แชร์

บทที่ 9 แผ่นดินมีขื่อมีแป

ผู้เขียน: moonlight -mini
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-10-17 23:31:56

บทที่ 9 แผ่นดินมีขื่อมีแป

เสียงฝีเท้าหนักแน่นของทหารยามหน้าเรือนแม่ทัพทำให้สาวใช้ในจวนหลบหลีกกันวุ่นวายไปทั้งลาน

บ่าวไพร่รีบคุกเข่าคารวะเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ในชุดคลุมทหารประดับยศระดับสูงเดินตรงเข้าสู่เรือนใหญ่

หลี่อินลุกขึ้นจากเก้าอี้โดยไม่รอให้ใครมาแจ้ง นางรู้ว่าเขาต้องมา

แม่ทัพหลงเหยียนหย่วน บิดาของหลงอวี้จง และบุรุษผู้ที่ชื่อของเขาเพียงอย่างเดียวก็สามารถทำให้เสนาบดีฝ่ายซ้ายต้องลุกจากเก้าอี้

“คารวะท่านพ่อเจ้าค่ะ” นางคำนับอย่างสง่างาม สีหน้านิ่งสงบดังเคย เขาไม่ได้พยักรับ ไม่ได้ยิ้ม ไม่ได้ขานตอบแต่สายตาคมกล้ากลับมองนางประหนึ่งกำลังพิจารณา เกราะเหล็กบางเฉียบที่ซ่อนหัวใจเอาไว้ได้แนบเนียนที่สุด

“เจ้ายอมรับนางหรือ”

แม้ไม่เอ่ยชื่อแต่หลี่อินรู้ทันทีว่าหมายถึง ซูเจิน นางไม่หลบสายตา ไม่ยิ้ม ไม่หวาดหวั่น

“ข่าวว่านางคือคนรักของท่านพี่ ข้าทราบดีเจ้าค่ะ”

“เจ้าไม่กลัวว่าวันหนึ่ง…นางจะได้ยืนในตำแหน่งที่เจ้าอยู่บ้างหรือ” เขาเอ่ยเสียงราบเรียบ ทว่าคลื่นใต้น้ำแผ่กระจายทุกคำ หลี่อินคลี่ยิ้มบาง ส่ายหน้าอย่างไม่ไยดี

“หากท่านพี่จะยกนางแทนที่ข้า ข้าย่อมไม่ขัดข้อง ข้าแต่งเข้ามาเพื่อทำหน้าที่ มิได้หวังครอบครองสิ่งใด”

แม่ทัพใหญ่กระชับดาบที่สะพายหลังแน่นขึ้นเล็กน้อยก่อนจะกล่าวถ้อยคำที่เหมือนฟันลงบนหินเสียงกร้าว

“จะรับนางคนนั้นเป็นอนุก็รับไป แต่ตำแหน่งอื่น ๆ ข้าไม่ยอมรับ นางไร้หัวนอนปลายเท้า เลือดที่ไหลเวียนในร่างนางมีเชื้อชาติใดเจืออยู่บ้าง…ก็ยังหาคนยืนยันมิได้”

แม่ทัพใหญ่เอ่ยเสียงเข้ม มั่นคงราวเสียงคำรามกลางสนามรบ

“ต่อให้ตระกูลหลี่กำลังเสื่อมถอยเพียงใด แต่เจ้าก็เกิดจากสายเลือดตระกูลสูง วงศ์สกุลแตกแขนงจากเชื้อสายใดย่อมชัดเจนไม่คลุมเครือ”

เขายกมือไพล่หลัง พลางกวาดตามองทั่วบริเวณเรือนอย่างสำรวจ ว่าคนที่เขาเลือกมาเป็นคนในตระกูลจัดการหน้าที่และงานในจวนได้ดีอย่างที่เขาคาดหวังไว้หรือไม่ แม้บิดานางจะเป็นสหายเขา แต่นั้นไม่ได้หมายความว่านางจะมาทำตัวไร้การอบรมไม่ได้

