ผมคิดในใจ รู้สึกว่าต้องทำไรสักอย่างให้เธอรู้ว่าผมยังอยู่ข้างเธอ ผมมันก็แค่ไม่อยากกลับไปเป็นไอ้คนขี้ขลาดที่แอบรักเธอมาหลายปี แอบรักเธอมาตั้งแต่แรก แต่เพิ่งได้มาบอกตอนสายไป
ผมเม้มปากแน่น กลั้นใจจนสำลักควันตอนที่พิมพ์ส่งไปหาเธอ
แค่คำสั้นๆ
ชื่อ โหน : ทำไรอยู่
แต่มาจากทุกความรู้สึกในใจผม
[จบพาร์ท : โหน]
เสียงแจ้งเตือนข้อความเข้าในโทรศัพท์ดังขึ้นในช่วงบ่ายของวันนี้ วันที่ฉันต้องมาเรียนด้วยสภาพที่สะลึมสะลือ เนื่องจากนอนไม่หลับเพราะคิดไม่ตกตลอดทั้งคืน
ไม่ใช่เรื่องพี่โอห์มหรอก เรื่องนั้นอ่ะ ไม่ใหญ่เท่าเรื่องนี้จริงๆ
... ก็เรื่องโหนน่ะ
ฉันกดเปิดหน้าจอ ทันทีที่มันสว่างวาบขึ้นมา ฉันก็แทบสะอึกกับข้อความที่โหนส่งมา
ชื่อ โหน : ทำไรอยู่
“ทำไงดีนะ” ฉันซุกหน้าลงกับแขนตัวเอง รู้สึกแปลกๆ ตั้งแต่ที่โหนบอกว่าแอบรักฉันมาหลายปีแล้ว ฉันไม่เคยดูเขาออกเลย ไม่รู้ว่าซื่อบื้อหรืออะไร
“ชูใจไม่ควรมีแฟนหรอก ไม่อยากมีแฟนแล้ว”
ฉันนึกถึงคำพูดที่พูดกับพี่โอห์มเมื่อวันก่อน ที่พูดไปแบบนั้น เพราะฉันยังไม่อยากเปิดใจให้ผู้ชายคนไหนง่ายๆ อีกแล้ว พอมีแฟนคนแรกก็เจอแบบนี้ ฉันเลยยิ่งเข็ดไปเลย
ไม่รู้ว่าโหนจะรู้สึกยังไงตอนที่ฉันพูดแบบนั้นต่อหน้าทั้งเขาและพี่โอห์ม
แต่เอาจริงๆ นะ ฉันยังแอบไม่ไว้ใจโหน ยังกลัวเขาอยู่นิดๆ เพราะเขาบอกว่าคืนนั้นที่ฉันเมา เขาเผลอทำ ‘อะไร’ ลงไปกับฉัน แต่ฉันไม่รู้ว่าเราเผลอไปถึงไหนกัน ไม่กล้าถามเขาด้วย
พอคิดว่าได้ทำอะไรๆ แบบในละครที่เคยดูกับเพื่อนที่เคยสนิท ฉันก็อายจะแย่แล้ว เพราะเขาเองก็เป็นผู้ชายคนหนึ่ง
ไม่กล้าสู้หน้าเขาเลยจริงๆ นะ
ติ๊ง
เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นอีกครั้ง ฉันเปิดหน้าจอดูอีกที
ชื่อ โหน : กวนรึเปล่า
ชื่อ โหน : ขอโทษเรื่องวันนั้น
ฉันเม้มริมฝีปากแน่น ตัดสินใจในวินาทีนั้น ปลดล็อกหน้าจอแล้วกดเข้าแชทของเขา
ก่อนที่จะพิมพ์ตอบกลับไป... ในเวลาเรียน
Shoujai Chutimon : เราเรียนอยู่นะ โหนมากวนเรา
ชื่อ โหน : โทษที
ชื่อ โหน : แค่อยากคุย ว่าเป็นไงบ้าง
Shoujai Chutimon : เราไม่ตอบ เราจะเรียน
ชื่อ โหน : งั้นเลิกเรียนเดี๋ยวไปรับ
เอ้ะ!
