Share

บุพเพ ทดสอบ

last update Last Updated: 2025-05-25 02:01:19

เช้าย่ำรุ่งไอ้สิงห์ที่ตื่นก่อนระย้าแก้ว มันจึงค่อยๆคลายอ้อมกอด ออกจากร่างอรชร ที่หลับสนิทมันแกะเชือกที่พันรอบข้อมือเล็กของระย้าแก้ว เอากลับไปผูกที่เอวของมันดังเดิม

มันยังคงมลืมก้มลงไปจูบหน้าผากมนราวกับหวงแหน ความรู้สึกของมันบัดนี้ชัดเจนเกินกว่าที่มันจะปฏิเสธหัวใจของตนเองได้

"ข้าจักรีบกลับมาหาเอ็ง แลทำดีกับเอ็งให้มากกว่านี้จากนี้ต่อให้เอ็งมิให้อภัยข้า ข้าก็จะตามรักเองทุกชาติไประย้าแก้ว" ไอ้สิงห์พูดจบมันก็รีบปีนออกจากห้องนอนของระย้าแก้ว หากอยู่จนมีคนมาพบมันเกรงว่าชื่อเสียงของระย้าแก้วจากเสียงหาย

วันนี้เป็นวันที่สองที่ระย้าแก้ว ตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกมากมาย แม้ก่อนหน้านี้จะมุ่งมั่นและแน่วแน่ที่ตัดสินใจว่าจะตัดไอ้สิงห์ออกจากหัวใจ

แต่หากนางกลับคิดย้อนกลับ หากเมื่อคืนที่ผ่านมามิใช่ฝันนาง ก็จะเก็บทุกความรู้สึกที่ไอ้สิงห์มอบให้จบจนวันสุดท้ายของนาง หากแม้มิใช่บุพเพสันนิวาสกันแล้วก็คงต้องแคล้วกันไป

"หากพี่กับข้าเป็นเนื้อคู่กัน เราคงได้กลับมาเจอกันอีก หากเพลาในเพลานั้นข้ายังรักพี่ แลพี่เองก็ยังรักข้า เราคงได้ครองคู่กัน" ระย้าแก้วเมื่อนางตัดสินใจแล้วนางมิเคยถอยหลังกลับ

ไอ้สิงห์ที่กำลังจะเดินขึ้นเรือน ก้าวขายังไม่พ้นบันไดขั้นที่สอง ก็เจอไอ้สองลูกน้องตัวแสบ อย่างไอ้ฟักและไอ้ดำที่มันตะโกนไล่หลังมา

"พี่ไปที่ใดมาทั้งคืนจ๊ะ ข้าสองคนตามหาพี่จนทั่วหัวหน้าหมู่บ้านบอกให้ข้าสองคนหาพี่ มีเรื่องจะปรึกษาขอรับ"ไอ้ฟักเอ่ยขึ้นเป็นคนแรก

"เออ..กูขอโทษที่ไม่ได้บอกพวกมึงก่อน แล้วพ่อกูอยู่ไหน"ไอ้สิงห์ทำตัวนิ่งๆไม่ให้มีพิรุธ

"เอ๊ะ..!!? พี่อันนี้มันชุดเมื่อวานมิใช่รือ ข้าจำได้ชุดนี้พี่ใส่ไปตลาด"ไอ้ดำเอ่ยเสริมขึ้นมาอีก

"เรื่องของกูน่ะ สรุปพ่อกูอยู่ที่ใดกูจะได้ไปหาพ่อเสียที เสียเวลาคุยกับพวกมึง"

"หัวหน้าหมู่บ้านรอที่ลานฝึกอาวุธจ้าพี่"

"งั้นมึงสองตัว ไปบอกพ่อว่าเดี๋ยวกูไปหา ขอกูอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าประเดี๋ยวนึง"

ไอ้ฟักทไอ้ดำรู้สึก แลสงสัยเป็นที่สุด ว่าลูกพี่ของมันหายไปที่ใดมาทั้งคืน แต่ก็ยังมิหลุดปากต่ออันใด

"ไอ้ฟักมึงคิดเหมือนกูรือไม่ ว่าพี่สิงห์จักต้องไปหาหญิงแน่นอน"ไอ้ดำถามไอ้ฟัก

"กูก็มิรู้เช่นกันว่ะไอ้ดำ แต่ลูกพี่สิงห์ของเรามีพิรุธหนักมากนะมึงว่าหรือไม่"

