แชร์

บทที่ 4

ผู้เขียน: จิ้งซิง
เวินซื่อที่โซเซจนไปชนกับมุมโต๊ะเครื่องแป้งก็เม้มริมฝีปากแน่น

ชาติที่แล้วนางเสียรู้ในน้ำมือของเวินเยวี่ยไปมากมายถึงเพียงนั้น ตอนนี้แค่เห็นเวินเยวี่ยทำท่าทางเช่นนี้ เวินซื่อก็รู้ว่านางจะเล่นตุกติกอะไรอีกแล้ว

นางหยิบชุดพิธีการที่ร่วงลงพื้นขึ้นมา

“ข้าไม่รู้เหมือนกันว่าข้าทำอะไรถึงทำให้น้องหกมีปฏิกิริยายกใหญ่เช่นนี้ ไม่สู้รบกวนน้องหกอธิบายให้ข้าเถิด”

“เจ้าทำอะไรไว้เจ้ารู้อยู่แก่ใจ!”

ไม่รอให้เวินเยวี่ยเอ่ยวาจา เวินจื่อเฉินก็ตวาดใส่นางเสียงดุดันก่อน

แววตาของเวินซื่อเย็นชาขึ้นเรื่อย ๆ

เมื่อก่อนนางยังดูไม่ออก ตอนนี้นางรู้สึกว่าเวินจื่อเฉินช่างตาบอดจริง ๆ

อยู่ต่อหน้าต่อตาของเขา ใครทำอะไร ใครไม่ได้ทำอะไร เขามองไม่เห็นเองทั้งนั้น

บางทีต่อให้เห็น เขาก็แค่เชื่อคำพูดของคนผู้เดียว

เวินจื่อเฉินถลึงตามองเวินซื่ออย่างอำมหิตแวบหนึ่งแล้วตบไหล่เวินเยวี่ยเบา ๆ ปลอบโยนด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “น้องหกไม่ต้องกลัวนะ มีเรื่องอะไรก็บอกกับพี่รอง ไม่ว่าอย่างไร พี่รองก็จะตัดสินแทนเจ้าเอง”

ทั้งสองคนมีท่าทางแทบจะใกล้ชิดสนิทสนมกันมาก

แต่เวินจื่อเฉินกลับเหมือนไม่สังเกตเห็นเลย เขาไม่เก็บงำเลยแม้แต่น้อย

ดวงตาที่เหมือนกับลูกกวางของเวินเยวี่ยแดงระเรื่อ “พี่รอง ขะ...ข้าเจ็บมากเลย”

แต่ไหนแต่ไรมาเวินเยวี่ยก็รู้ว่าจะหลอกล่อพี่รองที่ใจร้อนหัวทึบตรงหน้านี้อย่างไร

นางไม่จำเป็นต้องพูดให้ชัดเจนมากมาย แค่ใช้สามคำก็เพียงพอที่จะกระตุ้นโทสะของเวินจื่อเฉินแล้ว

เป็นไปตามที่คาดไว้ เมื่อเวินจื่อเฉินเห็นท่าทางน้อยเนื้อต่ำใจไร้ที่พึ่งของเวินเยวี่ย เขาก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟทันที

เขานึกได้ว่าเมื่อกี้เวินเยวี่ยสัมผัสชุดพิธีการถึงได้จู่ ๆ ร้องด้วยความเจ็บปวด ดังนั้นเขาพลันปะติดปะต่อเรื่องราวทุกอย่างที่เขาคิดไว้สมอง...

“เพียะ!”

ฝ่ามือฟาดลงบนใบหน้าของเวินซื่อ

“ดีมากเวินซื่อ ข้ายังนึกว่าเจ้าตกลงมอบชุดพิธีการให้น้องหกเป็นเพราะกลับตัวกลับใจแล้วเสียอีก คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะจิตใจชั่วช้าถึงเพียงนี้ เล่นตุกติกบนชุดพิธีการ!”

