ชูใจสบตาผม เธอเบ้หน้า ก่อนที่จะซบหน้าลงกับอกผม ตัวเธอสั่นมาก
ผมใจเต้นแรง เสมองไปทางอื่นตอนที่ค่อยๆ ยกมือขึ้นลูบหลังเธอเป็นการปลอบใจ
แม่งเป็นเสี้ยวนึงที่คิด ว่ากูได้คะแนนจากเธอรึยังวะ?
ชูใจซุกหน้ากับอกผมอยู่แบบนั้น แม่งนานมากจนผมเริ่มสั่นแทนละเนี่ย เขินชิบหายเลย ไหนบอกจะเป็นคนชั่วที่รักเธอเท่าชีวิตวะ นี่แม่งไม่ต่างจากเดิมเลยเอาจริงๆ
“ชูใจ” ผมตั้งท่าจะเรียกชื่อเธอ แต่รู้สึกได้ว่ามีคนด้านหลังลุกขึ้น คว้าไม้หน้าสามที่ผมทิ้งลงพื้นเพื่อไปปลดเชือกให้ชูใจทำท่าง้างจะฟาดหัวผม
ผมรู้ได้ในทันทีว่าเป็นไอ้เหี้ยโอห์มตอนที่มันฟาดลงมา
พลั่ก!!
มันไม่โดนอะไรนอกจากมือผมที่คว้าข้อมือมันไว้แล้วกำแน่นในขณะที่ยังลูบหลังชูใจอยู่ ผมหันไปจ้องหน้ามันเขม็ง ไอ้โอห์มที่ปากแตกหน้าซีดไปเมื่อผมไม่ได้อ่อนแอเหมือนหุ่น รู้ไว้ด้วยว่าหุ่นแบบผม มันเป็นหุ่นที่ปราดเปรียวที่สุด
ตอนเรียนมวย ผมเกือบได้ชิงระดับจังหวัด ฉายาชายหมัดหนักไม่ได้มาเพราะโชคช่วย
“คุกเข่าตรงหน้าชูใจหน่อยดิ๊” ผมพยักหน้าให้มันลงไปนั่งคุกเข่าอยู่กับพื้น หุ่นลีนๆ ของมันแทบไม่ช่วยอะไรตอนที่ผมหักแขนมันจนแม่งร้องลั่นพอเห็นว่ามันไม่ทำตาม ไอ้โอห์มหมดท่าลงไปนั่งคุกเข่าทันที สภาพเหมือนหมาขี้แพ้
ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ ชูใจมองผมที่จ้องหน้าไอ้โอห์มที่ไม่กล้าสบตา ผมดันไหล่เธอออก ตบบ่าเธอเบาๆ ตอนที่พูดออกมาเสียงหนัก
“กราบตีนขอโทษชูใจซะ”
“มึงว่าไงนะ” ไอ้โอห์มเหมือนไม่เชื่อหูตัวเอง มันเงยหน้าขึ้นมองผมที่นั่งข้างๆ ชูใจ มือผมข้างนึงเลื่อนจากบ่าเธอลงไปกุมมือเธอไว้ลวกๆ
ผมต้องการจะบอกเธอ ว่าผมจะปกป้องเธอเอง ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหน
ถึงจะไม่ได้เป็นมากกว่าเพื่อนก็เหอะ
“มึงไม่ได้เขาเลยใช้วิธีข่มขืนถ่ายคลิป มึงว่ามันควรทำอะไรอีกอ่ะ นอกจากกราบตีนขอโทษเพศแม่” ผมพูดเสียงแข็ง มันขมวดคิ้วแน่น ทำท่าเหมือนไม่เข้าใจในความหวังดีของผม
“สรุปมึงเป็นผัวน้องชูใจจริงๆ เหรอวะ” มันโพล่งขึ้นมา ผมชะงักไป “มึงได้กันตอนไหน ชูใจเป็นแฟนกูไม่กี่วัน ทำงี้ก็แปลว่าชูใจนอกใจกูก่อน”