"กูก็ว่าเช่นมึงนั่นแหละ วันนี้ดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษปกติคงจะแพร่งกบาลมึงกับกูไปเสียแล้ว"

ระย้าแก้วเตรียมข้าวของใส่หีบ หัวใจของนางก็เฝ้าเหม่อถึงเรื่องเมื่อคืนที่ผ่านมา มันคืออันใดกันแน่นะหากเพลาที่น้องรักพี่จนหมดใจ เหตุใดพี่จึงรังเกียจน้องแต่มาบัดนี้น้องกำลังตัดใจพี่มาเล่นกลอันใดใส่อีกหนอ

"คุณหนูเจ้าค่ะ ข้าวของทั้งหมดเตรียมเสร็จหมดแล้วหนา พรุ่งนี้เหลือเวลาอีกหนึ่งวัน คุณหนูจะทำอันใดเจ้าค่ะก่อนที่เราจักเดินทางไปสุโขทัยกับพ่อ พระพรายในวันมะรืนหรือไม่เจ้าค่ะ" อีแตงเอ่ยถามผู้เป็นนายที่ใจมิอยู่กับเนื้อกับตัวตอนนี้

"ข้ายังมิรู้ดอกพี่ วันนี้ข้าจะไปดูที่สวนลั่นทอนเสียหน่อย ก่อนที่ข้าจะจากมันไป มิรู้เมื่อใดข้าจึงจะศึกษาตำรับตำราจบ"ระย้าแก้วเดินลงจากเรือนตรงไปที่สวนลั่นทมที่นางรักที่สุด นางที่รู้สึกเศร้าใจ นึกถึงไอ้สนจึงท่องกลอนออกมา

ลั่นทมเอ๋ยเคยหอมเคยสดใส

เปรียบดวงใจแสนเจ็บปวดของข้า

อยากจรลาจากจรไม่เหลียวหลัง

ดั่งรักพังสูญสลายมลาย

ดั่งพระพายพัดผ่านมิหวนคืน

มิอาจฝืนใจรักปักต่อพี่

ตัวน้องนี้รักมั่นดังหินผา

จำต้องลาเพราะพี่มิเหลียวแล

"ตัวข้าคงเหมือนเจ้านะดอกลั่นทม สวยงามหลากสีแต่มิมีผู้ใดต้องการหรือเข้าใกล้ เพียงเพราะชื่อที่แสนเศร้าของเจ้ากระมัง"หญิงสาวนั่งตัดพ้อใต้ต้นลั่นทมสีขาวแซมชมพู เจ้าหล่อนหลงไหลดอกลั่นทม

"กลอนที่น้องได้ท่องออกมานั้น ช่างแสนเศร้าเหลือเกิน ผู้ใดหนอทำให้น้องของพี่ เศร้าใจได้ถึงเพียงนี้"พระพรายที่มาถึงก็ได้ยินกลอนอันแสนเศร้าตัดพ้อของระย้าแก้วที่สวนลั่นทมที่รัก

"พี่มาตั้งแต่เมื่อใดกัน เหตุใดน้องจึงมิได้ยินแม้กระทั่งเสียงฝีเท้าของพี่"ระย้าแก้วสงสัย

"หากพี่เป็นศัตรู น้องอาจจะโดนรอบทำร้ายแล้วหนา ระย้าแก้วนองรักของพี่ ฮ่า ฮ่า" พระพรายแสร้งทำเป็นหัวเราะขบขัน เพื่อไม่อยากให้ระย้าแก้วต้องรู้สึกกังวลและรู้สึกเศร้า

"พี่พระพรายก็สรรหาคำมาให้น้องได้คมขันเสียนี่กระไร"

"เอาน่า พี่ไม่อยากเห็นใบหน้าแสนเศร้านี้หนาสำหรับเจ้า ใบหน้าของบุษบา ที่ผู้คนกล่าวถึง ควรมีแต่รอยยิ้มมิใช่ใบหน้าเศร้าสร้อยเยี่ยงนี้"

"น้องเข้าใจว่า พี่พระพรายเป็นห่วงน้อง แต่หากน้องยังมิอาจตัดใจ จากคนที่น้องมอบใจให้เขาไป"

"หากคนผู้นั้น มิเห็นค่า น้องจงกลับมารักตัวเองเถิดพี่จะดูแลน้อง มิให้ผู้ใดมาทำอันใดเจ้า ได้เป็นอันขาดที่ให้สัญญา"พระพรายเอ่ยอย่างหนักแน่น