“ข้าไม่ถือสาเรื่องสินสอดไม่กี่ร้อยตำลึงที่จ่ายให้บิดาเจ้า ตระกูลหลงรับใช้ราชสำนักมาแล้วกี่รัชศก ของพระราชทานจากเบื้องบนมีมากพอให้ใช้ถึงเจ็ดชั่วคน”

ดวงตาเขาคมกริบจ้องตรงไปข้างหน้า เอ่ยเนิบช้า แต่ทุกถ้อยคำหนักแน่นดังฟ้าผ่า หลี่อินก้มหน้าเงียบ

ในชาติแรก…วันที่นางพาหลงอวี้จงขึ้นครองบัลลังก์ ก็เป็นชายชราผู้นี้ที่หนุนหลังให้เขารับซูเจินเข้าวัง เพียงเพราะนางมีสายเลือดฮ่องเต้พระองค์ก่อน

ไม่เคยเปลี่ยน…ชายชราผู้นี้ไม่เคยใส่ใจในเรื่องความรัก ในสายตาเขา มีเพียงหน้าตา ศักดิ์ศรี เกียรติยศ และสายเลือด แม้ในชาตินั้น ซูเจินจะสูงศักดิ์แต่ก็ไร้อำนาจ

“ส่วนสตรีที่บุตรชายข้ารัก…หากอยากอยู่เคียงข้างเขาก็อยู่ไปในฐานะอนุภรรยานั่นนับว่ามากพอแล้วสำหรับผู้ไม่มีหัวนอนปลายเท้า”

เขาไม่ด่า ไม่ขึ้นเสียงแต่ประโยคนี้…สะท้อนออกมาดั่งตราประทับกลางกระดานหมาก

ซูเจินผู้นั้นเขาได้ข่าวนางมาตั้งแต่แรก แต่ไม่เข้าไปขัดขวางเพราะบุตรชายเขารู้หน้าที่ตนเองดีว่าต้องแต่งหลี่อินเป็นฮูหยินเอก และการมีสตรีชาวชายแดนอยู่เคียงข้างก็เป็นการดีต่อบุตรชายของเขา ความนิยมของหลงอวี้จงต่อชาวบ้านแถบนั้นดีกว่าแม่ทัพคนอื่น ๆ ที่เคยไปประจำการ

ซูเจินเอย… ชาตินี้ เจ้าคงไม่ราบรื่นดั่งที่เคยอีกแล้ว

หลี่อินน้อมรับถ้อยคำด้วยความนิ่งสงบ เพราะนางรู้ดี…นี่คืออีกหนึ่งเหตุผลที่ทำไมนาง ถึงยอมแต่ง

นางคือเกราะบังหน้าที่ช่วยให้ทั้งสองรักกันได้โดยไม่มีผู้ใดต่อต้าน

มิใช่เพราะนางเป็นคนดี

และก็หาได้ทำเพื่อพวกเขาด้วยใจบริสุทธิ์ไม่ หากไม่มีนางพวกเขาไม่น่าจะลงเอยกันได้ง่ายดาย เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นคงลงเอยกันตั้งแต่อยู่ไกลหูไกลตาผู้คนที่ชายแดนแล้ว หลี่อินเพียงต้องการสลัดตนเองออกจากเรื่องราวของคนทั้งคู่อย่างสง่างาม…พร้อมด้วยเงินทองมากพอจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ ชีวิตที่ไร้พันธนาการ ไร้การเหยียบย่ำหัวใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“ข้าคงไม่กล้าขัดใจท่านพี่”นางเอ่ยเสียงเรียบ “แต่สิ่งที่ข้าทำ…คือออกหน้าสนับสนุนเพื่อที่ท่านพี่จะได้ไม่ถูกคนนินทาได้ว่าฮูหยินเอกริษยาอนุ”