ฉันทำหน้าเหวอออกมาทันที เขาจะมารับฉันเหรอ ไม่ได้นะ ฉันยังสู้หน้าเขาไม่ได้ เมื่อวันก่อนที่พี่โอห์มจะข่มขืนฉัน เหมือนโหนจะเห็นชั้นในฉันแวบๆ ไปแล้วด้วย มันเป็นสิ่งที่ฉันหวงแหนที่สุดเลยนะ
พอเขามาช่วยฉันวันนั้น บอกว่าฉันเป็นผู้หญิงของเขา
เอาจริงๆ นะ ฉันรู้สึกแปลกๆ อ่ะ
ไม่ได้! จะไม่ไปสู้หน้าเขาเด็ดขาด เราเป็นเพื่อนกันไม่ได้อีกแล้ว
Shoujai Chutimon : ไม่ต้องๆๆๆ เรากลับเองได้
โหนเงียบไปพักนึง ฉันแอบรู้สึกตกใจนิดๆ และรู้สึกแปลกๆ ที่เขาไม่พิมพ์ตอบฉัน แต่พยายามไม่คิดอะไรแล้ววางโทรศัพท์ลงพร้อมกับตั้งใจฟังที่อาจารย์สอนอีกครั้ง
งั้นเลิกเรียนเดี๋ยวไปรับ
ฉันนึกถึงประโยคของโหนในแชท ก่อนที่จะสั่นหน้าเบาๆ
ปกติโหนก็มารับแบบนี้ตลอดเวลาฉันทักไป ฉันไม่เคยรู้สึกแบบนี้เลย จนวันนี้ มันแปลกๆ แล้วนะ ตั้งแต่ที่เขาบอกรักฉัน ความรู้สึกฉันก็เปลี่ยนไปเลย
ฉันจะรักเขาได้ยังไง
เขาเคยเป็นเพื่อนสนิทฉันนะ
พอเลิกคลาส สิ่งที่ฉันทำเป็นอย่างแรกตอนที่ออกมาจากห้องเรียนคือชะเง้อคอมองหาใครสักคนหน้ารั้วมหาลัย
พอเห็นว่าโหนนั่งคร่อมรถรออยู่หน้าตึกที่ฉันเรียนตรงเวลาพอดีเป้ะ จังหวะที่เขาเงยหน้าขึ้นมอง ฉันก็รีบกลับมายืนตัวตรงเหมือนเดิม
มะ... มารับจริงๆ ด้วย
ติ๊ง
ฉันสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือนข้อความเข้า ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าต้องเป็นคนที่ยืนรอฉันอยู่ใต้ตึก
ชื่อ โหน : ลงมาได้ล่ะ เลิกเรียนแล้ว
เขารู้ด้วยอ่ะ!