ระย้าแก้วมองเข้าไปในตาของพระพรวายนางเชื่อทุกคำพูดที่พระพรายเอ่ยออกมา เพราะไม่มีครั้งใดเลยที่พระพรายจักผิดสัญญากับระย้าแก้ว

"เจ้าดูนั่นสิ ดอกลั่นทมที่พี่กับเจ้าเพียรช่วยกันปลูกในวันนั้นมันเป็นเพียงต้นเล็กๆ หากเปรียบมันเป็นเหมือนดังเจ้า บัดนี้มันก็เติบโตแข็งแรง ถึงแม้จักยังมิมีรากที่คงทนแลใหญ่โตสวยงาม แต่มันก็ยังสามารถเติบโตขึ้นมาได้อีก"

ระย้าแก้วเข้าใจทุกคำพูดของพระพรายจึงได้ฝืนยิ้มออกมาเพื่อให้พระพายได้สบายใจ

ตัดภาพมาทางด้านลานฝึกอาวุธ หัวหน้าหมู่บ้านพาเหล่าผู้ชายและผู้หญิงบางส่วนที่มีใจฝักใฝ่อยากจะฝึกปรืออาวุธหากมีผู้ใดมารุกรานจะได้มีศิลปะป้องกันตัวและครอบครัวของมันเอง

"พ่อมีอันใดจักคุยกับข้าหรือ เห็นให้ไอ้ฟักกับไอ้ดำไปตามข้ามา"ไอ้สิงห์ที่เดินเข้ามาอย่างอารมณ์ดี

"แหม พ่อสิงห์ ข้าจะกล้ามีอันใดกับเจ้าได้เล่า เหตุใดวันนี้จึงอารมณ์ดีเช่นนี้" ผู้เป็นบิดาหรี่ตาลงแลจับสังเกตลูกชาย

"ลูกก็อารมณ์ดีเป็นปกติหนาพ่อ"

"แล้วเมื่อคืนท่านลูกหายหัวไปที่ใดมารือขอรับ ให้คนเป็นพ่ออย่างข้า เป็นห่วงท่านลูกชายหัวแก้วหัวแหวนฮึ"บิดาเอ่ยประชดลูกชายที่หายหัวไปทั้งคืน

"โถ่... พ่อข้าก็ไปหลีหญิง ตามประสาข้านั่นแหละพ่อจะห่วงทำไมเล่า ข้ามิใช่ผู้ชายที่ไม่มีทางสู้ผู้อื่นนะ"

"เออให้มันได้อย่างที่ปากเองพูดเถอะ"

"แล้วสรุปพ่อมีอันใดจะคุยกับข้าหรือ"

"เมื่อวาน พ่อของจันทร์แรมมาคุยกับข้า เรื่องลูกสาวของมัน ว่าเมื่อใดเอ็งจักไปคุยเรื่องสู่ขอ ให้เป็นเรื่องเป็นราว จักได้มิต้องเป็นขี้ปากชาวบ้าน"

"ข้าบอกนางไปชัดเจนแล้วหนา ว่าข้ามิเคยคิดอยากจะตกแต่งนางมาเป็นเมีย แลบัดนี้ข้าก็หูตาสว่าง ข้ามิได้รักได้ใคร่นางพ่อ เพราะข้าเห็นการกระทำต่างๆและนิสัยที่เสียของนาง ยิ่งกว่าแม่หญิงรักตลาด" ไอ้สิงห์เอ่ยพูดกับผู้เป็นบิดา

"พ่อรู้ พ่อเข้าใจ เพราะพ่อก็พอจะได้ยินข่าวมาบ้างว่าแม่จันทร์แรมมีข่าวคาวมากเพียงไร"

"แล้วเรื่องที่ให้ไปสู่ขอเอ็ง จักทำเช่นไรเล่า"

"ข้าก็มิทำอันใดดอกพ่อ เพราะคนที่ข้าพึงใจอยากให้พ่อไปขอ คือระย้าแก้ว"

ไอ้ดำกับไอ้ฟังที่นั่งดื่มหล้าเข้าปากอยู่ตรงลานฝึกถึงกับเหล้าพุ่งพรวดออกจากปากทันที

พี่ว่ากระไรนะ...!!!