แก้มซ้ายถูกตบจนแสบร้อนทำให้เวินซื่อกัดฟันกรอด ความเคียดแค้นชิงชังพรั่งพรูขึ้นมาในใจอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

นางจะต้องออกจากสกุลเวินให้ได้

หากอยู่ที่นี่ ไม่ว่านางทำสิ่งใด ทุกคนก็จะเข้าข้างเวินเยวี่ย

มีเพียงออกไปจากสกุลเวิน นางถึงจะมีโอกาสแก้แค้นได้

แต่ว่าก่อนหน้านั้น นางยังต้องทำพิธีปักปิ่นของวันนี้ให้จบ

เนื่องจากยังมีสัญญาหมั้นหมายบัดซบนั่นรอนางอยู่ในพิธีปักปิ่น

ส่วนเรื่องที่เวินจื่อเฉินบอกว่าไม่ให้นางเข้าร่วมพิธีปักปิ่น...

เหอะ ต่อให้เขาเป็นคุณชายรองของจวนกั๋วกง ก็ยังไม่ถึงเวลาที่เขาสามารถตัดสินใจเองได้ในจวนกั๋วกงแห่งนี้

คนทั้งเมืองหลวงต่างรู้ว่าวันนี้จวนเจิ้นกั๋วกงมีบุตรสาวสองคนกำลังจะจัดพิธีปักปิ่น หากนางไม่ปรากฏตัวจะต้องก่อให้เกิดการคาดเดาต่าง ๆ นานาจากภายนอกอย่างแน่นอน

และท่านกั๋วกงผู้นั้นของนางคงไม่ยอมให้เกิดสถานการณ์เช่นนี้ขึ้น

เวินซื่อหยุดคิดแล้ววางชุดพิธีการลงบนโต๊ะ

“หากพี่รองคิดว่าชุดพิธีการมีปัญหาก็ตรวจสอบได้ตามใจชอบ”

นางไม่อยากสิ้นเปลืองคำพูดกับอันธพาลหูหนวกตาบอดที่เอาแต่วู่วามทำร้ายคนแล้ว

เวินซื่อกล่าวจบก็หันตัวเดินเข้าไปในห้อง ค้นหาชุดสีฟ้าครามเรียบ ๆ ออกมาจากในตู้เสื้อผ้า

ในขณะเดียวกัน เวินจื่อเฉินที่อยู่ข้างนอกยังคงไม่จบไม่สิ้น

“ฮึ ได้สิ ตรวจสอบก็ตรวจสอบ หากข้าพบว่าเจ้าเล่นตุกติกกับชุดพิธีการนี้จริง ๆ เจ้าก็รอข้าจัดการเจ้าอย่างหนักได้เลย!”

ครู่ต่อมา

เมื่อเวินซื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วเดินออกไป ชุดพิธีการที่เคยพับไว้เรียบร้อยนั้นถูกเวินจื่อเฉินรื้อจนเละเทะไปแล้ว

เวินเยวี่ยที่อยู่ข้าง ๆ เขาชะโงกหน้ามอง

แม้นางไม่ได้ลงมือค้นหา แต่เนื่องจากนางมั่นใจว่าเวินซื่อจะต้องเล่นตุกติก ดังนั้นจึงคอยจับจ้องอยู่ตลอด

แต่จนกระทั่งเวินจื่อเฉินค้นดูทั้งชุดแล้วก็ไม่พบร่องรอยเล่นตุกติกใด ๆ เลย

เวินเยวี่ยขมวดคิ้ว

หรือว่านางเดาผิดไป?

เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า สองพี่น้องก็เงยหน้ามองไปพร้อมกัน

ก่อนจะเห็นเวินซื่อที่เปลี่ยนชุดแล้วเดินออกมาอย่างช้า ๆ

เมื่อก่อนเวินซื่อแต่งตัวเรียบง่ายเช่นนี้น้อยมาก บวกกับรูปโฉมอันโดดเด่นของนาง มองแวบแรกก็ให้ความรู้สึกสง่างามบริสุทธิ์

เมื่อเทียบกับเวินซื่อที่แต่งตัวหรูหราในอดีต นางในเวลานี้เหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคนจริง ๆ

ดวงตาของเวินเยวี่ยฉายแววอิจฉาทันที

สิ่งที่นางเกลียดที่สุดก็คือใบหน้านี้ของเวินซื่อ

หากมองมากเข้าจริง ๆ จะทำให้คนแทบอยากข่วนมันแรง ๆ!

เวินซื่อรู้สึกได้ถึงรังสีอำมหิตอย่างบอกไม่ถูกจึงเชยตามองตรงไปยังต้นตอ แล้วสบเข้ากับดวงตาของเวินเยวี่ยทันใด

เวินเยวี่ยคิดไม่ถึงว่าเวินซื่อจะสัมผัสไวถึงเพียงนี้

ถึงขนาดที่ใบหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อยชะงักงันไปครู่หนึ่ง ก่อนจะได้สติกลับมารีบเก็บงำซ่อนเร้นไว้ทันที

เวินซื่อหัวเราะหยันในใจ ปรายตามองชุดพิธีการที่เละเทะบนโต๊ะ

“เป็นอย่างไรบ้าง หาอะไรเจอหรือไม่?”

เวินจื่อเฉินที่ไม่พบอะไรเช่นกันก็มีสีหน้าดูไม่ดีเล็กน้อย

แต่เขาไม่ทันเอ่ยปาก เวินเยวี่ยก็เอ่ยก่อนว่า “พี่หญิงห้า ท่านอย่าโมโหเลย เมื่อครู่นี้จู่ ๆ มือของข้าก็เป็นตะคริว พี่รองเป็นห่วงข้ามากเกินไป พอได้ยินข้าบอกว่าเจ็บก็เข้าใจผิดแล้ว”

นางแสดงท่าทีขออภัย และจงใจแลบลิ้นเล็กน้อย เอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อนว่า “ขออภัยด้วยนะเจ้าคะพี่หญิงห้า ท่านอย่าโทษพี่รองเลยนะ หากจะโทษ ท่านก็โทษข้าเถิด”

“เรื่องนี้จะโทษเจ้าได้อย่างไร? หากจะโทษก็ต้องโทษตัวนางเองต่างหาก”

เวินจื่อเฉินขมวดคิ้วไม่เห็นด้วยทันที ก่อนจะปรายตามองเวินซื่อแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงรังเกียจว่า “หากไม่ใช่เพราะคนบางคนมีจิตใจชั่วช้าเป็นปกติ ทำเรื่องเลวทรามเอาไว้ถึงที่สุด ข้าก็คงไม่คิดมากเช่นนี้ นางสมควรโดนปรักปรำแล้ว”

เวินซื่อรู้สึกขยะแขยงสองคนนี้อีกครั้ง

นางหยิบชุดพิธีการชุดนั้นขึ้นมา แล้วถามเวินเยวี่ยอย่างเย็นชาว่า “เจ้ายังจะต้องการชุดพิธีการนี้อยู่หรือไม่? หากต้องการก็เอาไป”

เวินเยวี่ยอยากได้แน่นอน

แต่นางเพิ่งเดินหมากพลาดไปก้าวหนึ่ง ต่อให้อยากได้ก็ไม่ใช่เวลานี้

ดังนั้นนางจึงแสดงด้านที่ใจดีมีเมตตาและใจกว้างของตัวเองออกมาอย่างเหมาะสม “ช่างเถิดเจ้าค่ะ ข้ารู้ว่าชุดพิธีการนี้เป็นชุดที่พี่หญิงห้าชอบมากที่สุด พี่หญิงห้าจะต้องตัดใจไม่ลงอยู่แล้ว”

“เมื่อครู่นี้เป็นเพราะข้าทำให้พี่รองปรักปรำท่านโดยไม่ได้ตั้งใจ ถือว่าพวกเราหายกันแล้ว พี่หญิงห้าไม่ต้องชดใช้ให้ข้าหรอก ถึงอย่างไรต่อไปพวกเรายังเป็นพี่น้องที่ดี!”

