Share

8

Author: Scince
last update Last Updated: 2025-07-17 11:44:11

" นี่แม่หนูมาทางนี้กับป้าเถอะจ้ะ " แม่เฒ่าเว่ยกวักมือเรียกกลุ่มของหลี่เล่อเยียนด้วยที่นางนั้นยืนฟังอยู่นานตั้งแต่ต้น

" แม่คะ จะไปยุ่งกับหล่อนทำไมกัน ใครๆ เขาก็รู้กันทั้งนั้นว่าหล่อนหยิ่งขนาดไหน อย่าไปสนใจหล่อนเลยค่ะ " สะใภ้รองบ้านเว่ยเอ่ยทันควันที่แม่สามีเรียกแม่หญิงงามตกสวรรค์ให้ไปทำงานด้วย

" เงียบปากไปเถอะหล่อนน่ะ ฉันไม่เห็นว่าแม่หนูหลี่จะหยิ่งตรงไหน " แม่เฒ่าเว่ยตกหลุมพรางความงามของหลี่เล่อเยียนเข้าให้แล้วล่ะ ตอนหล่อนมาใหม่ๆ ก็ว่าสวยเพียงแต่ไม่ได้มองชัดๆ ให้เต็มตาสักเท่าไหร่

มาวันนี้เธอรู้เห็นอย่างแจ่มแจ้งแล้วว่า คำว่างามล่มเมืองตั้งแต่ครั้งสมัยโบราณได้กล่าวไว้เป็นเช่นไร

" ขอบคุณค่ะคุณป้า " เป็นเหอหมี่เมี่ยนที่กล่าวขอบคุณแม่เฒ่าเว่ย ด้วยเคยเห็นแม่เฒ่าผู้นี้ผ่านตามาบ้าง ยามที่ลงพื้นที่ทำงาน

แม่เฒ่าเว่ยหรือจิวฉางหลิง เป็นที่รู้จักของคนทั้งหมู่บ้านด้วยว่าเป็นคนจิตใจดีซื่อตรง จึงเป็นที่นับถือของใครหลายๆ คน

ตระกูลเว่ยนั้นมีบุตรด้วยกันทั้งหมด 4 คน บุตรชาย 3 คนและบุตรสาว 1 คนที่แม่เฒ่าคอยเฝ้าฟูมฟักทะนุถนอมราวกับไข่ในหิน งานในทุ่งนานางไม่เคยให้ลูกสาวคนเล็กทำด้วยกลัวว่าจะไม่มีใครอยากจะแต่งงานด้วย

คนสมัยก่อนก็แบบนี้ลูกสาวเหมือนโคลนที่อยากจะสาดออกไปไกล ๆ แต่ก็ใช่ว่าหล่อนอยากจะให้ลูกสาวนั้นไปตกระกำลำบาก แม่เฒ่าจึงเฝ้าถนอมเลี้ยงดู ไม่ให้โดนแดด อยู่เฝ้าเรือนทำงานบ้านเย็บปักไป ส่วนงานหนักลำบากในทุ่งนานั้น มีลูกชายคนโตเว่ยหานหลง และลูกชายคนรองเว่ยเฉิงฉือพร้อมด้วยภรรยาของเหล่าลูกชายก็เพียงพอแล้ว

ลูกชายคนโตของแม่เฒ่าเว่ย เว่ยหานหลง อายุ 25 ปีแต่งงานกับซูฉิงเปา เธอมีอายุได้ 24 ปี มีบุตรด้วยกันทั้งหมด 2 คน

คนโตเป็นเด็กชายอายุ 8 ขวบ ชื่อเว่ยเฉวียนสุ่น

คนที่สองเป็นเด็กหญิงอายุ 6 ขวบ ชื่อเว่ยเป่าเป้ย

ลูกชายคนรองชื่อ เว่ยเฉิงฉือ อายุ 23 ปีแต่งงานกับติงฮวาเจีย เธออายุได้ 23 ปี เท่ากันกับสามี ทั้งสองมีบุตรสาวเพียงคนเดียวชื่อ เว่ยอ้ายเหม่ยอายุ 6 ขวบ