อย่าว่าแต่ไอ้ดำกับไอ้ฟักเลย ผู้คนที่อยู่ในลานฝึกถึงกับหยุดชะงัก บางคนถึงกับดาบร่วมมือกันเลยทีเดียวที่ได้ยินคำพูดจากปากของไอ้สิงห์

"ไอ้สิงห์ผีเข้าเอ็งหรือกระไร เอ็งลองทบทวนว่าเอ็งพูดอันใดออกมาดูนะ"

"ข้าพูดมิผิดดอกพ่อ ข้าอยากให้พ่อไปขอแม่ระย้าแก้วมาเป็นเมียให้กับข้า"

"ไอ้ลูกเวร..!! วันที่น้องมันตามเอ็งต้อยๆ เอ็งก็รังเกียจรังงอนมัน หากแต่วันนี้จักให้ข้าบากหน้าไปขอกับพ่อหมอไทย เขาคงจะยกลูกสาวให้ข้าดอก"

"หากมิยกให้ข้า ข้าจะปล้นแลพาหนีไปเสียให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย"

เพียะ ...!!! ไอ้เวรตะไลใครสั่งใครสอนให้เอ็งทำเช่นนี้ เอ็งเป็นผู้ชายหนามิเสียหาย แต่แม่ระย้าแก้วเป็นหญิง เอ็งทำเช่นนี้มันเป็นการอย่างเกียรตินางหนาเอ็งคิดให้หนัก"

"ข้าก็แค่เย้าน่ะพ่อ"

อีกคนนึงเตรียมจะลาจากไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในอีกหมู่บ้านหนึ่งที่ห่างไปไกลแสนไกล

ส่วนอีกคนกลับตกหลุมรักง่ายๆทั้งที่ไม่รู้เรื่องราวว่ากำลังจะไม่เห็นหน้าของหญิงที่รักอีกนาน....แล้วจะทำยังไงต่อเพราะสิงห์

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หลงกลิ่นลีลาวดี   วันก่อนออกเดินทาง

    ทางด้านจันทร์แรมที่ถือศีลภาวนาตามที่พ่อหมออาจารย์คงได้แนะนำเพราะนางต้องการทำนะหน้าทองในคืนวันเพ็ญที่จะมาถึงอีกสองเพลานางนุ่งขาวห่มขาวมิพูดมิจากับผู้ใด"อีชมลูกสาวกูทำกระไร เหตุอันใดนางจึงจะต้องนุ่งขาวห่มขาวด้วย"ผู้เป็นบิดาของจันทร์แรมเอ่ยถามด้วยความสงสัย"เอ่อ...คือแม่นายจันทร์แรมไปหาอาจารย์คงมาเจ้าค่ะ"อีชุ่มมิอยากอธิบายอะไรมากเพียงแค่เอ่ยชื่ออาจารย์คงบิดาของจันทร์แรมก็เข้าใจทุกอย่างได้ดี"หากข้าเตือนมันแล้วมิฟัง ก็จงปล่อยมันไปตามทางของมันเถิด"ผู้เป็นพ่อถึงกับถอดถอนหายใจเพียงอีกไม่กี่เพลาพี่สิงห์ก็จะตกเป็นของข้าทั้งกายและใจหากนับจากนี้เป็นต้นไปจะไม่มีผู้ใดมาพรากพี่ไปจากข้าได้อีก" จันทร์แรมที่นั่งภาวนาถือศีลอยู่ในห้องได้คิดในใจทางด้านไอ้สิงห์ที่ร้อนรนอยากให้บิดาของตนและแม่ของตนไปขอระย้าแก้วจากแม่ศรีนวลและพ่อหมอไทย"หากแต่สิ่งที่ไอ้สิงห์ทำไว้กับระย้าแก้วบางอย่างก็เกินกว่าจะให้อภัย สุดแล้วแต่เวรกรรมของเอ็งเถิดหนาไอ้สิงห์ หากพ่อไปขอแล้วพ่อและแม่เขามิยกให้ เอ็งจะต้องทำใจหนา"ผู้เป็นบิดาของไอ้สิงห์บอกกับลูกชายตั้งแต่เนิ่นๆ