ถึงอย่างไรวันนี้ก็ยังเหลือเวลา ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนตอนนี้ก็ได้

สิ่งที่นางต้องการก็จะต้องเป็นของนาง

ชุดพิธีการของพิธีปักปิ่นไม่จำเป็นต้องสวมทันที แต่จะสวมตอนปักปิ่นสวมเครื่องประดับศีรษะและเปลี่ยนชุดในพิธีปักปิ่น

ดังนั้นเวินเยวี่ยจึงไม่รีบร้อน

สีหน้าของเวินจื่อเฉินดูผ่อนคลายลงเล็กน้อย ก่อนจะเชิดคางขึ้นทำสีหน้าเย่อหยิ่ง

“ได้ยินแล้วกระมัง? ในเมื่อน้องหกบอกว่าหายกันแล้ว เช่นนั้นเจ้าก็เก็บไว้เองเถิด แต่เจ้าอย่าคิดว่าจะจบลงแค่นี้นะ ต่อไปหากเจ้ากล้ารังแกน้องหกอีก ข้า...เจ้ากำลังทำอะไร?!”

เวินจื่อเฉินยังกล่าวไม่ทันจบ ม่านตาก็หดลงฉับพลัน เขามองการเคลื่อนไหวบนมือของเวินซื่ออย่างไม่อยากจะเชื่อ

“ฉับ!”

เวินซื่อถือกรรไกรแล้วตัดลงไป

ชุดพิธีการที่หรูหราชุดนั้นถูกนางตัดเละโดยไม่มีความปรานีเลยแม้แต่น้อย
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
Surinna Hathaisaard
สนุกคะ อ่านต่อคะ
goodnovel comment avatar
นิว งามโรจน์
สนุกดีจังคับ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1090

    ทันทีที่คำพูดอันเดือดดาลของเวินเฉวียนเซิ่งเอ่ยออกมาเวินจื่อเยวี่ยถึงเพิ่งรู้ตัวว่าครั้งนี้บิดาของเขาโกรธจริง ๆเพียงแต่เวินจื่อเยวี่ยก็กลัวว่าเวินเฉวียนเซิ่งจะเชื่อคำพูดของเอ้อถานหลัวเข้าจริง ๆ อยากจะพูดแทนน้องหกสักสองประโยค แต่เมื่อเห็นสีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งแล้วก็ไม่กล้าที่จะพูดต่ออีกทำได้เพียงข่มสีหน้าคับแค้นใจ ถลึงตาใส่หลานซื่ออย่างเกรี้ยวกราด“ต้องโทษเจ้า!”เพียงสามคำนี้ ก็โยนความผิดทั้งหมดใส่ตัวหลานซื่อเวลานี้หลานซื่อที่นั่งลงบนเก้าอี้ที่เกาหยางยกมาแล้ว ไม่แม้แต่จะชำเลืองมองเขาด้วยซ้ำ เพียงยกถ้วยชาขึ้นจิบอึกหนึ่งอย่างเฉยเมยนางรู้ว่าคืนนี้ความลับของเวินเยวี่ยจะปกปิดไว้ไม่ได้อีกแล้วนางก็ไม่ได้ใส่ใจในเรื่องราวที่รู้มานานแล้วนางเพียงกำลังคิดว่า ยามนี้เอ้อถานหลัวผู้นั้นคงสนใจเวินเยวี่ยขึ้นมาจริง ๆ แต่ไม่ว่าเพื่อการวิจัยหรืออย่างไรก็ตาม มันก็ไม่เกี่ยวข้องกับนางเลยแต่ตอนนี้อีกฝ่ายกลับจงใจเอาตัวเสี่ยวหานมาใช้กดดันดูคล้ายว่าเขาต้องการข่มขู่เวินเฉวียนเซิ่ง แต่ที่จริงแล้วกลับเป็นการข่มขู่นางหลังจากที่หลานซื่อใจเย็นลงแล้วขบคิดอย่างถี่ถ้วน ก็มองทะลุอุบายของเอ้อถานหลัวห

