ซีเฟยจัดเตรียมเสื้อผ้าให้เหมยซูหนี่ว์ และส่งให้นาง“องค์หญิง ท่านใช้ห้องแต่งตัวนี้ได้ตามสบาย นี่ชุดของข้าเองเพคะ”“ขอบคุณพระชายา รบกวนท่านแล้ว”“ผลั่ก”สาวใช้ของเหมยซูนี่ว์ ตีหลังซีเฟยจนนางสลบและล้มลงไป ทั้งสองจึงลากซีเฟยไปที่เตียงจัดท่าเรียบร้อย แล้วจึงเดินออกมา“ข้าจะเปลี่ยนชุดก่อน เจ้ารีบให้คนไปตามท่านอ๋องมา ห้องข้างๆ นี่ ผงยาพร้อมแล้วหรือยัง กำยานในห้องนี้ล่ะ”“ผงยาอยู่นี่เพคะ พอท่านอ๋องเข้าไป ท่านก็โปรยใส่ได้เลยเพคะ ส่วนกำยานในห้องนี้ หม่อมฉันเอาไปใส่แล้วเพคะ”“ข้าจะเข้าไปรอก่อน เจ้าอย่าพาท่านอ๋องไปผิดห้องล่ะ คนของเจ้า อย่าลืมเสียล่ะ”“หม่อมฉันรับทราบเพคะ องค์หญิงวางใจได้เพคะ”“ไปได้แล้ว”เหมยซูหนี่ว์นำชุดที่ซีเฟยเตรียมให้นางเดินออกจากห้องและเดินไปที่ห้องข้างๆ อย่างรวดเร็ว เรือนชั้นในตอนนี้เงียบสงัด เพราะเหล่าบ่าวไพร่สาวใช้ต่างก็อยู่ด้านนอก รับแขกกันหมด ซูหนี่ว์เปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว นางนั่งรออยู่ที่ห้องรับรอง ซึ่งอยู่ถัดจากห้องนอนของซีเฟยแค่ไม่กี่ก้าว“ซีเฟย ตำแหน่งพระชายาเจ้า ยกให้ข้าเสียเถอะนะ ตอบแทนที่เจ้ามอบแผลให้ข้าเมื่อหลายวันก่อนก็แล้วกัน”นางก้มลงมองรอยแผลตุ่มหนอง ที่ยังหาย
ตำหนักบูรพา“ท่านเรียกข้ามา มีกิจธุระอันใดอย่างนั้นหรือ”องค์รัชทายาทวางจอกชาที่พึ่งจิบเสร็จลงอย่างใจเย็น และวางเทียบเชิญให้ผู้มาเยือนดู เหมยซูหนี่ว์หยิบเทียบเชิญมากางดูและเกิดความสนใจ ปนสงสัยเล็กน้อย“เทียบเชิญงานเลี้ยงจวนชินอ๋อง ท่านให้ข้าดูเพราะเหตุใด”“เจ้าไม่อยากไปงานนี้งั้นหรือ น่าแปลกยิ่งนัก ปกติ เรื่องของน้องรอง ทำให้เจ้ากระตือรือร้นมากเลยนี่”“ก็ชินอ๋องไม่ได้เชิญข้า จะให้ข้ากระตือรือร้นไปเพื่ออะไรกันเพคะ”“ข้าจะพาเจ้าไปงานนี้ด้วย”เหมยซูหนี่ว์หันไปมองเขา ดวงตานางฉายแววตื่นเต้นออกนอกหน้าอย่างชัดเจน องค์รัชทายาทเหลือบขึ้นมองนางแวบหนึ่งก็รู้แล้วว่า นางยังตัดใจจากชินอ๋องไม่ได้“แต่ข้า มีเงื่อนไขอย่างหนึ่ง”“ข้านึกไว้อยู่แล้ว คนเช่นท่าน คงไม่ยอมช่วยเหลือใครเพราะมีน้ำใจหรอก”“เรื่องนี้ ไม่ใช่ข้าที่ได้ผลประโยชน์เพียงคนเดียว แต่เจ้าเองก็อาจจะได้ประโยชน์มากกว่าข้าก็เป็นได้ ข้าเพียงแค่ขอให้เจ้าร่วมมือกับข้าอย่างหนึ่ง”“ท่านจะให้ข้าช่วยเรื่องใดกัน”“เจ้าเริ่มสนใจแล้วอย่างนั้นหรือ”ซูหนี่ว์หรี่ตามองเขาอย่างนึกระแวง องค์รัชทายาทเป็นคนที่ไม่เคยช่วยใคร หากตัวเองไม่ได้ผลประโยชน์จากเรื่องนั้น
ตำหนักองค์ชายสี่องค์ชายสี่ค่อยๆ ขยับเปลือกตาขึ้นมา แสงแดดยามรุ่งอรุณสาดส่องเข้ามาทางช่องหน้าต่างห้องบรรทมของเขา ทำให้เขาหยีตาเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับไปมองข้างๆ ตอนนี้เหลือเพียงความว่างเปล่า เขาทุบที่นอนอย่างเจ็บใจ“หนีไปจนได้นะอีอี”เขารีบลุกขึ้นมาเรียกสาวใช้เพื่อเตรียมตัวเปลี่ยนชุดเพื่อจะรีบทำธุระเช้านี้ให้เรียบร้อย เขารีบเดินไปเพื่อคารวะพระสนมหลินแต่เช้า พบว่า ซู่อีอีกับองค์หญิงทั้งสองอยู่พร้อมหน้ากันเรียบร้อยแล้ว เขามองซู่อีอี ที่ทิ้งเขานอนคนเดียวอย่างเคืองเล็กน้อย นางยังคงทำหน้าเป็นปกติเมื่ออยู่ต่อหน้าพระสนม องค์ชายสี่ไม่กล้าจะก่อเรื่อง“เสด็จแม่ วันนี้ลูกมีเรื่องจะปรึกษาพ่ะย่ะค่ะ”“ว่ามาสิ เรื่องอันใดที่ทำให้ลูกชายข้าตื่นตั้งแต่ไก่ขันและเดินมาคารวะข้าได้”“พวกเจ้าสองคนน่ะ ผู้ใหญ่จะคุยกัน ออกไปก่อนไป”เขาหันไปบอกองค์หญิงทั้งสอง พวกนางกลั้นขำ“ก็ได้เพคะ แหม เสด็จพี่สี่ ท่านรู้สึกอายเป็นกับเขาด้วยหรือเพคะ”องค์หญิงหกหัวเราะออกมาอย่างพอใจ ก่อนจะพาองค์หญิงแปดเดินออกมาด้านนอก อีอีกำลังจะเดินตามพวกนางไป ก่อนที่องค์ชายสี่จะดึงมือนางเอาไว้“เจ้าจะไปที่ใด อยู่ตรงนี้ก่อน”“หม่อมฉัน...”“เอาล
ชินอ๋องรับสร้อยเงินนั้นมา และหันไปถามอาจารย์อาทันที“อาจารย์อา นี่คืออะไรงั้นหรือขอรับ”“มันคือตราสั่ง เจ้าใช้ตรานี้ สั่งทุกคนในหอหานตี้ได้ และหากเจ้าตกอยู่ในอันตราย ก็เป่าส่งสัญญาณ สมาชิกของหอหานตี้ที่อยู่ใกล้เจ้า จะมาช่วยโดยเร็วที่สุด ลูกกวางน้อยก็มีอยู่อันหนึ่ง ข้าให้ท่านไว้อันหนึ่งเผื่อไว้ยามที่ต้องใช้ในเวลาฉุกเฉิน”“ขอบคุณอาจารย์อาขอรับ”“อีกสองวัน สายของข้าจากทางเซี่ยหนานคงได้ข่าวอะไรมาบ้าง ระหว่างนี้ข้าจะรออยู่ที่หอชุ่นเสียน หากมีอะไรคืบหน้า ข้าจะส่งคนมารายงานพวกเจ้าทันที”“อาจารย์อาเจ้าคะ ท่านกำลังหมายถึง ….”“ทั้งเรื่องที่องค์รัชทายาทพยายามส่งดินปืนข้ามชายแดน และเรื่องสาเหตุใบสั่งสังหารจากกษัตริย์เซี่ยหนาน ข้ากำลังสงสัยว่า พวกเขาคงคิดการใหญ่บางอย่างอยู่เบื้องหลัง หากองค์รัชทายาทสามารถหาช่องทางส่งดินปืนออกไปได้ล่ะก็ ข้าเกรงว่าพวกเจ้าคงต้องรอรับศึกใหญ่แล้วล่ะ”“ข้าได้ส่งคนไปตามสืบดูเหมือนกันขอรับ แต่ก็ยังเงียบอยู่ ยังไม่มีข่าวใดส่งกลับมา”“ข้าเกรงว่าสายข่าวพวกเราอาจจะถูกจับได้ หรือไม่ก็ เขาอาจจะรู้วิธีข้ามชายแดนไปแล้วก็ได้ แต่เรื่องแบบนี้ หอหานตี้ข้าไม่เคยผิดพลาด ยังไงเสียก็รอใ