“ชูใจเลิกกับมึง กูถึงได้...!” ปากผมมันจะหลุดออกไป แต่ยั้งไว้ทัน ผมหันไปทางชูใจที่มองผมด้วยสายตาหวาดหวั่น เธอไม่ได้พูดอะไร มีแต่มองหน้าผมเหมือนต้องการคำตอบ ว่าคืนนั้นมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ “ถึงแม่งจะไม่ใช่ มึงก็ต้องกราบตีนชูใจอยู่ดีมั้ย”
ผมเปลี่ยนเรื่อง เพราะไม่อยากพูดถึงมัน
“กูไม่กราบ” แต่ไอ้เหี้ยโอห์มก็ขัดขึ้นมา “ไม่ใช่แม่กู ทำไมกูต้องกราบส้นตีนเขา”
“มึง...!!” ผมทำท่าจะลุกขึ้นซัดหน้าแม่งสักทีที่มันไม่สำนึกว่าทำไรไปกับผู้หญิงคนนึง แต่ชูใจก็คว้าแขนผมเอาไว้
“พอเถอะโหน” เธอพูดขึ้นมา “เราจัดการเอง”
เธอลุกขึ้นยืน แต่เพราะขาเธอถูกมัดอยู่ผมไม่ได้แก้ให้ มันทำให้เธอเซมาหาผมอย่างรวดเร็ว แล้วผมก็รวบตัวเธอได้
ตึกตัก
หน้าอกชูใจโดนผม ผมได้ยินเสียงหัวใจเธอเต้นโคตรดัง
“ระ เรายืนไม่ได้” เธอขยับตัวออกห่างจากผม หน้าชูใจขึ้นสีชมพูจางๆ “ช่วยแกะผ้าที่มัดขาให้เราหน่อย”
ผมกลืนน้ำลายลงคอ
“แปปนะ” ผมลงไปนั่งยองๆ แล้วแกะผ้าที่มัดขาให้เธอ แวบนึงเผลอเงยหน้าขึ้นมองขึ้นไป เห็นกระโปรงเธอพลิ้ว มันทำท่าจะเปิดออก ผมลุกขึ้นยืนทันที “เสร็จแล้วว่ะ”
“... ขอบคุณนะโหน” เธอเอ่ยเบาๆ ตอนที่เดินไปหาพี่โอห์ม “พี่โอห์ม”
มันเงยหน้าขึ้นมามองเธอ ชูใจเม้มปาก เธอตบหน้ามันไปทีนึง
เพียะ
“อย่ามายุ่งกับชูใจอีก” เธอพูดเสียงหนักแน่น ผมมองเธอ ก่อนที่ไอ้โอห์มมันจะก้มหน้าลง “หลังจากคบกับพี่ ชูใจก็รู้แล้ว”
“...”
“ชูใจไม่ควรมีแฟนหรอก ไม่อยากมีแฟนแล้ว”
ผมยืนอยู่หน้าสถานีตำรวจ ยืนดูดบุหรี่อยู่หน้าตึก สน.
“ชูใจไม่ควรมีแฟนหรอก ไม่อยากมีแฟนแล้ว”
ผมพ่นลมหายใจออกมา แม่งออกมาพร้อมควันบุหรี่ หลังจากที่เธอพูดแบบนั้น เราก็ไม่ได้คุยไรกันอีก ผมโทรตามไอ้พันให้มาสมทบพร้อมตำรวจ พวกไอ้โอห์มถูกล็อกตัวแล้วโวยวายว่าไม่คิดว่าผมจะแจ้งตำรวจจับมัน ผมเลยต้องขับมอเตอร์ไซค์ให้ไอ้พันซ้อนตามไปที่ สน. ในฐานะพยานของชูใจ ว่าเธอจะโดนกระทำชำเรา
พวกมันจะโดนขังแต่โทรเรียกพ่อแม่มาประกันตัวได้ ตอนที่เดินออกจาก สน. พร้อมกับพ่อแม่ พวกมันที่หน้าสะบักสบอมจ้องหน้าผมเขม็ง ทั้งอาย ทั้งอาฆาตแค้นผมกับไอ้พัน แต่ผมคิดว่าผมทำไปขนาดนั้น มันคงไม่กล้ามายุ่งกับชูใจอีกนาน
อีกอย่าง ผู้หญิงแม่งก็พูดงั้นแล้วด้วย โคตรหักหน้าเลย
ทั้งมัน ทั้งผม
“เป็นอะไรอีก” ไอ้พันที่คุยกับตำรวจเดินออกมาตบบ่าผมหนักๆ “วันนี้มึงทำดีแล้วไอ้โหน อย่าท้อดิวะ”
“...”