ลูกชายคนที่สามชื่อ เว่ยอี้หยางอายุ 20 ปี ปัจจุบันยังไม่แต่งงานเป็นลุกชายเพียงคนเดียวที่ออกไปทำงานโรงงาน

ลูกสาวคนที่สี่หรือคนสุดท้องชื่อ เว่ยฟางเฟิน อายุ 17 ปี

หลังจากนั้นทุกคนก็เริ่มทำงานที่ทุ่งนา งานหลักๆ คือกำจัดวัชพืช ถอนหญ้าออกจากนาข้าวซึ่งใช้เวลาเพียงครึ่งวันก็เสร็จ

ทันใดนั้นไม่รู้เพราะความบังเอิญหรือตั้งใจ ร้อยวันพันปีแม่เฒ่าเว่ยผู้แข็งแกร่งดั่งหินผา เลี้ยงลูกเพียงลำพังเนื่องจากสามีตายไปก่อนวัยอันควร จู่ ๆ ก็เกิดเป็นลมแดด เดือดร้อนถึงหลี่เล่อเยียน เนื่องจากพวกเธอกำลังขึ้นจากทุ่งนาเพื่อที่จะกลับบ้านพักพอดี

" ว้าย แม่เฒ่าเว่ยเป็นอะไรหรือเปล่าคะ " หลี่เล่อเยียนตกใจมากที่ จู่ ๆ แม่เฒ่าผู้นี้ก็เป็นลมล้มพับไปต่อหน้า โชคดีที่เธอความรู้สึกไวคว้าตัวแม่เฒ่าไว้ได้ทัน ไม่เช่นนั้นเห็นทีต้องได้หัวมุดโคลนเป็นแน่

หลังจากที่หายตกใจแล้ว หลี่เล่อเยียนไม่รู้ว่าตัวเองไปเอากำลังมาจากไหนทั้ง ๆ ที่ตัวเธอเองก็ผอมแห้งแรงน้อยขนาดนั้น แถมยังเพิ่งจะหายป่วยอีกด้วย เล่อเยียนไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรมากมาย ย่อตัวนำแม่เฒ่าเว่ยขี่หลังแบกนางมายังร่มไม้ใกล้ๆ ก่อนจะถอดผ้าคลุมหน้า หมวก แล้วทำการปลดกระดุมเสื้อ เพื่อให้หายใจได้สะดวกขึ้น

ฝ่ายลูกสะใภ้ใหญ่กับสะใภ้รองวิ่งตามหลังมาติดๆ ทั้งสองคนมาถึง สะใภ้ใหญ่ร้องไห้โหวกเหวกโวยวาย ราวกับว่าเเม่เฒ่าเว่ยได้จากโลกนี้ไปแล้วก็ไม่ปาน ส่วนสะใภ้รองพอมีสติอยู่บ้างรีบใช้หมวกพัดให้เกิดลมเพื่อระบายความร้อนให้แม่สามี

" ฮืออ คุณแม่ อย่าเป็นอะไรไปนะคะ ฮืออ จะทำอย่างไรดีคะ " สะใภ้ใหญ่นั้นเหมือนเธออยู่ในโลกความโศกเศร้าของตัวเองไปแล้ว ไม่ได้สังเกตเหตุการณ์อะไรเลยว่าแท้จริงแล้วมันไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่เธอคิด

ทางด้านเหอหมี่เมี่ยน ที่เธอพอจะมียาหอมพกติดตัวมาบ้าง จึงยื่นให้หลี่เล่อเยียนใช้เพื่อให้แม่เฒ่าสูดดม เพราะไม่อยากจะมุงดูมากจนเกินไป เพียงแค่เสียงของลูกสะใภ้ใหญ่ของนางนั้นก็น่าปวดหัวมากอยู่แล้ว ไม่คิดว่าหล่อนจะเสียใจมากมายเพียงนี้ ถ้าหากแม่เฒ่าไม่อยู่หล่อนจะไม่กัดลิ้นตายตามแม่เฒ่าไปอีกคนหรือ