สายตาของแม่ทัพใหญ่มืดครึ้ม เขามองหญิงสาวตรงหน้า นางไม่เคยร้องไห้ ไม่เคยฟ้องใคร ไม่เคยกล่าวโทษแม้สักถ้อยคำ แต่นางคือผู้ที่ตั้งกำแพงด้วยความสงบ และไม่ให้ใครล่วงล้ำความรู้สึกของตนได้เลยแม้แต่ก้าวเดียว หากเป็นเมื่อสมัยยังเด็กเพียงเห็นหลงอวี้จงต้องเดินทางไปชายแดนนางก็น้ำตาคลอแล้ว หลี่อินเติบโตมาได้งดงามจริง ๆ

หญิงเช่นเจ้า…หากไม่รัก ก็ไร้พิษภัยแต่หากรักแล้วถูกทรยศ…ก็เยียบเย็นยิ่งกว่าดาบเหล็กในหิมะ

แม่ทัพหลงเอ่ยในใจ พยักหน้าช้า ๆ หลังหลี่อินเอ่ยตอบอย่างสงบ ก่อนกล่าวเสียงทุ้มนิ่ง แต่น้ำเสียงกลับแฝงแรงสั่นสะเทือนลึกเข้าไปถึงหัวใจของผู้ฟัง

“หากซูเจินคลอดบุตรชายให้ตระกูลหลงได้…ข้าอยากจะให้เขาลงทะเบียนครอบครัวในฐานะบุตรของเจ้าบุตรแต่ไม่ใช่ ‘ทายาทสายตรง’ ของตระกูล”

หลี่อินไม่แสดงอาการใดออกมา ใบหน้านิ่งสงบไม่ไหวติงแต่ในใจกลับรู้ดีว่าคำกล่าวของเขานั้นเป็นการประทับตราให้กับสิ่งที่ซูเจินจะไม่มีวันได้ตำแหน่งมารดาของทายาทตระกูลหลงอย่างแท้จริง แต่นางวางแผนอื่นเอาไว้ให้ซูเจินแล้ว

“เจ้าค่ะ”

“ข้าคิดไม่ผิดจริง ๆ ที่เลือกเจ้า”

เสียงของแม่ทัพใหญ่ดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้แฝงรอยพึงพอใจแต่เย็นชา

“ชนชั้นสูง…อย่างไรก็คือชนชั้นสูงต่อให้เสื้อขาด ไร้เงิน ไร้อำนาจ แค่แว็บเดียวก็มองออกจากพวกที่พยายาม ‘ปีนขึ้นมา’…”

เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหมือนจะชมแต่ก็คล้ายเหยียดเหยียบไปถึงคนที่อยากเป็นเจ้าของทุกอย่าง โดยไม่รู้จักที่ของตน หลี่อินยังคงยืนอยู่ตรงนั้น ก้มหน้ารับถ้อยคำของบิดาสามีอย่างนอบน้อม

“เจ้ารู้หน้าที่ว่าต้องทำเช่นไร…และเจ้าก็ทำได้ดี ถึงแม้เจ้าไม่พูด แต่การไม่ต่อต้าน ก็ชัดเจนแล้วว่าเจ้าคือเสาหลักของจวนนี้”

นางไม่ได้เอ่ยตอบในทันทีเพียงแต่ย่อตัวคำนับ กล่าวเสียงเบาแต่มั่นคง

“ข้าเพียงทำตามขอบเขตของข้า ไม่เกินเลยหน้าที่ และไม่ล้ำเส้นใครเจ้าค่ะ”

แม่ทัพหลงพยักหน้าช้า ๆ อีกครั้งก่อนเดินจากไปโดยไม่หันมามอง ภาพสุดท้ายในลานจวนเมื่อบิดาของหลงอวี้จงเดินผ่านลาน บ่าวไพร่และทหารองครักษ์ต่างโน้มตัวคำนับ

และหลี่อิน…ยังคงยืนอยู่ที่เดิมใบหน้าเงยขึ้นรับแสงแดดยามสายสงบ เยือกเย็น และไม่แสดงอารมณ์ใดออกมาทั้งสิ้น

