Home / รักโบราณ / หลี่เฟยหย่า เกิดใหม่พร้อมโชคลาภมหาศาลในยุค 1960‘s / บทที่ 4 หลี่เฟยหย่า ที่แปลว่า โบยบินอย่างสง่างาม

Share

บทที่ 4 หลี่เฟยหย่า ที่แปลว่า โบยบินอย่างสง่างาม

บทที่ 4 หลี่เฟยหย่า ที่แปลว่า โบยบินอย่างสง่างาม

คุณย่าจางไม่ได้สนใจการส่งสายตามองกันของสองพ่อลูกนัก จึงเอ่ยชื่อหลานสาวที่เธอและสามีตั้งใจเตรียมไว้ออกมา โดยไม่ได้มีความหมายของโชคลาภวาสนาเงินทองแต่อย่างใด

สิ่งเหล่านี้ตระกูลเธอมีจนมากเกินพอแล้ว หวังเพียงแค่หลานสาวที่รักจะเติบโตขึ้นมาอย่างงดงาม และมีความสุขที่สุดเพียงเท่านั้น

“ดี! ถ้าอย่างนั้นให้หลานน้อย ชื่อ เฟยหย่า หลี่เฟยหย่า หลานย่าจะได้เติบโตมาอย่างสง่างามเพียบพร้อม สมกับเกิดมาเป็นคนในตระกูลหลี่ เป็นนางฟ้าตัวน้อยแสนสวยของบ้านเรา”

เมื่อหลี่เฟยหรงและซ่งผู่เย่วได้ยินชื่อของลูกสาว ก็ยอมรับชื่อนี้ด้วยความยินดีไม่ได้แย้งขึ้นมาแต่อย่างใด ชื่อนี้ความหมายดีมากเช่นกัน เฟยหย่า โบยบินอย่างสง่างามอย่างนั้นเหรอ พ่อกับแม่เลือกชื่อได้ถูกใจจนพอทำใจยอมรับได้ เจ้าตัวน้อยจะได้เติบโตขึ้นมาอย่างสง่างาม เหมือนอย่างที่คุณแม่พูดไว้ แม้จะเสียดายอยู่นิดหน่อยที่ไม่ได้ตั้งชื่อให้ลูกเอง

“แอ๊! อ้า อ้า….”

ทารกน้อยตัวกลมเมื่อได้ยินชื่อ ที่คุณย่าจางตั้งให้ก็ดีดแขนดีดขาไปมาอย่างคึกคักด้วยความยินดี ส่งเสียงร้องอ้อแอ้ตอบรับคุณย่าเสียงดังอย่างชอบใจ

นี่มันชื่อเดิมของเธอเลยเชียวนะ เมื่อมีชื่อเหมือนกับชื่อในชีวิตเก่ามันทำให้เธอได้เก็บความทรงจำที่ดีมากๆ ของชาติที่แล้วเอาไว้ผ่านชื่อนี้ได้โดยไม่ลืมไปตามกาลเวลา เมื่อเธอเติบโตขึ้น

ด้วยไม่แน่ใจว่าความทรงจำชาติที่แล้ว มันจะยังคงอยู่กับเธอไปอีกนานแค่ไหน คงมีแค่ชื่อนี้ที่จะอยู่กับเธอไปตลอด ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งอบอุ่นหัวใจ คุณปู่หลี่กับคุณย่าจางดีที่สุดเลย!

“น้องต้องชอบชื่อที่คุณปู่คุณย่าตั้งให้แน่เลยครับ ดูดีใจใหญ่เลย น้องเล็กน่ารักมาก!”

เสี่ยวเจินเด็กชายผู้ซื่อตรงของบ้าน ชมน้องน้อยของเขาเสียงดัง ด้วยความรู้สึกมันเขี้ยว เมื่อเห็นแขนขาน้อยๆ สีขาวอมชมพูเป็นปล้องๆ ขยับไปมา เขาอยากจะลองกัดดูสักคำจริงๆ! หากเจ้าตัวน้อยเฟยหย่า ได้ยินสิ่งที่พี่ชายคนรองของเธอคิดอยากลองกัดแขนขาน้อยๆ นี่ละก็ เธอคงไม่กล้าขยับมันเพื่อสร้างความน่ารักอีกแน่นอน

เสี่ยวฮุ้ยพี่ชายคนโตของน้องๆ นั่งนิ่งยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองไว้แน่น ดวงตาพราวระยับของเด็กชาย จับจ้องอยู่ที่แขนขาน้อยๆ แสนนุ่มฟูของน้องสาวอย่างห้ามใจตัวเอง ถ้าเขาเผลอทำอะไรตามใจขึ้นมา ต้องโดนทุกคนทุบตีแน่!