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1089

    เวินเฉวียนเซิ่งจ้องมองหลานซื่ออยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็ยอมประนีประนอม“ไต้ซือ ปล่อยคนออกมาเถิด”เพื่อที่จะฟื้นฟูร่างกายที่พิการนี้ อย่างน้อยเขาต้องได้ดอกบัวกระดูกมังกรมาไว้ในมือ!แต่ใครจะรู้ว่าเขายอมประนีประนอมแล้ว ทว่าเอ้อถานหลัวกลับไม่ยอม“อมิตตาพุทธ ไม่ได้”เวินเฉวียนเซิ่งชะงักไปครู่หนึ่ง เขาขมวดคิ้ว “ไต้ซือหมายความว่าอย่างไร?”เอ้อถานหลัวกล่าวอย่างใจเย็น “เพราะอาตมาก็สนใจบุตรสาวคนเมื่อครู่ของท่านค่อนข้างมาก หากท่านสามารถพานางกลับมาได้ อาตมาก็จะคืนนังหนูที่จับมาแก่ท่าน”เวินเฉวียนเซิ่งที่ได้ยินคำพูดนี้กำหมัดแน่น“เอ้อถานหลัวไต้ซือ ท่านไม่ได้กำลังเล่นตลกกับข้าใช่ไหม?”เวินเฉวียนเซิ่งโกรธจนกัดฟันกรอดเอ้อถานหลัวกลับกล่าวอย่างจริงจัง “ที่ไหนกันเล่า? อาตมาไม่เคยเล่นตลกกับผู้อื่น”“เช่นนั้นเมื่อครู่นางก็อยู่ที่นี่ เหตุใดท่านไม่ลงมือ?”เวินจื่อเยวี่ยที่ได้ยินคำพูดนี้เช่นกันที่อยู่ด้านข้างซักถามอย่างเดือดดาล“เพราะอาตมาไม่อยากล่วงเกินอ๋องชาง”เหตุผลง่ายดายเพียงข้อเดียวกลับทำให้เวินเฉวียนเซิ่งและเวินจื่อเยวี่ยสองพ่อลูกโกรธจนแทบจะระเบิดโดยเฉพาะเวินเฉวียนเซิ่ง ในตอนนี้เขาห่าง

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1088

    “ไม่นะ…อ๊า! ท่านพ่อช่วยข้าด้วย!”เวินเยวี่ยยังคิดจะดิ้นรนอยู่ แต่น่าเสียดายว่าตอนนี้ยักษ์ต่างเผ่าได้ยืนยันอย่างสมบูรณ์แล้วว่าเป็นนางฝ่ามือใหญ่ยกขึ้น พุ่งตรงไปที่นาง“ถอยไป! ถอยไปเร็ว!”“น้องหกหนีไปเร็ว!”เวินจื่อเยวี่ยยังพยายามขัดขวางยักษ์ต่างเผ่าผู้นั้น แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ใช่คู่ต่อกรของยักษ์ต่างเผ่าโดยสิ้นเชิงเขาพุ่งเข้าไปพร้อมดาบเล่มหนึ่ง ยังไม่ทันฟันถูกร่างกายของยักษ์ต่างเผ่า ก็ถูกอีกฝ่ายใช้ฝ่ามือตบกระเด็นออกไปทันที จนกระแทกต้นไม้ต้นหนึ่งหักโค่น“ไต้ซือ ลูกสาวของข้านางสามารถ…”“ไม่ได้”เอ้อถานหลัวตัดบทคำพูดของเวินเฉวียนเซิ่งโดยตรง ปฏิเสธคำขอที่เขากำลังจะเอ่ยออกมาเวินเฉวียนเซิ่งตามติดข้างหลังเอ้อถานหลัวอยู่ตลอดเวลา ไม่รู้ว่าเขาทำข้อตกลงอะไรกับเอ้อถานหลัวไว้บ้าง ในตอนนี้แม้เอ้อถานหลัวจะกำลังนั่งดูเรื่องสนุกอยู่เฉย ๆ แต่ก็ไม่ได้ไม่สนใจเขาเสียทีเดียวเพียงแต่กับคนอื่นแล้ว เอ้อถานหลัวไม่คิดจะลงมือ“คำพูดของบุรุษทรงพลังผู้นี้เมื่อครู่พวกเจ้าก็ได้ยินแล้ว เขามาตามคำสั่งของอ๋องชาง เป็นผู้ใต้บัญชาของอ๋องชางแห่งราชสำนัก ในเมื่ออ๋องชางส่งคนมาจับตัวธิดาศักดิ์สิทธิ์ ก็จะไม่ฆ่านา