ลืมไปเลย ฉันเคยอัพตารางเรียนเทอมนี้ให้โหนดูในเฟสนี่นา แต่ไม่คิดว่าเขาจะจำแม่นขนาดนี้
Shoujai Chutimon : มาทำไมเนี่ย
ชื่อ โหน : ก็มารับเธอไง
ชื่อ โหน : ทำไม มารับไม่ได้เหรอ
ฉันเม้มริมฝีปากแน่น นี่เขาทำเหมือนว่าจะจีบ... ไม่นะ ฉันจะไม่คิดไปเองเด็ดขาด ไม่งั้นจะซ้ำรอยเดียวกับพี่โอห์มอีก
ต้องทำให้เขารู้สึกว่าฉันยังเห็นว่าเขาเป็นเพื่อน ไม่ได้เป็นอย่างอื่น
Shoujai Chutimon : ก็ได้ เดี๋ยวเราลงไป
[พาร์ท : โหน]
ผมชะงักไป แปลกใจที่เธอยอมลงมาเจอหน้าผม
ก็ทำตัวปกตินั่นแหละไอ้โหน
ผมเตือนตัวเองในใจ นั่งคร่อมมอเตอร์ไซค์รอจนเธอเดินลงมาจากตึก ชูใจในชุดนักศึกษาน่ารักมาก ทำเอาผมมองเพลิน จนเธอต้องก้มหน้างุดเดินมาไม่กล้าสบตาผม คงเพราะผมมองนานเกิน
“ไง” ผมทักทายสั้นๆ เธอเลิ่กลั่กทันที
“งะ... ไง” ชูใจทักผมกลับแบบไม่ธรรมชาติ เธอยืนห่างผมเหมือนรักษาระยะ ผมมองแล้วแปลบนิดๆ แต่ใจนึงแม่งก็รู้สึกว่า จะไม่ยอมแพ้
ไม่รู้ทำไมว่ะ พอได้สารภาพ ได้เจอเธอวันนี้ ผมกลับรู้สึกว่าผมยังไม่อยากยอมแพ้ง่ายๆ
ยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มมาหลายปี วันนี้จะยอมแพ้อีกคงเหี้ยเกินไป
“ตั้งแต่นี้” ผมโพล่งขึ้นมาแล้วเงียบไป ชูใจสะดุ้งทันที “เราคิดว่าจะจีบเธอ”
“...”
“จีบจนกว่าเธอจะยอมเป็นแฟนเราอ่ะ”
เจอไปคำเดียว ชูใจยืนเอ๋อไม่ยอมตอบอะไรเลย
ผมเอียงคอจ้องหน้าเธอเพื่อสังเกตปฏิกิริยา แอบกระตุกยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าหน้าเธอแดงก่ำ ผมว่าผมคบเธอมานาน จนพอรู้นิสัยเธอทุกอย่าง รู้ว่าเธอชอบอะไร
ชูใจชอบให้ผู้ชายพูดตรงๆ ว่าชอบ เพราะที่ผ่านมามีคนแอบชอบชูใจเหมือนผมเยอะ พวกมันพยายามแสดงออกทางอ้อมให้เธอรู้ แต่ยัยชูใจแม่งซื่อบื้อไง ไม่เคยรู้เหี้ยไรสักอย่าง
ไม่เคยรู้เลยว่าผมแอบรักเธอมาเป็นปี
แต่แค่เพราะความเป็นเพื่อนมันทำให้ผมขี้ขลาด ไม่มั่นใจ ไม่กล้าจีบเพราะคิดว่าผมกับชูใจ เอาง่ายๆ ก็เหมือนหมามองเครื่องบิน ดอกฟ้ากับหมาวัดอะไรทำนองนั้น เธอเป็นหัวหน้าห้องตั้งแต่เทอมแรกที่เจอกัน เพื่อนทุกคนรักเธอ เธอน่ารัก จนยิ่งโตก็ยิ่งน่ารัก
เอาจริงๆ ถ้ามานั่งนับวันแม่งก็นานอยู่ ตั้งแต่ที่แอบมองเธอห่างๆ ก่อนที่จะมาเรียนอยู่ห้องเดียวกันตอน ม.3 ตอนนั้นผมแม่งยังเป็นแค่เด็กหัวเกรียน เกเรต่อยตีเละเทะไปทั่ว จนเธอเข้าหา พยายามทำความเข้าใจเด็กเปรตอย่างผม