" อือ.. ฉันยังไม่ตาย หล่อนอย่าโวยวายให้มันมากความ" แม่เฒ่าเว่ยที่พอได้ดมยาหอมก็เริ่มหายใจสะดวกขึ้น ประกอบกับที่ หลี่เล่อเยียนทำการปลดกระดุมทำให้หล่อน ทำให้ไม่อึดอัดเหมือนในตอนแรก

" เป็นอย่างไรบ้างคะแม่เฒ่าเว่ย ดีขึ้นหรือไม่คะ " หลี่เล่อเยียนถามออกไปพร้อม ๆ กับมือที่ถือยาหอมแล้วส่ายไปส่ายมาตรงจมูกของแม่เฒ่าไปด้วย

" อืม ...รู้สึกค่อยยังชั่วขึ้นแล้วล่ะ ขอบใจหนูหลี่มากนะที่ช่วยฉันในวันนี้" นางเว่ยรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมาก จากที่ปลื้มหลี่เล่อเยียนอยู่แล้ว ก็ยิ่งเพิ่มทวีความเอ็นดูมากขึ้นไปอีก

คนเราจะเห็นใจกันก็ในยามที่ตกทุกข์ได้ยาก ยามลำบากจะมีสักกี่คนที่ยื่นมือเข้ามาช่วย เมื่อนั่งพักจนรู้สึกว่าร่างกายเกือบหายเป็นปกติ พร้อมทั้งได้ดื่มน้ำเข้าไปแล้ว ทำให้เเม่เฒ่าเว่ยกลับมาสดชื่นกว่าเดิม

" หนูหลี่จ๊ะ เสร็จจากตรงนี้แล้วเธอมีธุระจะไปทำอะไรหรือเปล่าจ๊ะ พอดีป้าจะชวนพวกหนูมาทานอาหารเย็นที่บ้านป้าเพื่อเลี้ยงขอบคุณพวกหนูน่ะจ้ะ " แม่เฒ่าเว่ยไม่รีรอรีบบอกความต้องการของตัวเองไป

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เกิดใหม่ครั้งนี้ต้องมีความสุข   94

    วันที่ 18 ธันวาคม หิมะแรกของปีก็มาถึง และตกหนักมากจนหลี่หานไม่สามารถไปโรงเรียนได้ หลี่เล่อเยียนให้น้องชายหยุด เพราะกลัวจะเกิดอุบัติเหตุระหว่างทาง ทางเขตของชนบทเริ่มมีข่าวการเกิดภัยพิบัติกันหนาหูมากขึ้น เธออดเป็นห่วงสามีและพี่ชายไม่ได้เลยป่านนี้ไม่รู้ว่าทั้งสองจะเป็นยังไงบ้าง"พี่ หลานของผมเป็นไงบ้างครับ" หลี่หานจะคอยถามไถ่และพาพี่สาวไปโรงพยาบาลตามนัดของหมอทุกครั้ง พี่สาวของเขาเป็นคนเข้มแข็งมาก ไม่รู้ว่าพี่เขยเป็นอย่างไรบ้าง พวกเขาไม่ได้ข่าวอะไรจากทางเหนือเลย"ดิ้นเก่งมากเลยล่ะ เพิ่งจะหยุดไปสักพักนี้เองตอนที่พี่นั่งพักน่ะ" หลี่เล่อเยียนตอบยิ้มๆ เธอมีความสุขทุกครั้งที่ลูกขยับตัวในท้อง เธอคุยพร้อมกับเล่านิทานให้ลูกในท้องฟังทุกวัน กินแต่ของที่มีประโยชน์ น้ำเต้าหู้เธอกินทุกวัน ผลไม้ไม่เคยขาดตามด้วยนมผงรสมอลต์ก่อนนอนวันที่ 1 มกราคม 1957 หลี่เล่อเยียนและน้องชายฉลองปีใหม่กันเพียงสองคนเพราะหิมะตกหนักมาก หลี่หานที่ตอนนี้อายุ 15 ปีบริบูรณ์เขาสูงถึง 170 เซนติเมตร ขึ้นไปกวาดหิมะบนหลังคา แม้ว่าบ้านจะเพิ่งสร้างเสร็จแต่ปริมาณหิมะที่ตกลงมาก็ไม่สามารถวางใจได้ เพราะไม่มีแดดเลยข่าวการขาดแคลนอาหารเริ่มม

