และหมอสาวที่เกิดจากหนี้ เวลานี้กลับเต็มไปด้วยความรัก เหมือนดอกไม้ที่กำลังผลิบานสะพรั่งไม่รู้โรย มารดาและพี่ชายพี่สะใภ้รวมทั้งแม่ยายของเขา ต่างก็ดีใจที่เห็นเตชิน และหมอพุฒตาลนั้น ได้มีความสุขกับเขาสัก
“ขอบคุณนะครับที่กลับมา...จุ๊บบ!” เตชินพูดพร้อมกับจูบลงไปที่เรียวปากบางได้รูป ของหมอสาวอย่างอ่อนโยน และนุ่มนวล ด้วยความรู้สึกรัก และหวงแหนเธอยิ่งกว่าสิ่งใด แขนเล็กเรียวคลายออกจากเอวหนา อุ้งมือเล็กของหมอสาวดันที่อกกว้างของเตชินเอาไว้ เพราะแสงสว่างที่มันเจิดจ้าทำให้หมอพุฒตาลอายสายตาของเตชิน ที่ทอดมองมายังเรือนร่างเปลือยเปล่าของเธอ แม้จะมีผ้าห่มปิดแต่มันก็ไม่มิดสักนิดเลย เมื่อเขาพยายามดึงผ้าออก เพื่อจะทำภารกิจผลิตลูกชายอีกครั้ง “มันเช้าแล้วจะไปอาบน้ำ” หมอสาวพูดขณะที่เตชินนั้นทำหน้าตางอแงเหมือนเด็ก “ไม่เอาห้าปีแล้วนะที่เราไม่ได้อยู่กันแบบนี้ ขอนอนกอดให้หายคิดถึงก่อนได้ไหม” เตชินพูดจาเสียงออดอ้อน จนทำให้หมอพุฒตาลนั้นรู้สึกหมั่นไส้ กับการกระทำของสามี ท่าทางของเขาที่แสดงออกมาในเวลานี้ผิดกับเมื่อก่อนมาก “อาบน้ำแล้วค่อยมาคุยกันก็ได้” หมอสาวพูดพร้อมกับ พยายามเอื้อมมือลงไปคว้าผ้าเช็ดตัวของเตชิน ที่เมื่อคืนเขาโยนมันลงไปกองกับพื้นรวมกับเสื้อผ้าของเธอ ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบ เธอก็โดนเตชินคว้าเอวบางรวบเข้าไปอยู่
ปลายลิ้นหนาของชายหนุ่มเริ่มแตะกระหวัดพัวพันกับลิ้นเรียวเล็กไปมา เพื่อสำรวจและกวาดต้อนลิ้มรสของความหวาน ที่มีกลิ่นและรสชาติของแอลกอฮอล์อ่อนๆ ที่ทั้งสองได้ดื่มก่อนหน้านี้อย่างรัญจวน ก่อนที่สามีหนุ่มจะเว้นช่องว่างให้ภรรยาสาวได้หายใจบ้าง “อืม อื้อ!” เสียงของเธอเริ่มกระเส่า เมื่อเตชินถอนจูบแล้วแตะลิ้นหนาบรรเลงลงไป ที่ยอดปลายยอดประทุมถันชูชันของเธอ ก่อนที่เขาจะอมแล้วดูดสลับข้างไปมา จากนั้นเตชินเลียไล้ลงต่ำแตะปลายลิ้นลงมาที่ใต้ท้องน้อย เขาไล้เลียบรรเลงลงไปที่กลีบกุหลาบงาม อย่างโหยหามาแสนนาน “อืม~อ่า!.... คุณ...” เสียงแหลมของหมอสาวได้ครางออกมา เมื่อไม่รู้สึกได้ถึงความเสียวซ่านจากลิ้นอุ่นแตะลงใกล้บริเวณที่เธอหวงแหน ลิ้นหนาแตะกระหวัดลงไปที่เม็ดเสียวแดงระเรี่ย ขาเรียวของหมอสาวถูกแยกออกกว้างขึ้นอีก “อ้าส์~อ๊ะ! คุณเตชิน!” คราวนี้เสียงหวานเอ่ยเรียกชื่อสามีหนุ่มออกมาอย่างเผลอลืมตัว เมื่อเตชินมุดหน้าลงไปเชยชมกับกลี
เตชินเลี้ยวรถเข้ามาจอดในบ้าน ก่อนจะอ้อมไปเปิดให้หมอพุฒตาลเดินลงมาจากรถ หมอสาวมองไปรอบๆ ห้าปีที่จากไป ที่นี่ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เธอไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลยว่า จะได้กลับมาเหยียบที่บ้านหลังนี้อีก เมื่อครั้งหนึ่งเธอเดินออกไปด้วยใจที่ปวดร้าว แต่ไม่รู้ว่าการกลับมาครั้งนี้ จะซ้ำเติมรอยแผลเก่าหรือเขาจะรักษาให้มันหายดี “ไปเข้าบ้านกัน” เตชินพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปจับที่มือเล็กเรียวของภรรยาสาว ให้เดินตามเข้าไปในบ้าน เวลานี้ทุกคนคงจะหลับหมดแล้ว รวมทั้งเกี๊ยวน้ำคงหลับฝันดีกับคุณย่าทั้งคืน “ฉันจะรออยู่ตรงนี้ คุณขึ้นอุ้มเกี๊ยวน้ำลงมาให้ฉันก็ได้” เมื่อเตชินจูงแขนเธอมาถึงกลางบ้าน หมอสาวก็หยุดเดินทันที เพราะเธอกลัวว่าสิ่งที่เธอพยายามห้ามใจนั้น จะเกิดขึ้นกับหัวใจให้หลงใหลไปตามสิ่งที่เตชินต้องการ เพราะเธอรู้ดีว่าเขาคงไม่หยุดแค่นี้แน่ ผู้ชายอย่างเตชินหากต้องการสิ่งใดแล้ว เขาจะต้องได้มาทุกอย่างตามที่ต้องการ แม้แต่หัวใจของเธอ เขาก็ได้มันไปแล้วอย่างง่ายดาย แต่ในเวลานี้เธอกลัว กลัวเหลือเกินว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย “เกี๊ยวน้ำหลับไปแล
Comments