แต่ภายในใจของนางราวกับดอกเหมยที่ผลิบานกลางพายุหิมะเบ่งบานในความเด็ดเดี่ยว

บ่าวไพร่ในลานเรือนต่างทอดสายตามองกันอย่างเงียบงัน เพราะทุกคนรู้ดี…ว่าคำกล่าวของแม่ทัพใหญ่ในวันนี้ ดูท่าแล้วตำแหน่งฮูหยินเอกนี้ถูกกำหนดให้หลี่อินเพียงผู้เดียว ไร้ผู้ใดกล้าแตะต้อง แม้แต่ตัวของแม่ทัพหลงอวี้จงเองก็ไม่เว้น

แม่นางซูผู้นั้น…ท่าจะลำบากเสียแล้วต่อให้เป็นสตรีที่ท่านแม่ทัพรักมากเพียงใด แต่หากถูกตรึงฐานะไว้เพียง อนุตั้งแต่วันนี้นางก็อาจไม่มีวันก้าวพ้นเงาของฮูหยินเอกได้จนกว่าจะสิ้นลมหายใจ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • หมากกระดานนี้ ข้าจะพลิกชนะให้ดู   ตอนพิเศษ 3 ผลลัพธ์แห่งการรอคอย

    ตอนพิเศษ 3 ผลลัพธ์แห่งการรอคอยยามสนธยา ลมเย็นพัดผ่านสวนด้านหลังเรือนใหญ่ หลงอวี้จงยืนพิงเสาไม้ หันมองหญิงสาวในชุดคลุมเรียบง่ายที่กำลังจัดช่อดอกไม้ลงแจกัน นัยน์ตาของเขาสะท้อนแสงอ่อนจากโคมไฟ และความรู้สึกบางอย่างที่เก็บซ่อนไว้ลึกเกินกว่าจะเอ่ยหลี่อินเดินเข้ามาเงียบ ๆ ก่อนหยุดยืนข้างเขา“คิดอะไรอยู่” นางถามเบา ๆเขาไม่ตอบในทันที แค่ทอดสายตาไปยังลานฝึกที่บุตรสาวกำลังลองดาบใหม่กับอาจารย์ และบุตรชายก็กำลังนั่งเขียนฎีกาเงียบ ๆ ไม่ไกลจากกันผ่านไปครู่ใหญ่…เขาจึงเอ่ย“ชาติที่หนึ่ง…” เขาเริ่ม“พวกเราแต่งงานกัน มีความสุขไม่นาน ก่อนที่ข้าจะถูกสั่งให้แต่งงานกับอดีตองค์หญิง”“ชาติที่สอง…” หลี่อินต่อคำเสียงแผ่ว “ข้าแต่งเป็นฮูหยินของท่านเพื่อที่จะได้อยู่นอกวังอย่างสงบ…แต่กลับต้องพัวพันการแย่งชิงอยู่ดี”หลงอวี้จงพยักหน้าช้า ๆ แววตาแดงเล็กน้อย แต่เขาก็ยังยืนนิ่ง ราวกับใจหนักแน่นยิ่งกว่าเดิม“ข้าคิด…ว่าเราถูกสวรรค์ลงโทษในสิ่งที่เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเคยทำผิดอะไรไว้”“แต่ชาติที่สามนี้…” หลี่อินพูดพลางมองลูกทั้งสอง “ไม่ว่าก่อนหน้านี้จะเจ็บปวดเพียงใด พวกเขา…คือคำตอบที่ดีที่สุดจากฟ้าดิน”อวี้เหมยที่ลุกขึ้นปร