“มึงทำเพื่อเขาขนาดนี้ ชูใจแม่งต้องคิดแล้วว่ะ ว่ามึงมีดี”
“ไม่หรอกว่ะ” ผมโพล่งขึ้นมา ไอ้พันยื่นมือขอบุหรี่ ผมเลยส่งซองให้มันไป ปกติมันก็ยืมผมดูดประจำ แต่วันนี้ผมดูดวันเดอร์แดง
“เดี๋ยวนี้ดูดแดงเหรอวะ” มันถามผม เรื่องยี่ห้อบุหรี่ เพราะปกติผมดูดสีเขียว มันเย็นๆ ดี
“เออ” ผมตอบสั้นๆ “ดูดตั้งแต่อกหักจากชูใจ”
“อย่าพูดงั้น แล้วหลังจากช่วยเขา ชูใจพูดว่าไงกับมึงบ้าง ไหนบอกกู” มันถามอีก ขอไฟแช็คจากผม ผมตีหน้าเซ็งที่มันไม่คิดจะพกไรมาเอง เลยโยนให้มัน “เหี้ย โยนทำไม”
“ก็ไม่พูดอะไร” ผมจงใจเปลี่ยนเรื่อง ไม่อยากตอบเรื่องเธอเลยว่ะ “ก็แค่...”
“...”
“เขายังไม่อยากมีแฟน” ผมตัดพ้อเธอออกมา ทิ้งบุหรี่พร้อมใช้เท้าเขี่ยทิ้ง
“...”
“ยังไม่รักกูเหมือนเดิม”
วันนี้ผมมาเรียนที่วิทยาลัยอาชีวะ
ก็เรียนไป เจอเพื่อนผมก็ไม่พูดไร เอาจริงๆ คำพูดของชูใจมันติดอยู่ในหัวตลอดตั้งแต่วันนั้น วันนี้ก็ผ่านมาสองวันที่ผมไม่ได้ไปเจอหน้าเธอ ไม่ได้ไปหาเธอที่มหาลัย ไม่ได้ทักเฟสเธอไป
ชูใจก็เงียบไปตั้งแต่วันนั้น เชื่อปะ ผมเปิดดูแชทเฟสเธอบ่อยมาก เธอขึ้นออนแต่ไม่มีความเคลื่อนไหวอะไร
อกหักจริงจังแล้วมั้ง
ก็ได้แค่หวังไง จะเป็นอะไรได้มากกว่าเพื่อน แค่นี้ก็ไม่เหลือแล้วมั้ง
ผมยืนดูดบุหรี่ในห้องน้ำ เลิกเรียนก็ลงมาเยี่ยว เพื่อนในวิทยาลัยทักทายบ้างตามประสา เพราะผมเพื่อนเยอะ ผมได้แต่ฉีกยิ้ม แต่ไม่พูดอะไร กลายเป็นคนพูดน้อยไปเลยวันนี้
“เวรเอ้ย” ผมสบถออกมาพอรูดซิปกางเกงแล้วทนไม่ไหว กดเปิดหน้าจอโทรศัพท์ตอนที่คีบบุหรี่ออกจากปากแล้วพ่นควันออกมา
ผมเปิดเข้าดูหน้าเฟสชูใจ
ยังเงียบเหมือนเดิม
เอาจริงๆ ผมแม่งเป็นห่วงเธอ เจอเหตุการณ์แบบนั้นจากแฟนคนแรก เธอคงไม่โอเคเท่าไหร่ ผมอยากไปปลอบใจนะ แต่คือสิ่งที่ผมทำกับเธอแม่งก็เหี้ยพอกัน
“ชูใจไม่ควรมีแฟนหรอก ไม่อยากมีแฟนแล้ว”
คำนี้วนอยู่ในหัวผมทั้งวัน หลับก็ได้ยิน ตื่นก็ยิ่งได้ยิน
ถ้าไม่อยากได้ยินอีกต้องทำไงวะ
[พาร์ท : โหน]รู้สึกแปลกๆ นะว่ามั้ยรู้สึกเหมือนวันนี้ชูใจอ้อนผมแปลกๆ“ยังไม่ได้ถูสบู่ตรงนี้ให้เค้าเลย” เธอพูดตอนที่ยื่นแขนมาต่อหน้าผมที่เปลือยล่อนจ้อน สายตาผมไม่ได้มองไปที่แขนเธอ แต่มองต่ำกว่านั้น “โหน”“วันนี้เป็นอะไรรึเปล่าวะชูใจ” ผมถามเธอตอนที่ถูกดึงสติ ตอนนั้นคว้าแขนเธอขึ้นมาถูสบู่เรียบๆ ปกปิดความคิดเหี้ยๆ ของตัวเอง “อาบน้ำเองไม่ได้เหรอ ต้องให้เค้าอาบให้อ่ะ”“ทายดูสิ” ใบหน้าเล็กทำหน้าทะเล้นออกมา“ดูดนม?” ผมเลิกคิ้วถามโดยไม่ต้องคิด เธอหน้าตึงขึ้นมาทันที ผมเลยแค่นหัวเราะออกมา “ชอบให้ดูดนมจริงๆ ว่ะเธออ่ะ ไอ้ทะลึ่ง”ชูใจสาดน้ำใส่ตัวผมทันที“ไม่ใช่นะ!” เธอโวยวาย “ก็แบบว่า... วันนี้โหนจะค้างที่นี่รึเปล่า”“...” ผมชะงักไป เมื่อสบตาเธอแล้วก็เห็นว่ามันสื่อออกมาอย่างชัดเจน“ก็ถ้าจะค้างที่นี่... เผื่อเราจะได้ช่วยติวหนังสือให้ไง”เวรเอ้ยตั้งแต่ประโยคนั้นก็ทำใจให้มองเธอเป็นผู้หญิงใสซื่อไม่ได้อีกเลย นี่ผมแม่งไปปลุกอะไรในตัวชูใจเข้าวะ หรือเพราะเธอรู้สึกอะไรกับผม เธอถึงได้ยั่วใจผมได้ขนาดนี้ผมกุมใจที่เต้นแรงอยู่ในอก แม่งเต้นตั้งแต่ได้เห็นตัวเธอที่เปลือยด้วยกันในห้องน้ำ แต่ผมพยายามสะกดกลั้นอารมณ
“ค่ะแม่ หนูจะตั้งใจสอบค่ะ แต่หนูยังไม่มั่นใจว่าสอบครั้งนี้หนูจะได้มากน้อยแค่ไหน แต่หนูจะพยายามนะคะ”ติ๊ดฉันถอนหายใจหลังจากวางโทรศัพท์จากแม่ รู้สึกไม่ค่อยดีตั้งแต่เช้าเพราะว่ามันใกล้จะสอบแล้ว ฉันทบทวนหนังสือน้อยกว่าทุกวันเพราะช่วงนี้เอาแต่นอนเพราะความเพลีย มันเครียดๆ จนเพลียไปหมด ไม่อยากทำอะไรเลยฉันอยากเลิกเรียนหมอ แต่ไม่สามารถทำได้จริงๆ เพราะว่าไม่มีความกล้าพอที่จะเดินไปบอกพ่อกับแม่ว่าฉันอยากทำอะไรกันแน่“เฮ้อ” ฉันพ่นลมหายใจตอนที่กดโทรศัพท์เปิดดูหน้าไทม์ไลน์ของโหน ตั้งแต่วันนั้นที่เราทำอะไรกันมากมาย ถึงจะไม่ได้ถึงขั้นกลายเป็นของเขา แต่ฉันกลับรู้สึกคิดถึงโหนบ่อยขึ้นฉันส่องหน้าเฟสโหนตลอดถ้ามีโอกาส รู้สึกว่าโหนเริ่มลงรูปตัวเองในบางครั้ง แล้วก็มีผู้หญิงมาเม้นท์แซวและใช่ ฉันไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่แต่... ฉันก็ไม่อยากงี่เง่าใส่เขาเลย สองอาทิตย์ที่ผ่านมาดูโหนเครียดๆ แถมยังไม่ค่อยให้ฉันตามไปคุมที่ร้านเหล้าเวลาเขาไปสังสรรค์กับเพื่อน เขาอ้างมาว่ามีปัญหากับเพื่อน ไม่อยากให้ฉันไปเห็นบรรยากาศมาคุก็ไม่รู้เนอะว่าเพื่อนคนไหน แต่ก็แอบเป็นห่วงนะติ๊งฉันชะงักไปเมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือนว่ามีคนทักมาในแช