  • เกิดใหม่ครั้งนี้ต้องมีความสุข   93

    นับจากวันที่บ้านของหลี่เล่อเยียนเริ่มทำกำแพง นี่ก็เป็นเวลา 3 เดือนแล้ว ที่หยางหมิงเฉิงออกไปปฏิบัติภารกิจ เขาให้ลูกน้องมาแจ้งข่าวว่าต้องลงไปทางเหนือ เพราะที่นั่นมีภัยพิบัติทางธรรมชาติค่อนข้างรุนแรง จึงไม่สามารถกลับบ้านได้ให้เธอดูแลตัวเองให้ดี รอเขากลับมาบ้านของพวกเขาเสร็จทันก่อนหิมะแรกจะมาถึง อีกทั้งยังเป็นไปด้วยดีสำหรับแบบบ้าน นับว่าแข็งแรงถูกใจเธอเป็นอย่างมาก เวลาที่หิมะตกลงมาคงไม่ต้องกังวลว่าหลังคาจะถล่มลงมาวันไหนท้องของหลี่เล่อเยียนใหญ่ขึ้นมาก ตอนนี้เธอรับรู้ได้ว่าลูกอยู่กับเธอแล้วจริง ๆ เพราะเขาจะดิ้นประท้วงทุกครั้งที่เริ่มหิว เธอเริ่มเดินเหินลำบากโชคดีที่มีน้องชายหลี่มาอยู่เป็นเพื่อน ทำให้คลายเหงาลงบ้าง อีกทั้งเขายังดูแลเธอเป็นอย่างดียามที่น้องชายไปเรียนหลี่เล่อเยียนแอบหยิบของในมิติมาเติมจนแน่นห้องเก็บอาหาร ทุกครั้งที่เธอนอนเตียงอุ่นๆ เธออดเป็นห่วงสามีไม่ได้ จากนั้นดึงเอาที่นอนแสนนุ่มออกมาจากในมิติ ผ้าห่มหนัก 7 ชั่ง 2 ผืนมาเผื่อน้องชายเธอด้วย หน้าหนาวปีนี้ถือว่ารุนแรงเหลือเกิน และข่าวที่ว่าคนไม่มีบ้าน ล้มตายเพราะความหนาวก็มีมาทุกวันวันนี้เป็นวันที่ 15 ธันวาคม จะเป็นวันทำงานวั

  • เกิดใหม่ครั้งนี้ต้องมีความสุข   92

    "พี่ครับรั้วเสร็จแล้วพี่จะทำบ้านต่อเลยหรือเปล่าครับ" หลี่หานมาอยู่บ้านพี่สาวเป็นเวลา 5 วันแล้ว อีก 3 เดือนจะเข้าหน้าหนาว เขาคิดว่าพี่สาวควรจะมีบ้านที่แข็งแรงเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว เพราะหิมะตกหนักทุกปี"พี่ว่าจะไปหาพ่ออยู่พอดี วันนี้เดี๋ยวพี่ไปส่งนายที่โรงเรียน แล้วจะไปหาพ่อที่ที่ทำงานเลยแล้วกัน" หลี่เล่อเยียนเดิมทีกะว่าจะรอ หยางหมิงเฉิงกลับจากปฏิบัติภารกิจซะก่อน แต่ดูท่าทางแล้วถ้ามัวแต่รอไม่รู้ว่าเขาจะกลับมาวันไหน เธอจึงตัดสินใจไปขอให้พ่อช่วยดีกว่า พ่อเธอน่าจะรู้จักคนมากไม่น้อยทางด้านบ้านใหญ่หยางหลังจากที่หยางซีฮันพูดออกไปวันนั้น วันถัดมาก็มีเจ้าหน้าที่มาวัดแบ่งเขตชัดเจน สร้างความไม่พอใจให้กับน้าสะใภ้อย่างมาก หล่อนได้แต่สาปแช่งหลี่เล่อเยียนอยู่ในใจ เพราะไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้ ส่วนเจินเจินน้อยได้แต่คอยแอบมองอาสะใภ้อยู่ไกล ๆ ไม่กล้าเข้าไปทักทาย เพราะพ่อของเธอสั่งห้าม เจินเจินรู้สึกดีไม่น้อยที่ได้รู้ว่าน้องชายของอาสะใภ้มาอยู่เป็นเพื่อน"ดูเอาเถอะค่ะหลานรักของคุณ พอคุณบอกว่าจะแบ่งที่ให้รีบเอาเจ้าหน้าที่มาวัดแบ่งเขต ช่างละโมบโลภมากเสียจริง ชิ" หยางซิงเยียนเบะปากทำท่าทางรังเกียจ" เขาทำถู