แต่เพราะเธอโคตรอ่อนหวาน โคตรน่ารัก แล้วผมก็ชอบเธออยู่แล้วด้วย ชูใจหน้าสวยมาตั้งแต่เกิดเลยมั้ง พอมองหน้าเธอทีไรรู้สึกเหมือนจะละลายตายห่าแม่งตรงนั้น แล้วตอนนั้นผมอ่ะก็ใช่ย่อย แต่พออยู่ต่อหน้าชูใจผมก็กลับไม่กล้าซะอย่างงั้น ปล่อยความรู้สึกไว้ ไม่คิดเหี้ยอะไรเพราะตอนนั้นก็มีแฟนอยู่แล้ว
จากแค่ชอบ กลายมาเป็นรักได้ไงไม่รู้ว่ะ
แต่เพราะตอนนั้นผมมันยังเด็ก ผมโดนให้ออกจากโรงเรียนตอน ม.3 เพราะเรื่องต่อยตี พ่อผมส่งผมเข้าเรียน ปวช. บอกว่าถ้าผมไม่จบพ่อจะกระทืบผมให้ตายคาตีน ชูใจก็เลยเข้ามาช่วยเพราะเป็นห่วงผม
เชื่อปะ ตอนนั้นผมคิดตลอดเลยว่าชูใจก็ชอบผม เธอถึงได้ห่วงผมขนาดนี้
จนห่างๆ กันไปช่วง ปวช. ปี 2 ผมก็พยายามมีแฟน คบคนนั้นคนนี้ ผมพยายามคิดว่าชูใจก็แค่รักแรกของผม ไม่นานแม่งก็ลืม บวกกับช่วงนั้นสิ่งเร้ามันเยอะ เพราะสังคม ปวช. แม่งโหดพอตัว ผู้หญิงในนั้นก็ขี้อ่อยซะจนผมหัวปั่น
แต่เชื่อปะ ผมกลับไม่เคยลืมรักแรกของผมได้เลยว่ะ
คบกับใคร สุดท้ายหน้าเฟสผู้หญิงที่ผมมักจะกดเข้าไปดูบ่อยสุดก็คือชูใจ ก็ดูบ่อยอ่ะ ดูบ่อยขนาดทะเลาะกับแฟนที่คบ มันจะไปตบชูใจที่ไม่รู้เรื่องอะไร เถียงกันแรงจนผมต้องเลิก เชื่อมั้ยว่าทะเลาะกับแฟนทุกคนเรื่องนี้หมด มันติดเป็นนิสัยผมนี่หว่า ที่จะต้องเข้าไปส่องเฟสชูใจ
จนสุดท้ายผมก็เลิกคิดมีแฟนไปเลย ไม่มีจนเรียนจบ ปวช.
พอวันจบเพื่อนแม่งเชียร์ให้สารภาพรัก ชูใจดันมีแฟนก่อน ผมเลยรู้ว่าที่ผ่านมาเธอเห็นผมเป็นแค่เพื่อนผู้ชายคนนึง
เออ ก็จุกดี
เอาง่ายๆ ก็คือไอ้โอห์มที่เป็นแฟนคนแรกของชูใจกล้าที่จะมาจีบเธอก่อน เธอเลยคิดว่าแม่งโดนใจ โดยที่ไม่รู้เหี้ยไรเลย
ก็ถ้ามันกล้าที่จะจีบเธอก่อน แล้วทำให้เธอชอบได้
กูก็ต้องทำได้
“ขึ้นดิ ไม่กลับบ้าน?” ผมเลิกคิ้วถามเธอ ทำตัวเป็นปกติเหมือนตอนเราเป็นเพื่อนกัน ที่ว่าจะจีบก็ไม่ได้หมายความว่าจะรุกเธอแรงหรืออะไรหรอกว่ะ ก็แค่ให้เธอรู้ว่าผมอ่ะ รักเธออยู่ แล้วก็รอเธอรับรัก
“ทะ...” ชูใจอ้าปากค้างไว้ “ที่พูดว่าจะจีบเราหมายความว่าไงอ่ะ”
“ก็มารับมาส่ง ชวนไปกินข้าว ดูหนัง” ผมไหวไหล่ “มีอะไรอีกอ่ะ เธอจะช่วยคิดก็ได้”
“ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น”
“เหรอ” ผมกระตุกยิ้ม ท้าวแขนกับแฮนด์รถ “แล้วหมายความว่าไง”
“โหน” ชูใจร้องออกมา “เราเป็นเพื่อนกันนะ เราบอกแล้วไง”
พอเห็นเธอพูดแบบนั้น ผมเลยรู้สึกว่าผมแม่งต้องทำเป็นหูทวนลมบ้าง หน้ามึนจีบเธอต่อไปก็พอ เพราะการรักเธอมันคือความสุขของผม
เธอไม่รักกลับก็ช่างแม่งดิ
“ไม่ฟัง” ผมยกมือขึ้นปิดหู ชูใจทำหน้าเหวอพอเห็นว่าปฏิกิริยาผมแม่งเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังตีน “เพื่อนไร ไม่ฟัง”
“... โหน!”