  • หลงกลิ่นลีลาวดี   บุพเพ ทดสอบ

    เช้าย่ำรุ่งไอ้สิงห์ที่ตื่นก่อนระย้าแก้ว มันจึงค่อยๆคลายอ้อมกอด ออกจากร่างอรชร ที่หลับสนิทมันแกะเชือกที่พันรอบข้อมือเล็กของระย้าแก้ว เอากลับไปผูกที่เอวของมันดังเดิมมันยังคงมลืมก้มลงไปจูบหน้าผากมนราวกับหวงแหน ความรู้สึกของมันบัดนี้ชัดเจนเกินกว่าที่มันจะปฏิเสธหัวใจของตนเองได้"ข้าจักรีบกลับมาหาเอ็ง แลทำดีกับเอ็งให้มากกว่านี้จากนี้ต่อให้เอ็งมิให้อภัยข้า ข้าก็จะตามรักเองทุกชาติไประย้าแก้ว" ไอ้สิงห์พูดจบมันก็รีบปีนออกจากห้องนอนของระย้าแก้ว หากอยู่จนมีคนมาพบมันเกรงว่าชื่อเสียงของระย้าแก้วจากเสียงหายวันนี้เป็นวันที่สองที่ระย้าแก้ว ตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกมากมาย แม้ก่อนหน้านี้จะมุ่งมั่นและแน่วแน่ที่ตัดสินใจว่าจะตัดไอ้สิงห์ออกจากหัวใจ แต่หากนางกลับคิดย้อนกลับ หากเมื่อคืนที่ผ่านมามิใช่ฝันนาง ก็จะเก็บทุกความรู้สึกที่ไอ้สิงห์มอบให้จบจนวันสุดท้ายของนาง หากแม้มิใช่บุพเพสันนิวาสกันแล้วก็คงต้องแคล้วกันไป"หากพี่กับข้าเป็นเนื้อคู่กัน เราคงได้กลับมาเจอกันอีก หากเพลาในเพลานั้นข้ายังรักพี่ แลพี่เองก็ยังรักข้า เราคงได้ครองคู่กัน" ระย้าแก้วเมื่อนางตัดสิน

  • หลงกลิ่นลีลาวดี   บุกห้อง

    คืนนี้รคืนนี้ระย้าแก้วยังคงยืนมองพระจันทร์ที่หน้าต่าง ตรงที่เดิมเป็นประจำ โดยที่ระย้าแก้วมิได้สังเกตเงาดำทะมึนของชายร่างใหญ่คนหนึ่งที่แอบอยู่ตรงโคนต้นไม้ใหญ่ ตรงข้ามกับหน้าต่างห้องของเธอกิ่งก้านสาขาแข็งแรง จนโน้มมาถึงหน้าต่างพอดีนั่นคือไอ้สิงห์ที่ลอบแอบตามระย้าแก้วมาตั้งแต่ตลาดหลังจากสลัดจันแรมได้ มันเพียงหาโอกาสที่จะเข้าใกล้ระย้าแก้วในคืนนี้"คืนนี้ข้าจักรอดูคนเก่งเยี่ยงเอ็ง หากเห็นข้าในห้องเอ็งจะทำเช่นไร"ไอ้สิงห์นึกสนุก คึกคะนองอยากจะจัดการระย้าแก้วที่ยิงทรนงขึ้นทุกวันระย้าแก้วคืนนี้ที่นอนมิหลับ นางจึงเอาแต่นั่งเล่นรับลมอยู่ริมหน้าต่าง จนกระทั่งเดินไปที่เตียงนอน นอนเล่นพลิกไปพลิกมา ทำอย่างไรก็มิหลับไอ้สิงห์ที่เห็นว่าตอนนี้ เป็นเวลาที่ทุกคนหลับสนิทหมดแล้ว มันจึงค่อยๆ ปีนต้นไม้มาที่ตรงระเบียงห้องหน้าต่างของระย้าแก้วระย้าแก้วที่ได้ยินเสียงกุกกักก็คิดว่าเป็นเสียงหนูกระมังก็ไม่ได้สนใจอันใด"แม่ตัวดี นอนหลับตาพริ้มเชียวหนา"เสียงไอ้สิงห์พูดเบาๆ แผ่วเบาแต่กลับได้ยินชัดเจนไปที่หูของระย้าแก้ว"พี่สิงห์ใช่หรือไม่..!!"เพียงแค่