  • หมากกระดานนี้ ข้าจะพลิกชนะให้ดู   ตอนพิเศษ 2 บ้านที่มีรัก

    ตอนพิเศษ 2 บ้านที่มีรักเช้าวันหนึ่งในฤดูใบไม้ผลิ ลมอ่อนพัดพาไอแดดอบอุ่นเข้ามาในลานเรือน หลังอาหารเช้า หลี่อินกำลังนั่งจัดสมุนไพรอยู่หน้าต่าง ส่วนหลงอวี้จงนั้นนั่งอ่านรายงานกองทัพด้วยสีหน้าจริงจังตามปกติอวี้เหอ เด็กชายวัยสิบปีกำลังง่วนกับการผูกผ้าโพกหัวที่ดูยังไงก็เบี้ยว“ท่านพ่อขอรับ มัดยังไงก็ไม่ตรง!”เขาบ่นอย่างหัวเสีย ขยี้ผมตัวเองจนยุ่งเหมือนรังนกหลงอวี้จงละสายตาจากเอกสาร มองลูกชายแล้วถอนหายใจ“มานี่ ข้าจะทำให้ดูอีกครั้ง…แต่พรุ่งนี้เจ้าต้องมัดเองให้ได้นะ จะไปสนามฝึกแบบหัวยุ่งไม่ได้ เดี๋ยวครูฝึกจะหัวเราะเอา”“แต่เขาก็หัวเราะอยู่ดีนี่นา…” อวี้เหอพึมพำเบา ๆ พลางเดินเข้าไปใกล้ขณะเดียวกัน อวี้เหมยบุตรสาวคนโตก็เดินผ่านเข้ามาในลาน สะพายตะกร้าผักไว้ด้านหลัง“ท่านแม่ ท่านพ่อ อวี้เหอแอบเอาขนมไปซ่อนไว้ใต้หมอนอีกแล้วเจ้าค่ะ” นางรายงานพลางยิ้มขัน ๆ“ข้าแค่…แค่ไม่อยากให้บ่าวเอาไปเก็บ!” เด็กชายรีบเถียงเสียงสูงหลี่อินไม่ได้ว่าอะไร แค่ยิ้มแล้วส่ายหน้าเบา ๆ“พอเถอะ เหลือไว้ให้มดเผื่อกินบ้างเถิดลูก…”หลงอวี้จงหัวเราะในลำคอ“แม่ของเจ้ากำลังจะเริ่มเทศน์เรื่อง ‘ของกินที่วางไว้ไม่ถูกที่คือความสูญเปล

  • หมากกระดานนี้ ข้าจะพลิกชนะให้ดู   ตอนพิเศษ 1 ของขวัญจากสวรรค์ในวัยห้าสิบ

    ตอนพิเศษ 1 ของขวัญจากสวรรค์ในวัยห้าสิบหลี่อินมองเงาตนเองในกระจกทองเหลือง ดวงหน้าของหญิงวัยห้าสิบที่มีร่องรอยของการต่อสู้กับชีวิตและความเศร้ามากมาย แต่แววตานั้น…กลับเปล่งประกายอ่อนโยนอย่างที่ตนไม่เคยเห็นในตัวเองมาก่อนเสียงร้องจุ๊กจิ๊กจากเปลไม้ด้านหลังทำให้นางหันกลับไปพร้อมรอยยิ้มหลงอวี้จงเดินเข้ามาพร้อมขันน้ำอุ่นในมือ เขาก้มหน้ามองทารกน้อยที่นอนหลับสนิทในผ้าอ้อม แล้วนั่งลงข้างภรรยา“นางเหมือนเจ้านัก โดยเฉพาะเวลาขมวดคิ้ว” เขาพูดเบา ๆ กลัวจะรบกวนเจ้าตัวเล็กหลี่อินหัวเราะแผ่ว“ท่านไม่ใช่หรือที่บอกว่าลูกชายหน้าเหมือนข้าจนบ่าวแยกไม่ออกว่าลูกใคร แต่คนที่ตะโกนลั่นบ้านตอนรู้ว่าตัวเองจะมีลูกตอนอายุห้าสิบ…ก็ท่าน” หลี่อินหันไปยิ้มเย้าหลงอวี้จงหน้าแดง ไม่กล้าสบตาภรรยา “ข้าแค่ตกใจ…ก็ใครบ้างจะคิดว่าจะมีลูกในวัยนี้ ข้ายังไม่หายตกใจเลย เจ้าคิดดูสิ ข้าเคยสู้ศึก เคยฆ่าคน เคยวางแผนโค่นล้มตระกูลกบฏ เคยเกือบตายเพราะยาพิษ… แต่กลับมาหวั่นไหวเพราะเสียงเด็กร้องกลางดึก”“นั่นเพราะพวกเขาคือสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ที่อ่อนแอที่สุด แต่กลับจับหัวใจข้าไว้แน่นที่สุด”หลงอวี้จงยกมือลูบผมลูกชายที่นอนหลับอยู่ในอ้อมแขนของเ