“ไม่ได้อยากเป็นแค่เพื่อนอ่ะ เข้าใจปะ” ผมแทรกเธอขึ้นมา ใช้เท้าเลื่อนรถมอเตอร์ไซค์ไปใกล้เธอจนชูใจต้องเบี่ยงตัวหลบอย่างตกใจ “ขึ้นมาได้ล่ะ เมื่อย”
“เรายังคุยกันไม่รู้เรื่องเลย”
“เราจะไม่รอแล้วว่ะชูใจ” ผมหยุดรถตรงหน้าเธอ คว้าหมวกกันน็อคอีกใบที่เอามาเผื่อเธอมาถือไว้ ก่อนที่จะตั้งขาตั้งมอเตอร์ไซค์แล้วหยัดยืนขึ้นเต็มความสูงต่อหน้าเธอ “เรารอเธอมานานแล้ว”
ชูใจเบิกตากว้างเมื่อในนาทีนั้น ผมก็คว้าแขนเธอดึงให้เข้ามาหา ก่อนที่จะใส่หมวกกันน็อคให้เธอ แล้วติดสายรัดใต้คางให้
เราสบตากัน ตอนนั้นที่ผมจ้องเธออย่างมั่นใจ
“เรารักเธอ เราจะไม่งอมืองอตีนรอเธออีกแล้วว่ะ”
“...”
“ถึงเธอไม่เอา แต่เราจะเอาอ่ะ จะทำไม”
[จบพาร์ท : โหน]
[พาร์ท : โหน]รู้สึกแปลกๆ นะว่ามั้ยรู้สึกเหมือนวันนี้ชูใจอ้อนผมแปลกๆ“ยังไม่ได้ถูสบู่ตรงนี้ให้เค้าเลย” เธอพูดตอนที่ยื่นแขนมาต่อหน้าผมที่เปลือยล่อนจ้อน สายตาผมไม่ได้มองไปที่แขนเธอ แต่มองต่ำกว่านั้น “โหน”“วันนี้เป็นอะไรรึเปล่าวะชูใจ” ผมถามเธอตอนที่ถูกดึงสติ ตอนนั้นคว้าแขนเธอขึ้นมาถูสบู่เรียบๆ ปกปิดความคิดเหี้ยๆ ของตัวเอง “อาบน้ำเองไม่ได้เหรอ ต้องให้เค้าอาบให้อ่ะ”“ทายดูสิ” ใบหน้าเล็กทำหน้าทะเล้นออกมา“ดูดนม?” ผมเลิกคิ้วถามโดยไม่ต้องคิด เธอหน้าตึงขึ้นมาทันที ผมเลยแค่นหัวเราะออกมา “ชอบให้ดูดนมจริงๆ ว่ะเธออ่ะ ไอ้ทะลึ่ง”ชูใจสาดน้ำใส่ตัวผมทันที“ไม่ใช่นะ!” เธอโวยวาย “ก็แบบว่า... วันนี้โหนจะค้างที่นี่รึเปล่า”“...” ผมชะงักไป เมื่อสบตาเธอแล้วก็เห็นว่ามันสื่อออกมาอย่างชัดเจน“ก็ถ้าจะค้างที่นี่... เผื่อเราจะได้ช่วยติวหนังสือให้ไง”เวรเอ้ยตั้งแต่ประโยคนั้นก็ทำใจให้มองเธอเป็นผู้หญิงใสซื่อไม่ได้อีกเลย นี่ผมแม่งไปปลุกอะไรในตัวชูใจเข้าวะ หรือเพราะเธอรู้สึกอะไรกับผม เธอถึงได้ยั่วใจผมได้ขนาดนี้ผมกุมใจที่เต้นแรงอยู่ในอก แม่งเต้นตั้งแต่ได้เห็นตัวเธอที่เปลือยด้วยกันในห้องน้ำ แต่ผมพยายามสะกดกลั้นอารมณ