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1087

    “ใคร...คือ...ธิดา...ศักดิ์สิทธิ์...”ยักษ์ต่างเผ่าหมุนกาย ตะโกนถามทุกคนรอบข้างด้วยเสียงดังลั่นและเพราะคำไม่กี่คำที่เขาพูดออกมาล้วนเป็นภาษาจงหยวนดังนั้นทุกคนที่อยู่ในที่นั้นจึงเข้าใจในทันทีตามหาธิดาศักดิ์สิทธิ์หรือ?!สีหน้าของหลานซื่อเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเห็นเวินเยวี่ยที่อยู่ฝั่งตรงข้ามสีหน้าดีใจขึ้นมาทันใด กำลังจะยกมือชี้มาที่นาง หลานซื่อก็รีบชิงตัดหน้านางในทันที...“นาง…”“นางคือธิดาศักดิ์สิทธิ์!”ยักษ์ต่างเผ่าถูกดึงดูดด้วยเสียงของนางดังคาด ไม่เห็นการเคลื่อนไหวของเวินเยวี่ย “ใคร! ใคร...คือ...ธิดาศักดิ์สิทธิ์!”หลานซื่อชี้ไปที่เวินเยวี่ย “นาง! หญิงชาวจงหยวนผู้นั้น ก็คือธิดาศักดิ์สิทธิ์ที่เจ้ากำลังตามหา!”ที่นี่เกือบทุกคนเปลี่ยนมาสวมใส่เสื้อผ้าและแต่งกายแบบชาวต่างเผ่าแล้วมีเพียงเวินเยวี่ยเท่านั้นที่ไม่ชอบสภาพที่ดูน่าเกลียดแบบที่ต้องเอาผ้ามาคลุมศีรษะ และไม่ชอบวาดลวดลายสีเขียว ๆ บนใบหน้า ดังนั้นถึงแม้นางจะเปลี่ยนมาใส่เสื้อผ้าของสตรีชาวต่างเผ่าแล้ว แต่ก็ไม่ได้ผูกผ้าบนศีรษะเหมือนกับสตรีชาวต่างเผ่าด้วยเหตุนี้ยักษ์ต่างเผ่าผู้นั้นจึงมองตามนิ้วมือของหลานซื่อไป ก็เห็นใบหน้าที