  • เกิดใหม่ครั้งนี้ต้องมีความสุข   91

    ภายในห้องปีกซ้ายของหยางเหยาอิน เขาเดินอุ้มลูกสาวเข้าห้อง วันนี้ผู้เป็นแม่ประกาศชัดเจนว่างดข้าวเย็น ใครอยากจะกินก็ให้ไปหากินเองห้ามมายุ่งกับส่วนกลางเด็ดขาด"คุณไม่คิดจะเรียกร้องสิทธิ์เพื่อฉันกับลูกบ้างเลยหรือคะ" จู้หลี่นาพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจ หยางเหยาอินถอนหายใจไปครั้งหนึ่งพร้อมกับบอกเธอว่า" ผมเป็นลูกชายคนโตคนเดียวของบ้าน สมบัติทุกอย่างสุดท้ายก็ต้องตกเป็นของผมอยู่แล้ว ยังจะต้องเรียกร้องอะไรอีก อีกอย่างน้องเล็กหล่อนไม่มีทางอยู่ที่บ้านหลังนี้ต่อไปแน่ ถ้าหล่อนมีที่ไป" เขาจะต้องกลัวอะไรกัน มีบ้านซุกหัวนอนก็ดีแค่ไหนแล้ว ตามท้องถนนมีขอทานนอนตายข้างทางทุกวันเขานั้นโชคดีเพียงไหนกัน"ฉันหมายถึงสิ่งที่น้องกับแม่คุณดูถูกฉันน่ะค่ะ ทำไมคุณถึงไม่ปกป้องฉันบ้าง"" แม่ผมก็เหมือนแม่คุณเหมือนกัน คุณแต่งเข้าบ้านหยางเป็นคนตระกูลหยางแล้วระวังคำพูดด้วย" หยางเหยาอินทำงานมาเหนื่อยๆ แถมมาเจอภรรยางี่เง่า เขาเริ่มจะอารมณ์เสียบ้างแล้ว"คนตระกูลหยางอย่างนั้นหรือคะ แล้วพวกเขาเห็นฉันเป็นคนในครอบครัวหรือไม่ละคะ คุณรู้หรือไม่คะว่าแต่ละวันฉันใช้ชีวิตกันเช่นไรลูกต้องคอยหลบอาแท้ๆ ของพวกเขา ที่ไม่รู้ว่าเธอจะระเบิดอารมณ์ใ