“มึงคิดไงแดกน้ำผลไม้เนี่ย”ผมเงยหน้าขึ้นมาจากกล่องน้ำทิปโก้มองไปทางไอ้พัน มันนั่งดูดบุหรี่อยู่อีกทางนึง หลังจากค้างที่ห้องชูใจ วันต่อมาพอตื่นมาอาบน้ำกับเธอ (ก็เคยเห็นกันแล้วปะ) ไปส่งเธอที่มหาลัย ผมก็มานั่งที่ร้านเหล้าประจำเพราะพวกไอ้พันเรียก มันทักมาในแชทเฟสว่าจะชวนมาแดกเหล้าแต่... ก็อย่างว่า ผมจำได้ดีว่าเมื่อวานชูใจบอกว่าน้ำผมมันคาวแต่บอกให้พวกมันฟังไม่ได้“กูเบื่อเบลนด์” ผมตอบส่งๆ ตอนที่กระดกน้ำส้มลงคอ“เบื่อเหี้ยไร เห็นแดกอยู่ทุกวันกับพวกกู อยู่ดีๆ จะมาเบื่อได้ไงถ้าไม่มีเรื่อง” เพื่อนวิทยาลัยช่างที่แซวเรื่องสีหัวตอนนั้นผมโพล่งขึ้นมา มันคงไม่สบอารมณ์ที่คนคอแข็งอย่างผมพลาดการดวลกับมันในคืนนี้ เพราะนอกจากผมที่คอแข็งที่สุดในรุ่น ก็มีมันนี่แหละว่ะ เราเลยดวลคอทองแดงกันบ่อยๆ“บอกพวกมึงไปไม่ได้เหี้ยไรหรอก” ผมพูดแล้วใช้ไม้จิ้มสัปปะรดขึ้นมาเอาเข้าปากแล้วเคี้ยวลงคอ ก็เคยได้ยินกันว่าสัปปะรดเป็นผลไม้ที่ทำให้น้ำมันหวาน ไม่คาว ผมก็ซื้อมาแดกดิ ถูกปะ “สัปปะรดเปรี้ยวชิบหาย มึงไปซื้อมาจากร้านไหนวะ”“กูชวนมึงมาแดกเหล้าไอ้โหน ไม่ใช่มานั่งแดกผลไม้” ไอ้พันพูดแล้วพ่นควันบุหรี่ออกมา มันเป็นคนไปซื้อสัปปะร
ปะ... ปวดฉี่ฉันคิดในใจตอนที่โหนดูดดึงยอดอกแล้วปล่อยมันออกจนฉันกระตุกแรงๆ เพราะความเสียวซ่าน โหนไล้ริมฝีปากขึ้นมาที่คอฉัน เขาทำอะไรบางอย่าง ที่ทำให้ฉันรู้สึกว่ามันช่างแบบ... จั๊กจี้มากเลยจั๊กจี้สุดๆ เลย แล้วก็แสบนิดๆ ด้วย“อื้อ” ฉันโดนโหนครอบครองริมฝีปากอย่างหนักหน่วง เขาเหมือนจะเขิน จะประหม่า แต่สิ่งที่เขาทำให้ฉัน มันทำให้ฉันรู้สึกตื่นเต้นมากๆมือของโหนไล้ไปตามหน้าท้องของฉัน ก่อนที่จะเลื่อนมาที่ด้านหลัง ลูบไล้แผ่นหลังที่เปลือยเปล่า แล้วฉันก็ได้ยินเสียงเขาทำอะไรบางอย่างอยู่ข้างหลังมันดัง กริ้กฉันรู้สึกเย็นวาบที่ใต้หน้าอกเมื่อเขารั้งมือที่วางอยู่บนแผ่นหลังเล็กๆ ของฉันให้ฉันหยัดกายขึ้นนั่ง ก่อนที่เขาจะกระซิบให้ฉันชูมือขึ้น ฉันยกมือขึ้นอย่างขลาดอาย ในขณะที่โหนจะถอดเสื้อฉันออกทางศีรษะพร้อมกับชั้นในสีฟ้าน้ำทะเล เขาโยนทิ้งไปที่พื้นข้างล่างอย่างไม่ใส่ใจนัก“อื้อ... ดูดอีกสิ” ฉันเผลออ้อนวอนออกไปอย่างลืมตัว เพราะชอบเวลาที่ลิ้นและปากอุ่นๆ ของเขาแตะลงที่จุดอ่อนไหวสีชมพูหวาน มันเสียวจนลืมตัวเลยโหนที่มีสีหน้าเหมือนเขากำลังควบคุมตัวเองอยู่เงยหน้าขึ้นสบตาฉัน แววตาของเขาแสดงออกว่าเขาจะทนไม่ไหว ฉั
