Ep.10 รสหวาน (2)

“ค่ะแม่ หนูจะตั้งใจสอบค่ะ แต่หนูยังไม่มั่นใจว่าสอบครั้งนี้หนูจะได้มากน้อยแค่ไหน แต่หนูจะพยายามนะคะ”

ติ๊ด

ฉันถอนหายใจหลังจากวางโทรศัพท์จากแม่ รู้สึกไม่ค่อยดีตั้งแต่เช้าเพราะว่ามันใกล้จะสอบแล้ว ฉันทบทวนหนังสือน้อยกว่าทุกวันเพราะช่วงนี้เอาแต่นอนเพราะความเพลีย มันเครียดๆ จนเพลียไปหมด ไม่อยากทำอะไรเลย

ฉันอยากเลิกเรียนหมอ แต่ไม่สามารถทำได้จริงๆ เพราะว่าไม่มีความกล้าพอที่จะเดินไปบอกพ่อกับแม่ว่าฉันอยากทำอะไรกันแน่

“เฮ้อ” ฉันพ่นลมหายใจตอนที่กดโทรศัพท์เปิดดูหน้าไทม์ไลน์ของโหน ตั้งแต่วันนั้นที่เราทำอะไรกันมากมาย ถึงจะไม่ได้ถึงขั้นกลายเป็นของเขา แต่ฉันกลับรู้สึกคิดถึงโหนบ่อยขึ้น

ฉันส่องหน้าเฟสโหนตลอดถ้ามีโอกาส รู้สึกว่าโหนเริ่มลงรูปตัวเองในบางครั้ง แล้วก็มีผู้หญิงมาเม้นท์แซว

และใช่ ฉันไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่

แต่... ฉันก็ไม่อยากงี่เง่าใส่เขาเลย สองอาทิตย์ที่ผ่านมาดูโหนเครียดๆ แถมยังไม่ค่อยให้ฉันตามไปคุมที่ร้านเหล้าเวลาเขาไปสังสรรค์กับเพื่อน เขาอ้างมาว่ามีปัญหากับเพื่อน ไม่อยากให้ฉันไปเห็นบรรยากาศมาคุ

ก็ไม่รู้เนอะว่าเพื่อนคนไหน แต่ก็แอบเป็นห่วงนะ

ติ๊ง

ฉันชะงักไปเมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือนว่ามีคนทักมาในแชทเฟส พอกดเข้าไปดูหวังว่าเป็นโหน

แต่...

มันกลับเป็นพัน เพื่อนสนิทของโหน ที่เขาเคยทักฉันมาคุยด้วยจนเราสนิทกันในช่วงที่โหนเข้าวิทยาลัยอาชีวะใหม่ๆ และได้เขาเป็นเพื่อน มีช่วงหนึ่งฉันไปเจอโหน และเขาก็อยู่กับโหนด้วย เราเลยรู้จักกันตั้งแต่นั้นมา

ฉันเคยคิดว่าพันแอบชอบฉัน แล้วก็เคยปลื้มๆ เขาเพราะเขาเป็นผู้ชายในสเป็คมาก่อน

แต่ตอนนี้... ฉันมองเขาเป็นแค่เพื่อนสนิทของแฟนฉันเท่านั้น

Pan Witt : ชูใจ

Shoujai Chutimon : มีอะไรเหรอ

พันอ่านข้อความของฉันทันที เขาพิมพ์ตอบกลับมา

Pan Witt : รู้ว่าตอนนี้เธอเป็นแฟนไอ้โหน แต่เราก็อยากจะบอกเธอไว้ ถึงมันจะสายไป

Pan Witt : เรารักเธอมาตลอดเกือบห้าปี ถึงจะนานน้อยกว่าไอ้โหน

Pan Witt : แต่ลองคิดดูก่อนได้มั้ย

ฉันนั่งถอนหายใจอยู่ใต้ตึกมหาลัยระหว่างรอโหนมารับ

จะว่ายังไงดีล่ะ ฉันแปลกใจนิดหน่อยที่พันมาบอกรักฉัน แต่ก็ไม่ตกใจมากเท่าไหร่อ่ะ เพราะฉันก็คิดมาก่อนว่าพันน่าจะชอบฉันอยู่แล้ว ถ้าเรื่องตกใจสุดๆ ที่มีคนมาบอกชอบ น่าจะเป็นอีกคนมากกว่า

ก็คนที่จะมารับฉันนั่นไงล่ะ

ที่น่าตกใจกว่าคือตอนนี้เราเป็นแฟนกัน แถมเกือบจะมีอะไรกันมาแล้วด้วย และที่น่าตกใจมากยิ่งกว่านั้นอีก คือหลังจากที่พันมาบอกรักฉัน ฉันก็ไม่ได้คิดอะไรนอกจากตอบเขาไปตรงๆ ว่าฉันมีแฟนแล้ว

เฮ้อ นี่ฉันชอบโหนแล้วจริงๆ สินะ ถึงขนาดไม่ลังเลที่จะตอบกับผู้ชายที่ฉันเคยปลื้มมาก่อนเพราะเคยเป็นเหมือนคนในสเป็คแบบนั้นอ่ะ

ก็เราอยู่กันมานานนี่เนอะ ถ้าไม่รวมเวลาที่คบเป็นแฟนกันอ่ะ

ฉันนั่งรออยู่สักพักก็ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ ผู้ชายคนอื่นที่ฉันเห็นในมหาลัยนี้ ส่วนมากจะมารับสาวกันด้วยรถยนต์ เพราะเป็นมหาลัยที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง มีแต่คนมีฐานะเรียนที่นี่เพราะอนาคตไปได้ไกลกว่าที่อื่น