  • เกิดใหม่ครั้งนี้ต้องมีความสุข   90

    " หลี่เล่อเยียน ออกมาเดี๋ยวนี้นะ หล่อนคิดว่าตัวเองเป็นใคร ถึงกล้าทำกับลูกสาวของฉันเช่นนี้" ซิงเยียนไม่คิดไว้หน้าใครอีก ในเมื่อไม่เห็นหัวกันเพียงนี้ ก็อย่าได้มานับญาติกันอีกเลย" มีธุระอะไรกับภรรยาผมหรือครับ " หยางหมิงเฉิงลุกขึ้นไปเปิดประตูทันที หลังจากที่ได้ยินเสียงของน้าสะใภ้ ส่วนเจินเจินนั้นได้ยินเสียงย่าก็สะดุ้งตกใจกลัว รีบไปอยู่ในอ้อมกอดของแม่ในทันที" อ้อ...มาแล้วหรือ นายปล่อยให้นางจิ้งจอกนั่นรังแกน้องสาวตัวเองได้อย่างไรกัน ตั้งแต่แต่งแม่นั่นเข้ามา บ้านนี้หาความสุขไม่ได้เลย ชีวิตมีแต่ความฉิบหาย เฮงซวย เฮงซวยจริงๆฉันเลี้ยงลูกของฉันมาอย่างดี เฝ้าทะนุถนอมไม่เคยลงไม้ลงมือสักครั้ง ลูกสาวฉันเป็นนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัย หล่อนกล้าดีเช่นไร นังเล่อเยียน ออกมาเดี๋ยวนี้นะหมาป่าตาขาวหลบอยู่ในบ้านทำไม ออกมาซิ วันนี้ถ้าเลือดหัวหล่อนไม่ออก อย่ามาเรียกฉันว่าซิงเยียนอีกเลย หึ" น้าสะใถ้โมโหเลือดขึ้นหน้า ถ้าไม่มีคนแต่งลูกสาวเธอเข้าบ้าน งานนี้จะต้องมีคนรับผิดชอบ"ก็ลองดูครับ ถ้าคิดว่าจะทำร้ายภรรยาของผมได้ ผมก็จะไม่เกรงใจใครเหมือนกัน ถ้าใจเย็นลง คิดได้แล้วค่อยมาคุยกันครับ เพราะผมก็มีเรื่องจะคุยกับน้า

  • เกิดใหม่ครั้งนี้ต้องมีความสุข   89

    " ไม่จริงค่ะ อาเจินบอกแล้วว่าน้องสะใภ้ซื้อให้ แต่น้องเล็กไม่เชื่อกล่าวหาว่าลูกของพี่พูดโกหก ดีที่น้องสะใภ้มาทัน ไม่อย่างนั้นเจินเจินคง....ฮึก " สะใภ้ใหญ่พูดขึ้นบ้าง เป็นตายร้ายดีอย่างไรเธอจะไม่มีวันยอมเด็ดขาด ทำไม่ดีกับเธอ เธอทนได้ แต่จะมาทำกับลูกของเธอแบบนี้ เธอไม่ยอมแน่ ๆ เป็นไงเป็นกัน หากวันนี้สามียังไม่ยอมเข้าข้างเธออีก เธอจะพาลูกกลับไปยังบ้านเดิมที่จากมา" พี่สะใภ้คอยให้ท้ายลูกจนเสียคน แบบนี้นี่เองเจินเจินถึงไม่เกรงกลัวใคร หล่อนคงกลัวว่าฉันจะไปแย่งหล่อนกินน่ะค่ะ แหม...ฉันโตขนาดนี้แล้วจะไปกินนมแบบนั้นได้อย่างไรกันไม่มีอะไรแล้วล่ะค่ะ พี่กลับบ้านไปพักผ่อนเถอะ เรื่องวันนี้ถือว่าเป็นการเข้าใจผิดกันก็แล้วกัน อีกอย่างฉันก็ยังไม่ได้ทำอะไรเจินเจินเลยสักนิดถือว่าแล้วกันไปละกันค่ะส่วนเรื่องที่ภรรยาของพี่ทำหัวฉันแตก ฉันยอมไม่ได้จริง ๆ ค่ะ หล่อนตั้งใจโยนมาใส่หัวฉันเต็มๆ แรง แบบนี้เจตนาฆ่ากันชัดๆ เลยค่ะ " หยางเซินซินหน้าซีดขึ้นมาทันทีที่เห็นสีหน้าของพี่ชาย เธอยอมจบเรื่องสองแม่ลูกนั่นก็ได้ เพราะเธอผิดเต็มๆ ที่ไม่ยอมฟังเหตุผลของเจินเจิน แต่เรื่องที่หัวเธอแตกวันนี้ยอมไม่ได้แน่นอน ถึงบอย่างไรก็ต

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status