  • หลงกลิ่นลีลาวดี   จันทร์แรมทำของ

    ระย้าแก้วพอเที่ยวจนหนำใจจึงชวนอีแตงและพ่อพระพรายกลับเรือน เพราะแดดเริ่มแรงมาก ทั้งสามจึงเดินกลับไปที่ท่าเรือ เพื่อจะขึ้นเรือกลับไปที่เรือนของระย้าแก้ว"วันนี้น้องสนุกมากเลยเจ้าค่ะ พี่พระพราย"ระแก้วยิ้มอารมณ์ดี"เจ้าสนุกพี่ก็ดีใจ พี่ไม่อยากเห็นเจ้าทุกข์ใจ ไม่ว่าเรื่องอันใดก็ตาม เจ้ามิเหมาะที่จะร้องไห้หนาระย้าแก้วของพี่"ระย้าแก้วที่เห็นความจริงใจและความใส่ใจของพระพรายที่มีต่อเธอ เธอรู้สึกขอบคุณที่พระพรายเอ็นดูและเมตตาเธอเช่นนี้ไอ้สิงห์ที่เห็นพระพรายและระย้าแก้ว พากันขึ้นเรือจากท่าน้ำที่ตลาด มันจึงเร่งให้ไอ้ดำเดินตามและเตรียมออกจากตลาดเช่นกัน วันนี้มันจะต้องคุยกับระย้าแก้วให้ได้ มิว่าเกิดอันใดจักเกิดขึ้นก็ตาม"พี่จักรีบไปที่ใดกันเล่า" ไอ้ดำรีบเอ่ยถามเห็นท่าทีรีบร้อนของไอ้สิงห์"กูจะรีบไปที่ท่าเรือ มึงก็รีบตามกูมาเถิดกูมีบางอย่างจักต้องทำ"แต่พูดยังไม่ทันจบก็เหมือนฟ้ากลั่นแกล้งให้ไอ้สิงห์มีเหตุเมื่อเจอนางจันทร์แรมที่กลางตลาด"พี่สิงห์..! พี่หายหน้าหายตาไปที่ใดมา เหตุใดพี่จึงมิไปหาข้าบ้างเลยเล่า"นางจันทร์แรมที่ทำท่าทีระริกระ

  • หลงกลิ่นลีลาวดี   ตามติด

    วันนี้ระย้าแก้วใช้เรือลำใหญ่ของพระพรายที่มีหลังคาบังแดด บังฝนได้ เป็นอย่างดีพร้อมกับฝีพายและอีแตงบ่าวรับใช้ผู้ซื่อสัตย์"วันนี้แดดดีเสียจริงหนาพี่พระพราย"ระย้าแก้วนั่งพูดคุยสนุกสนาน เป็นครั้งแรกในรอบหลายวัน ที่ระย้าแก้วกลับมาพูดและดูสดใส"หากแดดแรงเช่นนี้ เจ้าก็ระวังผิวของเจ้าเสียหน่อยเถิด ตอนเดินในตลาดให้อีแตงกางร่มให้เจ้าหนา" พระพรายเป็นห่วงระย้าแก้วแต่เหมือนความบังเอิญและโชคชะตาอยากจะเล่นตลกทำให้คนที่มิอยากเจอ ก็เจอ แม้จะอยู่กลางคูน้ำก็ยังได้เจอ เรือของไอ้สิงห์พายตีคู่ประกบเรือของพ่อ พระพรายแม้จะไม่เห็นหน้าของระย้าแก้วเพราะมีผ้าไหมบาง ๆ กั้นแต่มันก็มองเห็นลาง ๆ และจำได้มิเสื่อมคลาย"ไอ้ดำ.! มึงพายไปใกล้ ๆเรือของมัน" ไอ้สิงห์สั่งเสียงเหี้ยม"เราจักพายไปใกล้เรือของมันทำไมกันเล่า"พี่ไอ้ดำเอ่ยปากถามอย่างสงสัย"เออ..กูสั่งให้มึงพายก็พายไปเถอะ กูก็อยากจะตีคู่เรือของหน้าอ่อนอย่างมันเช่นไรเล่า"ไอ้สิงห์ที่พาลจะหาเรื่องพ่อพระพราย มันก็สู้มิถอยยิ่งเห็นว่าพระพรายมากับแม่ระย้าแก้วมันยิ่งรู้สึกหงุดหงิดอยากจะเอาชนะให้ได้"ว้าย..! เกิดอะไรขึ้นเจ้าคะ เหตุใดเรือจึงโคลงเคลงเช่นนี้เล่า"เสียงอีแตงร