“ค่ะแม่ หนูจะตั้งใจสอบค่ะ แต่หนูยังไม่มั่นใจว่าสอบครั้งนี้หนูจะได้มากน้อยแค่ไหน แต่หนูจะพยายามนะคะ”ติ๊ดฉันถอนหายใจหลังจากวางโทรศัพท์จากแม่ รู้สึกไม่ค่อยดีตั้งแต่เช้าเพราะว่ามันใกล้จะสอบแล้ว ฉันทบทวนหนังสือน้อยกว่าทุกวันเพราะช่วงนี้เอาแต่นอนเพราะความเพลีย มันเครียดๆ จนเพลียไปหมด ไม่อยากทำอะไรเลยฉันอยากเลิกเรียนหมอ แต่ไม่สามารถทำได้จริงๆ เพราะว่าไม่มีความกล้าพอที่จะเดินไปบอกพ่อกับแม่ว่าฉันอยากทำอะไรกันแน่“เฮ้อ” ฉันพ่นลมหายใจตอนที่กดโทรศัพท์เปิดดูหน้าไทม์ไลน์ของโหน ตั้งแต่วันนั้นที่เราทำอะไรกันมากมาย ถึงจะไม่ได้ถึงขั้นกลายเป็นของเขา แต่ฉันกลับรู้สึกคิดถึงโหนบ่อยขึ้นฉันส่องหน้าเฟสโหนตลอดถ้ามีโอกาส รู้สึกว่าโหนเริ่มลงรูปตัวเองในบางครั้ง แล้วก็มีผู้หญิงมาเม้นท์แซวและใช่ ฉันไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่แต่... ฉันก็ไม่อยากงี่เง่าใส่เขาเลย สองอาทิตย์ที่ผ่านมาดูโหนเครียดๆ แถมยังไม่ค่อยให้ฉันตามไปคุมที่ร้านเหล้าเวลาเขาไปสังสรรค์กับเพื่อน เขาอ้างมาว่ามีปัญหากับเพื่อน ไม่อยากให้ฉันไปเห็นบรรยากาศมาคุก็ไม่รู้เนอะว่าเพื่อนคนไหน แต่ก็แอบเป็นห่วงนะติ๊งฉันชะงักไปเมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือนว่ามีคนทักมาในแช
“มึงคิดไงแดกน้ำผลไม้เนี่ย”ผมเงยหน้าขึ้นมาจากกล่องน้ำทิปโก้มองไปทางไอ้พัน มันนั่งดูดบุหรี่อยู่อีกทางนึง หลังจากค้างที่ห้องชูใจ วันต่อมาพอตื่นมาอาบน้ำกับเธอ (ก็เคยเห็นกันแล้วปะ) ไปส่งเธอที่มหาลัย ผมก็มานั่งที่ร้านเหล้าประจำเพราะพวกไอ้พันเรียก มันทักมาในแชทเฟสว่าจะชวนมาแดกเหล้าแต่... ก็อย่างว่า ผมจำได้ดีว่าเมื่อวานชูใจบอกว่าน้ำผมมันคาวแต่บอกให้พวกมันฟังไม่ได้“กูเบื่อเบลนด์” ผมตอบส่งๆ ตอนที่กระดกน้ำส้มลงคอ“เบื่อเหี้ยไร เห็นแดกอยู่ทุกวันกับพวกกู อยู่ดีๆ จะมาเบื่อได้ไงถ้าไม่มีเรื่อง” เพื่อนวิทยาลัยช่างที่แซวเรื่องสีหัวตอนนั้นผมโพล่งขึ้นมา มันคงไม่สบอารมณ์ที่คนคอแข็งอย่างผมพลาดการดวลกับมันในคืนนี้ เพราะนอกจากผมที่คอแข็งที่สุดในรุ่น ก็มีมันนี่แหละว่ะ เราเลยดวลคอทองแดงกันบ่อยๆ“บอกพวกมึงไปไม่ได้เหี้ยไรหรอก” ผมพูดแล้วใช้ไม้จิ้มสัปปะรดขึ้นมาเอาเข้าปากแล้วเคี้ยวลงคอ ก็เคยได้ยินกันว่าสัปปะรดเป็นผลไม้ที่ทำให้น้ำมันหวาน ไม่คาว ผมก็ซื้อมาแดกดิ ถูกปะ “สัปปะรดเปรี้ยวชิบหาย มึงไปซื้อมาจากร้านไหนวะ”“กูชวนมึงมาแดกเหล้าไอ้โหน ไม่ใช่มานั่งแดกผลไม้” ไอ้พันพูดแล้วพ่นควันบุหรี่ออกมา มันเป็นคนไปซื้อสัปปะร
ปะ... ปวดฉี่ฉันคิดในใจตอนที่โหนดูดดึงยอดอกแล้วปล่อยมันออกจนฉันกระตุกแรงๆ เพราะความเสียวซ่าน โหนไล้ริมฝีปากขึ้นมาที่คอฉัน เขาทำอะไรบางอย่าง ที่ทำให้ฉันรู้สึกว่ามันช่างแบบ... จั๊กจี้มากเลยจั๊กจี้สุดๆ เลย แล้วก็แสบนิดๆ ด้วย“อื้อ” ฉันโดนโหนครอบครองริมฝีปากอย่างหนักหน่วง เขาเหมือนจะเขิน จะประหม่า แต่สิ่งที่เขาทำให้ฉัน มันทำให้ฉันรู้สึกตื่นเต้นมากๆมือของโหนไล้ไปตามหน้าท้องของฉัน ก่อนที่จะเลื่อนมาที่ด้านหลัง ลูบไล้แผ่นหลังที่เปลือยเปล่า แล้วฉันก็ได้ยินเสียงเขาทำอะไรบางอย่างอยู่ข้างหลังมันดัง กริ้กฉันรู้สึกเย็นวาบที่ใต้หน้าอกเมื่อเขารั้งมือที่วางอยู่บนแผ่นหลังเล็กๆ ของฉันให้ฉันหยัดกายขึ้นนั่ง ก่อนที่เขาจะกระซิบให้ฉันชูมือขึ้น ฉันยกมือขึ้นอย่างขลาดอาย ในขณะที่โหนจะถอดเสื้อฉันออกทางศีรษะพร้อมกับชั้นในสีฟ้าน้ำทะเล เขาโยนทิ้งไปที่พื้นข้างล่างอย่างไม่ใส่ใจนัก“อื้อ... ดูดอีกสิ” ฉันเผลออ้อนวอนออกไปอย่างลืมตัว เพราะชอบเวลาที่ลิ้นและปากอุ่นๆ ของเขาแตะลงที่จุดอ่อนไหวสีชมพูหวาน มันเสียวจนลืมตัวเลยโหนที่มีสีหน้าเหมือนเขากำลังควบคุมตัวเองอยู่เงยหน้าขึ้นสบตาฉัน แววตาของเขาแสดงออกว่าเขาจะทนไม่ไหว ฉั
ไม่รู้ยังไง สุดท้ายเราก็มานั่งดูหนังอย่างว่าด้วยกันในห้องนอนของชูใจ... สองต่อสองเลยผมกลัวใจตัวเองว่ะ ตอนนี้กำลังจะเปิดหนัง AV ที่ผมดูประจำเพราะนางเอกหนังคล้ายชูใจ ร่างเล็กนั่งหน้าแดงจัดอยู่บนเตียงตอนที่ผมยกโน๊ตบุ้คเธอมาตั้งไว้บนพื้นเตียง ซิงค์โทรศัพท์เข้าดูประวัติการเข้าชมที่ผมเคยเข้าไปดู“... โหนทะลึ่ง” ชูใจพึมพำเสียงเบา ผมเองก็อายดิ ไม่อายได้ไง