เด็กชายรู้สึกไม่ต่างจากน้องชายเลย น้องสาวน่ารักมากอยากลองกัดสักคำจริงๆ เพียงแค่เขาไม่ได้พูด และแสดงออกชัดเจนอย่างเสี่ยวเจินเท่านั้นเอง ก็นะเขามันเก็บอาการเก่งอยู่แล้วละ อาการคลั่งอะไรน่ารักๆ ยังเก็บได้อยู่!…

เหล่าคนโตเห็นเด็กชายของบ้านอาการเริ่มหนัก ก็ได้แต่ยิ้มเอ็นดูในความน่ารักของพวกเขา

“แอ๊…. ฮาวว~ …”

เมื่อพวกเขาเห็นหลี่เฟยหย่า อ้าปากหาวอย่างง่วงนอนโดยไม่ร้องไห้งอแงแล้ว ก็รู้ว่านี่ควรปล่อยให้คุณแม่พึ่งคลอดได้พักผ่อน และทารกน้อยกินนมนอนได้แล้ว

ทุกคนจึงได้พากันออกจากห้องเพื่อให้ทั้งสองได้นอนพัก แม้เด็กชายทั้งคู่จะอยากอยู่ในห้องกับแม่และน้องสาว แต่ก็โดนคุณปู่ลากออกมาจากห้องด้วยกัน ก่อนจะตามหลังทุกคนออกไป หลี่เฟยหรงยังก้มลงจุ๊บปากภรรยารักของเขาสองสามจุ๊บอีกด้วย

“……..”

หลี่เฟยหย่าที่ยังเป็นทารกตัวน้อยทำอะไรเองไม่ได้ มองพ่อแม่แสดงความรักกันตาแป๊ว ไม่มีหลบแต่อย่างใด ก่อนทำปากจู๊ บู้บู้ ใส่พ่อที่เห็นเธอเป็นทารกน้อยพึ่งคลอด จะทำอะไรไม่มีเกรงใจกันเลย ฮึ!

"เพี๊ยะ!"

ซ่งผู่เย่วยกมือขึ้นฟาดต้นแขนสามีของเธอแรงๆ ไปหนึ่งที ใบหน้าสวยแดงระเรื่อด้วยความเขิน หลี่เฟยหรงยกยิ้มมุมปากหัวเราะ ฮึ ฮึ ในลำคออย่างชอบใจ ก่อนจะก้มลงจุ๊บหน้าผากเจ้าตัวน้อยที่ทำปากยื่นไม่ชอบใจอยู่ ชาติก่อนเธอยังไม่เคยมีแฟนเลยนะ จะมีจุ๊บน่ารักๆ แบบนี้ได้ยังไง วิญญาณสาวน้อยในร่างทารกได้แต่ตัดพ้ออย่างน้อยใจ

“จุ๊บ!.… พ่อไปก่อนนะครับ เลิกงานแล้วคุณพ่อจะรีบกลับบ้านมาหาหย่าเออร์นะครับ”

ซ่งผู่เย่วมองสามีทำเสียงเล็กเสียงน้อยกับลูกสาวอย่างเอ็นดู ก่อนเธอจะดันๆ ไหล่กว้างของสามี ไล่ให้เขาออกจากห้องไปทานมื้อเที่ยงซะที เธอจะให้นมลูกแล้ว หลี่เฟยหรงจึงยอมออกจากห้องไปอย่างไม่เต็มใจ