  • หลงกลิ่นลีลาวดี   ทบทวนความรู้สึก

    "หากหลังจากนี้น้องจะต้องเดินทางอีก 3 วันข้างหน้า น้องต้องรักษาตัวให้ดี เตรียมข้าวของให้พร้อมการเดินทางข้างหน้าอีกยาวไกล ใช้เวลาหลายวันโขกว่าเราจะถึงตัวเมืองสุโขทัย พระพรายพูดเสริม"น้องจักเตรียมตัวให้ดีเจ้าค่ะ คุณพี่มิต้องเป็นห่วงน้องดีขึ้นมากแล้ว ทั้งงกายแลใจ" ระย้าแก้วตั้งใจแน่วแน่ที่จะตัดใจจากไอ้สิงห์ แม้ทั้งหัวใจยังคงรักและอาลัยแต่ตอนนี้นางกลับมิแสดงอาการใดๆออกมา"ถ้าทั้งหมดเห็นพ้องต้องกัน เช่นนั้นลูกก็ไปเตรียมตัวเถิด แม่กับพ่อจะเตรียมข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น ทั้งยาแลสมุนไพร ให้กับลูกแลพ่อพระพรายเพื่อออกเดินทางกว่าจะถึงสุโขทัยก็ใช้เวลา 3-4 วัน""ลูกขอบน้ำใจคุณพ่อกับคุณแม่ ที่รักและเป็นห่วงความรู้สึกของลูกเหนือสิ่งอื่นใด""ไปเถอะลูก ไปใช้ชีวิตในแบบที่เจ้าอยากจะใช้ พ่อมิอาจห้ามลูกได้หนา" พร้อมกับลูบไปที่หัวลูกสาวด้วยสายตาเอ็นดู"ขอบน้ำใจเจ้าค่ะคุณพ่อ"หลังจากพูดคุยกันจบ พระพรายได้ฝากท้องที่เรือนของระย้าแก้ว ก่อนหน้านี้แทบจะทุกวัน พระพรายคลุกคลีกับระย้าแก้วไม่ห่างระย้าแก้วเตรียมตัวเตรียมใจที่จะจากบ้านเรือนที่ตนรักและพ่อแม่ที่รักตนมาก นางนั่งถอดถอนหายใจรู้สึกใจหาย ถึงแม้นางจะอายุเ

  • หลงกลิ่นลีลาวดี   สิงห์ตีเสือ

    เสียงดังเอ็ดตะโรลั่นสวนลั่นทมของระย้าแก้วกำลังเป็นที่ดึงดูดความสนใจ ของเราบรรดาข้าทาสบริวารในเรือน เพราะเสียงระย้าแก้วทะเลาะกับไอ้สิงห์เสียงดังลั่น จังหวะนั้นพระพรายที่มาเยี่ยมไข้ระย้าแก้วมาตลอด ตั้งแต่วันที่เกิดเรื่อง เดินลงเรือนมา ตั้งใจจะเอาขนมมาฝากระย้าแก้ว ที่สวนดอกลั่นทมพอดี"นั่นมึงทำกระไรแม่ระย้าแก้ว ..!! ไอ้สิงห์ปล่อยนางบัดเดี๋ยวนี้" พระพายที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งไปหาระย้าแก้วที่ติดพันธนาการภายใต้ร่างใหญ่ของไอ้สิงห์"ที่แท้ทำเป็นสะดีดสะดิ้ง ไม่อยากได้ข้าเป็นผัว ก็เพราะมีผู้ชาย หน้าละอ่อนเยี่ยงไอ้เวร..! นี่ เทียวไล้เทียวขื่อ จนหัวกระไดไม่แห้งเยี่ยงนี้นี่เอง"ไอ้สิงห์พ่นคำร้ายๆใส่ระย้าแก้ว"ปล่อยข้าบัดเดี๋ยวนี้ ข้ามิต้องการเห็นหน้าคนอย่างพี่อีก ออกไปจากเรือนข้าซะ"ระย้าแก้วก็ไม่ยอมแพ้ให้กับคนนี้ใส่เสียและหยิ่งทรนงเช่นไอ้สิงห์ดั่งเก่าก่อน"กูบอกให้มึงปล่อยมือ แม่ระย้าแก้วอย่างไรเล่า หากมึงมิปล่อยแม่ระย้าแก้ว มึงได้มีเรื่องกับกูเป็นแน่.!"พระพายก็โมโหเลือดขึ้นหน้าที่ไอ้สิงห์ไม่ให้เกียรติระย้าแก้ว"กูปล่อยก็ได้..!แต่มึงจำไว้ความรักทั

  • หลงกลิ่นลีลาวดี   สิงห์บ้า(หึงเปล่านะ)