อาจารย์อาเดินเข้ามา รวบพัดเก็บและตบบ่าเขาเบาๆ ก่อนจะพูดกับชินอ๋องด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ ว่า“ท่านอ๋อง ท่านฟังข้าอธิบายก่อน”ชินอ๋องแทบจะเงยหน้าขึ้นไม่ไหว มือเขายังคงสั่นอยู่ หน้าเขาเริ่มซีด อาจารย์อาจึงรีบพูด“รายชื่อที่ท่านเห็น มีฮ่องเต้เซี่ยหนาน องค์รัชทายาท เท่านั้น ที่ข้าคิดว่าคือรายชื่อที่สั่งสังหารท่านจริงๆ”ชินอ๋องถึงกับเงยหน้าขึ้นมาอย่างรวดเร็ว“อาจารย์ ท่านหมายความว่าอย่างไรขอรับ”“คือแบบนี้นะ ข้าตรวจสอบที่มาของจดหมายทั้งหมดแล้ว ข้านึกสงสัย เพราะก่อนหน้านั้น ข้าทำงานลอบสังหารท่านไม่สำเร็จ และส่งข่าวกลับไป ก่อนวันเฉลิมพระชนม์ฮ่องเต้เพียงไม่กี่วัน องค์รัชทายาทก็ส่งคำสั่งเดิมมาให้ข้าอีกรอบ รอบนี้ ข้าปฏิเสธไป และบอกเขาว่า ข้าไม่รับสังหารคนในราชสำนักและเชื้อพระวงศ์ เพราะไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมือง”“แล้ว นั่นมันเกี่ยวกับ เสด็จพ่อข้าเช่นไรขอรับ”“อีกห้าวันถัดมา มีจดหมายส่งมาอีกสองฉบับ พร้อมๆ กัน ให้สังหารท่าน ก็คือสองฉบับในมือท่าน”ชินอ๋องก้มลงมองหนังสือสองฉบับที่เป็นของฮ่องเต้ และ ฮองเฮาที่สั่งให้สังหารเขาพร้อมกับกำไว้แน่น เหงื่อที่ซึมออกมาเริ่มทำให้หนังสือนั้นยับและเปียก“ข้า
รถม้าวิ่งเข้าสู่จวนอ๋อง ก่อนที่ชินอ๋องจะเดินลงมาก่อนเพื่อพาซีเฟยลงตามมา ทั้งคู่เดินเข้าจวนก่อนที่อาเหยาและอันเหมยจะวิ่งออกมาหน้าตาตื่นเต้นดีใจและแจ้งนาง“พระชายาเพคะ พระองค์มีแขกมาพบเพคะ”สีหน้าของพวกนางดูดีใจจนชินอ๋องนึกสงสัย“ใครกัน มาพบในเวลานี้”อันเหมยไม่ตอบ แต่หันมายิ้มให้พระชายาแทน“พระองค์ไปพบก็จะรู้เองเพคะ”ซีเฟยทำหน้าประหลาดใจส่งให้ทั้งคู่ ก่อนจะหันมาหาผู้เป็นพระสวามีซึ่งทำท่าทางไม่พอใจอยู่“เดี๋ยวหม่อมฉันไปดูเองเพคะ พระองค์เข้าห้องไปก่อนก็ได้นะเพคะ”“ไม่ ข้าจะไปด้วย”“รีบไปเพคะ ท่านรอนานแล้ว ไปเพคะพระชายา”อาเหยารีบรบเร้าพร้อมกับพาซีเฟยเดินไป เพิ่มความอยากรู้ให้กับชินอ๋องมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว ว่าแขกผู้นี้คือผู้ใดกัน เหตุใดจึงมาเยือนพระชายาเขาในยามวิกาลอย่างไร้มารยาทแบบนี้ซีเฟยเดินเข้าไปที่ห้องโถงรับแขก และเห็นชายรูปร่างค่อนข้างสูง ปล่อยผมครึ่งหนึ่งยาวสลวยลงมาพร้อมกับมัดอีกครึ่งหนึ่งและผูกด้วยผ้ารัดผมสีขาว ในมือถือพัดคู่ใจของเขาโบกไปมาอย่างสบายอารมณ์ ถึงจะเห็นแค่เพียงด้านหลัง แต่นางจำได้ทันที จึงรีบวิ่งเข้าไปหา“อาจารย์อา!!”บุรุษหนุ่มร่างสูงหันกลับมาตามเสียงเรียก เขาไม่ใช่