เมื่อสามีไปแล้ว หญิงสาวจึงรีบเปิดสาบเสื้อออกให้นมลูกสาว ตอนนี้เธอรู้สึกคัดหน้าอกมาก เพราะตั้งแต่ทุกคนรู้ว่าเธอตั้งครรภ์ คุณแม่สามีก็ได้สรรหาอาการและยาบำรุง ที่คุณหมอเสิ่นแนะนำมาให้ไม่มีขาด บวกกับเธอดูแลตัวเองอย่างดีมาตลอดด้วย ไม่ต้องกลัวเลยว่าเจ้าตัวน้อยของเธอจะมีน้ำนมไม่พอดื่ม

เฟยหย่ามองหน้าอกอวบอิ่มของคุณแม่คนใหม่ของเธอนิดหน่อย ก่อนจะอ้าปากงับมันเข้าปาก ดูดดื่มน้ำนมด้วยความหิวเพื่อเติมพลังอย่างไม่ลังเล ตอนนี้เธอไม่ได้อยากคิดอะไรให้ยุ่งยาก เกินกำลังของทารกน้อยเกิดมาชั่วโมงกว่าๆ ให้มากความอีก

เด็กๆ นี่อ่อนแอจริงๆ สมกับที่ต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่จากผู้ใหญ่ด้วยความใกล้ชิดแล้ว ตอนนี้เธอทำอะไรไม่ได้นอกจากพยายามกินให้มาก และนอนให้เยอะๆ จะได้โตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพ

อยากแข็งแรงเร็วๆ จังตอนนี้กระดูกเธออ่อนแอมาก ส่วนคอเล็กๆ นี่อีกกลัวมันหักจริงๆ ทารกน้อยคอยังไม่แข็งได้แต่คิดไป นอนดูดนมไปเพลินๆ ในอ้อมอกนุ่มนิ่ม หอมกลิ่นนมแสนอบอุ่นของคุณแม่ กินนมจนใกล้อิ่มดวงตาทารกน้อย ก็หรี่ปรือลงจนหลับไป

ซ่งผู่เย่วนอนมองลูกสาวของเธอกินนม ด้วยสายตาอ่อนโยนยิ้มให้กับความน่ารักของเจ้าตัวเล็ก ที่ยามกินนมก็กลอกตากลมโตสีดำขลับนั่นไปมา ราวกับมีเรื่องให้ครุ่นคิดมากมาย เหมือนผู้ใหญ่ตัวน้อยอย่างรู้ความก็นึกตลก

พอเห็นว่าลูกกินนมอิ่มแล้วเธอถึงได้อุ้มทารกน้อย ประคองต้นคอเล็กๆ ขึ้นพาดบ่าลูบหลังลูกสาวให้เรอออกมา ค่อยอุ้มมานอนบนเบาะนุ่มข้างๆ เธอ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หลี่เฟยหย่า เกิดใหม่พร้อมโชคลาภมหาศาลในยุค 1960‘s   บทที่ 50 ชีวิตคู่ที่ถูกเติมเต็มอย่างสมบูรณ์

    บทที่ 50 ชีวิตคู่ที่ถูกเติมเต็มอย่างสมบูรณ์ จบคำสารภาพรักด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเป็นการยืนยัน พ่อหนุ่มเจ้าน้ำตาที่ก้มหน้าหลุบตาลงมองต่ำดูเศร้าสร้อย พานให้คนมองใจอ่อนยวบแอบชะงักไปหนึ่งจังหวะเล็กๆ ซ่อนสีหน้าดีใจไว้ได้อย่างมิดชิด ถึงได้ยอมเงยหน้าขึ้นมาสบสายตากับดวงตากลมโต ที่จ้องมองมาอย่างต้องการยืนยันคำพูดจากใจจริงของเธออย่างน่าเอ็นดู คนพี่เม้มปากข่มใจไม่ให้หลงอ่อนข้อไปกับความน่ารักตรงหน้า เขาเล่นใหญ่สวมบทคนรักจิตใจอ่อนไหวขี้น้อยใจขนาดนี้แล้ว ต้องเอาคนตัวเล็กตรงหน้าให้อยู่หมัด “ถ้าน้องยืนยันอย่างหนักแน่นขนาดนี้พี่ก็เชื่อจนหมดใจแล้วครับ พี่ก็รักหย่าเออร์มากขึ้นในทุกๆ วันเหมือนกัน สัญญาแล้วนะครับ หลังเรียนจบแต่งเลยทันที” “ค่ะ! ไม่ผิดสัญญาแน่ค่ะ” “ครับ… ดีมากครับเด็กน่ารักต้องไม่ผิดสัญญา แต่….” คนเจ้าแผนการเริ่มคิดอยากกลับมาแผลงฤทธิ์อีกครั้งแล้ว “อะ อะไรคะ! ตะ แต่อะไรถามน้องมาให้หมดเลยค่ะ พี่ช่างอยากรู้อะไรน้องจะตอบทุกเรื่องเลย” คนน้องหลงคิดว่าคนพี่จะหมดข้อข้องใจแล้ว เพราะเขาก็บอกรักเธอกลั