     ไอ้สิงห์ก้าวเดินไปตามทาง พร้อมกับหันไปเห็นร่างอรชรที่กำลังนั่งร้อยมาลัย รับลมอยู่กลางศาลาน้ำ เหล่าฝูงปลาแหวกไหว้ ดอกลั่นทมตามสะพรั่งทั้งสวน  หัวใจของมันรู้สึกสั่นไหว มันมิรู้จักสู้หน้าระย้าแก้วเช่นไรเพราะบัดนี้นางได้เปลี่ยนไปสิ้นตั้งแต่วันที่มันได้เห็นแววตาคู่นั้นที่ว่างเปล่า "ระย้าแก้วเจ้าเป็นเช่นไรบ้าง"เสียงแผ่วเบาราวกับสายลมจากปากของไอ้สิงห์ ระย้าแก้วที่ได้ยินเสียงคุ้นหู จึงหันกลับไปมองเจ้าของเสียง ในขณะที่สองมือยังคงร้อยมาลัยดอกลั่นทม นางปรายตามองไอสิงห์ด้วยสายตาที่เรียบเฉยไม่มีความรู้สึกหลงเหลืออยู่ในดวงตาผู้สวย "ลมอันใดหอบพี่มาที่นี่เล่า เหตุใดวันนี้พี่จึงมาเรือนของข้าได้..พี่มาผิดเรือนหรือไม่..? ข้าจะต้องขออภัย ที่ไม่สามารถต้อนรับพี่ได้ในเพลานี้ พี่กลับไปเสียเถิด" ในรอบหลายวันนี่เป็นประโยคยาวๆ ประโยคแรกที่ระยะแก้วได้พูด ระย้าแก้วปรายตามองไอ้สิงห์เพียงแวบเดียวแล้วหันกลับไปร้อยมาลัยดอกลั่นทมต่อ ปากก็พูดแต่มิหันไปมองหน้าไอ้สิงห์เลย "เอ็งไม่ต้องไล่ข้าดอก ข้าแค่อยากจะมาดูว่าเอ็งตายหรือยัง เพราะเห็นข่าวว่าจับไข้เสียหลาย"ว

  • หลงกลิ่นลีลาวดี   ดวงใจที่แตกสลาย

    มือหนาเย็นเฉียบ โอบกอดไปที่ร่างอรชรที่ไร้สติ แม้คนข้างหลังจะห้ามปรามไอ้สิงห์ ให้วางร่างของ ระย้าแก้วลง แต่มันกลับดื้อดึงไม่ยอมปล่อยและเดินตรงกับเรือนอย่างรวดเร็ว ไอ้สิงห์ก้าวขึ้นเรือนของพ่อหมอไทยด้วยความช่ำชองแล้วตรงเข้าห้องของระย้าแก้วทำให้ทุกคนรู้สึกประหลาดใจว่าเหตุใดมันจึงรู้ว่าห้องไหนเป็นของนาง"ขอบน้ำใจพ่อสิงห์ ที่อุตส่าห์อุ้มลูกสาวข้า มาส่งถึงที่เรือน หากแต่มิมีอันใดน่าเป็นห่วงแล้ว พ่อกลับเรือนของพ่อเถิด" พ่อหมอไทยเอ่ยปากไล่ไอ้สิงห์ทันที"แต่ว่า...!!!" ไอ้สิงห์จะเอ่ยปาก ขออยู่รอดูอาการของระย้าแก้ว แต่กลับมิมีโอกาส"ถือว่าข้าขอพ่อสิงห์สักครั้งเถิด พ่อกลับเรือนของพ่อไปก่อนหนา ให้ข้าได้รักษาลูกสาวข้าด้วยเถิด" พ่อหมอไทยส่ายหัวไปมาอย่างผิดหวังไอ้สิงห์จำใจต้องลุกขึ้น เดินออกจากเรือน พร้อมกับความรู้สึกผิดพรั่งพรู ในหัวใจของมันตีกันวุ่นไปหมด ไอ้สิงห์เดินลงมายืนอยู่ตรงหน้าเรือนอย่างสงบนิ่งพาลคิดทบทวนเรื่องราวมากมายของตนเอง พร้อมกับปลายตาหันกลับไปมองชายคาห้องของระย้าแก้ว"กลับเรือนเถิดพี่สิงห์ ประเดี๋ยวเอาไว้แม่ระย้า

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status