  • หมากกระดานนี้ ข้าจะพลิกชนะให้ดู   บทที่ 56 ไม่จำเป็นต้องอธิบายอีกแล้ว

    บทที่ 56 ไม่จำเป็นต้องอธิบายอีกแล้วยามเย็นวันหนึ่ง ขณะที่แสงอาทิตย์โรยลงบนปลายไม้หลี่อินเดินกลับจากตลาด มือหนึ่งหิ้วตะกร้า อีกมือแนบจดหมายในแขนเสื้อกระดาษเพียงแผ่นเดียวไม่ใช่หนังสือหย่าไม่ใช่คำอธิบายแต่เป็นจดหมายจากคนที่เคยเป็นแผลในอดีตซูเจินเนื้อความไม่ยาว มีเพียงไม่กี่บรรทัดว่า นางแต่งงานแล้วกับขุนนางที่เคยเป็นคนที่หลงอวี้จงฝากฝังนางเอาไว้ชีวิตไม่ได้ดีนัก แต่ก็ไม่ได้แย่ส่วนแม่ทัพหลง…นางไม่อยากกล่าวถึงอีกหลี่อินพับจดหมายนั้นเก็บลงลิ้นชักไม้ไม่พูดถึงให้หลงอวี้จงรู้เพราะไม่มีความจำเป็นอีกต่อไปแล้วไม่มีเหตุผลที่ต้องรื้อฟื้น ไม่มีสิ่งใดต้องแข่งขันไม่มีความคาใจ ไม่มี ถ้าหาก…“วันนี้ในตลาดมีสาลี่หวาน พ่อค้าให้มาตั้งหลายลูก”นางเอ่ยขึ้นขณะช่วยเขาล้างถ้วยที่อ่างน้ำเล็กหลังเรือน“เจ้าเคยชอบกินตอนเป็นเด็ก” เขาพูดเรียบ ๆ ขณะตักน้ำรินให้“ข้าเกิดที่เมืองหลวง ท่านอยู่ชายแดน พวกเราไม่เคยได้กินด้วยกันตอนเป็นเด็กเสียหน่อย สับสนกับความทรงจำชาติไหนของท่าน”นางตอบพร้อมรอยยิ้มจาง ๆรอยยิ้มที่ไม่มีอดีตผูกพันแต่มีความอ่อนโยนที่เลือกจะอยู่กับ ปัจจุบันเมื่อค่ำลงแสงโคมในเรือนเล็ก ๆ ริบหรี่เช่นเคย กล