  • หลี่เฟยหย่า เกิดใหม่พร้อมโชคลาภมหาศาลในยุค 1960‘s   บทที่ 49 สวมบทพ่อหนุ่มเจ้าน้ำตา

    บทที่ 49 สวมบทพ่อหนุ่มเจ้าน้ำตา หลังกอดปลอบเพื่อนสาวจนหายน้อยใจแล้ว หวงหนิงอ้ายก็ขอแยกตัวไปนั่งตรงโซนบาร์เครื่องดื่ม ด้วยรู้ว่าเพื่อนตัวน้อยต้องขึ้นไปหาคู่หมั้นหนุ่มที่ห้องทำงาน เหมือนทุกครั้งที่พวกเขาพากันมาที่นี่ “หยะ-…” ……. “อ๋า! น้องสาว... หย่าเออร์ เลิกเรียนแล้ว น้องกินอะไรมารึยัง หิวรึเปล่า วันนี้เรียนหนักรึเปล่า ถ้าเหนื่อยเกินไปน้องเปลี่ยนคณะที่เรียนใหม่ได้นะ…” พอเปิดประตูห้องทำงานใหญ่ของสามหนุ่มเพื่อนสนิทเข้ามา หวงหนิงเฉิงที่ความรู้สึกไวที่สุดและรอคนรักอย่างใจจดใจจ่ออยู่ก่อนแล้ว เอ่ยเรียกคู่หมั้นตัวน้อยยังไม่ทันจบ เจ้าเพื่อนรักแฝดคนพี่รีบทิ้งปากกาในมืออย่างของไร้ความหมาย ก่อนแกล้งส่งเสียงแปร๋นอย่างแตกสาวกลบเสียงเพื่อนสนิทจนไม่ได้ยิน พร้อมกันนั้นเจ้าเพื่อนแฝดคนน้องก็ลุกจากที่นั่งไปโอบน้องน้อยของพวกเขา พามานั่งเบียดกันสามคนบนโซฟาตัวเดียวกัน ทำเมินเพื่อนหนุ่มราวกับห้องนี้มีกันอยู่แค่พวกเขาสามพี่น้อง “……..” คนถูกเมินได้แต่ยืนกอดอกพิงสะโพกกับโต๊ะทำงานตัวใหญ่รอให้มองทั้งสามนั่งกอดกันกลม