ไม่รู้ยังไง สุดท้ายเราก็มานั่งดูหนังอย่างว่าด้วยกันในห้องนอนของชูใจ... สองต่อสองเลยผมกลัวใจตัวเองว่ะ ตอนนี้กำลังจะเปิดหนัง AV ที่ผมดูประจำเพราะนางเอกหนังคล้ายชูใจ ร่างเล็กนั่งหน้าแดงจัดอยู่บนเตียงตอนที่ผมยกโน๊ตบุ้คเธอมาตั้งไว้บนพื้นเตียง ซิงค์โทรศัพท์เข้าดูประวัติการเข้าชมที่ผมเคยเข้าไปดู“... โหนทะลึ่ง” ชูใจพึมพำเสียงเบา ผมเองก็อายดิ ไม่อายได้ไง ปกติเคยทำอะไรทำนองนี้กับชูใจที่ไหน ก่อนหน้านี้ใครจะเชื่อว่าเราเป็นเพื่อนกันเออ ก็เคยนี่หว่าครั้งนั้นไง ที่เราเมาเบียร์กันทั้งคู่แล้วผมเผลอ... ช่างเหอะหนังเริ่มดำเนินไปเรื่อยๆ เพราะผมเคยดูแล้วถึงได้แต่นั่งท้าวคางมองเฉยๆ ในขณะที่เหลือบไปสังเกตการณ์อาการของชูใจ แล้วก็เห็นว่าเธอนั่งตัวเกร็ง หน้าซีดจัดไอ้แก่พุงพลุ้ยเริ่มนัวเนียสาวญี่ปุ่นที่อยู่ในหนัง ถอดชั้นในเธอออกจนโนบรา ยอดอกสีชมพูโผล่ออกมาในขณะที่มันเริ่มดูดอย่างกระหาย ผมรู้สึกสยิวนิดๆ ตรงหว่างขา ในขณะที่เหลือบไปมองคนข้างๆ บ้างผมเห็นชูใจกัดปากตัวเอง อาการเธอเปลี่ยนไปพอเจอฉากนี้ ในขณะที่ผมก็นึกขึ้นได้ ตอนที่เมาเบียร์แล้วเผลอลวนลามเธอครั้งแรกเรื่องที่ว่าเธอชอบ... ให้ผมดูดนมให้ ใช่ปะนึกแ
สถานการณ์ระหว่างเราเริ่มตกอยู่ในความกระอั่กกระอ่วนนั่นก็เพราะหลังจากที่โหนคว้ามือฉันมาจับเป้ากางเกงของเขา ฉันก็กรี๊ดลั่นออกมาอย่างอับอายแล้วตบหน้าเขา พร้อมกับปิดประตูใส่หน้าเขาเสียงดังอีกด้วย“ก็ช่วยทำให้มันเบาลงหน่อยเหอะ เราตื่นเต้นนะ”ไอ้โหนบ้า!ที่บอกว่าอยากท้องก็แค่หลุดปากพูดออกไปเพราะเมามาก แต่ไม่ได้พร้อมจะโดนทำแบบนั้นจริงๆ หรอกนะฉันอ่ะ มีปมใหญ่เกี่ยวกับครอบครัวอยู่ในใจมาตั้งแต่เด็ก เพราะพ่อแม่เป็นหมอทั้งคู่ พี่ชายพี่สาวก็เรียนหมอ จบหมอออกมาหมด เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกอะไรที่พอลูกสาวคนสุดท้องอย่างฉันเกิดมาแล้ว พ่อกับแม่จะกวดขันเรื่องเรียนมากๆ และคาดหวังว่าฉันจะต้องจบมาเป็นหมอตามวงศ์ตระกูลตั้งแต่รุ่นทวดแต่เชื่อมั้ย จริงๆ อ่ะฉันชอบวาดรูป แต่พ่อกับแม่ไม่สนับสนุนอย่างแรง เพราะมันดูเป็นเรื่องเพ้อฝันเกินกว่าจะเอามาทำเป็นอาชีพได้ฉันเคยคิดอยากหลุดพ้นจากความกดดันของพวกเขา แต่ทำไม่เคยได้ ด้วยนิสัยชอบตามใจพ่อแม่ของฉันด้วย ท่านอยากให้ทำอะไรฉันก็ทำ อยากให้เดินไปทางไหนฉันก็ไปเฮ้อ มันสะสมจนกดดันสุดๆ ตอนสอบฉันก็มีโรคประจำตัว คือคลื่นไส้อยากอ้วกทุกครั้งที่สอบเสร็จโหนรู้เรื่องพ่อแม่ฉันดีนะ แต่โ