  • หมากกระดานนี้ ข้าจะพลิกชนะให้ดู   บทที่ 55 เพื่อนคู่คิด

    บทที่ 55 เพื่อนคู่คิดกลางฤดูใบไม้ผลิดอกเหมยที่บานผิดฤดูโปรยกลีบลงบนระเบียงไม้ของบ้านหลังเล็กหลี่อินนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ไผ่ใต้ชายคาในมือลูบผ้าปักลายมังกรที่ยังเย็บไม่เสร็จ กลิ่นชาอ่อน ๆ ลอยจากกาน้ำข้างกายเสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังขึ้น ก่อนจะมีเงาร่างหนึ่งนั่งลงอีกฟากของโต๊ะหลงอวี้จงไม่พูดอะไร เพียงนั่งเงียบอยู่ข้างกัน ราวกับการมีอยู่ของเขานั้น ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรอีกแล้วเวลาผ่านไปเนิ่นนาน จนกระทั่งนางพูดขึ้น“ยังคิดอยู่หรือ ว่าชาติหน้าจะเกิดใหม่จริง ๆ”เขาเงยหน้าขึ้นแววตานั้นยังคงเป็นดวงตาเดิมที่มองนางในทุกชาติ หากแต่ในตอนนี้ มันนิ่ง สงบ และอ่อนโยนอย่างไม่เคยเป็น“ข้าไม่รู้” เขาตอบตรง “แต่ข้าจำได้ว่าเคยลั่นวาจาไว้…”เขาหยุดเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงหนักแน่นอย่างคนที่ไม่ต้องการคำสัญญาอีก“หากชาติหน้ามีอยู่จริง…ไม่ว่าเจ้าจะอยู่ที่ใด อยู่ในฐานะใดข้าจะมองเพียงเจ้าผู้เดียว”หลี่อินนิ่งเงียบไปนานลมหายใจของนางหนักแน่นขึ้นเล็กน้อย มือที่จับเข็มปักเริ่มสั่นเล็กน้อย“…ท่านจะไม่เหนื่อยหรือ เพียงได้มอง ไม่ได้ขอครอง” เขาตอบเบา ๆ “ข้าไม่เคยเหนื่อย”แสงตะวันเช้าสาดเข้ามาในเรือนอย่างนุ่ม

  • หมากกระดานนี้ ข้าจะพลิกชนะให้ดู   บทที่ 54 ใกล้กันจนผมเริ่มมีสีดอกเลา

    บทที่ 54 ใกล้กันจนผมเริ่มมีสีดอกเลาเสียงด้ายขูดผ่านผืนผ้าเบา ๆแสงอ่อนในยามเช้าเริ่มลอดผ่านบานหน้าต่างไม้ไอเย็นของต้นฤดูใบไม้ผลิแตะผิวแก้มนางอย่างแผ่วเบาหลี่อินยกมือรวบเส้นผมขึ้นอย่างเคยชิน แต่ในจังหวะนั้นเอง ด้านหลังพลันมีเงาร่างหนึ่งยื่นมือมาช่วยเก็บปิ่นปักผมที่ตกลงพื้น“ข้าทำให้ตก…” เขาว่าเบา ๆเสียงนั้นไม่ดังนัก แต่ใกล้มาก ใกล้จนกลิ่นจากชุดคลุมสีหม่นของเขาแตะปลายจมูกนางมือของเขายื่นมาช้า ๆ อย่างลังเลก่อนจะรวบเส้นผมนางขึ้น แล้วใช้ปิ่นปักให้อย่างเบาแรงนางไม่พูดเพียงแต่รู้สึกได้ว่า มือคู่นั้น…เริ่มหยาบขึ้นกว่าที่จำได้เพราะฝึกทำอาหารเองบ่อยขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาหลี่อินยืนนิ่งและนั่นทำให้เขากล้าก้มลงกระซิบเบา ๆ“เจ้าเห็นไหม…”“เห็นอะไร” นางเอ่ยถามเสียงแผ่วเขาชี้ไปยังข้างขมับตนเอง“ผมข้าเริ่มมีสีขาวปนอยู่หนึ่งเส้น” เขาหัวเราะในลำคอเบา ๆ “เจ้าคงจะบอกว่าไม่แปลก…แต่รู้หรือไม่ว่ามันเป็นเส้นแรกที่ข้าอยู่ข้าง…เจ้า” เสียงเขาแผ่วเบา“แต่มันเพิ่งเริ่มกลายเป็นสีดอกเลา…ก็ในวันที่เราอยู่ใกล้กันมากที่สุด”หลี่อินเงียบ…ความรู้สึกอุ่นแปลก ๆ ค่อย ๆ ไหลซึมขึ้นกลางอกเงาร่างเขายังยืนอยู่ข้างหลัง

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status