  • หลี่เฟยหย่า เกิดใหม่พร้อมโชคลาภมหาศาลในยุค 1960‘s   บทที่ 48 ยอมรับความแตกต่าง

    บทที่ 48 ยอมรับความแตกต่าง เมื่อไม่มีใครเป็นอะไรพวกเขาจึงแยกกันกลับบ้าน เหมือนไม่มีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้นมาก่อน ก้าวผ่านร่างของสวีหยู่เยียนซึ่งกำลังโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บร่าง และสืบสวนเรื่องราวเพื่อนดำเนินคดีต่อไป มันก็เป็นแค่เรื่องร้ายๆ เรื่องหนึ่งที่อาจจะหนักหน่อย ผ่านพ้นไปได้อีกเรื่องในวัยสิบหกปีของพวกเขา ภายหลังผลคดีจากการสืบสวนออกมาอีกว่า สวีหยู่เยียนฆ่าชายพนักงานโรงแรมรัฐแห่งหนึ่งตาย แต่ก่อนการลงมือฆาตกรรม เพื่อนข้างห้องได้ยินเสียงทำร้ายร่างกายด่าทอตบตีกัน มีการข่มขู่ทรมานเอาเงินจากเธอแถมยังกักขังสวีหยู่เยียนไว้ในห้องไว้ข่มขืนซ้ำๆ ไม่ปล่อยเธอออกจากห้องจนสุดท้ายเธอจึงก่อเหตุลงมือกับชายคนนั้น นี่อาจจะเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เธอสติหลุด จากเรื่องที่ชายคนนั้นทำเรื่องเลวทรามกับเธอ ส่วนแม่ที่เป็นญาติเพียงคนเดียวของเธอ ก็ได้หอบเงินหนีไปก่อนแล้วตอนที่เซี่ยเหว่ยพ่อเลี้ยงของเธอโดนจับ ทิ้งให้เธออยู่คนเดียวที่บ้านหลังนั้นโดยที่มีเซี่ยเติ้งหลุนคอยเข้าออกบ้างยามต้องการใช้ประโยชน์จากเธอ หลังเรื่องราววุ่นวายจบลง บรรดาผู้คนรอบตัวของหลี่เฟยหย่าทั้งค

  • หลี่เฟยหย่า เกิดใหม่พร้อมโชคลาภมหาศาลในยุค 1960‘s   บทที่ 47 ความขาดสติจนกลายเป็นความบ้าคลั่ง 2/2

    บทที่ 47 ความขาดสติจนกลายเป็นความบ้าคลั่ง 2/2 สวีหยู่เยียนเลือกมาอาละวาดก่อเรื่องในเวลาเลิกเรียนพอดี คนในส่วนหน้าโรงเรียนจึงเยอะ พวกเขาต่างพากันลนลานวิ่งหาที่หลบลูกกระสุนที่ถูกปล่อยออกมาในบางจังหวะที่สวีหยู่เยียนคลุ้มคลั่ง สวนสวยเพื่อนั่งเล่นและเป็นซุ้มรอรถตรงนี้ เหล่าคนในโรงเรียนจะรู้กัน ว่าเป็นที่นั่งของเหล่าลูกหลานคนมีเงินเพื่อมานั่งรอรถที่บ้านมารับ กลุ่มที่รู้ฐานะตัวเองพวกเขามักจะหลีกเลี่ยงไม่มานั่งที่นี่ ถึงแม้พื้นที่ตรงนี้ไม่ได้แบ่งแยกให้ใครนั่งได้หรือไม่ได้ เมื่อปฏิบัติต่อๆ กันมาเรื่อยๆ หลักปีนานเข้า มันก็กลายเป็นพื้นที่อภิสิทธิ์เฉพาะไปโดยปริยาย ถึงพวกเขาจะก้มลงหมอบหาที่หลบซ่อนตัวแล้ว แต่สวีหยู่เยียนที่กำลังเดินผ่านเพื่อไปยังซุ้มตรงที่หลี่เฟยหย่าหลบอยู่ สายตาของเธอก็เหลือบไปเห็น กลุ่มคนที่เธอเคยไปมีเรื่องด้วยเพราะความอิจฉาอยู่หลายคนทีเดียว “ฮ่าๆ! อ้อ… ฉันก็เผลอแปลกใจไปแวบหนึ่ง ที่เจอพวกคนสารเลวชอบทำตัวสูงส่งอย่างพวกแกไป ลืมไปได้ยังไงกันนะ แหม! ก็นี่มันสวนชนชั้นสูงของพวกแกนี่นา ดี! จะได้ไม่ต้องไปตามคิดบัญชีนังพวกที่ชอบดูถูกฉันให้เหนื่อ

  • หลี่เฟยหย่า เกิดใหม่พร้อมโชคลาภมหาศาลในยุค 1960‘s   บทที่ 46 ความขาดสติจนกลายเป็นความบ้าคลั่ง 1/2