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1086

    “ผู้อาวุโส! ไต้ซือ! หากท่านยังไม่ลงมือ สิ่งที่เคยรับปากกับท่านไว้ก่อนหน้านี้จะไม่มีใครมอบให้ท่านได้อีก!”ครั้งนี้ คำขอความช่วยเหลือของเวินเฉวียนเซิ่งในที่สุดก็เรียกการตอบสนองจากคนที่อยู่ในเงามืดได้อีกครั้ง“ติ๊ง!”เสียงกระดิ่งดังขึ้นในป่าโดยพลันเสียงกระดิ่งนั้นไม่เพียงทำให้ฝูงแมลงพิษทั้งหมดชะงักงัน แต่ยังสั่นสะเทือนจิตใจของผู้คนอีกด้วยตรงหน้าหลานซื่อพลันมืดลง รู้สึกได้เพียงว่าสายตาพร่ามัวไปชั่วขณะ ร่างกายของนางโอนเอนเล็กน้อย เกือบจะล้มลงกับพื้นเมื่อนางกัดฟันเพื่อตั้งสติได้ แล้วมองไปรอบ ๆ อีกครั้ง ในใจก็พลันตื่นตระหนก“นึกไม่ถึงเลยจริง ๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนสามารถทนต่อเสียงกระดิ่งมารได้”เอ้อถานหลัวค่อย ๆ เดินออกมาจากความมืด มองหลานซื่อที่ยังยืนอยู่ได้ในสถานที่นั้นเพียงผู้เดียว สายตานั้นเต็มไปด้วยความประหลาดใจดวงตาชราภาพคู่นั้นพลันฉายแววเฉียบคมเพ่งพินิจหลานซื่ออย่างละเอียด ราวกับต้องการค้นหาสาเหตุจากตัวนางว่าเพราะเหตุใดนางถึงสามารถยืนอยู่ที่นี่ได้แต่น่าเสียดาย เขาไม่อาจมองเห็นอะไรได้เลยและด้วยเหตุนี้เอง สายตาที่เอ้อถานหลัวมองหลานซื่อจึงยิ่งเต็มไปด้วยความใคร่รู้และตื่นเต

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1085

    “ข้าจะให้โอกาสเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย รีบส่งของที่ข้าต้องการออกมาเดี๋ยวนี้”เมื่อทั้งสองพูดจบ บรรยากาศทั่วทั้งป่าก็กลับมาตึงเครียดอีกครั้งทันทีหลานซื่อจ้องมองเวินเฉวียนเซิ่งด้วยสายตาเย็นชา“ดูเหมือนจะไม่มีพื้นที่ให้เจรจาแล้ว”ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ “ลงมือ”หลานซื่อแสร้งทำเป็นออกคำสั่งกับผู้อื่น เอ่ยออกมาคำหนึ่ง และในวินาทีถัดมา...“ตูม!”ในชั่วพริบตา แมลงพิษนับไม่ถ้วนก็พลุ่งพล่านอยู่ใต้พื้นดินเวินเฉวียนเซิ่งกับพวกยังไม่ทันรู้ตัว ก็เห็นแมลงสีดำสนิทหลากหลายชนิดผุดขึ้นมาจากพื้นดินรอบ ๆ ตัวพวกเขา ก่อนจะพุ่งเข้าใส่พวกเขาอย่างเนืองแน่นเวินเฉวียนเซิ่งสะดุ้งตกใจในทันทีฝูงแมลงพวกนี้คือแมลงชนิดเดียวกับที่โจมตีเขาคราวก่อนที่บริเวณใกล้ภูเขาหนาน!เป็นไปตามคาดลูกสาวเนรคุณผู้นี้มีปรมาจารย์กู่คอยหนุนหลังอยู่จริง ๆ!เวินเฉวียนเซิ่งตะโกนเสียงดังทันที “ท่านผู้อาวุโสช่วยข้าด้วย!”ในขณะที่แมลงพิษเหล่านั้นกำลังจะพุ่งเข้าถึงตัวเวินเฉวียนเซิ่งกับพวก เสียงคำรามอันเกรี้ยวกราดก็ดังมาจากที่ไกล ๆ อย่างกะทันหัน...“ถอย!”ฝูงแมลงพิษกว่าครึ่งของหลานซื่อชะงักงันในทันทีแต่ในเสี้ยววินาทีถัดมา พวกมันก็หลุ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status