ปกติเคยทำอะไรทำนองนี้กับชูใจที่ไหน ก่อนหน้านี้ใครจะเชื่อว่าเราเป็นเพื่อนกันเออ ก็เคยนี่หว่าครั้งนั้นไง ที่เราเมาเบียร์กันทั้งคู่แล้วผมเผลอ... ช่างเหอะหนังเริ่มดำเนินไปเรื่อยๆ เพราะผมเคยดูแล้วถึงได้แต่นั่งท้าวคางมองเฉยๆ ในขณะที่เหลือบไปสังเกตการณ์อาการของชูใจ แล้วก็เห็นว่าเธอนั่งตัวเกร็ง หน้าซีดจัดไอ้แก่พุงพลุ้ยเริ่มนัวเนียสาวญี่ปุ่นที่อยู่ในหนัง ถอดชั้นในเธอออกจนโนบรา ยอดอกสีชมพูโผล่ออกมาในขณะที่มันเริ่มดูดอย่างกระหาย ผมรู้สึกสยิวนิดๆ ตรงหว่างขา ในขณะที่เหลือบไปมองคนข้างๆ บ้างผมเห็นชูใจกัดปากตัวเอง อาการเธอเปลี่ยนไปพอเจอฉากนี้ ในขณะที่ผมก็นึกขึ้นได้ ตอนที่เมาเบียร์แล้วเผลอลวนลามเธอครั้งแรกเรื่องที่ว่าเธอชอบ... ให้ผมดูดนมให้ ใช่ปะนึกแ
สถานการณ์ระหว่างเราเริ่มตกอยู่ในความกระอั่กกระอ่วนนั่นก็เพราะหลังจากที่โหนคว้ามือฉันมาจับเป้ากางเกงของเขา ฉันก็กรี๊ดลั่นออกมาอย่างอับอายแล้วตบหน้าเขา พร้อมกับปิดประตูใส่หน้าเขาเสียงดังอีกด้วย“ก็ช่วยทำให้มันเบาลงหน่อยเหอะ เราตื่นเต้นนะ”ไอ้โหนบ้า!ที่บอกว่าอยากท้องก็แค่หลุดปากพูดออกไปเพราะเมามาก แต่ไม่ได้พร้อมจะโดนทำแบบนั้นจริงๆ หรอกนะฉันอ่ะ มีปมใหญ่เกี่ยวกับครอบครัวอยู่ในใจมาตั้งแต่เด็ก เพราะพ่อแม่เป็นหมอทั้งคู่ พี่ชายพี่สาวก็เรียนหมอ จบหมอออกมาหมด เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกอะไรที่พอลูกสาวคนสุดท้องอย่างฉันเกิดมาแล้ว พ่อกับแม่จะกวดขันเรื่องเรียนมากๆ และคาดหวังว่าฉันจะต้องจบมาเป็นหมอตามวงศ์ตระกูลตั้งแต่รุ่นทวดแต่เชื่อมั้ย จริงๆ อ่ะฉันชอบวาดรูป แต่พ่อกับแม่ไม่สนับสนุนอย่างแรง เพราะมันดูเป็นเรื่องเพ้อฝันเกินกว่าจะเอามาทำเป็นอาชีพได้ฉันเคยคิดอยากหลุดพ้นจากความกดดันของพวกเขา แต่ทำไม่เคยได้ ด้วยนิสัยชอบตามใจพ่อแม่ของฉันด้วย ท่านอยากให้ทำอะไรฉันก็ทำ อยากให้เดินไปทางไหนฉันก็ไปเฮ้อ มันสะสมจนกดดันสุดๆ ตอนสอบฉันก็มีโรคประจำตัว คือคลื่นไส้อยากอ้วกทุกครั้งที่สอบเสร็จโหนรู้เรื่องพ่อแม่ฉันดีนะ แต่โ