    บทที่ 46 ความขาดสติจนกลายเป็นความบ้าคลั่ง 1/2 หลังกลับมาจากค่ายนอกเมืองแล้วกลับเข้ามาทำงานต่อ โดยลากเพื่อนสนิททั้งสองมาเคลียร์เอกสาร ที่เหมือนทำเท่าไรก็ไม่หมดในส่วนของพวกเขา ที่บางครั้งเฉินหวงช่างต้องรับมาทำ เพราะสองพี่น้องมีงานต้องออกไปทำนอกพื้นที่ตลอด จนหาเวลานั่งติดเก้าอี้เคลียร์เอกสารน้อยเหลือเกิน วันนี้อยู่ด้วยกันแล้วถือโอกาสเปิดห้องประชุมไปด้วยเลยแล้วกัน หลี่เฟยฮุ้ยและหลี่เฟยเจินหลังจากนี้ ไม่จำเป็นต้องปิดบังตัวตนเข้ามายังตลาดลับ ที่พวกเขาร่วมลงทุนอีก คนที่เป็นเจ้านายใหญ่โดยถือเปอร์เซ็นถึง70% เลยคือเฉินหวงช่าง ส่วนสองแฝดถือคนละ 15% เมื่อหลายเดือนก่อน หยางต้าหยวนที่ถือเปอร์เซ็นอยู่ 7% อยู่ๆ ก็คิดขายคืนให้เฉินหวงช่าง ซึ่งชายหนุ่มก็ไม่ได้มีคำถามขอคำอธิบายใดๆ ให้หยางต้าหยวนตอบ เขาเพียงทำเอกสารการรับซื้อยื่นให้อีกฝ่ายเซ็น พร้อมกับให้ลูกน้องไปเอาเงินถึงสองกระเป๋าใหญ่ ส่งให้หยางต้าหยวนง่ายๆ เท่านั้น “พวกนายไปขอให้คุณลุงหลี่เจี๋ย ปล่อยข่าวการรับสมัครบอดี้การ์ดให้กับทหารปลดเกษียณที่ค่ายทางใต้ด้วยแล้วกัน” เฉินหวงช่างบอกสหายหลั

  • หลี่เฟยหย่า เกิดใหม่พร้อมโชคลาภมหาศาลในยุค 1960‘s   บทที่ 45 ทรมานเจ้าคนน่าขนลุก NC 🔥ชน/ช รุนแรง*

    บทที่ 45 ทรมานเจ้าคนน่าขนลุก NC 🔥ชน/ช รุนแรง* ผัวะๆ!! “อ่า!... อ๊ากกก! ปล่อยฉันๆ! พวกแกมันก็ค้าขายทำลายชาติไม่ต่างจากฉันนี่ แล้วจะมาทำลายพวกเดียวกันทำไม ฮะ! อั่ก!!” เซี่ยเติ้งหลุนที่โดนฝ่าเท้าหนักๆ สองพี่น้องบ้านหลี่รุมอย่างไม่ยั้งแรง ร้องตะโกนโต้แย้งอย่างสู้อะไรไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ดูจะยังแข็งแรงดีมากๆ อยู่บ่งบอกถึงความถึกที่ซ่อนไว้ ขัดแย้งกับภาพลักษณ์คุณชายแสนสุภาพเจ้าสำอางที่แสดงให้เห็นไปก่อนหน้า พลั่กๆ!! “เหอะ! ไอ้เวร สารเลวนี่มันปากดี มีแรงพูดไม่หยุดจริงๆ! ฉันขอเตือนให้แกเก็บเสียงไว้แหกปากหลังจากนี้ดีกว่าไหม แกได้แหกปากเหม็นๆ นี่จนพอใจแน่” หลี่เฟยฮุ้ยพูดออกมาอย่างเหลืออด กับการแหกปากพ่นคำพูดหาความสำนึกไม่ได้นี่ ขณะยกเท้ากระทืบหนักๆ ลงบนร่างคุดคู้ที่พื้น เซี่ยเติ่งหลุนโดนลูกน้องของเฉินหวงช่าง พากลับมาขังไว้ก่อนหน้านี้ กำลังโดนสองแฝดบ้านหลี่จัดการทรมานระบายอารมณ์ หลังเหตุการณ์คืนวันงานเลี้ยงเมื่อวันก่อนหลายวันก่อนผ่านไป บ้านตระกูลหลี่และตระกูลเฉินทั้งสองบ้านได้ตกลงเกี่ยวดองกั

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status