แต่โหนกลับเป็นผู้ชายคนเดียวที่ขับมอเตอร์ไซค์มารับแฟน เขาสักแบบไม่แอบ ไม่ปิดบังว่าตัวเองมีฐานะปานกลาง

ไม่รู้สิ แต่ฉันชอบความจริงใจของเขานะ

หรือจริงๆ ฉันก็แค่ชอบเขามาตั้งแต่แรกแล้วเท่านั้นเอง

แน่นอนว่าเสียงเครื่องยนต์นั่นเป็นของโหน เขาโบกมือเรียกฉันให้เดินเข้าไปหา ฉันเองก็เพราะชินกับเขาในสถานะแฟนมากขึ้นแล้ว พอไปถึงตัวเขาได้ฉันก็เลยกระโดดขึ้นซ้อนหลังโดยไม่กลัวว่ากระโปรงจะเปิด แล้วกอดเอวโหนที่หันมาขมวดคิ้วเพราะหวงเอาไว้แน่น

“วันนี้อาบน้ำด้วยกันอีกนะ” ฉันกระซิบเสียงหวาน ร่างสูงที่ขมวดคิ้วอยู่ถึงกับหันหน้าหนีทันที

หูเขาแดงด้วยอ่ะ

“ได้ดิ”

“... อื้อ”

“เมื่อวานไม่เข็ดเหรอ เค้ากัดเธอทั้งตัวขนาดนั้น” โหนกระซิบเสียงหนักตอนที่ถอนจูบออกจากริมฝีปากฉัน ฉันมุ่ยหน้าออกมา ก่อนที่จะยกมือขึ้นคล้องคอเขา กักไว้ในอ้อมแขนเล็กๆ

“ถ้าเข็ดแล้วคงไม่ชวนโหนอาบน้ำหรอก” ฉันพูดกลับ โหนฉีกยิ้ม เขาจูบปากฉันแนบแน่นตอนที่ช้อนตัวฉันขึ้นอุ้มทั้งตัว แล้วยกฉันเข้าไปในห้องน้ำ

คงเพราะชอบความร้อนแรงของโหนตอนที่เปลือยไปด้วยกัน ฉันเลยชอบอ้อนเขาบ่อยๆ ให้อาบน้ำด้วยกัน แรกๆ ก็ขลาดอายอยู่หรอก แต่พอผ่านไปเดือนกว่าก็หายแล้วล่ะ ฉันรู้สึกว่าการอาบน้ำกับเขาเป็นอะไรที่ดีต่อใจสุดๆ

เพราะหลังจากที่ชวนเขาอาบน้ำด้วยกัน โหนก็แวะเข้ามาส่งที่ห้องของฉัน ไม่ทันได้คุยอะไรร่างสูงก็กอดฉันไว้ทั้งตัว ก่อนที่จะกดจูบลงมาโดยไม่เว้นช่องว่างให้ฉันได้หายใจเลย

มารู้สึกตัวอีกที เขาก็อุ้มฉันเข้าห้องน้ำ วางฉันลงบนอ่างล้างมือ ฉันเลยประจันหน้าเข้ากับใบหน้าของเขาจังๆ

“เป้าโหนมันตุงๆ อ่ะ” ฉันก้มลงมองกางเกงตัวเก่งของเขาที่ตอนนี้ซิปปริแตกออกมาเพราะการขยายตัวของอวัยวะด้านในกางเกง โหนก้มลงมองตาม เขาเงยหน้าขึ้นมา เอื้อมมือมาทัดผมให้ฉันตอนที่พูดถ้อยคำร้อนร้าย

“อยากลองชิมมั้ย”

“ไอ้โหนบ้า” ฉันหัวเราะ หน้ามานแล้วตีเขาดังอั่ก “อยากอีกแล้วอ่ะสิ ทะลึ่งสุดๆ อ่ะ”

“แล้วใครที่ชวนอาบน้ำด้วยกัน?” เขาเลิกคิ้วถาม “ใครที่แม่งอ่อยเค้าก่อน”

“ก็แค่อาบน้ำปะ” ฉันย้อนกลับไป ยื่นหน้าไปใกล้ๆ เขาอย่างท้าทาย “ไม่ใช่ให้มาชิมไอติมของโหน”

“เค๊” เขาขึ้นเสียงสูง กระตุกยิ้มตอนที่อุ้มฉันลงบนพื้น “เค้าไม่ทำก็ได้”

“...”

“มาอาบน้ำดิ”

ฉันแอบอมยิ้มให้กับท่าทางว่าง่ายของเขา และเพราะเราลึกซึ้งกันมาหลายครั้ง โหนได้สอนอะไรให้ฉันมากมาย ตลอดช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันสองต่อสองกับเขา มันช่างหวามไหวและมีความสุข

โหนที่เทคแคร์ฉันตลอดเวลา น่ารักสุดๆ

เราอาบน้ำด้วยกัน โหนอาบน้ำให้ฉันเหมือนอย่างเคย ส่วนฉันก็แทบจะเหมือนเด็กน้อยที่ต้องให้เขาทำทุกอย่างให้แม้กระทั่งการถูสบู่ เราทั้งคู่เปลือยเปล่าล่อนจ้อน แล้วก็อาบน้ำอยู่ในห้องน้ำเดียวกัน

ใจฉันเต้นแรงให้กับโหน อีกครั้ง อีกครั้ง

และอีกครั้ง

และถ้าคืนนี้โหนคิดจะค้างที่นี่... ฉันก็จะยอมตกเป็นของเขาแล้วล่ะ